เป็นกลางต่อทุกสิ่ง จะเรียกว่า ทางสายกลาง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nilakarn, 7 มีนาคม 2017.

  1. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    การกำหนดรู้เวทนา ในทางปฏิบัติ ของผู้ใส่ใจธรรม

    จะไม่อาสัยเวลาเปนชั่วโมง

    เพราะ จิต กับ เวทนา เกิดพร้อมๆกัน เหมือน
    ที่พระพุทธตรัสว่า เหมือเอาไม้กระดานสองแผ่น
    ตั้งพิงกัน หากเอาแผ่นหนึ่งแผ่นใดออก ก้จะทำ
    หน้าที่ไม่ได้ อีกแผ่จะต้องล้มลง

    ดังนั้น เวทนา เกิดทันที ที่จิตมันเคลื่อน หลงไป
    ในการ รู้ผัสสะ เวทนาย่อมปักในผัสสะนั้นด้วย

    หลงแล้วรู้ว่าหลง จะตามเหนความดับของเวทนา

    ทำให้เหนสภาวะ ที่เปน อุบายนำออก

    ปล่อยทั้งจิต ทั้งเวทนา โดยที่ขันธ์5 ก้ทำงานไปปรกติ

    ที่นี้ โพสบอกไปแล้วว่า เปนเรื่องของ จิตกำลัง
    เปนฌาณ ดังนั้นถ้าพลาดขันธ์5 ก้จะเสพสภาพ
    ของฌาณจิต มีปฐมฌาณเปนอาธิ บัณฑิตจะรู้
    ว่าแม้นหลงไป จิตก้ลงไปเก็บฌาณ เพื่อกำลัง
    ของจิต ที่จะใช้เปนต้นทุนห่างกิเลส เราก้จะ
    ไม่มีทางไปหัวเราะใส่ คนหลง หรือ ถ้าเขาจะเหาะ
    ได้ ก้เรื่องของเขา ไม่หัวเราะ หรือชักชวนไปโรง
    พยาบาลแบบ มจด พยายามบอกว่าควรทำ

    แบบปุถุชนไม่เคยอบรมกาย อบรมจิต แบบที่
    มาจากดิน ทำมาตลอดชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2017
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ทีนี้ หากมาจากดิน ต้องการ เออะอะ ว่า มีด้วย
    หรือ สอนเผลอให้รูว่าเผลอ เพ่งให้รู้ว่าเพ่ง

    ฟังเผิน เหมือนไม่ได้สอนให้ภาวนาด้วยซ้ำ

    ก้เน้นอีกทีว่า มันเปนเรื่อง ของคนที่ขยัน
    ภาวนาจิตมันจะรวมไม่รวมแหล่ แต่เราจะ
    ไม่ให้จิตรวมเด็ดขาด หากสมาธิยังมีสมุทัยเจือ

    การชี้ให้กำหนดเพ่ง เพื่อไม่เพ่ง
    กำหนดเหนเผลอ เพื่อไม่เผลอ
    และยังมีอีกหลาย มุขนัย ที่จะยก
    บอกกันและกัน

    มาจากดินน่าจะคุ้น บทอัปปนาโกสล10
    ตามตำราวิสุทธิมรรค ลองไปเปิดอ่าน
    ตัดแปะใส่เว็บตนเท่ห์ ๆ ก้ได้

    แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ โกยวิสุทธิมรรคทิ้งไปซะ
    แล้วเอา พุทธวจน เรื่องที่เปนสมัยขิงจิตขณะนั้น
    เพียวๆ เปนกลุ่มของสภาวะธรรมในสมัย จะดีกว่า ไปอ่านแบบจับมารวมกันสิบข้อ จะ งง เต็กได้

    คิดว่าตนอ่าน จดจำ ใช้เปนโวหารคำโตได้ รู้ธรรม
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    สำหรับพี่ที พี่ทีพึ่งเปน รุกกี้ในทีม

    การเว้นขาด คบคนไม่มีสมาธิ อย่าง มจด
    หรือ อย่าง บระลุงขันธ์ อดีตสมาชิก จะสำคัญมาก

    หากไปเข้าใกล้ รับมาเปนผัสสะ จิตจะไหล
    ไปตามอำนาจขันธ์5 จิตจะเสีย

    เว้นแต่จะเหนอุเบกขาได้ชัด ถึงจะอนุโลม

    แต่ถ้า อุเบกขาไม่มี รีบเสวนาเข้าอกเข้าใจ
    เผลอไปรับ อธรรมวาที เปน ธรรมวาที

    กรรมจะส่งผลต่อจิต จิตจะแฉลบไปข้างสมุทัย
    เจือ จิตจะเสีย

    ถ้ามั่นใจว่า เหนธรรมที่เหนได้ยาก แรกๆ ขอ
    แนะนำให้หยุดเสวนาธรรมสักสามเดือน

    ติดนิ่งแล้วค่อยมากระทบโลก ในสมัยที่สมควร
    จะ ร่าเริงในธรรม อาจหาญ ได้ชัดกว่า
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    พูดในแง่ อภิธรรม

