ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. คนดีเมืองหาดใหญ

    คนดีเมืองหาดใหญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +243
    คุณ me myself พระเดชพระคุณหลวงพ่อนี่ วัดอัมพวันรึเปล่าคะ ขออนุโมทนาบุญกับคุณด้วยค่ะ
     
  2. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ดิฉันไปค้นพบวิธีหยุดรับรู้ได้ด้วยความบังเอิญมากๆ แถมเหมือนเส้นผมบังภูเขาจริงๆ เพราะวิธีปิด มันง่ายยังกะเราเปิดปิดวิทยุหรือโทรทัศน์

    ช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้เป็นวิทยาทานหน่อยนะคะ
     
  3. Pateleven

    Pateleven Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +44
    ขออนุโมทนา สาธุครับ เรื่องดีๆอย่างนี้ เป็นกำลังใจให้คนเลวๆอย่างผมได้มีกำลังใจปฎิบัติขึ้นอีกเยอะเลยครับ...
     
  4. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    วันนี้จะเล่าเรื่องที่แปลกๆที่เกิดกับดิฉันให้ฟัง จะทยอยเล่าเป็นเรื่องๆไปนะคะ หลังจากที่รู้ตัวว่าตัวเองรับรู้ในสิ่งที่นอกเหนือธรรมชาติได้ ดิฉันก็พยายามเก็บไว้กับตัวเองนะคะ ใครจะกล้าไปเล่าให้คนอื่นฟัง เขาจะได้ว่าเราบ้าประไร ก็ขนาดตัวเอง ยังไม่ค่อยจะเชื่อในสิ่งที่รู้ที่เห็นเลย ก็พยายามพิสูจน์ พยายามคิดหาเหตุและผล อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่เคยบอกใคร


    ทีนี้อยู่มาวันหนึ่ง รุ่นน้องที่ทำงาน เพื่อนเขาถูกยิงตาย (เป็นผู้ร้าย แล้วถูกตำรวจจับตายค่ะ แถวๆบ้าน) เขาเอาศพไปไว้ที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วตอนบ่ายสี่โมง พวกญาติๆต้องไปรับศพ ซึ่งรุ่นน้องคนนี้เขาบอกว่า เขาจะไปรับศพเพื่อนเขาด้วย ทีนี้พอถึงเวลาจริงๆ งานมันยุ่ง ลางานไปไม่ได้ พอบ่ายสี่โมง โทรศัพท์ก็ดัง พอเขารับ ก็ไม่มีคนพูด เป็นอย่างนี้อยู่ 3 ครั้ง แล้วเขาก็พูดว่า “เฮ้ย..ไม่ใช่แกมาหาฉันน่ะเว้ย ฉันไปไม่ได้” เขาก็พูดๆไปอย่างนั้นแหละ เพราะเห็นว่าพอรับโทรศัพท์แล้วไม่มีคนพูด แต่ทันที ที่เขาพูดจบ ดิฉันนั่งทำงานอยู่ใกล้กัน ก็เห็นในจิตทันที เห็นผู้ชายผิวคล้ำ ไว้ผมออกหน้าม้า หน้ารูปไข่ เลือดโชก ยืนอยู่ใกล้ๆเรา ดิฉันก็เลยถามรุ่นน้องว่า “เพื่อนน่ะ หน้ารูปไข่ ผิวคล้ำ ไว้ผมหน้าม้าใช่ไหม” (ดิฉันไม่เคยรู้จักเพื่อนของเพื่อนมาก่อนเลย แต่ก็ทักออกไปทั้งที่ไม่รู้ว่า มันจะถูกหรือผิด ก็พูดไปตามที่ตัวเองเห็น) เขาก็ตอบมาว่า “ใช่ ..เห็นเรอะ” ดิฉันก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมมันใช่อ่ะ แต่ดิฉันก็ตอบว่า “อืมม...” น้องเขาก็ถามต่อว่า อยู่ตรงไหน แล้วเป็นไงบ้าง ดิฉันก็ตอบว่า ก็อยู่ตรงนี้แหละ เลือดเต็มตัวเลย น้องเขาก็ขนลุก เพราะปกติเขาเป็นคนกลัวผีขนาดหนัก เขาเลยบอกว่า “ไปก่อนเถอะ ฉันไปไม่ได้ ไว้จะไปงานศพ ขอโทษจริงๆ ที่ไปรับศพไม่ได้” ทางนั้นก็เลยฝากฝังให้ดูแลลูกกับเมียของเขาด้วย ดิฉันก็บอกรุ่นน้องไป แล้วน้องคนนี้ก็เป็นเพื่อนคนแรกที่รู้ว่า ดิฉันเป็นอย่างนี้ค่ะ หลังจากนั้นยังมีเหตุการณ์เกี่ยวกับน้องคนนี้อีกเยอะเลย แปลกๆทั้งนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2009
  5. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คุณ omio คะ ดิฉันไม่รู้ว่า ของคนอื่นที่เขาปฎิบัติมาอย่างถูกต้องจากหลวงพ่อเลย เขารับเขาปิดกันยังไงนะคะ ดิฉันขอบอกก่อนว่า ดิฉันไม่ได้มาอวดตัวว่าตัวเองเก่ง แล้วก็ไม่เคยคิดว่ามันโก้หรูนะคะ เพราะไม่ได้อยากยึดติดตรงนี้ ดิฉันยังอยากศึกษามากขึ้นไปอีก เพราะยังมีอีกหลายสิ่งที่ดิฉันต้องเรียนรู้ค่ะ แล้วเหมือนดิฉันต้องไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง หลวงพ่อโตจะบอกแบบนี้ค่ะ

