ข้อดีของ ฌาณ 4 ดีอย่างไรบ้างขอรับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 23 กันยายน 2013.

  1. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    คือผมคิดว่าผมได้แล้ว เพราะเมื่อไม่นานมานี้นั่งสมาธิเอียงตัวไปๆมาๆ จนลืมไปว่านั่ง ลืมสิ่งรอบตัวนั่งนานมาก พ่อกับแม่ก็ งง ว่าขึ้นไปทำอะไรมานาน

    เลยอยากทราบผลดีของ ฌาณ 4 ทำให้เราเกิดประโยชน์อะไรบ้างหรอครับ นอกจากสบายใจ จิตเป็นสมาธิ พอนึกเรื่องไม่ดีก็ตัดทิ้งได้เลย

    ขอบคุณนะครับ
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ฝึกไปเรื่อยๆ ก่อน อย่าเพิ่งเอามาคาดเดาอะไรในขั้นนี้
     
  3. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    คุณnosono คุณใจเย็นๆก็ได้ครับ

    ก็ผมนั่งที่บ้านเฉยๆครับ ไม่มีสำนักครับ

    แสดงว่ากระผมหลงผิด แต่ก็ใจเย็นๆครับ ผมคงไม่มาตั้งกระทู้อวดภูมิอะไรซะหน่อย นี่มันกระทู้ถามนะครับผม ใจเย็นๆครับ
     
  4. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ระหว่างตอนนั่นตัวมันเหมือนจะหงายหลังให้ได้นะ แต่ก็เกร็งกลับมาๆ แต่ครั้งล่าสุดที่เล่ามาคือผมลืมว่าตัวเองนั่งอยู่ไง มันดีกว่าทุกครั้งเลยสงสัยและอยากขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับ

    ถ้ามันคือการหลงผิดก็จะปรับปรุงครับ
     
  5. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ถ้าท่านได้ญาณสี่แล้วจะไม่มีวันมาถามคำถามนี้หรอกคะ เพราะถ้าได้แล้ว เราจะรู้แล้วด้วยตัวเอง ไม่ต้องมาถามผู้อื่นอีกต่อไปคะ ลองไปนั่งดูใหม่ ถ้าถึงเดี๋ยวก็จะรู้ว่าข้อดีคืออะไร และทำอะไรได้บ้าง
     
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ขอดีของ ฌาณ ไม่จำเป็นต้อง 4 ฌาณไหนๆ ก็เหมือนกันหมด
    คือทำให้ ผู้ที่เคยริมรส ย่อมชอบใจใน รส ของ ฌาณ

    ทีนี้ พอชอบใจรสของ ฌาณ ก็จะมี ปรกติอยู่เองที่ จะปัดป้อง
    หรือ เกลียดกิเลส

    ซึ่งเมื่อเอามา ยกปัญญา จะเห็น ความชอบใจ ที่
    เรียกว่า อภิชญา และ ความไม่ชอบใจ คือ โทมนัส

    ทีนี้ หากไม่ทำการวิปัสสนา จะไม่รู้ว่า กิเลสเนี่ยะ มันเป็น
    ของเก่า ไม่ใช่ของใหม่

    คือ หากยกวิปัสสนา จะทราบว่า กิเลสมันฝังตัวในจิต

    แต่ถ้าไม่ได้ยกวิปัสนา จะไม่ทราบ ทำให้ เกิดความเข้าใจ
    ผิดคิดว่า ตัวเองตัดกิเลสได้แล้ว โดยไปวัดเอา การละ การ
    ปล่อย การวาง ด้วย อาการเกลียดกิเลส

    ทีนี้หากมายกวิปัสสนา จะทำให้ทราบ กิเลส ที่มีอยู่ภายใน
    ยังไม่ได้ชำระออก ต่อให้ ปฏิเสธ เกลียดกลัว ไม่แตะต้อง
    สามารถลุกออกจากกิเลสได้ง่าย กิเลส ก็ยังไม่ได้ชำระอยู่ดี
    [ ต่อให้ ฌาณ ฮานาก้า เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ ก็สามารถ
    หล่นปุ มาหลีหงษ์ ได้ทันที ]


    Once ที่ยกเห็นว่า อ้อ กิเลสเป็นสิ่งติดมากับจิต มีในจิต ตัว
    จิตคือตัวก่อภพ ก่อชาติ มีหน้าที่แล่นไปตามอวิชชา คือหลง
    สังขารสารพัดมันจะเกิดขึ้น ตามปัจจัยการคือ ผัสสะ ห้ามไม่ให้
    สังขารมันเกิดก็ไม่ได้

    แต่ ทางออกนั้นมีอยู่ คือ การตามดูความไม่เที่ยงของ สังขาร
    บ้าง ของจิตบ้าง ของเวทนาบ้าง ของสัญญาบ้าง ของรูปบ้าง
    ก็จะค่อยๆ เห็นว่า ทางออกจาก ของเก่า ในกาลก่อนๆมีอยู่

