โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

oooooooooooooooooooooooooooooooo


ผู้มีความเพียร และปัญญาเกิด จะเข้าใจว่า...

ทำไมพระพุทธองค์ทรงสอนให้ปฏิบัติในอิริยาบถสี่


ทรงกล่าวอานิสงส์การเดินภาวนา ไว้อย่างไร...



ถ้าการนั่งภาวนาแล้วเข้าถึงความว่างที่เป็นคุณแต่ฝ่ายเดียว ดั่งพระอริยะเจ้า
ที่เข้านิโรธสมาบัติ หรือ การพิจารณาเห็นเหตุแห่งทุกข์และความดับทุกข์ในความว่าง คงไม่เป็นไร



แต่ เพราะ เป็นความว่างที่เป็นฉากลวง

คนมากมายทราบไหมว่า...


ขณะเสพสุขกับความว่างที่สมมุติขึ้น ที่ไม่เกื้อกูลต่อปัญญา

สิ่งแอบแฝงทั้งหลายข้างในกาย-ใจ ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
( เช่น จิตวิญญาณแฝงที่ละเอียด ,พลังงานดำมืด, พลังงานที่ไม่สมดุลย์, กิเลส, ตัณหา,อวิชชา,ทิฐิ,มานะ ฯลฯ )


แต่ถ้าว่าง แล้วสติ สัมปชัญญะ เฉียบคม ไม่เคลิบเคลิ้ม

เป็นเหตุให้เห็นสิ่งแอบแฝง ตกค้าง ในกายในจิต

มีปัญญารู้ทางดับ ทางขจัด ทางพ้น ได้ ก็จงเจริญความว่างแบบนั้น



ความว่าง ที่สมบูรณ์ ขึ้น ไม่ถูกจำกัดด้วยการ หลับตา นั่งสมาธิ


OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO



การเดิน ที่ผมกำลังแนะนำในกระทู้นี้

เพื่อ เป็นฐานในการเจริญสติ สัมปชัญญะ ให้เข้มข้นพอที่จะ

สำรอกสิ่งแอบแฝง


เป็นการฟื้นฟู ซ่อมแซมระบบร่างกาย ที่เป็นประโยชน์ต่อ
การดำรงค์สติสัมปชัญญะ ไปจนถึงขั้นรู้ตัวทั่วพร้อม





ผู้ที่ร่างกายยังไม่สมบุรณ์ สำรอกพิษไม่หมด การเข้าฌาณลึกแค่ไหนก็ตาม ถ้าฌาณเสื่อม จะเสียเวลามาก เพราะ ฐานแห่งสติสัมปชัญญะในกาย ยังไม่แน่นพอ

 

สงสัยไหม ว่าทำไม ต้องเอาปิติ เป็นฐาน..ในระดับนี้ไปก่อน


ให้ทุกท่านพิจารณา อย่างแยบคายเป็นการบ้านครับ

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


และนี่เอง สามารถโยงไปถึงเรื่อง โรคปัดสะตึก ที่ท่านอาจารย์สุวิ

กล่าวถึง ในต้นกระทู้ ได้ด้วย

 

เฮ้อออ จะบ้าตาย
หายใจไม่ออกมา 20 วันละครับ..
น้ำมูก ไหล หยด ย้อยยยย
ปั๊มลมหายใจยิ่งแรง ก็ยิ่งเป็น..
เฮ้อ.. ชีวิต มันอะไรนักหนาเนี่ย
ขนาดหยุดอาบไปเป็นสิบวัน ยังไม่หาย

นี่กลับมาอาบอีกรอบและครับ..เอาให้ตายกันไปข้าง.. ไม่มันก็เรา
ก๊ากก

 

