หลวงตามหาบัว ตอบข้อข้องใจนายสมัคร เกี่ยวกับการใช้คำเทศน์

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 25 มกราคม 2008.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    หลวงตาบัวตอบข้อข้องใจนายสมัครกรณีเทศน์ด้วยคำหยาบ
    ผู้กำกับ จากลูกศิษย์ทางกรุงเทพเขาส่งเป็นข้อความมานะครับ



    หลวงตา เขาส่งข้อความอะไรมา หูฟังให้ดีนะให้ระวัง อะไรไม่ดีให้ปัดออก อะไรดีให้กว้านเข้ามา ไม่ใช่อะไรไม่ดียิ่งกว้านเข้ามาเผาตัวเองนะ เราเตือนไว้ก่อน มีอะไรเอ้าว่ามา


    ผู้กำกับ เขาบอกมาดังนี้นะครับ เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๔๘ ในช่วงเวลา ๑๑.๐๐ น.–๑๑.๓๐ น. ทางทีวี อสมท. ช่อง ๙ นายสมัครได้พูดออกรายการ โดยพาดพิงหรือว่ากล่าวว่าหลวงตา สืบเนื่องจากหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ เขาไปลงบอกชมเชยหลวงตาว่าเหมือนสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระสังฆราช วัดป่าแก้วนะฮะออกมาช่วยชาติบ้านเมือง แล้วปัจจุบันนี้ก็มีหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นี้ออกมาช่วยชาติบ้านเมือง แต่นายสมัครก็บอกว่า ไปลงยังงั้นได้ยังไงหนังสือพิมพ์ นี่นายสมัครเขาพูดนะครับ หลวงตาเทศน์ใช้วาจาหยาบคายกล่าวเรื่องอวัยวะของเพศหญิง อันนี้ขาดจากการเป็นสมณเพศแล้ว เขาก็ยกว่ามีพุทธวจนะ บทที่ ๒ ระบุเอาไว้ เขาว่าอย่างนี้ครับ


    แล้วหนังสือที่เขาลงเนี่ย ว่าหลวงตาเหมือนกับกระตุกท่านนายกรัฐมนตรี สมควรจะรับฟังเทศน์ของหลวงตา นำไปแก้ไขปฏิบัติในทางที่ถูกที่ควร แต่นายสมัครเขาไม่ได้เอาตามคำแนะนำของหนังสือพิมพ์ กลับมายกเอาคำเทศน์ของหลวงตา แล้วกลับมาว่ากล่าวหลวงตา ทั้งๆ เขาที่เขาไม่ได้ช่วยชาติบ้านเมืองอะไรเลย หลวงตาเอาสั้นๆ ทองคำ ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่งอยู่ในคลังหลวง นายสมัครออกสักตันไหม ที่ว่าช่วยชาติบ้านเมืองน่ะ มีปัญญาหรือเปล่า นี่นะฮะ แล้วก็บาทเดียวหลวงตาก็ไม่เคยเอามาเป็นส่วนตัว แต่นายสมัครเนี่ยเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยมีเงินมีทอง เดี๋ยวนี้ไปดูบ้านเอาก็แล้วกันนะครับ เมื่อก่อนบ้านเล็กๆ เดี๋ยวนี้บ้านใหญ่โตครับ ตั้งแต่ลงมาเล่นการเมืองนี่ล่ะครับ ทีนี้ลูกศิษย์ทางกรุงเทพฯเขาก็ทนไม่ได้ เขาก็เลยส่งข่าวมา ผมก็นำมากราบเรียนหลวงตาดังกล่าวนี่ล่ะครับ


    หลวงตา ลูกศิษย์มันเป็นบ้ามันทนไม่ได้ มันร้อนนะนั่นน่ะ ลูกศิษย์เรานั่นล่ะลูกศิษย์หลวงตาบัว พอเขาว่าอาจารย์ของตัวนิดหน่อยเท่านั้น โมโหโทโสขึ้นเคียดแค้นมันได้ผลแล้วนั่น


    มันสนุกฟังโลกดูโลกสกปรก พูดง่ายๆ อันนี้มันจ้าอยู่แล้วนี่ว่าไง ใครว่าอะไรสนุกฟังทั้งนั้นละ ไม่มีถือสีถือสาใครนะ เขาว่าอะไร นี้พูดอย่างสนุกด้วยนี่นะ เราพูดนี้เป็นความสนุกตลกตามนิสัยด้วยเข้าใจไหมล่ะ เอาละพอใจ ลูกศิษย์คนไหนเขาว่าให้ไปเคียดให้เขา ลูกศิษย์คนนั้นใช้ไม่ได้เข้าใจไหม ถ้าลูกศิษย์คนไหนเขาว่าก็ให้ฟังเขาว่า แล้วไอ้เรื่องที่ว่าพูดอวัยวะนี้นายสมัครเขาว่าไง ย้ำอีกหน่อยน่ะ เอ้อๆ ย้ำอีกหน่อยตรงนี้มันสำคัญอยู่นะ