    มาถึงตรงนี้ ก็จะเข้าใจ การข้ามอภิชญา และ โทมนัสในกาล
    ก่อนๆเสียได้ ....เวลาข้ามได้ จิตจะเหมือนสัมผัส หรือ อยู่
    หรือเข้า หรือออก ฌาณ4 ทั้งแบบแว็บๆ ชั้่วขณะบ้าง จวน
    เจียนจะอยู่เป็นสมาบัติบ้าง หรือ อยู่เป็นสมาบัติบ้าง

    ความที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสมาบัติ ตะพืดตะพือ แต่เห็นว่า
    แค่ ชั่วขณะ ก็แจ่มแล้ว ที่เรียกว่า ฌาณกระจุ่มกระจิ๋ม

    ทำให้ คราวนี้ไม่เผลอเพลิน ไม่เข้าใจผิด ว่า การภาวนา จะ
    ต้องอยู่ในสมาบัติเสมอไป

    เมื่อนั้น ก็ว่ากันไปตาม ศิลปการภาวนา ยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม ทำ
    พูด คิด ล้วนแต่ เจริญสติปัฏฐานได้ เลิกโง่ ง่มโข่ง ยึดจับ ฌาณ
    ว่าเป็น นิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2013
  8. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    อนุโมทนากับคำตอบครับท่าน

    อนุโมทนานะครับ ท่านนิวรณ์ ขอบคุณสำหรับความรู้นะครับ ไว้จะฝึกสมาธิแล้วตัดกิเลสบางส่วน ดีกว่าความต้องการฌาณ4 ของผมดีกว่า ขอบคุณครับ
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ไป กะเกณฑ์ ไม่ได้หรอก

    เผลอไป กะเกณฑ์ เข้า เสร็จเลย โดน สังขารหลอก

    ให้ดี ก็ให้ ทำไปตามความ สมควรแก่ธรรม

    ใครจะไปรู้ ฌาณ4 อาจจะไม่ คณามือ ก็ได้


    ถ้าเป็น สำนวนพระพุทธองค์ จะใช้สั้นๆว่า " ให้กำหนดรู้ "

    เช่น

    เห็นฌาณจิต มีความเที่ยงขึ้นมา เพราะอะไร เพราะ ลืมกำหนดรู้
    เห็นฌาณจิต เสื่อมไป เสียใจมาก เพราะอะไร เพราะ ลืมกำหนดรู้
    เห็นฌาณเสื่อม สลับกันไปกับเจริญ รู้สึกเฉยๆแต่กิเลสยังเกิด เพราะอะไร เพราะ ลืมกำหนดรู้

    การกำหนดรู้ จึงเป็นเรื่อง การพิจารณาปัจจุบันธรรม ไม่ใช่ การคาดไปในอนาคต ว่า จะต้อง
    ทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ จึงสมควรแก่เรา เนี่ยะ มันแฉลบออก โดนมันหลอก ให้ขยับ แทน
    ที่จะ กำหนดรู้ หยุดลงที่รู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2013
  10. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ขอบพระคุณทุกท่านที่มาให้ความรู้ครับ ^_^

    หากกระทู้นี้ไปทำให้ใครจิตใจฟุ้งซ่าน หรือกระทบใจใครไม่ดีก็ขออโหสิกรรมด้วยนะขอรับ

    ปิดกระทู้บริบูรณ์ !!!
     
  11. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    คำแนะนำ ก็คือ ฝึกไปเรื่อยๆ ก่อน อย่าเพิ่งคิดเหมาอะไรในตอนนี้

    นี่เป็นแค่้การเริ่มต้นเดินทาง แล้วการปฏิบัติในชั้นนี้ มันจะก้าวหน้าเร็วมากๆ อยู่
    สภาวะพวกนี้ ถ้าปฏิบัติจริงจัง แค่สองสามวัน มันก็เปลี่ยนแล้ว ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ก่อน จนมันเริ่มนิ่ง แล้วค่อยมาว่ากัน

    แต่สำคัญข้อนึง คือ อย่าเพิ่มเวลาปฏิบัติไปเรื่อยๆ ให้ปฏิบัติเต็มที่ อย่าให้เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน ไม่งั้นมันจะเสี่ยงไปติดสมาธิ ส่งผลเสียกับชีวิตแทน
     
  12. toomdoi

    toomdoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +839
    ไม่ต้องยึดติดกับ ฌาณ จะทำให้เราหลง เท่าที่อ่านดู คุณยังเข้าไม่ถึงฌาณเลย แค่ขั้นอุปจารสมาธิ ผมก็เป็นเหมือนคุณเมื่อเริ่มปฎิบัติ ศึกษาจากตำราหลายๆเล่ม อ่านในพระไตรปิฏก แล้วนำมาวิเคราะห์ จะรู้แจ้งว่าเราถึงขั้นไหนแล้ว แต่ก็ขออนุโมทนาด้วย คุณมาถูกทางแล้ว ทำไปเรื่อยๆอย่าใส่ใจว่าถึงขั้นไหนแล้ว ไม่ว่าจะฌาณ หรือสมาบัติ ก็ไม่ทำให้เราหลุดพ้นนอกจากพระนิพพาน พวกเราควรปฏิบัติให้ได้เป็น1ใน4บุรุษของพระศาสนา คือ พระโสดาบัน แม้จะกลับมาเกิดก็ปิดซึ่งอบายภูมิ มีแต่มนุษย์และเทวโลกจนกว่าจะนิพพาน
     
