เรื่องเด่น มนุษย์ต่างดาวติดต่อเราหรือยัง-ควรบอกว่า เมื่อไหร่จะไป

Time travel - Wikipedia, the free encyclopedia (คลิกตรงนี้เพื่ออ่านภาคภาษาอังกฤษ)การเล่าขานเรื่องการเดินทางผ่านเวลา มีในนิทานของ ริป แวน วิงเกิล ที่ว่าพระเอกเดินทางไปถึงยุค20 ปีในอนาคต นิทานอีกเรื่อง ย้อนหลังไป20 ปีในอดีต หรือว่าสมัยนั้นก็มีเรื่องพวกนี้จริง แต่ถ่ายทอดมาเป็นเรื่องเล่าพื้นบ้าน จนมาเป็นนิทานสำหรับเด็ก

วิธีเดินทางผ่านเวลา 1. ใช้ยานที่เร็วกว่าแสง เอฟทีแอล--FasterThan Light อันนี้จะเข้าสู่ดินแดนที่ไร้เวลา เรียกว่า"อภิอวกาศ" หรือ "ไฮเปอร์-สเปซ"-Hyperspace คนที่เคยมาจุดนี้บอกว่า มีความสุขมาก (บิลลี่ เมียร์-กับชาวพลีอิเดี้ยน)หรือจะเป็นภพนิพพาน--ไม่ฟันธง(แต่ถ้าถามผม ผมจะเล่าให้ฟัง- สิ่งที่เกิดกับผมเอง)
2.ใช้การผ่านทางรูหนอนของอวกาศ 3.ใช้หลักทฤษฎีสัมพัทธภาพ 4.วิธีอิ่นๆ

-มันจะมีปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นนะครับ เช่นปัญหาย้อนกล หรือ"พาราด็อกซ์"Paradox(แก้ได้ด้วยพาราเซตาม่อล..555) ถ้าหลานชาย เดินทางย้อนอดีตกลับมา ไปเจอปู่ของตน แย่งจีบศาวกัน พลั้งมือไปฆ่าปู่ตายซะ คิดดูซิว่า ตัวเขาต้องสลายหายวับไปทันที
---เพราะปู่ตายโดยยังไม่มีเมีย ม่ายมีเมียก็ม่ายมีลูก ม่ายมีลูกก็จะมีหลานได้งัย-- หลานก็ต้องหายวับไป หรือตัวในอนาคตมากอดกับตัวในอดีต ตัวก็จะติดกันเป็นก้อนแล้วหายไป อะไรก็แล้วแต่จะนึกกันไป
--แต่อย่าลืมนะครับ "เด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว" สิ่งที่พลาดเล็กๆน้อย--อาจจะเป็นสิ่งบานปลายใหญ่โตในอนาคต แบบ"น้ำผึ้งหยดเดียวทำให้สองชาติต้องรบกัน"

-- ผมเคยอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ว่า มีคนย้อนอดีตไปล่ากระทิงยุคโบราณ พอเขาจะเดินไปเก็บอะไรหน่อย เช่นดอกไม้ มันต้องออกจากทางเดินปกติ--เมื่อกลับมาสู่ยุคเดิม พบว่าเหยียบผีเสื้อตายติดรองเท้ามา และกลับมาพบว่า ประธานาธิปดีคนใหม่เป็นคนดุร้ายโหดเหี้ยม -ซึ่งชนะตัวเก็งที่เป็นคนใจดี อะไรๆก็เปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง เพราะเผลอไปเหยียบผีเสื้อตัวหนึ่งเท่านั้นเอง

 

เขียนเรื่องคำทำนายของพระชาวอีสานสามครั้งแล้วครับ จอจะว่าง หายไปหมดเลย แต่โพสเรื่องอื่นโพสได้ แอดมินเว็ปจุดธูปก่อนเข้าเน็ตหรือเปล่า หรือเอาผ้ายันต์เกราะเพชรไปแปะที่เครื่องเซอร์ฟเว่อร์หรือนี่---ผ้ายัน ลงยันต์--ยันตร์ ก็มาจากคำว่า ยันตรา-Yantra คือเครื่องยนต์ ทำงานได้ แต่ไร้มวลสาร
--ว่ากันว่าคนทำต้องเพ่งกสิณจนมีพลังลงมาจากเบื้องบนไปลงที่ของที่ปลุกเสก (แอบจิตทางไสยเวท ต่ำกว่า18 ให้ถามผู้ปกครองก่อนครับ)
-------------------
"สูเจ้าจงฟัง ต่อไปในอนาคต ม้ามันจะมีเขา เสาจะออกดอก เถาหนามจะลามกลางบ้านกลางเมือง เมืองไทยจะมีความสุข เมื่ออีแร้งคอ(ทอง)คำ บินกลับบ้านเมืองของมัน"
เป็นคำพูดของ"เจ้าผู้ข้า"ภิกษุชาวไทย-ลาว เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว
--ม้ามีเขา คือ รถมอเตอร์ไซค์
--เสาออกดอก คือเสียงตามสาย(ดอกลำโพงฮอร์น-ปากแตร) มีทุกหมู้บ้าน
--อีแรงคอคำ เครื่องบินขับไล่เอฟ-สี่-แฟนท่อม ใช้ถล่มปูพรมในสงครามเวียดนาม
-----------------------------------ที่เขียนไว้ในบล็อกผม-------------------

-----เมืองไทย เป็นเมืองแห่งพุทธศาสนา คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนส่วนใหญ่นิยมทำบุญใส่บาตร มีพลังจิตที่สดใส มีเมตตา คือพลังบุญอันยิ่งใหญ่ ที่คำจุนไปทั้งโลก แม้แต่ทหารไทยสมัยก่อนก็ไม่ใช่คนโหดเหี้ยม ไม่มีการฆ่าโหดผู้หญิงเด็ก ฉุดไปข่มขืนแบบนั้นไม่มีอย่างแน่นอน บางท่านว่า พลังทิพย์ที่ผุดอยู่กลางประเทศไทยนั้นมีมาก

--ลองคิดสิ ทุกวันนี้ประเทศพม่าที่เคยรบ เคยทำลายบ้านยเมืองไทย มีความสุขนักเหรอ มีชนกลุ่มน้อย 5 เผ่าคอยจ้องจะล้มอยู่ ในประเทศการปกครองอะไรแบบไหน การเมืองไม่มีสงบเลย(เพิ่งฟื้นตัวมาได้ไม่นานนี้เอง)

--ญี่ปุ่น เข้ายึดครองทำลายไทย เคยมีความสุขไหม แพ้สงคราม โดนปรมาณูสองลูก ถล่มราบสองเมือง ตายเป็นหลายแสน ทุกวันนี้ทุกข์ทรมานด้วยแผ่นดินไหว-สุนามิ นิวเคลียร์รั่ว


---เวียดนามเคยคิดจะเข้าครองไทย เปิดสมรภูมิช่องบก ลุยกันจะๆกับพวกทหารของ เสธ.แดง ซัดพวกเราด้วยอาร์พีจีที่มีอานุภาพร้ายแรงมาก แต่เหมือนมีอะไรดลใจให้บิ๊กจิ๋วขอร้องจีน จนจีนแดงเปิดสงคราม "ซิโนเวียดนามมีส"--สอนมวยให้เด็กรุ่นน้องทันที เวียดนามสูญเสียจนอ่วมอรทัย เลิกสนใจเมืองไทยไปเลย

--สิ่งเหล่านี้คือเราต้องคิดดูแล้วก็จะพบคำตอบ

----ม้าจะมีเขา เสาจะออกดอก เครือเถาหนามจะงอกกลางเมือง เมืองไทยจะมีความสขถ้าอีแร้งคอคำมันกลับบ้านเมืองของมัน เแป็นคำพูดของ "เจ้าผู้ข้า" พระภิกษุชาวลาว-ไทย (มีอีกท่านหนึ่งเรียก"สาธุคุณขี้หอม" เพราะอุจจาระท่านหอมมาก จนคนตามไปเก็บมาไว้ดม) พูดไว้ 100กว่าปีแล้วกระมัง
--ม้ามีเขา--ได้แก่รถมอเตอร์ไซค์
--เสาจะออกดอก --ลำโพงเสียงตามสายในหมู่บ้านต่างๆ--อบต.
--เถาหนาจะงอกกลางเมือง เกิดจลาจล ชุมนุม กั้นด้วยรั้วลวดหนาม
--อีแร้งคอคำ คือฝูงบินแฟนธอม เอฟ-4 ที่บินจากฐานบินอุบลไปทิ้งระเบิดที่ประเทศเวียดนาม ตรงส่วนที่คล้ายลำคอ จะพ่นเป็นสีทอง

-------แม้แต่ของในธรรมชาติก็มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง มีเรื่องเล่าว่า มีครอบครั้วหนึ่งมีลูกแก้วคู่หนึ่ง จะออกเที่ยวตอนกลางคืน ต่อมาเจ้าของคิดจะขายลูกแก้ว ลูกแก้วก็หายไปไม่มาอีก พวกนี้เราจะเรียกว่า"ลูกแก้วสเด็จ"---- พ่อผมเล่าว่าที่ อ.เมืองพะเยา จะมีแสงสว่าง หรือลูกแล้วก็ไม่รู้ วิ่งระหว่างเจดีย์ทั้งสองวัดทุกวันพระ พ่อและเพื่อนวิ่งไล่ดู -ไล่จับ เพราะลูกแก้วลอยไม่สูงนัก
----มะพร้าวลูกเล็ก กลายเป็นหิน เม็ดขนุนหิน เม็ดมะขามหรือแก่นมันเป็นหิน พวกนี้เรียกว่าคด เช่นคดมะขาม หรือลูกมะพร้าวที่ไม่มีตา เรียกว่ามะพร้าวตาบอด ถือเป็นมหาอุตม์มหามงคล อยู่ยงคงกระพัน และเรียกทรัพย์ ค้าขายดี

--ที่วัดสมอลม สุพรรณบุรี มีโบสถ์ซ่อนอยู่ใต้ดิน(สองชั้น) เพราะวิญญาณมาบอกว่า เอาไว้ซ่อนตัวตอนมีสงคราม(ทำตามของเดิม)

-----มีนักบินต่างชาติ เห็นแสงอยู่บนเขาหลวง จ.พะเยา ต่อมาก็ได้ปีนเขาหาก็พบลูกแก้วในถ้ำ และได้นำกลับไปที่อเมริกาตั้งแต่นั้นมา ดวงแสงที่เคยลอยขึ้นมาจากภูเขาก็หายไป

----มีข่าวร่ำลือว่า นาซ่าได้วิจัยเหล็กไหลจากประเทศไทย พบว่ามีรหัสข้อมูลและพลังลึกลับที่ทำให้ติดต่อมนุษย์ต่างดาวได้

----มีเรื่องเล่าว่า สมัยรบเวียดนาม กองทัพอเมริกัน ได้ ตั้งงบ 20 ล้าน เพื่อซื้อเหล็กไหล หรือพระสมเด็จ เพื่อนำไปติดบนเครื่องบินบี 52 ป้อมรบลอยฟ้า เพื่อให้คลาดแคล้วจากจรวดแซม ของเวียดนามเหนือ ถ้ายิงด้วยอาวุธสงครามแล้วยิงไม่ออก จ่ายทันที 20 ล้านบาทต่อ 1ชัิ้น

