สัมมาสังกัปปะ..การระลึกชอบ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เราโตมาคนละแบบ, 8 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เอาแต่ความรู้สึกนึกคิดตนเองเป็นใหญ่ ก็ได้แค่โม้นั่นแหละ ภาวนาไปเหอะ ธรรมเป็นอกาลิโก คือปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล พวกศรัทธาแต่ปาก ทำกริยาเป็นรักษาศาสนา แท้จริงแอบรักษาฐานะตน จะไม่เข้าใจ จะยึดมั่นแต่ความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ ทำไม่ได้หรอกๆ พวกมรรคแต่วาทะ ในที่สุดมันก็ลืมหลงปฏิเสธสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสอย่างสิ้นเชิงด้วยความรู้สึกนึกคิดของมันเอง เดี๋ยวจะกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิตายเปล่าไปเสียล่ะ แค่เตือนหน่าครับ
     
  2. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    นานแล้ว ผมเคยไปถามธรรมบนเขาว่า
    พุทโธแล้วมันก็สงบเป็นพักๆเดี๋ยวก็มีแว๊บว๊าบแล้วกลับมาใหม่พุทโธใหม่เรื่อยๆ เตือนตนไปเรื่อย แล้วไงต่อ
    ท่านก็ว่ายังไม่สงบ ไม่ถึงสมาธิ เออตอนนั้นก็งงสมาธิไหน นี่ไม่ใช่เหรอ ขณิกะ อุปจาร อัปนา
    ที่เข้าใจว่า ภาวนาคาถา เตือนตนหรืออะไรเหมือนกัน มันระงับทุกข์ หรือคาถาบทใดก็เหมือนกัน
    ถ้าจะว่าอันนี้ถูกไหม ก็ถูก ถูกในขั้นตอนนี้
    เหมือนเราจะขุดดิน สอนคนขุดดิน แล้วบอกให้จับจอบ มันก็ถูก แล้วไงต่อ
    พอไม่กล่าวต่อ ไปแนะนำคนอื่น คนเขาก็เลยว่าไม่มีมรรค ขุดไม่เป็น สอนให้จับจอบอยู่นั่น เงื้ออยู่นั่น
    ฝากพิจารณาหน่อยแล้วกันนะพี่ ถ้างงก็ข้ามๆไป
    ลองตอบคำถามของผมตอนไปถามธรรมบนเขาเล่นๆดูก็ได้ว่า แล้วไงต่อ?
     
  3. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    กิเลสเป็นของจร เกิดแล้วดับ เกิดแล้วดับแล้ว ไปถามหาอะไรต่อ มาใหม่ค่อยดูใหม่ ว่ากันไปตามเหตุปัจจัย เรื่องการจะจัดการโน่นนี่นั่นต่อ จะว่าหลงสำคัญเป็นตนก็ได้ถ้าไม่รู้จักตัวตนเจ้าของ จะว่าไม่หลงก็ได้ หากเข้าใจความเป็นตนจริง ถ้าคุณขึ้นไปถามท่านเองจริง ท่านจะว่าอะไรได้ ก็มันไม่เห็นตัวตนเจ้าของ ยังวุ่นๆ อยู่กับการจัดการโน่นนี่นั่นให้กับความเป็นตนอยู่ แล้วจะเอาอะไรไปสงบ ยังฉวยตัวฉวยตนอยู่ ความแจ้งในความเป็นสมมุติไม่มีสักกะแอะ เอาอะไรมาสงบ พอประดับตบแต่งตนสวยๆ หล่อๆ หน่อยก็คิดว่าสงบแล้ว ยังเป็นรู้ที่ไม่พ้นสามโลกเลย

