คุณมีจิตสัมผัส-ความผูกพัน-สื่อพลังพุทธะ พลังเทพหรือไม่

ศานติ

 

สวยไหมครับ

 

รูปสวยตื่นตาน่าตะลึงมากๆ

 

สวยจังเลยค่ะดูอบอุ่นและเมตตามาก ราวกับท่านจะปราณีกับทุกสรรพชีวิต เป็นครั้งแรกเลยค่ะที่เห็นภาพพระศิวะแล้วไม่รู้สึกสะท้อนในอก

 

ชอบรูปนี้ค่ะ แล้วก็ขอเซพเลยนะค่ะ เหมือนภาพสามมิติเลยเวลามองนานเหมือนวงกลงสีดำ(พูดถูกหรือป่าวไม่ทราบ ผิดก็ขออภัยด้วย)ตรงภาพลอยอยู่แล้วแล้ววงกลมสีดำ ก็เหมือนอุโมงเลยเหมือนถุกดุดเข้าไป แล้วรอบๆวงกลมนั้นก้มีแสงสีขาวเหมือนรัศมีเลย

 

การกำเนิดของมนุษย์ปุถุชนโดยทั่วไป
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นเครื่องนำเกิด
เมื่อเรารู้ว่า กรรม มีผลนำเกิดทั้งดีและชั่ว
ต้องผจญกับสุขทุกข์อยู่ตลอดเวลา
แล้วเราจะสลัดการเกิดแล้วเกิดเล่าได้อย่างไร
เพื่อให้หลุดพ้นไปจากกองทุกข์ทั้งหลาย แม้แต่สุขที่ว่า
ก็ไม่สามารถนำพาเราให้พ้นจากทุกข์ได้จริง

ดังนั้น การจะตัดวงจรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดซึ่งหาความสุขแท้ไม่เจอ
ก็ต้องเข้าใจในเรื่องอุปทานขันธ์ห้า ก่อนเท่านั้น
เมื่อเราเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว
เราก็จะสามารถปล่อยวาง ละอัตตาตัวตนได้อย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง

หลักสำคัญของพระพุทธศาสนา คือ การสอนให้เห็นทุกข์ และทำอย่างไรจึงจะหมดทุกข์ ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
หาความจริงของชีวิตไม่เจอสักที

หากมีเวลา มาเติมความเข้าใจในชีวิตให้ถูกต้องตามความเป็นจริงกันจากกระทู้ข้างล่างนี้นะครับ


ปาฏิหาริย์แห่งธรรม เพื่อละวางอัตตาตัวตน โดยอาจารย์สุดใจ ชื่นสำนวน

http://palungjit.org/showthread.php?t=165941

 

สะดุดตาสะดุดใจรูปนี้มากค่ะ รบกวนคุณโอมเล่าให้ฟังได้ไหมคะ

 

ขอรับกระแสแห่งความเมตตาที่มีให้ค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้....ดูและรับค่ะ

 

ขออนุญาตพี่เม้าท์ฯ ประชาสัมพันธ์บุญใหญ่ครับ....


แจ้งข่าวดี สำหรับพี่น้องที่ต้องการทำบุญใหญ่ให้ตนและเจ้ากรรมนายเวร

เชิญทำบุญพระอรหันต์กลางกรุง และ ครูอาจารย์สายพระป่า กว่า 80 รูป ที่สวนทิพย์

ตามกระทู้นี้นะครับ http://palungjit.org/showthrea...69#post1808069

 

ขออนุโมทนาครับ

 

;aa37

 

นาคน้อยเข้ามาดูรูปแล้ว

เหมือนเย็นตัว ขนลุกตั้ง แต่ร้อนแถวๆคออ่ะครับ

แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นครับเทพองค์ไหนอ่ะขอรับ

พี่คนไหนมีวิธีแนะนำให้ได้มั้ยครับ ว่าทำยังไงถึงจะได้รู้อ่ะครับ

 

คุณโอมยังไม่เล่าให้ฟังเลยค่ะ สะดุดใจเหมือนกับคุณความรู้สึกดีเลยค่ะ
พลังที่ออกมาจากร่าง เป็นไฟ ออร่าด้านลบรึเปล่า?

 

พระแม่สตี
มหาเทวีผู้มีรักมั่นคงต่อพระสดาศิวะเจ้า






คำบูชา
โอม เจ มาตากี

​

พระเป็นเจ้าพระศิวะนั้น พระองค์ทรงมีรักครั้งแรกกับหญิงนางหนึ่ง คือพระนางสตี พระแม่เป็นคนที่อ่อนหวานน่ารัก เป็นที่รักของเทพเทวาทั่วไป รวมถึงเป็นที่รักพระ แม่เป็นบุตรของพระทักษะประชาบดี พ่อตาคนนี้ไม่ได้นึกรักชอบลูกเขยคนนี้เลยแต่ ด้วยความรักลูกจึงยอมยกให้พระศิวะเจ้าไป แต่ในใจก็ต่อต้านตลอดมา




