ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สวัสดีครับ คุณ Me, myself และ กัลยาณมิตร ทุกท่าน

    เมื่อวานนี้ผมไปถวาย สังฆทาน เป็นข้าวสารหนึ่งกระสอบ ประมาณ ๑๘.๑ กิโล หรือ ๒๐ ปอนด์ (ไม่ใช่ ๑๐๐ กิโล) พร้อมทั้งของอื่นๆ ที่วัดราชธรรมวิริยาราม บุดดิสท์ เทมเปิ้ล 4 กับหลวงพ่อ วิริยังค์ ครับ

    ผลบุญกุศลอันใดที่เกิดขึ้นจากการถวายสังฆทานในครั้งนี้ ผมขอมอบให้กับทุกๆท่าน ครับ
    (มีเท่าไหร่ เกหมดหน้าตัก.... Oop...ให้หมดตัวครับ...ฮิฮิ)

    ขอให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลก ทางธรรม จนถึง พระนิพพาน ครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  2. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เข้ากระทู้ไม่ได้เป็นอาทิตย์เลยค่ะ เพิ่งเข้าได้วันนี้เอง ช่วงสงกรานต์ไปเที่ยวที่มาเลยเซียมา มีเรื่องแปลกๆจะมาเล่าให้ฟังด้วยค่ะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ พอดีจะออกไปธุระข้างนอกก่อนค่ะ ไว้ค่อยกลับมาเล่านะคะ
     
  3. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีค่ะ ท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย พอดีช่วงสงกรานต์ไม่ได้อยู่เมืองไทย ไปประเทศมาเลเซียมาค่ะ มีเรื่องแปลกๆมาเล่าให้ฟังด้วยค่ะ

    เช้าวันที่เดินทาง ตื่นขึ้นมาก็ได้ไปเฝ้าองค์พระศาสดาก่อน เพื่อขอพรให้เดินทางโดยปลอดภัย (กลัวเครื่องบินตกง่ะ แหะ แหะ) ท่านก็ให้พรมาแล้วบอกว่าไปแล้วจะเจอเรื่องแปลกๆ เราก็ถามว่า เรื่องแปลกอะไรเหรอคะ ท่านก็ว่าแล้วจะรู้เอง

    วันที่เดินทางไปถึงที่พัก ก็ประมาณหกโมงเย็นแล้ว พักแถวไชน่าทาวน์ พอเช็คอินเข้าห้องพักเสร็จ ก็ไปหาอาหารรับประทานกัน พร้อมทั้งเดินเล่นในตลาดไชน่าทาวน์ จากนั้นก็กลับที่พัก เพื่อพักผ่อน อาบน้ำเสร็จ ก่อนนอนก็สวดมนต์ก่อน พร้อมทั้งแผ่ส่วนกุศลให้สรรพสัตว์ทั้งหลายไปด้วย แล้วก็นอนทำสมาธิ (เหนื่อยเลยไม่อยากนั่ง) อีตอนจิตเข้าสู่สมาธิ เห็นผู้หญิงผู้ชายมุสลิมหลายคน ยืน ก้มๆเงยๆ มองดิฉันอยู่ ตอนแรกก็คิดว่า เราคิดมากไปหรือเปล่า ก็เลยไม่ได้ทัก ไม่ได้ถาม แต่ตัวเองตรงดิ่งไปหาหลวงพ่อโต ไปนมัสการท่านเป็นปกติ พอไปนั่งในโบสถ์ หญิงชายมุสลิมกลุ่มนี้ก็ตามไปด้วย หลวงพ่อก็ทักทันที