    ผู้กำกับ เขาว่าหลวงตาเทศน์ใช้วาจาหยาบคาย เอ่ยอวัยวะของเพศหญิง แล้วก็หลวงตาได้ขาดจากการเป็นสมณะแล้ว แล้วเขาก็อ้างในพระไตรปิฎก เรียกว่ามีพุทธวจนะ บทที่ ๒ (ว่าไงบทที่ ๒ ว่ามา หลวงตาเรียนน้อยๆ) ลูกศิษย์เขาก็บอกว่าแค่นี้ เพราะนายสมัครเขาไม่ได้บอกทั้งหมดว่าที่ว่าบทที่ ๒ เนี่ยว่ายังไง แต่ถ้าให้คาดเดาก็คิดว่าคำพูดหยาบคายนั่นแหละครับ


    หลวงตา นั่นละพี่น้องทั้งหลายฟัง นี่เป็นภาษานายสมัครนะที่พูดอย่างนี้ ที่เราพูดนี่เป็นภาษาธรรม พูดได้ตามหลักความจริงตรงไปตรงมา **มีก็บอกว่า**มี โ***มีก็บอกว่าโ***มี แต่นายสมัครเขาว่า**มี ไม่ให้มี** ผู้หญิงไม่มี** ผู้ชายไม่ให้มีโ*** ไอ้นี้ลบล้างไปหมด แต่ภาษาธรรมว่า**มีบอกว่ามี โ***มีบอกว่ามี หำมีบอกว่ามี หนองกะปาดมีบอกว่ามีเข้าใจไหม เอ้า พิจารณาก็แล้วกัน คนหนึ่งพูดอย่างตรงไปตรงมาเรียกว่าภาษาธรรม คนหนึ่งปิดไว้ๆ เหมือนหนองกะปาดปิดหำเข้าใจไหม ฟังนะเราจะพูดนิทานหนองกะปาดให้ฟังมาประกอบกันนี้นะ หนองกะปาดน่ะ


    อีตานั้นแกขายวัว แกเลี้ยงวัวฝูง พ่อค้าเขาก็ไปซื้อวัวกับแก ทางพ่อค้าเขาจะให้ตัวละ ๓ บาท เขาจะซื้อตัวละ ๓ บาท ไอ้ลูกค้านะ พ่อค้าก็ว่าจะเอา ๔ บาทๆ แกนั่งนั่งแบบนี้ ฟังให้ดีนะ ดู ออกนี้ออกทางทีวีเลย หลวงตาบัวพูดตามความจริง นั่งปล่อยหำซิไม่รู้ตัว ทีนี้พอเมียขึ้นมา กำลังต่อรองกันอยู่ เจ้าของจะเอา ๔ บาท ผู้ที่มาซื้อเขาจะให้เพียง ๓ บาท ทีนี้นั่งปล่อยหำ เมียขึ้นมามาเห็นหำผัวเลยอายเขา เลยขยิบตาใส่ผัว พอขยิบตาแล้วก็เข้าห้อง พอเห็นเมียขยิบตาใส่นึกว่าเมียให้ขึ้นราคา ทีแรกว่าจะเอา ๔ บาทๆ พอเห็นเมียขยิบตาใส่ ๕ บาทๆ เลย ๔ บาทไม่อยู่ เอา ๕ บาท เพราะเมียขยิบตาว่าให้ขึ้นราคา ความจริงเมียเตือนว่าอย่าปล่อยหำให้เขาดู พอออกมาเมียก็ว่า นี่ที่เขาให้ ๓ บาทนั้นก็ควรขายแล้ว แล้วทำไมจึงไม่ขายเสีย ก็เธอขยิบตาใส่ฉันนึกว่าให้ขึ้นราคาฉันก็ขึ้นราคา ไม่ขยิบยังไงก็ปล่อยหำให้เขาเห็นมันอายเขาจะตายไปว่างั้นนะ อู๊ย เสียดายเขาไปหมดแล้ว นี่นิทานปล่อยหำ มันปล่อยก็บอกว่าปล่อยเข้าใจไหม มันมีจริงๆ หนองกะปาด นิทานสด


    นี่ละภาษาธรรมพี่น้องทั้งหลายฟังเสียนะ จะไม่ถือว่าอะไรหยาบอะไรไม่หยาบ โลกเขาถือกันอย่างนั้นอย่างนี้ มีก็บอกว่าไม่ให้มี เป็นอย่างนั้นเรื่องของโลก ถ้าธรรมแล้วตรงไปตรงมา นี่ภาษาของนายสมัครเป็นภาษาของนายสมัครของโลก ภาษาของหลวงตาบัวนี้เรียกว่าเป็นภาษาของธรรม พูดตามอรรถตามธรรมไปอย่างนี้เข้าใจหรือเปล่าล่ะ เอาละพอใจ พอใจกับคำพูดนายสมัคร แต่เราจะไม่ปฏิบัติตามนายสมัครนะ เราจะบอกว่ามีตามจริง หมามีหำเราก็บอกว่าหมามีหำเข้าใจไหม คนมีหำก็จะบอกว่ามีหำว่าอย่างนี้ตลอดไป ธรรมเปิดเผยตลอด ให้แก้ไขตามนั้นก็แล้วกัน