    วิหิงสาวตก บางตัว มาเนียนๆในฐานะ ห่วงการ
    เข้าถึงธรรมอันเปนขันธ์ภายนอก

    ยกตัวอย่าง หลวงพ่อคืน ศิษย์หลวงปู่ดูลย์
    ที่บรรลุธรรมกลางดึก มาทุบกุฏิหลวงปู่ดูลย์
    เพื่อรับการโปรดสัตว์

    สุดท้ายคว้าเอา ไม้กวาดแทนกลด กลับวัด

    วิหิงสาวิตก มาเนียนๆ ในการช่วยเหลือ
    คนที่ตนเคารพรักสุดหัวใจ

    ในทีนี้ หมายถึงจิตที่ไปเสวนากับ มจด

    จิตจะเสีย


    ปล.ลิง หลวงพ่อคืน ตามคำเล่า ท่านมรณะภาพ
    ไปแล้ว จึงเอ่ยชื่อเปนบุคคลาธิษฐานได้ ทั้งนี้
    พอหลวงพ่อเดินไปห้ากิโล จิตมันก้คลายจาก
    สมุทัยเจือ กำหนดเห็นไม้กวาไม่ใช่กลด แล้ว
    ก้.........สุดท้ายก้มาขอขมา กราบแล้วกราบเล่า
    หลวงปู่ดูลย อตุโล ไม่มีใดเทียม ......ติ๊ง จบ
     
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ภาวนาที่คุณว่า "หลงก็รู้ว่าหลง" เอามาจากไหน

    ภาวนาหมายถึงยังไงภาวนา
     
  6. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ยังไม่เห็นหลักการ หลักธรรมตรงไหน เห็นแต่โยงคำศัพท์ตัวนั้น มาเข้ากับตัวนี้ โยงไปโยงมา

    อย่างนี้ถ้าเรียกเพ้อเจ้อธรรม พอได้
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    พูดไปเรื่อยนั่นๆนี่ๆ ภาวนา สติ สมาธิ ปัญญา กายใจ ฯลฯ เอาเข้าจริงๆก็ไม่รู้ว่าอะไร แล้วจะพูดทำไม พูดเพื่อให้มันได้อะไร
     
  8. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    เห็นด้วย เหมือนหมอรักษาคนไข้ ต้องรู้จักวางยารักษาโรค

    ถ้าเป็นหมอเถือน จะให้คนไข้กิน กินมั่วไปหมด

    สุดท้ายคนไข้ตาย (เมาธรรม)
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424

    หลงก็รู้ว่าหลง ยก ตย.เช่น มีสติหายใจเข้าอยู่ มีราคะก็รู้ว่ามีราคะ เป็นต้น ทีนี้ถ้ามีราคะอยู่ แต่ดันไม่รู้ สติตามไม่ทัน หรือนานๆ จึงรู้ที แบบนี้ "เผลอหรือหลง พอรู้ตัวแล้ว ก็เริ่มใหม่ รู้แล้วก็เริ่มใหม่ ตั้งสติใหม่ เผลอก็เริ่มใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ ก่อน" ดีไหมครับ

    ทีนี้ที่ถามว่า ภาวนาหมายถึงอะไร ตอบแบบตามปฏิปทาที่ตนเองปฏิบัติอยู่ก็คือ ภาวนาหมายถึงไม่ประมาท ถ้าเมื่อไหร่มีเจตนาประมาท คือขาดการภาวนา โอเคนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2017
  10. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    "คนบ้า ไม่รู้ตนเองว่า บ้า คนหลง ก็ไม่รู้ ว่าตนเองหลง" การกระทำไปตามอำนาจกิเลสชักจูงจึงเป็นเรื่องของคนหลงโลก คนหลงธรรม เมาธรรม ก็ยังอยู่ในธรรม มีธรรมเป็นที่พึ่ง ก็ย่อมดีกว่าคนหลงโลก ตกอยู่ในวัฎฎะแห่งความทุกข์ไม่จบสิ้น การภาวนา ก็ คือการหมั่นชำระจิตตนให้ผ่องใส จากกิเลสตัณหา มลทินเครื่องร้อยรัดใจ ใจที่ปราศจากมลทินกิเลสตัณหา ย่อมเบิกบานผ่องใส สุขสงบอย่างยิ่ง "ละชั่ว ทําดี ทําจิตใจให้ผ่องใส" คือ หลักปฎิบัติ รวมเรียกว่า ศีล ทาน และภาวนา
     
