ผมลองเพ่งกสินน้ำแล้วจะเพ่งไงอะครับจะจําไง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 23 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ตัวผมมาฝึกกสินน้ำ ภาชนะที่ผมใช้คือแก้วอ่าครับ แก้วใส

    แล้วพอผมเอาน้ำใส่ แล้วลองเพ่ง น้ำสีมันใส +กับแก้ว มันก็ทะลุไปใต้แก้ว เช่นสมมุติ ผมเอาน้ำใสแก้วลองพื้นสีดําไว้ พื้นก็เป็นสีดํา แต่ก็เห็นน้ำแต่มันใส

    ผมก็ไม่รู้จะเพ่งจะจับยังไงดีครับ

    กสินไฟ นี่เพ่งตรงกลางไฟ ยังได้ สีแดง แต่นี่สีใส

    แล้วอุคหนิมิตรนี่จะรู้สึกไงครับบอกหน่อย อ่านมาเหมือนน้ำเคลื่อนๆไรนี่แหละ แล้วที่ผมอ่านมา เวลาจะนึกภาพกสิน เหมือนนึก คิดถึงบ้าน แม่ ไรพวกนี้

    มันจะไม่ใช่เป็นรูปใช่ไหมครับ แต่จะเป็นโครงร่าง แม่ แต่ไม่ถึงขนาดเจาะจง เช่นแม่เรามีสิวเม็ดซ้ายตรงแก้มสองเม็ดไรพวกนี้ แล้วจะนึกน้ำไงครับมันใส
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2012
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ผมว่าคุณน่าจะไปเริ่มที่อานาก่อนไมครับ....เพราะเห็นกำลังใจในการฝึกกรรมฐานของคุณยังไม่ค่อยแน่นอนมากนัก...เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามอารมณ์อยู่มาก.....
     
  4. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ฝึกแล้วครับแต่ไม่ถึงฌาณ4 เลยเปลี่ยนไปก่อน พอได้ฌาณ4จากกสิน มันง่ายดี ค่อยไปอาปาถึงฌาณ4
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    แล้วคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณจะได้ฌาน ๔ ในกสิณ.....

    ถ้าจะฝึกกสิณจริงๆ ขอให้ปักใจลงไปทำให้มันจริงนะครับ....อย่าไปทำให้เหมือนกับอานา ทำแล้วอาจยังไม่สำเร็จ พอมาอ่านเรื่องฤทธิ์ อยากได้ฤทธิ์ เลยหันมาฝึกกสิณ เพราะเห็นว่าอาจดีกว่าอานา....ถ้ากำลังใจอย่างนี้นะ...รับรองได้เลย ฝึกทั้งชาติก็ไม่สำเร็จ....


    ถ้าจะจับอะไรเอาให้มันจริงนะครับ....
     
  6. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    จริงๆอยากได้ฌาณ แค่นั้นแหละครับเห็นเค้าว่ามันสุขจริงๆ ก็อยากรู้สุขอย่างไง แล้วอ่านมาพอได้ฌาณ สามารถไปนรกสวรรค์ได้เพื่อนผม จะไปเจอพระศรี ไปผูกมิตรกับเค้าเพื่อจะได้ไปเกิดในยุคของท่าน เพื่อดีไม่ดีที่สวรรค์มีของพิเศษกินอันนี้เข้าไปจะฉลาดเหมือนพระอินทร์ คิดเรื่อง1000เรื่องได้ในเวลาเดียวกันมันสุดยอดจริงๆ
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เบญจพิธจักษุของพระพุทธเจ้า

     
  8. พรพรพรพรพ

    พรพรพรพรพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +1,298
    ผมเน้นสีแดงไว้เพราะเป็นสาเหตุหลักที่คุณยังไปไม่ถึงเป้าหมายครับ

    ถ้าคุณทำไปเรื่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปเคร่งเคลียดกับมันเพราะมันไม่มีการสอบเก็บคะแนน

