โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

ก้เดินไปแกว่งแขนธรรมดาๆไปค่ะ หายใจด้วยลิ้นปี่ เร็วสลับกับธรรมดา

กัดฟันพอประมาณและเอาลิ้นเเตะเพดานปาก(ทำเหมือนตอนอาบน้ำอะค่ะ)

ส่วนขนลุกปลาก็ไม่รู้เหมือนกัน เวลาปลาปลาก็เป็นมั่งไม่เป็นมั่งค่ะ อิอิ

(การหายใจด้วยลิ้นปี่เร็วๆเป็นการกระตุ้นให้ขนลุกได้คะ) หรือจะใช้นึก(จินตนาการ)ว่าขนลุกโดยตรงเลยก็ได้ค่ะ

อ้อแล้วก็ตามมองที่ปรายยอดไม้ค่ะ(ไม่ใช่ไม้กระถางนะ แหะๆ) แบบว่ามองยอดไม้หรือที่สูงๆแบบไม่โฟกัสค่ะ

 

การทำขนลุกบ่อยๆเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายปรับสมดุล หรือเป็นการเคลียประสาทอย่างหนึ่งค่ะ

เมื่อเราทำขนลุกได้แล้วก้ค่อยๆทำบ่อยๆ

พี่โอมบอกว่าคนที่เก่งจริงอยากจะให้ชนลุกเมื่อไร่ก็ทำได้

ถ้าเวลาทำขนลุดได้แล้วก็ลองดูว่าเราสามารถให้มันลุกไปทั่วร่างกายได้ไหม ขึ้นไปที่หัวได้ไหม ทั่วร่างกายได้ไหม

เท่าที่รู้คือพี่โอมให้พยายามทำบ่อยๆอะค่ะ หุๆ

ปลาก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน


"อนาคตพวกเราอยู่ในกำมือพี่โอม ห้าๆๆๆๆ"

 

Thank จ้า สงสัยความรู้สึกแบบไหนที่เรียกขนลุกจะได้ทำถูก

ก้เดินไปแกว่งแขนธรรมดาๆไปค่ะ หายใจด้วยลิ้นปี่ เร็วสลับกับธรรมดา
ตรงนี้ไม่รู้จะได้ทำมั่ง

กัดฟันพอประมาณและเอาลิ้นเเตะเพดานปาก
อันนี้พี่ทำทั้งวันมาเกิน 10ปีละ ทำตามในหนังสือกำลังภายในแตะแบบไม่ได้ฝึกอะไร..ทำจนติดเลย 555

 

พี่ประสงค์ทำสูตรพี่โอมแล้วเป็นไงบ้างครับ ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย

 

แหม ปลาก็ว่าเกินไป...

พ่อ แม่ พี่ น้อง รับได้เท่าไร ฝึกได้เท่าไร จะบอกโม๊ดดดดดดดดดดดด ตัวและ หัวใจเลย


แล้วอย่าลืมย้อนกลับมาช่วยผมที่ตีนดอย บ้างหละ .... เผื่อวิ่งตามไม่ทัน...555


ผมตอบรวมๆก่อนนะครับ


- ข้อสอบสุดท้ายที่เห็นง่ายๆ ของการอาบน้ำแข็ง คือ

ร่างกายสามารถสร้างพลังกุณฑาลินี จำนวนมากพอ และต่อเนื่อง

ที่จะรักษาชีวิต รักษาร่างกายตนเอาไว้ได้ ในทุกสภาพแวดล้อม


สามารถเผาผลาญสิ่งเป็นส่วนเกินในร่างกายได้
สามารถล้างสารพิษตกค้างในตัว หรือ ขับออกมาตามทวารต่างๆได้
สามารถฟื้นฟู ร่างกายส่วนที่สึกหรอ ไปนานระยะหนึ่งได้ เช่น ระบบประสาททั่วกายในการรับรู้ อันเป็นกุญแจสำคัญในการฝึกรู้ตัว ทั่วพร้อม

สามารถปรับระบบพลังงาน หรือ ศูนย์พลังงานทั่วกาย ให้ทำงานปกติ หรือ พิเศษ ในบางกรณีได้ ( ฝึกการเข้าออกฌาณ ทรงฌาณ สมาธิระดับต่างๆในชีวิตประจำวันโดยลืมตา , การเปิดอายตนะพิเศษต่างๆ ฯลฯ )




ล้างพวกจิตวิญญาณ ภายนอกที่มาเกาะกินร่างกาย หรือแฝง ในกาย
ในลักษณะเบียดเบียน ไม่สนับสนุนความก้าวหน้าทั้งทางโลกและทางธรรม

ฯลฯ


อ่านดูแล้วเหมือนโอเวอร์มาก????????????????