---กล้องถ่ายรูปอินฟราเรด สามรถบันทึกภาพความร้อนของทหารเวียดกง ที่ได้ไปจากที่ตรงนั้นหลายชั่วโมงแล้ว

--------------------------------------------------------------------------
--การถ่่ายภาพด้วยสนามไฟฟ้า จะบันทึกภาพใบไม้เต็มใบไว้ได้ แต่จะจางลง ทั้งๆที่ใบไม้นั้นถูกตัดไปครึ่งหนึ่งแล้ว ใบไม้-ต้นไม้่มีวิญญาณหรือนี่

* นับตั้งแต่นั้นมา เป็นการสั่นคลอนวิทยาศาตร์ที่เน้นทางโลกวัตถุ จนวิทยาศาตร์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปสู่ฟิสิกส์ควันตัม-Quantum Machanics "อนุภาคบางอย่างวิ่งย้อนกลับสู่อดีตได้" โดยเราจะมองเห็นเป็นปฏิสสาร-- โดยริชาร์ด ไฟน์แมน(ทฤษฎีอิเลคโตรไดนามิกส์) และจากการคำนวณตามทฤษฏีสตริง-และซูเปอร์สตริง เอกภพสามารถจะมีมิติเกิน4 มิติ-- เป็น 11 หรือ 26 มิติเลยทีเดียว แต่มิติที่ 12-25 ไม่สอดคล้องทางการคำนวณ

---และต่อมาก็มีทฤษฎีพิลึกพิลั่นอีกเยอะ เช่นทฤษฎี"ไกอา" ---ทฤษฎีความอลวนหรือ "เคออส" Chaos ทฤษฎีพระเจ้าจากอวกาศ ความไฮเทคของวัตถุโบราณ ที่เราเรียกว่า "อาร์ติแฟคท์" เช่นหัวเทียนรุถแต่อยู่ในหินโบราณ แบตเตอรี่โบราณที่เทน้ำผลไม้ลงไปก็จะได้ไฟออกมา-เดี๋ยวต่อกันให้ยาว พอที่จะอ่านแล้วมึนไปสามวัน เอ๊ย -สามวันค่อยๆอ่านไปครับ

 

เพลง กลับตาลปัตร
อัลบั้ม ร็อกแปดแสน ชุดที่ 6
ศิลปิน ร็อกแปดแสน
กลับตาลปัตร : สนุ๊ก สิงห์มาตร
อาร์ สยาม คำร้อง / ทำนอง : ราชา ม้าแสนหก
เรียบเรียง : สุวิทย์ เบ็ญสีใส

เฮ้อ...โลกเฮาน้อ จั๊กมันเป็นนำหยัง จังเกิดเหตุเภทภัยปานนี่ กลับตาลปัตรไปเหมิดพี่น้อง จะขอสาธกยกเรื่องราว คนแก่ คนเฒ่าเล่ากันต่อมา มีหลายอาจารย์ทำนายทายว่า ปีสองพันห้าโลกาจะเปลี่ยนแปลง เคยแล้งก็จะท่วม เคยท่วมก็จะแล้ง อากาศเปลี่ยนแปลง ผู้คนก็เปลี่ยนไป ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นไปได้ช่างวุ่นช่างวายจริง จริงโลกเรา เกิดสึนามิคนตายเป็นกอง สยดสยองอีกทั้งแผ่นดินไหว อย่างที่ญี่ปุ่น ผู้คนล้มตายมากมาย อีกทั้งสูญหาย วอดวายกันทั้งเมือง หิมะเมืองหนาว ก็มาตกเมืองร้อน น้ำท่วมที่ดอนหรือท่วมภูเขา เห็นไหมพี่น้องโคราชบ้านเราทั้งที่เป็นเนินเขา แต่น้ำท่วมไหลนอง กลับตาลปัตรจริง จริง พี่น้องเอ๊ย เป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติ เออ...เออ..เอย...เป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติ เราไม่สามารถจะไปหยุดยั้ง แต่อีกตำนานจะขอเล่าให้ฟัง เป็นปรากฏทางสังคมเมืองไทย องค์ชายสิทธัตถะตรัสไว้ก่อนว่า ต่อไปข้างหน้า ชาวประชาจะเปลี่ยนไป เกิดมีหูทิพย์ ตาทิพย์ หญิง ชาย คุยได้เห็นได้ โดยไม่ต้องใช้อาคม แต่ก่อนต้องเรียนกับท่านฤาษี แต่ว่าตอนนี้ ก็ไม่ต้องเรียนแล้วหนา ใช้อินเตอร์เน็ต เฟซบุคคุยข้ามฟ้า เห็นหูเห็นตา ผ่านยูทูป ไฮไฟว์ เคยได้ยินไหมแมวกินปลาย่าง ต้องคอยระวังกลัวแมวขโมย แต่ว่าตอนนี้เจ้าของแมวโอดโอย ปลาย่างขโมยลักแมวไปกิน ม้าจะมีเขา เสาจะออกดอก ไอ้ม้าที่บอกนั่นคือแมงกะไซค์ เจ้าเสาออกดอกนั้นก็คือเสาไฟ และอีกมากมายที่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่นหญิงสักลาย ผู้ชายเจาะหู หญิงใส่สั้นจู๋ ดูแล้วเสียวไส้ อยู่กินก่อนแต่ง ไม่ดีก็เลิกกันไป มีลูกไม่เป็นไร ให้พ่อแม่เลี้ยงแทน เห็นไหมครับท่าน แปรผันไปหมด คู่ร่วมสมรส แต่ก่อนเป็นชายกับหญิง แต่ทุกวันนี้สังคมแปลกจริงหญิงแต่งกับหญิง ชายก็แต่งกับชาย เมื่อก่อนผู้ใหญ่พาเด็กเข้าวัด กลับตาลปัตรเห็นแล้วเศร้าใจ พาเด็กเข้ารีสอร์ท หนูก็ไม่ขัดใจ เพราะว่าเข้าไป เดี๋ยวออกมาได้ตังค์ อันนี้ไม่น่าเปลี่ยนนะนี่ โอ้ยกะล่ะว่าน้อคน จั่งว่านี่ล่ะแม่นคนเฮา ให้พากันจำไว้ คำสอนตั้งแต่เก่า สิ่งดีงามแต่เค้า อย่าลืมถิ่มแม่นปล่อยป๋า เอาเรื่องธรรมนำหน้า เซาสาเรื่องตกต่ำ แยกวัตถุอธรรม ออกจากใจให้ได้ ไขแก้แม่นซ่อยกัน ก่อนมันจะสายเกินไป ก่อนมันจะสายเกินไป ก่อนที่เมืองไทยจะล่มสลาย ขอเชิญพี่น้องหญิงชาย ขอเชิญพี่น้องหญิงชาย ร่วมรักษาไว้วัฒนธรรม ฝากท่านผู้นำ ผู้มีอำนาจ เพื่อนำพาชาติบ้านเมืองพ้นภัย

--ใครแต่งเนื้อร้องนะ เป็นเรื่องเป็นราว โดนใจมาก แถมยังเหมือนที่เราเขียนเป๊ะๆ
http://music.xclub.cc/%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3+%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81+%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3_ID3147.html

 

กฏแห่งกรรมและวิชชาไสยศาสคร์ไทย ครั้งที่1

<!-- Main -->--สวัสดีครับ บรรรดานักศึกษา วันนี้เราจะเล่าเรื่องกฏแห่งกรรมสักนิดนึงและวิชชาไสยศาสตร์ของไทย
-----คนใกล้ๆ นี้(ญาติภรรยาผม)เขามีสามีสองคน คนแรกเป็นคนลาวแถวปราจีน ผิวขาว แต่ใจดำ แฟนเล่าว่า เขาตีหมาจนตาย เลือดออกจมูกออกปาก อีก3 วัน เขาก็ไปประสบอุบัติเหตุปางตาย เลือดออกจมูกออกปากเช่นกัน แม้ไม่ตายก็รักษาตัวกว่าา 3 เดือน วิญญาณหมานั้น จะมีอาฆาตรุนแรง--ไม่ว่าหมาตัวไหน ขอให้จงระวังอย่างสร้างเวรกรรมกับมัน บางครั้งคนเราก็วิ่งแสวงหาไปทั่วโลก เพื่อที่จะพบเจ้ากรรม หรือหาสาเหตุแห่งกรรม เพื่อจะได้แก้ไข หรือเราอาจมืดบอดเกินกว่าจะเข้าใจกฎแห่งกรรม
-- อย่างเช่นเพื่อนแหม่มชาวเยอรมันของพี่สาวผม ถูกข่มขืนโดยพ่อตัวเอง---ตกเป็นภรรยาน้อยของคนผิวดำอัฟริกา(หาคนจริงใจแต่ถูกหลอก) มีวิญญาณตามทำอนาจารมาตั้งแต่5 ขวบ แถมยังมีคนคลั่งไคล้ ตามเฝ้าอยู่หน้าบ้านตลอดเวลา ทั้งที่ไม่ใช่คนสวย พอรู้เรื่องกรรมและพบกับวิญญาณที่มาตามรังควาญ(เพื่อนร่วมสาบามในชาติก่อน- ทหารเรือ) เธอถึงกับหลั่งน้ำตาหลายครั้ง แต่พระเจ้าหรือกฏแห่งกรรมก็ได้ให้ญาณพิเศษที่จะมองเห็น--สัมผัสผีสางเทวดามาให้เธอแทน

---------ต่ออีกนิดนึง พี่เขยภรรยาผมนั้นเจ้าชู้ -แต่ก็ชอบทำบุญ ไปผ้าป่าที่ไหนก็จะมีเมียน้อยเกิดขึ้นทุกครั้ง ญาติเอาหลานมาฝาก ก็เอาทำเมียเสียอีก จนเขาถูกเมียน้อยฆ่าตายและฝังซ่อนไว้ ตายก็ไม่ได้พบพระ--บาปเหลือเกิน แม่ยายก็แช่งเรื่อยมาตั้งแต่เรื่องตีหมา ความใจดำตกทดถึงลูก น้องสาวทำประกันให้พี่สาว แล้วก็ปล่อยให้อด หวังจะให้ตายแล้วได้เงินแสน ไม่พูดถึงดีกว่า ตระกูลนี้ พูดแล้วอยากลาโลก-- มีแต่คนมีเงินเป็นล้านๆ แล้วหลงระเริง จนเงินหมด ไม่สนใจญาติพี่น้อง ตอนนี้เรียกหา ขอให้ญาติส่งให้กินเดือนละหลายพัน มีตั้ง4-5ราย ไหวไหมครับ

------มาเข้าเรื่องวิชชาพวกนี้ บางคนว่าเป็นอวิชชา แต่ อวิชชา คือความไม่รู้ -วิชชาคือความรู้ สมัยก่อนโน้น--ใครอยากเก่งก็แสวงหาอาจารย์พวกครูบาอาจารย์โยคี ชีปะขาว ผู้สละครอบครัีวเพื่อแสวงหาวิชชาความรู้ชั้นสูงเช่นกัน คนโบราณจะนิยมอยู่สองอย่างจริงๆ คือ วิชชาอยู่ยงคงกระพัน สัก เสข เลข ยันต์ อาบว่านยา อีกอย่าง ก็คือวิชาหุมสาว(รัก-ชอบผู้หญิง) เอ๊ย วิชาสาวหุม(มีหญิงมารักมาชอบ )คือมหาสเน่ห์นั่นเอง เช่น นำดินในรอยเท้าคนที่เรารักมาปั้นเป็นตุ๊กตาคนกอดกัน เขียนชื่อทั้งสองคนใส่ตุ๊กตานั้นแล้วนำไปปลุกเสก (โบราณว่ามีพรหมลิขิต คือตุ๊กตาปั้น คู่ผูกมัดด้วยด้ายแดง อันนี้ในนิทานจีนก็มี--มีจริงครับ มีอยู่ในตู้บนสวรรค์ชั้นสี่ ภรรยาผมเธอฝันว่าไปรื้อ แล้วเอาสลับคู่กัน คนขี้เหร่ได้เมียสวยราวนางฟ้า อะไรๆงี้ จนถูกถีบส่งลงมา แถมยังบอกว่า "อย่ามาอีกนะ" บอกแล้ว วีรกรรมเยอะครับ)

