เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

.

[FONT=Tahoma,]"ขนมจีนน้ำพริก"ขึ้นชื่อ ห้องอาหารราชตฤณมัยฯ

คอลัมน์ อิ่มอร่อย


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>ภาย ในสนามม้านางเลิ้งมีห้องอาหารราชตฤณมัยสมาคมฯ นำเสนอต้นตำรับจานเด็ดชาววัง สรรค์สร้างความอร่อยมานานกว่า 30 ปี การันตีรสชาติดั้งเดิมโดย ม.ล.อุบล ดีสวัสดิ์ ดีกรีวิทยากรกิตติมศักดิ์ประจำศูนย์มติชนอคาเดมี และเพิ่มอรรถรสแบบจานต่อจาน โดย "เชฟเมย์"เมชวัชร์ อ้นสุ่ม ผู้เชี่ยวชาญอาหารไทยฟิวชั่น

ยังไม่รวมถึงพ่อครัวแม่ครัวรุ่นบุกเบิกกับประสบการณ์เสน่ห์ปลายจวักที่สั่งสมมาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ร่วมส่งต่อความสุขของนิยามอาหารอร่อย

เริ่ม จากอาหารเรียกน้ำย่อย "ไส้กรอกซุบริค" ไส้กรอกหมูเน้นๆ จากเนื้อสันในชั้นดี ผ่านกรรมวิธีในรูปแบบได้มาตรฐานต้นฉบับจากเยอรมนี รับประกันคุณภาพด้วยความเหนียวนุ่ม ไม่มีกลิ่นคาว ไร้สารกันบูด บวกกับรสชาติเข้มข้นกำลังดี และความกรุบกรอบของผิวด้านนอกที่ย่างไฟอ่อนๆ จนหอมกรุ่น

เสิร์ฟร้อนๆ คู่กับเครื่องเคียง ทั้งผักลวก และเฟรนช์ฟรายด์ ก่อนราดน้ำเกรวี่สูตรลับเฉพาะ เพื่อเพิ่มความอร่อยจนวางไม่ลง

จาน ต่อมา "เมี่ยงคะน้า" ของรองท้องสำหรับราชนิกุลในยุคเก่าก่อน ต้องใช้ฝีไม้ลายมือโชว์ประณีตของเครื่องเคียงและน้ำเมี่ยงรสกลมกล่อม จากส่วนผสมคัดพิเศษทั้งกุ้งแห้ง ขิง หอมแดง ที่นำมาโขลกจนเข้าเนื้อ แล้วจึงเคี่ยวต่อด้วยน้ำตาลปี๊บ ให้รสหวานนุ่มลิ้น ไม่แหลมจนแสบคอ

ตามด้วยจานหลักสไตล์เส้นขึ้นชื่อ "ขนมจีนน้ำพริก" กับรสชาติดั้งเดิมขนานแท้ที่หาชิมได้ยาก

เมื่อ เครื่องน้ำพริกจัดจ้าน ผสมผสานรสหวานละมุนกำลังดีแบบชาววัง คลุกเคล้าเข้าที่ด้วยถั่วเขียวเลาะเปลือก และถั่วลิสง เคี่ยวด้วยไฟรุมๆ จนหอมกรุ่น ทานคู่กับเส้นขนมจีนหมักนุ่มๆ แนมด้วยผักสด ผักลวก และผักชุบแป้งทอด ครบเครื่องความอร่อย

มาถึงสารพัดแกงไทย น่าสนใจตั้งแต่เมนูแรก

"แกง ส้มชะอมกุ้ง" แกงพื้นบ้านจานโปรดของใครหลายคน กับรสชาติพริกแกงส้มเข้มข้นถึงใจ ผสมผสานอย่างลงตัวด้วยน้ำมะขามเปียกรสเปรี้ยวนุ่มกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกุ้งสดตัวโตๆ และไข่เจียวชะอมที่ทอดจนเหลืองกรอบ ยั่วยวนให้เกิดอาการน้ำลายสอขึ้นมาได้อย่างอัศจรรย์ ยิ่งตักราดบนข้าวหอมมะลิหุงร้อนๆ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ติดใจในรสเด็ดแบบหวานซ่อนเปรี้ยวเฉพาะตัวจนลืมไม่ลงจริงๆ

อีก เมนูแนะนำขึ้นชื่อ คือ "ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน" ที่แค่ยกมาวางตรงหน้า ก็ถึงกับผงะด้วยกลิ่นหอมฉุยของสมุนไพรเครื่องต้มยำ ทั้ง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ปรุงร้อนๆ ในน้ำมะพร้าวอ่อนเพื่อให้ได้รสหวานละมุนตามธรรมชาติ แล้วจึงจัดแจงใส่เห็ด น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำพริกเผา ตามด้วยกุ้งก้ามกราม และเนื้อมะพร้าวอ่อน เพื่อเพิ่มสัมผัสกลมกล่อม ก่อนใส่นมสดเสริมรสนุ่มชุ่มลิ้นเป็นอันครบสูตร

นอกจากนี้ยังมี "แกงบวน" แกงต้มเครื่องในหมู กับเคล็ดลับดับคาวด้วยกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ จากตะไคร้ ข่า หัวหอม และกระเทียม รสชาติกลมกล่อมเฉพาะตัว จนลืมไม่ลงจริงๆ หรือจะเป็น "แกงขี้เหล็ก หมูย่าง" ถึงเครื่องแบบไม่ขมเลยสักนิด

ด้าน จานแซบไม่หนักท้อง "พล่ากุ้งมะระสด" กุ้งตัวโตๆ เนื้อเด้งๆ คลุกเคล้าเข้ากับน้ำยำรสจัดจ้านถึงใจ ด้วยพริกขี้หนูสด ตะไคร้ซอย หอมแดง ใบมะกรูดซอย และมะระฝานบางๆ ให้อารมณ์เพลิดเพลินผ่านสัมผัสกรอบสดของกุ้ง และเนื้อมะระที่ชุ่มไปด้วยน้ำยำ 3 รส กำลังพอดี

กินคู่กับ "ข้าวผัดรถไฟ" โดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กรรมการอำนวยการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ราช ตฤณมัยสมาคมฯ ออกปากการันตีเป็นอาหารจานเดียวจานเด็ดประจำร้าน เพราะได้ไอเดียจากข้าวผัดซอสแดง ซึ่งนิยมขายบนรถไฟ คลุกเคล้าเครื่องปรุงรส เนื้อหมู มะเขือเทศ และซอสเย็นตาโฟ กับข้าวหอมมะลิพันธุ์ดี จนเป็นข้าวผัดสีชมพูสวย เสิร์ฟพร้อมไข่ดาว พริกขี้หนู ต้นหอมสด และมะนาว

ก่อน ปิดท้ายมื้ออร่อยด้วยเมนูพิเศษของร้านกาแฟสนามกอล์ฟราชตฤณมัยฯ ที่เชฟเมย์ปรุงถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เป็นประจำ กับ "โรลมะพร้าวอ่อน และน้ำฝาน" พร้อมด้วยเค้กโรลเนื้อนุ่มเนียน หอมกลิ่นใบเตยอ่อนๆ สอดไส้ครีมมะพร้าวอ่อนรสหวานละมุน เข้าคู่กับน้ำฝานหยดมะนาว สีชมพูอมม่วงระเรื่อ ไล่เฉดสีสวย

ที่ร้านยังเปิดขยายความอร่อยแบบ เกาะติดบรรยากาศ ขอบสนามม้าหญ้าเขียวขจี ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. พร้อมด้วยบริการบุฟเฟต์มื้อกลางวันแบบเต็มอิ่ม 250 บาท ต่อท่าน กับเมนูอาหารไทย-เทศ เลิศรสละลานตา ที่ห้องประดิพัทธภูบาล ชั้น 2 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น.

ผู้ใดสนใจสำรองโต๊ะ หรือสำรองห้องจัดเลี้ยง พร้อมรับส่วนลดร่วมฉลองโอกาสทองของ "ราชตฤณมัยสมาคมฯ ก้าวสู่ปีที่ 96" ระหว่างธ.ค. 2554 ถึงม.ค. 2555 โทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0-2280-1542 และ 0-2281-5390[/FONT]


-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEkxTVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB5TlE9PQ==-

.

 

.

[FONT=Tahoma,]ก๋วยจั๊บน้ำใส นายอ้วนเยาวราช

คอลัมน์ สวรรค์ในครัว
เขียงมะขาม


<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">
</td></tr></tbody></table>เริ่มต้นจาก 'ความไม่เชื่อ' แท้ๆ

คือไม่เชื่อข่าวโทรทัศน์ที่ประกาศเสียงดังแบบตกอกตกใจในช่วงน้ำท่วมว่า น้ำท่วมเยาวราชไปหมดแล้ว

หอบหิ้วกันไปทั้งครัว ไปดูด้วยตาตัวเองให้สิ้นสงสัยกันไป

อุแม่เจ้า-แห้งสนิท

วันแรกไปนั่งกินขนม ปังเจ้าอร่อยและเย็นตาโฟที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่ดันไม่ได้เอากล้องติดไป

เลยกลายเป็นกินเปล่าๆ

เอาใหม่

หนนี้ไปกันสองคนตายาย แถมลูกลิง(ยักษ์)อีก 3 ตัว

ตั้งเข็มเอาไว้เลยว่าจะไปกิน 'ก๋วยจั๊บนายอ้วน' ที่อยู่ตรงหน้าโรงหนังไชน่าทาวน์รามา

เนื่อง จากผบ.ทบ. (ส่วนตัว) ท่านประกาศหลักการว่า เคยกินแต่ในงานศพที่เจ้าภาพหิ้วไปใส่ถ้วยเอง ไม่เคยกินสดๆ ที่ร้านสักที งวดนี้ต้องไม่พลาด

ช่วงนี้ถึงจะเป็นวันธรรมดา แต่ที่จอดรถ หายาก

ที่ร้านนายอ้วนเขาบอกว่าน่าจะเป็นเพราะพิษน้ำท่วม คนอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองเยอะ

ปกติเก้าอี้ที่นั่งซึ่งไม่ค่อยจะว่างอยู่แล้ว เลยแน่นยิ่งกว่าเก้าอี้ดนตรี

และปกติร้านเขาเปิดขายตั้งแต่หกโมงเย็นถึงตีสาม แต่ช่วงนี้บางทีเที่ยงคืนก็เก็บร้าน เพราะขายหมด

เข้าเรื่องดีกว่า

ไป ถึงประมาณ สี่ทุ่ม มา 5 คน สั่ง ห้าชาม ข้าพเจ้า-หมูกรอบล้วนๆ ผบ.ทบ. -ทุกอย่างเต็มอัตรา ศึก ลิงยักษ์ 3 ตัวที่ กินข้าวเย็นมาแล้วสั่งเกาเหลาทุกอย่าง

สามลิงหมดก่อนแบบทำลายสถิติ

ส่วน ข้าพเจ้าและผบ.ทบ.เริ่มมีอายุ (แปลว่าแก่แล้ว) ได้ลมเย็นๆ ต้นหน้าหนาว ค่อยๆ ละเลียดน้ำซุปร้อนๆ รสเนียนแต่เข้มข้น และหอมร้อนด้วยพริกไทยที่ใส่มาชามหนึ่งแทบหมดกระปุก

หมูกรอบเขาเด็ดมาก ถึงขั้นไม่ได้กินจะเสียใจ

ส่วนเครื่องใน ไม่ว่ากระเพาะ ปอด ตับ คนที่เหลือในโต๊ะก็ยืนยันว่าสดหวาน

มีปาท่องโก๋ตัวจิ๋วให้แกล้มด้วย-หมดโต๊ะอีกเหมือนกัน

รายการนี้มีซ้ำแน่นอน

ส่วนท่านไหนเข้าไปเยาวราชไม่ถูก หรือกลัวหาร้านเขาไม่เจอ โทร.ไปก่อนที่เบอร์ 08-6508-9979

สั่งไว้ก่อนได้ แต่เขาไม่รับจองเก้าอี้นะ[/FONT]


-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNakkxTVRFMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHhNUzB5TlE9PQ==-

.

 

.