    หลวงพ่อ - พาคนมาด้วยเหรอ
    ดิฉัน - เปล่าค่ะ ดิฉันไม่รู้จัก
    หลวงพ่อ - แล้วเป็นใครกันละ (ท่านถามพวกนั้น) เข้ามาข้างในซิ
    หญิงมุสลิม ท่าทางเป็นหัวหน้า ตอบว่า - พวกดิฉันเป็นมุสลิม อยู่ที่ประเทศมาเลเซียค่ะ เสียชีวิตแล้ว ได้แต่เร่ร่อนอยู่ ไปไหนไม่ได้ พอดีได้ยินแม่หญิงคนนี้สวดมนต์ แล้วแผ่เมตตา ก็เลยได้ตามมาด้วย
    ดิฉัน - อ้าว แล้วตามมาทำไมล่ะ
    หญิงมุสลิม - ก็อยากจะมาให้ช่วย อยากจะให้หลวงพ่ออุทิศส่วนกุศลให้หน่อย พวกเราจะได้ไม่ต้องเร่ร่อนอยู่อย่างนี้
    ดิฉัน - พวกท่านเป็นมุสลิมไม่ใช่เหรอ ไหว้พระได้ยังไงกันละ แล้วจะรับผลบุญกุศลเหมือนเราได้เหรอ
    หญิงมุสลิม - ตายแล้วก็เหมือนกันหมด ไม่มีเส้นพรมแดนว่าเป็นคนประเทศนั้นประเทศนี้ ศาสนานั้น ศาสนานี้ คนในศาสนาของเราไม่มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เหมือนศาสนาท่าน พวกเราเลยลำบากไปไหนก็ไม่ได้ ได้แต่รอให้เจอคนที่จะสื่อสารได้ อยากจะขอส่วนกุศลให้เราหน่อย จะได้ไปผุดไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านี้
    ดิฉัน - ทำได้เหรอคะ หลวงพ่อ เป็นจริงอย่างที่เขากล่าวเหรอคะ
    หลวงพ่อ - เป็นจริง เราสามารถที่จะอุทิศส่วนกุศลให้พวกเขาได้ ถึงแม้นว่าตอนที่มีชีวิตอยู่ จะนับถือคนละศาสนาก็ตาม พอตายแล้ว ทุกคนก็เหมือนกันหมด (หลวงพ่อบอกกับคนกลุ่มนั้นว่า) หลวงพ่อเป็นพระพุทธรูป อุทิศบุญกุศลให้ไม่ได้หรอก ให้ลูกศิษย์ (หมายถึงดิฉัน) อุทิศให้ก็แล้วกัน เขาเป็นคนมีบุญเยอะอยู่
    หญิงมุสลิม - ได้ค่ะ หลวงพ่อ
    ดิฉัน - ท่านชื่ออะไรกันบ้างคะเนี่ย แล้วคนผู้ชายคนนั้นน่ะค่ะ ได้แต่นั่งก้มหน้าอย่างเดียวเลย ไม่พูดอะไรบ้างเลย หน้าตาก็หมองคล้ำเชียว
    หญิงมุสลิม - ดิฉันชื่อชารีฟ ส่วนผู้ชายคนนั้นชื่อ ฟามา (ขำแทบตาย คนอะไรชื่อยังกะร้านขายยา แต่ขำอยู่ในใจคนเดียวนะ) ส่วนคนโน้นชื่อ...อีกคนชื่อ...(โอย..เยอะค่ะ จำได้ไม่หมด จำมาได้แค่สองชื่อ เพราะเห็นหน้าชัดที่สุด) ฟามาเขาไม่ค่อยกล้าพูดค่ะ เป็นคนเงียบๆ คนอื่นๆก็เหมือนกัน เขาให้ดิฉันเป็นหัวหน้าในการพูดคุยครั้งนี้
    ดิฉัน - อ๋อ เหรอ..โอเค งั้นดิฉันจะอุทิศส่วนกุศลให้พวกคุณนะ ก็ขอให้พวกคุณอนุโมทนาในบุญที่ดิฉันอุทิศให้นะคะ จะได้ไปดีค่ะ
    ชารีฟ - ค่ะ

    จากนั้นดิฉันก็อุทิศผลบุญที่ทำมาทั้งหลายทั้งปวง ตั้งแต่อดีตชาติถึงบัจจุปันให้พวกเขา ซึ่งพวกเขาก็อนุโมทนาในบุญนี้ พออนุโมทนาเสร็จ ดิฉันก็เห็นการเปลี่ยนแปลงทันที โดยเฉพาะฟามา ซึ่งตอนแรกหน้าตาหมองคล้ำ ผิวกายก็ดำไม่สดใส เสื้อผ้าก็เก่า กลายเป็นหน้าตาสดใส ยิ้มแย้มแจ่มใส ผิวกายผุดผ่อง เสื้อผ้าเป็นชุดใหม่สะอาดตา น่ายินดีเป็นยิ่งนัก ส่วนคนอื่นๆก็เหมือนกัน และทั้งหมดได้ไปเกิดเป็นเทวดาค่ะ และทั้งหมดก็ได้กล่าวขอบคุณดิฉันเป็นการใหญ่ จากนั้นก็ได้ลาหลวงพ่อ ขึ้นไปสวรรค์กันค่ะ

