เพลง ลาใจ ธานินทร์ อินทรเทพ

วันนี้ขออนุญาตนำเพลงลาใจ ของคุณธานินทร์ อินทรเทพ ขับร้อง คำร้อง/ทำนองเนรัญชรา เป็นเพลงที่เพื่อนสมาชิกได้แนะนำมากลัวจะรอนานรีบร้องมาให้เมื่อคืนนี้เองครับ ขอเชิญรับฟังครับ

เพลง ลาใจ
ชรินทร์ นันทนาคร, ธานินทร์ อินทรเทพ ขับร้อง(ธานินทร์ บันทึกแผ่นเสียงปีพศ. 2509 )
คำร้อง/ทำนอง เนรัญชรา

ยาม...นั้น พี่ รำ พัน ร้อง เพลง จำ พราก
กล่อม ขวัญ ใจ คน ยาก ฝัน ฝาก เทวา ฟ้าดิน
หอบ สาย ลม รำ เพย ฝาก ใจ เคย ถวิล
ฝาก รัก จาก ใจ ชาว ดิน ฝาก วาริน
สาย ใจ จาก ทรวง
ยาม...นี้ ยอด ชีวี ขวัญ ใจ คน ยาก
เจ้า ร้อง เพลง จำพราก ฝัน ฝาก อารมณ์ แสน ลวง
เจ้า ร้อง มา ลา พี่ อย่า รัก อัน หนัก ทรวง
ลาลับ กลับ ไป แดน สรวง พี่ สุด หวง
โถ เจ้า ยัง จาก ไป
ยาม...นึก พี่ รำ ลึก ถึงตัว ยาม ยาก
อยาก ร้อง เพลง จำ พราก ฝัน ฝาก อารมณ์ เร้า ใจ
แต่ เหลียว ไป ใจเศร้า เงียบ เหงา ทน ไม่ ไหว
ไม่ รู้ จะ ร้อง หา ใคร ต้อง ลา ใจ
ร้อง ไห้ ไปก่อน เอย.........

ประวัติครู "เนรัญชรา”​

นอกเหนือจาก "ครูสง่า อารัมภีร" ที่มีชื่อเสียงด้านการแต่งเพลง ทั้งทำนองและคำร้องที่มีความไพเราะเป็นอมตะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จนได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติเมื่อ ปี พ.ศ.2532 และ "ครูมนัส ปิติสานต์" แล้ว ครูเพลงที่มีพื้นเพมาจากกองทัพอากาศแม้จะไม่ได้สังกัดกองดุริยางค์กองทัพอากาศเลยก็ตาม ได้แก่ "ครูเนรัญชรา" ที่ฝากผลงานเพลงไพเราะเป็นอมตะไว้กับวงการหลายเพลงด้วยกัน ครูเนรัญชรามีชื่อจริงว่า "สติ สติฐิต" เป็นบุตรชายของนายไกร และนางจำเนียร สติฐิต เกิดที่ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2477 เริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนเทศบาลบ้านหมี่ 1 โรงเรียนประจำอำเภอบ้านหมี่ ปานขาว และโรงเรียนวัดราชาธิวาส กรุงเทพมหานคร จนจบชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 แล้วเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนจ่าอากาศ หลักสูตรการสื่อสาร เมื่อพ.ศ.2494 เพราะในยุคนั้นยังไม่มีโรงเรียนนายเรืออากาศและไม่มีทุนเรียนต่อ ชีวิตในวัยเด็กที่อำเภอบ้านหมี่นั้นได้ถูกหล่อหลอมให้คุ้นเคยกับเสียงเพลงกล่อมของแม่และเพลงรำโทนที่กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ในยุคนั้น