มาเข้าเรื่องกัน เพราะวิชชาคงกระพันนี้สำคัญ มียันต์บนแผ่นโลหะ ม้วนทำเป้นตะกรุด ยันต์ ก็มาจาก ยันตรา หมายถึงสิ่งที่ทำงานได้ด้วยตนเอง อย่างเช่นเครื่องยนต์ ผสมกับมนตร์ คือมนตรา แปลว่าการร้องเพลง(ความถี่เสียงมีพลัง)--เทคโนโลยี่ทางจิตนี้มาจากอินเดีย-- เปอร์เซียโบราณมาดั้งเดิมแล้ว ทั้งพุทธทั้งพราห์ม และประยุกต์มาเป็นไทยเรา ยันต์มีในทางอักขระตั๋วเมือง(ทางเหนือ) ก็มี อีสานก็มี(ตัวธรรม) ซึ่งสมัยก่อนการรบกันมีบ่อยมาก การอยู่รอดอย่างหนึ่งก็คือการอยู่คงกระพัน
----มีคนหาเหล็กอ่อนตัวได้ นำมาทำดาบ โดยมีตะขอหัวท้ายคล้องกันไว้ ทำให้ดาบนี้ขดได้เหมือนงู มีคนซ่อนไว้ในกระติบข้าว ต่อมาพวกพม่ามาพบจึงเอาไปเสียเลย แสดงให้เห็นว่า คนสมัยโบราณนั้นมีความรู้ ความเก่งกาจมากมาย แม้แต่แม่ทัพ สามารถเสกปูนแดงคาดคอทหาร แล้วอยู่คงกระพันในระยะเวลาชั่วเคี้ยวหมากแหลกเท่านั้น แต่ก็พอเพียง และพอจนกระทั่งรักษาชาติไทยอยู่ได้จนทุกวันนี้
----สงครามอินโดจีน ทหารฝรั่งเศสพร้อมอาวุธปืนปะทะทหารไทยอยู่แถบเวียดนาม พระตะบอง เสียมราฐซึ่งเมื่อก่อนก็เป็นของไทย ถึงกับมีบันทึก และการเล่าขานว่าทหารไทยคือทหารผี เพราะถูกยิงล้มเป็นใบไม้ร่วง ก็ลุกขึ้นมาสู้ต่อได้เหมือนไม่เคยโดนอะไร เรื่องนี้ดังยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง
----สมัยสงครามโลก ทหารญี่ปุ่นได้พบกับพระเกจิท่านหนึ่ง คือหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ท่านมีเสื้อยันต์ของดี ฟันด้วยซามูไรไม่มีบาดแผลเลย พวกทหารญี่ปุ่นทึ่งกันมาก ลองกันจนหมดแรง เพราะคนญึ่ปุ่นไม่เคยเชื่ออะไรง่ายๆ
--อาจารย์หนู หลังจากสักให้แองเจลิน่า โจลี่ ดาราดัง ก็มีการบอกต่อ จนชีวิตอจ.หนูว่างมาอยู่เมืองไทยปีละ 15 วันเท่านั้น แม้แต่ประวัติ และผลงานของท่านก็นำมาสร้างเป็นภาพยนต์
--มีทหารญี่ปุ่นที่เป็นกองร้อยคอยดูแลม้าในสงคราม เมื่อพ่ายแพ้ ก็ได้รับคำสั่งให้ทำลายชีวิตม้าทั้งหมด ดีกว่าให้เป็นกำลังของศัตรู นายทหารก็ต้องทำตามคำสั่ง แต่เมื่อกลับไปถึงญี่ปุ่น ก็ฝันเห็นแต่วิญญาณม้าพวกนั้นตามหลอกหลอน ให็พระญี่ปุ่นอุทิศส่วนกุศล ก็ไม่เป็นผลใดๆ จนวิญญาณม้าบอกว่า ให้เดินทางมาประเทศไทย และหาพระที่ท่านเคร่งในธรรมทำพิธีให้ กลุ่มนายทหารจึงได้มาทำพิธีที่เมืองไทย ตั้งแต่นั้นมาวิญยาณม้าเหล่านั้นก็ไม่ได้มารบกวนอีกเลย จนมีอนุสาวรีย์ม้าอยู่ที่วัดหนึ่งแถวภาคกลาง จำไม่ได้ว่าที่ไหน

-----พระภิกษุเจ้าคุณนรรัตน์ ท่านมีฝีที่ลำคอใหญ่โต และแตกปริน่ากลัว แพทย์หลายท่านบอกว่าสมควรผ่าออก เพราะคนปกติจะทนความปวดแบบนี้ไม่ได้ แต่ท่านบอกว่า เป็นฝีสบาย และมันก็จะหายไปพร้อมกับอาตมา คือตอนที่ท่านเป็นเด็ก ผู้ใหญ่เลี้ยงลิงไว้ตัวหนึ่ง มันซนมาก ท่านก็เอาโซ่ผูกคอมันไว้ที่ระเบียง ตือมาด้วยความซน เจ้าจ๋อก็กระโจนลงไปจนโซ่รัดคอมันตาย ---ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงต้องชดใช้กรรมนี้ การผ่าฝีนเป็นการหลบเลี่ยงกรรม ท่านก็จะต้องมาเกิดมาใช้กรรมส่วนนี้อีก ท่านจึงยอมรับกรรมนี้ด้วยตนเอง และด้วยสมาธิจิตอันแน่แน่ว แยกจิตออกจากความรู้สึกทางกาย ท่านจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างใดกับฝีที่โตเท่ากำปั้นอันนั้น
(คนส่วนใหญ่เชื่อว่าท่านบรรลุอรหันต์แล้ว)

---บางคนว่าพระเก่งๆ ทำไมไม่รู้วันตาย พระอาจารย์จวนกับพระเกจิอีกหกองค์ ท่านได้รับนิมนต์ไปทางเครื่องบิน ท่านพบกันแล้วยิ้มเบิกบาน เพราะทราบว่าจะต้องมรณภาพพร้อมกันนะ --ไม่ใช่ว่าไม่ทราบ แม้แต่อดีตชาติตนเองบางท่านก็รู้ถึงหลายชาติ--เมื่อคืนก่อน ทุกท่านก็ได้ทราบด้วยญาณแล้ว ว่าจะต้องมาจบชีวิตบนเครื่องบินนี้ เพราะเมื่อคืนยมบาลได้มาบอกท่านทุกองค์ว่า ดวงเมืองไทยจะต้องเสียหายหนัก ญวณจะนำรถถังบุกถึงใจกลางกรุงเทพ
--แล้วจะแก้อย่างไร ท่านถาม
---ท่านและพระเกจิอีกหกองค์ ต้องเอาชีวิตแลกกับบ้านเมืองไว้ เป็นลิขิตของดวงดาว ดวงบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ เทพเบื้องล่างก็ขอมา เพื่อจะเอาวิญญาณเกจิทั้งเจ็ด ท่านไปอบรมพวกสัตว์นรก---เรื่องก็เป็นมาอย่างนี้่แหละ ลองพิจารณาดูครับ

----หลวงปู่องค์หนึ่งตอนหนุ่มไปจีบสาวสวย พอจีบๆไป สาวก็บอกว่า "ชาตินี้จะมารักเขาทำไม ชาติก่อนให้คนตีเขา จับเขามัดจนอดตาย แล้วจะมารักเขาทำไม"
พอเธอทักท้วงมาแบบนี้ ด้วยอำนาจกรรมท่านเห็นในทันทีว่า "โอ เราจะเอานางหมามาเป็นเมียหรือนี่--

--ชาติก่อนท่านเป็นสมภาร นอนป่วยอยู่ นางสุนัขก็แอบมากินอาหารของท่าน พวกศิษย์ก็โบยตีสุนัข และไปมัดไว้ท้ายวัด แต่ปรากฏว่าสมภารได้ตายไปในคืนนั้น ด้วยความวุ่นวายทุกคนก็ลืมไป จนหมดงานศพท่านสมภาร พบว่าสุนัขตัวนั้นอดข้าวจนตาย ด้วยความอาฆาต นางสุนัขก็เกิดมาในร่างหญิงสาวแสนสวย แต่จองเวรท่านได้แค่คำพูดเท่านั้น คือการกระทำเหล่านั้นท่านไม่ได้ทำ--และไม่ได้สั่ง
(โหกฏแห่งกรรมนี่ละเอียดยิบทุกเม็ด)-นี่ก็สอนไว้ว่า อย่าดูถูก--อย่าได้ทำลายสรรพชีวิต นก หนู แมลง ก็รักชีวิตทั้งนั้น เป็นทั้งครูและเจ้ากรรมนายเวรเราทั้งนั้นถ้าเกิดเราละเมิดเขาขึ้นมา

--อยากจะพูดนิดนึง อืม.. 18+ นะครับ ใครจะหาว่าเราลามกไหมนี่ คือ เอ่อ มีเด็กหญิงคนนึง เกิดมาในสมัยอยุธยากลาง พอเริ่มเป็นสาว พ่อแม่สังเกตเห็นว่าแมลงภู่ ผึ้ง จะบินมาตอมผ้านุึ่งผ้าถุงของเธอจนตายอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน แม้จะซักอย่างดีกี่รอบก็ตาม คือเธอมี..ของดี..ที่หอมมากน่ะครับ (ไม่รู้จะอธิบายยังไง หรือบอกว่าทำบุญและอธิษฐานมาแบบไหน แหะๆของยังงี้) จนพอเธอเป็นสาว ก็มีแต่คนหนุ่มมามาตามจีบกันตรึม และเรื่องล่วงรู้ขึ้นมาถึงในวัง ทางในวังก็จัดคนมารับเธอไปเป็นสนม ต่อมาสเน่ห์ของเธอป่วนวังหลวงยิ่งกว่าแดจังกึม (คนละเรื่องต้องขออภัย) และเธอก็ได้ถูกบันทึกไว้ในพงศาวดาร ว่า คือ "ท้าวศรีสุดาจันทร์" จนมีตัวตนในภาพยนต์2เรื่องคือ "ศรีสุริโยทัย" และ "ศรีสุดาจันทร์-The King Maker" เรื่องนี้ไม่มีบันทึกไว้ แต่เล่ากันสืบมา

จากบล็อกของผมเองนะครับ--เดี๋ยวอัดเนื้อหาแน่นๆ เพราะตีหนึ่งระบบของเว็ปพลังจิตจะจัดข้อมูลกันใหม่

 