    พอทั้งหมดไปแล้ว ดิฉันก็ได้สนทนากับหลวงพ่ออีกนิดหน่อย ท่านว่าเป็นการดีแล้ว ที่ได้อุทิศบุญกุศลให้แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เราโชคดีแล้วที่เกิดมาในพระพุทธศาสนา มีโอกาสทำบุญทำกุศลมากกว่าคนในศาสนาอื่นๆ จงอย่าได้ละในการทำบุญทำกุศลในเมื่อมีโอกาสทำได้ ก็น้อมรับคำสอนของหลวงพ่อมา แล้วก็ลาออกจากสมาธิ
     
  4. เงินไหลมา

    เงินไหลมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,412
    อนุโมทนาครับ ชอบมากๆเลยครับ จะคอยติดตามตอนต่อไป จะไม่พลาดทุกตอนครับ
     
  5. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สวัสดีครับ คุณ Me, myself

    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ ครับ

    ดีจังเลยครับ สำหรับ ข้อความดี ที่มีแก่กัลยาณมิตร ทุกท่าน

    ส่วนตัวก็กำลังพยายามอยู่ครับ แต่ก็มืดตลอด และมืดสนิทครับ (แฮะ แฮะ กิเลส หนา หลายโยชน์)

    มีเรื่องดีๆ ก็มาเล่าอีกน่ะครับ หลายท่าน ตามอ่านอยู่ทุก episode ครับ

    บุญรักษาครับ

     
  6. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    แฟนพันธุ์แท้เหนียวแน่นจริงๆนะคะ ติดตามตลอด ขอบคุณค่ะ

    พยายามปฎิบัติไปเรื่อยๆค่ะ เดี๋ยวก็ได้ผลค่ะ อย่าท้อซะก่อนก็แล้วกันค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
     
  7. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ครั้งหนึ่งเคยขอบารมีของท่านอาจารย์อนุรุททะ ให้ช่วยพาไปดูอดีตชาติของตัวเองว่าเคยเกิดมาเป็นอะไรบ้าง ท่านก็สงเคราะห์ให้ ก็เห็นตัวเองเกิดมาแล้วก็หลายชาติ เคยเกิดเป็นชายตัดฟืน หาเลี้ยงชีพด้วยการตัดฟืนขาย บางชาติก็เกิดเป็นสุนัขแม่ลูกอ่อน อาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านชาวนา เคยเกิดเป็นนายพราน แล้วได้ฆ่าเสือตัวหนึ่งตาย โดยที่เสือตัวนี้ก็ผูกพยาบาท พึ่งจะได้มาอโหสิกรรมกันเมื่อไม่นานมานี้เอง ในสมาธิ เกิดเป็นช้างก็มี

    มีอยู่อันที่เห็น เห็นตัวเองเป็นเปรตยืนแลบลิ้นออกมายาวมาก แล้วยมทูตก็จะเอามีดตัดลิ้นนั้นจนขาด ก็ได้รับความเจ็บปวด แล้วก็กลับมีลิ้นอีกเหมือนเดิม ก็จะถูกตัดอีก วนเวียนไปอย่างนี้ ก็เลยได้ถามว่า ทำผิดอะไรถึงได้รับโทษแบบนี้ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ชอบพูดโกหก มดเท็จ พูดหลอกลวง ให้ร้ายคนอื่น...โอ..เป็นเช่นนี้เอง น่ากลัวแฮะ

    ยังดูได้ไม่หมดหรอก รู้สึกสมเพชตัวเองจัง เกิดมาก็ไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ วนเวียนอยู่อย่างนี้ สุดท้ายก็ไม่อยากรู้เรื่องอดีตของตัวแล้ว ก็เลยขออาจารย์ให้หยุด ไม่อยากดูแล้ว