    ของดิฉันที่รับรู้ได้ ก็เล่าให้ฟังไปแล้ว แบบว่ามันรู้ได้แบบบังเอิญจากการเล่นผีถ้วยแก้ว ทีนี้มันก็ได้ยินตลอดเวลา แต่ไม่รู้วิธีปิด เกือบจะบ้าตายไปแล้ว แต่ดิฉันมาสังเกตุว่า เวลาที่ดิฉันยุ่งๆ สมองไม่ว่างเลย ดิฉันจะตัดการรับรู้จากการได้ยินอะไรต่อมิอะไรไป ทำให้ดิฉันคิดว่า มันน่าจะทำได้ซิ แรกๆต้องใช้ความพยายามมากๆเลย ในการที่จะปิดสวิทช์ ไม่รับรู้ ไม่รับฟังเสียงต่างๆ พอหลายๆวันเข้า ดิฉันก็ชนะค่ะ ถ้าดิฉันไม่อยากได้ยินได้ฟัง ดิฉันก็ปิดหนทางติดต่อไปเลย ถ้าดิฉันอยากจะพูด จะคุย หรือจะถามอะไร ดิฉันถึงจะเปิดจิตเพื่อให้ติดต่อได้ค่ะ

    แต่ถึงดิฉันจะปิดได้ ก็มีอยู่หลายครั้ง ที่บางสิ่งบางอย่างเขาอยากจะสื่อสารกับดิฉัน เขาจะมาให้เห็นในจิตค่ะ แบบวาบขึ้นมา แล้วดิฉันถึงจะเปิดจิตเพื่อไปพูดคุย เพราะถ้าไม่มาให้เห็นเป็นภาพ เขาติดต่อดิฉันไม่ได้ค่ะ เพราะดิฉันปิดการรับรู้ เหตุเพราะว่า ต้องใช้สมาธิมากเหมือนกัน ในการแปลคำพูดที่เขาจะสื่อสารออกมา บางทีก็เหนื่อยทีเดียว