    อารมณ์ดี ก็ทำ อารมณ์เสีย หงุดหงิด ก็พักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง อ่านการ์ตูน หรือเฟ้สบุ๊ค ทวิตเต้อร์คุยกับเพื่อนๆ ให้อารมณ์ดี สบายอารมณ์ ค่อยทำ
     
  9. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โอเคครับผมจะทําสบายๆ
     
  10. shaman loseless

    shaman loseless เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +185
    คิดว่าข้างหน้าเป็นน้ำ เพ่งไปเรื่อยๆ ไม่ต้องสนเรื่องอื่น
    น้ำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..........................แล้วมันจะไปของมันเอง
    ว่างในที่สุด

    สิ่งเหล่านี้คือ ที่รวมจิตให้เกิดสมาธิแค่นั้น
    เป้าหมายคือสมาธิเป็นฐานของปัญญา
    ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างอื่นของแถม
     
  11. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +356
    เอามาฝากครับ


    ๑. บริกรรมนิมิต คือ นิมิตที่เราสร้างขึ้น มา เป็นมโนภาพ เช่น นึกถึงดวงแก้ว เราก็วาดมโนภาพเป็นดวงกลมๆ แม้จะเห็น ลัวๆ ลางๆ เป็นเค้าโครงรูปร่างไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร แต่ถ้าเราประคองไป เรื่อยๆ อย่างสบายใจ ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ไปด้วย นึกถึงบริกรรมนิมิตไป ด้วย ไม่ช้าบริกรรมนิมิตนั้นก็จะชัดเจนขึ้น


    ๒. อุคคหนิมิต คือ นิมิตที่เราจำลองจากข้างนอกเข้าไปสู่ข้างในได้ ลักษณะดวง แก้วข้างนอกเป็นอย่างไร ลักษณะดวงแก้ว ในขั้นอุคคหนิมิตก็จะเป็นอย่าง นั้น คือชัดเจน ๑๐๐ % เหมือนลืมตาเห็นเลย ในขั้นที่ชัดเจนเหมือน ลืมตาเห็น นี้เรียกว่าอุคคหนิมิต เมื่อใจหยุดนิ่งเป็นอัปปนาสมาธินิ่งแน่น ร่างกาย เหมือนถูกตรึงติดไว้กับพื้น ไม่ขยับเขยื้อนเลย ใจไม่ซัดส่าย ไม่คิดไปใน เรื่องราวต่างๆ ตรึกติดกับภาพนิมิตนั้น จะเป็นดวงแก้วก็ตาม องค์พระก็ ตาม ตรึงติดแน่นเลย



    ๓. ปฏิภาคนิมิต ถ้าใจละเอียดอย่างนี้เรื่อย ๆ ไป นิมิตนั้นจะนุ่มนวล พอถึง ขั้นปฏิภาคนิมิต ดวงแก้วก็จะใส สว่าง มีแสงออก มีรัศมีออกมาสว่างเจิด จ้า นุ่มนวล ฟ่องเบา เหมือนฟองสบู่อย่างนั้น ถ้าหากเป็นองค์พระก็จะสุกใส ใส ยิ่งกว่าเพชร สว่างจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน หรือยิ่งกว่านั้น พอถึง ขั้นนี้นิมิตจะขยายใหญ่ขึ้น จะนึกให้เล็กลง ก็เล็กได้ นึกขยายก็ขยายได้ นี้ เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต
     
  12. NICKAZ

    NICKAZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +812
    อภิญญาสมาบัติอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่วิธีการ


    โธ่ โธ่ โธ่ โธ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ผมว่าจะพยายามชี้ช่องให้เห็นสักเล็กน้อย เจ้าของกระทู้เปลี่ยนใจเสียแล้วหรือนี่ เอาเป็นว่าขอยังไม่คุยกันเรื่องนี้แล้วล่ะกันนะ

    วิสัยพระโพธิสัตว์ เขาต้องมีความเด็ดเดี่ยว มีทีเด็ดทีขาด ถ้าอารมณ์ใจยังเป็นอย่างนี้ ลมเพลมพัด จะเสียเวลาไปเปล่าๆ

    ผมว่าตอนนี้พยายามฝึกการสร้างกำลังใจ เพื่อนำไปสู่การประสบความสำเร็จก่อนจะดีไหม?