    นี่ละพูดอยู่นี้ ออกนี้ได้เห็นได้ยินกันทั่วโลกนะ ที่กิริยาของหลวงตาบัวปล่อยหนองกะปาดเข้าใจไหม เขาก็ได้เห็นได้ยินได้ฟัง นี่เพราะอะไร เพราะเราไม่มีอะไรกับโลก เราพูดตามกิริยาของโลกต่างหาก เรื่องเหล่านี้ไม่มีในหัวใจของเราเข้าใจแล้วเหรอเราไม่มี กิริยาของโลกมันมียังไงก็แสดงตามโลก ธรรมสอนโลกก็เป็นอย่างนั้น


    พูดกับโลกก็อย่างว่า ก็เราไม่มีอะไรพูดได้เฉย มันไม่มีอะไร เขาว่าอะไรเราก็เฉย พอพูดแล้วหายเงียบเลย พูดตามกิริยาของโลกให้ฟังเอานะพี่น้องทั้งหลาย มาฟังหลวงตาบัวจะได้ฟังหลายแบบนะ พี่น้องทั้งหลายมาวันนี้ขาดทุนหรือได้กำไร ได้ผลประโยชน์สมที่มาวัดป่าบ้านตาดไหม วันนี้เราพูดตามกิริยาของโลกเป็นยังไง เราพูดไปตามกิริยาของโลกเราพูดจริงๆ ส่วนใจเราแล้วไม่มีอะไรในโลกว่างั้นเลยพูดให้มันชัดเจนอย่างนี้ละ เราไม่มี ใครจะตำหนิมา ยกโคตรมาก็เฉย ใครจะมาชมเท่าไรก็เฉยเหมือนกัน พอทุกอย่าง เราไม่เอาทั้งคำติคำชมเป็นส่วนเกินทั้งหมด ธรรมชาติที่พอแล้วนั้นเลิศเลอพอแล้ว ไม่จำเป็นจะเอาอะไรมารับอีก เอาละที่นี่จะให้พรนะ


    ----------------------------------------------------


    ถ้าเราเป็นนายสมัครเราจะบอกนายสมัครเลยว่า ให้ยกทั้งโคตรมาว่าให้พวกนี้อีก พวกนี้ไม่มีโคตร มีแต่มันคนเดียวรับเคราะห์รับกรรมจากคำตำหนิของนายสมัครเข้าใจไหม พวกนี้เลวเข้าใจไหม หลวงตาบัวที่เป็นอาจารย์ของนายสมัคร ให้นายสมัครยกมาทั้งโคตรนี้สามโลกธาตุยกมา หลวงตาบัวเป็นหลวงตาบัวตลอดเวลาเข้าใจไหม ดีก็ไม่รับ ชั่วก็ไม่รับ พอหมดแล้ว อย่างนั้นจึงเป็นนักธรรมสอนโลกซิ เขามาตำหนิแล้วก็หน้าจ๋อยไป ถ้าเขาชมจมูกโด่งไปเลย จมูกโด่งก็เห็นแต่จมูกนายสมัครเท่านั้น จมูกเรามันไม่เป็นเข้าใจไหม ต้องให้สนุกอย่างนี้ซิ แล้วมีอะไรอีกล่ะ

    [​IMG] [​IMG] พระบางรูปบรรลุอรหันต์ แต่ท่านพูดไม่เพราะ เพราะอุปนิสัย (เราควรระวังอย่าตำหนิท่าน) (1 คน กำลังดูอยู่) ([​IMG] 1 2 3)
    แดนโลกธาตุ

    ____________________________________

    อสาเร สารมติโน สาเร จ อสารททสฺสิโน

    เต สารํ นาธิคจํฉนฺติ มิจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา

    -------------------------------------------

    ผู้ใดเห็นสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ว่าเป็นสาระ เห็นสิ่งที่เป็นสาระ ว่าไร้สาระ

    ผู้นั้นมีความคิดผิดเสียแล้ว ย่อมไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระในชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2008
  2. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,793
    กรรมของสัตว์โลก ขอบารมีธรรมของหลวงตาจงเป็นที่พึ่งของลูก

    ศิษย์ด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. onlyli

    onlyli เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +535
    สาธุครับ อยากไปกราบแทบเท้าหลวงตาสักครั้ง จะขอฟังธรรมจากหลวงตา
    ขอให้เห็นธรรมเเบบที่หลวงตาเห็นทีเถอะ สาธุสาธุสาธุ
     
  4. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    หากจะกล่าวว่าพระที่พูดคำหยาบพูดถึงอวัยวะเพศหญิงเพศชายแบบตรง ๆ นั้นขาดจากความเป็นพระแล้วละก็ งั้นพระป่าในสายหลวงปู่มั่นที่มีวาสนานิสัยแบบนี้ก็คงขาดกันไปหลายรูปแล้วหละครับ ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ตื้อ หลวงปู่เจี๊ยะ เป็นต้น ท่านเหล่านี้ก็พูดกันเป็นธรรมดา แต่เมื่อมรณภาพแล้วอัฐิก็กลายเป็นพระธาตุกันแทบทุกรูป

