ฝึกกสิณแสงสว่างแล้วมีกสิณสีเขียวมาผสมในดวงกสิณ แบบนี้จะดีหรือไม่ค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ซีอิ้วขาว, 24 มีนาคม 2018.

  1. ซีอิ้วขาว

    ซีอิ้วขาว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +9
    เริ่มต้นฝึกสมาธิ เห็นแสงสว่างจุดเล็กๆ ค่อยขยายใหญ่ขึ้น แล้วกลับมาเล็กอีก แล้วก็ขยายใหญ่อีกหลายรอบ สุดท้ายแสงขยายใหญ่นิ่ง
    เป็นดวงกลมสีเขียวเหลือง ตรงขอบข้างรอบๆสีเขียวจุดๆ ตรงกลางดวงสีเหลืองใส ค่อยๆใสขึ้น แล้วมีภาพข้างใน
    ที่สงสัยนี่ใช่กสิณแสงสว่างกับกสิณสีเขียว
    ผสมกันหรือเปล่า แล้วผสมกันแบบนี้ดีหรือไม่ค่ะ ควรทำอย่างไรดีค่ะ ขอผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    <CENTER>
    LP109.jpg

    ปัญหาการปฏิบัติพระกรรมฐาน(๖)
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)</CENTER>
    หลวงพ่อครับ กสิณนี่เป็นมโนภาพใช่ไหมครับ…?
    กสิณไม่ใช่มโนภาพนะ กสิณนี่ต้องใช้นิมิตตรง ต้องใช้ดูวัตถุแล้วจำภาพ ไม่ใช่มโนภาพ ถ้าเราจะตั้งก็ได้ แต่เป๋ ถ้าดูวัตถุยังไม่ค่อยจำ นี่เล่นมโนภาพ ระวังกสิณโทษจะเกิด อย่างเราเจริญปฐวีกสิณ จะต้องเอาจิตจับไว้เฉพาะปฐวีกสิณอย่างเดียว ถ้าภาพอื่นข้ามาแทรกต้องตัดทิ้งทันที นั่นเขาถือว่าเป็นกสิณโทษ จนกว่ากสิณกองนั้นเข้าถึงฌาน ๔ แล้วก็คล่องตัว จึงจะย้ายไปเป็นกสิณกองอื่นต่อไป
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อย่างเราเจริญปฐวีกสิณ จะต้องเอาจิตจับไว้เฉพาะปฐวีกสิณอย่างเดียว ถ้าภาพอื่นข้ามาแทรกต้องตัดทิ้งทันที นั่นเขาถือว่าเป็นกสิณโทษ จนกว่ากสิณกองนั้นเข้าถึงฌาน ๔ แล้วก็คล่องตัว
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : การจับอานาปานุสติแล้วเกิดอุคหนิมิตและปฏิภาคนิมิต (ไม่ชัด)
    ตอบ : คนที่เคยมีพื้นฐานเก่ามาก่อน จะสามารถเกิดนิมิตขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีพื้นฐานเก่ามาก่อนจะไม่มี

    ถาม : แล้วพื้นฐานเก่านี่รวมถึงกสิณด้วยหรือเปล่าครับ ?
    ตอบ : อยู่ ที่ว่าเราฝึกกสิณมาหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ฝึกกสิณมาก่อน นิมิตก็ไม่แน่ว่าจะปรากฏ แต่ถ้าหากว่าเราฝึกกสิณอยู่ ถึงเวลาปฏิภาคนิมิตจะสามารถปรากฏขึ้นเองได้ ขยายให้ใหญ่ได้ ให้เล็กได้ ให้มาได้ ให้ไปได้ ถ้าหากว่าตรงกับกองกรรมฐานที่ทำอยู่ เราก็พิจารณากำหนดปฏิภาคนิมิตได้ ถ้าหากว่าไม่ตรงกับกองกรรมฐานก็ต้องปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ อย่าไปสนใจ ในช่วงนั้นถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ก็กำหนดรู้ลมหายใจพร้อมกับนิมิต ถ้าไม่มีลมหายใจก็ให้จับนิมิตอย่างเดียว

