กายเราคือนิมิตใช่หรือไม่ ??

หลวงพ่อเทียนให้มีสติตามดูตามรู้
กายและความคิด
โดยให้มีความรู้สึกตัวอยู่ตลอดว่าเรานั้น
กำลังทำอะไรอยู่ และกำลังคิดอะไรอยู่

การดึงความรู้สึกตัวกลับมาที่อิริยาบถ
ก็เพื่อให้มีสติกลับมาที่ตัวโดยไม่เข้าไม่เป็นความคิด
และก็ไม่ได้ให้ผู้อื่นเข้ามาเป็นความคิดตัว

ลุงแมวก็คือลุงแมว ไม่ใช่ความคิดเรา
ลุงแมวจึงไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างที่เราคิด

เราคิดถึงท่าเต้นว่าเราเต้นท่านั่นท่านี้บลาๆๆ
แต่อิริยาบถที่เรารู้สึกตัวอยู่ก็ไม่ได้อยู่ท่านั้น
มันก็ค่อยๆแยกกันออกระหว่างความคิด
กับความรู้สึก โดยไม่ถูกความคิดครอบงำ

วิมุติ= แยกออก/หลุดออก

ปล.ไม่ได้พิมพ์สอนหนะ
แสดงความเห็นตามความเข้าใจเฉยๆ
จากการฟังคลิบหลวงพ่อเทียนมาเมื่อคืน
ให้ยกมือและให้มีความรู้สึกทุกท่วงท่า

 

ไปไหนนิ.... นี่งานปั่นในทู้ลุงแมว

ใครจะไปครอบงำความคิดใครได้ เส้นทางนี้ใครทำใครได้ ตัวใครก็ตัวใคร

ลุงก็ยังเป็นลุง คนไม่เห็นด้วยกับลุง ก็ยังคงแย้งเหมือนเดิม
ไม่แย้งเด่วห้องเหงา

ปล. อิอิ

 

สำนวนนี้เหมือนหรือแตกต่างกับ
รู้ที่ไม่เข้าไปเป็นความคิดใหม ?

 

ส่วนตัวฟังแล้วพระกล่าวไม่ต่างกัน

 

เฉยๆมากเลย กับการอ้างอิงอาจารย์คนนั้นคนนี้ นับมา 2564 ปี มีอรหันต์นับพัน หมดรุ่นนั้นก็มีรุ่นนี้มาแทน คนเกิดทันรุ่นไหนก็”ยึด”ครู “รุ่นที่ตัวเองเกิดทัน” พอถามไปว่าอรหันต์ที่เกิด พศ 2364 มีท่านไหนสอนดี ?

ตอบว่า แบ๊ะๆ แพะใบ้(เพราะฮารดดิสก์ ยังไม่เกิด เลยไม่มีแหล่งอ้างอิง ธรรมเลยหายไป 55555)

เนี่ย ชัดเจน มันแค่ยึดหยิบฉวยสิ่งเฉพาะหน้า แต่ตามสิ่งเรียกว่า ศรัทธาสัมปทา ไม่ทัน

ยังไม่นับว่า คิดเองเออเอง ใครเป็นอรหันต์อีกนะ คิดถูกก็โชคดีไป คิดผิด และชวนเผยเแพร่คำเนี่ย โอยไม่อยากจะคิด นาหญ้าขึ้นรกกี่กัปไม่รู้ เผยแพร่ยูตุ๊ปแบบยันตระนี่ไม่รู้ขยายบาปไปอีกกี่กัป เป็นผมไม่กล้าทำอะ สยองครับเพราะ
ญาณเยิน แบบ mothership scbx ก็ไม่มี เอาศัยเดาเอาทั่งนั่น

เนี่ยละ กว่าจะบรรลุ ทัวร์นรก จนเพลิน เพราะความศรัทธาแต่ขาดปัญญา แบบ อริยะเขาคิด
(เพราะเราไม่รู้เลย ไม่มีญาณแบบพระองค์ สิ่งที่เราทำจะกลายเป็นตะโพนอานกะไหม เช่นเทวทัตทูลขอ ให้ภิกษุอยู่ป่าตลอดชีพ ถ้าพระองค์ไม่มีญาณ วันนี้ศาสนาคงเละ เพราะป่าก็แทบไม่มี รัฐบาลคงปวดหัวเขตอนุรัษณ์ห้ามรบกวนสัตว์ป่า แต่ดันมีคนไปอยู่ไปกวน แถมไม่รู้เป็นคนดีไหมหรือคนชั่ว ในปี พศ นี้เป็นต้น) ความมีญาณพระองค์สาวกอย่าคิดเทียบ

ศรัทธาสัมปทา ง่ายนิดเดียว คือเจ้าของศาสนา ไม่ต้องเดาสุ่ม

 

พ๎ยัคฆปัชชะ!  สัทธาสัมปทา เป็นอย่างไร.
พ๎ยัคฆปัชชะ!  กุลบุตรในกรณีนี้ เป็นผู้มีศรัทธาเชื่อในการตรัสรู้ของตถาคตว่า “เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลสเป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลก อย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอน ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรมเป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์” นี้เรียกว่า สัทธาสัมปทา.