  11. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :p:mad: จริงๆแล้วเป็นคำถามที่ดี..แต่มาติดตรงเป็นแบบของเราเอง- ทำไมไม่ทำตามแบบพระพุทธองค์ล่ะครับ (หรือเป็นที่เข้าใจได้ก็เข้าใจโดยเจตนาว่าคือแบบของ พจ.นั่นเองที่ยกมาใช่นะครับ)
    :mad::oops::eek: ทางสายกลาง ของ พจ.ตามแบบพุทธวจน นั้น ท่านต้องรู้จักทางเส้นนี้จริงๆซึ่งไม่ใช่แยกพิจราณาเป็นส่วนๆไป ได้ดังที่เข้าใจและตอบกันมา ..
    :pทางสายกลางของ พจ.นั้นพวกท่านต้องปฏิเสธส่วนสุด-ของทั้งสองด้าน ในความมีอยู่-และความไม่มีอยู่ ของสรรพสิ่งทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายในโลกนี้ให้ได้เสียก่อน ว่าเกิดจากเหตุ-และปัจจัย ที่อาศัยกันเกิดทั้งสิ้น ไม่มีเกิดมาลอยๆเดี่ยวๆ ..สิ่งนี้เกิด-สิ่งนี้จึงเกิด-สิ่งนั้นดับ-สิ่งนี้จึงดับ.. ฯล
    :mad:ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอยๆ การปฏิเสธสิ่งที่มี อันสุดโต่งข้างหนึ่ง- กับสิ่งที่ไม่มี อันสุดโต่งอีกด้านหนึ่ง จึงต้องเกิดขึ้นในจิตของแต่ละท่านทุกคน ที่สุดโต่งในแต่ละด้าน..นี่แหละคือทางสายกลางของพวกท่าน
    :p:p:confused: วงจรปฏิจจสมุปบาท คือการอาศัยกันและกันเกิดขึ้น มีขึ้น ดับไป สลายไป ในทุกสรรพสิ่งของธรรมทั้งหลายแบบมีเหตุปัจจัย-อาศัยซึ่งกันและกันเกิด-ดับ- นี่แหละคือธรรมของ พจ.มรรคทางสายกลาง..ที่พวกท่านทั้งหลายถามหา สาธุ
    สรุป ท่านต้องศึกษาวงจร ปฏิจจสมุปบาท นี้เพื่อให้จิตเข้าใจ-เข้าถึง-ทางสายกลางครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2017
  12. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    วงจรปฏิจจสมุปบาท ทำงานแบบ อิทัปปัจจยะตา..คัรบ บนขันธ์5 ผ่านอริยะสัจจ์4 โดยการส่งจิตออกนอก ไปเกิดเสุข-ทุกข์ ทันที
    :p วงจรนี้จึงเกิด มาให้เราพิจราณา "ทางสายกลาง" ครับ ความตึง-สุดโต่ง จึงไม่เกิดขึ้น เหตุเพราะที่สุดของสุข-ทุกข์ ..นั้งต้องอิงอาศัยเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน เกิดบนขันธ์ทั้ง5 นี้เอง
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    กลางของกลาง
    ใสในใส
    ใสสุดละเอียด

    หยุดเปนตัวสำเร็จ นะจ๊ะ







    ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้
     
  14. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    จารย์.ถ้าหันมาเล่นกรรมการมูลนิธิ แสดง
    ว่า จะยึดทรัพย์ทั่วโลกนะจ๊ะ ตัวไม่ต้องทองเอามา อิอิ
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ลวกเพ่ อย่าพาไปเอา เรื่องโลกๆ มายุ่ง น้ำบ่อ จิฮับ

    มานี่เลย ๆ

    มาสดับ พุทธวจน


    ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุพวกที่ยอมรับอรรถและธรรม โดยสูตรซึ่ง
    ตนเรียนไว้ดีด้วยพยัญชนะปฏิรูป นั้น
    ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อทำมหาชนให้ได้รับประโยชน์ ทำ
    มหาชนให้ได้รับความสุข เป็นไปเพื่อความเจริญแก่มหาชน
    และเป็นไปเพื่อความเกื้อกูล เพื่อความสุขทั้งแก่เทวดาและ
    มนุษย์ทั้งหลาย.
    ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุเหล่านั้นย่อมประสบบุญเป็น
    อันมาก และได้ชื่อว่าดำรงสัทธรรมนี้ไว้อีกด้วย.