โดยครูเนรัญชราเขียนเล่าเอาไว้ว่า
"เมื่อเป็นเด็กเล็กจำได้ว่า ก่อนนอนแม่จะร้องเพลงกล่อมและก็จะหลับไปก่อนฟังจบ แต่บางครั้งนอนกลางวันมา แม่จะร้องเพลงถึงสองเพลง เช่น เพลง 'โอ้เจ้าพลับพลึงไพร ขาวใน...ลำธาร ยามลมหวนทวนมาพานใบสะท้าน...ก้านสะเทือน ทวนสายลม...' แล้วต่ออีกเพลงเช่น...'ใจ...เธอหนอกระไรใจน้อย ผิดไปหน่อยแล้วเธอก็เคือง ไม่เห็นเป็นเรื่องอะไรสักนิด...ใจเธอหนอกระไรไม่คิด...' จะหลับทุกครั้ง ก่อนเพลงที่สองจบ..."
"พอยุคสองสงครามโลกครั้งที่สองก็จะมีเพลงรำวง ซึ่งก่อนหน้านี้เรียกว่ารำโทน เช่น...งานแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามใบหน้ามาอยู่วงรำ...ใกล้เข้าไปอีกนิด ชิด ชิด เข้าไปอีกหน่อย สวรรค์น้อยๆ อยู่ในวงฟ้อนรำ..."
ครั้นโตเป็นหนุ่ม ย้ายเข้ามาเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดราชาธิวาส ในช่วงปิดเทอมก็กลับไปช่วยทางบ้าน โดยเป็นกระเป๋ารถเมล์สองแถวของพ่อเลี้ยงที่วิ่งระหว่างเมืองใหม่กับในเมืองลพบุรี และมักจะรอจอดรับผู้โดยสารอยู่แถวหน้าวิกนารายณ์ประสิทธิ์ ก็มีอารมณ์ในการฟังเพลงของวินัย จุลละบุษปะ เพราะกำลังหลงรักผู้โดยสารสาวคนหนึ่ง
"...เวลาทำหน้าที่ พ.ข.ร.และกระเป๋ารถ โดยจ้างคนขับต่างหาก เวลาพ่อเลี้ยงไม่ขับเอง ผมเก็บค่าโดยสารทั้งไปและกลับ จำได้ว่าลูกสาวข้าราชการคนสำคัญมานั่งรถ ผมเก็บค่าโดยสารทุกคนแต่เว้นเขาไว้ เขาส่งเงินมาให้อีก ผมสั่นหน้า ไม่กล้ามองเขา ถอยมาอยู่ท้ายรถ"
"จนรถจอดในเมือง แถววิกหนังนารายณ์ประสิทธิ์ เสียงเพลงเครื่องขยายเสียงหน้าโรงหนังเปิดเจื้อยแจ้วมีเพลงหนึ่งที่พี่วินัย จุลละบุษปะร้อง...สายลมพลิ้วผ่าน สายธารพลิ้วไหว สายตาเป็นสื่อใจ สายสื่อฤทัยเสน่หา...พี่ลงเรือน้อยล่องลอยเคลื่อนคล้อยธารา...สายธารนั้นนิ่ง ทุกสิ่งตราตรึง หัวใจพี่เอ็ดอึง เพราะว่ารักตรึงหทัย..."
เมื่อเรียนจบหลักสูตรโรงเรียนจ่าอากาศก็ย้ายไปอยู่ที่กองบินน้อย ที่ 5 ประจวบคีรีขันธ์

<O

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.714893/[/MUSIC]

 

ไม่ รู้ จะ ร้อง หา ใคร ต้อง ลา ใจ
ร้อง ไห้ ไปก่อน เอย.........



ต่อมน้ำตา ร้องเท่าไหร่ ก็ไม่แห้ง
ถูกใส่ร้าย ก่อนหน้านี้ ยังไม่จืด
มาอำลา อาลัย สายใยรัก
sam ร่ำไห้ ซ้ำหนัก ช้ำใจจัง




ยิ่งร้องไห้ น้ำตายิ่ง ไหลอาบแก้ม
ไหลไม่หยุด หยดติ๋งติ๋ง สะอื้นไห้
ผ้าเช็ดหน้า ซับน้ำตา เปียกชุ่มฉ่ำ
sam เตรียมไว้ ผ้าเช็ดหน้า 1 โหลเจ๊า




เมื่อไหร่จะ สมรัก และสมหวัง
คล้อยรักมา พบกัน สมใจหวัง
รอเวลา รักแท้ ที่จีรัง
sam ยังรอ รักแท้ ทุกนาที

​

<O</O

 

แต่ว่ายังไม่ได้ยินเสียงเพราะๆ ของคุณแซมเลยนะคะ..^^...
ตอมฯเครื่องนี้ไม่มีลำโพงค่ะ..อิอิ...