นั่นขึ้นกับทุกท่านด้วยแล้ว



2 ยาเขียวต้องทานคู่กับการอาบน้ำแข็ง ไปตลอด ยกเว้นฉุกเฉินที่ยาขาด
จะอาบได้ ต้องมีความสามารถในการเรียกปิติให้ซ่านทั่วกายได้อย่างแรง
(ขนลุก ) และ /หรือ กินแสง ได้

3 เมื่อใด ที่สมารถอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง หรือ ที่หนาวเย็น อุณหภูมิ-5 ถึง 5 องศาเซลเซียสได้ โดยต้องเป็นที่มีลมพัดเบาๆ ใส่เสื้อธรรมดา กางเกงขาสั้น
รองเท้าแตะ ทำขนลุก หรือ พลังปิติระดับกลางเข้ารักษากายได้ เรียกกุณฑาลิณีขึ้นมารักษากายได้ เหมือนสภาวะปกติ

......................ถือว่า จบหลักสูตรพื้นฐานการอาบน้ำแข็ง.....



4 ใช่ ระบบจักระที่6 หรือ ตาที่สาม ไม่ชอบความร้อน

 

พี่โอมครับ วันนี้ผมอาบน้ำแข็งมาแล้วละ>_<

เมื่อกี้นี้เอง แต่น้ำแข็งคงน้อยไป- -

แต่ขันสุดท้ายเทน้ำแข็งกวนหมด รดที มันส์ดีครับ

ตอนนี้เหมือนร้อนจากข้างใน แล้วก็เหมือนจะเกร็งๆหน่อยๆ

มือกับฝ่าเท้า ชาๆ มีอะไรจะมาบอกเพิ่มเติมครับ

อ้อ วันนี้ช่วงเช้า น้ำมูกไหลทั้งวันเลยครับ ไม่แน่ใจเพราะว่าแพ้อากาศหรือป่าวอ่ะครับ

ขอบคุณครับ (พรุ่งนี้อยากลองต่อ ต้องพยายามเพิ่มน้ำแข็ง)

เพิ่มเติม เหมือนหัวใจเต้นเร็วขึ้นแฮะ="=

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ยาเขียวควบคู่น้ำแข็งเสมอ
ถ่ายท้อง แสดงว่ากำลังดี ไม่ต้องทะลักขึ้นปาก ก็ถ่ายทิ้งเบื้องล่าง
งดยาปฏิชีวนะ ยาแก้แพ้ ส่วนใหญ่ยาสมัยใหม่หลายอย่างกฏภูมิต้านทานธรรมชาติของร่างกาย ทำให้มีสิ่งตกค้างในกายเป็นพิษฝังในได้

น้ำแข็งโอเคแล้ว เข้มข้นดี


ลองให้คนที่ตาที่สามเปิดแล้ว ไปอบผมด้วยความร้อน นวดหน้าด้วยความร้อนสิครับ มีสิทธิ์ตาปิดไปสักระยะ

สังเกตุไหมครับ น้ำเย็นๆ เช็ดหน้า ราดหัว สติกลับมาไวไหม
ขนาดเมาๆ ยังฟื้น

ตาที่สามหรือจักรหก เป็นจุดแห่งญาณรู้ สติสัมปชัญญะ ไง

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ตอนรด ปวดที่หัวตั้งแต่ขันที่เท่าไร

ฝ่ามือและเท้าชา นั้นหลังจากอาบน้ำฯ เช็ดตัวแห้ง ทานยาเขียวหรือไม่

ความร้อนขึ้นในกายนั้น ถึงหัวหรือไม่

 