    เมื่อสภาพจิตเราเริ่มทรงตัว นิมิตต่าง ๆ จะปรากฏขึ้น แล้วส่วนใหญ่จะไปเสียตรงนั้น พอถึงเวลาภาวนาเมื่อไรก็อยากเห็นนิมิตอีก ตัวอยากฟุ้งซ่านก็เลยไม่เห็น เลยทำให้เสียคนไปเลย จนกระทั่งมีนักปฏิบัติที่มาทางสายวิชาการหลายคนบอกว่า ใครทำแล้วได้นิมิต ครั้งต่อไปอย่าหวังเลยว่าจะได้เพราะเขามั่นใจว่า ไอ้นี่ต้องฟุ้งซ่านจนกระทั่งไม่มีทางได้เห็นอีก

    แต่ละคนที่เคยมีพื้นฐานเก่ามาก่อน จะสามารถเกิดนิมิตแบบนั้นได้ ถ้าไม่มีพื้นฐานเก่ามาก่อนจะไม่มี แสดงว่าชาติก่อน ๆ คุณเคยฝึกมาแล้ว แต่เรื่องอย่างนี้ถ้าไปพูดกับสายวิชาการเขาไม่ยอมรับ เขายืนยันอย่างเดียวว่าไม่มี

    ให้กำหนดลมหายใจเป็นปกติ ตามดูตามรู้อย่างเดียว ถ้านิมิตเกิดขึ้นตรงกับกองกรรมฐานก็สามารถจับต่อได้ ถ้าไม่ตรงกับกองกรรมฐานก็ทิ้งไปเลยถ้ายังรู้ลมอยู่ก็กำหนดรู้ลมไป ถ้าไม่รู้ลมแล้วก็จับนิมิตอย่างเดียว

    ส่วนใหญ่แล้ว แรก ๆ ประเภทศึกษามาน้อย มักจะจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ถ้าถึงตรงนั้นแล้วเดี๋ยวก็มั่วถูกไปเอง


    (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี
    โหลดหน้านี้ใหม่ เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๗
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    กสิณถ้าเราได้เริ่มฝึกกองไหนแล้วนะครับ
    ให้เน้นฝึกกองนั้นไปเลยแค่กองเดียวครับ
    และในระหว่างทางนั้น หากว่ามีหรือเห็นนิมิต
    กสิณอะไรก็ตามเข้ามาแทรก ในระหว่างการฝึก
    ของเรานั้น พวกนั้นถือว่าเป็นกสิณโทษหมดครับ
    โทษคือ ขวาง เพราะทำให้เราช้า เพราะมัวไปสนใจ
    มันนั่นหละครับ....ช้าในที่นี้ หมายความว่า
    ชาตินี้อาจจะฝึกไม่สำเร็จในระดับใช้งานเลยก็ได้ครับ


    เพราะกว่าจะใช้งานได้ ไม่ใช่ว่า แค่มานั่งเกรงกล้ามตรูด
    แล้วเข้าสมาธิระดับสูงได้แล้วจะใช้งานได้เลยนะครับ

    จะต้องผ่านเรื่องความเฉลียวในการใช้งานจากภาคส่วน
    ภูมิก่อนด้วยครับ ความเฉลียวพวกนี้เป็นนามธรรม
    ดังนั้น เราควรมีความเข้าใจทางด้านนามธรรมค่อนข้างดี
    และควรเข้าใจด้วยตัวเองได้บ้าง อะไรที่บอกว่าห้าม
    ก็คือ อย่าไปสนใจ เด่วพวกนี้ พอฝึกจนใช้งานได้
    มันจะมีเครื่องย้อนรู้ทุกกิริยาได้เองนั้นหละครับ
    และยังต้องผ่านการทดสอบเรื่องความกลัวตายด้วยครับ

