ว่าด้วยเรื่องของเจ้ากรรม นายเวร จะหนีกรรมได้อย่างไร มาดูกัน

นี่เป็นตัวอย่างจากเจ้าของข้อความ ในเวปนี้ แต่ขอไม่เอ่ยนาม เห็นว่า น่าสนใจ เลยหยิบยกมาเป็นประเด็น เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจถึงเรื่องกรรม ขออนุญาตเจ้าของข้อความนี้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
****************************************
กรรมนั้น ต้องครบองค์สามคือ กาย วาจา ใจ จึงจะประกอบเป็นกรรม กรรมชั่วเราทำไปแล้ว ย่อมลบล้างไม่ได้ (นอกจากจะคุยกับเจ้ากรรมเขาได้) คนธรรมดานั้นจึงต้องทำกรรมดี นึกถึงแต่คุณความดี เพื่อให้จิตเกาะกับความดีจะได้ขึ้นสวรรค์ ส่วนผู้ปฏิบัติแล้วจำเป็นต้องไม่น้อมเข้าหาอะไร ทั้งกรรมดี และกรรมชั่ว จิตไปจับอยู่ที่กรรมชั่ว ก็รับไว้และพิจารณาเพื่อถอดถอนเวรกรรม ให้หมดไว ๆ ไม่ให้ติดตัวไปชาติหน้า ถอดออกเรื่อย ๆ ทั้งกรรมดี และไม่ดี จะได้หมดเวรหมดกรรมไป<O</O
นอกจากสำเร็จเข้านิพพาน เจ้ากรรมนายเวรหาไม่เจอ เพราะเจ้ากรรมนายเวรยังติดกับสัญญาเก่าว่า รัก โลภ โกรธ หลงอยู่ จึงไปทวงหนี้ที่นิพพาน อันปราศจากกิเลสเหล่านี้อยู่ไม่ได้ และเมื่อเจ้ากรรมนายเวรอยากทวงหนี้ ก็ย่อมต้องละ รัก โลภ โกรธ หลง นี้เพื่อเข้าไปทวงหนี้ในนิพพานเมื่อเข้าไปแล้ว ย่อมไม่อยากทวงอีก เหตุเพราะละแล้ว
*******************************************************

<Oพูดถึงเรื่องเจ้ากรรม นายเวร ผึ้งปฏิบัติมาได้ ปีกว่า ๆ ยิ่งปฏิบัติยิ่งเจออุปสรรค สัญญากรรม เริ่มมาให้เรารับรู้ว่า เราเคยก่อกรรมอะไรไว้ แต่การไม่ดึงสัญญากรรมนั้นมาเกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องสนใจเรื่องอดีตชาติ ว่าเราเคยเป็นใคร เคยทำอะไรไว้กับใคร ไม่ต้องไปสนใจ แต่ถ้าเราหนีไม่พ้นจริง ๆ ก็ต้องแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลเป็นกรณีไป ก็จะทำให้เรานั้นไม่เกาะติดกับกรรมเก่า ๆ ดังเนื้อหาข้างต้น ที่มีท่านผู้หนึ่งในเวปนี้ได้บรรยายให้ฟังเรื่องกรรม แต่อยากจะถามความเห็นจากท่านอื่นด้วย เรานั้นละเรื่องอดีตชาติไปแล้ว ไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว แต่อยากจะให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้ปฏิบัติธรรมทุกท่านค่ะ </O</O

 

อดีตแก้ไม่ได้.....ปัจจุบันกำหนดอนาคต ได้ด้วย สติ

<!-- / sig -->

 

เหมือนเส้นผมบังภูเขา
มายาในอดีต มายาในปัจจุบัน มายาในอนาคต
การละ การวาง มายา
จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก
ถ้าใจยังหลงก็ยาก ถ้าถอยมาเป็นผู้ดู ก็จะเห็นใจ
เรื่องของใจห้ามกันไม่ได้
แต่หยุดเขาได้เนาะ ถ้าคิดจะหยุดนะ

ปล.เรื่องเดียวกันปะคะ
อิอิหนอ

 

วันนี้งานยุ่งมากเลย ต้องไปอบรม และถูก Audit ด้วย อาจจะเข้ามาดูอีกทีตอนเที่ยงนะคะ เชิญทุกคนตามสบายค่ะ

 

เทพหมื่นโม ท่านชอบทำให้ผู้อ่าน อึ้งได้เสมอ

ที่พูดถึง คำว่า ใจ หมายถึง จิต

ส่วน ผู้ดู คือ ใจผู้รู้

โอเค สันโดษ เข้าจั๊ย
​

 

ใจ เป็นเพียง ผู้รู้ ว่า ....จิต กำลัง ทำอะไร

 