    ของคนอื่นๆที่ปฎิบัติได้ ดิฉันไม่รู้ค่ะ ว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ของดิฉัน ไม่จำเป็นต้องจำกัดสถานที่หรือเวลาค่ะ ได้ตลอดถ้าดิฉันจะทำ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช้พร่ำเพรื่อ หลังๆก็มีเพื่อนๆเริ่มรู้เกี่ยวกับดิฉันเยอะขึ้น แล้วชอบให้ถามอะไรต่อมิอะไรให้เรื่อยเปื่อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่ค่อยอยากจะทำ เพราะไม่ได้มีไว้ดูหมอให้ใคร ส่วนใหญ่ดิฉันจะพูดคุย สนทนาธรรมกับพระอริยสงฆ์ กับครูบาอาจารย์ หรือไม่ก็ญาติผู้ใหญ่ที่เสียไปแล้ว ที่ยังติดต่อกันอยู่ เพื่อทำบุญไปให้ค่ะ
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,310
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    กระทู้นี้น่าสนใจดีครับ อนุโมทนาครับทุกท่าน อ้อ เเต่ผมมีคําถามอยากถามเกี่ยวกับการฝึกมโนครับ ถ้าเรายกเอาจิตเราไปที่นิพพานเเล้ว นึกถึงภาพพระพุทธเจ้า อันนี้เราต้องบริกรรมพุทโธต่อไปหรือเปล่าครับ ? หรือให้นึกถึงท่านเฉยๆ ไม่ต้องพุทโธเเล้ว ผมหมายถึงถ้าเราทําได้เเบบ ภาพทรงตัวเเล้วต้องพุทโธไหม ?? เเละถ้ายังทําได้เเบบภาพติดๆดับๆ ยังคงต้องพุทโธไหม ? เเนะด้วยครับ อนุโมทนาครับทุกท่าน
     
  7. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คุณ tummaism คะ ดิฉันไม่ทราบในกรณีที่ฝึกค่ะ เพราะของดิฉันไม่เคยมีครูฝึกสอนให้ มันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ แล้วดิฉันก็ไม่เคยมาฝึกท่อง นะมะพะทะ มาก่อนเลย พานครูก็ไม่เคยมี เพราะไม่เคยรู้มาก่อน ดิฉันเพิ่งจะมาตั้งพานครูเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ดังนั้นดิฉันคงแนะนำอะไรไม่ได้ค่ะ ต้องขอให้ผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยชี้แนะค่ะ

    แต่สำหรับดิฉัน เนื่องจากมันหลายปีมาแล้ว ดังนั้นมันง่ายที่จะได้ยินหรือได้เห็นค่ะ เวลาคุยกับพระพุทธเจ้า หรือ คนอื่น ดิฉันก็สนทนาตามปกติ เหมือนเราคุยกันนี่แหละค่ะ โต้ตอบกันไปมา ไม่ได้ภาวนาอะไร ภาพที่เห็น ส่วนใหญ่ผู้ที่ดิฉันคุยด้วย จะทำให้ดิฉันเห็นเอง ดิฉันไม่เคยบังคับตัวเอง ให้นึกถึงค่ะ เพราะบางสิ่งบางอย่าง ดิฉันไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ ให้นึกยังไงก็นึกไม่ออกหรอกค่ะ ว่ามันเป็นลักษณะยังไง