    เฮ้อ...น่าเบื่อเนอะชีวิตมนุษย์
     
  8. เงินไหลมา

    เงินไหลมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,412
    อนุโมทนาสาธุกับข้อความดีๆที่นำมาให้อ่านกันครับ น่ากลัวมากครับเรื่องนรก แสดงว่าในหลายๆชาติของเราก้ต้องเคยไปใช้กรรมมาแล้วในเมืองนรก ชาตินี้ถือว่าบุญมากแล้วที่มาเกิดเป็นมนุษย์จะได้ทำกรรมดีต่อไปปิดทางอบายภูมิ มุ่งไปนิพพานกันดีกว่าครับ
     
  9. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    จะเล่าเรื่องจากบันทึกที่จดไว้ ในการทำสมาธิของวันที่ 23 มีนาคม 2552

    ว้นนี้องค์ตถาคตได้เสด็จลงมารับ แล้วก็พากันขึ้นไปที่นิพพาน ก็ได้สนทนากัน

    ตถาคต - เป็นอย่างไร

    ดิฉัน - ทุกข์ค่ะ

    ตถาคต - ทุกข์เพราะอะไร

    ดิฉัน - ทุกข์เพราะไม่มีงานทำ ทุกข์เพราะกลัวเงินจะหมด แล้วจะไม่มีเงินใช้ ทุกข์เพราะเป็นห่วงลูกแล้วก็พ่อแม่

    ตถาคต - แล้วรู้สึกอย่างไร ยังอยากเกิดอีกไหม

    ดิฉัน - รู้สึกเบื่อหน่าย ไม่อยากเกิดอีกแล้ว หากชาตินี้ตายไป ก็ขอไปนิพพานค่ะ

    ตถาคต - ก็ต้องตั้งจิตให้นึกถึงแต่นิพพานไว้

    ดิฉัน - ค่ะ วันนี้ได้เข้าไปอ่านเกี่ยวกับเรื่องนรกภูมิค่ แล้วก็ไปอ่านที่นักกรรมฐานคนหนึ่งบันทึกไว้ ก็เกิดความสงสัยเจ้าค่ะ

    ตถาคต - สงสัยเรื่องอะไรรึ

    ดิฉัน - เรื่องมีอยู่ว่า ผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกผู้ชายข่มขืน แล้วก็ตั้งท้อง ผู้ชายก็ให้ไปทำแท้ง ผู้หญิงก็ไม่ยอมทำ ผู้ชายก็ทำร้ายจนแท้ง ผู้หญิงคนนั้นจึงประชดชีวิตด้วยการขายตัว เพราะฐานะก็ยากจน ก็ขายตัวเลี้ยงพ่อแม่พี่น้อง เวลาได้เงินมา พ่อก็เอาไปกินเหล้า ใช้จ่ายจนหมด เธอไม่เคยมีความสุข ได้แต่เสียใจกับชีวิตของตัวเอง ตอนหลังเธอก็เป็นโรค สุดท้ายก็ตาย เธอเลยไปตกนรก...ทำไมเธอถึงต้องตกนรกละคะ ก็เธอทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่พี่น้อง ก็น่าจะได้ผลบุญตรงนี้ แล้วก็ไม่ได้ทำผิดอะไรอีก นอกจากขายตัว

    ตถาคต - การที่เธอเลี้ยงพ่อแม่ก็เป็นความดีที่ทำให้เธอจะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี หรือไม่ก็ได้ขึ้นสวรรค์แน่ แต่เพราะจิตของเธอมีแต่ความเศร้าเสียใจ คิดแต่ว่าตัวเองไม่มีความสุข เวลาจะตาย จิตก็ไม่ได้ยึดติดกับนิพพานหรือความดี จึงทำให้เธอต้องตกนรก

    ดิฉัน - แล้วทำไมเธอถึงต้องตกนรกล่ะคะ การขายตัวก็เป็นอาชีพสุจริตไม่ใช่หรือคะ

    ตถาคต - ในทางโลก ในแต่ละที่ก็แตกต่างกัน บางที่ก็เป็นอาชีพที่ถูกกฎหมาย แต่ถึงแม้จะถูกกฎหมาย ในทางกฎแห่งกรรม ตถาคตถือว่าเป็นอาชีพที่มิชอบมิสมควรจะกระทำ เพราะเป็นอาชีพที่ส่งเสริมให้คนผิดศีลข้อกาเม ดังนั้นจึงถือว่าเป็นอาชีพที่ไม่สมควรจะกระทำ กรรมอันนี้จึงทำให้ต้องไปตกนรก