    อย่าหมายหน่าาาครับ ถ้าหมายมันจะได้แค่เหมือนๆ อยู่ดี
     
  4. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    "หลงถ้าไม่รู้จักตัวตนเจ้าของ ....ไม่หลงก็ได้หากเข้าใจความเป็นตนจริง"
    ลวดลายการปฏิบัติ พี่ชักเข้ามา ให้เห็นตัวตนจริงแล้วบอกว่าไม่หลง จะรู้สมมติพ้นโลก
    มันเว้นการกล่าวถึง" ..... " ยังติดขันธ์ ไอคำว่าพ้นโลก เหมือนๆอะไรนั่นเลยขอปรักปรำว่าก๊อปมา ไม่มีมรรคเหมือนเดิม
     
  5. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    โอโฮ..ตั้งแต่รู้จัก อาจารย์นิวรณ์มา..คำถาม-ตอบโต้ กะทู้นี้ กับท่าน TBOON สุดยอด เหนือชั้นจริงๆ ชัดเจนตรงประเด็น ผม..ไม่ได้แกล้งชมเลย แสดงถึงภูมิธรรมภายใน อจ.นิวรณ์นี่รู้ชัด ไม่ธรรมดาเลย ที่เข้าใจ พุทธวจน-เข้ากับ การปฏิบัติที่ต้องอิงกันไปและ แบบเกิดการเชื่อมโยงกันตามหลัก.. อิทัปปัจจยะตา ชัดเจนครับ
    แสดงถึงการเข้าถึงการภาวนาจริงๆ และผสมสานปริยัติกับฏิบัติได้ จน ท่าน TBOON ไปไม่เป็นเลย ผมไม่ต้องโต้เลยโดนหัวใจทุกช็อต อ่านใจผมได้แน่นอน-ชัดเจน จริงๆ มิเสียแรงที่ได้ท่าน อจ.นิวรณ์ เป็นกัลยา ณ มิตร (เหตุใด-แกล้งขึ้นๆลงๆอยู่แบบนี้ล่ะครับ)
     
  6. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :oops::oops: ไม่น่าเชื่อ ระดับท่าน tboon มากล่าวตัดตอน การสะสมสุตตะ สัญญา สมมุติ ทิ้งหมด ทั้งที่ต้องมีมาก่อน เกิดความคิดเห็น ตามเหตุ-ปัจจัย ที่สั่งสมสุตตะ มาใช้ในการเชื่อมโยง ข้อมูลแล้วคัดกรองสุดท้ายออกมาเป็นซึ่ง "ความเห็น"..
    :(หากไม่ให้แสดงความเห็นเลย นั่นก็คือห้ามไม่ให้ใช้ความคิดเลย ก็ไม่ต้องสั่งสมสุตตะเล่าเรียนปริยัติธรรมใดๆมาเลย สติปัญญาจะเกิดได้อย่างไรเล่าครับ จะเอาอะไรมาเรียน มรรคมีองค์8 กับปริยัติธรรมบทอื่นๆเล่า..ความเห็นก็คือ ความคิดที่ประมวลผลจนเสร็จออกมาชัดเจนแล้วนั่นเอง
    :p การแสดงความ คิด-เห็น นั่นก็คือการทำงานของ "วิญญาณ ในขันธ์ 5..หากคุณหยุดความเห็น(คิด) ได้ คุณก็หลุดพ้นซิครับ ท่าน TBOON เพราะสามารถควบคุมอายตน ได้ในส่วนของความเห็น เหตุใดท่านจึงมองแคบและ แสดงความเห็นแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้ได้ มีประการเดียว..
    :p หลงครับ ติดวนเวียนในสมาธิหลุดออกมาไม่ได้ เพราะสมาธิสอนให้ "ไม่แสดงความเห็น-ความคิด"..คุณกำลังปนกันมั่วในเรื่อง เจโตวิมุตติ(สมาธิโดดๆ) และไม่ยอมข้ามมาปฏิบัติ ปัญญาวิมุตติ จริงๆแล้วทั้งสองส่วนนี้ต้องกระทำพร้อมๆควบคู่กันไปครับ
    :oops: ขออภัยที่ชี้แรงไป-ท่าน TBOON ..เรียนรู้อย่างปราศจากอคติก่อน อย่าเชื่อคนที่ชอบ เกลียดคนที่ชัง คุณจะไมไ่ด้ความจริงเลยครับ สาธุ
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    โห...เล่น แสดงละคร ชมเชยกัน แบบนี้ ได้ค่าจ้าง มาเท่าไหร่
    เอ...หรือ เป็น อวตารของนิวรณ์...อวตารมายกยอตัวเอง....ตามที่นิวรณ์ เคยทำมาก่อน อิอิ สมัยเป็น เอกวีร์
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การแสดงความคิดเห็น...บางทีก็ไม่ได้มาจากวิญญาณขันธ์ ก็มีนะ สำหรับคนที่...ไม่มีอวิชชา...แล้ว...เข้าใจมั้ย คำว่า เมื่อคนคนนั้น ไม่มีอวิชชาแล้ว น่ะ
     