อร่อยนุ่มลิ้น 'บะหมี่แห้ง' รสเด็ดหอมชวนชิมเนื้อย่างจิ้มแจ่ว




























วันนี้ผมจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวและไปชิมอาหารที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเพียงแค่วันเดียว ผมได้ไปชิมอาหารมาหลายร้านเลยนะครับ เผอิญอดีตท่านทูตอิสราเอลซึ่งเป็นเพื่อนของผม ท่านมาเมืองไทยเพื่อมาเยี่ยมสามีของท่านซึ่งเป็นหมอและทำงานอยู่ที่จังหวัด เชียงใหม่ ท่านก็เลยแวะมาเยี่ยมเยือน ผมก็เลยขึ้นไปที่เชียงใหม่เพื่อพบกับท่าน ผมได้ไปเที่ยวและพักผ่อน รวมทั้งได้ไปกินข้าวกับท่านด้วยครับ

วันนั้นผมนัดเจอกันตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเลยครับ ก่อนที่ผมจะไปพบท่านในตอนเช้า ผมแวะไปทำบุญและได้ไปเจอร้านนี้ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ได้เชลล์ชวนชิมมาตั้งแต่ปี 2532 แล้วนะครับ เป็นร้านบะหมี่ชื่อว่า ลิ้มเหล่าโหงว ร้านนี้มีบะหมี่และลูกชิ้นปลาเย็นตาโฟที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งคุณพ่อของผมเคยไปชิมและให้เชลล์ชวนชิมมานานมากแล้ว โดยร้านนี้ได้มาออกร้านที่งานทำบุญ และเขายังให้ผมชิมบะหมี่ด้วยครับ

ผมได้ชิมทั้งบะหมี่น้ำและบะหมี่แห้งของเขาเลยนะครับ เมื่อผมได้ชิม บะหมี่น้ำ แล้ว ผมรู้สึกว่าเขาใส่ผงชูรสมากไปนิด ทำให้คอผมแห้งเลยครับ แต่น้ำแกงของเขาอร่อยครับ ส่วน บะหมี่แห้ง ของเขา ผมติดใจมากครับ เพราะอร่อยมาก ทั้งบะหมี่และลูกชิ้นของเขาเหนียวนุ่ม รสชาติดีจริง ๆ เมื่อผมจะปรุงรสบะหมี่แห้งในชามของผม เขาบอกว่าคุณหมึกแดงลองปรุงเหมือนคุณพ่อคุณหมึกแดงดูสิ คือแทนที่ผมจะใส่น้ำส้ม เขาบอกให้ใส่จิ๊กโฉ่วเข้าไปเล็กน้อยแล้วก็ใส่น้ำปลา แต่ไม่ต้องใส่น้ำตาล แล้วผมก็ลองชิมดู ปรากฏว่าอร่อยมาก ผมเลยบอกว่าเอาแบบนี้อีกชามหนึ่ง

สรุปว่าผมกินไป 3 ชาม คือ บะหมี่น้ำ 1 ชาม และบะหมี่แห้ง 2 ชาม พอกินอิ่มแล้ว ออกมาก็เริ่มง่วง แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้นัดกับท่านทูตเอาไว้ว่าเราจะไปกินกาแฟกัน ก็เลยนัดไปเจอกันที่ร้านกาแฟนิมมานเหมินท์ ซอย 11 ซึ่งเป็นร้านที่ผมรู้จักกับเจ้าของร้าน ซึ่งเขาจะมี 2 ร้าน ผมจำไม่ได้แล้วว่าอีกร้านหนึ่งอยู่ที่ซอยไหน

สำหรับร้านนี้ ชื่อว่า คอนเฟสโต้ ปรากฏว่าเมื่อผมไปถึงที่ร้าน ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี และเผอิญวันนั้นที่ร้านเขามีกาแฟที่ทำจากมูลชะมดด้วยครับ รวมถึงมีขนมที่อร่อยมาก และก็มีขนมหวานที่ทำจากกล้วยมีวิปปิ้งครีมอยู่ในนั้น รสชาติอร่อยมากเลยครับ

ผมได้ลองชิม กาแฟมูลชะมด ที่เขาเรียกว่า ฟิวชั่นคอฟฟี่ ซึ่งต้องใช้อุณหภูมิที่ถูกต้อง มีพิธีรีตองในการทำมากเลยครับ ราคาค่อนข้างสูงเหมือนกันครับ แก้วหนึ่งราคาประมาณ 500-600 บาท เมื่อผมลองชิมแล้วอร่อยมาก ส่วนท่านทูตดื่ม กาแฟคาปูชิโน่

สำหรับ เอสเปรสโซ่ ของที่ร้าน เขาตกแต่งถ้วยมาสวยมาก โดยเขาจะเทนมตกแต่งเป็นรูปอย่างสวยงามครับ ใครที่ชอบกินกาแฟ
จริง ๆ ที่นี่เหมาะมากครับ ส่วนขนมของเขาก็อร่อยครับ

หลังจากกินเสร็จแล้ว ผมนั่งคุยกับท่านทูตจนถึงเวลาไปกินข้าวเย็น โดยเพื่อน ๆ ของผมก็ไปกินด้วย ตกลงกันไปกินข้าวที่ร้าน ดาราบาร์ ซึ่งเป็นร้านของญาติผมเองครับ

เมื่อไปถึง ผมสั่ง เปาะเปี๊ยะปู ซึ่งทำมาเป็นแท่งยาว ๆ แปลกดีครับ มีน้ำจิ้มใส่ถ้วยน้ำชาที่ทำจากแก้วมาให้อย่างสวยงาม รสชาติใช้ได้ครับ อร่อยดี

หลังจากนั้น ก็ได้กิน ยำกุ้งสดพันปลาแซลมอนบนชิ้นส้ม ครับ โดยเอากุ้งไปพันกับปลาแซลมอนสด ๆ ครับ แล้วก็มีน้ำยำเอาไปราด แต่เขาวางไว้บนชิ้นของส้ม ต้องกินทั้งชิ้นเลยนะครับ รสชาติดีมาก แต่ผมว่าความเผ็ดยังไม่เผ็ดมากนัก เพราะสำหรับผมชอบกินของเผ็ดครับ

จากนั้น ก็สั่ง เนื้อย่างจิ้มแจ่วมากิน อร่อยมากครับ รู้สึกว่าเนื้อย่างจะนำเข้ามาจากออสเตรเลีย วันนั้นที่ไปกินกันส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ชอบกินเนื้อกันทั้งนั้น ก็เลยแย่งกันกินอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนท่านทูตมาจากประเทศอิสราเอล ท่านก็ชอบทานเนื้ออย่างมากเช่นกัน แต่เนื้อหมูท่านทานไม่ได้ เพราะเป็นชาวยิว ผมจึงสั่ง แกงเขียวหวานเนื้อกับโรตี ที่มีพริกขี้หนูโรยมาด้วย แต่ไม่ได้โรยพริกขี้หนูมามากนะครับ แต่ในความรู้สึกของผมเขาโรยมาน้อยมาก เพราะอย่างที่บอกสำหรับผมความเผ็ดขนาดนี้ยังไม่พอ แต่สำหรับท่านทูต ท่านบอกว่า กำลังดีเลยครับ

จานต่อมาผมสั่ง ปลาแซลมอนแดดเดียว โดยเขาจะเอาไปทอดมาเป็นชิ้นแบน ๆ เล็ก ๆ แล้วให้กินกับตำผลไม้คล้าย ๆ กับส้มตำผลไม้ เมื่อผมลองชิมดูก็เข้ากันดี รสชาติเข้มข้นดีมาก ๆ ครับ แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในวันนั้น คือ พริกขิงปลา ครับ เขาเอาปลาไปทอดและก็ผัดพริกขิง มีถั่วฝักยาวอยู่ในนั้นด้วย จานนี้อร่อยมาก ปลาที่เอามาใช้ทอดพริกขิง ชิ้นใหญ่พอสมควรครับ ผมเอาน้ำมาคลุกกินกับข้าวอร่อยเหลือเกิน

จานต่อมาเป็น ยำปลาหมึกย่าง ก็อร่อยดีนะครับ เราไปกันแค่ 3-4 คน สั่งอาหารกันมาเยอะมากเลยครับ แต่ก็กินหมดนะครับ เมื่อทานอาหารอร่อย ๆ อิ่มแล้ว พวกเราก็ไปหากาแฟกินตามเคย แล้วก็หาขนมกินด้วยครับ

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะไปชิมอาหารที่ร้านนี้กันดูนะครับ หรือถ้าขึ้นไปเชียงใหม่ก็ลองไปชิมบะหมี่ก็ได้สำหรับใครที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยว แล้วก็ตบท้ายด้วยกาแฟนะครับ.

................................

เข้าครัวกับหมึกแดง : กุ้งย่าง

เครื่องตำสำหรับหมัก

- รากผักชีสับ 2 ราก

- กระเทียม 5 กลีบ

- พริกไทยขาวเม็ด 10 เม็ด

วิธีทำ

1. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เข้าด้วยกันให้ละเอียด พักไว้ ใช้สำหรับหมักกุ้ง

เครื่องปรุงกุ้งย่าง

- เครื่องที่โขลกแล้ว 2 ช้อนโต๊ะ

- นํ้าปลา 2 ช้อนโต๊ะ

- กุ้งแม่นํ้าผ่าครึ่ง 4 ตัว

- เนยสดจืด 100 กรัม

- ขนมปังฝรั่งเศส ตามต้องการ

วิธีทำ

1. ในชามผสม ใส่เครื่องที่โขลกแล้ว ผสมกับนํ้าปลาให้เข้ากัน แล้วนำกุ้งลงไปหมักทิ้งไว้ 5 นาที

2. นำกระทะแบน ตั้งไฟพอร้อน ใส่เนยสดลงไป นำกุ้งที่หมักไว้ เอาส่วนเนื้อลงไปนาบในกระทะพอสุก แล้วกลับอีกข้างหนึ่ง นาบให้สุกทั้งสองข้าง ตักขึ้นใส่จานเสิร์ฟ นำนํ้ามันเนยที่เหลือจากการนาบกุ้ง ราดลงไปบนตัวกุ้ง จัดเสิร์ฟพร้อมขนมปังฝรั่งเศส

................................

ชิมให้เป็น : การชิมกาแฟ

เวลาเราชิมกาแฟที่มีชื่อเสียง รสชาติจะเป็นอย่างไร อันนี้แล้วแต่ว่าเป็นกาแฟของชาติไหน ในความรู้สึกของผมถ้าเป็นกาแฟของอเมริกา คนอเมริกันจะชอบดื่มกาแฟที่ออกเปรี้ยว ๆ เล็กน้อย และก็ไม่อร่อยเลย แต่คนอเมริกาจะชอบให้รสกาแฟออกมาอย่างนี้

ส่วนคนยุโรปจะกินกาแฟที่เข้มข้นมาก อย่างคนอิตาเลียน โดยกาแฟจะหอม แต่รสชาติไม่ได้ขมมากจนเกินไปนัก แต่ถ้าเป็นไปได้ต้องลองชิมกาแฟที่ไม่ใส่อะไรเลย หมายความถึงกาแฟดำ และต้องมีฟองอยู่ข้างบนด้วยนะครับ ที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า เฮด แปลเป็นไทยว่า หัว นะครับ ซึ่งถ้าไม่มีฟอง แสดงว่าไม่ใช่กาแฟสด การดื่มกาแฟดำจะทำให้ได้รู้ถึงรสชาติของกาแฟชนิดนั้นอย่างแท้จริงว่ารสชาติ เป็นอย่างไร

กาแฟผงนั้น สมัยนี้เขาไม่กินกันแล้ว เพราะไม่อร่อย ไม่มีรสชาติ และไม่ได้ความหอม ถ้าอยากดื่มกาแฟดี ๆ จริง ๆ ก็ต้องเลือกกินและต้องมีลิ้นที่รู้รสว่ากาแฟชนิดนี้คือกาแฟอะไร เป็นของชาติในแถบใด เพราะกาแฟของแขกขาว อย่างตุรกี ก็อีกแบบหนึ่งนะครับ จะมีรสชาติที่เข้มข้นมาก ๆ แล้วช้อนที่ใช้คนกาแฟนั้นทิ้งไว้ในถ้วยเลย ช้อนจะตั้งได้เอง เพราะข้างใต้ตรงก้นของถ้วยยังมีกาแฟที่ป่นอยู่นั่นเองครับ

เพราะฉะนั้น รสชาติของกาแฟจะขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศว่าเราไปดื่มกาแฟที่ไหน ประเทศอะไร แต่รสนิยมของคนดื่มกาแฟที่ดี จะต้องรู้จักว่ากาแฟที่ดื่มเข้าไปนั้นดีหรือไม่ เป็นกาแฟที่มีคุณภาพดีหรือเปล่า.

หมึกแดง

-www.mcdangguide.com-

-http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=177758-

.

 

.