    ดิฉัน - อ๋อ...เข้าใจแล้วค่ะ

    มีต่อ...ภาคสอง
     
  10. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    มาต่อ ภาคสองค่ะ

    ระหว่างที่สนทนากับตถาคต พระอาจารย์อนุรุททะเข้ามาพอดี พระอาจารย์ได้การบสักการะพระศาสดา แล้วองค์ศาสดาก็เลยบอกกับพระอาจารย์ว่า รับช่วงต่อจากเราไปที ตถาคตจะไปเทศน์โปรดสาวกอื่นๆ จากนั้นท่านก็เสด็จจากไป พระอาจารย์จึงรับหน้าที่สั่งสอนดิฉันแทน

    พระอาจารย์ - วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

    ดิฉัน - ก็เหมือนเดิมค่ะ คิดว่ายังโง่อยู่

    พระอาจารย์ - ไม่โง่แล้วละ แต่ต้องปฎิบัติต่อไป การที่มีปัญหาหรือข้อสงสัย จะทำให้ตัวปัญญาเกิดขึ้น เพราะต้องหาความจริง หาเหตุและผลของปัญหานั้น... อยากไปดูนรกภูมิไหม

    ดิฉัน - ก็อยากไปดูค่ะ แต่ความสามารถยังน้อยนิด เดี๋ยวจะไปไม่ได้

    พระอาจารย์ - ไม่เป็นไร เดี๋ยวพระอาจารย์จะพาไป ตามมาก็แล้วกัน

    ดิฉัน - ค่ะ

    จากนั้นก็เดินตามพระอาจารย์ไป แค่นึกก็ถึงนรก เจอยมฑูตสองคน ยมฑูตก็ว่า

    ยมฑูต - พระอรหันต์ ไม่ทราบว่าท่านจะลงมา

    พระอาจารย์ - ไม่เป็นไร เราแค่พาลูกศิษย์มาดูนรก

    ยมฑูต - เชิญครับ กระผมจะพาไป

    ท่านยมฑูตก็พาไป เราก็มีคำถามอยากถามยมฑูต พระอาจารย์รู้ได้ทันทีในสิ่งที่เราคิด ก็บอกให้ถาม

    ดิฉัน - อยากถามท่านยมฑูตค่ะ

    ยมฑูต - ว่าอย่างไรหรือท่าน

    ดิฉัน - ในนรกนี่มีเหล้ากินเหรอคะ แล้วยมฑูตกินเหล้าได้ด้วยเหรอ ไม่ได้อิ่มทิพย์เหมือนพวกเทวดาหรือพรหมหรือ

    ยมฑูต - ไม่มี ยมฑูตไม่ต้องกินอาหาร กินเหล้าไม่ได้ มีหน้าที่ที่ต้องทำ หมดเวรหมดกรรมเมื่อไหร่ก็ไปเกิด

    เราก็สับสน เพราะไปอ่านเจอที่เขาเขียนว่า เขาไปเห็นยมฑูตตกนรกต้องรับกรรม เพราะไปกินเหล้า แล้วก็ไปทำมิดีมิร้ายกับผู้หญิงในนรก...งง...ไอ้เราก็คิด ถ้าในนรก ยมฑูตยังทำยังงั้นได้จริงๆ มนุษย์มิต้องตกนรกกันมากขึ้นเหรอ เพราะว่าพวกยมฑูตนี่ เขาต้องเลือกคนมาเป็นแล้วนี่นา ไม่น่าจะมีการทำผิดศีล ผิดกฎหรือเป็นคนที่ยังมีกิเลสพวกนี้อยู่ อีกทั้งในนรก ก็ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นหรอก ไม่งั้นนรกคงวุ่นวายเหมือนโลกมนุษย์...