    อย่างจุฬามณี ดิฉันก็ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น เพิ่งจะมาอ่านเจอในเวปว่า ควรจะขึ้นไปดูกัน ดิฉันก็ยังไม่เคยรู้เลยว่า ลักษณะของจุฬามณีเป็นยังไง จนมาเมื่อสองสามวันก่อน ถึงได้ไปทูลถามกับองค์ตถาคตว่า จุฬามณีคืออะไร แล้วทำไมเขาถึงต้องไปดูกัน มันมีจริงหรือ ทำไมดิฉันถึงไม่เคยเห็น ท่านเลยเมตตาพาไปดู ดิฉันเห็นเป็นเจดีย์แก้ว แสงระยิบระยับ แต่ไม่เห็นกำแพง เพราะท่านพาไปถึงองค์เจดีย์เลย แต่ความจริงดิฉันก็ยังไม่เคยรู้ว่า จุฬามณีมีลักษณะยังไง ตอนหลังมาอ่านที่หลวงพ่อบอกไว้ ว่ามีกำแพงเป็นทองคำ ตัวเจดีย์เป็นมณี ซึ่งดิฉันก็ไม่ได้ฟันธงว่า ที่ดิฉันเห็นมามันถูกต้องหรือเปล่า เพราะ
    1 ดิฉันไม่เห็นกำแพงทองคำที่ว่านั้น
    2 ตัวเจดีย์ที่เห็น เป็นแก้วสีขาวทั้งองค์ แต่ส่องแสงแวววาว ระยิบระยับมาก ทำให้เห็นเป็นแสงสีต่างๆได้ แต่ที่หลวงพ่อบอกเป็นมณีหลายชนิด
    3 ดิฉันไม่เคยรู้ว่า จุฬามณีเป็นเจดีย์ แต่ที่ไปเห็นก็เป็นเจดีย์ ตรงตามที่หลวงพ่อบอก

    ก็อยากจะบอกว่า จนถึงทุกวันนี้ดิฉันก็ยังไม่ได้เชื่ออะไรไปซะทั้งหมด ยังคงต้องศึกษาหาความหมายอีกเยอะ (ดิฉันเป็นคนมีคำถามเยอะ) ต้องหาหลักฐานมาหักล้างกันอยู่เรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่บางเรื่องก็อธิบายไม่ได้จริงๆ แล้วก็เป็นจริงในสิ่งที่เห็นที่รู้มา ก็แปลกดี
     
  8. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เขาจะมาให้เห็นในจิตค่ะ แบบวาบขึ้นมา แล้วดิฉันถึงจะเปิดจิตเพื่อไปพูดคุย เพราะถ้าไม่มาให้เห็นเป็นภาพ เขาติดต่อดิฉันไม่ได้ค่ะ เพราะดิฉันปิดการรับรู้ เหตุเพราะว่า ต้องใช้สมาธิมากเหมือนกัน ในการแปลคำพูดที่เขาจะสื่อสารออกมา บางทีก็เหนื่อยทีเดียว

    ที่เคยมีประสพการณ์้นะคะ บางครั้งเขาจะบอกได้ว่ามาเพราะอะไร แต่หลายครั้งที่ไม่ทราบ เช่น มีเสียงเรียกชื่อจากนอกบ้าน และอีกหลายอย่าง ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไรดี
     
  9. ลมิตา

    ลมิตา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +21
    เคยเจอเหตุการแบบนี้กับตัวเองก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใครก็คือจะได้ยินคนคุยกับเราแต่เป็นภาษาจีนเราจะไม่รู้เรื่องภาษาถ้าอยากรู้เรื่องต้องมีคนช่วยแปลก่อนที่จะได้ยินคือต้องกำหนดจิตไว้ที่ตรงกลางหว่างคิ้วทำสมาธิประมาณ30วินาทีก็จะได้ยินเสียงดังอยู่ในใจอยากทราบว่าสิ่งที่เป็นอยู่เรียกว่าอะไรช่วยบอกที
     
  10. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    จากประสบการณ์ของดิฉัน ส่วนใหญ่จะเป็นการมาขอส่วนบุญค่ะ เพราะเขาต้องสื่อสารกับคนที่มีสัมผัสพิเศษรับรู้ได้ค่ะ ก็ให้อุทิศส่วนกุศลให้เขาไปค่ะ ไม่จำเป็นต้องรอไปทำบุญใส่บาตรให้นะคะ ก็ใช้วิธีเบิกบุญของเราที่ทำๆมาแล้วอุทิศให้ได้เลยค่ะ เขาจะได้ทันที
     
