สอบถามเรื่องการนั่งสมาธิแล้ว ปวดตรงหน้าปากระหว่างคิ้วอะครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย rasetsacrifa, 3 พฤศจิกายน 2008.

  1. rasetsacrifa

    rasetsacrifa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +127
    เป็นทุกครั้งที่ผมนั่งสมาธิ หรือว่า นอนสมาธิก่อนที่จะแผ่เมตตาแล้วก็หลับครับ

    โดยความรู้สึกจะปวดๆ ตรึงๆ ตรงจุดระหว่างคิ้ว และรู้สึกว่ามันลึกเข้าไปใน

    กะโหลกครับไม่ใช่สิวแน่นอนครับ ฟันธง โดยแรกๆจะไม่ปวดมาก

    โดยผมจะไม่สนใจในช่วงแรกๆ จะปวดๆตึงๆ เวลานั่งสมาธิครับ แต่ไม่ได้เพ่ง

    ซึ่งถ้าเพ่งตรงนั้นจะปวดมาก ไม่ว่าผมจะนั่งเพ่ง หรือไม่เพ่ง แต่ขอให้เข้า

    สมาธิ ก็จะเริ่มตึงๆ เสียวๆ ทันที ขอถามว่าเป็นไรปะคับ หรือว่าผมเป็นมะเร็ง - -

    แล้วผมจะตายมั้ยเนี่ย!!!
     
  2. meekaw

    meekaw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2007
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +38
    เป็นเหมือนกันครับเมื่อครั้งที่ผมไปปฏิบัติธรรมที่ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ของหลวงพ่อจรัญ และยังเป็นมาถึงทุกวันนี้แม้ไม่ได้นั่งสมาธิ จะมีอาการกระตุกตุ๊บๆ กลางหว่างคิ้วเหนือขึ้นไปประมาณกลางหน้าผากพอดี และกระตุกแรงมากๆ คล้ายหัวใจเต้น เคยอ่านในเว็ปนี้ มีกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับตาที่สาม และจิตของเราเองเดินทางเข้าออก คล้ายพลังงานอย่างหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าอันไหนกันแน่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จากผู้รู้ ขณะพิมพ์อยู่นี้ก็รู้สึกตึงๆอีกแล้วครับท่าน
     
  3. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    ทำต่อไปครับ..ถ้าพ้นจุดนี้ได้แล้วจะดีครับ...
    (มีหลายคนที่เกิดอาการแบบนี้ครับ...แต่เขาสามารถพ้นไปได้แล้วครับ)
    อย่าสงสัยอะไรเลยครับ...มันเป็นอาการทางกายครับ...
    ....ความลังเลสงสัยเป็นหนึ่งในนิวรณ์ 5 ครับ...
     
  4. namaste

    namaste Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +55
    เป็นเหมือนกันค่ะ ทำยังไงถึงจะหายจากความลังเลสงสัยคะ
    แต่ว่ายังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าติดลังเลสงสัยเรื่องอะไรอยู่ ^^"
     
  5. ร่มโพธิ์

    ร่มโพธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    553
    ค่าพลัง:
    +1,952
    ก็ที่ชอบถามกันไงครับ...ว่า..
    ............มันเป็นอะไร.............
    ............เพราะอะไร..............
    ............ทำไมไม่หาย............
    ............เป็นแล้วดีหรือไม่ดี.......
    ...............ฯลฯ..................
    ประมาณนี้ไงครับ........เคยเกิดขึ้นในจิตขณะที่ภาวนาไหมครับ..
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ปรกตินะ

    วิธีที่จะพิสูจน์ว่า เป็น อาการทางกาย เป็นโรค หรือเปล่า คือ

    มันเป็นเฉพาะที่ คุณนึกถึง หรือ กำลัง การปฏิบัติหรือเปล่า

    ถ้าใช่นี่เป็นเพียงวิบากที่ได้จากการจงใจปฏิบัติธรรมดา หากคุณละเลิกการปฏิบัติ
    อาการเหล่านี้จะค่อยๆ คลายตัวลง มันจะไม่หายโดยทันทีที่หยุดปฏิบัติเพราะมัน
    เป็น วิบาก ( การส่งผลตอบแทน ) วิบาก นั้นหากมีแล้วไม่มีทางที่จะทำให้มันหาย
    ไปได้ เหมือน กายเราหน้าตาเราเมื่อทำบุญมาอย่างไรเราก็ได้หน้าตาแบบนี้ น้ำเสียง
    แบบนี้เป็นวิบากติดตัวไป ทำให้หายไม่ได้ ต้องสักระยะหนึ่งก็จะเปลี่ยนไปเอง

    เวลาปฏิบัติธรรมแล้วเกิดอาการแสบๆ ตรงหน้าผาก คันๆตามเนื้อตัว ตัวเบา ตัวโคลง
    โหวงเหวง ตัวลอย ตัวเอียง รู้สึกแขนขาหายไป ให้ระลึกแค่ว่า คุณยังมีความจงใจใน
    การปฏิบัติธรรม ให้ผ่อนๆ จิตใจลง พยายามทำให้สบายๆ มีความสุข ไม่ฝุ้งซ่านตาม
    ดูอาการใดๆ ให้จิตมีสติเคล้าเคลียรกับองค์บริกรรมด้วยจิตใจเบาๆ จับเบาๆ สบายๆ