มีการบ้านมาส่งครับ
อาบน้ำมาประมาณ 5 วันแล้ว หลังๆมานี่ทานข้าวอร่อยดีครับ
อาการโดยทั่วไปหนักๆเลยคือหายใจไม่ค่อยออก คัดจมูก แต่น้ำมูกไม่ค่อยมี
ลืมบอกไปว่าจมูกผมไม่ค่อยได้กลิ่นมาหลายปีแล้ว ถ้ากลิ่นไม่แรงจริงๆจะไม่ได้กลิ่นเลย
ถ้ามีกลิ่นเหม็นจะแสบจมูกแทนครับ
หัวไม่ค่อยหนัก ไม่ค่อยปวดเท่าไหร่ (ตอนนี้) แต่เวลาอาบน้ำแข็งรู้สึกเหมือนปวดๆชาๆ
ตรงเลยหน้าผากขึ้นไป อาบน้ำเสร็จมานั่งสมาธิต่อ รู้สึกเหมือนตึงๆ ดึงๆที่ใต้ตาทั้งสองข้าง
รู้สึกเหมือนร้อนๆแสบๆในกระเพาะอาหารครับ ไม่รู้เกี่ยวกับการหายใจแรงหรือเปล่า
เท้าทั้งสองมีเหงื่อออกทั้งๆที่ไม่ได้ใส่รองเท้า โดยเฉพาะเวลาออกกำลังหนักๆเท้าจะชุ่มๆ
ตรงหนังตาด้านบนข้างขวาเป็นตุ่มขึ้นมาบวมๆ สองวันแล้วครับ
เป็นแผลในปาก อันนี้เป็นก่อนอาบน้ำแข็งครับ พอเร่งทำขนลุกตัวก็ร้อนและเป็นแผลในปากเลย จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหายเลยครับ (เหมือนจะเป็นเพิ่มขึ้นอีก)
วันนี้แค่นี้ก่อนครับ คุณโอม อ.สุวินันท์ หรือท่านอื่นๆมีอะไรแนะนำก็เชิญเต็มที่ครับ

 

สงสัยไหม ว่าทำไม ต้องเอาปิติ เป็นฐาน..ในระดับนี้ไปก่อน

ให้ทุกท่านพิจารณา อย่างแยบคายเป็นการบ้านครับ
<!-- / message --><!-- sig -->__________________

ปิติระดับขนลุกเป็นปิติระดับกลางๆ สามารถช่วยกระตุ้นและล้างระบบต่างๆที่ไม่ดีออกจากร่ายกายได้ค่ะ

และเป็นการปรับฐานร่างกายอย่างหนึ่งให้พร้อมกับการฝึกหรือเป็นการเตรียมร่างกาย(วอร์มอัพร่างกาย)ให้พร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปค่ะ

เพราะรากฐานเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนกับการสร้างตึกหากฐานไม่มั่นคงถล่มมากแล้วจะยุ่งยาก ใช่ไหมค่ะพี่โอม

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


หายใจแค่ลิ้นปี่ ให้เร็วขึ้น ครับ อย่าเน้นที่แรงขึ้นอย่างเดียว


เมื่อเพิ่มความถี่ขอบลมหายใจ กุณฑาลิณีจะมากขึ้นครับ


ให้เดินตามสูตร ให้ได้วันละ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย



อาบน้ำแข็งฯ วันเว้นวัน

ถ้าไม่ลำบากเรื่องเงินซื้อยา ให้ทานยาเขียวทุก3 หรือ 4 ชั่วโมง




ขอให้มีกำลังใจ โดยทราบไว้เถอะว่า...


เมื่อก่อนเราไม่ทราบว่ามีอะไรแอบแฝงและกดการทำงานของจักรหกอยู่
พอเราปฏิบัติการเพื่อสร้างภูมิต้านทาน และขับพิษในตัว ร่างกายตอนนี้เริ่มมีภูมิต้านทานที่ดีขึ้นแล้ว หลังจากตายด้านมานาน


ระบบภูมิต้านทานร่างกายที่ฟื้นแล้ว
เค้าทราบว่า

มีสิ่งแอบแฝง จึงพยายามดันทุกอย่างออกมาเป็น ขี้มูก ( น้ำมูก) ขี้ตา ฯลฯ


มันแอบตั้งหลักปักฐานในกายเรา ที่จักรหกและอาณาบริเวณมานาน ใช้เวลาหน่อยจ้า

;aa21

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ตา หู จมูก เป็นอาณาบริเวณควบคุมโดยจักร 6