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ปฐมโอชา” เลิศรสก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น</TD><TD vAlign=baseline align=right width=102></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 ธันวาคม 2554 16:06 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="http://platform.twitter.com/widgets.js" type=text/javascript></SCRIPT>


<SCRIPT src="https://apis.google.com/js/plusone.js" type=text/javascript> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> คำว่า “โอชา” ที่แปลว่า “อร่อย” นั้นใช้กับอาหารเลิศรสทั้งหลายที่เมื่อผ่านการลิ้มลองแล้วก็ต้องบอกว่า “อร่อยมาก” อย่างร้านไหนที่ใช้ชื่อว่าโอชา ก็สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าต้องอร่อยแน่นอน เหมือนร้านที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะพาไปลองชิม ก็ใช้ชื่อว่า “ปฐมโอชา” ที่เมื่อลองชิมแล้วต้องบอกว่าโอชาในเรื่องก๋วยเตี๋ยวเป็ดจริงๆ

ร้าน “ปฐมโอชา” เปิดมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 (ลองนับดูกันเล่นๆ ว่ากี่ปี) โดย คุณนิวัฒน์ รุ่งรักไทย เป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งนอกจากชื่อที่มาจาความโอชาแล้ว คำว่าปฐมที่นำมาใช้นั้นก็มาจากการที่คุณนิวัฒน์เป็นชาวนครปฐมที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็ดนั่นเอง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต้มยำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ก๋วยเตี๋ยวเป็ดของร้านนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นสไตล์จีน เป็นเป็ดตุ๋นน้ำแดง ที่ในภายหลังพลิกแพลงมาเพิ่มเติมหมูกรอบ และปรุงรสเป็นต้มยำลงไปเพิ่มความอร่อยแปลกใหม่ด้วย

สำหรับน้ำซุปที่ใช้ทำก๋วยเตี๋ยวจะเคี่ยวจากกระดูกเป็ดผสมกับกระดูกหมู และเนื้อเป็ด เคี่ยวพร้อมกับเครื่องยาจีนและเครื่องเทศไทย ปรุงรสตามสูตรของทางร้าน ก็จะได้น้ำซุปแดงยาจีนที่หอมชวนกิน ส่วนเป็ดนั้นเลือกใช้เป็ดไทย เป็นเป็ดแก่นำมาต้มกับน้ำ แล้วสับเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ตุ๋นกับน้ำซุปให้เข้าเนื้อ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเป็ดแห้งต้มยำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนเครื่องในเป็ด ทั้งกึ๋น ไส้ และตับ นำมาทำความสะอาดแล้วต้มกับน้ำซุป นอกจากนี้ก็ยังมีหนังหมู ที่นำไปใส่ในก๋วยเตี๋ยวก็นำมาตุ๋นกับน้ำซุปเช่นกัน ส่วนหมูกรอบ ที่อร่อยไม่แพ้เป็ดตุ๋นนั้นเลือกใช้หมูสามชั้น หมักกับเครื่องเทศ ปรุงรส แล้วนำไปทอด

ดูเครื่องเคราส่วนผสมกันไปแล้ว ก็ต้องลองชิมของจริงว่าจะโอชาแค่ไหน เริ่มจากเมนูเด็ด ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต้มยำ (45 บาท) ที่มีเส้นให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และบะหมี่ ใส่เครื่องเคราทั้งเป็ดตุ๋น หมูกรอบ หมูสับ กุ้งแห้ง หนังหมู เลือดเป็ด เห็ดหอม ไส้ กึ๋น และตับ ใส่น้ำซุปแดงยาจีน ปรุงรสใส่น้ำตาลทราย พริกป่น ถั่วป่น และมะนาว ลองชิมรสชาติแซ่บอร่อยโดนใจ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เป็ดตุ๋นและไส้เป็ด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หรือถ้าสั่ง ก๋วยเตี๋ยวเป็ดแห้งต้มยำ (45 บาท) ก็ใส่เครื่องเครามาเหมือนกัน และปรุงรสต้มยำได้จัดจ้าน หอมมันถั่วป่น แล้วขอน้ำซุปร้อนๆ มาซดก็ยิ่งอร่อย เครื่องในไม่เหม็นไม่คาว เคี้ยวนุ่มปาก เลือดเป็ดนุ่ม หมูกรอบกรอบอร่อย

ส่วนใครที่อยากลองลิ้มเนื้อล้วนๆ ให้อิ่มใจ ก็ต้องสั่ง เป็ดตุ๋น (60 บาท) ที่มีให้เลือกทั้งเนื้อเป็ด ปีก ขา คอ และลิ้น หรือจะเลือกผสมกันก็ได้ ชิมแล้วเนื้อนุ่ม ไม่แข็งไม่สาบ หอมกลิ่นยาจีน หรือจะชิม ไส้เป็ด (60 บาท) ที่เคี้ยวแล้วเด้งกรุบกินเพลิน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เป็ดพะโล้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> แล้วยังมี เป็ดพะโล้ (60 บาท) ที่ทางร้านจะใช้เป็ดเชอรี่มาตุ๋นกับเครื่องพะโล้อยู่เกือบชั่วโมง จากนั้นก็แล่ออกมาเป็นชิ้นๆ ให้กินง่าย ลองชิมเป็ดเนื้อนุ่มอร่อย ได้รสชาติเค็มนิดๆ กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็ยิ่งอร่อย แต่ถ้าไม่พอก็ขอแนะนำให้สั่ง หมูกรอบ (60 บาท) มากินคู่กันด้วย จะได้ความกรอบนอกนุ่มใน รสชาติโดนใจจริงๆ

อร่อยโอชา ถูกใจถูกปากแบบนี้ ก็ต้องมาชิมก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นกันที่ร้าน “ปฐมโอชา” ซึ่งนอกจากจะมีที่สาขา ถ.กาญจนาภิเษกแห่งนี้แล้ว ก็ยังมีอีกสาขาที่ ถ.ราชพฤกษ์ อีกด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หมูกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “ปฐมโอชา” ตั้งอยู่ที่ 443 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. การเดินทางจาก ถ.บรมราชชนนี ให้เลี้ยวเข้าสู่ ถ.กาญจนาภิเษก มุ่งหน้าเดอะมอลล์บางแค ผ่านเดอะมอลล์ ขึ้นสะพานข้ามถนนเพชรเกษม วิ่งตรงไป จากนั้นให้กลับรถที่สะพานกลับรถ แล้วชิดซ้าย สังเกตซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนนก่อนถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม มีป้ายให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น. โทร. 0-2803-5431, 08-1832-2768 ส่วนสาขา ถ.ราชพฤกษ์ มุ่งหน้าออก ถ.บรมราชชนนี จะอยู่ทางซ้ายมือ โทร. 08-1912-4245, 08-9494-0696 สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ ร้านปฐมโอชา สาขา ถ.กาญจนาภิเษก ปิดวันที่ 31 ธันวาคม 2554 - 4 มกราคม 2555 ส่วนสาขา ถ.ราชพฤกษ์ เปิดทุกวัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ปฐมโอชา”


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ปฐมโอชา

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต้มยำ,ก๋วยเตี๋ยวเป็ดแห้งต้มยำ,เป็ดตุ๋นและไส้เป็ด,เป็ดพะโล้,หมูกรอบ

บรรยากาศร้าน : ร้านห้องแถวริมถนน

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 443 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. การเดินทางจาก ถ.บรมราชชนนี ให้เลี้ยวเข้าสู่ ถ.กาญจนาภิเษก มุ่งหน้าเดอะมอลล์บางแค ผ่านเดอะมอลล์ ขึ้นสะพานข้ามถนนเพชรเกษม วิ่งตรงไป จากนั้นให้กลับรถที่สะพานกลับรถ แล้วชิดซ้าย สังเกตซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนนก่อนถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม มีป้ายให้เห็นชัดเจน

สถานที่จอดรถ : บริเวณด้านหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2803-5431, 08-1832-2768

ส่วนสาขา ถ.ราชพฤกษ์ มุ่งหน้าออก ถ.บรมราชชนนี จะอยู่ทางซ้ายมือ โทร. 08-1912-4245, 08-9494-0696
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000161300-


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000161307-

.

 

.
“บะหมี่เกี๊ยวหมูทอด-เกี๊ยวกุ้งหมูรวม”รสกลมกล่อมหอมนุ่มลิ้น













































ใครชอบกินเส้นเชิญทางนี้ เพราะจะชวนไปลิ้มรสบะหมี่เหนียว-เกี๊ยวนุ่ม ที่ร้าน “มังกรคู่” เจ้าอร่อย หน้ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (ประตูหน้า) ปรุงแต่งหลากสไตล์ด้วย “หมูทอด หมูแดง และหมูกรอบ” สูตรเด็ด สำหรับเมนูที่ “เดลินิวส์แคมปัส” เลือกอร่อยก็คือ “บะหมี่เกี๊ยวหมูทอด และเกี๊ยวกุ้งหมูรวม” ชามยอดนิยมของบรรดานักศึกษา
โดย คุณธัชกร ศรีอ่อน เจ้าของร้าน เผยว่า “หมูทอด” จะคัดสรรพิเศษจากเนื้อหมูสันนอก นำมาหมักคลุกเคล้าด้วยเครื่องปรุงสูตรของร้านรสชาติไทย ๆ จากนั้น เก็บเข้าตู้เย็นข้ามคืน ก่อนทอดจะคลุกไข่ และเกล็ดขนมปังอีกครั้ง ทำให้เนื้อหมูกรอบนอกนุ่มใน ฉ่ำรสเครื่องปรุง ทอดสดใหม่ทุกวัน สำหรับ “หมูแดง” ใช้เนื้อสันนอกปรุงรสเฉพาะเช่นกัน ส่วน “หมูกรอบ” เป็นหมูสามชั้นต้มสุกแล้วทอดน้ำมัน เพื่อไม่ให้เลี่ยน รับประทานกับบะหมี่เหนียว หรือ เกี๊ยวนุ่ม กลมกล่อมด้วยน้ำซุปต้มกระดูกหมู และโครงไก่ ได้รสชาติหวาน ส่งกลิ่นหอมชวนหิว

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเมนู รวมถึง “ข้าวหน้าหมูต่าง ๆ” รอ ให้แวะมาอิ่มอร่อย ทั้งข้าวหมูทอด หมูแดง หมูกรอบ และหมูรวม น้ำราดรสชาติเค็ม-หวานกลมกล่อม สะอาด เยอะจุใจ ราคาไม่แพง เปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ 07.00-18.00 น. หยุดวันอาทิตย์.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์


-http://www.dailynews.co.th/citizen/6991-


.

 

.

ก๋วยเตี๋ยวเรือสมุนไพร ซุปหอมข้น-ร้าน'กาลนาน'

อิ่มอร่อย


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>กลับมาอิ่มอร่อยกับเมนูก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง เพราะมีมากมายหลายร้านที่ต่างพัฒนาสูตรน้ำซุปให้โดดเด่นดึงดูดลูกค้า

ร้าน "กาลนาน" ก๋วยเตี๋ยวเรือสมุนไพร ในห้างเซ็นทรัล พระรามสอง เปิดให้บริการมากว่าสิบปี

คุณเสาวนีย์ เงาวะบุญพัฒน์ เจ้าของร้าน กล่าวว่า ทางร้านเปิดกิจการขายก๋วยเตี๋ยวเรือ มีแต่เนื้อหมู น้ำข้น โดยน้ำซุปได้รับการถ่ายทอดมารุ่นต่อรุ่น จนมาถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นสูตรดั้งเดิมอยู่

เน้นเครื่องสมุนไพรจีน และส่วนของกระดูกป๊วยเล้งหมูวันละกว่า 10 กิโลกรัม ต้มเป็นน้ำซุป เคี่ยวกว่า 3 ชั่วโมงทุกวัน จึงทำให้ได้น้ำซุปที่เข้มข้น หอมหวานน้ำต้มกระดูก และหอมเครื่องสมุนไพรจีน ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน

ลูกค้าที่มากินที่ร้านส่วนใหญ่จะสั่งเส้นใหญ่ น้ำตกหมู ทางร้านเน้นความสดของเนื้อหมูนำมาหมักจนเนื้อหมูนุ่ม ละมุนลิ้น เนื้อหมูเปื่อย ก็เป็นที่ชื่นชอบอีกเช่นกัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=right border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เพราะใช้ส่วนเนื้อหมูติดเอ็นเล็กน้อย ตุ๋นด้วยเครื่องปรุงสมุนไพรจีนนานกว่า 4 ชั่วโมง ทำให้น้ำเครื่องปรุงค่อยๆ ซึมเข้าไปในเนื้อหมูจนหอมหวาน

ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยใบโหระพา ทางร้านแนะนำว่าควรชิมก่อนแล้วจึงค่อยปรุง เพราะว่ารสชาติของน้ำซุปมีความเข้มข้นอยู่แล้ว

ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง ใส่เนื้อหมูทุกอย่าง ประกอบด้วย เนื้อหมูสด เปื่อย ตับ ลูกชิ้นหมู โดยเส้นเล็กนั้นทางสั่งจากร้านเจ้าประจำที่ซื้อขายกันมานาน เพราะเส้นก๋วยเตี๋ยวมีความพิเศษตรงที่ความนุ่ม เหนียว เมื่อกินคู่กับเนื้อหมูหมัก ของทางร้านเข้ากันได้อย่างลงตัว ทางร้านมีน้ำซุปบริการให้ด้วย