อุแว๊ อุแว๊
แปลว่า เข้าใจแล้วครับผม

 

ต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน ในการมองกรรม

กรรมในส่วนเจ้ากรรมนายเวรนั้นเป็นวิบาก

คำว่าวิบากคือสิ่งที่เป็นผลติดตัวไปเมื่อก่อกรรม

กรรมที่กล่าวว่าต้องครบองค์ 3 นั้นเป็นการกล่าวของคนที่ติดในภพมนุษย์
จึงคิดได้แค่นั้น แก้ไขได้ตามที่เห็น ตามที่ติดคิดว่าตัวเองเป็นมนุษย์ จึง
กล่าวออกไปง่ายๆอย่างนั้น เอาง่ายๆ พรหมที่ไปกินง้วนดินจนต้องมีกาย
สังขารจนวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ นั้นกรรมสุดๆแล้ว

กลับมาดูเรื่องการแยกดูวิบากกรรม หรือ เจ้ากรรมนายเวร

มันก็วิบากที่ติดตัวเรามานั้นแหละ ไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวรอะไรที่ไหน
อันนี้ส่วนหนึ่ง และโดยส่วนมาก

ส่วนกรรมที่มีลักษณะต้องคืนผลกรรม เช่น เคยไปตบหัวคน แลวต้อง
โดนตบหัวกลับบ้าง อันนี้เป็นผลกรรมที่ไม่ขึ้นกับว่า คนที่โดนตบหัว
ต้องเป็นคนมาตบคืน คืองานนี้ เจ้ากรรมไม่เกี่ยว ผลกรรมนี้ใครเป็น
ผู้ส่งผลแทนก็ได้

กรรมที่มีเจ้ากรรมนายเวรจริงๆ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเราเท่าไหร่ อาจจะ
เกี่ยวในแง่ที่เราไปสร้าง หรือ มีส่วนสร้าง หรือ เผอิญไปอยู่ในจุดที่คล้าย
กับว่าไปสร้างขึ้น แล้วไอ้คนที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรเขาก่อมโนกรรมรุน
แรง ฝังแน่น ซึ่งจะทำให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด แบบนี้คือเขาคนนั้นยังก่อ
กรรมอยู่ คือเขายังยินดีในการก่อกรรมของเขาเองแน่นหนา เราไม่ได้
เกี่ยวข้องอะไร แบบนี้ต่อให้เราทำดีกลับคืน แต่เขายังยินดีก่อกรรม
ใครพูด พระพูดก็ไม่ฟัง เพราะเขาต้องการก่อกรรม เขาก็จะทำให้ได้
ว่างั้นเถอะ เมื่อเขาได้ทำกับเรา มาตามกระทำกับเรา ด้วยเห็นถูก ผิด
อย่างไรก็แล้วแต่ พอเขาพอใจ ก็หลุดทิฏฐินั้นไปเอง

ก็จะเห็นว่า มันเป็นกรรมที่ติดบุคคลนั้นแหละ จำเป็นไหมที่เจ้ากรรมนาย
เวรต้องเป็นผู้ส่ง ก็ไม่เกี่ยว กรณีที่เจ้ากรรมนายเวรมาก่อกรรมกับเรา
ก็เพราะเขายังต้องการก่อกรรม เราไปห้ามคนอื่นทำได้ไหม แบบนี้ก็ได้
แต่แผ่เมตตาไป อุทิศส่วนกุศลให้ไป ถ้าเขายินดีก็คงรับไว้ แต่เราแก้เขา
ไม่ได้ แก้กรรมไม่ได้ เพราะมันเป็นกรรมที่เขาผูก

เราจึงเหลือแต่วิบากกรรมที่เป็นส่วนของเรา ซึ่งไม่ต้องแก้อะไรเหมือนกัน
เพราะแก้ไม่ได้ ถ้ากรรมนั้นตามมาทัน ปัจจัยมันพร้อม มันก็ส่งผลทันที

เราจึงควรหมั่นสร้างกุศลใหม่ๆ เพื่อให้จิตเราสามารถกลับมายินดีกับผล
กรรมดีที่ได้ทำไว้ ให้มากๆ เพื่อให้มีโอกาสระลึกถึงกรรมดีมากๆ ถ้าไม่
พ้นวัฏสังสารวัตร กรรมรูปเดิมๆที่เคยส่งผลไปแล้วก็อาจกลับมาส่งได้อีก
ถ้าเรายังสร้างปัจจัยของวิบากกรรมใหม่ไม่มากพอ ที่จะกลบกรรมเก่านั้น

 