อาการทีเล่ามาทั้งหมดบนหน้า คือ ข้อบ่งบอกว่า
มีบางสิ่งกดการทำงานของจักร6 ของคุณอยู่มานานมากแล้ว

ตอนนี้ระบบกำลังได้ร้บการชำระ



แผลในปาก คือ การชำระล้างระบบจักร 5


เหงื่อออกที่เท้ามาก บ่งชี้ว่า ธาตุไฟในตัวดีขึ้นแล้วนะครับ


อาการแสบ เจ็บปวด แสดงว่า ระบบประสาท
ในอวัยวะเหล่านั้น กำลังได้รับการชำระและซ่อมบางส่วนแล้วครับ เลยมีความรู้สึกขึ้นมา


ทั้งที่แผลเหล่านั้น อาจมีในกระเพาะมานานแล้ว
แต่ระบบประสาทมันเสียมานาน เลยไม่รู้

 

พี่โอมตนเช้ามันหนาวงะ T^T

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ

สำหรับปลา ถ้าไม่ไหวจริงๆ ( เข้าใจ เพราะอ้อนแอ้น อรชร บอบบางอย่างงั้น 555)
อาบอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ตอนก่อนนอนก็ได้

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับผม
รู้อย่างนี้มีกำลังใจขึ้นเยอะครับ
ช่วงนี้ฝันแปลกๆขึ้นครับ
สองสามวันก่อนฝันเห็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่งจ้องผมอยู่ แล้วมีเสียงคล้ายผู้ชายบอกว่าให้เวลาอีกสองวันให้ออกไป ว่างั้น เมื่อคืนฝันเห็นพวกผีปีศาจไล่ตามผมผมก็หนีสุดฤทธิ์เหมือนกัน ทั้งๆที่ผมไม่ได้ฝันเห็นผีมานานมากแล้วครับ ช่างตามเสียจริง เฮ้ออ
ตอนนี้อาบน้ำเย็นสบายมากครับ ไม่หนาวแต่สะบั้นอ่ะ สู้ต่อไปครับ

 

ตอนเช้าหนาว ก็อาบตี2-3 ดิ หนุกมากมาย ขอบอก

 

แงะ แหมมาว่าเค้าซ้าาาา แต่สู้สึกว่าลดจริงๆนะ แต่ไม่ได้ชั่งอะว่าเท่าไหร่

 

เหอๆ ขนาดตอปแตปอาบตอนเที่ยงยั่งร้องเป็นเจ้าเข้า แล้วอาบตอนตี2ตี3จะเหลือเร๊อออ

 

สู้สึกไรหรอ ปวดอี้หรอ อิอิ เดียวกรุงแตกหรอกปลา

 

กำ มะใช่ ^ ^"

 

กินยาเขียวก่อนหรืออาบก่อนตอนเช้า ดิฉันกินก่อนอาบถูกหรือไม่คะ แล้วใช้เครื่องนวดหน้าที่มีความร้อนใด้หรือเปล่า รอยย่นมาเยือนแล้ว รวมทั้งอาหารเสริมกระชากวัยด้วยค่ะ กินใด้หรือไม่ 555555+++++ ทุกข์ของคนแก่ ฮิ..ฮิ..ฮิ

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


ตอนเช้า อาบก่อน แล้วเช็ดตัวให้แห้ง ทานยาเขียวภายใน 15 นาที


การใช้เครื่องนวดหน้าที่มีความร้อน จะกดการทำงานของจักร 6



ถ้าจักรเคลียรทั่วร่าง ปราณเดินดี ผิวพรรณจะสดใส หลายคนดู
อ่อนวัยขึ้น

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ที่จริง การอาบก็อาบเพื่อให้อุ่น นั่นแหละ กลัวทำไม
หัวค่ำก็ได้ ขอให้อาบอย่างน้อยวันละครั้ง""""""
แหมไม่ได้โดนจับโกนขน ลวกน้ำร้อนซักหน่อย 555555555555

ปล. สงสารคนหุ่นกำลังจะดี 5555555555555555555555

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

คราวหน้าไม่ต้องหนี่

คุยกันให้รู้เรื่อง