เนื้อหมูรวมลวกจิ้ม เป็นเมนูยอดฮิตอีกเช่นกัน เพราะได้กินเนื้อหมูของทางร้านแบบเต็มๆ คำ ทางร้านใส่ในชามรูปก๋วยเตี๋ยวเรือ มีทั้งเนื้อหมูสด เปื่อย ตับหมู ลูกชิ้นหมู โรยด้วยกระเทียมเจียวเล็กน้อย กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน แกล้มด้วยใบโหระพา 1 ชาม กินได้ 2-3 คน

เกาเหลาหม้อไฟ ถือว่าเป็นเมนูเด็ดของทางร้านเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินเส้น ทางร้านจัดมาเป็นหม้อไฟร้อนๆ รวมเนื้อหมูทั้งหมดอยู่ในหม้อนี้ ใช้ถั่วงอกและใบโหระพาเป็นผักแกล้ม กินคู่กับน้ำจิ้มของทางร้าน และข้าวสวยร้อนๆ 1 หม้อกินได้ 3-4 คน หากต้องการกินลูกชิ้นหมูอย่างเดียว ทางร้านจัดเมนูลูกชิ้นหมูปิ้ง กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรเข้มข้น 1 ชุด มี 5 ไม้ ทางร้านยังมีหนังปลาแซลมอน และแคบหมู ให้กินคู่กับก๋วยเตี๋ยว เข้ากันได้เป็นอย่างดี

คุณเสาวนีย์บอกถึงเคล็ดลับความอร่อยของก๋วยเตี๋ยว ว่าจะต้องดูแลเองทุกขั้นตอนก่อนที่จะออกมาให้ลูกค้าได้กิน ตั้งแต่การคัดเลือกหมูที่เหมาะกับทางร้าน การต้มน้ำซุปที่มีความเข้มข้น และมีรสชาติที่เหมือนกันทุกวัน ความสด สะอาดของวัตถุดิบ และความเอาใจใส่ในการดูแลบริการลูกค้าที่เป็นกันเอง

ทางร้านมีให้บริการหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นสาขาเซ็นทรัล พระราม 2 สาขาพาราไดซ์ พาร์ค และสาขาซีคอนสแควร์ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. สอบถามได้ที่โทร.0-2721-8513, 0-2872-4648


-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEV6TURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB4TXc9PQ==-

.

 

.

[FONT=Tahoma,]ก๋วยเตี๋ยวเรือน้าชู ต้มยำ-เด็ดขาด

สวรรค์ในครัว
เขียง มะขาม


<table width="360" align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5"><tbody><tr><td valign="top" align="center" bgcolor="#E0E0E0">
</td></tr></tbody></table>กับร้านนี้เหมือนมี 'ดวงลิเก' ต่อกัน

คือรบกันด้วยการแทงสวนไปมา ไม่มีโอกาสได้ปะทะกันซึ่งหน้าเสียที

ไปถึงร้าน ร้านปิด วันที่ไม่ว่าง ทั้งบ้านดันยกพวกไปกินแล้วส่งรูปมาเย้ย

จนสองสามวันก่อน มีธุระแวะเวียนไปแถวคลองประปาตั้งแต่เช้านั่นแล ถึงได้ฤกษ์บุกไปหา 'ก๋วยเตี๋ยวน้าชู' กันแบบซึ่งๆ หน้าเสียที

ก่อนอื่นขอบอกว่าในซอยพิบูลวัฒนา หรือที่เรียกกันติดปากว่าซอยแฟลตพิบูลฯ หลังกระทรวงการคลังนั้น

เขาติดตลาดแบบปิดถนน และให้เดินรถวันเวย์แทบทั้งซอยทุกวันทำงาน

ถ้าไม่ใช่คนแถวนั้นจริงๆ อย่าเอารถส่วนตัวไป นั่งแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก หรือมอเตอร์ไซค์ไปง่ายกว่า

ไปถึงก่อนเที่ยงเล็กน้อย แต่คนเดินกันเต็มซอยแล้ว

รีบควงผบ.ทบ.ส่วนตัวเข้าไปจองที่ในร้านแล้วสั่งทันที หมี่ต้มยำหมูมาคนละหนึ่งก่อน

ขอแจ้งว่านี่คืออีกร้านที่ต้องชิมก่อนปรุง เพราะน้ำซุปเขาหวานหอมและปรุงรสมาอยู่มืออยู่แล้ว

เว้นแต่ท่านจะชอบรสอะไรที่แหลมจัดกว่าคนทั่วไป ก็ตามอัธยาศัย

ชามแรกไปได้ 2 คำ สั่งหมี่น้ำตกเนื้อของตัวเองและเกาเหลายำหมูสำหรับ ผบ. มารอไว้ก่อน

จะได้ไม่ขาดตอน-ฮา

ไหนๆ มายากเย็นนักหนา สั่งใหญ่แห้งยำและเล็กแห้งยำตามมาติดๆ

ไม่มีผิดหวัง

เส้นลวกกำลังดี ปรุงรสเข้าเนื้อ แซบได้ใจทุกชาม

อ้อ แคบหมูก็อร่อย

คุ้มราคาก๋วยเตี๋ยว 25 เกาเหลา 35

ถามว่า 'น้าชู' นี่ใคร ตอบว่าแม่เจ้าของร้าน ที่เป็นต้นตระกูลขายก๋วยเตี๋ยวในคลองสามเสนและอนุสาวรีย์ตั้งแต่ 40 กว่าปีก่อน

ก่อนลูกหลานจะยกพลขึ้นบก และขยายกิจการใหญ่โต วันนี้มีสาขาอีกร้านอยู่ที่เสนาเซ็นเตอร์ ลาดปลาเค้า

ไปไม่ถูกโทร.ถามได้ ร้านซอยแฟลตพิบูลฯ 0-2618-6600 ร้านลาดปลาเค้า 08-6555-2843

เขารับออกร้านด้วยนะจ๊ะ ถ้า 200 ชามขึ้น[/FONT]


-http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNakl3TURFMU5RPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1pMHdNUzB5TUE9PQ==-

.

 

น่ากิน

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="477"><colgroup><col width="477"></colgroup><tbody><tr height="17"> <td class="xl24" style="height:12.75pt; width:358pt" height="17" width="477" align="left">งาน parttime</td> </tr></tbody></table>

 

.


ก๋วยเตี๋ยว“แซว(ซะอย่าง)”คุณภาพคับชาม

วันพุธที่ 25 มกราคม 2555 เวลา 00:00 น.



































เป็นหนึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวเลื่องชื่อย่านสุขุมวิท สำหรับ “แซว” นอกจากจะขายมานานกว่า 30 ปีแล้ว ยังมีเอกลักษณ์เด่นอยู่ที่รสอร่อยในแบบฉบับของตัวเอง โดยวัตถุดิบผ่านการคัดสรร เน้นคุณภาพ และความสะอาดมาก่อนสิ่งอื่นใด
หนึ่งในสูตรเด็ดอยู่ที่ “น้ำซุปกลิ่นหอมชวนหิว” ซึ่งได้จากการเคี่ยวกระดูกหมูจนเปื่อย และใช้น้ำซุปหม้อเดียวกันนี้ลวกทั้งเนื้อหมู-ตับ ด้วยฝีมือผสานเทคนิคทำให้น้ำซุปที่เสิร์ฟไม่คาว-ขุ่น แถมได้รสหวานกลมกล่อมซดชุ่มคอ


สำหรับเมนูขึ้นชื่อมีหลายอย่าง ทั้ง “เส้นเล็กต้มยำ” อัด แน่นด้วยเส้นเล็กเหนียวนุ่ม เนื้อหมู หมูสับปรุงรส ตับหมูนุ่มหวานไม่แข็ง ลูกชิ้นปลา-ฮือก้วยเนื้อนิ่มเคี้ยวเด้ง ลูกชิ้นกุ้งเนื้อเน้น ๆ ถั่วลิสงคั่วใหม่วันต่อวัน รวมถึงพริกคั่วกลิ่นหอมเผ็ดกำลังดี ซึ่งคัดเลือกจากร้านคุณภาพเจ้าประจำ ปรุงตามสูตรของทางร้านได้รสจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดเกินไป รับประทานโดยไม่ปรุงเพิ่มก็อร่อยถึงใจ และสามารถเพิ่มความซี๊ดซ๊าดให้รสต้มยำได้อีกกับน้ำมะนาวสดที่วางประจำอยู่ ทุกโต๊ะ


ต่อด้วย “บะหมี่แห้งต้มยำ” ที่มีเส้นให้เลือก 2 แบบ ทั้งกลม และแบน จากเส้นเน้นใส่ไข่เยอะ ลวกแล้วจึงเหนียวนุ่ม ได้สีเหลืองนวลชวนกิน เมนูถัดมาเป็น “เส้นใหญ่เย็นตาโฟ” เครื่องเยอะทั้งเส้นใหญ่นุ่มลื่น ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย เต้าหู้ เลือดหมู ปลาหมึกกรอบเนื้อนุ่มเคี้ยวง่าย ผักบุ้งสดใหม่ก้านเขียวอวบ น้ำซอสเย็นตาโฟเข้มข้นรับประทานกลมกล่อมเข้ากับน้ำซุปหอมหวาน


นอกจากนี้ ยังมีกากหมู หนังปลาทอดกรอบ รวมทั้งสารพัดน้ำที่ทางร้านทำเอง ทั้งวุ้นใบเตยกลิ่นหอมอ่อน ๆ โอเลี้ยง เก๊กฮวย ลำไย ดื่มชุ่มชื่น แก้กระหาย ให้ลูกค้าสั่งรับประทานคู่ก๋วยเตี๋ยวอร่อยลงตัว รับรองติดใจจนยากจะลืม

ร้านอยู่ต้น ซ.สุขุมวิท 49 เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ 07.00-16.00 น.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์



-http://www.dailynews.co.th/citizen/9053-

.

 

.


ราดหน้ากวางตุ้ง รสเด่นเด็ด ที่ร้าน ราดหน้าหลับจับ

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 00:00 น.



























อาหารจานเดียวประเภทราดหน้า โกยซีหมี่ สุกี้น้ำ อาหารจานเดียวหาทานได้แบบง่ายดายตามร้านทั่วไป ที่มีบริการเมนูประเภทนี้ ถ้าจะพูดถึงราดหน้าหลับจับ ราดหน้าแบบกวางตุ้ง หาทานได้ไม่ง่ายนัก ถ้าคิดอยากสัมผัสรสชาติ ต้องไปที่ ร้านราดหน้าหลับจับ ปากซอยถนนจันทน์ 20 เป็นร้านตึกแถวริมถนนจันทน์ สะพาน 3 ตรงข้ามซอยถนนจันทน์ 31

เปิดดูเมนู แม่พลอยได้รู้ถึงความหมายของ “หลับจับ” ภาษาจีนกวางตุ้ง แปลว่า ราดหน้ารวมมิตร มี หมูหมัก หมูแดง ปลาหมึกสด ปลาหมึกแช่ กุ้งสด และคะน้า พอรู้ความหมาย หลับจับคืออะไร ไม่พลาดที่จะลองสั่ง หลับจับหอ หรือ เส้นใหญ่ราดหน้ารวมมิตร มาลองลิ้มรสดู ไม่มีผิดหวัง เส้นใหญ่ที่ไร้ซีอิ๊วดำผสมผัดกับน้ำมันหอย ได้ความหอมกรุ่น จากก้นกระทะ เนื้อหมูส่วนตะโพกหมักจนได้ความนุ่มพอดี กุ้งทะเล และหมึกเน้นความสดไร้กลิ่นคาว น้ำราดหน้า ราดมาแบบขลุกขลิก รสชาติเค็มนำหวาน แต่กลมกล่อม

ถ้าชอบทานโกยซีหมี่ แนะนำให้ลองโกยซีหมี่รสมือร้านนี้ จะติดใจเส้นบะหมี่นุ่ม เข้ารสชาติกับหน่อไม้หั่นยาวเป็นเส้นเล็ก ๆ และเห็ดหอม มีให้เลือกสั่งทั้ง โกยซีหมี่ปู โกยซีหมี่ทะเล โกยซีหมี่รวมมิตร และโกยซีหมี่ไก่ เส้นใหญ่คั่วรวมมิตร หน้าตาคล้ายก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ แต่ใส่กุ้งทะเล ปลาหมึก ลงแทนเนื้อไก่เท่านั้น รสชาติชวนติดใจ โดยเฉพาะเส้นใหญ่ที่ผัดจนหอมกรุ่นละมุนลิ้น

สุกี้น้ำและสุกี้แห้ง ไม่อยากให้มองข้าม หน้าตาอาจดูจืดชืด แต่รสชาติที่รอการค้นหาความอร่อยคือ น้ำจิ้มสุกี้ ที่ปรุงด้วยเครื่องปรุง 17 ชนิด จนได้น้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยว เผ็ด หวาน เค็มกลมกล่อมจนใครต่อใครติดใจ

เมนู จับหวุ่ยฟาน หรือ ข้าวผัดราดหน้ากวางตุ้ง ในความหมายของ จับหวุ่ยฟาน เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง หมายถึง ข้าวผัดไม่ใส่เนื้อสัตว์ แล้วราดหน้าด้วยหลับจับ หรือจะเป็นไข่ หมู กุ้งแล้วแต่จะชอบ ถ้าชอบทานสองสิ่งนี้ในจานเดียวกัน สามารถสั่งมาทานได้อิ่มหนำแบบทานข้าวไปพร้อมกับราดหน้ารสชาติดีไม่แพ้กัน
ถ้าอยากลองทานของไทย ที่เป็นข้าวราดด้วยกับข้าวหนึ่งอย่าง แนะนำ ข้าวผัดพริกปู เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเดียวที่นักชิมชอบสั่งมาทานเป็นอันดับหนึ่ง มีให้เลือกทั้ง ข้าวผัดพริกปู และข้าวกะเพราปู ของดีเด่น อยู่ที่เนื้อปูสดแน่นผัดเข้าเครื่องปรุงไม่ออกเผ็ดมาก ทานแล้วอิ่มเอมในรสชาติที่เน้นเนื้อปูแบบเต็ม ๆ คำ
ปิดท้ายสาคูไส้กุ้ง สาคูไส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ ที่มีขายในร้านรถเข็นชื่อ “ทำเพื่อลูก” ตั้งอยู่หน้าร้านราดหน้าหลับจับ รสชาติดี สีสันออกเขียวและม่วงเพราะทำมาจากใบเตยและดอกอัญชัน สั่งมาทานได้ในร้านหรือสั่งกลับบ้านก็ได้ไม่ผิดกฎ

ร้านราดหน้าหลับจับ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-03.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2212-4422 และ 08-1826-2876

ถ้าไม่คิดอยากเดินทางไปถึงถนนจันทน์ ตรงไปร้านราดหน้าหลับจับสาขาที่ 2 ย่านเหม่งจ๋าย 08-0554-2266 และ 08-0554-2244.