  11. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    สิ่งที่คุณรับรู้ได้นั่นเป็นแบบเดียวกับที่ดิฉันสัมผัสได้ค่ะ ก็เป็นมโนมยิทธินี่แหละค่ะ ที่คุณเล่ามาได้ยินแค่เสียง หรือว่าเห็นภาพด้วยคะ

    ดิฉันมีอาม่า (แม่ของก๋งของดิฉัน) บางครั้งท่านพูดภาษาจีนออกมาเลยเหมือนกัน ถ้าเป็นจิตมนุษย์ธรรมดาๆ แปลไม่ออกค่ะ แหะ แหะ ต้องแปลในจิตค่ะ ของคุณก็เช่นเดียวกัน หากปฎิบัติมากขึ้น คงจะคล่องกว่านี้นะคะ
     
  12. yordnakorn

    yordnakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +653
    อนุโมทนาครับ...ผมยังหูหนวกตาบอดอยู่...แต่จะพยายาม..อยู่รำไป...ตั้งเป้าไว้แล้ว...อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ติ...จิเจรุนิ...สาธุ
     
  13. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    เรื่องของคุณน่าสนใจคับ

    ของเก่าติดตัวมากจริง โมทนาคับ
     
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    หลวงพ่อโต วัดบางพลีมาโปรด

    ดิฉันจะเล่าถึงเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ในการพบกับองค์หลวงพ่อโต วัดบางพลีให้ฟังค่ะ ก็หลายปีมาแล้วนะคะ ดิฉันมีบ้านอยู่ที่บางบ่อ แต่ต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพนะคะ เมื่อก่อนถนนบางนา-ตราด กำลังทำทางด่วน ทำให้เดินทางไม่สะดวก ดิฉันก็จะใช้ถนนเส้นเทพารักษ์ แล้วก็มาออกถนนบางนา-ตราดช่วงวัดของหลวงพ่อโตค่ะ

    ดิฉันขับรถผ่านหน้าวัดของหลวงพ่ออยู่หลายปี เวลาผ่านวัดทีไรก็คิดแต่ว่า อยากมาไหว้หลวงพ่อโต เพราะรู้ว่าเป็นพระสามพี่น้องกับหลวงพ่อโสธรแล้วก็หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อโสธรกับหลวงพ่อบ้านแหลมดิฉันเคยเห็นองค์ท่านแล้ว แต่หลวงพ่อโต ดิฉันยังไม่เคยเห็นเลย ก็เลยไม่รู้ว่า องค์ท่านมีลักษณะยังไง ดิฉันได้แต่คิดว่า อยากมาไหว้ แต่ก็ไม่เคยไปไหว้สักที ทั้งๆที่ขับรถผ่านหน้าวัดทุกวัน

    จนอยู่มาคืนหนึ่ง ขณะที่ดิฉันสนทนาอยู่กับหลวงปู่ทิม จู่ๆภาพหลวงปู่ก็หายไปจากในสมาธิ กลายเป็นพระพุทธรูปปางสะดุ้งมารองค์ใหญ่แทน งดงามมาก ตอนแรกดิฉันคิดว่าเป็นพระพุทธชินราช เพราะเห็นเป็นลักษณะปางแบบเดียวกัน แต่ว่าไม่มีรัศมี ก็เลยรู้ว่าไม่ใช่ แล้วจิตก็คิดไปว่าเหมือนหลวงพ่อโสธร แต่ว่าหลวงพ่อโสธร เป็นปางสมาธิ ก็ไม่ใช่อีก ดิฉันจึงได้ถามท่านไปว่า ท่านเป็นใคร พระพุทธรูปตอบกลับมาว่า "เราคือหลวงพ่อโต วัดบางพลี" ดิฉันจึงได้ถามกลับไปว่า "แล้วท่านต้องการสิ่งใดจากดิฉัน ถึงได้มาให้เห็น" ท่านตอบว่า "เราต้องการให้เจ้าไปกราบไหว้เรา" ซึ่งดิฉันก็รับปากท่านว่า ดิฉันจะไป

