สอบถามผู้รู้เกี่ยวกับประสบการณ์ ฌานสี ฌานซี่ลวด

ผมรู้สึกว่าฌานสีจะเกิดเฉพาะตอนหลับตา
ฌานสีไม่ใช่เป็นแสง สี แต่จะเกิดประกอบกับนิมิต เช่น นิมิตจรวจยิงต่อสู้กัน หรือ อุกกาบาต เปล่งเป็นแสงสีต่างๆสลับกันไป คือตอนหลับตา ผมจะเพ่งดูอยู่เฉยๆให้นิมิตไปเรื่อยๆแล้วแต่จิตจะเป็นไป

ส่วนฌานซี่ลวดจะปรากฎคล้ายโครงข่ายใยแมงมุม เป็นรูปร่างต่างๆกัน เกิดพร้อมกับฌานสี ทำให้ฌานซี่ลวดมีสีสันต่างๆกัน

ฌานสีในที่นี้หมายถึงนิมิตเป็นรูปร่างเปล่งเป็นสีต่างๆ

ฌานสีของผมจะปรากฎเป็นแสงสีคล้ายกับลำแสงสีของหลอดไฟยกตัวอย่างเช่น เอากระดาษสีม่วงปิดทับหลอดไฟ ลำแสงสีที่ได้เป็นสีม่วงจะปรากฎเหมือนฌานสีในนิมิต

ฌานสีที่ปรากฎในภวังค์ผมส่วนใหญ่จะเป็นสีแดงอิฐ สีน้ำตาล สีน้ำตาลแดง สีม่วง สีน้ำเงิน สีเหลือง สีแดง สีเขียว สีฟ้า สีขาว สีเทา สีดำ สีชมพู

ผมอยากทราบว่ามีท่านใดเคยมีประสบการณ์เหมือนผมหรือเปล่า นอกจากฌานสี และฌานซี่ลวด

 

อ่านแล้วจากลักษณะกิริยาที่เกิด..ผมคิดว่าไม่น่าจะถึงระดับนั้นนะครับ..ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ..
อนุโมทนาสาธุครับ..

 

ตามที่ผมได้เรียนมา เค้าไม่เรียกว่าฌาณ ครับ เป็นอาการกริยาจิต หรือกระแสจิตครับ เมื่อจิตสงบจะเกิดเป็นกระแสจิต ครับ

 

เป็นลักษณะของการจะได้ตาทิพย์ครับ แบ่งเป็นสามระดับ ขั้นแรกจะเห็นเป็นเหมือนจุดประกายพฤกษ์เล็กๆสีเงินแวบๆแล้วหายไปหลังจากนั้นจะเห็นเป็นจุดแสงหรือแสงตามที่คุณเห็น ขั้นที่สองจะเห็นเป็นภาพแต่จะจำกัดวงไม่กว้างนักและแสงของภาพจะไม่สว่างนัก ขั้นที่สามจะเห็นเป็นภาพชัดเจนแจ่มใสขึ้น ขอให้ผ่านขั้นต่างๆโดยเร็วโดยมุ่งมั่นในการปฎิบัติเมื่อจิตสงบ ฌานสูงขึ้น นิมิตต่างๆก็จะชัดเจนแจ่มใสขึ้นเอง

 

ไม่ใช่ว่านักปฏิบัติทุกคนจะได้เห็นหรอกเหรอครับ ไอ้จุดเล็กๆ แวบๆ แล้วหายไปเนี่ย?

 

ทิพยจักษุเป็นอภิญญาหลักที่สำคัญที่สุด ถ้าสำเร็จแล้วจึงจะได้อภิญญาอื่นตามมา คือรู้อดีต รู้อนาคต รู้จิตผู้อื่น รู้วาระแห่งกรรมของมนุษย์และสัตว์ได้ ทั้งหมดนี้ต้องได้ทิพยจักษุก่อน นักปฎิบัติทุกคนถ้ากำหนดจิตภาวนาเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ทิพยจักษุ บางท่านได้ฌานแปดแต่ไม่มีตาทิพย์ หรือถ้าสำเร็จเป็นอริยะก็จะเรียกว่าสุกขวิปัสสโก ผู้ที่ได้ตั้งแต่เมื่อเริ่มนั่งส่วนใหญ่จะเป็นของเก่าที่ติดตัวมาจากอดีต ถ้าในอดีตไม่เคยได้มาก่อนต้องฝึกครับ

 

เป็นอาการของโรคจิตประสาทชนิด สร้างภาพหลอนขอรับ

 

สมาธินี่มันน่าทึ่งจริงๆนะครับ ต้องปฎิบัติเองครับ

 

วิธี ทดสอบง่ายๆ นะครับ ว่า ได้ ฌาน จริงหรือไม่จริง

คือให้ ทดสอบ ฤทธิ์ ครับ

ถ้า ฌาน จริง จะใช้ ฤทธิ์ ได้จริง

ถ้าไม่ได้ ฌาน แต่ เข้าใจว่าเป็น ฌาน ก็จะใช้ ฤทธิ์ ไม่ได้ครับ

เช่น ตาพิทย์ เป็นต้น

.