    เวลาที่ไม่ได้ดูลมหายใจ รู้สึกว่าตัวเองเลว ความคิดเลว นั่นเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมี จะต้องเป็น ตามธรรมชาติอยู่แล้ว การตามตัวรู้ในอารมณ์นั้นก็จัดว่าเป็นของดี แต่รู้สึกว่าจะข้ามขั้นตอนไปไหม?

    การตามรู้อารมณ์ ถ้าไม่ได้มีสมาธิที่ตั้งมั่นมาเป็นทุนเดิมไว้ก่อน การตามตัวรู้ ก็เห็นจะได้ตามแบบทางโลก รู้อยู่ รู้อารมณ์ รู้แล้ว เป็นอย่างไรต่อไป? รู้แล้ว ไม่เห็นทางที่จะไปต่อ หาที่หาทางให้กับตัวเองไม่ได้ ถึงต้องมาตั้งกระทู้ถามอยู่ในนี้ เพราะถ้าหาทางไปต่อได้ ก็คงจะไม่ต้องมาตั้งกระทู้ถาม

    ถ้ามีสมาธิกำกับ พิจารณาเหตุ และวิเคราะห์หาผลแล้ว จะเห็นทางออกหรือทางไปต่อได้เอง อย่างไม่ต้องลังเลสงสัย

    ไม่มีสมาธิกำกับ ปัญญาจะเกิดมาจากทางไหน ถึงได้เสนอว่า ออกจะข้ามขั้นตอน ไม่อย่างนั้น พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จะกำหนดเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา ไปเพื่อเหตุใด

    การปฏิบัติ ควรรู้ตัวเองก่อนว่า จะปฏิบัติไปเพื่อสิ่งใด ถ้ามีความประสงค์ในฌาน เพื่อฝึกปฏิบัติให้จิตเกิดความสงัด ถอยห่างจากกาม เมื่อปฏิบัติไป กลับไปตามหา ตามดู ตัวรู้แทน อย่างนี้นับว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่รู้หน้าที่ของตัวเอง ตั้งใจไว้ว่าอย่างไร แต่เฉไฉไปเรื่องอื่น ไปเรื่อย อย่างนี้จะไม่ได้อะไรสักอย่าง

    ในทางกลับกัน ถ้าสมาธิตั้งมั่นดีแล้ว เสถียรแล้ว จะตามดูตัวรู้ นั่นก็ย่อมที่จะทำได้และจะทำได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มากนัก

    การจัดลำดับงาน จึงมีความสำคัญอย่างนี้ การข้ามขั้นตอน ไม่เป็นผลดี

    ในเมื่อเจ้าของกระทู้เปลี่ยนใจจากอานาปนสติ มาเป็นอาโปกสิณ ก็คงจะเป็นสิทธิ์ของท่านที่จะเลือกปฏิบัติ ผมขอคุยแลกเปลี่ยนกันสักเล็กน้อย

    การปฏิบัติอาโปกสิณที่เคยผ่านๆมา เวลาปฏิบัติ ไม่ด้องเคร่งครัดเรื่องวัตถุต้นแบบที่เอามาเพ่ง ว่าจะต้องถูกต้องตามตำราก็ได้ จัดหาเอาตามสะดวก จะเอาน้ำใส่แก้วน้ำ ใส่อ่างน้ำ มาดูก็ได้ หรือไปยืนดูที่ริมตลิ่งแม่น้ำ ลำธาร แล้วพิจารณาก็ได้ เพ่งเอานิมิตได้เหมือนกัน สำหรับผม น้ำเป็นสิ่งที่คุ้นเคยในชีวิตประจำอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปนั่งมองอีก เลยใช้วิธีคิดถึงสภาพของน้ำหลับตา ลืมตาสร้างนิมิตได้ทันที เพราะเป็นของที่คุ้นเคยอยู่แล้ว