(หีบพันธสัญญา ที่เชื่อว่าเป็นเครื่องส่งวัตถุผ่านมิติครับ)
(ผมมีความรู้สึกว่า คนที่มาอ่านระยะหลังนี่ มีจิตใจที่ดี และบางคนก็มีอะไรแปลกๆแบบผม -ในแบบที่ผมรู้ (คอเดียวกัน)ดังนั้นการที่เรามาเจอกันในเว็ปนี้ ไม่ใช่ความบังเอิญ มันคือ เจตนารมณ์ของฟ้าเบื้องบนครับ)

--ยกตัวอย่างง่ายๆ จากการที่นักจิตวิทยา ผู้สนใจกฏแห่งกรรม(เขียนเรื่อง "เราจะข้ามเวลามาพบกัน") จัดงานมีคคิ้ง และให้ทุกคนจับคู่กัน (500คน) โดยสุ่มๆ พอหรี่ไฟและให้นั่งคุยกัน พบว่าทุกคนมีความสัมพันธ์ทางใจมาแล้วลึกๆจากอดีตชาติ หญิงคนหนึ่งเล่าว่า "เพ่งดูเพื่อนใหม่ เห็นเงาของน้องชายลางๆ ลอยอยู่บนหัวเค้า และเขาเองก็มีนิสัยคล้ายน้องชายชั้น น่าแปลกที่สุดที่เขาเกิดมาในวันที่น้องชายตายในสงคราม" และทุกคู่ก็มีเหตุการณ์แบบนี้ และทำไมจึงจับคู่กันได้ถูกด้วย
(กรรมเป็นเครื่องจำแนก)

<!-- Main -->*10 วัตถุลึกลับโบราณที่ท้าทายทฤษฎีวิวัฒนาการของมนุษย์*

Unsolved mysteries of the world

-ภาษาเอสเปอรันโตะ เรียกดอกไม้ว่า "ฟลอร่า" ซึ่งส่วนใหญ่ของโลกก็เรียกแบบนี้ มากกว่าคำว่า "ฟลาวเวอร์"
--เคยฟังไหมครับ เพลง "ซิ จันตุง ฮาติ " เพลงดังของอินโดนีเซีย น่าแปลกที่มันแปลว่า"หวานใจ" หวาน คือ จันตุง- ฮาติ คือ หัวใจ

--"ฮาติ" ฝรั่งเรียก ฮาร์ท ทางภาษาบาลี หรืออินเดีย เรียกว่า หทัย ทำไมจึงตรงกันขนาดนี้ คนจีนเรียกแม่ว่า"มา"Ma-Mama เรียกพ่อว่า "ปา"Pa-Papa ฝรั่งก็เรียกแบบนี้
-- คำว่า นาวี นาวา เรียกกันไปทั้งไทย อินเดีย ฝรั่ง ทั่วโลกเลย -Navy

-นักปราชญ์ฝรั่งพบว่ารากศัพท์ของเขามาจากอินเดีย จึงเรียกว่า กลุ่มภาษา อินโด -ยุโรเปี้ยน
-จากภาษาอินโดเช่นกัน มีนักร้องชื่อ Ake Putra- เอกะ ปุตร้า--เอกคือ หนึ่ง ปุตระ คือบุตร คือ ลูกชาย (เขาคือลูกคนเดียว)
(ลูกปรอท หรือปรอทกรอ ทำด้วยเหล็กหลายๆชั้น มีโลหะเป็นเหลี่ยม
อยู่ภายใน (ไม่สามารถแกะได้ ต้องใช้เลื่อยโลหะผ่าออก)-- เขย่าแล้วจะมีเสียงแปลกๆ
บางอันก็ชุบทอง ที่ว่าแปลกเพราะเป็นของที่สร้างขึ้นหลายพันปีมาแล้ว-และยังมีเครื่องสร้างไฟ โดยเป็นกระบอกสูบ เอาพวกนุ่นหรือใยเต่าร้างใส่ แล้วตบลูกสูบแรงๆ อากาศที่อัดแน่นจะร้อนมากจนทำให้นุ่นลุกติดไฟ สามารถทำให้เราก่อกองไฟใช้ได้ คาดว่าฝรั่งได้นำไปคิดต่อเป็นพวกเครื่องยนต์ของรถยนต์ดีเซล หรือเครื่องจักรไอน้ำ คนโบราณยังรู้จักทำทองเหลืองมาแทนทองคำ หาถลุงเหล็กเนื้อดีมาทำเป็นดาบ-ผู้เขียน)
---------------------------------
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า คนเราวิวัฒน์มาจากลิงชิมแปนซีประมาณ 5-7 ล้านปีมานี่เอง ดังนั้นของแปลกอายุหลายร้อยล้านปีมาจากไหน
(ขอให้ท่านค้นภาพจากกูเกิ้ลเองนะครับ ยังเขียนเว็ปอยู่ ไม่มีเวลาครับ)
- OOPARTS โอพาร์ทส หรือย่อมาจาก Out Of Place Artifacts นี้แปลตรงตัวแล้วหมาย
ถึง"วัตถุเหนือยุค" หมายถึงวัตถุซึ่งไม่น่าจะมีปรากฏอยู่ในยุคนั้นๆซึ่งถูกสร้างขึ้น ที่มีชื่อเสียงได้แก่
เครื่องบินเจ็ตทองคำ (โคลัมเบีย) กะโหลกคริสตัล(แอสเทคและที่อื่นๆ) รูปวาดนักบิน(มายา) รูป
เฮลิคอปเตอร์+รถถัง+เครื่องบินรบ(อียิปต์) ฯลฯ กล่าวกันว่าการค้นพบสิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานว่า ใน
สมัยโบราณ มนุษย์มีวัฒนธรรมซึ่งล้ำหน้ากว่าที่เราคาดคิดไว้มากนัก ถือเป็นการค้นพบที่พลิกประวัติ
ศาสตร์โลกทีเดียว

- ในช่วงหลายร้อยปีมานี้ มีการพบวัตถุลึกลับต่างๆ มากมายทั่วโลก (ไม่ยักมีไทย) ซึ่งวัตถุแต่ละ
อย่างไม่สอดคล้องกับทฤษฏีความเป็นไปของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอารยธรรม, ความฉลาดของ
สมอง, ความคิดของมนุษย์ ฯลฯ และนี่คือ 10 วัตถุโบราณที่กำลังท้าทายคำตอบ ว่ามันคืออะไรกันแน่
และมันมีไว้เพื่ออะไร


*10.Klerksdorp sphere*


- เป็นโลหะลึกลับที่มีการค้นพบกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยคนงานเหมืองใน Ottosdal เมือง
เล็กๆ ในประเทศแอฟริกาใต้ได้ขุดค้นพบวัตถุโลหะทรงกลมลึกลับจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาในชั้นหินแร่ไพโร
ฟิลไลท์ โดยไม่ทราบที่มาและแหล่งกำเนิดได้ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ มันเป็นวัตถุโลหะทรง
กลมลึกลับนี้วัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางรอบวงได้ประมาณ 1 นิ้วกว่าๆ (0.5-10 ซม.) และมี 2 แบบ
คือโลหะสีน้ำเงินอ่อน มีสีขาวเป็นจุดๆ อีกแบบเป็นทรงกลวง ข้างในบรรจุข้าวสาลี และจากการ
ตรวจสอบหาอายุวัตถุลึกลับนี้จากชั้นของหินพบว่ามันมีอายุนานถึง 2,800 ล้านปี ในวิกิพีเดียอังกฤษ
บอกว่า 3,000 ล้านปี) ซึ่งมันเป็นยุคพรีแคมเบรียน (Precambrian) หรือบรมยุคกำเนิดโลก ดู
จากยุคแล้วก็บอกได้แน่นอนว่าไม่มีวิทยาการที่สามารถใช้ไฟหลอมโลหะเป็นทรงกลมได้แน่ๆ แถมเป็น
ยุคที่ไม่มีมนุษย์อีก ทำให้จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทราบคำตอบว่าใครเป็นทำโลหะทรงกลมเหล่านั้น และทำ
เพื่ออะไร ทำให้ตั้งข้อสมมุติฐานว่าเกิดจากธรรมชาติเท่านั้น...

*9.The Dropa Stones*


- ในปี 1938 นักโบราณคดีกลุ่มหนึ่งนำโดยดร.ชีปูเตย (Dr. Chi Pu) ได้เข้าไปสำรวจเทือกเขา
เป่ยอัน-คารา-ยูลา Baian-Kara-Ulaในเมืองจีน ได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ในถ้ำแห่งหนึ่งเข้า สิ่ง
มหัศจรรย์นี้เป็นวัตถุอารยธรรมโบราณฝังรูปร่างเหมือนแผ่นศิลาทรงกลมหลายร้อยแผ่นฝังอยู่ฝุ่นตามพื้น
ถ้ำ ศิลาเหล่านี้วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 9 นิ้ว แต่ละแผ่นมี รอยสลักเป็นวงกลมที่ศูนย์กลาง
แล้วแกะหมุนวนแบบลายก้นหอย ดูคล้ายแผ่นเสียง ทว่ามีอายุราว 10,000-12,000 ปี เมื่อเพ่งพินิจ
ให้ดีก็จะพบว่า ที่จริงแล้ว เส้นสายเหล่านั้นเป็น อักษรภาพตัวเล็กจิ๋วที่บอกเล่าเรื่องราวที่เหลือเชื่อ
ว่า ครั้งหนึ่งเคยมียานอวกาศบินมาตก ที่เทือกเขาแห่งนั้น ยานอวกาศที่ว่ามีนักบินเป็นเผ่าชนที่เรียก
ตัวเองว่า โดรปา ซึ่งมีการพบซากของมนุษย์ที่อาจเป็นลูกหลานของชนกลุ่มนี้ในถ้ำด้วย

*8.The Ica Stones*


- ในช่วงทศวรรษ 1930 บิดาของดร.ฮาเวียร์ คาบรีบรา นักมานุษยวิทยาวัฒนธรรม ผู้ศึกษาเรื่อง
ราวของชนพื้นเมืองในเปรู ได้พบหินหลายร้อยก้อนตามหลุมศพของชาวอินคาโบราณ ดร.คาบรีบราได้
สานต่องานของพ่อ ด้วยการสะสมก้อนหิน ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟเหล่านี้ได้มากถึงกว่า 1,100 ก้อน ซึ่ง
ประมาณว่ามีอายุราว 500-1,500 ปี และต่อมารู้จักกันในชื่อก้อนหินอิคา หินเหล่านี้มีรอยสลัก บาง
ชิ้นเป็นเรื่องราวทางเการแพทย์ เช่นผ่าตัด ตัดหัวใจ และปลูกถ่ายสมอง แต่ที่น่าทึ่งที่สุดก็คือ ภาพ
สลักรูปไดโนเสาร์ ทั้งบรอนโตซอ รัส ไทรเซอราท็อป สเตโกซอรัส และเทอโรซอร์ รูปของคนขี่
ไดโนเสาร์ รูปกล้องโทรทัศน์ แล้วก็แผนที่โลกที่มองลงมาจากทางอากาศ ปัจจุบัน ยังไม่มีนัก
โบราณคดีคนใดอธิบายเรื่องนี้ได้ แม้นักวิชาการบอกว่า หินอิคาเป็นของที่กุขึ้นมาเอง แต่ก็ไม่เคยมี
การ วิจัยเพื่อพิสูจน์ความจริงหรือหักล้างในเรื่องนี้ หินอิคาจึงเป็นก้อนหินที่น่าพิศวงต่อไป

*7.Giant Stone Balls of Costa Rica*










- เมื่อทศวรรษ 1930 ขณะกำลังหักร้างถางพงในป่าทึบของ ประเทศคอสตาริกาเพื่อทำสวนกล้วย
พวกคนงานได้เจอลูกหินขนาดต่างๆ หลายสิบลูก หลายลูกมีรูปร่างกลมดิก ขนาดก็แตกต่างกันไป มี
ตั้งแต่เท่า ลูกเทนนิสไปจนถึงลูกที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ฟุต หนักถึง 16 ตัน เห็นได้ชัดว่าลูกหินพวกนี้
ไม่ได้เกิดเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์ ปัญหาก็คือไม่ได้พบร่อยรอยมนุษย์ที่อยู่ใกล้
เคียงแม้แต่น้อย แม้แต่เศษเครื่องปั้นดินเผาก็พบสักชิ้น มันไม่น่าจะเป็นฝีมือมนุษย์ เพราะว่าลูกบอล
ยักษ์กลมดิกมาก จากข้อสันนิษฐานพบว่าลูกบอลยักษ์เหล่านี้เกิดขึ้นก่อนมนุษย์จะเกิดเสียอีก คือเกิดใน
ยุคแทร์เซียรีพีเรีนดซึ่งนานกว่า 40 ล้านปีมาแล้ว คนพวกไหนมาสร้างเอาไว้ ทำขึ้นมาด้วยจุดประ
สงค์อันใด และที่สำคัญมีเครื่องไม้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีอะไรจึงทำลูกหิน ได้กลมเกลี้ยงถึงปานนี้?

