อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

เพราะเขา ไม่เอาครู

 

พี่ปุณฑ์ขยันนะครับ มีให้ได้อ่านพอเพลิน
ห้ามใจยากครับพี่

 

เออ นั่นสิ คุณว่าใครเข้าใจธรรม มากกว่ากัน

 

จะไปก็ไปได้เลย ใช่ไหม..

 

ไม่มีใครที่เดินทางธรรมที่ไม่เคารพครูหรอกครับ มันเป็นพื้นฐานความกตัญญู แต่การเพยแผ่ธรรมที่ครูอาจไม่รู้ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่เคารพครู

 

เข้าใจกับเขาถึงมันต่างกัน คนเข้าใจทำอะไรไม่ได้มากหรอกครับ จาคะนะสำคัญมากเพราะเป็นคุณสมบัติของอริยะชน ศรัทธา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา มือของอริยขนนั้นจะต้องชุ่มด้วยการให้มีเปล่า ถ้าไม่มีก็พัฒนาให้เหมือนตาสีตาสานะ

 

ก็คงต้องมองกันในฐานะกัลยาณมิตร พอเห็นความเห็นมันแข็งไปบางที
ก็คงต้องคอยมอง หรือวางใจถอยออกมาครับ
มันเริ่มกระตุกเส้น แล้วล่ะครับ แหะๆ(อันนี้ยิกๆที่ใจน่ะครับพี่ ป.ปุณฑ์)

 

ในระดับบุคคลถ้าอยากได้ดี ให้รู้จักเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นทีพึ่ง จะได้รู้จักพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ

หากอยากปฎิบัิติ เอาพระรัตนตรัยเป็นอนุสติเลย ยิ่งเห็นธรรมได้รวดเร็ว ไม่หลงทาง

 

.......................เราอย่าไป โอเวอร์รีแอ้คท์(ตอบโต้ เกินจริง)....อันที่จริงพระท่านรณรงค์ให้ เจริญพระสูตร.....ไม่ได้ไปรบราลบล้างอะไรใคร.....เจ้ เดือด เพราะคนแถวนี้ ต่างหาก...เพราะเขาไม่รู้จักคำว่า " โยนิโสมนสิการ".......เอาแค่นี้พอแล้ว..........

 

....................แนะนำให้ ลองฟัง ธรรมหลวงพ่อชา ในห้อง "พุทธศาสนา" ห้องถัดไป นี่แหละ ทำใจ ให้ สบ้าย สบาย แล้วฟังดู...........โยนิโสมนสิการ นั้น จะแยกแยะเอง

 

ท่าน paetrix นี่วางใจได้ดี ท่านวางใจเป็นกลางแบบนี้จะง่ายต่อการเข้าถึงธรรม
ได้อ่านธรรมะที่ท่าน paetrix ยกมาหลายครั้ง เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านท่านอื่นมาก

 

ผู้ที่อ้างพุทธวจนะ เพื่อยกตนข่มพุทธสาวกอื่น (พระอริยะเจ้า) มิได้จัดเป็นรัตนะที่หาได้ยาก ในโลก
การติเตียนพระอริยะเจ้า เป็นโทษหนัก จะเป็นเหตุให้ไปถึงนรกอเวจี ห้ามมรรคผลทั้งหมด
สัตว์โลกมักเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่นไม่เว้น แม้แต่พระอริยะเจ้า เพื่อยกตนให้ดูดีดูเด่นขึ้น

ท่าน newamazing ฝากไปเตือน ท่านคึกฤทธิ์ โสตถิผโลด้วย อย่าปรามาสพุทธสาวกอื่นมากนัก
ท่านอาจเข้าใจว่าอาจารย์ที่ท่านนับถือเป็นพระอริยะเจ้า แต่ที่จริงไม่ใช่เลย

อธิบายให้ว่าไฟนรกเป็นอย่างไร จะได้เป็นเครื่องเตือนใจ
ไฟนรกมีความร้อนแรงอย่างมากมาย ไฟในโลกนี้ไม่สามารถเทียบเคียงได้เลย
ขอบเขตของนรกทั้งหมดเป็นกำแพงไฟขนาดความสูงประมาณ 2 เมตร ยาวไม่มีที่สิ้นสุด กำแพงไฟนรกมีสีส้มเข้ม
เสียงของไฟนรกดังมาก ประหนึ่งท่านเอาเสียงลมที่แรงมากประทะใบหูตลอดเวลา เสียงไฟนรกจะดังอย่างนั้นตลอดเลย
เรื่องไฟนรก ไม่ได้ล้อเล่นกับท่านนะ เป็นแบบนี้จริงๆ ไม่ต้องเชื่อที่อธิบายไปนะ ไม่เกิน 60 ปีเดี๋ยวก็จะหายสงสัยที่อธิบายไป
คงไม่มานั่งเสียเวลาพิมพ์โกหกท่าน ตอนตีหนึ่งนะ เสียเวลาอย่างมาก หลายครั้งที่พิจารณาว่าใครจะไปนรกจะไปเดือดร้อนด้วยทำไม ไม่เกี่ยวกับผู้อธิบายเลย