มันชัดเจนอยู่ละ เป็นผู้ฝึกบุรุษไม่มีใครยิ่งกว่า คือใคร

ส่วนถ้าจะอ้าง ก็มันยากอะ ฟังครูบาอาจารย์ตนง่ายกว่า

ข้อนี้ก็เข้าใจได้ เพราะศาสดาท่านสอนเอง ธรรมท่านคือผู้มีปัญญาดี ไม่ใช่ของผู้มีปัญญาทราม

อยากเป็นปัญญาแบบไหน on your select ครับ
(มันต้องคิดละครับ ทำไมบางคนอ่านพระไตรก็เข้าใจได้
แต่อีกคนอ่านแล้วหลับวิ่งหนี ไปฟังธรรมตลกตลกโปกฮาดีกว่า ตัวอย่างเป็นต้น)


ผมแค่คนผ่านมาครับ แมวพิมพ์ เมี้ยวววว

 

ถ้าใครจะเถียงแมว ตอบคำถามข้างล่างนี้ให้ได้ก่อนจริงไหม? เมี้ยววว

ศรัทธาสัมปทา ของพุทธศาสนิก นี่แย่กว่าศาสนาอื่นอีก
เกิดมา มีใครได้ยินเพื่อนต่างศาสนิก ยกยอปอปั้น คำสอนครูเขามากกว่า นบี เขา หรือ พระคริสต์ เขาบ้าง?

ผมได้ยินแต่ แนวๆ นบี หรือ พระคริสต์นะ ศรัทธาสัมปทาในศาสดาเขาดีมาก หรือว่าไม่จริง?
และไอที่เขาเรียนรู้ศาสนาเขาเนี่ย มันมาจากครูเขาไหม หรือมันมาเองตามพระประสงค์(ของศาสนาเขา)ลอยๆ?
แต่เขาแยก ลำดับขั้นเป็น มีตรรกะมากกว่าเราถูกไหม?
(แค่เข้าห้องนี้มา ก็เจอแต่ครูนั่น ครูนี้ ต่างจากศาสนาคนอื่นเขาลิบลับ ที่มีแต่พระเจ้าเขาสูงสุด)

แมวฝากให้คิดเยอะๆ ในห้องศาสนาแบบนี้ เมี้ยวววว

 

คำสอน ศาสนาพุทธ ต่างจากเขา
ถ้ายังไม่ลองดูก่อน ก็ ลองมาดูเถิด

แม้สาวก ก็กล่าวคำถตาคต ก็ยังต้อง ก็ลองดูก่อน

มีผล ออกจากตัวเอง ถึงจะเชิญคนอื่นอีก มาลองดูก่อน
ไม่ว่า คนศาสนาไหน มันก็มี ดีปนเลว
เหมา รวม มันก็เป็นกรรมสยองของสาธารณะ

เมื่อ ลองดูแล้ว มันจึงจะมองออก อันไหน คำตถาคต

 

เณรอรหันต์ขึ้นธรรมมาสน์เทศน์
พระพุทธเจ้า ยังประทับยืน ฟังจนจบ..

 

โอวาทะ ลป.แบนสลายขั้วได้เด็ดขาดครับ

 

2364 ลุงทันแล้วหรอ? ....เสียงแพะคนแรกเริ่มที่ลุงก่อนเรยย

แล้วคำศัพท์ นี่คำพระพุทธเจ้า นี่คำสาวก อะไรเนี่ยะ

คำศัพท์นี้ของพระพุทธเจ้า จะรู้ได้ต้องปฎิบัติไปรู้อริยสัจ

ไม่ใช่คำศัพท์ชั้นสัญญาตามตำราให้ความหมาย แบบตรรกะ เอาคำนี้มาเทียบโพสต่อโพสอะไรเบอร์นั้น แบบที่ปัจจุบันนิยมกัน

คนที่ฝึกไปรู้อริยสัจ เขาทะลุครู อาจารย์ทั้งนั้นแหล่ะ(จิตมันทำเอง มันละครูออก) ทะลุเข้าหาพระพุทธเจ้าเลย จิตมันยอมรับว่าสิ่งที่ท่านตรัสมันมีจริงๆ

นู๋ถึงพูดบ่อยๆ ว่าพระอริยะดูที่ความเพียร

 

ใช่ลุงโจ

ค้นหาแต่ครูบา แต่ไม่เคยภาวนาด้วยตนเอง