*6.Oera Linda Book
*




- Oera Linda Book เป็นหนังสือของพวก รีสแลนด์(ฟรีสแลนด์เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ
ของประเทศเนเธอร์แลนด์) เป็นหนังสือที่เขียนด้วยมือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เทพนิยาย
และศาสนา ที่ปรากฏออกมาเมื่อศตวรรษที่ 19 หนังสือนี้ประกอบด้วยเรื่องความหายนะ, ชาตินิยมที่
ผู้หญิงเป็นผู้นำครอบครัว,เทพนิยาย พบว่ามีการภาษาที่ใช้เขียนเล่มเป็นภาษาของชนชาติยุโรปและ
ของชนชาติอื่นๆ รวมอยู่ด้วย โดยเนื้อหาที่เขียนถูกรวบรวมและจัดเรียงโดย(เจ้า)แม่ผู้นำขนบ
ธรรมเนียมท้องถิ่น ที่อุทิศตัวเป็นนักบวชหญิงของเฟรย่า ( Freya ) เทพีแห่งความรัก บุตรีแห่งมหา
เทพ Wralda กับ Irtha มารดาแห่งปฐพี ด้วยเหตุนี้ภาษาที่ใช้จึงเป็นภาษากรีกโบราณและภาษาฟีนิ
เชี่ยน ฉบับปัจจุบันถูกพบว่าเขียนในปี 1260 ส่วนฉบับที่เก่าแก่กว่าถูกพบว่าเขียนในช่วงระหว่าง2194
ปีก่อนคริสตศักราช ถึง ค.ศ.803 ซึ่งสมัยนั้นไม่มีทางที่เขียนภาษาแบบนี้ได้แน่ๆ แต่กระนั้นก็มีการโต้
แย้งว่ามันอาจเขียนขึ้นก่อนหน้านั้นแล้วทำให้ดูเหมือนโบราณเท่านั้น

*5.Impossible Fossils*

- อย่างที่เราเคยเรียนกันสมัยมัธยม ซากฟอสซิลที่ปรากฏอยู่ตาม ก้อนหินนั้น ต้องใช้เวลาก่อตัวนาน
นับล้านปี แต่ก็มีฟอสซิลจำนวนหนึ่งซึ่งดูจะ ขัดกับหลักธรณีวิทยาหรือประวัติศาสตร์ ชนิดผิดฝาผิด
ตัวอย่างสุดๆ เช่น ฟอสซิลรูปมือประทับของมนุษย์ที่พบในชั้นหินปูน ซึ่งประมาณว่ามีอายุ 110 ล้านปี
เป็นต้น แล้วยังมีสิ่งที่เชื่อว่าเป็นฟอสซิลนิ้วมือของมนุษย์ ที่พบในเขต อาร์กติกของแคนาดาอีก ชิ้นนี้มี
อายุราว 100-110 ล้านปี ไม่แต่เท่านั้น ยังมีการพบรอยเท้ามนุษย์ ซึ่งมองเหมือนสวม รองเท้าแตะ
ที่เมืองเดลตา มลรัฐยูทาห์ ในชั้นหินดินดาน อายุราว 300-600 ล้านปีด้วย

*4.Out-of-Place Metal Objects*





http://www.badarchaeology.com/?page_id=223

(รูปนี้ต้องเข้าในหัวข้อ "ฟอสซิลที่เป็นไปไม่ได้ "นะครับ)

http://www.google.co.th/imgres?q=th...=152&start=0&ndsp=18&ved=1t:429,r:10,s:0,i:91


- เมื่อ 65 ล้านปีก่อน ตามตำราบอกว่ามนุษย์ยังไม่เกิด และแน่นอนเรื่องช่างโลหะย่อมไม่มีแน่ แต่
แล้วในฝรั่งเศสดันมีการค้นพบท่อโลหะ ทรงกึ่งรูปไข่ ที่ขุดพบในหินชอล์ก ยุคครีเตเชีย
ส(Cretaceous) ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของยุคเมโสโซอิค หรือ "ยุคไดโนเสาร์" ก่อนทวีปต่างๆ ก็ได้
แยกออกจากกันเช่นในปัจจุบันได้อย่างไรกัน? ...นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างกรณีทำนองนี้มีมากมาย
เช่น...เมื่อปี 1885 มีการพบท่อ โลหะในก้อนถ่านหิน ซึ่งเห็นได้ว่าทำขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์
...เมื่อปี 1912 คนงานของโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่งก็เจอกาน้ำโลหะใน ถ่านหินก้อนใหญ่ จากยุค
หิน(Mesozoic)

*3.Ark Of The Covenant
*





- หรือหีบพันธะสัญญานั้นเองครับ ที่จริงยังไม่มีใครเจอมันหรอก แต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับมันนั้นช่างน่า
พิศวงเหลือเกิน
- ลักษณะของหีบพันธะสัญญาคร่าวๆ ตามตำนาน เล่าว่า เป็นหีบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำด้วยไม้ชิดติม
(Shittim) ยาว 2.5 คิวบิท กว้าง และสูงเท่ากัน คือ 1.5 คิวบิท (เทียบหน่วยคิวบิทของอียิปต์
ซึ่ง 1 คิวบิทเท่ากับ 525 ซ.ม. หีบก็จะยาว 1.3 เมตร กว้างและสูง 76 ซ.ม. )บุด้านนอกและ
ด้านในด้วยแผ่นทองคำ โดยรอบหีบด้านบนยกเป็นขอบสูงขึ้นเล็กน้อย ที่มุมสี่ด้านมีห่วงทองคำสำหรับ
สอดไม้คาน เพื่อแบกหามเวลาเดินทาง และไม้คานทำจากไม้ชนิดเดียวกันหุ้มด้วยแผ่นทอง(มีคำสั่ง
ห้ามถอดไม้คานออกด้วย) ส่วนฝาหีบ เรียกว่าMercy Seat หรือ “การุณอาสน์” มีขนาดรับกับตัวหีบ
และบุแผ่นทองเช่นเดียวกัน ด้านบนมีเทวดาสององค์สยายปีก หันหน้าเข้าหากัน ปีกทั้งสองโอบคล้าย
ซุ้มโค้งเหนือหีบ

- มีเรื่องเล่ากันว่า หีบพันธะสัญญาเป็นหีบที่สร้างขึ้นตามพระบัญชาของพระเจ้า(??) เพื่อเป็นที่บรรจุ
แผ่นหินจารึกบัญญัติ 10ประการของพระองค์ ที่ประทานแก่ โมเสส ในระหว่างที่เขาพาพวกฮีบรูเร่
ร่อนอยู่กลางทะเลทราย อันกันดาร โดยชนชาวฮีบรูจะแบกหีบแห่งพันธสัญญาตลอดการเดินทางในพระ
คัมภีร์ไบเบิลเล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ของหีบ ที่มีพลังมากมายมหาศาลถึงขั้นสามารถทำลาย
ล้างผู้บังอาจเข้าไปแตะต้อง และถูกพระเพลิงเผาวอดตาย

- แน่นอนหลายคนที่ได้รู้เรื่องราวหีบพันธะสัญญานี้ได้บอกว่ามันน่าเหลือเชื่อและหากเป็นเรื่องจริงละก็
มันน่าจะเป็นวิทยาการอะไรสักอย่างที่ไม่มีในยุคนั้น ดังนั้นจึงมีข้อสันนิฐานตามมาว่า หีบพันธะสัญญาน่า
จะ ขวดแก้วไลเดน (Leyden Jar) ซึ่ง ปีเตอร์ แวน มุสเซนโบรค ได้คิดค้นขึ้น เมื่อปี ค.ศ.
1745 (เป็น อุปกรณ์เก็บสะสมประจุไฟฟ้า แบบง่าย) ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวกับไฟฟ้าทั้งสิ้น
สมัยก่อนนั้นมีการใช้ไฟฟ้าได้อย่างไรกัน?? และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครพบหีบพันธะสัญญาที่แท้จริง ทำให้
ไม่สามารถรู้ว่าหีบพันธะสัญญาคืออุปกรณ์อะไรกันแน่

*2.The Coso Artifact*

- ขณะออกไปหาเก็บก้อนแร่และหินสวยงามบนเทือกเขาโอ ลัน คา ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงฤดู
หนาวของปี 1961 วอลเลซ เลน(Wallace Lane), เวอร์จิเนีย แม็กซี(Virginia Maxey)
และไมค์ ไมค์เซล(Mike Mikesell) ได้เจอหินที่เข้าใจว่าเป็นแก้วผลึก ก้อนหนึ่ง ทั้งสามชอบใจ
มาก เพราะคิดว่าถ้าเอากลับไปขายที่ร้านอัญมณี ของตัวเอง คงได้ราคาพอควร แต่เมื่อกะเทาะออก
ดู ไมค์เซลก็เจอวัตถุชิ้นหนึ่งอยู่ข้างใน มองเหมือนเครื่องเคลือบสีขาว ตรงกลางมีแท่งโลหะแวววาว
ผู้เชี่ยวชาญประมาณว่า ต้องใช้เวลาร่วม 500,000 ปี กว่าที่เจ้าก้อนผลึกนี้จะก่อตัวห่อหุ้มวัตถุนี้ไว้
ภายในได้เช่นนี้ ทั้งๆ ที่วัตถุดังกล่าวมองเหมือนเป็นผลงานจากน้ำมือของมนุษย์ เมื่อตรวจสอบเจ้า
แท่งโลหะดังกล่าวอย่างละเอียดด้วยการ เอกซเรย์ ก็พบว่ามันมีสปริงเล็กๆ ติดอยู่ที่ปลายข้างหนึ่ง
บางคนที่ได้เห็น บอกว่ามันมองเหมือนหัวเทียนของเครื่องยนต์ แล้วหัวเทียนเข้าไปอยู่ในก้อนหินอายุ
5 แสนปีได้อย่างไร?