 

แนะนำท่านอื่นดีกว่า paetrix อาจารย์ชาน่ะอาจารย์ผมเลย ผมได้ดีอยู่บนเส้นทางธรรมก็ีอาจารย์ชาอีกท่านนี่แหล่ะ

 

ทำไมถึงคิดว่าข่ม ท่านเปิดเผยพุทธวจนตามพยัญชนะที่มี ใครปฎิบัติไม่ตรงก็น้อมมาให้ตรงก็เท่านั้น ท่านไปดูถูกใครที่ไหน

 

ยังไม่เคยเห็นอาจารย์คึกฤทธิ์ไปกล่าวหาใครเลย มีแต่คนชอบอ้างอาจารย์นี้อาจารย์นั้นยกมาเทียบว่าปฎิบัติอย่างนี้ กลายเป็นคนขายอาจารย์ไปซะอย่างนั้นเพราะถ้าตรงกับพุทธวจนก็ถือว่าดี และถ้าไม่ตรงกับพุทธวจนอาจารย์ที่ยกมาจะเป็นอย่างไร ท่านลองพิจารณาดูนะครับใครเป็นคนทำลายอาจารย์ทั้งหลาย พระอาจารย์คึกฤทธิ์ท่านเพียกต้องการนำเสนอสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้เท่านั้นเพื่อให้คนได้รู้จักไม่เคยไปว่าใคร ส่วนดีที่ได้รับก็ได้รับแล้ว ที่นี้อยู่ที่คนฟังพระองค์กล่าวไว้อย่างนั้นใครจะนำไปปฎิบัติอย่างไรขึ้นอยู่กับอินทรียร์ของแต่ละคน

 

ท่าน newamazing ท่านลองกลับไปฟังวิดีโอท่านคึกฤทธิ์ โสตถิผโล สอนให้ดี อย่าว่าแต่ยกตนข่มพุทธสาวกอื่นเลย
สัตว์นรกบางตัว กล่าวว่า องค์สมเด็จอรหันต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอวด ปรามาสว่า " อวด " ไม่เว้นแม้พระศาสดาเลย

ผู้อธิบายไม่ได้อยู่ในฐานะผู้เดือดร้อน ผู้อธิบายก็ไม่สนใจที่จะปรับเปลี่ยนความคิดใจท่านหรือเอาชนะท่านเลย
ท่านจะเข้าใจถูกหรือผิด เป็นเรื่องของท่าน สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมของตัวมันเอง

อธิบายท่าน newamazing นี้ไม่ได้มีอคติกับ ท่านคึกฤทธิ์ โสตถิผโล แต่อย่างไร
ท่านวางใจให้เป็นกลางอย่าไปยึดติดตัวบุคคลจะเป็นการดีที่สุด ท่านจะได้ไม่เดือดร้อนในภายหลัง

 

บุคคลผู้แสดงธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว ที่จัดได้ว่า คือ หนึ่งในรัตน5ประการที่หาได้ยากในโลก ต้องเป็นผู้แสดงธรรมโดยบริสุทธ์ใจ มิได้กระทำเพื่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือ ยกตนขึ้นให้ดูดีดูเด่น หรือยกตนข่มพุทธสาวกอื่น

พระพุทธสาวกจัดได้ว่า เป็นผู้มีความบริสุทธิ์กาย บริสุทธิ์วาจา บริสุทธิ์ใจ เป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์

คำสอนของท่านคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล ยกตนข่มพุทธสาวกอื่น เป็นประจำ สม่ำเสมอ ทั้งที่ตนเองยังไม่ได้หลุดพ้น เปรียบได้กับ สัตว์ ที่เวียนว่ายตายเกิดตามพระไตรปิกฏเท่านั้น แต่กลับยกตนข่ม พุทธสาวกอื่น และการกระทำดังกล่าว จะแตกต่างอะไรไหมกับ มหาโจร ในพระไตรปิกฏ

 

ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาโจร ๕ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก มหาโจร ๕ จำพวกเป็นไฉน