  13. lungyai

    lungyai สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ทุกคำตอบ มีประโยชน์ ปฏิบัติต่อไป แล้วกลับมาดูใหม่ จะรู้ถึง ผลของการปฏิบัติ แล้วจะได้คำตอบด้วยตนเอง ให้ข้อคิดสักนิด คำของครูบาอาจารย์ " ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ " วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข เอกัคตา
     
  14. qillip

    qillip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +366
    บางทีอาจถึงฌาน4 ก็เป็นได้ครับ ถึงปุ๊ปก็หล่นมาอุปจาระ มาเจอตัวปีติเข้าให้
    ถึงฌาน4 บางทีอาจเป็นฌาน1-3 ก็ได้ครับ แต่ไม่สามารถทรงให้อยู่ได้ครับ
    ก็แค่ความคิดเห็นผมเอง จะถูกจะผิดผมก็ไม่ทราบได้ ผมไม่เก่งครับ
     
  15. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    เรื่องฌาณ เป็นของยาก ไม่ใช่ของง่ายๆ ดังที่นักปฏิบัติบางท่านเข้าใจกัน
    พระพุทธองค์ทรงกล่าวถึง สัมมาสมาธิเอาไว้ในลำดับสุดท้ายของการเจริญมรรค
    นั้นหมายความว่า การที่เราจะทำสมาธิได้ถูกต้อง จะต้องใช้ชีวิต ตามแนวทางที่ถูกต้องเสียก่อน กล่าวคือ คิด พูด ทำ เพียร ออกจากกิเลส เข้าสู่ทางสงบ ตามอริยมรรคมีองค์ 8
    เมื่อจิตใจสงบควรค่าแก่การทำความสงบให้แนบแน่น แล้วจึงเจริญฌาณ เพื่อจุมุ่งหมายคือ เครื่องอยู่ที่สงบ เพียงพอที่จะเป็นฐานแห่งการเจริญมรรคสืบต่อไป
    จะเห็นได้ว่า ในพระป่าท่านต้องมีการขอนิสัย ใช้ชีวิตบิณฑบาต สวดมนต์ทำวัด ปัดกวาดพื้นบริเวณวัด ทำความเพียรเดินจงกรม เมื่อทำสิ่งดังกล่าวมาแล้วได้ดีจึงจะภาวนาได้สงบเป็นฌาณ และไม่เท่านั้นบางท่านได้ฌาณ แต่สติปัญญายังไม่ได้ ก็เรียกได้ว่ายังไม่ได้หลัก
    เมื่อยังไม่ได้หลัก แล้วจะทำความเพียรอย่างเต็มที่ก็ไม่รู้จักวิธีรักษาจิต เจริญฌาณให้ถูกต้องตามแนวทางแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    การทำฌาณของบุคคลทั่วไปจึงเจือไปด้วยความไม่รู้ เป็นเหตุให้จิตไม่สงบตัวได้อย่างแท้จริง และไม่มีสติปัญญามากพอที่จะวางจิต วางอารมณ์ และจัดการกับสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะเจริญ ฌาณภาวนา
    ที่เจ้าของกระทู้ ถามว่า ฌาณ 4 ดีอย่างไร ผมก็ขอให้เจ้าของกระทู้ทบทวน ปฐมฌาณ ให้ดีก่อน สังเกตุคุณประโยชน์ของ ปฐมฌาณ และมีวสีหรือความคล่องแคล่วให้ได้ พึงเอาประโยชน์ของปฐมฌาณให้ได้ก่อน แล้วจะเห็นประโยชน์หรือความอัศจรรย์ ของ จตุถฌาณได้ไม่ยาก เพราะเป็นประโยชน์ของสมาธิเหมือนกัน แต่แนบแน่นต่างกันเพื่อประโยชน์คือ ฐานแห่งวิปัสสนาญาณเพื่อถอนอนุสัยที่ละเอียดต่างกันครับ
    เท่าที่ผ่านตามา หาคนที่ได้ จตุถฌาณ แบบสัมมาสมาธินั้นมีน้อยมาก นอกนั้นจะเป็นการเข้าใจผิดเสียมากครับ
     
  16. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ที่จริงเรื่องฌาณ 4 อะไรพวกนี้ผมก็ไม่ได้อยากได้อะไรหรอกครับ แค่เข้าใจว่าได้แล้ว แต่อาจจะไม่ได้ตามที่พี่ๆข้างบนบอกมา

    ผมสนใจการทำบุญ รักษาศีล นั่งสมาธิ มากกว่าครับ
     
  17. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องได้อะไร ไม่ได้อะไรเลย ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ เสียก่อน

    หากทำเหตุได้ถูกต้อง ผลมันก็ตามมาเอง

    แต่ถ้าเอาความอยากได้ ไม่อยากได้ มาเป็นตัวตั้งไว้ก่อน มันจะขวางให้ทำเหตุให้ถูกต้องไม่ได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...