    การเพ่งนิมิต เรื่องกสิณจะทิ้งลมหายใจไม่ได้เหมือนกัน หนักกว่าอานาฯ นะ เพราะ อานาฯ จับลมหายใจและคำภาวนา แต่กสิณ ต้องมีถึงสามส่วน คือจับลมหายใจ ภาวนา และเพ่งนิมิต ไปพร้อมกัน เจ้าของกระทู้ จะเอาแน่หรือ?

    ถ้าจำภาพน้ำไว้ได้แล้ว ก็หัดระลึก ประคองภาพน้ำนั้นไว้ในใจ พร้อมจับลมหายใจเข้าออก พร้อมคำภาวนาไปด้วย

    คำภาวนา ไม่จำเป็นต้องเคร่งครัด ว่าเป็นภาษาบาลี จะเอาเป็นคำที่เราเข้าใจและสื่อความหมายกับตัวเอง ให้เข้าใจว่า เรากำลังเพ่งนิมิตของสิ่งใดอยู่ ก็ได้ทั้งนั้น

    จะภาวนาว่า "อาโปกสิณัง" ก็ได้
    จะภาวนาว่า "น้ำ" ก็ได้
    หรืออยู่ต่างประเทศ จะว่าเป็นภาษาอังกฤษ ว่า "Water" หรือเจ้าของกระทู้อยู่ที่เดนมาร์ก จะว่าเป็นภาษาเดนมาร์ก ว่า "Vand" ก็ได้ ไม่มีข้อขัดข้องแต่อย่างใด ถ้าเห็นว่าจะสื่อความหมายกับตัวเองได้ดีกว่าการภาวนาด้วยภาษาบาลีหรือภาษาไทย

    การเพ่งบริกรรมนิมิต ก็เป็นอย่างที่คุณหนูนราสภาว่าไว้นั่นล่ะ (นางมารตับเป็ด แต่ตัวจริงน่ารักมากๆ ไม่ร้ายเหมือนชื่อเลย) แล้วก็ฝึกปฏิบัติไปตามกระบวนการ วิธีการเพิ่มเติม ก็หาอ่านเอาจากในเว็บนี้ ทั้งการฝึก การแก้อารมณ์ในการปฏิบัติ มีบอกไว้หมดแล้ว

    เรื่องฌานยังอีกยาวไกล แล้วค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ มีข้อสงสัยอะไร ปฏิบัติแล้วติดขัดอะไร ก็เอามาถามท่านผู้รู้ในนี้ได้ ซึ่งมีท่านสมาชิกที่ตอบและให้ความเห็นได้ดี หลายท่านเช่น

    เรื่องการเสริมสร้างกำลังใจ บารมี การขจัดสิ่งขัดขวางการปฏิบัติ ก็ถามคุณนิวรณ์ได้

    เรื่องการวิเคราะห์ วิจารณ์กระบวนการ กลไกของจิต การบำเพ็ญเพียร ภาวนา ก็ถามคุณขันธ์ได้

    เรื่องการปฏิบัติสมาธิปฏิบัติทั่วไป การวางอารมณ์ใจ ก็ถามคุณ Phanudet ได้

    เรื่องการฝึกปฏิบัติในกสิณ ก็ถามคุณ Saber ได้

    และยังมีท่านอื่นๆ อีกมากมาย ต้องขออภัยที่ ผมไม่สามารถเอ่ยนามได้ทั้งหมด เนื่องจากมีเวลาจำกัด