[๒๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาโจร ๕ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก มหาโจร ๕ จำพวกเป็นไฉน
๑. ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาโจรบางคนในโลกนี้ ย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่า เมื่อไรหนอเราจักเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว ท่องเที่ยวไปในคามนิคมและราชธานีเบียดเบียนเอง ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ตัดเอง ให้ผู้อื่นตัด เผาผลาญเอง ให้ผู้อื่นเผาผลาญสมัยต่อมา เขาเป็นผู้อันบุรุษร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่ง แวดล้อมแล้วเที่ยวไปในคามนิคมและราชธานี เบียดเบียนเอง ให้ผู้อื่นเบียดเบียน ตัดเอง ให้ผู้อื่นตัด เผาผลาญเอง ให้ผู้อื่นเผาผลาญฉันใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ก็ฉันนั้นเหมือนกันแลย่อมปรารถนาอย่างนี้ว่า เมื่อไรหนอ เราจึงจักเป็นผู้อันภิกษุร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้วเที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานี อันคฤหัสถ์และบรรชิต สักการะ เคารพ นับถือ บูชายำเกรง ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย เภสัชบริขาร สมัยต่อมา เธอเป็นผู้อันภิกษุร้อยหนึ่ง หรือพันหนึ่งแวดล้อมแล้ว เที่ยวจาริกไปในคามนิคมและราชธานี อันคฤหัสถ์และบรรพชิตสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ยำเกรงแล้ว ได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขารทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๑ มีปรากฏอยู่ในโลก
๒. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ เล่าเรียนธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว ย่อมยกตนขึ้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๒ มีปรากฏอยู่ในโลก
๓. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมตามกำจัดเพื่อนพรหมจารี ผู้หมดจด ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์อยู่ด้วยธรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์อันหามูลมิได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๓ มีปรากฏอยู่ในโลก
๔. ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุผู้เลวทรามบางรูปในธรรมวินัยนี้ ย่อมสงเคราะห์เกลี้ยกล่อมคฤหัสถ์ทั้งหลาย ด้วยครุภัณฑ์ ครุบริขาร ของสงฆ์ คือ อาราม พื้นที่อาราม วิหาร พื้นที่วิหาร เตียง ตั่ง ฟูก หมอน หม้อโลหะ อ่างโลหะ กะถางโลหะ กะทะโลหะ มีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกะต่าย หญ้าปล้อง หญ้าสามัญ ดินเหนียว เครื่องไม้ เครื่องดิน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นมหาโจรจำพวกที่ ๔ มีปรากฏอยู่ในโลก
๕. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันไม่มีอยู่ อันไม่เป็นจริงนี้จัดเป็นยอดมหาโจร ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณะพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะภิกษุนั้น ฉันก้อนข้าวของชาวแว่นแคว้น ด้วยอาการแห่งคนขโมย.
นิคมคาถา
ภิกษุใด ประกาศตนอันมีอยู่โดยการอื่น ด้วยอาการอย่างอื่น โภชนะนั้น อันภิกษุนั้น ฉันแล้ว ด้วยอาการแห่งคนขโมย ดุจพรานนกลวงจับนก ฉะนั้นภิกษุผู้เลวทรามเป็นอันมาก มีผ้ากาสาวะพันคอ มีธรรมทราม ไม่สำรวมแล้ว ภิกษุผู้เลวทรามเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงซึ่งนรก เพราะกรรมทั้งหลายที่เลวทราม ภิกษุผู้ทุศีล ผู้ไม่สำรวมแล้วบริโภคก้อนเหล็กแดงดังเปลวไฟ ประเสริฐกว่า การฉันก้อนข้าวของชาวรัฐ จะประเสริฐอะไร.

 

ผู้ปฏิบัติธรรมและบรรลุธรรมชั้นสูง ย่อมมีจิตใจสูง มีจิตที่สะอาดบริสุทธิ์มากยิ่งๆขึ้น
การกล่าววาจาและการปฏิบิติ ก็สูงยิ่งๆขึ้นไปด้วยเช่นกัน รู้ได้อย่างไร ก็ให้ดูจาก

การกระทำ มีมารยาทงดงามดีงาม
การพูด มีการกล่าววาจางดงามดีงาม แม้อาจจะกล่าววาจาที่คมคายเสียดแทง ก็ทำไปด้วยเหตุแห่งการให้เข้าถึงพระธรรม ไม่มีเจตนามิจฉาใดๆ และย่อมไม่กล่าว ตำหนิ ดูถูก ว่าร้ายผู้อื่น
การคิด มีการคิดที่สานต่อจากภูมิธรรมชั้นสูงที่ตนมี คือไม่คิดในทางที่ผิดธรรมนองคลองธรรม ไม่มีความคิดอันเป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความคิดที่สูง คือไม่เห็นประโยชน์ในกิเลส โลภ โกรธ หลง เป็นผู้ออกห่างแล้ว ไม่มีความยึดมั่นในตน แม้ความดีของตนก็ไม่ยึดมั่น ไม่ยึดมั่นในการกระทำดีหรือไม่ดีของผู้อื่น ความคิดอยู่สูงเหนือโลกธรรมแล้ว

สาธุ

 

ผมก็เคยแว่วๆมาเหมือนกันครับ ว่าที่นั่นโซดาเดินชนกันมั่ว
แหม หลวงพ่อท่านไปถึงระดับไหนแล้วนั้น ไม่อยากคิดเองเลย
... ทว่า มันก็ไม่น่าใช่เรื่องในแง่ลบนะครับ
ถ้า สำนักนาป่าพง จะประกาศชัดๆ ออกมาเลย
ไม่ต้องอ้างพุทธวจนะ หา ศัพท์แสงใหม่
ก็บอกไปเลย "พระไตรปิฎก" ต้องฉบับสยามรัฐเท่านั้น