    ไม่งั้น มันก็จะเป็นกสิณในระดับอุคหนิมิต ที่รู้ได้เฉพาะตน
    และเผลอๆจะไปติดในเรื่องพิศดาร จนอาจจะหลงตัวเอง
    ได้อย่างคาดไม่ถึงครับ


    ทริคการฝึก หลักๆ
    จำไว้นะครับว่า การฝึกกสิณ ถ้ายังอยู่ในระดับอุคหนิมิต
    ถือว่าเป็นโทษได้หมดครับ นี่ต่อให้อุคคนิมิตตรงๆนะครับ
    มันก็ยังเป็นโทษ พูดง่าย คือยังไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับ

    ฝึกกสิณนะครับ มันเป็นเรื่องปกติระหว่างทางที่มักจะเจอ
    อะไรที่มันพิศดารล้ำลึกมากมาย เกินกว่าจะเล่าให้ใครฟังได้
    และมันก็มักจะเกิด ความสามารถแปลกประหลาดขึ้นมาก
    มายระหว่างทางด้วยครับ
    แต่ท่านบอกว่า
    ห้าม และ ก็ห้ามๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ไปสนใจมันครับ.....พวกที่ชอบเอาท่านๆมาอ้าง
    ไม่รู้ว่า หูตึงหรือตาฝ้าฟาง ในประเด็นที่ท่านบอก
    ตรงนี้ได้อย่างไรน้อ..

    จนกว่าจะปั่นปฏิภาคนิมิต ในกำลังสมาธิระดับสูงได้ครับ
    ทริคหลักๆมันอยู่แค่นี้เองครับ

    ปล.แบบที่เจ้าของกระทู้ถาม มันเป็นในระดับอุคหนิมิต
    ถึงจะย่อขยายแบบนั้นได้ ทั้งปี ทั้งชาติ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
    นอกจากจะหลงตัวเองเล่นๆ ยิ่งถ้าส่งจิตไปตามมันเข้าไป
    ชาตินี้ยิ่งห่างไกลความสำเร็จออกไปอีกหลายเท่าตัว

    เค้าให้พอเจอแสงแล้วก็ให้ระลึกถอยออกมา
    และก็ให้เข้าไปอีก และก็ให้ เข้าออกเข้าออก บ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ
    จนกระทั่ง การเข้าในครั้งต่อไป มันจะพรวดไปใน
    ระดับปฏิภาคนิมิตได้เอง
    แล้วค่อยมาดูว่า ๑.จะปั่นปฏิภาคเพื่อเอากำลังจิต
    ๒.จะอฐิษฐานจิต เพื่อให้เกิดผล
    หรือ ๓.จะทิ้งภาพดึงภาพแล้วไปต่ออรูปฌานครับ
    ซึ่งมันยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ...

    ปล.กสิณเป็นกรรมฐานหยาบๆ ที่ดูเหมือนจะฝึกง่ายในช่วงแรกๆ
    แต่การที่จะฝึกได้ในระดับใช้งานได้ จะไม่มีคำว่าฟลุ๊คนะครับ
    หมายถึง เราต้องมีความฉลาดในการใช้งาน ซึ่งตรงนี้
    ไม่สามารถสอนกันได้ และก็มีเมตตาจนกระทั่งว่า
    จะมีใครมาทำร้ายเราในนิมิต เรายอมให้เค้าฆ่าเราเลย
    โดยไม่ใช้กสิณไปทำร้ายเค้าเด็ดขาด
    ถ้าเราดันรู้ตัวและตั้งใจว่า ยอมให้เค้าฆ่าเรา
    พวกที่มาทดสอบก็จะรู้ทันเราอีก
    นั่นหละครับ.
    ท้ายนี้ ถ้าอยากจะมีโอกาสใช้งานได้จริงในชาตินี้
    ควรอ่านแล้วพิจารณา ไม่ใช่อ่านผ่านๆ
    และควรจดจำที่แนะนำและควร
    ทำตามบ้างก็จะดีมากครับ..... bye
     