จนมีอยู่วันหนึ่ง พระทักษะจัดงานบูชาที่บ้านของตน เทพทุกองค์ได้รับเชิญหมด เว้นไว้ก็แต่พระศิวะเจ้าเท่านั้นเอง บรรดาเทพก็เตือนพระองค์ว่าให้เชิญพระศิวะเจ้าด้วย เพราะพระองค์เป็นพระมหาเทพ ถ้าไม่มีพระองค์งานบูชาทั้งสิ้นจะไม่สำเร็จได้ แต่พระทักษะก็ไม่ยอมเชิญพระศิวะเจ้านารัทมุนี จึงได้ไปบอกกับพระศิวะเจ้าด้วยความเมตตาพระองค์จึงทรงไม่เอาเรื่องอะไรกับพระทักษประชาบดี แต่พระแม่สตีนั้นด้วยความรักสามีจึงลอบจากพระศิวะไปในงานของบิดาเพื่อถามเหตุผลที่พระทักษะไม่เชิญพระศิวะเจ้า




พระทักษะจึงได้หมิ่นพระศิวะเจ้า ต่อหน้าบรรดาปวงเทพทั้งหลาย พระแม่สตีนั้นด้วยความรักสามี และเมื่อสามีถูกหมิ่นเกียรติขนาดนั้นแล้ว พระแม่เจ้าจึงไม่กล้าที่จะกลับไปพบสามีอีก จึงทรงเข้าตบะชาญ เพื่อขับเพลิงออกมาจากร่าง(บางตำราบอกว่ากระโดดเข้ากองไฟบูชา) เพื่อสังหารพระองค์เอง เมื่อบรรดาเทพเทวดาทั้งหลายเห็นดังนั้นก็ตกใจแตกตื่น นารัทมุนี จึงได้นำข่าวไปบอกกับพระศิวะเจ้า




พระองค์เมื่อทรงทราบดังนั้นก็โกรธสุดประมาณได้ ทรงดึงปอยพระเกศออกมาแล้วบันดาลให้กลายเป็นอสูรนามว่า วีรภัทร เพื่อส่งไปทำลายงานพิธีนั้น ในงานพิธีนั้นเทพเทวาต่างล้มตายมากมาย พระทักษะประชาบดีได้หนีตาย แต่อสูรได้เห็นก่อน จึงได้ตัดหัวพระทักษะด้วยไฟ(บ้างก็บอกว่า ธนู หรือตรีศูรย์) เสียงร้องไห้ วิงวอนดังอยู่ทั่วไป พระศิวะเจ้าจึงได้ทรงปรากฏกายในงานนี้ พระองค์ทรงเดินเข้าไปหาพระแม่สตีที่กำลังมอดไหม้อยู่(ตามคำบอกเล่าของคุณย่า พระแม่สตีนั้นมิได้มอดไหม้จนหมดเป็นธุลี คงเหลือแต่เพียงพระเศียรเพราะองค์สดาศิวะมหาเทพได้เสด็จมาไม่ทันคงจับไว้ได้แต่เพียงพระเศียรของพระแม่เท่านั้น) แม่ของพระนางสตีได้เข้ามาหาพระศิวะวอนขอหัวของพระทักษะคืน เทพเทวาต่างๆก็ได้เข้ามาเพื่อวอนขอพระเมตตาเช่นกัน
พระองค์จึงทรงต่อศีรษะให้ แต่ใช้หัวของแพะที่จะบูชาต่อคืนเพื่อที่จะเตือนใจพระทักษะ ไม่ให้จองหองอีกต่อไป เมื่อทุกอย่างสงบแล้ว พระองค์จึงได้ทรงพาร่างของแม่สตีออกไปจนสุดจักรวาล และทรงระทมทุกข์อยู่เพราะความรักที่มีต่อพระแม่ เพราะพระองค์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พระแม่ได้เพราะพระแม่คือ ศักติ ไม่มีวิญญาณดังกับที่ถูกสร้างจากพระพรหม จึงไม่สามารถชุบชีวิตได้ เหล่าเทพจึงได้อ้อนวอนพระแม่ศักติให้มาบังเกิดเป็นชายาของ พระศิวะอีกครั้ง
พระแม่จึงยอมเสด็จมาเกิดใหม่เพราะคำขอของเหล่าเทพในร่างของพระแม่อุมาเทวี ​

เพื่อเป็นคู่บารมี นำความสมดุลย์ของพลังคู่แห่งจักรวาลกลับมาอีกครั้ง

และเพื่อให้กำเนิด มหาเทพปราบมาร ในนาม พระสกันท์ หรือ ขันทกุมาร
ในเวลาต่อมา

​

 

พระแม่ช่างงดงามมากค่ะแม้เพลิงจะแผดเผาร่างของพระแม่แต่เพลิงนั้นก็ไม่อาจทำลายความรักของทั้งคู่ลงได้ คนสมัยนี้บางคนยังไม่ทันได้เผาศพเมียตัวเอง ก็พาเมียใหม่เข้ามาถึงในงาน ไม่รู้จะยังหลงเหลืออยู่ไหมความรักที่มั่นคงแบบนี้

 

ภาพสวย พลังเมตตาสูง ครับพี่เม้าท์ ขออนุญาติ เก็บภาพ