*1.Piri Reis*




- ในปี ค.ศ. 1979 ในระหว่างที่มีการซ่อมแซมมหาราชวังคอนสแตนทิโนเปิล
(Constantinople) ในอิสตันบูล ประเทศตรุกี ก็ได้มีการค้นพบภาพวาดแผนที่ที่ถูกวาดลงบนหนัง
กวาง ซึ่งถูกวาดขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1513 แผนที่ดังกล่าวมีการลงชื่อแสดงความเป็นเจ้าของโดยของ
นายทหารเรือชาวเติร์กชื่อ Piri Haji Memmed ทำให้มีการเรียกแผนที่นี้ว่า Piri Reis คาดว่า
มันถูกทำขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1513

- แผนที่ของ Piri Reis เป็นสิ่งที่ท้าทายนักประวัติศาสตร์อย่างมาก เนื่องด้วยแผนที่นี้มันแสดงภูมิ
ศาสตร์สมบูร์แบบเกินกว่าแผนที่ธรรมดาทั่วไป อีกทั้งยังมีเส้นรุ้งเส้นแวงที่ชัดเจน ซึ่งเป็นไปตามหลัก
วิชาการแผนที่สมัยใหม่ทุกประการ มันแสดงถึงพิ้นที่ของทวีปอาฟริกาใต้อย่างละเอียดละออเป็นพิเศษ
รวมไปถึงทวีปอื่นๆอย่างคร่าวๆ ซึ่งนับว่าเหลือเชื่อที่สุด เพราะถูกทำขึ้นหลังจากโคลัมบัสคนเก่ง ค้น
พบโลกใหม่ เพียง 21 ปีเท่านั้น เวลาสั้นๆแค่นี้ไม่น่า จะมีใครสำรวจจนทำแผนที่ที่แทบจะครอบคลุม
โลกแบบนี้ออกมาได้ ยิ่งน่าทึ่งกว่านี้อีกคือมันมีทวีปแอนตาร์กติก้าด้วย ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีการค้นพบทวีป
ดังกล่าวนี้เลย ( แอนตาร์กติก้าค้นพบราวๆ ปี 1800) เขาสามารถแสดงชายฝั่งของทวีปที่อยู่ภายใต้
น้ำแข็งหนาเป็นกิโลได้อย่างไรหากไม่ใช้กรรมวิธีสมัยใหม่ทางภูมิศาสตร์ที่เรียกกันว่าการสำรวจจาก
ทางอากาศ

- จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครอธิบายได้ว่าคนวาดแผน Piri Reis นี้มีวิธีการวาดอย่างไรถึงทำให้มีความ
สอดคล้องกับข้อมูลทางธรณีในยุคปัจจุบัน ทั้งๆที่มันถูกวาดขึ้นในปี 1513

-----ยังมีคัมภีร์โบราณที่จากรึกในแผ่นทองแท้ๆ และคัมภีร์ของโธท ที่จารึกบนแผ่นมรกต-Emeral Tablets- ซึ่งเก็บไว้ที่กลุ่มอิลลูมิเนติยุโรป ( กลุ่มบิลเดอร์เบอร์เกอร์)


Credits : Cammy

Dek-D.com :



ใครบอกว่าวิชาโบราณคดีนี้ไม่น่าเรียน ดูอาจารย์ซะก่อนดิ แล้วค่อยตัดสินใจใหม่
Linda Cardellini




<HR style="BACKGROUND-COLOR: rgb(209,209,225); COLOR: rgb(209,209,225)" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->Half Irish, half Italian.

ภาพมังกรในโรงเก็บของ คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ได้ครับ

 

โอ้ววว สุดยอดมั่กๆ ครับ หลากหลายองค์ความรู้ที่อัดแน่น สนุกสนาน ลื่นไหล น่าติดตาม สุโค่ยย จริงๆ เด้อคับ

 

รออ่านนะครับสนุกดี

 

แนะนำให้ จขกท. เข้าไปดูเวป Captain Bill นะครับ

atlanticobr - YouTube

ถ้าท่านสามารถฟังจนจบและแปลได้ราบรื่น ท่านจะไม่มีอะไรสงสัยในเรื่องที่ท่านโพสต์มาทั้งหมดนี้ เพราะ Mythi นักวิจัยจากแกแลคซี่ อันโดรเมดา มาตอบปัญหาให้ชาวโลกที่รุม อีเมล์เข้าไปถาม มากว่า 2 ปี แล้ว

Nirvana ฟังหมด 76 ตอน ไป 2 รอบ ยังจับพิรุธของบทความไม่ได้
ทั้งๆที่เราเป็นคนเชื่อคนยากจริงๆ

แต่ขอไม่เห็นด้วยกับเรื่องนึง ที่ขัดกับพระไตรปิฏกคือ Mythi บอกว่า คน (Humanoid) ตายแล้วก็จะเกิดเป็นคนอีก อาจจะไปเกิดที่โลกอื่น แต่จะไม่เกิดเป็นสัตว์ชนิดใดๆ

ในส่วนอื่นโดยเฉพาะเรื่อง การติดต่อกับ มตด. หลายสายพันธุ์
และภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น อันนี้ชัดเจนมากเหมือนเราเดินทางไปเห็นเองในอนาคต เลย ครับ

ท่านสมาชิกเวปพลังจิตท่านใดที่สามารถฟังเข้าใจบทความในคลิปทั้งหมด 76 ตอน ได้ (อาจจะกินเวลาสัก 2 วัน) จะหมดความสงสัยเรื่องภัยพิบัติ ครับ

 

ถนนไฮเวย์ที่เชียงใหม่ คำชะโนด บริเวณน้ำโขงเห็นเค้าว่ากันว่ามีประตูมิติเยอะใช่มั้ยค่ะ

 

ท่าน Nirvana สรุปให้ฟังบ้างได้มั๊ยครับ ว่าท่าน Bill พูดว่าอย่างไรบ้าง

 

---ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยครับที่หายไป เกือบ 48 ชั่วโมง คือ มีสาวนางหนึ่ง ตื่นขึ้นมาแล้วสามีหาย "ผัวชั้นหาย" หายไปพร้อมโน๊ตบุ๊ค มือถือซัมซุง เงินเกือบสี่หมื่นที่รวบรวมจะส่งแชร์ ทีแรกคิดว่าเขาติดผู้หญิง แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า ไปโคราช ไปอยู่กับพระ ขจะหางานทำ อยากกลับมา แต่ก็ไม่กล้า ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง เลยใช้อีเมล์อ่อนๆ มาทอดถอนระบายความในใจ
--แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ฟะ-ท่านผู้อ่านคงจะคิดแบบนี้ เกี่ยวนิดหน่อยครับ คือบังเอิญว่า เธอเป็นลูกสาวของภรรยาผมครับ และกรรมที่เธอได้รับครั้งนี้ ก็คือว่า 5 ปีก่อนเธอก็ทำอย่างนี้กับแม่ของเธอเหมือนกันเป๊ะๆ โดยเอาบัญชีเงินในบ้านไปหมด แม่เธอก็ไม่มีเงินสักบาท แต่เธอก็หนีเข้า กทม.กับสามี โดยไม่สนใจว่าแม่จะร้องไห้คร่ำครวญยังไง และที่ผมไปเป็นยามอยู่พัทยา เพราะเธอขู่แม่ว่า ให้แยกทางกับผม ไม่งั้นเธอจะขอตัดความสัมพันธ์แม่ลูกกัน--เรื่องพวกนี้ผมเฉยๆ ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น "ไม่มั่นใจในเรื่องกรรมก็แปลว่า ไม่เชื่อพระพุทธองค์นะซิ"
--ความสัมพันธ์แม่ลูกยากที่จะตัดขาด คนทั้งบ้านนี้ 3 ชีวิตก็ต้องวุ่นติดตามข่าว คอยหาเบอร์โทร อีเมล์ติดต่อให้--แม่เค้าก็กลัวลูกสาวจะฆ่าตัวตาย เลยไม่ได้นอน อากาศก็ร้อนตอนกลางคืน ผมเองยังเป็นผื่น คันคะเยอทั้งตัว
--โทรหาแม่ของผู้ชาย แม่เขาบอกว่า คนๆนี้มีเมียมากี่คน เค้าก็ทำแบบนี้กับเมียเค้าทุกคนอย่างเสมอภาคกัน555 ตอนหลังเข้าวัดไปรับใช้ท่านเจ้าคุณ ก็ยังไม่เปลี่ยนนิสัยหรือนี่ "แม่เค้ายังตัดเค้ามาแล้ว" พี่น้องผู้ชายอีกสองคนก็เป็นแบบนี้และติดยาด้วย

--ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะเขามา และไม่ต้องมีความผิดอะไรในทัศนะของเมียเค้า เออ..หายากนะนี่ ทำเค้าไว้เยอะแล้วกลับมา แบบตบหัวลูบหลัง ใครๆก็อยากได้ภรรยาแม่พระแบบนี้-(พ่อผมก็เจ้าชู้นะ)--ความทุกข์อันเดิมของบ้านผม ก็คือ เธอคนนี้อยากได้รถเก๋ง เอาเงินก้อนสุดท้ายสี่หมื่นไปดาวน์มา แล้เขาก็ยึดไป คิดค่าขายทอดตลาด อ้างว่าขาดทุนสองแสน ไม่จ่ายเขาก็ฟ้อง บังคับคดีอยู่นี่ ก็ต้องจ่ายเงินให้ทางบริษัท เดือนละหมื่น รถเก๋งซื้อมาขับไม่ถึงอาทิตย์ เธอก็เบื่อแล้ว มือถือดีๆอยากได้มาก เครื่องละสามหมื่น สองเครื่อง-หายไปอ้างว่าโดนโขมย มราแท้ขายไปถูกๆ เธออ้างว่าเป็นไทรอยด์ กับโรคเลือดไหลไม่หยุด ให้แม่หาเงินมาจ่ายค่าหมอเดือนละห้าพัน แต่จริงๆไม่ได้เป็นอะไรเลย

--ผมปวดฟัน ไม่มีตังไปหาหมอ แต่เธอขอไปสแกนยิงฟันให้มันขาว -หกพัน ก็ต้องพาไป สุดๆมั้ยครับ ใครสนใจสอบถามได้ครับ เธอผิวคล้ำ ตาโต สวยแบบเซ็กฃี่ แต่ตัวเล็กๆ เปรียบเหมือนดังแม่พระ แต่เป็นแม่พระเพลิง เกิดปีลิง ชอบหมุนเงิน หมุนเงินเป็นแสน หมุนเร็วมากไป เงินกระเด็นหายหมด

--ก็นานหลายปีที่แม่ของเธอบอกให้นำดอกไม้ธูปเทียนมาขอขมา เพราะจะทำอะไรไม่ขึ้น(ภรรยาผมเธอมีญาณ (นี่ก็สวยครับ เตี้ย อ้วน ดำ ด่าเก่ง แต่จิตใจเป็นนักบุญสายโพธิสัตว์)-เธอก็เพิกเฉยตลอดมา พอดีเพื่อนที่ทำงานไปพบร่างทรงๆ ก็บอกว่า"มึงไปบอกอีดำเพื่อนมึง ให้ไปขอขมาแม่มันเสียนะ ทำกับเค้าน้ำตาตกมากี่หนแล้ว" โลกนี้ช่างแปลกดี คนแก่ต้องมาหาเลี้ยงพวกลูกหลานน่ะ มันแปลกมากๆเลย