    ยมฑูตพาไปดูนรกขุมหนึ่ง เห็นมีกระทะทองแดง มีไฟสุมอยู่ใต้กระทะ มีคนทั้งหญิงชายอยู่ในกระทะนั้น แล้วก็มีพวกยมฑูตคอยเอาหอกแทงหญิงชายเหล่านั้น ทั้งหมดต่างก็ร้องเสียงโหยหวน พอมองมาเห็นพระอาจารย์ ต่างก็ร้องขอความช่วยเหลือกันระงมไปหมด ดิฉันเห็นแล้วก็รู้สึกอนาถ หดหู่ ก็เลยขอไปต่อ

    มีต่อ..ภาคสาม
     
  11. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    ขอบคุณมากครับ จะพยายามต่อไปครับ

     
  12. เงินไหลมา

    เงินไหลมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +3,412
    สนุกดีครับ เคยได้ยินแต่พระมาลัยท่องนรก ตอนนี้มีเวอร์ชั่นใหม่แล้วครับ หลานพระมาลัยพาทัวร์นรกภูมิ อ่านแล้วสนุกตื่นเต้นดีครับ
     
  13. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สวัสดีครับ คุณ Me, myself

    ทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆ จากคุณ Me, myself ดูราวกับว่า ตัวเองได้กราบพระบาทพระพุทธองค์ และพระอาจารย์อนุรุทธะท่าน ด้วยตนเอง รู้สึกว่า ท่านอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้อยู่ไกลอย่างที่เคยคิดในตอนเด็ก

    (หากข้าพระพุทธเจ้ากล่าวสิ่งใด เป็นการปรามาส ขอพระพุทธองค์ ได้โปรดงดโทษ ข้าพระพุทธเจ้า ด้วยเถิด)

    ขอบคุณครับสำหรับเรื่องดีๆ ตามอ่านตลอด

    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ

    สวัสดีครับ

     
  14. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ต่อ..ภาคสาม

    ยมฑูตก็พาไปต่อ เห็นมีเป็นสระบัวสวยงามเต็มไปหมด น้ำใส แล้วก็เห็นว่า มีหญิงชายหลายคน พอเห็นก็เกิดความยินดีปรีดา ปากก็พูดพร่ำกันว่า "โอ้โฮ..น้ำใสไหลเย็น" แล้วก็ต่างวิ่งแข่งกันไปกระโจนลงสระบัวนั้น พอร่างตกลงไปในสระบัว ก็เกิดไฟลุกไหม้บุคคลเหล่านั้น แล้วเผาจนตาย ดิฉันก็เกิดความหดหู่อีก ดูน่ากลัว ท่านยมฑูตถามว่า อยากเห็นอะไร ดิฉันก็ว่าอยากดูต้นงิ้ว

    ท่านก็พาไปดู เห็นมีต้นงิ้วเต็มไปหมด ต้นงิ้วไม่ได้มีต้นอยู่แล้วนะ มันจะค่อยๆโผล่มาจากพื้นดิน แทรกแผ่นดินขึ้นมา จนรู้สึกได้ว่าพื้นสั่นสะเทือนไปหมด พวกยมฑูตก็บังคับให้คนทั้งหลาย ซึ่งมีทั้งหญิงชายให้ปีนขึ้นไป ต้นงิ้วที่ตอนแรกเหมือนกับเสาธรรมดาๆ ก็จะมีหนามแหลมงอกออกมาจากต้นทิ่มแทงบุคคลเหล่านั้นระหว่างที่ปีนขึ้นไป เจ็บปวดทรมาน แต่ก็ต้องปีนขึ้นไป จะลงมาก็ไม่ได้ เพราะยมฑูตคอยเอาหอกทิ่มแทงอยู่ด้านล่าง พอปีนไปถึงยอดก็มีอีกาคอยจิกทึ้ง แล้วก็ร่วงลงมาด้านล่าง ข้างล่างก็มีสุนัขคอยกัดกินอีกจนเมื่อเหลือแต่กระดูก ยมฑูตก็จะเอาหอกแทงกระดูกเหล่านั้นไปโยนลงบ่อน้ำ แล้วก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ ก็ถูกบังคับให้ไปปีนต้นงิ้วอีก วนเวียนอยู่อย่างนี้

    ดิฉันบอกยมฑูตว่า อยากเห็นโลกัณฑ์นรก ยมฑูตก็พาไปดู แค่นึกก็ถึง เป็นดินแดนที่มีแต่ความมืดมิด ในนรกยังมองเห็นสีแดงของเปลวเพลิง แต่โลกัณฑ์นรกไม่เห็นอะไรเลย อยู่แต่ในความมืด ก็พอมองเห็นว่ามีสัตว์นรกปีนป่ายเกาะอยู่ ถ้าร่วงลงมา ข้างล่างก็จะเป็นน้ำ แล้วก็ตาย จากนั้นก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ แล้วก็ปีนกลับไปเหมือนเดิม ได้ยินเสียงสัตว์นรกคร่ำครวญว่า "หนาวๆ ที่นี่มันคือที่ไหน"