  9. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :pจากข้อความข้างบนนะครับ..ท่าน TBOON ท่านอ้างเอาอริยสัจจ์4 สมุห์ทัย มาอธิบายถึง การส่งจิตออกนอกเป็นทุกข์-ส่งความเห็น แต่ท่านกลับไม่ยอมมองหรือ ปฏิบัติให้จบความ คือ สมุห์ทัย ความเห็น-ที่ส่งออก ตรงนี้เป็นธรรมฝ่ายเกิด..
    :eek: เมื่อส่งจิตออกนอก มันสร้างผัสสะ(กรรม) ในทันทีตามวงจรปฏิจจสมุปบาท เวทนา ตัณหา อุปทาน..ฯลฯ จะเกิดตามมาทันทีเห็นไหมครับ
    :rolleyes: ท่านมาอธิบาย การแสดงความเห็นเป็นกิเลส เป็นทุกข์ เพียงครึ่งเดียว-ว่าทุกข์เพราะส่งออกใน"ความเห็น" แต่จะดับอย่างไร ด้วยธรรมบทไหน ท่านคิดต่อไมไ่ด้ เพราะไม่เคยสนใจ วงจรปฏิจจสมุปบาทเลย ว่าเขาทำงานแก้ทุกข์ได้ยังไง ท่านเรียนมาท่อนเดียว..ครึ่งท่อน..จริงๆครับ ท่าน TBOON
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    วงจรสมุปกิจบาท ไม่เคยแก้ทุกข์....ทุกข์แปลว่า ความไม่รู้ มาจากความไม่รู้

    แก้ทุกข์ ไม่เกี่ยวกับวงจรสมุปกิจบาท....เพระวงจรสมุปกิจบาทแปลว่า มันเกิดเพราะมีอวิชขา มันจึงเกิดเป็นวงจรได้แบบนั้น...ทุกวงจรของอวิชชา จะเป็นแบบนั้น....วงจรแก้ทุกข์ไม่ได้....ความจริง ต่างหากที่แก้ทุกข์ แก้อวิชชา
     
  11. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    สั
    :p:eek: สัมมาสังกัปปะหรือ สัมมาสังกัปโป ตามมรรคมีองค์8 นั้น..เมื่อดำริห์ชอบ คิดชอบ เห็นชอบ เพียรพยายามอยู่ตรงนี้ เท่ากับเป็นโอกาสให้เกิดการละนันนทิราคะได้ทันที สัมมัปปทาน 4 ก็เกิดได้ง่าย และธรรมบทอื่นๆอีกเพียบก็ตามมาจนครบ
    :pเมื่อเพียรพยายามทำอยู่ตลอดเวลา นั่นก็คือการเพียรชอบ สัมมาวายามะเกิด สัมมาทิฏฐิก็เกิดเพราะเราคิดเห็นแต่กุศล-การงานชอบ อาชีพชอบ-สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาสติ ก็เกิดตามด้วย เมื่อสติเกิด สัมมาสมาธิ ก็จะค่อยๆก่อตัวตามตามมรรคทั้ง7 องค์ที่เกิดขึ้นมา นี่คือภาคปฏิบัติ ที่คิดได้ ทำความเห็นชอบได้ เกิดทันที หากท่านเพียรพยายามทำให้ได้ทั้งวัน-คืน-ตลอดชีวิต แล้วมันผิดตรงไหนครับ ท่าน TBOON..
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ธรรมแค่บทเดียว ก็สามารถบรรลุธรรมได้...แปลว่า คนคนนั้น ต้องผ่านการสะสมปัญญามาอย่างเพียงพอ.แล้วนะครับ...ถึงจะเป็นแบบนี้ได้