--ผู้อ่านอย่าได้คิดว่าผมจะทุกข์มากๆ นิดเดียวก็ไม่มีครับ คนเราถ้าปฏิบัติธรรมถึงระดับหนึ่ง ไอ้ที่ชาวบ้่านเขาทุกข์แทบตาย เราก็เฉยๆ เค้าดีใจแทบตาย เราก็เฉยๆ ความทุกข์ก็วางอยู่ตรงนั้น แต่เมื่อเราเข้าไปยึดถือเข้ามาในจิตใจ เราก็เป็นทุกข์ เพราะเรามีอัตตา ยึดมั่นในตัวตนไง

--แม้แต่วิญญาณหรือ"ความรู้สึก" ที่มานั่งพิมพ์ให้คุณอ่าน มันก็ไม่ใช่อัตตาหรือ "ตัวผม"แต่อย่างใด แล้วธาตุดินน้ำลมไฟ ที่มาเป็นร่างกายของผมนี่ มันจะเป็นตัวผมไปได้ไง(ฟังพูดเหมือนนักปราชญ์เลย แต่กิเลสหนาครับ แอบจูบปากแหม่มครับ แหม่มก็ยอม เออแน่ะ)
--พระหนุ่มองค์หนึ่งท่านสอนผมว่าให้มองดูความคิด เหมือนแมวเฝ้าดูหนู ทั้งดูที่สัมผัสทั้งห้าพร้อมๆกันมองดูกิเลสมัน- ซึ่งถ้าทำไปบ่อยๆ จิตจะสงบลงไปเอง เพราะเรารู้ทันตัวกิเลสมัน อยากได้คำตอบของสิ่งใดๆ เราเพียงคิดๆ ถามไว้ในใจ เดี๋ยวจิตมันก็ไปหาข้อมูลมาให้เอง(จากคลังอากาศิกส์) พลังในร่างกายมีเหลือน้อย (เพราะถือสัจจะอดข้าว) จิตก็ไปหาพลังปราณจากธรรมชาติ หาจากจักรวาลมาให้เอง
--ข้าวของเงินทอง เสียอะไรก็เสียไปเถิด แต่รักษาจิตให้ผ่องใส มีความสงบสุขตามธรรมชาติธรรมดาก็พอแล้วครับ
-ถ้าจะตามใจกิเลส ทรัพย์สมบัติร้อยเท่าของบนโลกนี้ก็ไม่พอใจมัน สาวงามสวยๆ เป็นหมื่นๆคนก็ ก็ไม่พอ
--แต่กิเลสจะดิ้นพราดๆ ถ้าเรานึกเห็นภาพให้ถลกหนังนางงาม ตัดแขนตัดขา เลาะเนื้อออก โห มันวิ่งหนีกับป่าราบ ดินตายพราดๆยิ่ง--ถ้าตอนขึ้นอืดอะนะ เหม็นสุดๆ มากกว่าซากสัตว์ใดๆ- นี่เรียกว่า จิตมันยังโง่ มีอวิชชา ไม่ยอมรับความเป็นจริงพื้นฐาน เกิด แก่ เจ็บ ตาย --ของผมเองก็ต้องสอนมันอีกเยอะ ตอนที่ฝรั่งคนนึงที่เรียกว่า "ผู้กองหิน"เดินมาบอกว่า เหมือนระเบิดตกที่หลังห้อง ยามคนนึงก็บอกว่าเหมือนอะไรแหวกอากาศวิ๊ดลงมา แต่ไม่เห็นมีอะไร--ความจริงมีฝรั่งตกจากตึกชั้น12 ลงมา ผมก็ไปดูศพ และแจ้งตำรวจ รถพยาบาล และต้องวิ่งตามหาห้องที่เค้าตกลงมา พอเสร็จงาน โทรไปบอกพี่สาว สักพักผมร้องไห้ออกมาเลยครับ พี่สาวบอกว่า เป็นธรรมปิติ ดีใจ เสียใจ และเข้าใจ-เข้าถึงสัจจธรรมอย่างที่จิตมันไม่เคยเจอมาก่อน เลยเกิดปิติในธรรม (ได้นังสมาธิให้เขาอยู่หลายครั้ง)แม่ผมที่ตายไปแล้ว ท่านก็ดีใจว่าลูกได้เลื่อนชั้นธรรม
เรียกว่าถูกพระธรรมของพระพุทธองค์ฆ่าฟัน(กิเลส)ด้วยดาบแห่งธรรมมะอันแสนคม เกือบตายแต่เหมือนได้เกิดใหม่ พอตรวจดูกิเลส มั้นวิ่งหน้าตั้งหนีสุดขีดแต่เห็นศพนายมัลค่อล์มครั้งแรกแล้ว

---ธรรมมะวันละคำ วันนี้นี้จัดหนักต้อนรับ เสาร์5 เดือน5 ปี 2555 มันส์มหามันส์มั้ยครับพี่น้องครับ

 

มาให้กำลังใจ จขกท. ค่ะ
สำนวนฝรั่งเขาจะบอกว่า That's life !

อย่าคิดอะไรมาก..ชีวิตคนเราก็เป็นแบบนี้แหละ
เดี๋ยวสุข เดี๋ยวทุกข์ มันไม่มีอะไรจีรังเนาะ

 

สนุก และน่าสนใจดีคับ ^__^

แชะ! ไว้ก่อน อยู่พร้อมผู้เขียนพอดี

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>White Fox, chandayot, 2012 ^^ [mintny] </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เราก็เป็นคนอีสาน ชอบคุยกับพ่อ เรื่องคนเฒ่า คนแก่สมัยก่อน พ่อบอกว่าคนโบราณท่านเคยทำนายไว้ว่า ม้าป่งเขา( ป่ง คือภาษาอีสาน แปลว่า งอกออกมา ) สมัยนี้ก็คือ รถมอเตอร์ไซด์ เสาจะออกดอก สมัยนี้นอกจากจะแปลอย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้แล้ว พ่อบอกว่า เป็นเสาไฟฟ้า ก็คือดอกนีออนไงคะ ร่วมแชร์ประสบการณ์ด้วยค่ะ สนับสนุนกระทู้ดีๆน่าสนใจมากค่ะ

 

ลองเอายามาหนึ่งหยด ยดลงไปในน้ำเปล่า50 เท่าในขวด ทำซ้ำแบบนี้ 50ครั้ง ทุกๆคั้งเขย่ามันด้วย--เรียกว่าจะไม่เหลือตัวยาสักโมเลกุลนึงเลย แต่นำน้ำนี้มารักษาโนกได้ครับ คือน้ำ จะจดจำสภาพครั้งแรก และจำไว้ในรูปของข้อมูลข่าวสารทางพลังงาน แม้แต่ของแรงๆเช่นโดนงูกัด ยังรักษาได้เลยครับ
เหมือนเล่นกล แต่การรักษาแบบนี้มีมานานแล้ว เรียกว่า "โฮมีโฮพาธี"Homeopathy
--มันเวิร์ค(ทำงานได้)จริงๆ แต่ขัดกับความรู้สึกพื้นฐานของพวกเรา
http://vibranthealthhomeopathy.com/what-is-homeopathy-2/

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=lpC8BvHyorg"]THE MECHANISM: How Homeopathy Works - YouTube[/ame]

[ame="http://www.dailymotion.com/video/xk45kr_homeopathy-medicine-or-magic_tech"]Homeopathy: Medicine or Magic ? - Video Dailymotion@@AMEPARAM@@http://www.dailymotion.com/swf/video@@AMEPARAM@@video[/ame]





[ame="http://www.youtube.com/watch?v=_ZhmG97lYog"]BBC Horizon Homeopathy The Test Part 1 - YouTube[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=FIS6Julcnfw&feature=related"]What is Homeopathy? - YouTube[/ame]


--พวกเราโชคดีที่มีของเหลววิเศษอยู่บนโลกใบนี้ครับ มันเหมือนอาหาร มันอยู่ในตัวเรา ขาดมันไม่ได้ "ทั้งรักและทั้งเกลียด" --น้องน้ำ หรือ พระแม่คงคา อย่าไปเกลียดท่านเลยครับ (ชาวต่างดาวส่วนใหญ่ไม่มีน้ำครับ)

--ในการปลุกเสกวัตถุ นิยมใช้โลหะ หรืออะไรๆที่เป็นสารอินทรีย์ แต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกๆ สามารถรับและเก็บพลังจิตได้ สิ่งนี้ก็คือน้ำ

---ดร.ชาวญี่ปุ่น รู้สึกว่า ชื่อ อิโมโตะ มีเพื่อนบอกว่า น้ำน่ะรับพลังจิตได้ เขาก็ใช้ เพลง การแผ่เมตตา คำพูด มาแผ่ให้น้ำ แล้วเข้่าช่องแช่แข็ง น้ำก็จะเกิดเป็นผลึกที่สวยงาม ถ้าพูดว่า "ฉันจะฆ่าแก" มันก็จะไม่ยอมเป็นผลึกครับ
--ที่แปลกที่สุด ถ้าเราเขียนตัวหนังสือ เผ็นภาษาจีน หรือญี่ปุ่น ไปวางใกล้ๆ ให้มัน "เห็น" มันก็จะมีการตอบสนองแบบเดียวกันกับคำพูด
--ผมเคยเล่่าเรื่องนี้ให้นักศึกษาลูกศิษย์ของพี่สาวให้ฟัง เขาว่า ร่างวกายของคนเรามีนำ้ตัง 75 เปอร์เซนต์ หากพลังจิตควบคุมน้ำได้ การควบคุมคนก็ต้องได้อย่างไม่มีปัญหา อืม เขาเป็นฝรั่งชื่อ เอ๊ดดี้ครับ อายุ17 --แต่ความคิดคล้ายกับผมมากเลย

--โรงผลิตซอสในญี่ปุ่น ใช้การเปิดเพลงคลาสสิกทิ้งไว้ตอนซอสมันหมักตัว จะได้ซอสที่ทั้งหอมหวนและมีรสดีมาก จนถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่เพลงร็อคหรือแนวอื่นๆ "มันไม่เวิร์ค"อะครับ
---------(เรื่องน้ำ ผมเคยเขียนไว้นะครับ ในห้องนี้ ล่าสุดคุณ"ชยุต"ก็แปลไว้)
เวลาคืออะไร ทำไมต้องมี เคยคิดมั้ยว่า บางที่ก็ไม่มีกาลเวลา กาลเวลานั้นย้อนกลับไม่ได้ ไหลไปเรื่อยๆ ก็เหมือนกับชีวิต และการกระทำของเรา การกระทำที่มีเจตนา นั้นเป็นเหตุ สิ่งที่ย้อนกลับมาคืน เรียกว่า ผลของกรรม---ลองคิดแบบนี้ซิว่า การย้อนคืนไม่ได้ของเวลา ก่อให้เกิดการย้อนคืนไม่ได้ของ(หลักการ)ของ เหตุ และ ผล ซึ่งก็คือกฏแห่งกรรมนั่นเอง (การสร้างเวลามาไว้บนโลก ก็เพื่อให้มนุษย์เช้าใจกฏแห่งกรรมและธรรมมะนั่นเอง ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลย) (มีทฤษฎีชื่อ สนามเวลาครับ และสิ่งที่มีพลังแรงมากที่ตรวจวัดได้ ก็คือกรรมดีและชั่ว มันจะส่งผลออกมารุนแรงและพลังกรรมจะวิ่งวนไปรอบๆโลก)
--ฝรั่งเรียกว่า "กฏแห่ง เหตุและผล" Law of cause and Effect ซึ่งครอบคลุมทั้งวิทยาศาสตร์และศาสนา ไทยเรียกว่า"กฏแห่งกรรม" ซึ่งก็คิดครอบคลุมแบบเดียวกัน
--ลองไปคุยกับฝรั่งสิ บอกว่า อันนี้คือ กรรมชั่ว-Bad Karma มันจะเข้าใจครับ เป็นคำพูดติดปากทั่วไป ส่วนนิพพาน ก็เรียกว่า นิรวาณ -Nirvana ใช้กันเกร่อไป เป็นชื่อวงดนตรีด้วย แต่ลองออกเสียงดูครับ เนอร์วาน่า เป็นถ้อยคำที่สวยงามและมีพลัง บาลีจะเขียนแบบนี้ครับ Nibbhanna บางคนว่า พุธโธ ต้องออกเสียงว่า บุ๊ดโดBhuddo โห.. พี่ครับ แมวสีดำ--สีขาว สีแดง อะไรที่จับหนูได้ ก็ต้องเรียกว่าแมว-- สวดมนต์จะสวดแบบ ไทย พม่า มอญ -ละว้า ก็ถึงพระพุทธคุณเหมือนกัน
--10วัตถุประหลาดขอให้กลับไปอ่านใหม่ครับ เอารูปใส่แล้วเครื่องน็อคไป