เรื่อง : แม่พลอย / ภาพ : สุพัตรา เมตะศิริ


-http://www.dailynews.co.th/article/381/10631-

.

 

.

“ขนมจีนบ้านคุณย่า” สูตรเด็ดหลากเมนู <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">5 กุมภาพันธ์ 2555 17:50 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">บรรยากาศร้านขนมจีนบ้านคุณย่า</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> จะว่าไปวันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว นี่ก็ผ่านเดือนแรกของปีแล้ว ฉะนั้น หากว่าจะทำอะไรก็ต้องรีบทำ ไม่เช่นนั้นเวลาจะผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ อย่าง “ผ่านมาแวะกิน” ก็ต้องรีบหาของกินอร่อยๆ มาสนองความอยากของตัวเองโดยพลันเพื่อไม่ให้เสียเวลา อย่างในมื้อนี้ก็มีของอร่อยที่ถูกปากถูกใจ ต้องรีบแวะเวียนไปลองชิมกันที่ร้าน “ขนมจีนบ้านคุณย่า” บน ถ.สนามบินน้ำ

ร้าน “ขนมจีนบ้านคุณย่า” ปรับปรุงบ้านไม้เดิมขึ้นมาเปิดเป็นร้านอาหารแบบที่เห็นในปัจจุบัน ด้วยแหล่งที่ตั้งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับกระทรวงพาณิชย์นั้นก็ทำให้ในช่วงเที่ยง วันจะมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาอย่างเนืองแน่น แต่แม้ว่าไม่ใช่คนในละแวกนี้ ก็ยังตั้งใจตรงมาชิมของอร่อยกันอยู่ไม่ขาดสาย

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">ขนมจีนและน้ำยาที่น่าลิ้มลอง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ซึ่งสูตรเด็ดความอร่อยนั้นเริ่มจากขนมจีน ที่เป็นไฮไลต์ของร้าน ขนมจีนของร้านนี้เป็นสูตรที่มาจากทาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แต่ได้ปรับเปลี่ยนให้ถูกกับปากคนกรุง จึงได้สูตรเด็ดพิเศษเฉพาะตัวขึ้นมา ขนมจีนที่ใช้เป็นขนมจีนเส้นหมักอย่างดี ที่เคี้ยวแล้วเหนียวนุ่มถูกปาก ซึ่งขายกันในราคาจานละ 30 บาท (เป็นขนมจีนตักน้ำยาราด) หรือจะสั่งขนมจีนเปล่า (จานละ 5 บาท) พร้อมกับน้ำยา (ถ้วยละ 30 บาท) ผักเครื่องเคียง และจะกินคู่กับ ไข่ต้ม (ฟองละ 5 บาท) เพิ่มความอร่อยก็ยังได้

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">ข้าวซอยไก่</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ในแต่ละวันนั้นจะมีน้ำยาถึง 5 ชนิด ให้เลือกลองชิมกัน อย่างถ้วยแรกที่ได้ลองชิมคือ น้ำยากะทิ ที่ ทางร้านใช้เนื้อปลาทะเลปรุงรวมกับเครื่องแกงที่โขลกขึ้นเอง เน้นที่ความเข้มข้นแต่นุ่มนวล ลองชิมแล้วได้กลิ่นหอมเครื่องแกง รสชาติไม่เผ็ดมากนัก

ส่วน แกงเขียวหวานไก่ ถ้วยนี้ก็อร่อยไม่แพ้กัน เพราะใช้เครื่องแกงเขียวหวานที่โขลกเองทำให้หอมหวนชวนกิน แถมด้วยกะทิเข้มข้น และเนื้ออกไก่ที่ไม่มัน แล้วยังมี น้ำพริกกุ้ง ที่ หาชิมได้ยาก รสชาติออกหวานๆ เปรี้ยวๆ มีส่วนผสมของถั่ว หมูสับ เนื้อกุ้งสับ เคี่ยวรวมกับกะทิ จากนั้นก็ปรุงรส แถมยังใส่มะกรูดให้ความหอม นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำยาป่า สำหรับคนชอบเผ็ด และน้ำเงี้ยว สูตรล้านนา ให้ลองชิมกันด้วย

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">ผัดไทยกุ้ง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนเมนูแบบเหนือๆ ที่นี่ก็มีให้ลองชิมนั่นคือ ข้าวซอยไก่ (30 บาท) ที่เป็นสูตรจากทางลำพูนแต่นำมาปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ใช้เครื่องแกงที่โขลกขึ้นเองมาเคี่ยวกับกะทิ มีให้เลือกทั้งเนื้อไก่และน่องไก่ และยังใช้เส้นบะหมี่อย่างดีนำมาลวก โรยหน้าด้วยเส้นบะหมี่ทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมหอมแดงซอย ผักกาดดอง มะนาว และพริกผัดเพิ่มรสชาติ ลองชิมแล้วข้าวซอยเข้มข้นแต่ไม่มัน หอมกลิ่นเครื่องเทศ เนื้อไก่นุ่มเข้ากับเส้นบะหมี่เหนียวนุ่มอร่อยลิ้น

ต่อกันด้วยเมนูยอดฮิต ผัดไทยกุ้ง (35 บาท) จานนี้ใช้เส้นผัดไทยมาผัดกับน้ำปรุงสูตรพิเศษที่ทางร้านทำเอง ใส่เครื่องผัดไทยลงไปอย่างครบครัน มีทั้งไข่ไก่ หัวไชโป๊ว เต้าหู้เหลือง กุ้งแห้ง ถั่วงอก และใบกุยช่าย เสิร์ฟพร้อมถั่วงอกสด ใบกุยช่าย หัวปลี และมะนาว ให้ได้กินคู่เคียงกัน ผัดไทยจานนี้รสชาติกลมกล่อมไม่ต้องปรุงเพิ่มก็ยังได้ แถมเส้นนุ่มเหนียว ไม่ติดกัน

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">ข้าวคลุกกะปิ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ความอิ่มอร่อยยังไม่หมด ต่อกันด้วย ข้าวคลุกกะปิ (30 บาท) ที่ใช้ข้าวเสาไห้ผสมกับข้าวมันปู คลุกให้เข้ากับน้ำกะปิปรุงรส เสิร์ฟมากับหมูหวาน กุนเชียง กุ้งแห้ง ไข่เจียวฝอย หอมแดงซอย พริกขี้หนู ถั่วฝักยาวซอย แถมด้วยมะม่วงซอย และมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ลองชิมข้าวได้รสชาติหอมๆ เค็มๆ เข้ากับหมูหวาน กินคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ อร่อยเข้ากันดี

แถมความอร่อยอีกนิดด้วย ลูกชิ้นหมูปิ้ง (ไม้ละ 10 บาท) ที่มีทั้งลูกชิ้นเนื้อหมู และลูกชิ้นเอ็นหมู ทำจากเนื้อหมูคุณภาพ ปิ้งมาพอสุกเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมด้วยน้ำจิ้มรสเด็ด เคี้ยวแล้วลูกชิ้นเด้งหนึบโดนใจ เข้ากับน้ำจิ้มรสแซ่บถูกปาก อร่อยอย่าบอกใคร

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">ลูกชิ้นหมูปิ้ง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> นอกจากความอร่อยที่ได้ลิ้มลองไปแล้ว ทางร้านยังมีเมนูอาหารตามสั่งอีกหลากหลายจานที่ล้วนแต่น่าลองชิมไม่แพ้กัน ซึ่งก็ไม่ควรพลาดการมาลองลิ้มด้วยประการทั้งปวง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “ขนมจีนบ้านคุณย่า” ตั้งอยู่ที่ 44/11-12 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทาง จาก ถ.รัตนาธิเบศร์ ให้เลี้ยวเข้าสู่ ถ.สนามบินน้ำ วิ่งตรงมายังกระทรวงพาณิชย์ จะเห็นร้านขนมจีนบ้านคุณย่าตั้งอยู่ตรงข้ามกับกระทรวง บริเวณประตูทางออก สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนนด้านหน้าร้าน ทางร้านรับสั่งทำน้ำยา อาหารกล่อง และรับออกงานนอกสถานที่ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.00 น. โทร.08-4073-1946, 08-9482-9869
</td></tr></tbody></table>

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000015137-

--------------------------------------------------------

รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ขนมจีนบ้านคุณย่า”


<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="500" align="center"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ขนมจีนบ้านคุณย่า

ประเภทอาหาร : อาหารไทย

เมนูจานเด่น : ขนมจีนและน้ำยาต่างๆ ,ข้าวซอยไก่,ผัดไทยกุ้ง,ข้าวคลุกกะปิ,ลูกชิ้นหมูปิ้ง

บรรยากาศร้าน : โปร่งโล่ง บรรยากาศบ้านไม้โบราณ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 44/11-12 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทาง จาก ถ.รัตนาธิเบศร์ ให้เลี้ยวเข้าสู่ ถ.สนามบินน้ำ วิ่งตรงมายังกระทรวงพาณิชย์ จะเห็นร้านขนมจีนบ้านคุณย่าตั้งอยู่ตรงข้ามกับกระทรวง บริเวณประตูทางออก

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณริมถนนด้านหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร.08-4073-1946, 08-9482-9869

ทางร้านรับสั่งทำน้ำยา อาหารกล่อง และรับออกงานนอกสถานที่

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000015127-

.

 

เห็นรูปแล้วน้ำลายยืดเลย ชักจะหิวซะแล้วสิ

 

.

ก๋วยเตี๋ยว 3 บาทเชียงใหม่ ถูกที่สุดในประเทศ





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก news.mcot.net

ฮือฮา ก๋วยเตี๋ยวเชียงใหม่ราคา 3 บาท เปิดมานาน 23 ปี เจ้าของยันขายราคานี้ต่อไป ไม่ได้หวังกำไรมาก

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายงาน ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ต่างฮือฮากับร้าน ก๋วยเตี๋ยว 3 บาท บริเวณถนนรัตนโกสินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ เปิดมานานกว่า 23 ปี และแม้จะอยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง ข้าวของขึ้นราคา แต่ว่าร้านดังกล่าวก็ยังไม่ขึ้นราคาก๋วยเตี๋ยวแต่อย่างใด และยืนยันว่าจะคงขายก๋วยเตี๋ยวในราคานี้ต่อไป สร้างทางเลือกให้กับผู้มีรายได้น้อยในสภาวะที่ข้าวของแห่กันขึ้นราคาแบบนี้

ทั้งนี้ นางปรียานุช แสงสุวรรณ เจ้าของร้าน กล่าวว่า ร้านแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่สมัยคุณยาย รวมแล้วกกว่า 23 ปี ขายก๋วยเตี๋ยวในราคา 3 บาท ข้าวซอยราคา 15 บาท กาแฟ โอเลี้ยง ชาเย็น 3 บาท ส่วนน้ำเปล่าและผักสดฟรีไม่อั้น ตนก็ไม่ได้หวังกำไรจากการขาย จะขึ้นราคาก็สงสารชาวบ้าน และเพราะความเห็นอกเห็นใจกัน จึงทำให้ลูกค้าและร้านอยู่กันได้ ส่วนลูกค้าก็มีทุกเพศทุกวัย รวมทั้งคนรายได้น้อย ถือว่านี่เป็นความสุขที่ได้เห็นลูกค้ากินก๋วยเตี๋ยวราคาถูก

นอกจากนี้ นางปรียานุช ยังกล่าวเสริมอีกว่า แม้ว่าข้าวของจะขึ้นราคา แต่ของทุกอย่างก็ไม่ได้ขึ้นราคาพร้อมกัน หากหมูขึ้น ราคาผักก็ลง หากราคาหมูลง ราคาผักก็ขึ้น และจะยืนยันขายราคานี้ต่อไป เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ และเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ราคาถูกที่สุดในประเทศไทย แม้ว่่ากำไรจะน้อยลงจากสมัยก่อนมากก็ตาม





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




-http://www.dailynews.co.th/thailand/11584-

-http://hilight.kapook.com/view/67450-

.