    แล้วจะหมดปัญหาลงเอง
     
  7. จารุง นิ่มนวล

    จารุง นิ่มนวล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +105
    จดจ่อเกินไปทำให้เกร็ง
     
  8. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    มันเป็นอาการ ของการ อยากให้ได้ สมาธิ

    จะเพ่ง หรือ ไม่เพ่ง ก็มีความอยาก ให้ได้ สมาธิ

    มันจะ ปวดขมับ แบบนี้แหละ

    ต้องห้ามอยากได้ สมาธิ แล้วมันจะได้ สมาธิเอง
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    จะให้ดีนะ อะไรเกิดขึ้นให้รู้สึก ให้รู้เลยครับว่านั้น จิตที่เป็นธาตุรู้ ไปรู้รูปหนึ่งๆเข้า

    หลังจากนั้นมันก็ทำให้เราสัญญาหมาย หิวอารมณ์อยากรู้ตามอาการเหล่านั้น ไม่
    ละวาง ไม่คลาย

    ตรงที่จิตไปรู้เข้า ตรงนั้นคือไปรู้รูปปรมัตถ์ มักเรียกกันว่า เจตสิก หลังจากนั้นก็เอา
    ขันธ์5ไปแปลความ ไปอยากรู้(หิวอารมณ์) การการหมุนวันเวทนา สัญญา อารมณ์
    ทำให้แสบ คัน โยกเยก ตัวโคลง ตัวลอย ไม่เลิก

    ยกมาดูให้เป็นเรื่องของการรู้ รูป-นาม เพิ่มเติมเสียหน่อย และที่สำคัญต้องทำความ
    เข้าใจกับ ขันธ์5 ไว้ด้วย

    ที่นี้แค่รู้รูปนาม หรือ รู้ขันธ์5 มันยังไม่พอ มันยังไม่ได้ปัญญาทางธรรม ได้แค่ผลของ
    สมถะ ผลของฌาณ

    การเอารูปนาม ขันธ์5 ที่เราแยกจำแนกออกมาแล้วด้วยการช่วยคิด เราต้องยกมาดูไตร
    ลักษณ์ตามความเป็นจริงด้วยการตามรู้ ระลึกจดจำสภาวะธรรม รูปปรมัตถ์และนามรูป
    (อารมณ์) ต่างๆไว้เนืองๆ พอจิตเริ่มจดจำสภาวะธรรมได้เอง สติ จะเริ่มเกิดเอง

    พอ สติ เริ่มเกิด จิตจะเป็นกุศล ทำให้ตอนที่ สติ เกิด จิตจะปราศจากอกุศลอัตโนมัติ

    หากขณะที่สติเกิด เพราะจดจำสภาวะของกิเลส โทสะ โลภะ โมหะ ได้ กิเลสจะขาด
    กระเด็นไปจากจิตทันที เพราะอกุศลจิตไม่สามารถเกิดร่วมกับจิตที่เจตสิกสติสัมปยุตอยู่

    ภาวนาเช่นนี้ไปเรื่อยๆ กิเลสจะถูกรู้ถูกดูจำนวนมาก จิตจะค่อยจดจำได้เรื่อยๆ จน สติ เกิด
    ได้จำวนวนมากพอที่จะเปิดทัศนะได้เต็มที่ว่า สติ เป็นสภาวะธรรมที่เกิดเองได้ เป็น
    "ญาณสัมปยุตอสังขาริกัง" จึงค่อยนมสิการสภาวะธรรมนี้ไปเจริญปัญญาเห็นไตรลักษณ์
    ได้ตรงตามความเป็นจริง เป็นการเจริญปัญญาอย่างเต็มภาคภูมิอีกครั้ง

    เนื่องจากระหว่างการภาวนา จิตจะจดสภาวะธรรมของกิเลส นิวรณ์ได้จำนวนมาก จิต
    จึงมีองค์ธรรมของสมาธิโดยไม่ต้องทำ(กำหนด เพ่ง จ้อง รักษา ประคองการรู้สึกตัว)
    ทำให้ไม่จำเป็นต้องเติมอะไรหลังการรู้ตาม(อนุปัสสนา) ทำให้จิตใจในตอนนั้นพร้อม
    เต็มที่ในการทำสติปัฏฐาน4 เพื่อแยกรูปนามปราณีตรู้ลงเป็นไตรลักษณ์ตามลงเป็นปัจจุบัน
     