  6. ซีอิ้วขาว

    ซีอิ้วขาว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +9
    ความรู้น้อยค่ะ ก่อนหน้านี้ปฎิบัติก่อนคิด ตอนนี้รู้แล้วค่ะต้องระวังกสิณโทษ ไม่ต้องสนใจภาพนิมิต ตัดทิ้งนิมิตไม่ตรงกองกสิณ จะฝึกต่อค่ะ ถ้าผ่านตรงนี้ได้ก็พอ ถ้าผ่านไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ
    ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ตามวาระครับ
    ปล. ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ...(^_^)
    ขออภัยที่พี่ขุนว่า ออเจ้าแรงไป...๕๕
     
  8. ซีอิ้วขาว

    ซีอิ้วขาว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +9
    ถึงพี่ขุน

    ฉันให้อภัยค่ะ :)

    ทำให้คิดอะไรได้ค่ะ ไตร่ตรองดูแล้วกสิณคง
    ไม่เหมาะกับตัวเอง แรกเริ่มความต้องการฝึกสมาธิให้ใจเข้มแข็ง คลายความเสียใจ เศร้าใจ มีความสงบ ไม่ได้ต้องการอย่างอื่น มาผิดทางแบบไม่รู้ ว่ายังมีกรรมฐานอีกหลายกอง

    ไม่ผิดน่ะค่ะคิดเปลี่ยน ฝึกกรรมฐาน
    กองอี่นที่เหมาะกับตัวเรา ตามที่แนะนำไว้
    อานาปานุสติ ขอแค่ระดับพื้นๆ
    ไม่ไประดับสูงค่ะ
    ตั้งใจต่อไปค่ะ ให้กำลังใจตัวเอง แฮะๆๆ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ถึงออเจ้า ผู้หลงยุค

    ขอบใจที่ให้อภัยเน้อ เด่วจะด่าทีหลังจากที่แนะนำ

    ออเจ้า เอ้ย พี่หมื่นว่า
    เจ้าคงหลงแม่น้ำ แล้วหละ
    เรื่องการคลายความเคร้าเสียใจ นั้น
    มันเป็นเรื่องของ กำลังสติทางธรรม
    ที่ได้จากการเจริญสติในชีวิตประจำวัน
    เพื่อควบคุมความคิดและพฤติกรรมของจิต
    (ควบคุมการปรุงแต่ง กรณีที่มันคิด นึก ระลึก เรื่องนั้นขึ้นมาได้)
    และเป็นเรื่องของปัญญาทางธรรม ที่รู้จักปล่อยวาง
    ละ คลาย ความคิดต่างๆ ในอดีตเหล่านั้นจร้า

    มันคนละแนวกับกสิณแล้วครับ สมถะ กับ วิปัสสนา
    อยากได้ผล ทางวิปัสสนา ตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่บอก
    จะได้แนะนำให้ถูก ที่เจ้าเชิงท้อแท้น้อยใจไม่แปลกหรอก
    เพราะภูมิต้านทานทางจิตเจ้ายังไม่เข็มแข็งพอ

    เพราะถ้ามีกำลังจิต มันถึงจะมีภูมิต้านทานตรงนี้

    ระบบหายใจแบบอาปาฯ (เข้าออกลึกถึงท้อง)
    ควรฝึกไว้ให้เป็นระบบหายใจ
    ในชีวิตประจำวัน แทนการหายใจเข้าออกถึงแค่หน้าอกเอาไว้
    เพราะมันเป็นพื้นฐานสำคัญมากในการเข้าถึงผลสำเร็จ
    ของกรรมฐานทุกๆกอง เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้จะช้าความสำเร็จจาก
    หลักเดือนอาจกลายเป็นปีได้