 

.

“ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า”ต้มยำจัดจ้าน

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 00:00 น.

<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
<!-- /.slide-container -->
<!-- /.slide-wrapper -->
<!-- /.more-img -->

<!-- /.featured-img -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->อาหารเด็ดริม ม.สัปดาห์นี้ยังคงอยู่ย่านมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อผ่านไปแถวนั้นหลายเสียงย้ำว่าห้ามพลาดลิ้มลองความแซ่บซี้ดเข้มข้นของเมนูเส้นเจ้าอร่อย ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟ” หรือ ที่หลาย ๆ คนเรียกขานกันสะดุดหูว่า “ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า” ลูกค้าหนาแน่นสักหน่อย แต่อร่อยคุ้มค่าสมการรอคอย
มีเส้นให้เลือกมากกว่า 10 แบบ ทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ หมี่ขาว หมี่หยก บะหมี่ วุ้นเส้น เซี่ยงไฮ้ มักกะโรนี เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เกี้ยมอี๋ เกี๊ยวปลา เกี๊ยวหมูชิ้นใหญ่ เนื้อนุ่ม รสดีด้วยวิธีหมักจากสูตรพิเศษ รวมทั้ง ไข่มุก (เป็นลักษณะแป้งเม็ดกลม สีขาว คล้ายสาคูลูกใหญ่ เลือกใส่ผสมกับเส้นอื่น ๆ ได้ตามชอบ ทานกับเมนูต้มยำน้ำข้นเคี้ยวหนุบหนับรสชาติเข้ากันลงตัว)
สำหรับเมนูพิเศษที่ “แคมปัสเดลินิวส์” เลือกชิม คือ “ต้มยำน้ำข้นกุ้งสด” เส้นเล็กเหนียวนุ่มกำลังดี ภายในชามครบเครื่องทั้งกุ้งสด หมูสับ เกี๊ยวกรอบ ผักบุ้งเขียวอวบ ถั่วงอกเคี้ยวกรุบ อัดแน่นอยู่ในน้ำต้มยำสีสันเข้มข้นจัดจ้านชวนน้ำลายสอ เพียงคำแรกก็สัมผัสได้ถึงความกลมกล่อม ออกเปรี้ยว ๆ เผ็ดเล็กน้อย ถึงรสต้มยำแบบไม่ต้องปรุง เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปกระดูกหมูร้อน ๆ ใส่ฟักต้ม ซดคล่องคอ
นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายเมนูเลื่องชื่อ ทั้งก๋วยเตี๋ยวแคะต้มยำ บะหมี่เกี๊ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวแคะเย็นตาโฟ เกี๊ยวปลาเย็นตาโฟ บะหมี่น้ำหมูแดง (เนื้อนุ่มแน่น ติดหนังเล็กน้อย)-หมูสับ เกี๊ยวปลาต้มยำ เย็นตาโฟต้มยำ เย็นตาโฟน้ำ-แห้ง เป็นต้น
ร้านอยู่ที่ซอยวิภาวดีรังสิต 2 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ใกล้กับร้านแว่นท็อปเจริญ เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ ช่วงเวลา 08.30-18.30 น. โดยประมาณ
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->

-http://www.dailynews.co.th/citizen/11147-

.

 

.

รสเด็ด โดนใจ “เจ๊ใหญ่ไหมซีน” ก๋วยเตี๋ยวเสฉวน เส้นเหนียวนุ่ม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">19 กุมภาพันธ์ 2555 14:49 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศที่นั่งภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> พูดถึงฮ่องกง ก็มักจะนึกถึงการไปเดินช้อปปิ้ง ตระเวนเที่ยวไหว้พระ และการไปลองลิ้มของอร่อย ซึ่งก็มีหลากหลายเมนูถูกปาก โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยว ทั้งบะหมี่เกี๊ยว และก๋วยเตี๋ยวชนิดอื่นๆ อย่างในมื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ก็อยากจะพาไปลองลิ้มก๋วยเตี๋ยวที่อิมพอร์ตสูตรเด็ดมาจากฮ่องกง ซึ่งไม่ต้องบินไปไกล เพราะร้านอยู่แค่ ถ.เสนานิคม 1 เท่านั้นเอง

ร้านมีชื่อว่า “เจ๊ใหญ่ไหมซีน” ซึ่งมีเมนูเด็ดคือก๋วยเตี๋ยวสไตล์เสฉวนที่นำสูตรมาจากฮ่องกงอีกที ซึ่งมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เรียกว่า “ไหมซีน” ลักษณะ เป็นเส้นกลมๆ เล็กๆ สีขาว ทางร้านจะสั่งนำเข้าโดยตรงมาจากฮ่องกง ส่วนน้ำซุปที่เป็นสไตล์เสฉวนนั้นต้มมาจากกระดูกหมู เคี่ยวเป็นวันเพื่อให้ได้ความหวานหอม แล้วนำมาปรุงกับพริกแห้งปรุงรส นำไปผัด แล้วนำมาต้มรวมกับน้ำซุป ทำให้คล้ายกับน้ำข้น

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวไหมซีนน้ำเสฉวน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> ระดับความเผ็ดเข้มข้นของน้ำซุปนั้นจะมีอยู่ 4 ระดับ สำหรับคนที่ชอบกินเผ็ดนั้นแนะนำให้สั่งว่าเผ็ดมาก ซึ่งรับรองเลยว่าจะต้องเผ็ดจี๊ดโดนใจแน่ๆ แล้วก็มีความเผ็ดระดับกลาง เผ็ดน้อย และไม่เผ็ด ซึ่งก็คือก๋วยเตี๋ยวน้ำใสนั่นเอง

ส่วนเครื่องเคราที่ใส่แบบดั้งเดิมนั้นจะกินกับเครื่องในต่างๆ แต่สำหรับที่ร้านนี้ นอกจากจะมีเครื่องในใส่ลงไปให้ อาทิ กระเพาะ ตับ เซี่ยงจี้ หัวใจ ไส้อ่อน หัวใจ เป็นต้น แล้วก็ยังมีเนื้อหมูหมัก หมูสับ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง และลูกชิ้นหมู ให้เลือกใส่ลงไปได้ด้วย ซึ่งหากว่าใครชอบอะไรไม่ชอบอะไรก็สามารถบอกได้

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวไหมซีนน้ำใส</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> อย่างเมนูแรกที่ได้ลองชิม คือ ก๋วยเตี๋ยวไหมซีนน้ำเสฉวน (40 บาท) ที่จะเป็นน้ำซุปสไตล์เสฉวนแบบเผ็ดร้อน ส่วนเส้นเป็นเส้นไหมซีน ใส่ทั้งเครื่องใน และหมูสับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงที่กินคู่กันคือ ผักกาดดอง ถั่วงอก และกุ้ยฉ่าย ใส่ลงมาในชามด้วย ลองชิมดูเส้นไหมซีนเหนียวนุ่มเข้ากับน้ำซุปเข้มข้นเผ็ดร้อน เครื่องในก็อร่อยถูกปากไม่คาว

ส่วน ก๋วยเตี๋ยวไหมซีนน้ำใส (40 บาท) ซึ่งก็ใส่เครื่องทุกอย่างเหมือนกับน้ำเสฉวน เพียงแต่เปลี่ยนน้ำซุปเป็นน้ำใส ที่ลองชิมแล้วหอมหวานน้ำต้มกระดู ซดได้คล่องคอ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เกี๊ยวน้ำ หรือ ก๋าวจี๋</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> อีกเมนูที่ไม่ควรพลาดก็คือ เกี๊ยวน้ำ (40 บาท) หรือที่เรียกว่า ก๋าวจี๋ เป็นเกี๊ยวสูตรเซี่ยงไฮ้ หน้าตาเหมือนเกี๊ยวหมูของบ้านเรา เพียงแต่ไส้ในนั้นจะประกอบไปด้วยหมูสับ กุ้ยฉ่าย ผสมกับน้ำขิง กินได้กับทั้งน้ำใสและน้ำเสฉวน ซึ่งเมื่อลองชิมแล้วนั้นตัวไส้นุ่มหอมกลิ่นขิง ส่วนแป้งก็นุ่มอร่อยดีทีเดียว

นอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวแบบฮ่องกงแล้ว ก็ยังมีก๋วยเตี๋ยวแบบไทยๆ ด้วย เช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (30-40 บาท) ซึ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใสแบบไทยๆ ที่ปรุงรสมาด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาล ใส่ถั่วลิสงคั่วบด และพริกป่น เครื่องที่ใส่ก็เลือกสั่งได้ตามชอบ อย่างในชามนี้มีทั้งลูกชิ้นปลาและหมูสับ อร่อยแบบเต็มคำ รสชาติเข้มข้นครบรส ลูกชิ้นก็เคี้ยวเด้งไม่คาว

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนเมนู ข้าวเหนียวทรงเครื่อง (25 บาท) ก็น่าลิ้มลองไม่เบา ที่จะนำข้าวเหนียวมานึ่งสุก แล้วผัดกับเครื่องเคียงและซอสปรุงรสต่างๆ ให้ได้รสชาติเข้าที่ ส่วนตัวเครื่องเคียงนั้นก็มีทั้งกุ้งแห้ง เห็ดหอม และกุนเชียง โรยหน้าด้วยถั่วลิสงทอด และต้นหอมซอย ลองชิมแล้วข้าวเหนียวได้รสชาติเค็มนิดๆ เข้ากับความหวานจากกุนเชียง และยังได้ความหอมมันจากถั่วลิสงเพิ่มความอร่อย

เมนูเด็ดของร้านไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีความอร่อยที่น่ามาลองชิมอีกหลากหลาย อาทิ ไหมซีนทงคัตสึ (50 บาท) ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส (30 บาท) ขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ (12 บาท) เป็นต้น ซึ่งหากว่าจะลองชิมก๋วยเตี๋ยวฮ่องกงอร่อยๆ ก็ไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไป แวะเวียนมาได้ทีร้าน “เจ๊ใหญ่ไหมซีน” แห่งนี้ก็อร่อยได้เช่นกัน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวเหนียวทรงเครื่อง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “เจ๊ใหญ่ไหมซีน” ตั้ง อยู่ที่ 100/375-376 เสนานิคม 1 ซอย 40 แยก 6 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. การเดินทางจากสี่แยกวังหินตรงเข้ามาในถนนเสนานิคม 1 เลี้ยวเข้าซอยเสนาฯ 40 ปากซอยมีเซเว่น เข้าซอยประมาณ 200 เมตร จนถึง ซ.40 แยก 6 จะเห็นร้านอยู่ขวามือ สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้านและภายในซอย ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. โทร. 08-6995-2310

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “เจ๊ใหญ่ไหมซีน”
</td></tr></tbody></table>

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"><tbody><tr><td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" height="5"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : เจ๊ใหญ่ไหมซีน

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวไหมซีนน้ำเสฉวน,ก๋วยเตี๋ยวไหมซีนน้ำใส,เกี๊ยวน้ำ หรือ ก๋าวจี๋,ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ,ข้าวเหนียวทรงเครื่อง

บรรยากาศร้าน : ห้องแถวโปร่งๆ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 100/375-376 เสนานิคม 1 ซอย 40 แยก 6 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. การเดินทางจากสี่แยกวังหินตรงเข้ามาในถนนเสนานิคม 1 เลี้ยวเข้าซอยเสนาฯ 40 ปากซอยมีเซเว่น เข้าซอยประมาณ 200 เมตร จนถึง ซ.40 แยก 6 จะเห็นร้านอยู่ขวามือ

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้านและภายในซอย

เวลาเปิด-ปิด : ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-6995-2310



-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000021639-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000021633-

.

 

.