 

ตอนจะหลับ sun dog ก็มักเห็นแสงสีม่วง บางทีก็เป็นสีฟ้าๆแบบฟ้าใส
ส่วนตอนลืมตา sun dog ก็เห็นซี่ตาข่ายในอากาศเหมือนกัน เป็นซี่ๆสีเหลืองๆ

เวลาดูเพดานสีขาวๆ มักเห็นเม็ดอากาศวิ่งไปมา
เวลาลืมตาไปเข้าห้องน้ำในความมืด หรือมองดูท้องฟ้าเวลาแสงไม่จ้ามาก บางทีมองเห็นอนุภาคอากาศหมุนๆเป็นกงล้อเล็กๆ

ตัวเองวุ้นในตาเสื่อม มานานแล้ว ตั้งแต่ประถม
ไม่รู้ว่าอาการนี้ เกิดเพราะวุ้นในตามันเสื่อมกว่าเดิมหรือเปล่า
เพื่อนที่เป็นหมอตา บอกว่ารักษาไม่หาย ดูดวุ้นออกได้เท่านั้น

ระวังการใช้ตาจ้องจอทีวี จอคอมพิวเตอร์
มองดูต้นไม้ ใบหญ้า อยู่ในธรรมชาติ

 

ที่คุณบอกอาการ  ที่เกิดขึ้นกับคุณนั้น เป็นอุปกิเลสคืออาการปรุงแต่ง
ของจิต    ฌาน๔ นั้น จะไม่ปรากฏลมหายใจ เพราะลมละเอียดจนไม่
ปรากฏว่ามีลมหายใจ  กายกับจิตแยกกันโดยเด็ดขาด ณาน ๔ นั้นมี
อารมณ์ ของ ณาน เพียง๒ อย่าง คือ    เอกัคคตา  กับ  อุเบกขา
เสี้ยนหนามของ  ณาน ๔  คือลมหายใจ  ครับ

 

   วีดีโอจากกล้องวงจรปิดจับภาพคลื่นพลังจิตของณาน ๔ ได้ อธิฐานจิต
ในวันที่ ๓๐ กรกฏาคม ๒๕๕๕ เวลา ๔ โมงเย็น แต่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ในเวลา
 เที่ยงคืนกับ ๓  นาที  วันเดียวกัน บันทึกภาพจากโน๊ตบุ๊คโดยใช้โทรศัพท์มือถือครับ
 เป็นวิทยาทาน และ กำลังใจแด่ผู้ปฎิบัติ ครับ

  เจริญธรรมมาด้วยเมตตาจิต

 

ผมรู้สึกว่าฌานสีจะเกิดเฉพาะตอนหลับตา

+++ วิธีตรวจสอบ ให้แยกแยะโดยการจับที่ความรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่าง การหลับตา กับการ ปิดเปลือกตาลงเฉย ๆ

ฌานสีไม่ใช่เป็นแสง สี แต่จะเกิดประกอบกับนิมิต เช่น นิมิตจรวจยิงต่อสู้กัน หรือ อุกกาบาต เปล่งเป็นแสงสีต่างๆสลับกันไป คือตอนหลับตา ผมจะเพ่งดูอยู่เฉยๆให้นิมิตไปเรื่อยๆแล้วแต่จิตจะเป็นไป

+++ อันนี้ไม่ใช่ฌาน แต่เป็นภวังค์จรณะ

ส่วนฌานซี่ลวดจะปรากฎคล้ายโครงข่ายใยแมงมุม เป็นรูปร่างต่างๆกัน เกิดพร้อมกับฌานสี ทำให้ฌานซี่ลวดมีสีสันต่างๆกัน

+++ อันนี้อาจเกิดจากกาาร ปิดเปลือกตาไม่สนิทดี ให้ใช้วิธีตรวจสอบดังที่กล่าวมาแล้ว

ผมอยากทราบว่ามีท่านใดเคยมีประสบการณ์เหมือนผมหรือเปล่า นอกจากฌานสี และฌานซี่ลวด

+++ หากคุณต้องการฝึกสมาธิ ต้องให้เข้าใจก่อนว่า สมาธิ คือความตั้งมั่น ไม่ใช่ปล่อยให้ภวังค์ ลื่นไหลไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีความเพลิดเพลินอยู่บ้างก็จริง แต่ความเสียหายทางจิตอาจเกิดขึ้นได้เช่น ให้ลองสังเกตุดูว่า เรื่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ เกิดถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ หรือไม่ เหตุการณ์ที่มีความจำเป็นในปัจจุบันขณะมักจะไม่ค่อยใส่ใจ เพราะความคิดแบบเล่น ๆ เรื่อย ๆ เริ่มสำคัญกว่าหรือเพลินอารมณ์ดีกว่าหรือไม่ ให้ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ให้ดี เพราะมันส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคุณโดยตรง ทั้งในชาตินี้และต่อ ๆ ไป

+++ สมาธิ คือความตั้งมั่น อยู่ที่มโนกรรมของคุณจะเลือกเอาเองว่า จะเอาแบบ ตั้งจิตมั่น (จิตเป็นอนิจจังด้วยตัวมันเอง) หรือ ตั้งสติมั่น (สภาวะรู้อันเป็นนิจจังด้วยตัวมันเอง) กันแน่ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ตั้งมั่นให้ได้สักอย่างหนึ่ง แล้วค่อย ๆ พัฒนาต่อไปนะครับ