    กสิณหากเรา รู้จักสังเกตุการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่อยุ่รอบๆนิมิต
    ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง จะเป็นแนวทางเดินให้จิตเกิดปัญญาได้
    และในชีวิตประจำวัน ก่อนหลับตาเรามาพิจารณาว่าวันนี้พลาดเรื่องอะไร
    และก่อนลืมตาตอนเช้ามาพิจารณา ซ้ำอีกครั้ง
    ก็มีโอกาสเข้าถึงความสำเร็จได้ แบบผุดขึ้นมาเอง
    เหมาะสำหรับสายที่ไม่ชอบบู้ทั้งหลาย พวกภูมิต้านทานทางจิตน้อยๆ
    อย่างนี้ ออกไปข้างนอก เจอหมอผี หมอธรรม เจออสูรกายหน่อย
    คงดิ้นเด่วๆ เรียกหา ครูบาร์อาจารย์ ร้องไห้ขี้มูกโป่ง

    ปล.ส่วนตัวไม่เคยสนใจหรอก ว่าใครจะฝึกกรรมฐานอะไร
    หรือจะอยากฝึก ไม่อยากฝึก ก็เรื่องของใครของมัน
    เพียงแต่ถ้าใครถามมา ถ้าเคยผ่านและ
    มีประสบการณ์มาก่อนก็แนะนำได้หมดแระครับ

    และไม่ได้สนใจ ว่าหน้าจะเหมือนเหมือนญาติใคร

    เป็นลูกเต้าเหล่ากอใคร
    หรือว่าเป็นใคร หรือเคยทำอะไรข้าพเจ้ามาก่อน
    ถ้าถามมา ก็ตอบไป คิดแค่นี้
    อย่าให้ความสำคัญอะไร
    กับตัวเองมากไปนะออเจ้า

    เห็นพี่หมื่นพูดแบบถ่อมตัวด้วยทำเป็น
    เป็นได้ใจ.......
     
  10. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    ไม่ใช่กสิณหรอกครับ เป็นความแจ่มๆแสงสว่างของจิต ของการเริ่มฝึกสมาธิ

    จะหลงทางก็ต่อเมื่อ สงสัย อยากรู้ว่ามันมีอะไรคืออะไรนี่แหล่ะ นิมิตภาพต่างๆ
    จะประดังมาให้หลงทาง ออกนอกแนวกรรมฐาน

    แต่หากจะ หันมาทำอาโลกสิณ

    ก้ให้สังเกตุ แสงสว่างๆ เพิ่ง ไปจุดที่สว่างๆ เป็นดวงๆ บริกรรมทับไป สว่างๆ สว่างๆๆ
    หรือ อาโลกสิณัง อาโลกสิณัง

    เวลาเริ่มเจอแสงสว่าง ให้อธิฐาน ทับไปว่า ขอให้มาถึงจุดนี้ได้อย่างทันใจนึก
    มันเหมือนการปักหมุดบอกระยะทาง จะอาศัยการนึก แล้วเข้ามาตรงนี้ทันที
    ที่จิตมีความชำนาญพอชำนาญในจุดเล็กๆ
    ดวงสว่างๆมันใหญ่ขึ้น ก็ปักหมุดใหม่
    ทำแบบนี้ไปเรื่อย จนชำนาญ ใช้เวลานะครับไม่ใช่เรื่องง่าย

    จนสามารถ รวมดวงสว่างๆ ได้เป็นสีขาว กลมๆ
    เหมือนมองทะลุเปลือกตาดวงสีขาวกลมๆมันลอยอยู่ตรงนี้
    สภาพกายเบาจิตเบาปลอดโปร่ง ไม่อึดอัด

    อีกอย่างนึง ก่อนทำรรมฐาน ไหว้พระอาราธนาศีลสวดมนต์ทุกครั้ง


    อ้อ อีกอย่างนึง ถ้ากลัวผี อย่ามาฝึกแนวนี้ จะบ้าเอาได้
     
  11. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    นิมิตกสิณถ้าวางจิตถูกจะเป็นกรรมฐานหมวดกสิณครับ
    แต่ถ้าวางกิริยาจิตผิดจะเป็นโทษคือ วิปัสนูปกิเลสครับ
    มิจฉากับสัมมาเท่านั้นเองครับ
    ไม่มีอะไรดอกท่านขุนและออเจ้าทั้งหลาย
    อิอิอิ เอามั่ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...