ประสพการณ์กินยาเขียวอาบน้ำแข็งครั้งที่1เริ่มวันที่27ตค.ถึง2พย.ตามวิธีที่ คุณ โอม สอน ผมใส่น้ำ9ขันบวกน้ำแข็ง2ถุงละลายแล้วจะได้ประมาณ10ขันเกินนิดหน่อยรอน้ำแข็งละลายเหลือชิ้นเล็กๆเกือบจะหมดแล้วก็เริ่มตักอาบ
วันแรกขันที่1ตั้งท่าอย่างดีตามแบบ คุณโอม สอนความเย็นของน้ำราดจากศรีษะลงมาทั้งตัวมีความรู้สึกที่จักระ7อุ่นทันทีตัวร้อนอาบจนครบ10ขัน เช็ดตัวแล้วหายใจเร็วเต็มปอดเดินออกจากห้องน้ำ ออกไปเดินในสนามหน้าบ้านตัวอุ่นๆไม่เย็นทานยาเขียวหลังอาบน้ำ15นาที
วันที่2ความรู้สึกยังเหมือนวันแรกไม่มีอาการผิดปกติอย่างอื่น
วันที่3เริ่มมีผดขึ้นตามข้อพับแขน คอ ขาหนีบเล็กน้อย
วันที่4อาบขันที่2หน้าเริ่มชาตัวเริ่มเย็นเร็วขึ้นหลังอาบมีผดขึ้นมากเพิ่มตามลำตัวมีผื่นแดงคันมากขึ้นแต่พยายามไม่เกา แยกจิตออกจากกายไม่นึกถึงมันก็ไม่คันพอทนได้
วันที่5ในขณะที่อาบตัวเย็นเร็วขึ้น ผดก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเริ่มตั้งแต่ขาหนีบถึงคอและแขน
วันที่6หลังอาบน้ำเย็นตัวร้อนจากอาการอักเสบของผดที่มีมากขึ้น ทานยาเขียวทุก4ชม
วันที่7อาการคล้ายวันที่6 ผดไม่ลดลงตัวแดงเริ่มคันมาก อาบครบวันที่2พย
วันที่3พย เริ่มเดินประมาณ3กม ผดผื่นคันยังอยู่กันครบ
วันที่7พย อาการเริ่มดีขึ้นผดเริ่มลดลง
วันที่9พย ผิวหนังเริ่มลอกออกแตกผิวใหม่ดูดีขึ้น
วันที่14พย ในขณะที่เดินจักระ6 รู้สึกเย็นๆ ทุกครั้งที่เดินพร้อมหายใจเร็วเต็มปอดหลังเดินไม่มีอาการเหนื่อยเลย
ถ้ามีอะไรจะรายงานให้ทราบในตอนต่อไปครับ

 

งั้นพี่ประสงค์ต้องแลดูหนุ่มขึ้นสิครับ เพราะแตกผิวใหม่แล้ว

 

ปกติพี่ประสงค์ก็ผิวพรรณดี เสียงมีพลังดูหนุ่มแน่นมาก ผมได้ยินเสียงครั้งแรกผมยังหันไปดูเลย สงสัยจะแตกเนื้อหนุ่มรอบ 2 เที่ยวหน้าถ้าได้เจออีกครั้งขอดูใกล้ๆหน่อยนะพี่... แบบว่าอิจฉาอะพี่

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

โมทนาครับ

หลายท่าน มีพิษที่ซึมลึก ไม่ปรากฏอาการต่างๆกันไป โดยเฉพาะครูอาจารย์

นักบุญ ที่ท่านชอบช่วยคนในเรื่องทางจิต ในเรื่องละเอียดต่างๆ

จะมีพลังที่เป็นพิษต่อตนเอง เข้าไปฝังลึกข้างใน

ค่อยๆกักกิน รอเวลาที่เราอ่อนกำลัง ก็จะเสริม จะซ้ำให้ทรุดได้

กว่าจะรู้ สิ่งเหล่านั้นก็ได้รวนระบบร่างกายไปหลายอย่างแล้ว

การอาบน้ำแข็ง ช่วยกระตุ้นกุณฑาลิณี ให้ดันสิ่งเหล่านี้ออกมาอย่างเร็ว

และสามารถชำระให้ออกไปโดยเร็วได้

นี่ไม่ใช่แค่สารพิษที่มีในอาหาร น้ำยาปรับผ้า น้ำยารีดผ้า อากาศ เครื่องใช้



ต่อไปเมื่อสารพิษเบาบางลง จักระทำงานได้เต็มที่ขึ้น การเดินไกลๆก็ไม่มีเหงื่อออก หรือ ร้อนมากอะไร ตัวจะเย็นซะด้วยซ้ำ เพราะ จักรที่เต็มประสิทธิภาพจะเปลี่ยนพลังความร้อนเป็นความเย็นได้เร็วมากขึ้น มีลมแผ่วออกจากจักระทุกจุด

