ฝากไปบอกความคิดถึง ลุงนพ พี่หมูเจน ลุงโคนันและคนอื่นๆ ด้วยนะคะ!
กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.
หน้า 265 ของ 306
-
พักนี้ฝันเห็นถึงศาลเจ้าจีนประจำ
-
เมื่อวานนี้ฝันว่านั่งรถไปทางจังหวัดลำพูน คล้ายหมู่บ้านพม่า ไปไหว้ศาลปู่พญานาคราช มีรูปปั้นพญานาคสีเขียวกับสีแดงคู่กัน ตรงนั้นเป็นแม่น้ำใหญ่ แล้วมีทางน้ำไหลออกมาจากแม่น้ำใหญ่เป็นแอ่งน้ำเข้ามา คนก็กำลังมาไหว้เยอะ เหมือนได้ยินท่านบอกว่าอยากให้ช่วยคนมากกว่านี้ แล้วก็อยากให้ทำสมาธิแล้วมองไปแอ่งน้ำเห็นงูเหลือมตัวใหญ่ ตัวยาว แต่มีตาเหมือนคน แล้วก็ตื่น
-
-
กระทู้เงียบกริบ จะบอกท่าน9 ว่าตอนนี้ผมกำลังสร้างองค์ที่ 5 นะ
-
แนะ อ.นพโผล่มา อ.นพสวัสดีครับ คิดถึงนะครับ ดูแลสุขภาพด้วย
-
ในฝันเลย หรือ ระลึกไว้ว่า ตื่นมาวันหลังจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้
ผีในฝันมาในลักษณะทดสอบ การเอื้อเผื้อเผื่อแผ่ และ เมตตา การไปทำร้ายคือเมตาตาเราไม่ผ่าน...
ฝึกต่อได้ถ้าพอรู้หลักการ
มักเกิดเวลานอน ส่วนภาพที่เห็น คือ นิมิตของเก่าด้านพลังงานภายนอก
พลังงานมีภายนอก(ใช้รักษาคน กำลังจิต กสินฯลฯ)ภายใน(สัมผัสการรับรู้ต่างๆ อฐิษฐานจิต กสิณ(ภายในภายนอก) พลังวิชาจักรวาล(ในและนอก))
เป็นส่วนหนึ่ง ในการใช้ท่องบ่นบริกรรม สำหรับการรักษา ร่วมกับการอุปกรณ์บางอย่างมาเสริมร่วมกัน เพียงแต่ถ้าเรา อุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ ร่วมกับกรวดน้ำบ่อยๆ ก่อน เราถึงจะนึกออกว่า จะทำการรักษาได้อย่างไร
แต่หลักๆเริ่มจากการใช้มือนี่แระ ปล. ท่านที่เป็น ญ ในฝันเรานะ
ในชีวิตจริง ท่านมีหมอประจำตัวแบบ พวกรักษาโรคได้ แบบมีกำลังจิต
แบบพวกพิเศษๆ มารักษาดูแลท่านอยู่ ท่านส่่งสายลับ ออกไป
สังเกตุพฤติกรรมคนเหล่านี้ก่อนประจำที่จะเรียก เข้าเฝ้า
ส่วนตัวรู้จักอยู่คนหนึ่ง....
ให้กำหนดแผ่ส่วนกุศลออกจากจิตไปให้กว้างที่สุด เท่าที่จะกว้างได้
ให้ทุกๆภพภุมิที่เราได้เคยเจอมาในอดีต ไม่ว่าจะฝัน ตาเปล่า หรือเท่าที่ระลึกได้ รวมทั้ง กระแสวิญญาน กำลังตำต่างๆ เจ้ากรรมนายเวร เทพเทวดาประจำตัวเรา ครูบาร์อาจารย์ เทพพรหม ระลึกน้อมอุทิศส่วนกุศลให้หมด...
การจะทำอะไรรักษาคนได้ แบบนี้ จำเป็นต้อง มีบารมีทางภพภูมิ
และพันธมิตรทางภพภูมิมาหนุน ดังนั้นเรื่องการทำบุญแบบนี้สำคัญมากๆ
แล้วก็อย่าไปด่า ให้เลิกซะ นั่นเพราะเราขาดเมตตายังไม่รูหลักเฉยๆ
การให้แบบไม่อะไรกับอะไร ให้แล้วก็แล้วไป ให้แบบไม่คาดไม่หวังอะไร
มันจะกลายเป็นบารมีไหลย้อนกลับมาได้ในวันข้างหน้า....จำไว้
หมอก็ตอบไม่ได้หรอก ยิ่งแนะนำมายิ่งไปกันใหญ่
เด่วให้ยามาทาน จะยุ่งเข้าไปอีก...