<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" valign="baseline" align="left">“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายเลี๊ยก” น้ำซุปหอมหวาน เนื้อนุ่มโดนใจ</td> <td valign="baseline" width="102" align="right"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="1" bgcolor="#CCCCCC"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">26 กุมภาพันธ์ 2555 14:28 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">บรรยากาศภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> หลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้ว อยุธยาเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ภายหลังจากน้ำท่วมผ่านพ้นไปแล้ว ก็ต้องช่วยกันโปรโมทการท่องเที่ยวในอยุธยาให้กลับมาคึกคักดังเดิม “ผ่านมาแวะกิน” ก็ยังคงช่วยสนองนโยบายไทยเที่ยวไทย ด้วยการตามไปเที่ยวที่อยุธยาเพื่อเป็นการช่วยชาวบ้านไปอีกทางหนึ่ง

และเมื่อไปเที่ยวแล้วก็แน่นอนว่าจะต้องหาของอร่อยมาลิ้มลองให้อิ่ม ท้องเป็นธรรมดา คราวนี้ก็เลยได้เพื่อนฝูงเจ้าถิ่นแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยโดนใจสำหรับคนกิน เนื้อ ร้านนี้มีชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายเลี๊ยก” ที่เมื่อมาถึงหน้าร้านแล้วจะได้กลิ่นหอมยั่วยวนชวนน้ำลายสอมาก่อนเลยทีเดียว

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="350" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">นายเลี๊ยก เจ้าของร้านและเจ้าของสูตรอร่อย</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ร้านนี้เปิดขายกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 ซึ่ง นายเลี๊ยก เจ้าของร้านเล่าว่า แต่ก่อนพายเรือขายในแม่น้ำลำคลองมาก่อน ตอนแรกก็ขายเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใสธรรมดา แต่หลังจากขึ้นมาขายบนบกเมื่อ 16 ปีก่อน ก็เปลี่ยนมาขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อเพียงอย่างเดียว โดยสูตรเด็ดเคล็ดลับต่างๆ นั้นคิดขึ้นมาเอง

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อของร้านนี้มีให้เลือกกินกันทั้งเนื้อสด เนื้อเปื่อย ลูกชิ้นเนื้อวัวล้วน และเอ็นตุ๋น อย่างเนื้อสดนั้นก็เลือกใช้เนื้อวัวที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี หมักกับเครื่องปรุงรสต่างๆ ที่เป็นเคล็ดลับพิเศษทำให้เนื้อเปื่อยนุ่ม พอหมักจนได้ที่แล้วมีลูกค้าสั่ง ก็จะนำเนื้อมาลวกแค่พอสุก

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">เกาเหลารวม </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนเนื้อตุ๋นก็จะตุ๋นกับเครื่องพะโล้ ซอสปรุงรสต่างๆ รากผักชี กระเทียม และเครื่องเทศจีน ตุ๋นไปเรื่อยๆ จนนิ่มเปื่อย และยังมีเอ็นตุ๋นที่ก่อนจะนำมาตุ๋นต้องนำไปต้มก่อนประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นก็ตุ๋นลงไปในหม้อเดียวกับเนื้อตุ๋น พอนิ่มได้ที่แล้วก็ตักขึ้นพักไว้ สูตรเด็ดความอร่อยอีกอย่างหนึ่งก็คือ น้ำซุปหอมหวานชวนให้ลองชิม ก็ใช้น้ำเปล่ามาต้มกับโครงกระดูกและเศษเนื้อ ปรุงรสเล็กน้อย แล้วต้มต่อจนได้น้ำซุปที่เข้าที่

อย่างในชามแรกที่ได้ลองชิมนั้น ด้วยความเลือกไม่ถูกว่าจะชิมอะไรก่อนดี ก็เลยขอสั่งมาลองชิมทั้งหมดเลยในเมนู เกาเหลารวม (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่มีทั้งถั่วงอกและคะน้าลวกแบบพอสุก ใส่ลูกชิ้นเนื้อ เนื้อสด เนื้อตุ๋น และเอ็นตุ๋น โรยหน้าด้วยผักชีใบเลื่อยเพิ่มกลิ่นหอม ลองชิมน้ำซุปที่ได้กลิ่นหอมมาก่อน แล้วก็ได้รสชาติกลมกล่อมถูกใจ เนื้อสดก็นุ่มไม่เหนียวไม่คาว เนื้อตุ๋นเปื่อยนุ่มได้รสชาติ เอ็นตุ๋นเคี้ยวกรุบนิ่มปาก และลูกชิ้นเด้งหนึบโดนใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">เส้นเล็กรวม </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> มาลองชิมก๋วยเตี๋ยวดูบ้าง ทางร้านมีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ และเส้นหมี่ เราเลือกสั่ง เส้นเล็กรวม (30 บาท พิเศษ 40 บาท) มาชิมอีกสักชาม ชามนี้ใส่เครื่องเคราทุกอย่างที่อร่อยถูกปากถูกลิ้น ส่วนเส้นเล็กก็เหนียวนุ่ม เมื่อกินคู่กับน้ำซุปอร่อยๆ แล้วเข้ากันดีเป็นอย่างยิ่ง

อีกชามขอลอง เส้นใหญ่ลูกชิ้นเนื้อตุ๋น (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ชามนี้ก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่ต้องขอลองมาเผ็ดสูตรเด็ดอีกอย่างของร้านคือ พริกป่นที่มีให้ปรุงรสเพิ่ม มองดูทีแรกก็คิดว่าเป็นพริกผัดเหมือนร้านอื่นๆ แต่เมื่อลองสอบถามดูแล้ว กลายเป็นพริกแห้งที่นำมาป่นแล้วหมักด้วยน้ำร้อนธรรมดา ได้ออกมาเป็นพริกป่นที่มีกลิ่นหอมหวน รสชาติเผ็ดจี๊ดถูกใจคนชอบรสจัดจ้าน

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">เส้นใหญ่ลูกชิ้นเนื้อตุ๋น </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> นอกจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อแล้ว ยังมี บะจ่าง (45 บาท) ให้ลองชิมกันอีกเมนู ใส่มาทั้งแปะก๊วย กุ้งแห้ง เม็ดบัว เห็ดหอม และไข่แดงเค็ม ส่วนด้านล่างของข้าวนั้นจะเป็นถั่วดำกวนรสชาติออกหวานๆ ลองชิมแล้วหอมหวนกลมกล่อม อร่อยแบบเต็มอิ่ม

ใครที่มาแล้วอยากลองเมนูอื่นบ้าง เราก็ขอแนะนำ เกาเหลาเอ็นตุ๋น (40 บาท พิเศษ 50 บาท) สำหรับคนที่ชอบเอ็นตุ๋นกรุบๆ เคี้ยวเพลิน หรือจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นอื่นๆ ที่เลือกเครื่องได้ตามใจชอบ และทางร้านยังมีน้ำหวานๆ ให้ดื่มเย็นชื่นใจกันอีกด้วย ทั้งโอเลี้ยง ชาดำเย็น กระเจี๊ยบ เก็กฮวย และลำไย (แก้วละ 10 บาท)

ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออร่อยๆ แบบนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ไม่อยากให้นักชิมทั้งหลายพลาดด้วยประการทั้งปวง

</td> </tr> <tr> <td class="body" valign="baseline" align="left"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" align="Center"> <tbody><tr> <td valign="top" align="center"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td valign="Top" width="450" align="center"> </td> </tr> <tr><td class="Image" valign="baseline" align="left">บะจ่าง </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td height="5" valign="top" align="center"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายเลี๊ยก” ตั้งอยู่ที่ 6/7 ม.4 ถ.ป่ามะพร้าว ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา การเดินทางเมื่อมาถึงตัวเมืองอยุธยา ให้วิ่งบนถนนอู่ทอง ตรงมายังถนนป่ามะพร้าว เลี้ยวเข้าถนนป่ามะพร้าวแล้วตรงมาอีกประมาณ 50 มตร จะเห็นร้านอยู่ทางขวามือ สามารถจอดรถได้บริเวณด้านหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-15.00 น. (หยุดเฉพาะช่วงเทศกาล) โทร 0-3525-1761</td></tr></tbody></table>

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000025651-

.

 

.


ร้านกลมเกลียว มธ.รังสิต “ยำแซ่บครบรส”

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 00:00 น.



<!-- /.images-list-items -->


<!-- /.images-list-items -->


<!-- /.images-list-items -->


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
<!-- /.slide-container -->
<!-- /.slide-wrapper -->
<!-- /.more-img -->

<!-- /.featured-img -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->
คนรักเมนู “ยำ” เชิญทางนี้ ร้านเด็ดริม ม.ชวนลิ้มรสอีกหนึ่งความจัดจ้าน ที่ร้านกลมเกลียว ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มุมโปรดของบรรดานักศึกษา รวมทั้งผู้ที่แวะเวียนไปมา ไม่พลาดชิม!

เดินลัดเลาะถึงบริเวณศูนย์หนังสือ สังเกตฝั่งตรงข้ามจะพบกับซุ้มอาหาร ด้านบนติดป้ายสีสันสวยงามสลักชื่อ “กลมเกลียว” ซึ่งเปิดขายมาอย่างยาวนาน โดยลูกค้าสามารถเลือกเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พาสต้า หรือ วุ้นเส้น มิกซ์แอนด์แมตช์กับสารพัดวัตถุดิบที่มีให้เลือก ทั้งนักเก็ต ไส้กรอก ลูกชิ้น (เคี้ยวเด้งในปาก) หมูยอ เต้าหู้ ปูอัด ไข่ต้ม หมูสับ หรือ ปลากระป๋อง อร่อยคู่สุขภาพโดยใส่ผักกะหล่ำปลีสดกรอบ


สำหรับเมนูที่ “เดลินิวส์ออนไลน์” เลือกอร่อยคือ ยำพาสต้ารวมมิตร และยำเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรวมมิตร ใส่เครื่องเคราอัดแน่นมาเต็มชาม (รับประทานแทนข้าวได้หนึ่งมื้อเลยทีเดียว) ราดด้วยน้ำยำสูตรทางร้าน บรรดาเส้น และเนื้อวัตถุดิบต่างชุ่มด้วยรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ดจัดจ้าน แซ่บลงตัว หรือ สามารถสั่งระดับความเผ็ดได้ตามต้องการ ทั้งยังตักเสิร์ฟในชามไบโอชานอ้อย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์

<!-- /.content --><!-- START: Facebook Share -->

-http://www.dailynews.co.th/citizen/14841-

.

 

.

<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">“สงวนยอดผัก” อร่อยเลิศ ราดหน้ายอดฝีมือ</td> <td align="right" valign="baseline" width="102"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">18 มีนาคม 2555 11:16 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> หากถามว่าเวลาจะไปหาของร้านอาหารกินในถิ่นที่ไม่คุ้นเคย จะใช้อะไรตัดสินว่าร้านไหนอร่อยหรือไม่อร่อย อย่างแรกก็ดูที่ว่ามีลูกค้านั่งกินอยู่เยอะหรือไม่ อย่างที่สองก็ลองมองหาป้ายการันตี หรือจำนวนปีที่เปิดขาย ซึ่งร้านอาหารร้านไหนที่เปิดกันมานานหลายสิบปี ก็เป็นเครื่องการันตีได้ว่าต้องอร่อยอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นก็คงอยู่กันได้ไม่นานนมมาจนถึงทุกวันนี้

อย่างร้านราดหน้าที่ “ผ่านมาแวะกิน” จะพาไปลองชิมในมื้อนี้ ร้านนี้มีชื่อว่า “สงวนยอดผัก” ตั้งอยู่ตรงข้ามกับธนาคารแห่งประเทศไทย แถวๆ เทเวศร์ คุณสงวน สงวนวุฒิธรรม เจ้าของร้านและเจ้าของความอร่อยเล่าให้ฟังว่า ถ้านับว่าเปิดขายมานานเท่าไหร่ ก็นับได้ประมาณ 50 ปี เฉพาะตรงนี้ก็เปิดมา 30 กว่าปีแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นไปขายในละแวกอื่นมาก่อน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">คุณสงวน สงวนวุฒิธรรม เจ้าของร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เริ่มแรกนั้นเป็นลูกมือขายราดหน้าอยู่แถวเยาวราช ก่อนจะมาเปิดขายเองด้วยสูตรที่ปรับปรุงขึ้นเฉพาะตัว โดยเป็นราดหน้าสูตรกวางตุ้ง ที่ทำสดๆ จานต่อจาน เสิร์ฟร้อนๆ หอมอร่อย ที่ร้านก็มีราดหน้าให้ลิ้มรสเพียงอย่างเดียว แต่มีเส้นให้เลือก 3 อย่าง คือ เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และหมี่กรอบ

สูตรเด็ดของราดหน้าที่นี่ก็คือยอดผักตามชื่อร้าน ที่จะใช้ยอดคำน้าเลือกเฉพาะที่อ่อนๆ นำมาใช้ทั้งยอดลวกพอสุก ส่วนน้ำซุปที่นำมาทำราดหน้าก็เด็ดไม่แพ้กัน เพราะใช้น้ำซุปกระดูกหมูในส่วนที่เรียกว่าเอียวเล้งและคาตั๊ง มาต้มให้เปื่อยได้ที่ จนได้รสชาติหวานหอมกลมกล่อม