    ผมตั้งให้แต่ละท่านเป็นผู้รู้เฉพาะด้านอย่างนี้ก็แล้วกัน ส่วนท่านทั้งหลาย จะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    ส่วนผม เนื่องจากเป็นพวกความรู้น้อย ด้อยปัญญา ไม่อาจจะเสนออะไรให้กับเจ้าของกระทู้ได้ นอกจากจะคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้เท่านั้น ขอถอยออกไปยืนดูอยู่ห่างๆ เพื่อรอฟังท่านผู้รู้ในบอร์ด จะได้แนะนำเจ้าของกระทู้ และผมจะได้ถือโอกาสเรียนรู้ในสิ่งที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นบอก ไปพร้อมๆ กับเจ้าของกระทู้ด้วยคน
     
  13. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    จริงๆกสินน้ำมันก็เพ่งน้ำแต่ก็ต้องจับลมหายใจไม่ใช่เหรอครับ มันน่าจะเป็นอาปานุสติไปด้วย
    ผมก็ต้องใช้อาปานุสติดับความฟุ้งก่อนไม่งั้น ผมจะไปคิดเรื่องอื่นนอกจากนั้น
    vand นี่คือน้ำครับ :D พี่นี่เก่งรู้ภาษาเดนมาร์คด้วย
     
  14. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ผมว่า ฝึกสมถะกรรมฐานให้มีกำลังก่อนดีไหมครับ
    ไอ้ความรู้สึกสุขในสมาธินี่ ผมว่ามันพื้นๆ นะครับ ไม่รู้สิ.... อาจจะแล้วแต่แต่ละคนนะ แต่เห็นบางคนฝึกรวมไม่ถึง 10 ชั่วโมงก็ถึงแล้วนะ ไอ้ที่บอกว่า สุขแบบไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิตหนะ
     
  15. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    แต่สุขที่ผมเจอนี่ จิตมันดิ่งลงอ่าครับแล้วมันสุขดี พอสักพักเหมือนตกจากที่สูงตกใจ พลัดตกจากฌาน
     
  16. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    อันเดียวกันแหละครับ ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องพื้นๆ ของสมาธินะ... ผมเคยติดแบบว่า มันค้างเข้าไปตอนนอน ค้างทั้งวัน เป็นอยู่ 2-3 วัน ไม่อยากจะทำอะไรเลย มีเวลาว่าง จะ 3 นาที 5 นาที ต้องรีบหาที่เงียบๆ เข้าสมาธิ ทีวีไม่ดู อะไรๆ ก็ไม่สน มีความสุขตลอดเวลา แต่ร่างกายจะตายเอา

    โชคดี หลุดออกมาได้ มาปฏิบัติต่อ จะให้กลับไปเป็นแบบนั้นอีก ผมไม่เอาละ... ตอนนี้รู้สึกว่าเจอแบบที่ดีกว่าแล้ว คือ สุขคล้ายๆ แบบนั้นเหมือนกัน เหมือนตื่น เหมือนเบิกบานทั้งวัน ในอารมณ์ปกติประจำวันนี่แหละ โดยไม่ต้องเข้าสมาธิ
     
  17. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สุขอะไรครับ สุขไรเหมือนตื่น เบิกบาน สอนผมหน่อย ผมอยากมีความสุข ที่หาได้ในตัวไม่ต้อง หาภายนอก สุขที่พี่ว่าเนี่ย เป็นพวกสิ่งของหรืออะไรเปล่าครับ
     
  18. Supop

    Supop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,154
    ขอแชร์บ้าง

    เพ่งน้ำให้ใส่ความรู้สึกลงไปที่น้ำเมื่อตอนที่เพ่งเพื่อจำ

    เมื่อหลับตานึกถึงภาพของน้ำในภาชนะมันจะมีภาพของภาชนะติดมาด้วยไม่ต้องสนใจ ให้นึกถึงน้ำก็พอ