    บอกตรงๆว่า ดิฉันก็ไม่ได้เชื่อนักหรอก เพราะดิฉันไม่เคยเห็นองค์หลวงพ่อมาก่อน แล้วที่เห็นในสมาธิก็ไม่รู้ว่าใช่องค์หลวงพ่อโตหรือไม่ หลังจากคืนนั้นผ่านไปสองเดือน ดิฉันก็ยังไม่ได้ไปกราบหลวงพ่อตามที่สัญญาไว้ จนมาวันหนึ่งดิฉันพาลูกไปเรียนพิเศษที่ซีคอน ระหว่างรอลูก ดิฉันก็มักจะไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน พอดิฉันเดินไปถึงร้านหนังสือ ก็ไปสะดุดกับหนังสือพระเล่มหนึ่ง ที่เขาวางไว้บนชั้นหน้าร้าน เพราะเป็นรูปพระพุทธรูปองค์หนึ่งปางสะดุ้งมาร เหมือนกับองค์ที่ดิฉันเห็นในสมาธิ

    หน้าปกเขียนไว้ว่าพระห้าพี่น้อง ดิฉันรีบเปิดดูทันทีว่า พระพุทธรูปองค์นั้น มีชื่อว่าอะไร ผลปรากฎว่า เป็นองค์หลวงพ่อโตจริงๆ ดิฉันขนลุกซู่ คิดในใจทันทีว่า ไม่น่าเชื่อว่า องค์ท่านที่มาให้เห็นจะถูกต้องจริงๆ ทีแรกดิฉันยังนึกว่าตัวเองจิตฟั่นเฟือน แต่สุดท้ายก็พิสูจน์ให้เห็นว่า มันไม่ได้ฟั่นเฟือน มันเป็นของจริง ดังนั้นวันรุ่งขึ้นทำให้ดิฉันต้องรีบไปกราบท่าน ตามที่สัญญาไว้ แล้วก็ขอฝากต้วเป็นลูกศิษย์ของท่านตั้งแต่นั้นมา

    ฉะนั้นถ้าดิฉันกล่าวถึงหลวงพ่อโต ก็หมายถึงหลวงพ่อโต วัดบางพลีที่ดิฉันเคารพค่ะ แล้วท่านก็คอยสั่งสอนให้ทำแต่ความดีเสมอมา เวลาดิฉันมีทุกข์ก็มักจะไปปรับทุกข์กับท่านทุกครั้ง ท่านก็จะเมตตาอบรมสั่งสอน ทำให้ทุกข์ที่มีคลายลงไปได้ ท่านก็จะคอยเตือนสติเสมอมาว่า ให้ทำแต่ความดี ทำสมาธิ แล้วชีวิตก็จะดีขึ้นเอง ซึ่งดิฉันก็ปฎิบัติตามเสมอมา แม้ว่าบางครั้งอาจจะน้อยใจในโชคชะตาไปบ้าง ทำให้จิตคิดอกุศล หลวงพ่อท่านก็จะมาคอยเตือนสติอยู่เสมอ ทำให้ดิฉันไม่หลงผิด ไปทำสิ่งไม่ดี จนถึงทุกวันนี้ค่ะ
     
  15. nujang

    nujang Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +37
    อนุโมทนาด้วยนะคะ

    จากข้อความของคุณMe, myself ที่ว่า

    "แม้ว่าบางครั้งอาจจะน้อยใจในโชคชะตาไปบ้าง ทำให้จิตคิดอกุศล"

    ทำให้ดิฉันสะดุดใจ เพราะดิฉันก็เคยเป็น เวลาที่ท้อแท้กับชีวิต ทำดีไม่ได้ดี
    เคยคิดมากขนาดว่าจะเลิกนับถือศาสนาพุทธขึ้นมาเลยทีเดียว แต่พอตั้งสติได้ก็จะระลึกได้ว่าศาสนาพุทธนี้ดีที่สุดแล้ว
     