    จากพระสูตร พี่เกิด ต้องทรงจำ ปฏิรูปธรรม ทั้งที่ผิด(อธรรมวาที)
    และ ถูก(ธรรมวาที)นะฮับ แล้วยังต้อง ตักบาตร ทำบุญ แก่ท่าน
    เหล่านั้นด้วย

    ไม่เช่นนั้น พี่เกิด จะเป็น กลางไม่จริง ยังหวงสังขาร สมอง เสมิง
    รับเอาที่เลือก แทนที่จะวางมันลง แบบคนที่กำหนดรู้ว่า นั่นไม่ใช่
    เรา ของเรา
     
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    นั่นคือโอเคของคุณ ดูโอเคตามหลักพุทธธรรมบ้าง

    ภาวนา การทำให้มีขึ้นเป็นขึ้น, การทำให้เกิดขึ้น, การเจริญ, การบำเพ็ญ, การพัฒนา

    1. การฝึกอบรมหรือการเจริญพัฒนา มี 2 อย่าง
    คือ

    ๑. สมถภาวนา ฝึกอบรมจิตใจให้อยู่กับความดีงามเกิดความสงบ

    ๒. วิปัสสนาภาวนา ฝึกอบรมเจริญปัญญาให้เกิดความรู้แจ้งชัดตามเป็นจริง

    อีกนัยหนึ่ง จัดเป็น ๒ เหมือนกัน คือ

    ๑. จิตตภาวนา ฝึกอบรมจิตใจให้เจริญงอกงามด้วยคุณธรรม มีความเข้มแข็งมั่นคง เบิกบาน สงบสุขผ่องใส พร้อมด้วยความเพียร สติ และสมาธิ

    ๒. ปัญญาภาวนา ฝึกอบรมเจริญปัญญา ให้รู้เท่าทันเข้าใจสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง จนมีจิตใจเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำด้วยกิเลส และความทุกข์,

    2. การเจริญสมถกัมมัฏฐาน เพื่อให้เกิดสมาธิ มี 3 ขั้น คือ

    ๑. บริกรรมภาวนา ภาวนาขั้นเตรียม คือ กำหนดอารมณ์กัมมัฏฐาน

    ๒. อุปจารภาวนา ภาวนาขั้นจวนเจียน คือ เกิดอุปจารสมาธิ

    ๓. อัปปนาภาวนา ภาวนาขั้นแน่วแน่ คือ เกิดอัปปนาสมาธิเข้าถึงฌาน


    3. ในภาษาไทย ความหมายเลือนมาเป็นการท่องบ่นหรือว่าซ้ำๆ ให้ขลัง ก็มี
     
  17. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ตึงให้ถึงที่สุด แล้วหย่อนลงมานิด ก็พอดี ทางสายกลาง
    ไม่ได้อยู่ตรงกลาง แต่อยู่ตรงพอดี
     
  18. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    ทางสายกลาง คือ อยู่ตรงกลาง ระหว่าง ความอยาก และ ความไม่อยากได้
    ฝึกทำใจให้เป็นกลางบ่อยๆ ทำตัวให้เหมือน กรรมการห้ามมวย ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
    มีแค่ไหนก็พอแค่นั้น นี่เรียกว่า การบรรลุธรรม
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    ที่ขึ้นต้นว่า ทางสายกลางของเราเอง
    ก็เพื่อจะแนะนำว่า ควรสื่อแต่ ทางสายกลาง
    ที่ท่านค้นพบในตัวท่านแล้ว โดยไม่ต้อง อ้างอิง อาจารย์ หรือ ตำรา อีก
    ให้สื่อแต่สิ่งที่ท่านได้ค้นพบ และได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน
    ไม่จำเป็นต้องเก่งตำรา ก็สื่อได้ เท่าเทียมกันทุกคน
    เพียงแค่เอ่ย ตามที่ตนเอง ปฏิบัติมา ก็ใช้ได้แล้ว
    จะได้รู้ว่า ตัวเราเองนี่แหละ มีความคิดเห็นผิดถูกขนาดไหน
     
  20. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :p ทางสายกลาง มันมีเหตุเกิดที่จิต..ต้องแก้ที่เหตุคือ ที่จิต ..ไม่น่าจะไปแก้ที่เรื่องใดเกิดก้แก้ไปทีละเรื่อง ทีละเรื่อง-ที่เกิด- เพราะเรื่องที่เกิดมันมี 108-1009 เรื่องในแต่ละวันเราจะตามแก้ไม่ทันทั้งชีวิตครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...