  10. goony

    goony เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +164
    อ่านเรื่องแบบนี้ มามากๆๆ...มีการสรุปว่า...นั่งสมาธินานๆๆ พอ..ตรงนั้นมันจะปวดกระตุก
    เป็นอาการของ..ตาที่สาม จะเปิด..พอเปิดแล้ว จะเห็นผี เห็นเทวดา..ที่อยู่ในอีกมิติได้
    ยิ่งนั่งสมาธินาน..บุญก็จะได้ มาก...ตัวก็จะสว้างด้วยแสงบุญ..ผีมันเห้นก็จะมาล้อมตัว ขอส่วนบุญ...ยิ่งมีตาทิพย์ ก็จะยิ่งเห็นผี..เขาว่า อย่างนั้น..ผมก็ฟังๆๆไว้
     
  11. rasetsacrifa

    rasetsacrifa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +127
    เฮือก!!! เค้ากัววววววววววววววววววววววววววววว

    ตาทิพย์?? เอ้าาา ไม่อยากได้อ้ะะะะะะะ

    นู๋ม่ายอ๊าวววววววววววววววววววววววววว
     
  12. rasetsacrifa

    rasetsacrifa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +127
    ไม่ใช่ตาที่สามหรอกม้างคัพ อาจจะแค่ นั่งนานไปหน่อยเลยบรู้งงงง เกิดเป็นโกโก้ครั้นช์

    ..........

    ไม่ใช่!!!
     
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ไม่ผลิกไปเป็นตาที่สามหรอกครับ เพราะไม่ได้ เพ่งพวกกสิณไฟแสงสี
    และก็คงไม่ได้ทำอานาปานสติชนิดติดอยู่ในนิมิต อีกอย่าง ของแบบนี้
    ต้องนั่งจนชำนิชำนาญมีวสีในการเข้าฌาณอย่างมาก(ทำมาหลายชาติ)

    แต่ทั้งนี้หากหลับตามทำสมาธิ และมีการน้อมจิตแผ่เมตตา อย่างไรแล้ว
    เมื่อจิตใจสงบจนถึงอุปจารสมาธินี่ยังไงก็ต้องเห็น เพราะการแผ่เมตตานั้น
    จะมีการน้อมระลึกถึงผู้ที่ได้รับการแผ่เมตตา จิตเราจะปรุงการรับรู้รูปสัตว์
    คน เราเขา และอื่นๆขึ้นมารองรับ จริงๆ ตอนเห็นนั้นจิตจะไม่มีการแปลความ
    ใดๆ เพราะวิตก วิจารไม่มี แต่ตอนที่ออกจากสมาธิแล้วนึกย้อนไปสงสัย
    ตอนนั้นแหละ นิวรณ์ และ กิเลส จะเฮฮาปารตี้กลุ้มรุมจิตคุณโดยตัวคุณเอง
    เป็นคนเริ่มการปรุง ก็ให้รู้มันใจตัวเองครับว่าจิต ฝุ้งซ่าน ใคร่รู้เกินไป
     
  14. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ตาสามจะวิ้ง ๆ เหนือหว่างคิ้ว จุดเสียว ๆ วูบ ๆ ตรงนั้น ไม่ลึกเข้าไปนะ แค่ผิว ๆ นอก ใช้ลมเร่ง ใช้ลมหมุนได้ แต่ไม่ใช่ของเสถียร ^-^
     
  15. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    มันติด เพราะจิตมันอยากได้ มันมีกิเลศตัวหนึ่งที่ต้องวางอุเบกขาก่อน เมื่อจิตวางอุเบกขาเอง มันจะผ่านไปได้ด้วยดี ที่ติดตรงนี้เพราะมีอาการเพ่ง โดยเราไม่รู้ตัว ต้องดูจิตตัวเอง ให้รู้ต้นตอว่า เราหวังอะไรเกินไปหรือเปล่า อยากได้อะไรหรือเปล่า จะมีอยู่ช่วงหนึ่งหลังจากนี้ จิตจะวางอุเบกขา และจะไม่สงสัยอะไรเลย แต่ต้องรู้สึกนะคะ ไม่ใช่ไปบีบบังคับให้จิตมันวางอุเบกขา เอง หรือให้เลิกสงสัย จิตมันต้องรู้สึกเองว่าวางแล้วจริง ๆ ถึงจะผ่านไปได้ค่ะ เราเคยติดตรงนี้เหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ด้วยการวางอุเบกขาของจิตเองค่ะ
     
  16. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    มันมีกิเลศอยู่ มันเลยติด มีอัตตาเลยติด
     
  17. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    หลังจากผ่านจุดนั้นไป จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างหนึ่ง แต่ยังไม่บอกว่าเป็นอะไร แต่ขอให้คุณมีสติ นะคะ ขอย้ำว่า โมหะ หน้ากลัว
     
  18. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    [​IMG]ตามดูจิต รู้ตามมัน อย่าติดสงสัย ละวาง ทุกคนจะพ้นช่วงนี้ได้แน่นอนค้วยจิตที่เข้มแข็ง
     
  19. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    หากปวดมาก หยุดการกระทำภาวะนั้น
    ทำอย่างอื่นแทน
    ร่างกาย จิตใจ คนเรารับได้ต่างกัน ช้าหรือเร็ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...