เพียงแต่เราไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ในการเห็นนามธรรมเฉยๆ
เพราะเราขาดกำลังสติในการเข้าไปรู้ตรงนี้ เลยไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร
จิตเมื่อไม่มีกำลังสติตรงนี้ มันก็มักจะคิดหรือทำไปทางอกุศล ให้เรา
ขาดเมตตา ให้เราเกิดโทสะ ความรำคาญ หาทางออกด้วยวิธี
การที่รุนแรง แบบที่ผ่านมานั้นหละ
ดังนั้น ถ้าย้อนเข้ามาเจอ ก็ให้ปรับปรุงใหม่ซะ ทำตามที่แนะนำ
ทำไปซักพัก
เด่วจะเริ่มเข้าใจอะไรๆได้ด้วยตัวเอง ไม่มีไรหรอก -
-
สวัสดีทุกคนนะครับ
ช่วงนี้ หนักทางวิชาการอยู่ครับ
เลยมีแว๊นผ่อนคลายบ้าง
ตามป่า ตามเขา
-
-
ถ้าสวดมนต์แล้วเสียงสั่น + อึดอัด นี้คือไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะ คือ กลัว5555 บ้างครั้งเสียงสั่นจนเกือบเปล่งเสียงสวดมนต์ต่อไม่ได้ เมื่อวานก็เป็นวันโกนว่าจะสวดอิติปิโสเท่าอายุ ไม่ได้เลยอึดอัดมาก
เมตตาก็คือไม่ผ่านจริงๆไม่ไหว;-; -
-
งวดที่แล้วฝันว่าไปขอหวยจากปู่พญานาค นายกตู่พาไป พอไปถึงนายกก็บอกว่าลูกหลานมาขอเลข ในใจก็คิดอยากขอรางวัลที่ 1 เหมือนท่านนอนขดอยู่(พญานาคสีเขียว)แล้วก็ตื่นท่านก็บอกว่า อย่างมึงต้องทำงานตลอดชีวิต แล้วก็ตื่นแต่งวดตะกี้ก็ถูกสามตัวโต๊ดอยู่นะ งวดนี้จะมีโชคอีกป่าว
-
ตะกรุดเมหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (มหาสะท้อน) วัดธ.ย.น - โดย ล.พ วิ-ช สาวกตะกรุดเมหลวง มหาสะท้อน ไม่ควรพลาด เพราะ ล.พ วิ-ช วัดธ.ย.น ก็เป็นผู้สืบสาย วิชามากจาก ลพ ชื่อดังทางอุทัยธานั เฉกเช่นเดียวกับ ล.พ ล วัด ท.ข.น
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
เรื่องพวกนี้ให้เฉยๆไม่ต้องสนใจ
สังเกตุนะ บทคาถา จะเน้นสร้างบารมี ให้กับภพภูมิต่างๆ
คนที่ปฏิบัติไปได้เร็ว ก็เพราะท่านๆดลใจ ให้เราเข้าใจทริคต่างๆ
ให้เราเข้าใจอะไรง่ายๆในทางปฏิบัตินั้นหละ
แม้ไม่มีครูบาร์อาจารย์ แบบว่าเรารู้ตัวเองได้
แต่ก็เหมือนมีอะไรมาดลใจกลายๆอยู่แล้ว
ความกลัวเป็นการปรุงแต่งชนิดหนึ่ง ฝืนๆกิริยาแบบนั้น
หมั่นอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ ความกลัวก็จะหายไปเอง
รวมทั้งเรื่องวิตกจริตไปเองต่างๆก็จะหายไปเองนั่นแระ ไม่มีไรหรอก -
สำคัญคือ ระบบการหายใจของเรา ว่าเรารุลึกรู้ลมเข้าและออกหยุดที่ปลายจมูกไหมพอ
พูดง่ายๆสวดไปเรื่อยๆ แต่ให้ลมหายใจเป็นอย่างที่บอก
ถ้าไปสวดแบบเดิม เราจะเผลอกลั้นหายใจ
และลมหายใจเข้าจะหยุดที่หน้าอก มันจะเป็น
อาการแบบที่เราเป็นนั้นหละ พอเข้าใจเนาะ -
ไม่มีอะไรหรอก
๑.ควรถามว่า จะไปต่ออย่างไร ส่วนสิ่งที่เห็นทางนามธรรมต่างๆ
จริงๆถ้าเรามาเพิ่มเจริญสติให้มากขึ้น อนาคตเราจะเข้าใจได้เอง
แต่สิ่งแรกที่จะต้องทำ เมื่อเกิดสัมผัส ก็คือ
การเฉยๆทุกกรณีเมื่อเราไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เราสัมผัสได้
เฉยคือ เหมือนกันว่าไม่เคยเกิดขึ้นกับเราเลย ถ้าเราไม่เฉยๆตรงนี้
มันจะปรุงแต่งไปได้ทั้งทางกุศลและอกุศล เป็นเหตุให้การปฏิบัติ
เราไม่ก้าวหน้าได้ อย่างคาดไม่ถึง
แต่ถ้าสงสัย ก็จะเล่าให้ฟัง ซึ่งเรื่องจะเล่าให้ฟังนี้ อนาคตเราจะเข้าใจได้เองโดยไม่ต้องมาถามก็ได้ แต่ไม่เป็นไร พอเข้าใจ
พื้นสีที่เราเห็น หมายถึง กรรมฐาน ให้เกิดความสามารถทางด้านสายตา
ลายเส้น คือ กิริยาปกติที่เกิดก่อนจะเห็นภาพ
ส่วนการเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าเหตุอะไรก็ตาม
เป็นกลอุบาย ที่ดึงให้เราไปยึดติดกันสิ่งที่เห็น
ดังนั้นประเด็นไม่ใช่ว่า ทำอย่างไรจะไม่เห็น เพราะมัน
เป็นการตัดหนทาง ที่จิตจะยกระดับ ไป วิปัญญาญานจร้า...