วิธีการแก้กรรม ไม่มี​

เปรียบเทียบ ​

กรรมชั่ว คือ ผงซักฟอก​

กรรมดี คือ น้ำ​

หาเราต้องการที่จะซักผ้า ให้ฟองน้อยลง​

(จะได้ไม่กัดมือเราขาด) ​

ก็เติมน้ำลงไปเยอะๆสัก กะละมังนึง
​

สัดส่วน ผงซักฟอก 1 ช้อนโต๊ะ​

ต่อ น้ำ 1 กะละมัง​

แค่นี้ฟอง ก็ น้อยลงหน่อย​

หากอยากให้ฟองน้อยอีก

ก็ เติมลงไป 1 ตุ่ม​

 

หนีไม่พ้น ก็สู้มันสิ

 

เปลี่ยนเเล้ว ขึ้นไปอ่านใหม่

เพื่อให้เข้ากับภาพ.. -*-

 

วิปัสสนา ห้ามกรรมได้ ลดกรรมได้ ละกรรมได้
สติ ห้ามกรรมได้ ลดกรรมได้ ละกรรมได้
ศีล ห้ามกรรมได้ ลดกรรมได้ ละกรรมได้
อภัยทาน ห้ามกรรมได้ ลดกรรมได้ ละกรรมได้

 

ปัญญาเกิด ดวงตาเห็นธรรม ห้ามกรรมไม่ ลดกรรมไม่ ละกรรมไม่


ขอบ้าง ๆ

 

กรรมใดๆก็ตาม ขึ้นอยู่ที่ เจตนา ​

คนเหนือกรรม คือ .......

คนที่อยู่เหนือการกระทำใดๆ
ทางกาย วาจา จิตใจ หรือ
เหนือผลกรรมของตนเอง

รู้ว่าช่องทางใด ที่จะเป็นเหตุทำให้เราเข้าไปเกี่ยวกรรมกับผู้อื่น

ทำอย่างไรที่จะไม่ไปทำลายความสมดุลในระบบของเขา

ไม่ตกเป็นทาสอารมณ์หยาบๆของตนเอง

ต้องเป็นผู้ที่พ้นไปจากกรรม พ้นไปจากการเวียนว่าย ตายเกิด

จิตต้องสงบและสมดุลย์เสมอ​

 

อะหนอ อะหนอ

นะเอย นะเอย

อะจึ๋ย อะจึ๋ย

อุแว้ อุแว้

ใครอ่านแล้วไม่เห็นเป็นมายา เกิดอาการขำแล้วยึดติดคิดว่าอาการขำเป็นของจริงไม่ใช่มายา

ปรับตก

ฮ่า ฮ่า ฮ่า (อันนี้ยืมของคุณลุงtelwadaมา)

 

บางตำราว่าไว้แบบนี้นะ
บารมีี แปลว่า กำลังใจเต็ม บารมี 10 ทัศ มีดังนี้

1. ทานบารมีี จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
2. ศีลบารมี จิตของเราพร้อมในการทรงศีล
3. เนกขัมมบารมี จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะ แปลว่า การถือบวช แต่ไม่ใช่ว่าต้องโกนหัวไม่จำเป็น
4. ปัญญาบารมี จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารให้พินาศไป
5. วิริยบารมี วิิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ
6. ขันติบารมี ขันติ มีทั้งอดทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
7. สัจจะบารมี สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลา ว่าเราจะจริงทุกอย่าง ในด้านของการทำความดี
8. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
9. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น
10. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ เมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว ใช้คำว่า "ช่างมัน" ไว้ในใจ

เรียกอีกอย่างว่า โพธิปริปาจนธรรม คือธรรมสำหรับพระพุทธภูมิ หรือชาวพุทธเราทั่วไปเรียกว่า พระบารมี หมายถึง ธรรมที่นำไปให้ถึงฝั่งโน้น คือ พระนิพพาน

 

กุศลาธัมมา กรรมขาว กรรมที่เป็นกุศล
อกุศลาธัมมา กรรมดำ กรรมที่เป็นอกุศล
อัพยากตาธรรมา กรรมกลางๆ ไม่ขาวไม่ดำ

กรรมเก่าแก้ไม่ได้ ลด ตัด ดับ ที่กรรมส่งผล
ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา

ลด ที่ตัณหา
ตัด ที่อวิชา
ดับ ที่อุปทาน

 

ได้สิ หนักเป็นเบา เบาเป็นบาง บางเป็นหาย

ดวงตาเห็นธรรม มันก็คลายยึดมั่นถือมั่น คลายความเห็นผิด
โทสะ โมหะ โลภะ ย่อมเบาบางตามภูมิธรรม

หุหุ

 

ดวงตาเห็นธรรม กับดวงใจเห็นธรรมเหมือนกันไหมหนอ

 

แบบนี้ต้องปรึกษา

ริชชี่ มนุษย์พลังจิต