    มันไม่เกี่ยวกับหรอกครับการพูดคำหยาบหรือไม่หยาบกับความบริสุทธิ์ภายในจิตใจ ใช้วัดไม่ได้หรอกครับ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกิริยาภายนอกที่แสดงออกมาตามนิสัยวาสนา อย่าลืมนะครับว่าสาวกภูมินั้นละวาสนาที่ติดตัวไม่ได้ นอกจากพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ละได้ แม้ในสมัยพุทธกาลก็ยังมีเรื่องราวของพระอรหันต์รูปหนึ่งที่พูดคำหยาบเป็นนิจปรากฎอยู่เลยครับ

    นายสมัครก็ดีตรงที่เป็นผู้กล้าที่จะประกาศสนับสนุนพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาตินี่แหละ นับว่าได้ใจหลาย ๆ คนไปไม่ใช่น้อย แต่ก็ดันมาเสียตรงที่เคยกล่าววาจาจาบจ้วงต่อองค์หลวงตามหาบัวซะนี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2008
  5. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ให้ความเห็นครับ
    ที่เอาเรื่องนี้มาให้อ่านกํนก็เพราะกลัวคนที่ไม่รู้..กล่าวคำจวบจ้างพระสงฆ์..ไม่อยากให้เป็นกรรม ..กรณีมีคนพูดให้หลวงตาแล้วไม่นานปากเบี้ยวเคยมีนะครับ..แต่พอมาขอขมาโทษต่อหน้าท่านแล้วอาการปากเบี้ยวก็หายในไม่ช้าอันนี้ก็แปลกนะครับ....
    ขออนุโมทนาครับ..บาปบุญมีจริงครับ....


    [​IMG] [​IMG] พระบางรูปบรรลุอรหันต์ แต่ท่านพูดไม่เพราะ เพราะอุปนิสัย (เราควรระวังอย่าตำหนิท่าน) (1 คน กำลังดูอยู่) ([​IMG] 1 2 3)
    แดนโลกธาตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2008
  6. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    ขอฝากข่าวจากวัดป่าบ้านตาด..ให้นักแสวงบุญทุกท่านครับ

    [​IMG]


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>ขอเชิญร่วมงานทำบุญประทายข้าวเปลือกวัดป่าบ้านตาด ประจำปี 2551 ณ วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี (ถวายแดองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อสงเคราะห์โลก) งานทำบุยประทายข้าวเปลือกเป็นเป็นประเพณีสืบทอดกันมาเป็นระยะเวลายาวนานของชาวนาภาคอีสาน คือเมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยวข้าวแล้วชาวนาจะพากันแบ่งข้าวเปลือของตนนำมาถวายทำบุญแก่วัด โดยที่พระสงฆ์จะทำพิธีเจริญพระพุทธมนต์ อนุโมทนาบุญกุศลเป็นสิ่งตอบแทน ถือเป็นมหามงคลอันสูงสุด และในวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นวันที่ชาวบ้านตาดต่างพากันนำข้าวเปลือกมาตั้งทั้งหมดมาตั้งรอบบริเวณศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด

    สำหรับงานทำบุญประทายข้าวเปลือกปีนี้กำหนดให้เป็นวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551 ชาวบ้านและคณะศิษย์จะน้อมนำข้าวเปลืกมาถวายแด่องคืหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน พิธีจะเริ่มในเวลา 07.00 น. หลังจากนั้นหลวงตามหาบัว และคณะสงฆ์จะเริ่มพิธีเจริญพระพุทธมนต์
    เสร็จแล้วขอเชิญร่วมรับนำพระพุทธมนต์ทางด้านหลังศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด และขอเชิญร่วมรับฟังพระธรรมเทศนาจากองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน โดยพร้มเพรียงกัน



    สำหรับท่านที่จะบริจาค / หรือบริจาคข้าว
    กรุณาติดต่อ คุณณัฐวุฒิ โทร 084 - 6857001
    ท่านสามารถนำข้าเปลือกมาสมทบที่ลานวัดป่าบ้านตาดก็ได้ครับ

    หรือจะจัดตั้งโรงทานกรุณาเดินทางมาถึงวัดตั้งแต่วันที่ 9 กพ.51


    รายละเอียดที่นี่
    http://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=1927


    หมายเหตุ ท่านสามารถเดินทางมาร่วมงานตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.2551 ได้โดยทางวัดอนุญาติให้พักที่ศาลาใหญ่ด้านนอกวัดป่าบ้านตาด กรุณาเตรียมเต็นท์ มุ้งกลด มาให้พร้อม</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- sig -->
    [​IMG]


    [​IMG]
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  7. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="94%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=postbody vAlign=top>งานบุญประทายข้าวเปลือก

    หลวงตา ฯ เคยเทศน์ เรื่องงานบุญประทายข้าวเปลือกเมื่อปี ๒๕๔๖ ว่า... ....
     