การอาบฯต่อไปเรื่อยๆ มีปรากฏการณ์แปลกอะไรขอให้ท่านแจ้งให้ทราบด้วยครับ เพื่อ แก้ไขทัน และ เปล่งอานุภาพร่างกายที่ผ่านการฝึกอย่างเข้มงวดออกมาได้เต็มที่

โมทนาครับ

 

พี่น้องทุกท่านครับ..................


บทสวดมนต์บทไหน สวดแล้วขนลุก ซู่ซ่า หรือ มีปิติซาบซ่านแรงกล้า ก็หมั่นสวดนะครับ จนกระทั่งแค่นึกถึงบทสวดแล้วขนลุกได้นาน ยิ่งดี

จะอาศัยขนลุก มาเคลียรระบบจักรทั่วตัวแทนน้ำแข็งได้ในยามจำเป็น และมีประโยชน์อีกมากมายหลายประการ

 

ตอนนี้ตัวเองไม่มียาเขียวกิน ก็ยังไม่กล้าที่จะอาบน้ำคะ กลัว กลั๊ว กลัว อิ อิ อิ อิ อิ

แต่ก็ได้รับคำแนะนำจากคุณโอมว่า ให้หมั่นฝึกทำขนลุกอย่างเป็นนิสัย และตอนนี้ก็ทำการฝึกเคลียร์จักระ โดยการอมน้ำแข็งไว้ในปาก ขบฟันให้แน่น ลิ้นดุนเพดานด้านบน อีกมือก็กำก้อนน้ำแข็งไว้คะ ใช้พลังขนลุกดันความเย็นขึ้นไปข้างบน คงจะไม่แรงเท่าการอาบน้ำ แต่ก็ช่วยได้อย่างมากเหมือนกัน เพิ่งจะเริ่มทำวันนี้เองคะ หลักสูตรนี้ คุณโอมบอกมานานล่ะ เคยทำไปสองครั้ง แล้วก็หันมาอาบน้ำแข็ง ตอนนี้ต้องกลับมาใช้วิธีนี้อีก เอ...ทำถูกวิธีไหมคะ คุณโอมแจ้งให้ทราบด้วยคะ กลัวจะลืมขั้นตอนคะ

ปล. ถ้าใครจะทำตาม อย่าอมก้อนโตนักนะคะ อิ อิ อิ อิ เอาแค่พอดีๆๆๆๆๆ

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

ผิดไปนิด

นอกจากอมน้ำแข็งแล้ว ให้ดูดน้ำเย็นเจี้ยบ กระแทกเพดานปากด้านใน

หรือ จับน้ำแข็ง แล้วหายใจด้วยลิ้นปี่เร็วๆ สลับกับหายใจปกติ

อย่างละกี่ครั้งก็ขึ้นกับว่า หายใจแค่ลื้นปี่ถี่เท่าไร กุณฑาลินีจึงขึนไปถึงหัวได้
เร็วแรง ใกล้เคียงกับอาบน้ำแข็ง



พอจักร 6 และ 7 ทำงานได้ดี ขนลุกก็ยิ่งหนาแน่นเพิ่มไปอีก




ที่โน่นหนาวมากไหม ถ้าหนาวก็ใช้ความหนาวให้เป็นประโยชน์นะ
อย่ามัวใกล้แฟนมาก เดี๋ยวไม่ค่อยได้ฝึก 55555555555555

 

ฮุ ฮุ ฮุ ขอบคุณที่เป็นห่วงการฝึกฝนคะ อากาศที่กทม.เป็นงัย ที่มนิลา ก็เหมือนกทม.. เด๊ะ เลย....หายห่วง อิ อิ อิ อิ อิ.......

ชักอยากไปอยู่ อลาสก้า เสียแย๊ว จิ อิ อิ อิ อิ อิ

;aa13 ไปอมน้ำแข็งดีกว่า........