    ไม่ไช่เขามานั่ง เดา นั่งคิด เอานะครับมถึงบรรลุธรรม....

    ธรรมบทนั้น..เปรียบเหมือน ข้อความหรือปัญญาที่ช่วยชี้ ทางออกที่ตรงจุด กับที่จิตเขายึดติด หลงอยู่ โดยไม่รู้ตัว...เมื่อได้ฟังธรรมบทนั้น จึงเหมือนได้รับแสงสว่างส่องทางออก หรือแสงสว่างส่องให้เห็นประตูทางออก...ต่างหากครับ....เขาถึงบรรลุ แปลว่า...เข้าใจ หรือ รู้...ในทันที
     
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ท่าจะงงนะ เจอคำว่า "พ้นสมมุติ" นักเดานักวิแคะ จะงง..ยังไงหว่า เพราะตรรกศาสตร์มันเดาไปไม่ถึงไง คุณ..คนเก็ตตรงนี้จริงๆ เขามีนะ คุณปฏิบัติตามถนัดของคุณไปเถอะ ถนัดคิดถนัดนึกอะไรก็ว่าไป วนในอ่างก็วนไป เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ดีกว่าเปล่าประโยชน์ ยังไงคุณก็ไม่ได้มีศรัทธาในปฏิปทานี้อยู่แล้ว ดูจากรูปการณ์แล้ว ปฏิบัติแบบคาดหมายผลไว้ก่อนล่วงหน้าด้วยซ้ำไป
     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    จะให้ไปไหนล่ะครับ คุณพี่
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตกลง....เอกวีร์ เราโตมาคนละแบบ ทีบูน ขาจอน นิวรณ์...คนเดียวกัน หรือครับ


    อย่าบอกนะ ว่า ผมอีกคน ก็คนเดียวกัน....งง เว้ย....อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก๊ากกกกกกๆๆๆๆ ไอ้พวกบ้า....ทำเอาตรูจะบ้าตาม...ไปด้วย

    เถียงกันแต่เรื่อง...ไร้สาระ ...น่าเบื่อ...เว้ย
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    วกไป วนมา ไปไป มามา อยู่กับแต่เรื่องเดิมๆ

    สับสน ฉับฉน ศัพศน .....เป็นเวรกรรมหรือไง..เนี่ย
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เมื่อไหร่ จะเลิกเถียงกันเรื่อง โง่ๆ ได้สักทีฟะ

    พวกลิงแก้แห พวกลิงติดตัง พวกลิงวอก พวกลิงหลอกเจ้า...พวกลิงไม่มีสมอง
     
  19. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตรู...หัวหน้าลิง...ขอสั่งให้พวกแก...แยกกัน ไปอยู่ตัวใครตัวมัน ..อย่ามาสุมหัวกัน...เจี๊ยกๆๆๆๆ ให้น่ารำคาญ....อิอิ
     
  20. ขาจอน

    ขาจอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +470
    ถ้าจะเอาภาษาปฏิบัติ
    พ้นสมมติ มันก็เจอปรมัตถธรรม มันก็เจอสภาวะ
    วิธีพี่ชักมาด้วยคำบริกรรม ตัดสมมติ จนเจอสภาวะ แต่ไม่พูดถึงวิธี “……” ในปรมัตถธรรม
    ผมก็เลยบอกว่ามันยังไม่พ้นโลก ยังติดขันธ์ แค่นั้นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...