    แรกๆ ภาพจะมัวๆไม่ชัด เพราะยังเป็นแค่การนึกหรือเอาภายนอกเข้ามาภายใน แต่เมื่อทำบ่อยๆ น้ำในการนึกของเราจะเริ่มใสขึ้น (เหมือนภาพความละเอียดสูงอย่างนั้น) แล้วภาพของภาชนะก็จะหายไปจากนิมิตเอง

    เมื่อภาพของน้ำเริ่มใสปิ๊งแล้ว จิตเริ่มจับภาพนิมิตได้นานขึ้น ก็ลองกำหนดความรู้สึกของน้ำให้ไหลวนอยู่ภายในกาย หรือนอกกาย จะรู้สึกเย็นๆสบาย เหมือนน้ำ้ไหลอยู่ตามที่เรากำหนดจริงๆ

    นี่แค่เบื้องต้นที่ได้ปฎิบัติมา

    ครูบาอาจารย์บอกว่า การกำหนดนิมิต ไม่ใช่การสร้างภาพ ไม่ใช่เพียงแค่การนึกคิดได้เก่งเฉยๆ

    แต่เป็นการเอาสิ่งนั้นเข้ามาเป็นอารมณ์ของจิต สิ่งเหล่านี้ที่เราได้ก็เพราะมันเป็นอารมณ์ของจิตแล้วนั่นเอง

    เจริญในธรรมครับ
     
  19. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    สุขหาได้ในตัว แบบที่ไม่ต้องกลัวคนอื่นมาแย่งไป
    เป็นความสุข จากการ ลด ละ
    ไม่ยึดถือ ไม่มีอะไรติดค้างในใจ
    ร่างกายจะเบา สบาย สมองจะปลอดโปร่ง โล่ง ไม่รู้สึกอะไรเลยบนหัว รู้สึกเหมือนมันโล่งไม่มีอะไรอยู่เลย เหมือนส่วนของร่างกาย ที่สูงกว่าตา ขึ้นไป มันไม่มี
    จิตใจจะเย็นสบาย ใจทรงพรหมวิหาร มีเมตตา ไม่อยากทำร้ายใคร อยากจะช่วยคน จะไม่ค่อยโกรธ ไม่ค่อยพยาบาทใคร หากมีใครทำให้โกรธได้ ก็จะเก็บไว้ในใจไม่เกิน 10 วินาที ก็ทิ้งไปหมด

    พอผมถึงจุดนั้น ผมลองตั้งใจทำจิตตัวเองให้ถอยลงมา (ไม่รักษาพรหมจรรย์ บ่อยๆ ถี่ๆ หลายวัน เพื่อเป็นการทดสอบ) เป็นแบบก่อนที่จะฝึกได้ขั้นนั้น พบว่า ไม่ชอบความรู้สึกร่างกายตัวเองเลย มันหนักขึ้น บนหัวก็เหมือนมีอะไรเหนียวๆ มาเกาะไว้ มันไม่โล่ง ไม่เบา ไม่สบายเลย
    ช่วงนี้ผมต้องนั่งปฏิบัติคืน เพื่อให้กลับไปได้ถึงจุดนั้น

    ถ้าถามว่า ปฏิบัติอย่างไร ก็ อานาปานสติ นั่นแหละนะ มีคนแนะนำไว้เยอะแล้ว ทำตามนั้นแหละครับ
     
  20. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอบคุณมากครับผมจะได้เอาไปปฎิบัติดู

    ที่พี่พูดมาเนี่ยมันความสุขที่พี่บอกคล้าย(แต่ไม่ใช่)ผมจิตมันดิ่งลงมันรู้สึกสบายปลอดโปร่ง ชาตินี้พอใจหละ จะตายก็ตายอารมณ์แบบนี้แหละเงินทองชั่งมัน เมียไม่ต้องมีก็ได้ เมียให้ความสุขแบบนี้ก็ไม่ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...