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ตอนรด ปวดที่หัวตั้งแต่ขันที่เท่าไร

ฝ่ามือและเท้าชา นั้นหลังจากอาบน้ำฯ เช็ดตัวแห้ง ทานยาเขียวหรือไม่

ความร้อนขึ้นในกายนั้น ถึงหัวหรือไม่

ปวดๆนี้ ไม่ค่อยแน่ใจน่ะครับ แต่ถ้ามีอาการตึงๆนี้ก็ น่าจะประมาณขันที่3 ครับ

ชาหลังจาก เช็ดตัวให้แห้ง และ กินยาเขียวแล้วครับ

ความร้อนรู้สึกจะไม่ถึงหัวครับ จุกอยู่แถวๆคอครับ ก่อนลูกกระเดือกน่ะครับ

ไว้วันนี้ จะลองสังเกตให้มากที่สุดครับ

 

วันนี้แปลกมากๆ รู้สึกเสียวๆ ที่ จักระ 1 เป็นนานมาก ยิ่งพอกำหนดแบบฤาษียาตรา ของอ.สุวิ ยิ่งเกร็งมากตั้งแต่ ลิ้นปี่ ขึ้นไป แล้วที่แปลกคือพอนึกถึงจักระ 1 จะเสียวทันที ขอเรียนถามค่ะ แล้วต้องทำอย่างไรต่อคะ

 

วันนี้เริ่มอาบน้ำแข็งตอนเช้าเป็นวันแรกครับ
ขันที่ 2 เริ่มชาที่หัวลามมาหน้าผาก ปวดในหัว + แถวๆหน้าผากมากๆ + เย็นแถวๆหลังมาถึงคอ
ขันที่ 3 ก็ปวด + ชาหนักขึ้นเรื่อยๆ + ทึบๆมึนๆที่ท้ายทอย
ประมาณ ขันที่ 5 เริ่มปวดที่เท้าแต่ปวดไม่นานก็หายครับ
พอเช็ดตัว หัวนี้ชามากเลยครับแทบไม่รู้สึก
มาหายใจลิ้นปี่ + ทำขนลุก ตึงไปทั้งหน้าครับ เป็นอยู่เกือบ 30 นาที
ที่ว่าหนาวๆนั้นไม่หนาวเลยครับ แต่สะบั้นบ้าง สนุกดีจริงๆ
อ้อ...เวลาเอาน้ำราดลงมานั้นจุดที่น้ำตกกระทบใช่ตรงกึ่งกลางกระหม่อมค่อนมาทางหน้าผากไหมครับ หรือว่าราดตรงกลางกระหม่อมจะๆเลย
ผิดถูกอย่างไร ช่วยแนะนำแก้ไขด้วยครับ

 

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


ขันที่สองเริ่มชา

แสดงว่า การสร้างกุณฑาลิณีของร่างกาย ยังไม่เร็วพอ หรือ

มีสิ่งกีดขวางระหว่างทางอยู่บ้าง แต่เราให้ความสำคัญของการสร้างกุณฑาลิณี จำนวนมากและขนาดท่อพลังงานที่ถูกปรับขนาดขึ้นเรื่อยๆมากกว่า

ฉะนั้น ...........................คำตอบคือ " อาบต่อไป " อีกแล้วครัขท่าน

5555555555
อ้อ ส่วนการราดน้ำ ราดไปทั้งพื้นที่บนหัวเลยครับ ไม่ต้องเล็งเป้าหมายนาน 55555555555555555555


อาการชาที่ส่วนอื่นก็เช่นกัน แสดง่ว่า พลังกุณฑาลินี ไม่เพียงพอต่อเนื่อง
ในการรักษาตน ให้หายใจ และ เดินระยะไกลๆทางราบ เสริมไปก่อน
ยังไม่มียาโดปอื่นครับ

แต่ ถ้าอาการชา เปลี่ยนเป็นอาการปวด แสดงว่า การซ่อมแซมระบบประสาทรับรู้ กำลังดำเนินการ และทะลุทะลวง ชะล้าง ด้วยกุณฑาลิณีอยู่


เมื่อระบบประสาททุกส่วนซ่อมแซมเสร็จ และกุณฑาลิณีเพียงพอทั้งปริมาณและความไวในการผลิต ต่อไป การเจริญสติสัมปชัญญะ รู้ตัวทั่วพร้อมในกาย จะดีขึ้นสมบูรณ์ขึ้นมาก ( ลองพิสูจน์ดูสิ กำหนดสติง่ายขึ้นไหม
ในชีวิตประจำวัน )