  8. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,710
    มหาโมทนาสาธุ กับงานบุญใหญ่
    และ คุณแดนโลกธาตุที่นำมาบอกข่าว

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    ....นักการเมืองหลายท่าน

    ปากหวาน พูดเพราะ รูปงาม ไหว้เก่ง ร่ำรวย

    รู้กฏหมายดี..... แต่มีสักกี่คน ใจขาวใส บริสุทธิ์
     
  9. ฟู่อิง

    ฟู่อิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +128
    ขอนอบน้อมหลวงตามหาบัว ผู้บริสุทธิ์

    .................................................................
    "...ถึงแขนขวาขาดแล้วจะเป็นไรไป ข้าก็ยังมีแขนซ้ายที่ใช้กอดท่านได้..."
     
  10. dhanvas

    dhanvas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +254
    การพูดนี้ยาก เพราะเวลาพูดมากๆแล้วบางทีไม่มีเวลาคิด ไหลเลื่อนเปื้อนไปไม่รู้ตัว คนติดคุกเพราะพูดอย่างนี้เยอะแล้ว
    dhanvas@hotmail.com
     
  11. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    หมดสงสัยในองค์ท่าน

    สาธุ
    สาธุ
    สาธุ
     
  12. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,710
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    ใช่ครับ

    คุกทางโลกยังออกได้ง่าย เดี๋ยวก็ลดโทษๆๆๆ

    คุกทางจิตนี้สิ


    อวิชชา ตัณหา อุปาทาน และอัตตาอันยิ่งใหญ่ของตัวเองนั่นเหละ

    ที่ขังตัวเองไว้ และ แพร่พิษร้ายไปแปดเปื้อนคนอื่น ...


    และคนอื่นนั้น เป็นผู้บริสุทธิ์อีกด้วยนี่สิ ......น่าเวทนาผู้หลงนั้นมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มกราคม 2008
  13. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,710
    หลวงตาฯ

    เทศน์แรง แต่มีคนพ้นทุกข์ เป็นอริยะได้

    เช่น แม่ชีแก้วเป็นต้น (http://palungjit.org/showthread.php?p=908825#post908825 )


    แต่ นายส........ ด่าใคร แล้วคนๆนั้น บรรลุธรรมหรือไม่?
     
  14. ข้าวหอมออมฟ้า

    ข้าวหอมออมฟ้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +95
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. lotte

    lotte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    726
    ค่าพลัง:
    +4,545
    น่าจะเสนอไปวัดหลวงตาให้หลวงตาหรือหลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อดังๆในกทม หรือจังหวัดต่างๆสอนมโนยิทธิบ้างวัดจะได้มีการสร้างองค์ปฐมคนจะได้บุญมหาศาลสุดๆกันทุกหมู่บ้าน ครับหลักธรรมะดังต่อไปนี้อยู่ในกระทู้พุทธภูมิครับเข้าไปดูได้โพสโดยท่านอาจารย์ ใช้ชื่อว่ามโนยิทธิ

    หลักสูตรกรรมฐานโบราณ

    ๑) รักษาศีลให้ถูกต้องฯ
    ๒) ระงับนิวรณ์ ๕
    ๓) ปลงขันธ์ ๕
    ๔) กำหนดลม ๓ ฐาน ควบคำภาวนาพุท-โธ
    ๕) เพ่งพระพุทธรูป


    หลักสูตรฯ นี้ เป็นหลักสูตรพิเศษเฉพาะของพุทธภูมิ ซึ่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายยกย่องให้เป็นสมบัติทางธรรมอันล้ำค่าที่สุดประจำโลกธาตุ เนื่องจากเป็นหลักสูตรเดียวเท่านั้นที่ทำให้พระโพธิสัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์มาแล้วได้เข้าถึงพุทธประเพณี และความลับสูงสุดของธรรมจักรพุทธวงศ์อันเป็นต้นบัญญัติต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าองค์ปฐมทรงบัญญัติกฎกติกาแห่งการบำเพ็ญฯ ไว้ในครั้งแรกของการกำเนิดศาสนาพุทธ ซึ่งหลักสูตรกรรมฐานฯ นี้ พระพุทธเจ้าองค์ปฐมทรงอนุญาตให้หลวงปู่ปานเท่านั้นเป็นผู้เขียนหลักสูตรกรรมฐานฯ นี้ไว้

    ศีลนั้น ผู้ที่รักษาได้อย่างถูกต้องก็เพราะอาศัยปัญญาบารมีที่บำเพ็ญมาจริงๆ ช่วยเกื้อหนุนเท่านั้น เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการวางกายที่ไม่เที่ยง ซึ่งการรักษาศีลของพระโพธิสัตว์กับพระสาวกที่เป็นพระด้วยกันยังมีกรรมวิธีที่แตกต่างกัน แต่ผมเป็นฆราวาสมาปฏิบัติในหลักสูตรนี้จึงต้องหาวิธีเพิ่มเติมด้วยการเพ่งรู้อาการเต้นของชีพจรทั้งวันควบด้วยการรักษาศีลที่ไม่ห่วงกาย ขณะที่เพ่งรู้อาการเต้นของชีพจรอย่างต่อเนื่องนั้นยามที่ราคะ โทสะ โมหะไม่ปรากฏจึงเชื่อว่าความเป็นพระนั้นใจห่างกิเลสคือสิ่งที่ถูกต้อง