ดังนั้น ไม่ว่าจะเห็นอะไร อย่าไปสนใจ ให้รีบระลึกสติให้เร็วที่สุด
ให้เฉยๆไว้ เด่วมันจะเปลี่ยนแปลงเรื่องราวไปเรื่อยๆ เราดูเฉยๆ
อย่าสนใจ ไม่ว่าจะเห็นอะไร แค่นี้พอ....
ส่วนกิริยาหน่วงหน้าฝากให้ปล่อยไป เพราะภูมิต้านทานร่างกาย
ที่มาจากำลังสมาธิสะสมเรายังไม่พอ ให้เฉยๆ อย่าไปสนใจ อย่าไปดู
ตรงจุดนี้
ปล. และให้มาเน้นเจริญสติในชีวิตประจำวันให้ต่อเนื่องมากขึ้นนะ
และเวลาเราเห็นนามธรรมอะไรแบบนี้ มันจะใช้ช่องทาง ผ่านจุดเหนือ
ระหว่างคิ้วเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่า เปิดตาสามอะไรหรอก
เพราะความสามารถทางตา เราไม่ได้วัดกันที่ว่า เห็นอะไรได้
หรือเคยเห็นอะไร หรือจะมีอะไรมาให้เห็น
เราวัดกันที่ สามารถกำหนดเห็นได้ ทุกครั้งที่ต้องการ
แต่การเห็นจะเป็นภาพก่อนในเบื้องต้น ในเวลาใช้ชีวิตปกติ
แต่ยังมีเรื่องราว ความเข้าใจในสิ่งที่เห็นด้วย(ตอนนี้เรายังไม่มี)
ดังนั้น ให้เจริญสติไปและก็เฉยๆไป ถึงจะเกิดเป็นสติทางธรรม
ที่จะทำให้เราเข้าใจวัตถุประสงค์ที่ทำให้เราเห็นได้
ย้ำว่า เข้าใจวัตถุประสงค์ไม่ใช่สิ่งที่เห็นคืออะไร(ถ้าเน้นว่า
คืออะไร มันจะทำให้เราติดนามธรรมได้อย่างไม่รู้ตัว
และการปฏิบัตจะไปได้ช้า)
ข้อ ๒.ข้อนี้ชัดเลย กิริยาพุงออกไป ฟ้องว่า นอกจากสติทางธรรม
ที่ได้จากการเจริญสติในชีวิตประจำวัน ที่เราต้องเสริมด่วนๆ
ยังต้องมาเพิ่มกำลังสมาธิ เพื่อควบคุมการพุงออกไปตรงนี้เพิ่มด้วย
วิธีแก้ ก็นอกจากจะเจริญสติแล้ว ยังต้องมาทำสมาธิเพิ่มเติมเอาแค่
จิตสงบ ถ้าพื้นที่อำนวยก็ทำร่วมกับการเดินจงกลม
(อย่าลืมระบบหายใจเบื้องต้นนะ) สิ่งที่เห็นก็เหมือนที่บอกไปแล้วข้อ ๑
ปล. ความกลัวคือการปรุงชนิดหนึ่ง จำเป็นต้องแก้ด้วยการฝืน
ในกิริยาต่างๆ ครั้งที่ ๓ หรือ ๔ จิตจะมีกำลังเพียงพอที่จะไม่กลัวเรื่องนั้นๆ
แต่สิ่งที่ต้องระวัง คือ การสร้างสติทางธรรม เพื่อมาควบคุมความคิด
และพฤติกรรม ของจิตเรามากกว่า ป้องกันการปรุงแต่งไปเรื่อยเปื่อย
ในสิ่งที่ไม่มีอะไร
จำไว้ อย่าไปปรุง ไปสร้าง นามธรรม ให้เป็นรูปธรรม
โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เครเนาะ
ท้ายนี้ คนจะปฏิบัติได้เร็ว ต้องเจอประมาณนี้แระ
สำคัญ วางให้เป็น เฉยๆให้เป็นพอ...ในทุกๆกิริยานามธรรม -
งวดก่อนไม่ถูกหวยแต่มีข่าวดีถูกเรียกให้ไปบรรจุข้าราชการได้ไปลงจังหวัดนครพนมที่ทำงานติดแม่น้ำโขงดินแดนพญานาคปู่ให้ไปอยู่ด้วยแน่ๆ;)
-
โชคดีมากแล้ว... จะบอกให้
หน้า 265 ของ 306