ใครก็ไม่รู้ หลงมา

ทำกล้องขยาย ด้วยไฟฉายเลเซอร์
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=oUB3uZwZydU&feature=fvwrel"]http://www.youtube.com/watch?v=oUB3uZwZydU&feature=fvwrel[/ame]

การสกัดดีเอ็นเออย่างง่ายที่บ้านคุณ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=XHlH2hBXPDA&feature=relmfu"]http://www.youtube.com/watch?v=XHlH2hBXPDA&feature=relmfu[/ame]

เล่นกับสารแม่เหล็กเหลว--เฟอโรฟลูอิด

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=1EuyZ5Lml4k&feature=relmfu"]Doing SCIENCE! with ferrofluid - YouTube[/ame]

 

เห็นเกี่ยวกับน้ำ... เคยเขียนกระทู้ไว้เมื่อปี 2010 เลยขุดมาฝาก

http://palungjit.org/threads/ภาพอัศจรรย์.257370/

 

เห็นด้วยอย่างแรงเลยค่ะ จะรออ่านนะคะ

 

น้ำขังนิ่งๆอยู่มานาน มีคนขุดหาทางน้ำให้ไหลไป วื๊ดๆ มิทำให้น้ำนิ่งเริ่มเน่าเสียสูญสลายไป และแห้งขอดลงสู่ทรณีเหมือนมิเคยมีน้ำนี้แต่กาลก่อน มีทางไหลและได้ไกล กว่าจะพบใครทำให้ไหลจนสุดทางแม่น้ำใหญ่ใสไหลริน มันคงมิใช่สิ่งบังเอิญมาพบคนพาไปเช่นนี้

มาขุดต่อ มาพาต่ออย่าชักช้าพ่อคุณเอ้ย 5555

 

----ขอบคุณทุกๆท่านอย่างจริงใจครับ สำหรับทุกความเห็นและการให้กำลังใจ การติดตามอ่าน-- ทุกๆอย่างทุกเรื่องยิ่งเข้มข้นเหมือนกระทิกำลังแตกมัน แถมกากมะพร้าวยังมาคลุกข้าวโรยน้ำตาลกินได้อีกด้วย จะว่าไปความรู้ทางเรื่องลึกลับนี้เยอะเนาะ เปิดเป็นมหาวิทยาลัยได้เลย
ที่อเมริกาสอนเรื่องแพทย์ทางเลือก--เปิดเป็นมหาวิทยาลัยขึ้นหลายแห่ง- คนเรียนกันตรึม คึกคักมาก ก็มาจากอินเดียโบราณ คัมภีร์พระเวท(อายุรเวท) พระเวท ท่านฤาษีก็นั่งสมาธิไปอ่านมาจากบนสวรรค์--ทุกอย่างไม่เกินความสามารถหากมนุษย์พยายาม
--จุดประสงค์ของกระทู้นี้จริงๆ ก็คือการสอนธรรมมะแบบอ้อมๆ เรื่องลึกลับ อย่างที่สอง ก็คือเป็นตัวกลาง
สำหรับผู้ที่อยากรู้ อยากสื่อสารกับเทพ--ยังไงหว่า ก็เวลาผมอ่านที่ทุกท่านเขียนมา เทพท่านก็ยืมใช้ดวงตาของผม -ยืมการรับรู้ของผม เทพท่านก็อ่านไปพร้อมๆกัน (แล้วมันดียังไง--เดี๋ยวก็รู้เอง จะคอยฟังเรื่องเล่าครับ) ซึ่งบางครั้งบางคน ก็สามารถรับพลังจิตของผมได้(หรือของเทพก็ไม่รู้นะ ไม่ฟันธง) ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน แบบว่าเหมือน บุพเพสันนิวาส(บุพเพแปลว่า เก่าก่อน-สันนิวาส อยู่ร่วมชายคา อะไรแบบนี้) เอาเถอะน่า เดี๋ยวบางท่านเขามีเครื่องรับดีๆ ก็จะเล่าออกมาจนได้
--ไปนอนเล่นคลายร้อนชั้นล่าง ดูละครเรื่อง"บ่วง" ดู..(มิ้ลค์)นักแสดงสาวก็สวยดี นางเอกร้องไห้ได้สมจริง นางร้ายก็แสดงดี(วิศวะ มช.นะนั่น) มาแนวผีๆสางๆ เล่นได้ถึงอารมณ์ละครมาก คนไทยเก่งนะ จีนแผ่นดินใหญ่ัยังติดละครไทยงอมแงม ต้องจ้างคนแปลและพากษ์ใหม่
--ยิ่งอเมริกา-ยุโรปนะ ไม่มีวัฒนธรรมแบบนี้ อย่างลอยกระทง --สงกรานต์ ฝรั่งติดใจ ชอบใจ ผมเองคิดว่า ความเก็บกด ความอึดอัดใจทั้งหลายมลายไปกับสายน้ำที่มารดกัน สาดกัน ระบายความเครียดด้วยความรุนแรง(อย่างอ่อนโยน) ไปผูกข้อมือขอพรผู้เฒ่า ก็คือการไปเคลียร์ปัญหา ความขุ่นข้องหมองใจก็มลายหายไป
--ผลของกรรมที่ไม่ดี ก็ยังแก้้ได้ โดยทำความดีเยอะๆ---แม้แต่คนตายไปแล้ว ก็ยังทำทานไปหาได้ ส่วนฝรั่งซะอีก น่าสงสารว่าไม่มีพื้นฐานความรู้ทางด้านนี้เลย
-ข่าวแปลกๆ ดีๆ เด็กไทยที่เป็นโรคการเรียนรู้เสื่อม ได้ดังไปทั่วโลก แม้จะไปอยู่โรงเรียนไหนก้ไม่รับ แต่โรงเรียนนี้รับครับ ร้องเพลงในยูทิ้วบ์ก็ดัง จนได้ไปเที่ยวเมืองสก็อตแลนด์ฟรีนักบอลก็หาทุนช่วยเด็ฏๆ เขียนชื่อติดเสื้อเป็นภาษาไทยด้วย ดังกันใหญ่แล้ววู้ๆ
--นกแก้วหาย ที่ญี่ปุ่น สักสองวันมันก็บอกตำรวจว่าเจ้าของชื่อไรบ้านอยู่ถนนไหน แจ๋วสุดๆ
--ตำรวจ ปปส.อเมริกา จับนศ.ไปขังไว้ แต่ดันลืม 5 วันผ่านไปจนคลุ้มคลั่ง ไม่มีน้ำและอาหารกิน จนปปส.ต้องออกมาขอโทษ ในใจผมคิดว่า "เดี๋ยวหละเมิง โดนฟ้องกันอานแน่" ก็จริงครับ (ปล่อยไว้ทำไม ไม่ใช่พ่อ) โดนฟ้องเรียก 20 ล้าน(ดอลล์)ครับ 640 ล้านบาท นั่งรถหุ้มทองฝังเพชรไปเรียนยันปริญาเอก เงินยังเหลืออีกน่ะครับ "วาสนาในคราเคราะห์" ทุกขลาภแท้ๆเลย(นศ.หนุ่มเชื้อจีนหรือไง ไม่แน่ใจ)
ภาพหลุด หลงมา

 

เอาเป็นว่าสรุปในเนื้อหาที่กัปตัน บิล คุยมาตั้ง 2 ปี รวม 76 ตอน
กว่าจะฟังหมดก็กินเวลา 2-3 วัน เฉพาะสคิปที่เป็นตัวอักษรก็ 200 กว่า หน้า

จริงๆ ก็ไม่ค่อยแตกต่างจากที่ Nirvana ได้บรรยายในงานสัมนาที่ ม.สุโขทัย เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมามากนัก ในเรื่องของการอพยพลี้ภัย

นั่นก็คือ ให้ออกจากเมืองใหญ่ไปอาศัยในชนบทที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 100 เมตร ขึ้นไป พร้อมสะสมปัจจัย 4+1 ไว้ให้พอประทังชีวิตได้ 6-12 เดือน
แล้วจะต้องอพยพจากเมืองใหญ่อย่างช้าภายในสิ้นเดือนกันยายน นี้ มิฉะนั้นการอพยพจะยากลำบากหรือไปไม่ได้เลย ถ้าจะรอให้เกิดเหตุภัยพิบัติแล้ว

ส่วนที่นอกเหนือไปจากนั้นคือ เรื่อง สหพันธ์แห่งดวงดาว (เหมือนในภาพยนต์ สตาร์วอร์ไม่มีผิด) ที่จะเข้ามามีส่วนช่วยเหลือโลกหลังจากภัยพิบัติได้ล้างโลกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจากจุดนี้มนุษย์ที่เหลืออยู่จะเป็นพันธุ์พิเศษโดยมีการเปลี่ยนแปลง DNA ให้เก่งขึ้น มีศีลธรรมมมากขึ้น มตด.จะลงมาใช้ชีวิตร่วมกับชาวโลก เทคโนโลยีอันก้าวหน้าจะถ่ายทอดให้คนบนโลกที่เหลือ นับว่าเป็นดินแดนของชาวศิวิไลซ์โดยแท้

กัปตัน บิล ได้กล่าวถึง มตด. หลายเผ่าที่เข้ามาติดต่อกับผู้นำของอเมริกามานานมากแล้ว รวมถึงประเภทผู้มาเยือนอีกด้วย เรื่องราวทุกเรื่องของ UFO ล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น สุดแต่ว่าใครจะไปเจอจานบินของเผ่าใดเท่านั้น

เอาเป็นว่าถ้าฟังได้จบจะหายสงสัยเรื่องภัยพิบัติและจะทราบถึงคำถามทั้งหลายที่นักวิทยาศาสตร์บนโลกใบนี้ตอบไม่ได้ อาทิเช่น ไดโนเสาร์หายไปไหน แล้วทำไมเผ่าพันธุ์ มตด. จึงเดินทางได้เร็วกว่าแสงมายังโลกมนุษย์ได้ เป็นต้น

ท่านสมาชิกน่าจะหาเวลาเข้าไปอ่านและดาวน์โหลดมาศึกษา น่ะ ครับ
รับประกันความมันส์ ยิ่งกว่า ถาม/ตอบภัยพิบัติในเวปพลังจิตนี้อีก....จร้า