    การระงับนิวรณ์ ๕ นั้น เมื่อเราทำศีลที่ไม่ห่วงกายแล้ว และสามารถจับอาการเต้นของชีพจรได้แทบทั้งวัน (อันเป็นการเห็นการเกิด-ดับของกายสังขาร) จะทำให้เกิดปัญญามากมายและมีกำลังพอที่จะข่มนิวรณ์ได้ชั่วคราว นิวรณ์ ๒ ข้อแรกสำคัญมาก เพราะดับได้คือพระอนาคามี ถ้าดับได้ทั้ง ๕ ข้อก็เป็นพระอรหันต์ เมื่อเราเป็นพระโพธิสัตว์เราจะต้องเห็นโทษของกามและเห็นภัยของความพยาบาทให้มาก เพราะนิวรณ์ ๒ ข้อนี้ ชนะใจสัตว์โลกจำนวนมากมายมาหลายชั่วกัปชั่วกัลป์แล้ว ฉะนั้นเราผู้บำเพ็ญฯ ต้องทำลายนิวรณ์ทุกข้อให้ได้

    การปลงขันธ์ ๕ ต้องใช้ปัญญาตัดรูปขันธ์ก่อน เมื่อเราเป็นพระโพธิสัตว์ต้องคิดให้กายธาตุ ๔ ที่ไม่เที่ยงเป็นทานตามอย่างพระบิดาแห่งศาสนาพุทธทั้งหลายในระหว่างที่บำเพ็ญบารมี ๓๓ ทัศ ขณะที่กำลังจะเป็นพระโพธิสัตว์บารมีเต็มในอดีต เมื่อตัดกายอันเป็นรูปขันธ์ได้แล้ว เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ ที่เคยยึดถือโลกธาตุจะเริ่มอ่อนกำลังลงเพราะใจเริ่มเป็นทิพย์ จากนั้นพิจารณาทุกขสัจจะตามที่หลวงพ่อฤาษีฯ สอน นั่นคือให้เห็นความจริงว่าโลกมนุษย์มีแต่ความทุกข์ แดนเทวดา พรหม และอรูปพรหมยังพ้นทุกข์ไม่ได้จริง

    การกำหนดลม ๓ ฐาน ควบคำภาวนาพุท-โธ คือ วิธีการฝึกตรัสรู้ เราพยายามปฏิบัติตามหนังสือ “เรื่องจริงอิงนิทานฉบับพิเศษ” หน้า ๑๕๔- ๑๕๙ ซึ่งถ้าเพ่งใจตามไปจะมีผลไม่รวดเร็วเท่าที่ควร แต่ถ้าอธิษฐานความผูกพันกับพระพุทธเจ้าในอดีต และอ้างถึงบุพกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ได้เคยสละชีวิตในการปกป้องธรรมที่สูงสุดแห่งพุทธวงศ์ให้พ้นภัยจากเดียรถีย์อลัชชีร่วมกับพระโพธิสัตว์รุ่นพี่ที่เป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลายไปแล้วในอดีตอย่างนับภพนับชาติไม่ถ้วนก็จะทำให้จิตเข้าถึงสมถะ วิปัสสนา สัมมาสมาธิ และนิมิตพุทธวงศ์ ได้อย่างรวดเร็วเป็นพิเศษ

    การเพ่งพระพุทธรูปโดยการใช้ปัญญาปรมัตถบารมีที่ถูกวิธีคือการส่งใจไปอยู่กับพระพุทธเจ้า เมื่อปฏิบัติบำเพ็ญตามข้อ ๑ ๒ ๓ และ ๔ มาดีแล้ว ด้วยความศรัทธาที่มั่นคงต่อพระบิดาของศาสนาพุทธอย่างลึกซึ้ง และด้วยบุพกรรมอันประเสริฐที่ได้กระทำมาแล้วในสำนักของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ อย่างต่อเนื่อง เพียงเราส่งใจไปฯ นั้นการถึงนิพพานจึงไม่ยากเกินวิสัย แต่การที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายและพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมาพยากรณ์ให้ในโลกธาตุย่อมเป็นเรื่องที่ยากกว่า แต่ที่เป็นไปได้เพราะพบพุทธสมบัติในโลกธาตุนี้แล้วจริงๆ



    วิธีปฏิบัติมโนมยิทธิแบบพุทธภูมิ

    ๑) กำหนดรู้อาการของลมหายใจฯ และกำหนดรู้อาการของชีพจรเต้น (เป็นการทำใจให้เข้าถึงการเกิด - ดับของกายสังขาร) จากนั้นน้อมจิตเห็นภัยในวัฏสงสาร เมื่อใจยอมรับฯ ก็กำหนดเห็นพระพุทธเจ้าทั้งหลายและพระพุทธเจ้าองค์ปฐมในลักษณะกายเนื้อ พร้อมกำหนดกายธาตุขันธ์ของเราในอนาคตให้เหมือนตาม (เป็นการทำศีลของฆราวาสให้เทียบเท่าศีลของพระโพธิสัตว์ที่เป็นพระด้วยการใช้ปัญญาบารมีที่จะเข้าสู่พุทธประเพณีในเบื้องต้น)