 

เป็นเพลงที่ชอบมากและหาฟังยาก... ร้องได้เพราะมากค่ะ

 

ดีใจจังเลยค่ะ...ได้ฟังแล้ว...
ไพเราะมากค่ะ..สมกับที่ตั้งตารอ...
ขอบคุณพี่แซม..สักพันครั้ง...^-^...

 

เมื่อลมหนาวมาเยือน....
เมื่อความเหงามาเยือน.....
จะร้องเพลง"ลาใจ"ให้ใครฟัง......

 

ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ...สักคำ...ให้ลึกซึ้ง .....
ขอเพียงระลึกถึงกัน...เท่านั้นพอ....^^....

 

ฉันไม่รู้ว่ามัน.. จะนานเท่าไร...
เพราะมันดูแสน.. จะยาวไกล... ไกล.. สักเพียงไหน ...
ฉันไม่รู้ว่ามันจะนานเท่าไร...
ฉันเองก็พร้อมจะก้าวไป... จะไปสู่กลาง.. ใจเธอ ...

 

ดาวนับล้านดวง...ที่ลอยอยู่บนฟากฟ้า ..
จะมีไหมหนา.. ที่ลอยอยู่เองเฉยๆ ....
ไม่ยอมโคจรหมุนไป.. ไหนไหนเลย ...
ไม่เคย.. ไม่เห็น...เลยสักดวง ....

 

เพราะจริงๆ เลยค่ะคุณแซม
มาทีไรคุณแซมกำลังจะกลับทุกทีเลย
เมื่อไหร่จะเจอตอนคุณแซมกำลังเดินเข้ามามั่งน๊ออ...

(deejai)

 

Hope you're not alone.
Better hope you're not alone.

 

ขอบคุณครับ ที่เสียงเพลงสามารถลดอุณภูมิที่ร้อนได้..เดี๋ยวผมลองไปปิดแอร์ฯดูนะครับ...อิอิ

 

ยาม...นึก พี่ รำ ลึก ถึงตัว ยาม ยาก
อยาก ร้อง เพลง จำ พราก ฝัน ฝาก อารมณ์ เร้า ใจ
แต่ เหลียว ไป ใจเศร้า เงียบ เหงา ทน ไม่ ไหว

 

ขอบคุณครับ เชิญแวะมาฟังเพลงที่ชอบอีกนะครับ

 

ขอบคุณครับ ที่ได้แนะนำเพลงนี้ผมเองก็ชอบเพลงนี้เหมือนกัน ไม่ได้ยินนานมากถือโอกาสได้นำมาร้องให้เพื่อนๆสมาชิกได้ฟังด้วย ขอให้มีความสุขทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

ขอบคุณครับ อายที่จะเดินมาเจอผู้คน ชอบอยู่แบบสันโดษ แล้วร้องเพลงกล่อมให้เขาฟังแต่อย่างเดียว...เมื่อไหร่ที่มีความมั่นใจมากกว่านี้ก็จะเดินเข้ามาหาเอง...อิอิ ขอมอบเพลงที่แนะนำให้ก่อนแล้วกันนะครับ คืนอำลา....ไงคริ คริ..

 

ฝากดอกไม้มากับลมนะจ๊ะคุณแซม.....เพลงเย็นๆฟังแล้วสบายใจดีค่ะ

 

ขอบคุณครับ สำหรับช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ ได้กำลังใจแบบนี้ต้องรีบร้องเพลงตามคำแนะนำทันทีแล้วละครับ...อิอิ

 

Reported Post by พระสมรัก

พระสมรัก has reported a post.

Reason:

Post: ขอเชิญร่วมบุญหนังสือเสียง นิทานธรรม เพื่อแจกเป็นธรรมทาน
Forum: ธรรมทาน - วิทยาทาน
Assigned Moderators: DITCE, Komodo, Mr.Kim

Posted by: penphitak
Original Content: