เพื่อการกุศล กลับมาอีกครั้งเชิญบูชาวัตถุมงคล เพื่อร่วมบุญสร้างกุฏิสงฆ์ และรูปเหมือนพระพี่หลวงป่าบง เริ่มหน้า 31

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย สายครูบา, 9 กุมภาพันธ์ 2016.

  1. อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +761
    ขอจองผงมหาพุทธคุณสัมฤทธิ จำนวน 3 หลอดครับ
     
  2. สายครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    4,224
    ค่าพลัง:
    +22,130
    เริ่มจัดส่งลอตแรกพรุ่งนี้ครับ
     
  3. พฤศจิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +3,046
    จองเพิ่มผงมหาพุทธคุณสัมฤทธิ์ 1หลอดครับ

    โอนเงินให้แล้วครับ 1151.10 บาท 12/2/16 เวลา 06.48 น
     
  4. Sunny Moon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,388
    ค่าพลัง:
    +1,760
    บูชาเพิ่มอีก 2 หลอดรวมเป็น 4 หลอด
    โอนเงินแล้ว ที่อยู่แจ้งทาง pm ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      81.7 KB
      เปิดดู:
      61
  5. พระสารทะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,402
    ค่าพลัง:
    +4,697
    วันนี้เวลา 09.56.10 น. ได้โอนร่วมบุญเรียบร้อยแล้ว จำนวน 1,100 บาท
     
  6. แมวมรกต Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +87
    บูชา 1 หลอด
    โอนเงินแล้ววันนี้ เวลา 11.05 น.
    รายละเอียด และที่อยู่แจ้งทาง PM
     
  7. เอ๋เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +1,791
    วันนี้โอนให้แล้วนะครับ 350.-บาท ที่อยู่ทาง PM ครับ
     
  8. ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    ขอจอง 2 หลอดครับ (ผงมหาพุทธคุณฯ)
     
  9. THANARATH 2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,721
    วันนี้ผมได้โอนเงินเรียบร้อยแล้วนะครับ 1,100.99 บาท เป็นค่าบูชา
    1.ผงอิทธิเจ วัดสัมฤทธิ์เพียวๆ บรรจุหลอดเลี่ยมพร้อมห้อย จากวัดโดยตรง
    ทำบุญเส้นละ 450 บาท จอง 1 หลอด
    2.ผงมหาพุทธคุณสัมฤทธิ์ประกอบด้วย 1.ผงอิทธิเจวัดสัมฤทธิ์ 2.ผงพุทธคุณ ฯ
    จอง 2 หลอด
    ทึ่อยู่ท่าง PM ครับผม ขอขอบคุณมากครับ
     
  10. Supachai_22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +198
    วันนี้ผมได้โอนเงินให้แล้วนะครับ รายละเอียดตามนี้ครับ
    ที่อยู่แจ้งไปทางpm ............ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +761
    วันนี้เวลา 15.56 น.โอนเงินทำบุญผงพุทธคุณสัมฤทธิ์ จำนวน 3 หลอด
    จำนวน 950. แล้วครับ สถานที่จัดส่งแจ้ง pm แล้วครับ
     
  12. hmoomoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2011
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +3,686
    ร่วมบุญผงพุทธคุณสัมฤิทธ1หลอดครับ
     
  13. พ่อน้องหนุน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +5,562
    ตามที่ได้จองผงมหาพุทธคุณสัมฤทธิ์ ๑ หลอด ได่้โอนเงินบูชาแล้วครับ วันนี้ (๑๒ ก.พ.๕๘) เวลา ๒๑.๒๖ น. ยอด ๓๕๐ จากตู้กรุงไทยครับ ที่อยู่ นายสัญชาติ เชียงการ ๑๕๐ หมู่ ๘ บ้านสันมะนะ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ๕๗๐๐๐ ขออนุโมทนาบุญด้วยทั้งหมดทั้งมวลและขอบคุณล่วงหน่าครับ. /
     
  14. สายครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    4,224
    ค่าพลัง:
    +22,130
    ตำนานการขุดค้นผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์

    วัดสัมฤทธิ์ เป็นวัดร้างที่ถูกทอดทิ้งมานานนับร้อยๆปี ไม่มีใครทราบ ไม่มีบันทึกใดๆ เพียงแต่คะเนจากก้อนอิฐในซากปรักหักพัง ประกอบกับเหตุการณ์ที่บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ผู้รู้ทั้งในท้องถิ่นและผู้รู้จากภายนอกต่างเห็นตรงกันว่า น่าจะเป็นวัดที่ถูกทิ้งรางไว้เมื่อคราวสงครามพม่า ที่ไทยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง

    ในการทัพคราวนั้นกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าเมื่อวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๕ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๓๑๐ อันเป็นรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าเอกทัศแห่งอาณาจักรอยุธยา และพระเจ้ามังระของอาณาจักรพม่า
    แผน ปฏิบัติการของกองทัพพม่าเริ่มจากการเข้าตีหัวเมืองทางเหนือ ทางตะวันตกและทางใต้ของอาณาจักรอยุธยา ก่อนจะเข้าปิดล้อมพระนครในขั้นสุดท้าย ส่วนผู้ปกครองอยุธยาเลือกที่จะใช้ยุทธวิธีตั้งรับอยู่ในกรุงในฤดูน้ำหลาก แต่เนื่องจากกองทัพพม่าได้เปลี่ยนยุทธวิธีของตนใหม่
    จึงทำให้ยุทธวิธี ของอยุธยาไม่ได้ผลอย่างในอดีต จนกระทั่งนำไปสู่การเสียกรุงศรีอยุธยาในที่สุด ภายหลังการปิดล้อมนาน ๑๔ เดือน ซึ่งเป็นสาเหตุซึ่งนำไปสู่การเสียกรุงด้วยเหตุผลทางด้านยุทธวิธี

    การ ที่พม่าเข้าปิดล้อมพระนครในขั้นสุดท้ายนานถึง ๑๔ เดือนนั้น พม่าได้เลือกชัยภูมิบริเวณที่ดอน อยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาพอสมควร แต่มีคลองธรรมชาติเป็นแหล่งน้ำสำหรับกองทัพ มีป่าและภูเขาในบริเวณเขาสมอคอน เขาสนามแจง และเขาสามยอด เป็นแหล่งเสบียง จากของป่าที่สามารถหาได้และขนส่งไม่ไกล

    การตั้งค่ายคูประตูรบของพม่าบริเวณนี้ ยังทิ้งร่องรอยไว้ให้เห็นจนทุกวันนี้ ในการนี้ทั้งราษฎร และพระภิกษุสงฆ์ ที่เคยอยู่อาศัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาจนเจริญรุ่งเรืองมาตลอด ๔๑๗ ปี ก่อนหน้านั้นก็ได้ล่มสลายลงแล้ว ต่างพากันอพยบหลบหนีการปล้นฆ่าแย่งชิงเสบียงและทรัพย์สินวัวควายของทหารพม่า ไปกันจนหมดสิ้น

    คงทิ้งไว้แต่ซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้าง ที่มิอาจขนย้ายหยิบฉวยติดมือหลบหนีไปด้วยได้ จนในปัจจุบันศูนย์วัฒนธรรมตำบลหัวสำโรง ได้ทำการสำรวจ รวบรวมข้อมูลและพิทักษ์รักษาวัดร้างในบริเวณนี้ได้ถึง ๒๐ วัดด้วยกัน วัดสัมฤทธิ์ก็เป็นวัดหนึ่งในจำนวนนั้นด้วยเช่นกัน

    วัดสัมฤทธิ์ ถูกทอดทิ้งรกร้างมาโดยตลอด จนภายหลังเกินชุมชนใหม่ขึ้นมาโดยรอบมีการตัดถนนสร้างเส้นทางคมนาคมเข้ามา เป็นชุมชนเกษตรกรรมทำนา ทำสวนกันขึ้นมาโดยรอบ แต่วัดร้างแห่งนี้ก็ยังคงไม่ได้รับความสนใจสักเท่าใด มีเพียงชาวบ้างบางคนที่มีอาชีพเลี้ยงวัวหรือมีที่นาแถวๆนั้น ผ่านไปผ่านมา จึงมีหลายคนที่เคยพบเห็นประสบการณ์ประหลาดต่างๆ อาทิ เห็นแสงประหลาดในเวลากลางคืนบ้าง เห็นงูใหญ่หายเข้าไปในวัดบ้าง ใครไล่นกล่าหนูขึ้นไปบนโคกวัดก็ยิงไม่ออกบ้าง ยิงออกก็ไม่โดนอย่างไม่น่าเชื่อบ้าง เหมือนมีอะไรมาป้องกันใว้ อีกทั้งคนที่ไปทำอะไรไม่เหมาะสมก็เกิดอาการประหลาดจนถึงกับต้องได้มาจุดธูป ขอสมาภัย จึงหายเป็นปกติ ฯลฯ

    ประสบการณ์แปลกๆเกิดขึ้นมากมายตลอดระยะเวลายาวนาน จนทำให้มีคนเกิดความสงสัยว่าจะต้องมีของดีอะไรบางอย่างอยู่บนโคกวัดแห่งนี้ จากความสงสัยนี้ตำนานแห่งการขุดค้นพบผงอิทธิเจกรุนี้ จึงเริ่มต้นขึ้น
    ในราวๆ ปี ๒๕๐๗ กำนันสุวรรณ เชื้อน้อย ด้วยความร่วมมือกับตาพูล คนบ้านโคกคา ต.โพธิ์ตรุ(ผู้กว้างขวางย่านนี้นับเป็นชุดแรกที่ได้เข้าไปขุดค้นหาของดีที่ ซ่อนอยู่บนโคกวัดสัมฤทธิ์

    หลังจากทำพิธีขอสมาและพลีกรรมขอของดีมาบูชาตามตำราแล้ว ชุดแรกที่เข้าทำการขุดค้น ก็ได้ผงอิทธิเจนี้ออกมาประมาณ ๕ ปีบ ในครั้งแรกนี้ยังไม่ใคร่จะทราบกันเท่าใดว่าผงขาวๆที่ค้นพบนี้จะดี มีค่าอย่างไร เมื่อขุดพบได้มาจึงนำออกมาแต่เพียงพอสมควร มิได้ขนออกมาทั้งหมด
    เมื่อได้ผงฯ มาแล้วก็มิได้นำไปทำอะไร จะขายก็ไม่มีใครซื้อ ตาพูลซึ่งเป็นคนชอบเสี่ยงดวง มักตะเวนไปหาพระหาหวยตามวัดต่างๆจนรู้จักมักคุ้นพระอาจารย์ดังแถวนี้ทุกวัด ก็ได้นำผงฯ นี้ไปให้พระท่านดู พระเกจิอาจารย์หลายท่านมีฌาณบารมีรับรู้ได้ถึงอิทธิคุณแห่งผงฯ นี้ จึงได้บอกกล่าวแก่กำนันสุวรรณและตาพูล ว่าผงฯนี้คืออะไร และดีอย่างไร ตาพูลเมื่อทราบจึงได้ถวายผงฯ นี้ แก่เกจิดังย่านนี้ไปจนหมด อาธิ หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ และหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง และพระมหาสังเวียน วัดไชโย เป็นต้น

    หลังจากการขุดค้นพบผงอิทธิเจครั้งแรก นี้ และนำไปถวายวัดหลายแห่งก็ได้มีการนำผงฯ นี้ไปสร้างพระเครื่องขึ้นมากมายหลายวัด หลายรุ่น ปรากฏว่ายิ่งทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของผงฯ นี้ขจรขจายไปไกล โดยเฉพาะพระสมเด็จเนื้อผงของหลวงพ่อซวง พระสมเด็จแพพัน ของหลวงพ่อแพ และพระสมเด็จรุ่นแรกของหลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ ต่างมีประสบการณ์และได้รับความนิยมสูงมาก พระเกจิอาจารย์จากวัดอื่นๆ จึงพยายามขวนขวายหามาเพื่อสร้างพระเครื่องให้ญาติโยมบูชาทำบุญหาทุนสร้างวัด สร้างวา ทำนะบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป

    ความต้องการนี้เอง นำไปสู่การขุดค้นครั้งที่สอง โดยหลวงพ่อสมัย(พระครูสุนทรธรรมกิจ) เจ้าอาวาสวัดมะค่า ต.บ้านเบิก มีผู้ใหญ่น้อย มาสำราญให้การสนับสนุน และผู้ใหญ่น้อยนี้เองที่ได้นำผงอิทธิเจจำนวนมาก จากการขุดค้นครั้งที่สองนี้มามอบให้หลวงตายม วัดยวด สร้างพระสมเด็จวัดยวดอันลือชื่อมากประสบการณ์ขึ้นมา การขุดค้นครั้งที่สองนี้ได้ผงฯ มากกว่าครั้งแรก เพราะวัดมะค่าอยู่ใกล้กับวัดสัมฤทธิ์มากกว่าวัดอื่น(ระยะเดินเท้าได้ไม่เกิน ๑ ก.ม.) หลวงพ่อสมัย ได้นำผงฯ นี้ไปสร้างพระสมเด็จเนื้อผงของวัดมะค่าขึ้นมาหลายรุ่น เวลานี้จะหาพระรุ่นดังกล่าวดู ก็ยังหาไม่เจอเพราะได้รับความนิยมสูงมากมานานแล้ว เมื่อเป็นที่ต้องการในวงการพระเกจิ การขุดค้นครั้งที่สามจึงเป็นฝีมีของพระสงฆ์อีกเช่นกัน หลวงพ่อโสน แห่งวัดวังกรด บางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ทราบข่าวจากคนท่าวุ้งนี้เองก็ได้มาทำการขุดค้นได้ไป แต่ข่าวว่าไม่มากนัก เพราะคิดว่าผงฯ หมดแล้วจึงเลิกลากลับไป ท่านนำผงฯ ทั้งหมดกลับไปสร้างพระอะไรบ้างไม่มีใครทราบ

    ครั้งที่สี่ ครั้งสุดท้าย หลวงตาเชื้อ แห่งวัดเยื้องคงคาราม อ.ไชโย จ.อ่างทอง ท่านได้เข้ามาบูรณะปรับปรุงพื้นที่วัดร้าง พยายามจะยกฐานะให้เป็นวัดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ท่านได้ขุดค้นจนพบว่ายังมีผงอิธิเจโบราณฝังอยู่อีกห้องหนึ่งเต็มๆ ท่านจึงได้ผงฯ มากเท่ากับทั้งสามครั้งแรกรวมกัน ! แล้วท่านก็ได้นำผงฯ ไปสร้างเป็นพระสมเด็จวัดเยื้อง ที่มีประสบการณ์สูงมาก ได้รับความนิยมและหวงแหนกันมากจนถึงขั้นไม่มีพระให้ดู ให้เล่นกันเลยในวงการเวลานี้ !!

    อาจารย์อัมพล เชื้อน้อย บุตรชายของกำนันสุวรรณผู้ขุดค้นพบผงอิทธิเจวัดสัมฤทธิ์เป็นกลุ่มแรก ได้กรุณาให้ข้อมูลเบื้องหลังว่า หลังจากที่พ่อกำนัน และตาพูลได้ขุดพบแล้วก็ไม่รู้จะนำผงฯ ไปทำอะไร ก็ได้แต่เที่ยวนำไปถวายวัดนั้น วัดนี้ ให้ท่านสร้างพระเครื่องให้เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา แต่ตัวท่านเองเวลานี้กลับมีผงฯ นี้บูชาติดตัวอยู่เพียงหลอดเดียวเท่านั้น

    อาจารย์อัมพล เล่าถึง ตอนที่นำผงฯ นี้ไปถวายให้หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาครว่า ทันทีท่านถือกระป๋องบรรจุผงฯ ขึ้นไปบนกุฎิหลวงพ่อฉาบนั้น หลวงพ่อท่านได้ตะโกนสั่งมาว่า " ระวังๆ ผงนี้สุดยอด ระวังๆ อย่าทำหกเป็นอันขาด" คณะที่ไปด้วยกันทั้งหมดต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ ว่าท่านรู้ได้อย่างไร ว่าเป็นผงอะไร !!?? และรู้ได้อย่างไรว่าจะนำมามอบให้ท่าน จึงทำให้ท่านถึงกับแสดงอาการตื่นเต้น ดีใจออกมากมายเช่นนั้น และหลังจากที่หลวงพ่อฉาบได้ใช้ผงฯ ชุดนี้สร้างพระเครื่องจนหมดไปแล้ว ทราบว่าท่านก็ได้ให้คนมาเช่าผงฯ นี้ไปจากชาวบ้านแถววัดมะค่า ไปอีกจำนวนหนึ่งแต่ไม่ทราบว่าท่านนำไปสร้างพระรุ่นใดบ้าง

    เล่ามาถึงตรงนี้ผู้เขียนเองก็ได้สารภาพกับอาจารย์อัมพล เชื้อน้อยไปว่า "ผมได้ยินชื่อผงสัมฤทธิ์ และวัดสัมฤทธิ์ ครั้งแรกจากปากหลวงพ่อฉาบนี้เอง " นับแต่วันนั้นมาผมก็ได้เที่ยวสืบหา ค้นคว้าประวัติเรื่องราวของผงอิทธิเจวัดสัมฤทธิ์มาโดยตลอด แต่ยิ่งศึกษาก็ยิ่งเห็นประสบการณ์ต่างๆ มากมายบางเรื่องก็ธรรมดา แต่บางเรื่องก็เหลือเชื่อจริงๆ
     
  15. สายครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    4,224
    ค่าพลัง:
    +22,130
    กำเนิดผงสัมฤทธิ์

    ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ได้ถูกค้นพบเมื่อประมาณ ๓๐-๔๐ ปีที่ผ่านมา โดยพบการผุดขึ้นของผงพุทธคุณดังกล่าวได้มีการพบที่บริเวณเนินดินที่เป็นรากฐานอุโบสถโบราณ ซึ่งอยู่กลางทุ่งนาในเขตอำเภอท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งในขณะนั้นไม่คงสภาพความเป็นวัดอยู่เลย พบเพียงพระพุทธรูปหินทรายเพียง ๔ องค์ ซึ่งน่าจะเป็นพระประธานแต่ก็มีความชำรุดเสียหายทั้งหมด โดยผู้พบผงท่านแรกนั้นเป็นชายชราชาวนาที่อาศัยอยู่บริเวณแถบนั้น ได้เดินทางอกไปทำนาและผ่านบริเวณวัดร้างดังกล่าว และด้วยมีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์อยู่บ้าง จึงทำให้พอทราบว่า ผงที่ผุดขึ้นมานี้เป็นผงสำเร็จเรียกว่าผงอิทธิเจ จึงได้เก็บผงพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวมาทุกวัน จนเป็นข่าวในละแวกนั้น พอชาวบ้านเริ่มรู้ข่าวว่ามีการพบผงศักดิ์สิทธิ์ จึงได้พากันมาขุดเพื่อหวังหาสมบัติและพระเครื่องโบราณ ซึ่งก็มีทั้งสมหวังบ้างและผิดหวังบ้าง จากคำบอกเล่าว่ามีผู้ได้พบพระเนื้อชินและพระบูชาทองคำไปบ้าง แต่ก็เล็กน้อย ส่วนใหญ่จะได้ผงสีขาวเสียมากกว่า บางก็สนใจบ้างก็ไม่สนใจ เก็บรักษากันไว้บ้าง ถวายวัดบริเวณใกล้ๆ บ้าง จนข่าวเงียบหายไปเพราะไม่ได้สมบัติอะไร การขุดผงพุทธคุณชุดแรกจึงได้ยุติลง แต่ชายชราชาวนาคนแรกก็ยังคงเก็บผงที่มีผู้ขุดทิ้งตกค้างไว้ เพราะทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผงนั้น

    ผงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างพระพิมพ์โดยพระสุปฏิปันโน

    ชายชราผู้นี้เป็นผู้สนใจในพระเถระผู้ปฏิบัติดีและมีญาณวิถีหยั่งรู้ เมื่อได้ทราบข่าวว่ามีพระเถระดีมีพุทธาคมสูงและเก่งในเรื่องเลขหวยก็มักจะไปกราบสนทนาธรรม และสุดท้ายก็คือการขอเลขหวย โดยมีการนำผงศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวที่ทยอยเก็บสะสมไว้ไปถวายหรือเรียกว่า “เอาผงไปแลกหวย” จากคำบอกเล่า พระเถระที่ได้นำผงที่ชายชราไปถวายเพื่อจะแลกกับหวยนั้น ได้มีการนำผงพุทธคุณสัมฤทธิ์นี้ไปสร้างวัตถุมงคลจนโด่งดังเป็นตำนานจนมาถึงปัจจุบัน คือ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง(ชุดแพพัน-แพสามพัน), หลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกษ, หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน(พระพุทธนฤมิตรโชคหรือสมเด็จกวางใหญ่) เป็นต้น และผงพุทธคุณนี้ยังกระจายสู่พระเถระยุคนั้นเมื่อทราบถึงอิทธิคุณความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะแถบอำเภอไชโย อำเภอท่าวุ้ง และเขตติดต่อจังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท ซึ่งด้วยความโด่งดังของครูบาอาจารย์ที่ได้นำผงพุทธคุณสัมฤทธิ์ไปผสมสร้างวัตถุมงคลแล้ว ซึ่งถ้าผงนี้ไม่ดีจริงพระคณาจารย์อย่างหลวงพ่อกวย หลวงพ่อแพ(ผสมผงสร้างไม่ต่ำกว่า ๓ รุ่น) และหลวงพ่อจรัญคงไม่นำผงมาผสมสร้างพระชุดแรกๆ ของท่าน

    ผู้เปิดตำนานผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ยุคที่ทำให้เป็นที่กล่าวขาน

    นั้นคือ หลวงพ่อเชื้อ วัดเยื้องคงคาราม จ.อ่างทอง เป็นผู้ที่ทำให้ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นที่รู้จักอีกครั้ง จากคำบอกเล่าของตัวท่านเองว่า ท่านได้ทราบข่าวการขุดผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์จากวัดร้างโบราณกลางทุ่งก็เกิดสนใจและได้รับผงมาจำนวนหนึ่ง ได้นำไปให้ครูบาอาจารย์ของท่านที่ได้ทรงคุณธรรมตรวจสอบอิทธิคุณ ได้รับคำตอบว่าเป็นผงสำเร็จศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน ได้มามากไหม ได้จากไหน ผงนี้ใช้ได้ตามใจปรารถนาหายากมากๆ หลวงพ่อเชื้อจึงได้เก็บความสนเท่ห์นั้นไว้และยังได้นำผงไปตรวจสอบอีกหลายที่ก็ได้คำตอบคล้ายคลึงกัน จึงทำให้ท่านได้เริ่มแสวงหาและเก็บผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์อย่างเงียบๆ และนำมาจัดสร้างพระสมเด็จของวัดเยื้องคงคารามด้วยผงดังกล่าวจนวัดสำเร็จสวยงามในปัจจุบัน
    หลวงพ่อเชื้อท่านจึงได้เกิดความศรัทธาในผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยท่านเองได้นำผงพุทธคุณมาใช้รักษาโรคต่างๆ ร่วมถึงโรคทางไสยศาสตร์ก็ปรากฏผลเป็นที่อัศจรรย์ได้ผลดีเป็นที่กล่าวขานกันทั่ว จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงมากขึ้นแบบปากต่อปาก และจากคำบอกเล่ากันว่าท่านได้มอบผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์แก่พระราชาคณะรูปหนึ่งเพื่อทำน้ำมนต์ถอนอาถรรพ์กับบุคคลระดับประเทศจนได้ผลเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว และยังไม่รวมถึงพระสมเด็จที่ท่านสร้างไว้ก็ปรากฏผลเป็นประจักษ์แก่ผู้ที่นำไปบูชาในด้านต่างๆ จนเป็นที่แสวงหา โดยการสร้างพระของท่านได้อาศัยผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพียงเล็กน้อยในการผสมสร้างพระของท่าน และยังมีผงหรือมวลสารอื่นๆอีกด้วย

    พลิกตำนานการขุดผงอีกครั้ง

    เมื่อผงมีความศักดิ์สิทธิ์และเริ่มเป็นที่แสวงหา หลวงพ่อเชื้อท่านจึงได้ซื้อที่นารอบๆ วัดร้างดังกล่าวและได้มีการขุดผงตามที่ต่างๆ ว่ากันว่าท่านได้ผงกลับวัดไปเป็นปี๊บๆ หลังจากนั้นความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ก็เริ่มเป็นที่ปรากฏมากขึ้นจากผู้ที่ได้รับผงไปและมาอธิษฐานที่เนินดินวัดร้างดังกล่าว ส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จสัมฤทธิ์สมดังใจปรารถนา ผู้ที่ศรัทธาจึงขนานนามว่า หลวงพ่อสัมฤทธิ์ และได้มีการเริ่มบูรณะองค์พระประธานที่เป็นหลวงพ่อสัมฤทธิ์ทั้งสี่องค์ โดยหลวงพ่อเชื้อได้เป็นผู้บูรณะในครั้งแรก ต่อมาภายหลังชาวบ้านได้รวมตัวกันช่วยบูรณะ โดยมีการขุดและพัฒนาพื้นที่มากขึ้น ในครั้งนั้นได้มีการขุดพื้นภายในอุโบสถเก่าที่หลวงพ่อเชื้อเคยขุดไว้ลึกลงไปอีกชั้น ก็ปรากฏว่าพบกรุผงอีกชั้นหนึ่งซึ่งมีแผ่นอิฐหน้าวัวปิดทับและพบใบลานเงินจารึกไว้ โดยหลวงพ่อเชื้อได้หาผู้ชำนาญอักษรโบราณได้อ่านและถอดความว่า “ผงอิทธิเจทำสำเร็จแล้ว” จึงเป็นที่รู้กันว่าผงพุทธคุณที่ผุดขึ้นมาและได้ทำการขุดขึ้นมานั้น เรียกว่า ผงอิทธิเจ ของผู้สำเร็จพุทธาคมในสมัยโบราณ ได้ฝึกจิตอภิญญาจนสำเร็จวิชาการทำผงพุทธคุณและได้ฝากไว้เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและไว้เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากในอนาคต

    อะไรคือผงอิทธิเจ

    ผงอิทธิเจนี้คือ ผงวิเศษ ๑ ใน ๕ ผงพุทธคุณตามตำราโบราณซึ่งผู้ที่เรียนพุทธาคมต้องเรียนและทำให้สำเร็จตามขั้นตอนของผงแต่ละชนิด ซึ่งผงอิทธิเจนั้นมีฤทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ใช้ได้สารพัดสุดแต่จะอธิษฐาน ปรารถนาสิ่งใดจะส่งผลให้สัมฤทธิ์ผลสมดังมโนรมย์ทุกประการ การใช้ผงอิทธิเจนั้นมักจะผสมกับแป้งผัดหน้าเป็นเมตตามหานิยมหรือใช้ผสมเครื่องหอมเพื่อให้เกิดผลทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ หากผู้ลบทำจนผงอิทธิเจเกิดเป็นตัว(ภาษานักวิทยาคมหมายถึงทำขึ้นศักดิ์สิทธิ์มาก) แล้วเกิดปลิวไปติดต้องเพศตรงข้ามหรือลงในน้ำดื่มจะมีผลทางเสน่ห์ชั้นสูง จึงเป็นแบบทดสอบคุณธรรมของผู้ลบผงด้วยอย่างหนึ่งว่าจะเป็นผู้ติดรูปหลงกามราคะตัณหาหรือไม่ โบราณจึงมักปกปิดสงวนผงชนิดนี้เพราะถือเป็นอันตรายต่อผู้นำไปใช้ในทางที่ผิดและตัวผู้ถูกกระทำเป็นอย่างมาก แต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกก็จะช่วยเหลือค้ำคูณผู้นั้นให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป จึงเป็นของสุดวิเศษที่ปรารถนาเป็นอย่างมาก

    ความเหมือนที่แตกต่าง

    แต่ในส่วนผงพุทธคุณอิทธิเจหลวงพ่อสัมฤทธิ์นั้น เป็นผงของพระผู้สำเร็จอภิญญาจิตชั้นสูง(ตามคำบอกเล่าจากการตรวจสอบของหลวงพ่อเชื้อ) ที่ได้ทำฝากไว้เป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เพราะสามารถนำมาผสมน้ำทำเป็นน้ำพุทธมนต์เพื่อใช้ดื่มกินรักษาโรคต่างๆ ได้ด้วย รวมถึงการใช้ถอนอาถรรพ์หรือแก้คุณไสย์ต่างๆ ตามคำอธิษฐานเพื่อขอพึ่งบารมีผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และรวมถึงมีผลต่อผู้นำผงติดตัวบูชา อธิษฐานสิ่งใดก็จะสำเร็จผลสมปรารถนาดังคำอธิษฐานทุกประการ เจริญในหน้าที่การงานทั้งปวง ทั้งยังเสริมส่งบารมีราศีแก่ผู้บูชาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะมีความแตกต่างจากผงอิทธิเจตามตำราที่จะเน้นหนักไปทางเสน่ห์มหานิยมเสียเป็นส่วนใหญ่
    และผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ว่ากันว่า ต้องอธิษฐานบอกกล่าวขอความช่วยเหลือจากผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เทพเทวดาที่รักษาผงและองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ รวมถึงท่านเจ้าของผงดังกล่าวจึงจะสัมฤทธิ์ผล หากไม่อธิษฐานบอกกล่าวก็ไม่ต่างอะไรกับผงปูนก้อนปูนอิฐหินธรรมดา และว่ากันว่าท่านเจ้าของที่ทำผงพุทธคุณดังกล่าว ท่านสำเร็จอภิญญาจิตชั้นสูงปฏิสนธิในรูปพรหมทรงพรหมวิหารธรรมดำรงจิตในอุเบกขารมณ์ หากอธิษฐานต่อผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ท่านก็จะคลายจิตจากอุเบกขารมณ์มาอยู่ในเมตตากรุณาเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยเหลือผู้อธิษฐานให้สำเร็จผลดังใจปรารถนาตามกำลังบุญวาสนาผู้อธิษฐานโดยเร็วและง่ายดาย

    ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อสัมฤทธิ์และผงพุทธคุณในปัจจุบัน

    ปัจจุบันจากตำนานวัดร้างกลับกลายเป็นวัดที่มีความเจริญในถาวรวัตถุเป็นอันมากถึงจะไม่มีพระภิกษุสงฆ์พักจำพรรษาด้วยอาถรรพ์ความศักดิ์สิทธิ์ของเทวดาที่รักษาผงและองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ แต่ความศรัทธาและความเจริญด้านต่างๆ ก็มากมายมาด้วยความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์และผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใหญ่ผู้ศรัทธาเมื่อมากราบไหว้บนบานขอพรต่อองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ก็มักจะประสบผลสำเร็จสัมฤทธิ์ผล ดังชื่อองค์หลวงพ่อพระพุทธรูปทั้งสี่องค์ หรืออาจจะเกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ของผงอิทธิเจที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในองค์พระหรือในวิหาร จึงได้มีความศักดิ์สิทธิ์มีผลานุภาพแก่ผู้มาอธิษฐานขอพรขอความช่วยเหลือก็เป็นได้ และยังมีผู้คนที่ได้รู้ถึงพุทธคุณของผงอิทธิเจหลวงพ่อสัมฤทธิ์ได้สืบเสาะหาหรือจากพระเครื่องที่ได้ผสมผงดังกล่าวไว้อีกด้วย เพื่อนำมาพกติดตัวให้เกิดความเป็นสิริมงคลและบังเกิดความสำเร็จสัมฤทธิ์ผลสมดั่งใจปรารถนา อีกทั้งยังนำมาพิธีแก้อาถรรพ์ รักษาโรคต่างๆ ซึ่งต่างก็ได้พบประสบเจอกับอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลายกันอย่างปากต่อปาก

    พุทธคุณและอานุภาพของผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์

    มีประสิทธิผลในทางเมตตามหานิยมสูงสุดและมหาสำเร็จดังแก้วสารพัดนึก และมีประสบการณ์ในทางอุดหนุนค้ำชูดวงชะตาเป็นมหาสำเร็จสมปรารถนา ขอเพียงผู้ใช้ตั้งสัจจะอธิษฐานโดยไม่เกินวาสนาของตน มีความเชื่อถือกันมากในหมู่คณาจารย์ผู้รู้ทั้งหลายว่า ผู้สร้างผงพุทธคุณวัดสัมฤทธิ์นี้ทรงอภิญญาสูงส่ง ดำรงจิตอยู่ในพรหมวิหาร ๔ วางจิตนิ่งอยู่ในอุเบกขาเป็นนิจ เห็นเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกย่อมเป็นไปโดยกรรมของตน แต่เมื่อผู้ใดตั้งสัจจะอธิษฐาน ผู้ทรงอภิญญานั้นจะคลายจิตลงสู่เมตตา กรุณา เป็นอารมณ์ ช่วยเหลือสงเคราะห์ให้สำเร็จได้ จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ใช้พระหรือวัตถุมงคลที่เข้าผงสัมฤทธิ์นี้ต่างก็พบปาฏิหาริย์ในทางโชคลาภ ในทางมหาเสน่ห์ ในทางมหานิยม ในทางขอตำแหน่งหน้าที่การงาน ในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงการถอนคุณไสย์ต่างๆ ได้อย่างเป็นอัศจรรย์โดยการอาราธนานำพระแช่น้ำทำน้ำพระพุทธมนต์
     
  16. ktv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    1,125
    ค่าพลัง:
    +1,133
    โอนแล้วครับ 12/2/59 เวลา 17.11 น.จำนวน 650 บ.จาก ธ.กรุงศรีอยุธยา ชื่อ-ที่อยู่แจ้งทาง pm ครับ
     
  17. ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    แจ้งเพื่อทราบ

    เข้าบัญชีให้แล้วครับ..กรุณาส่งมาที่
    "ศักดิ์สิทธิ์ ชนะ"
    79/222 หมู่ 2 (ลภาวัน9) ซอย 9/1C
    ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      94
  18. songsakth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,930
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +2,656
    โอนเงินให้แล้วครับ
    ได้โอนเงิน จำนวน 350 บาท วันที่ 13/2/59 เวลา 13.13 น.
    ที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง PM ครับ
     
  19. Focusso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +148
    โอนเงินแล้วครับ ที่อยู่ใน PM
     
  20. wiruch99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +697
    โอนแล้ววันนี้350บาทเวลาประมาณ12.10น.สำหรับผงพุทธคุณ 1 หลอด
    วิรัช อ่อนโอภาส 155 ถ.เลียบคลองภาษีเจรญฝั่งเหนือ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ 10160
     

แชร์หน้านี้