    ๒) กำหนดขอขมาพระรัตนตรัยและผู้มีพระคุณ จากนั้นอธิษฐานบุพกรรมญาณและบารมี ๓๓ ทัศ ที่จะกระทำให้ได้เต็มสมบูรณ์ในอนาคต เมื่อวางอนาคตได้ถูกต้องตามพระปฐมบัญญัติแห่งพุทธวงศ์ ญาณทัสสนะแบบพุทธภูมิก็เริ่มปรากฏ (เป็นการควบคุมจิตให้เข้าถึงสัมมาสมาธิแบบพุทธวงศ์ในเบื้องต้น)

    ๓) กำหนดปฏิญาณตามที่พระพุทธเจ้าองค์ปฐมสอน ๓ ข้อ (เป็นการรวบรวมกำลังใจให้เข้าถึงพระปฐมบรมบัญญัติแห่งพุทธวงศ์) คือ

    .....(๑) ข้าพเจ้าจะเป็นห่วงความทุกข์ของสัตว์โลกทั้งหลายมากกว่าเป็นห่วงชีวิตของตนเอง
    .....(๒) ข้าพเจ้าจะสงสารสัตว์โลกทั้งหลายที่ต้องมาทนทุกข์มากกว่าสงสารภรรยาและบุตรของตนเอง
    .....(๓) ข้าพเจ้าจะรักสัตว์โลกทั้งหลายที่ต้องมาทุกข์ทรมานในวัฏสงสารมากกว่าเสียดายชีวิตของตนเอง
    (เมื่อถึงตรงข้อ ๓ นี้ เป็นการใช้พุทธานุสสติ บุพกรรมญาณ และพรหมวิหารธรรมพิเศษเฉพาะของพุทธวงศ์ให้ใจตัดสักกายทิฏฐิแบบปฏิบัติบำเพ็ญ ทำให้ใจของผู้บำเพ็ญเข้มแข็งในอารมณ์พระโพธิญาณมากขึ้น)

    ๔) จากนั้นก็ปฏิญาณตนต่อพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ผู้ที่บัญญัติวิชามโนมยิทธิไว้เป็นญาณใหญ่ในการรื้อขนสัตว์อีก ๓ ข้อ (คือบุพกรรมญาณแบบพุทธวงศ์ปรากฏ)

    .....(๑) ข้าพเจ้าจะศรัทธาสูงสุดต่อวิชามโนมยิทธิด้วยความจริงใจพร้อมปฏิบัติตามคำสอนฯ ด้วยชีวิต
    .....(๒) ข้าพเจ้าจะปฏิบัติบูชาในวิชามโนมยิทธิปานประดุจปฏิบัติบูชาต่อพระพุทธเจ้าองค์ปฐม
    .....(๓) ข้าพเจ้าจะปกป้องวิชามโนมยิทธิอันเป็นส่วนสำคัญที่สุดของพุทธวงศ์ไว้ด้วยชีวิต
    เมื่ออธิบายถึงวิธีปฏิบัติตรงจุดนี้ก็เชื่อว่าพวกเดียรถีย์อลัชชีทั้งหลายที่อ้างตนว่าเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่มาจุติจะต้องด่าประณามวิชามโนมยิทธิและคณะผู้เขียนมากกว่าเดิมแต่ตามเอกสิทธิของการอธิบายธรรมที่ไม่ได้จำมาจากตำรา ผู้บำเพ็ญแต่ละท่านศรัทธาปฏิบัติธรรมในหมวดใดตามพุทธบัญญัติก็ไม่น่าจะผิดแต่ถ้าใครคิดว่าคณะผู้เขียนเขียนผิดก็ทำหลักฐานในการบำเพ็ญพร้อมสอนให้ดีกว่า แต่ถ้าทำไม่ได้จะถือว่าผู้ค้านไม่ใช่วิสัยของผู้บำเพ็ญฯ (คือ วิสัยของสัตว์นรก)

    ๕) จากนั้นหาวิธีให้มีความรู้ในธรรมจักรพุทธวงศ์ให้มากขึ้น ซึ่งจะได้รู้ทั้งอริยประเพณี ปัจเจกประเพณี และพุทธประเพณี พร้อมพิธีให้และรับพุทธพยากรณ์ได้ละเอียดมากขึ้น ต่อจากนั้นหาวิธีป้องกันในการจุติในชาติต่อๆ ไป คือ
    ...ขอให้ใจห่างเดียรถีย์อลัชชีที่อ้างตนเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่มาจุติ
    ...ขอให้เข้าไปปฏิบัติธรรมในสายที่พุทธประเพณีที่สูงสุดแบบไม่หลงตัวเอง (แม้ผู้นำจะปกปิดไว้สักเท่าใดก็ตาม)
    ...แม้เข้าไปอยู่ในสายที่ดีแล้วก็ขอให้ทั้งกายและใจอยู่ห่างจากพวกที่จะไปอยู่ในนรกที่เข้าไปปะปนอยู่ในสายที่ดี
    ...นับจากชาตินี้เป็นต้นไปจนถึงภูมิที่ต้องการ ขอกรรมใหญ่ที่ทำให้ต้องไปอยู่อบายภูมิจงอย่าได้มีกับข้าพเจ้า
    ...แม้ในชาติต่อๆ ไป ข้าพเจ้าจะเป็นฆราวาส แต่ก็ขอให้เข้าไปรู้ความลับในธรรมจักรพุทธวงศ์ได้รวดเร็วและมากกว่าในชาติอดีตที่เป็นพระ
    ...และถ้าในชาติต่อๆ ไป ถ้าข้าพเจ้าจะได้เป็นใหญ่ในอำนาจโลกธรรม ก็ขอให้ข้าพเจ้ามีปัญญาทางธรรมที่ถูกต้องตามปฐมบัญญัติฯ เสียก่อน เพื่อไม่ให้ชาวธรรมจำนวนมากต้องหลงผิดเพราะข้าพเจ้า
    (กระทำตามข้อ ๔ และ ๕ เป็นการใช้ปัญญา ศรัทธา สัจจะ อันเกิดจากบุพกรรมอันประเสริฐในอดีตชาติ ซึ่งจะมีผลไปในอนาคตที่ถูกต้องที่สุด เพราะผู้ที่สอนให้เขียนก็คือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม อีกทั้งเป็นการตัดอวิชชาแบบเฉพาะของพุทธวงศ์)