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นใหญ่ราดหน้า</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เส้นทั้งเส้นใหญ่และเส้นหมี่ก็จะนำไปผัดกับน้ำมัน และใส่ซีอิ้ว ผัดในกระทะเหล็กและใช้ไฟแรง ก็จะได้เส้นที่พร้อมกิน เหนียวนุ่ม แถมกลิ่นหอมๆ ชวนกิน ส่วนเส้นหมี่กรอบได้จากการเส้นหมี่ขาวไปทอดจนกรอบ

ส่วนหมูชิ้นใหญ่ที่ใส่มาในราดหน้าก็เลือกใช้เนื้อสะโพกหมูส่วนขาหลัง หั่นเป็นชิ้นแล้วนำมาหมักด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน หมักค้างคืนจนเข้าที่ แล้วก็นำมาผัดกับน้ำซุปที่ปรุงกับเต้าเจี้ยวผสมกับกระเทียม พอเดือดแล้วก็ใส่แป้งมันให้เหนียวหนืดพอควร เวลาเสิร์ฟก็ตักเส้นใส่จาน ใส่ผักคะน้าที่ลวกแล้ว แล้วตัดน้ำราดหน้าร้อนๆ ราดลงมา

เห็นราดหน้ายกมาเสิร์ฟถึงโต๊ะแล้วก็น้ำลายสอ กระเพาะเริ่มทำงานขึ้นมาทันที ต้องเริ่มชิมมาตั้งแต่จานแรก ราดหน้าเส้นใหญ่ (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) จานนี้เรียกว่าเป็นจานคลาสสิกที่ต้องลองลิ้ม เพราะความหอมหวนชวนกินของเส้นใหญ่ที่ลองชิมแล้วเหนียวนุ่มถูกใจ พร้อมกับความหอมจากการผัดใส่ซีอิ้วมาเล็กน้อย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นหมี่ราดหน้า</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนน้ำราดหน้ารสชาติกลมกล่อม อร่อยแบบไม่ปรุงเพิ่มก็สุดยอดแล้ว เนื้อหมูก็นุ่มลิ้น เปื่อยละลายในปาก ชิ้นใหญ่เต็มคำ คะน้าลวกกรอบไม่ขม มาเป็นยอดผักจริงๆ ไม่ใช่ก้านแล้วหั่นสั้นๆ

ส่วน เส้นหมี่ราดหน้า (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) จานนี้ก็อร่อยโดนใจไม่แพ้กัน น้ำราดหน้านั้นรสชาติเหมือนกัน เพียงแต่แตกต่างกันที่เส้นหมี่จะให้รสสัมผัสอีกแบบ แต่ก็หอมชวนกินเช่นเดิม

จานสุดท้ายนี้ถือว่าเป็นของชอบของหลายคน ราดหน้าหมี่กรอบ (ธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท) ความอร่อยที่แตกต่างจากจานอื่นอยู่ที่ความหอมกรอบของเส้นหมี่กรอบที่ทอดแล้ว นั้นกรอบอร่อย ไม่อมน้ำมัน ไม่มีกลิ่นหืน เมื่อโดนน้ำราดหน้าก็จะนิ่มลงเล็กน้อย กินแล้วน้ำราดหน้าเข้าไปผสมกลมกลืนอยู่ในเส้น อร่อยโดนใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ราดหน้าหมี่กรอบ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ราดหน้าอร่อยๆ จากมือเก๋าที่เปิดขายกันมานานนม ต้องมาลองชิมกันให้ได้ที่ร้าน “สงวนยอดผัก” แห่งนี้เท่านั้น

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “สงวนยอดผัก” ตั้ง อยู่ที่ 250/4 ถ.สามเสน แขวงบางขุนพรหม เขตกระนคร กทม. การเดินทางจากถนนสามเสน ตรงไปทางไปรษณีย์เทเวศร์ ร้านสงวนยอดผัก ตั้งอยู่ติดริมถนน ตรงข้ามไปรษณีย์เทเวศร์ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. โทร. 0-2281-0894

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “สงวนยอดผัก”</td></tr></tbody></table>
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="500"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : สงวนยอดผัก

ประเภทอาหาร : อาหารเส้น

เมนูจานเด่น : ราดหน้าเส้นใหญ่,เส้นหมี่,หมี่กรอบ

บรรยากาศร้าน : ห้องแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 250/4 ถ.สามเสน แขวงบางขุนพรหม เขตกระนคร กทม. การเดินทางจากถนนสามเสน ตรงไปทางไปรษณีย์เทเวศร์ ร้านสงวนยอดผัก ตั้งอยู่ติดริมถนน ตรงข้ามไปรษณีย์เทเวศร์ และธนาคารแห่งประเทศไทย

สถานที่จอดรถ : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2281-0894


-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000033672-

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000033683-

.

 

.

“ป้าพร” ก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรโบราณ รสจัดจ้านถึงใจ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">25 มีนาคม 2555 17:19 น.</td> </tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ป้าพรนั่งปรุงก๋วยเตี๋ยวต้อนรับอยู่หน้าร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> หมู่นี้ “ผ่านมาแวะกิน” เดินสายมาเยี่ยมเพื่อนฝูงที่อยู่อยุธยาธานีแต่เก่าก่อนอยู่หลายครั้ง ก็เลยได้มาชิมของอร่อยๆ ของเมืองนี้หลากหลายร้าน แต่ที่อร่อยเด็ดจริงจัง ที่เมื่อไปครั้งใดก็จะถูกชักชวนให้ไปลองลิ้มทุกคราไป เมื่อถึงครั้งล่าสุดนี้ก็เลยไม่ยอมพลาด แวะเวียนเข้าไปที่ร้านในทันใด ไปลองชิมเสียทีว่าจะเด็ดถึงใจสักแค่ไหน

ร้านที่ว่านี้ชื่อว่า “ป้าพร” เป็นร้านที่ขายก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรโบราณ เมื่อเดินไปถึงหน้าร้านแล้ว ก็จะเห็นป้าพร หรือ คุณวลัยพร นาคกิจ นั่งปรุงก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดอยู่หน้าร้าน คอยต้อนรับลูกค้าด้วยความยิ้มแย้ม

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">อาหารกินเล่น ทอดมันปลากราย (บน) ปลากรายลวกจิ้ม (ล่าง)</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ภายในร้านก็เป็นแบบเปิดโล่ง รับลมธรรมชาติกันอย่างสบายใจ เดินดูทำเลกันหน่อยก็ตัดสินใจนั่งกินอยู่ตรงหน้าร้าน ประจันหน้ากับป้าพร มองดูวิธีการทำ แล้วก็เลยคุยกันจึงได้ความว่า ก๋วยเตี๋ยวหมูตรงนี้เปิดมาเป็นสิบปีแล้ว แต่เดิมนั้นป้าพรขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออยู่ตรงท่าเรือบางปะหัน พอขึ้นบกมาก็หันมาขายก๋วยเตี๋ยวหมูแทน เพราะก๋วยเตี๋ยวเนื้อกินบ่อยๆ ก็น่าเบื่อ เลยดัดแปลงสูตรเล็กน้อย จัดแจงปรุงรสก๋วยเตี๋ยวให้จัดจ้านกลมกล่อม เท่านี้ก็อร่อยถูกใจคนชอบก๋วยเตี๋ยวแล้ว

มาถึงร้านเห็นเครื่องเครามากมาย มองดูเมนูก็เลยรู้ว่ามีทั้งก๋วยเตี๋ยวต้มยำ น้ำใส เย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวแคะ ก๋วยเตี๋ยวปู แล้วก็ยังมีเส้นให้เลือกอีกถึง 9 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น เส้นใหญ่ เส้นหมี่ วุ้นเส้น เซี่ยงไฮ้ เกี้ยมอี๋ บะหมี่เหลือง บะหมี่หยก เกี๊ยวหมู และเส้นกลาง ที่เป็นเส้นแบบโบราณ อยู่ระหว่างเส้นเล็กกับเส้นใหญ่ หากินกันไม่ได้ง่ายๆ ในสมัยนี้

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เซี่ยงไฮ้ต้มยำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ดูไปดูมาก็ชักหิว เลยขอสั่งอะไรมารองท้องก่อนจะเริ่มจัดหนักเสียหน่อย มาลองของกินเล่นอย่าง ทอดมันปลากราย (50 บาท) ที่ใช้เนื้อปลากรายแท้ๆ ผสมกับเครื่องแกงแล้วนำไปทอด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มหวานๆ ใส่ถั่วลิสงป่นและแตงกวา ลองชิมทอดมันเคี้ยวเด้ง จิ้มน้ำจิ้มแล้วอร่อยเพลิน หรือจะลอง ปลากรายลวกจิ้ม (30 บาท) จานนี้ก็ใช้เนื้อปลากรายลวกสุก เสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เข้ากันได้เข้ากันดี

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นกลางต้มยำ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ทีนี้มาลองของหนักท้องกันเสียที เริ่มต้นด้วย เซี่ยงไฮ้ต้มยำ (20 บาท) เส้นเซี่ยงไฮ้สีเขียวเคี้ยวนุ่ม อยู่ในก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ปรุงรสมาเสร็จสรรพ ใส่ทั้งน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บเคี่ยว พริกป่น ถั่วป่น กระเทียมเจียว และกุ้งแห้ง ส่วนเครื่องเคราก็ใส่มาทั้งฮือก้วย และหมูแดงสูตรเด็ดของทางร้าน ที่ใช้เนื้อหมูส่วนสันลายนำมาต้ม ก่อนจะผัดกับเครื่องหมูแดงแล้วปรุงรส ลองชิมน้ำต้มยำแซ่บจัดจ้านถึงใจ ใครไม่กินเผ็ดก็ถึงกับน้ำตาไหลเลยทีเดียว ส่วนหมูแดงนั้นเคี้ยวนุ่ม รสออกหวานๆ อร่อยดี

หรือหากอยากลองดูว่าเส้นกลางเป็นอย่างไร ก็ลองชิม เส้นกลางต้มยำ (20 บาท) ใส่เครื่องเคราและปรุงรสมาเหมือนจานแรก อร่อยเด็ดไม่แพ้กัน ส่วนเส้นกลางนั้นเหนียวนุ่มอร่อยถูกใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นใหญ่น้ำใส</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนชามนี้ลองชิมรสชาติก๋วยเตี๋ยวแท้ๆ แบบไม่ปรุงอะไรเลยกับเมนู เส้นใหญ่น้ำใส (20 บาท) ในชามมีเส้นใหญ่ ใส่ฮือก้วย ถั่วงอก หมูสับ และหมูแดง ส่วนน้ำซุปก็เคี่ยวจากคาตั๊ง ใส่ปลาหมึกแห้ง กระเทียมสด ฟัก และปรุงรสเล็กน้อย ลองชิมแล้วกลมกล่อมหอมอร่อยมากๆ อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม เนื้อฟักก็เปื่อยนุ่ม หมูแดง หมูสับนุ่มเข้ากับน้ำซุปพอดี

แต่ถ้าใครที่อยากแก้เผ็ดด้วยของหวาน ก็ขอแนะนำเมนูหากินยากอย่าง ข้าวเม่า ข้าวตอก (10 บาท) ที่จะนำข้าวเม่าและข้าวตอกใส่ชาม ใส่น้ำแข็งไส และราดด้วยน้ำกะทิหอมกลิ่นอบควันเทียน ลองชิมแล้วหวานหอม กรอบๆ นุ่มๆ ชุ่มกะทิ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวเม่า ข้าวตอก</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยเด็ดของร้านก็ไม่ได้มีเพียงแค่นี้ ยังมีให้ลองชิมกันอีกหลายอย่าง อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (25 บาท) ก๋วยเตี๋ยวแคะ (25 บาท) หรือจะชิมขนมหวาน ลอดช่องน้ำกะทิ (10 บาท) ก็หวานอร่อยชื่นใจ และก็ยังมีเบเกอรี่โฮมเมดน่ากินให้มาลิ้มลองอีกด้วย

ก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรโบราณของร้าน “ป้าพร” อร่อยเด็ดโดนใจแบบนี้ ถ้าหากอยากลองลิ้มก็ต้องมาชิมที่อยุธยาแห่งนี้ที่เดียว

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “ป้าพร” ตั้งอยู่ที่ 121/2 หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา การเดินทาง เมื่อมาถึงตัวเมืองอยุธยา ให้วิ่งบนถนนอู่ทอง แล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนป่ามะพร้าว จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยป่ามะพร้าว 10 ตรงไปอีกเล็กน้อย สังเกตทางขวามือจะมีป้ายร้านบอกชัดเจน สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.30-15.00 น. โทร. 0-3525-1676, 08-1853-7274</td></tr></tbody></table>

-http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000036805-

.

 

น่ากินจังเลยค่ะ ขอเส้นหมี่น้ำใสลูกชิ้นปลา ^__^