    ดิฉันถามยมฑูตว่า นรกขุมที่แปดกับโลกัณฑ์นรกนี่ อันไหนมันแย่กว่ากัน ยมฑูตบอกว่าโลกัณฑ์นรกแย่กว่า นรกอเวจียังมีเวลาใช้กรรมหมดถึงจะนานก็เถอะ แต่นรกขุมโลกัณฑ์ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นไปได้ ไม่มีทางได้รับส่วนบุญส่วนกุศล เฮ้อ...ดูแล้วน่ากลัวจริงๆ

    จากนั้นยมฑูตก็พาไปเฝ้าท้าวเวชสุวรรณ ท่านเห็นดิฉันก็ว่ามาอีกแล้ว จากนั้นก็สนทนากันอยู่สักครู่หนึ่งพระอาจารย์ก็ลากลับ ก่อนกลับท่านท้าวเวชสุวรรณฝากบอกว่า บอกให้ทุกคนทำความดีกันมากๆหน่อย จะได้ไม่ต้องตกนรก ข้างล่างนี่เยอะมาก ดิฉันเลยถามท่านว่า "นรกมันเต็มแล้วหรือ รับไม่ได้อีกหรืออย่างไร" ท่านท้าวเวชสุวรรณหัวเราะแล้วบอกว่า "นรกยังมีที่มากพอสำหรับคนชั่ว ไม่มีทางเต็ม ที่กว้างใหญ่ไพศาลเท่าไหร่ก็รับได้ แต่ไม่ได้อยากให้ลงนรกกัน"...

    จากนั้นพระอาจารย์ก็พาไปเข้าเฝ้าองค์ตถาคต ก็สนทนากันอีกสักครู่ท่านก็ให้เรากลับ แล้วสั่งว่าให้แวะไปวิมานของตัวเองก่อนแล้วค่อยกลับ

    จบ...
     
  15. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    โมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ

    บุญรัษา

    สวัสดีครับ


     
  16. I Love NIPPan

    I Love NIPPan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +479
    ซ้ำค่ะ
     
  17. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อนุโมทนาบุญ ทุกคอลัมภ์ เลยค่ะ สาธุ ดิฉันกำลังเริ่มฝึกหัด เนื่องจากกำลังเจอภาวะวิกฤติชีวิต ที่ดิ่งลง ที่อเมริกา จึงหันมาพึ่งเวบพลังจิต ก็เจอ คอลัมนี้โดนใจ พอจะมีกำลังใจต่อสู้ชีวิต
     
  18. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    672
    ค่าพลัง:
    +939
    อนุโมทนากับทุกท่านค่ะ อ่านแล้วสนุกและมีสาระมากจริงๆ ขอขอบพระคุณ
     
  19. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    เมื่อคืนได้พบหลวงพ่อฤาษี ท่านมีข้อความฝากมาบอกลูกศิษย์ท่านด้วย แต่ไม่กล้าเขียน กลัวจะไม่สบอารมณ์ท่านๆกันหรือเปล่า อุตส่าห์บอกหลวงพ่อแล้วนะ ถ้านู๋ไปเขียนตามที่หลวงพ่อบอก นู๋จะไม่โดนสหบาทาเหรอ เกิดคนเขาไม่เชื่อ จะหาว่าเอาหลวงพ่อมาอ้าง ท่านก็ว่าให้เขียนไปเลย บอกว่าหลวงพ่อบอกมาอย่างนี้

    ตอนนี้ยังไม่บอกอ่ะ กลัวเจอลูกหลง จริงๆท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรมากหรอก แค่บ่นๆว่าๆพวกทำไม่จริงไม่จัง แต่ยาวหน่อย
     
  20. Ricardo DeCalgary

    Ricardo DeCalgary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +11,341
    สุ้ๆ ครับ มีคนเอาใจช่วยเยอะครับ

     

แชร์หน้านี้

Loading...