    ในเมื่ออธิบายเรื่องการบำเพ็ญที่สำคัญที่สุดในโลกธาตุ พระพุทธเจ้าทั้งหลายและพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้แนะนำให้รับผิดชอบในสิ่งที่เขียน (ไม่ให้เหมือนกับผู้ที่อธิบายธรรมในอดีตทั้งหมดที่เขียนสอนธรรมไว้แต่ไม่รับผิดชอบ)
    ...ถ้าสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิบายในบันทึกฉบับนี้ทั้งหมด (รวมทั้งแผ่นที่สำคัญที่สุดนี้ด้วย) ไม่มีผลให้ผู้ศรัทธาปฏิบัติตามด้วยความจริงใจเข้าถึงความรู้ที่สำคัญที่สุดของพุทธวงศ์คือพุทธประเพณีและความลับที่สำคัญของธรรมจักรพุทธวงศ์


    อันนี้ประโยคผมพูดครับท่านมโนยิทธิ เวบพลังจิต ในกระทู้พุทธภูมิครับท่านสุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจริงๆครับท่านทรงอารมณ์อรหันต์ท่านเห็นนรกสวรรค์หูทิพย์ ท่านถ่อมตัวมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆท่านมหาศาลปรมาจารย์จริงๆครับไม่มีคำบรรยายในตัวท่านอาจารย์กราบโมทนาอย่างยิ่งครับ
     
  16. กิตติรัตน์ นพต

    กิตติรัตน์ นพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +363
    นับว่าเป็นบุญของคนไทยอย่างมากที่มีพระอย่างหลวงตา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. เสรีชน

    เสรีชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +727
    เห็นภาพข้าวเปลือกที่ชาวบ้านนำมาบริจาคแล้วปปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูก อนุโมทนาบุญค่ะ
    ---------------------------------------------------------------
    สาธุ
     
  18. MegaFM

    MegaFM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +1,446
    นับว่าเป็นทั้งบุญทั้งกรรมของคนไทย

    เป็นบุญเพราะมีหลวงตามหาบัว และในหลวง ร.9

    เป็นกรรมเพราะคนจะมาเป็นนายก

    คนปากไวที่ไม่ใช้สมองคิดก่อนพูด หรือ. จะนำพาบ้านเมืองให้เจริญได้
     
  19. pom980095

    pom980095 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2008
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +181
    คุณ lotte โพสที่ 21
    ปล่อยวัดอัมพวัน ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ จ. สิงห์บุรี สอนสติปัฏฐาน 4 แนว ยุบหนอ-พองหนอ ไว้ซักวัดเถอะนะ เพราะดิฉันก็เรียนกรรมฐานที่วัดนี้ ที่พระพุทธเจ้าท่านแบ่ง กรรมฐานเป็น 40 กองเพราะจริตของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเหมาะกับมโนมยิทธิ บางคนอาจจะเหมาะกับกสิณ บางคนเหมาะกับสมถะกรรมฐาน หรือบางคนอาจจะเหมาะกับวิปัสสนากรรมฐานก็ได้ แต่ก็อนุโมทนากับคุณ lotte นะคะที่เจอหนทางในการบรรลุธรรม ในขณะที่บางคนยังไม่เจอ ยังหลงอยู่เลย
     
  20. ภานุพงศ์

    ภานุพงศ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +682
    ผมเองก็นับถือหลวงตานะครับแต่ถามจริงๆ
    ผู้กำกับที่เอาคำถามอะไรมาให้หลวงตาของผมครับ
    คุณหวังอะไรกันหรอครับ บ้านเมืองนี้มีความแตกแยก
    ไม่พออีกหรอครับ หรือว่าการสร้างความแตกแยกคืองานของคุณ
    ตอนนี้ทุกคนได้รับความเดือดร้อนกันมากพอแล้วครับ
    ช่วยกันรักกันหน่อยครับไม่ใช่นาย สมัคร นะครับ
    แต่รักประเทศไทย
     

แชร์หน้านี้

Loading...