  16. treejak

    treejak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +205
    มโน... ถือเป็นพุทธาวุธชั้นเอก ที่มีไว้สำหรับปราบมาร คือ วิจิกิจฉา โดยแท้

    ขอจงตั้งมั่นในพระรัตนตรัย ถือมั่นอยู่ในศีล และเร่งรีบปฏิบัติเข้า เพราะไม่รู้ว่า

    พรุ่งนี้ยังจะมีอีกหรือเปล่าสำหรับเรา... สุดท้ายขอให้ มโน..เป็นเพียงเครื่องมือ จงอย่ายึด

    อย่าติดกับมัน เน้อ .... สาธุ สาธุ สาธุ ดีแล้ว เน้อ
     
  17. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    672
    ค่าพลัง:
    +939
    อนุโมทนาด้วยค่ะ เป็นตัวอย่างไนการปฎิบัติที่ดีเลยค่ะ
     
  18. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เกือบเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถหลับใน แต่ว่าก็รอดมาได้

    การที่ดิฉันสื่อกับสิ่งต่างๆได้นั้น มีส่วนช่วยในชีวิตประจำวันก็บ่อยนะคะ เคยทำให้รอดจากการเกิดอุบัตเหตุมาแล้วด้วย จะเล่าให้ฟังค่ะ

    มีครั้งหนึ่งขับรถไปต่างจังหวัด แต่ว่าคืนก่อนดิฉันนอนดึกมาก แล้วต้องตื่นมาขับรถแต่เช้า ทำให้ร่างกายไม่ตื่นตัวสักเท่าไหร่ แถมดิฉันไปคนเดียวด้วย คนชวนคุยก็ไม่มี พอขับๆไปสักครึ่งทาง เริ่มง่วงค่ะ แรกๆก็พอฝืนๆได้ พอนานๆไป เริ่มไม่ไหวค่ะ รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหลับ อยากหลับมากเลย ไม่ได้คิดว่าตัวเองกำลังขับรถอยู่ ในขณะที่อยู่ในภวังค์จะเคลิ้มหลับ ก็ได้ยินเสียงคนเรียก (เวลาใกล้หลับ จิตจะว่างค่ะ ทำให้ง่ายต่อการจูนคลื่นตรงกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์) เรียกชื่อดิฉัน ดิฉันก็ไม่ขานรับนะคะ เพราะว่าง่วง แต่เขาก็เรียกๆๆอยู่นั่นแหละ จนดิฉันรำคาญ ก็เลยว่าออกไปแบบรำคาญว่า "เรียกทำไม" เขาก็สั่งมาว่า "ตื่น ให้ตื่นเดี๋ยวนี้" ดิฉันตกใจตื่นขึ้นมา เห็นรถตัวเองกำลังวิ่งลงไหล่ทางไปแล้วค่ะ ดิฉันหักรถกลับเข้ามาทันก่อนที่รถจะเกิดอุบัติเหตุ แล้วเสียงที่เรียก ก็ชวนดิฉันคุยไปตลอดทางเลยค่ะ ถามโน่นถามนี่ไปจนถึงบ้านแม่ดิฉันเลย ไม่มีทางหลับได้เลย ก็เล่นถามมาตลอดทาง อย่างนี้เขาเรียก เทวดาคุ้ม หรือผีคุ้มค่ะเนี่ย
     
  19. Omjai_N

    Omjai_N เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +174
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอให้ได้ไปอยู่เลยนะคะเจ้าของกระทู้ สาธุ
     
  20. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    จะไม่อยู่สักสามสี่วันนะคะ จะกลับบ้านไปเยี่ยมแม่ แล้วก็จะพาแม่ไปสักการะรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฎด้วยค่ะ

    หลายวันมานี่ ได้สนทนาธรรมกับหลวงพ่อฤาษีและสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนธรรมะแล้วก็ตอบข้อข้องใจหลายข้อให้กระจ่าง สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...