หลายๆคน อาจจะประสบเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ อันเป็นสิ่งที่เราไม่พึงปราถนา บางคนล้มหมอนนอนเสื่อ บางคนประสบพบเจอกับเคราะห์ร้าย บางคนไปที่ไหนก็มีแต่คนเกลียดชัง
บางคนเจอเรื่องแปลกประหลาดกับตนเอง ทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนเกิดจากอำนาจกรรม ผลักดันให้ตัวเราต้องเจอสิ่งต่างๆ ที่ไม่พึงปรารถนา
พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่สอนให้เชื่อเรื่องกรรม จนถึงกับว่า พระศาสดากล่าวว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม และ ไม่มีอำนาจใดใหญ่เกินกรรม
การที่เราไม่รู้ว่า เราทำกรรมอะไรเอาไว้ จึงทำให้เราไม่ทราบเหตุ ว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ ที่เราประสบพบเจอนั้น เป็นเพราะเหตุใด บ้างก็ไปให้หมอดูทำนายทายทัก บ้างก็ไปขอให้เจ้าเข้าทรงช่วยเหลือ บ้างก็ไปพึ่งพระ
สิ่งที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ เป็น วิธีการแก้กรรมด้วยตนเอง และ ความเป็นจริง ก็ไม่มีใครแก้กรรมให้เราได้ นอกจากเราทำด้วยตัวเองเท่านั้น ดังคำกล่าวที่ว่า อัตตาหิ อัตตโนนาโถ และ คำกล่าวที่ว่า ตถาคตเป็นเพียงผู้บอกทาง เธอเป็นผู้เดินกันไปเอง
คนเราทำอะไรก็ได้สิ่งนั้น แต่ว่า เราระลึกไม่ได้เอง เพราะว่าเราไม่ค่อยจะสังเกตุว่า เราทำอะไรไปบ้าง บางครั้งเผลอใจคิดด่าคิดแช่งชาวบ้าน คิดอยู่ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยระลึกว่า นั่นดีหรือชั่ว เราจึงเผลอทำไม่ดี ก่ออกุศลกันไปนับไม่ถ้วน แล้วพอกรรมส่งผล เราก็ร้องคร่ำครวญ โอดโอย ดังคำกล่าวที่ว่า เมื่อกรรมยังไม่ส่งผล คนประมาทก็ร่าเริง เมื่อกรรมส่งผลแล้ว ก็ร้องคร่ำครวญ
อย่างไรก็ตาม นั้นเป็นตัวอย่างที่พูดให้ฟังเท่านั้น ว่าเราระลึกไม่ได้ แม้สองสามวันก่อน เราโกรธใคร คิดด่าใคร บางทีเราก็จำไม่ได้แล้ว
กรรมจึงเป็นเครื่องจำแนกสัตว์โลก ซึ่งมี อดีตกรรม ปัจจุบันกรรม
คนที่ประสบพบเจอเคราะห์ร้าย นั่นแหละ คือ อดีตกรรม สบช่องเข้ากับ ปัจจุบันกรรม จึงทำให้กรรมเก่าสามารถวิ่งเข้ามาหาเราได้ตรงๆ
เปรียบได้กับ คนเป็นศัีตรูกัน เดินมาหากัน ก็ต้องทะเลาะกัน แต่ถ้าเดินเลี่ยงกัน ก็ไม่ทะเลาะกัน ศัตรูก็คือเจ้ากรรมนายเวร ที่เราไปทำกรรมกับเขาไว้แต่อดีต
การเดินเข้าไปหา หรือ การเดินเลี่ยง คือ ปัจจุบันกรรม ที่เราสามารถเลือกได้ถ้าเรามีสติ
ทีนี้ มาดูกันว่า แล้ว เราจะเลือกทำ ปัจจุบันกรรมอย่างไร เพื่อให้ อดีตกรรมไม่สบช่อง หรือ แม้สบช่องแล้ว เราก็ปัดเป่า ออกไปได้
เราต้องดูว่า กรรมเก่าที่ส่งผลนี้ ส่งผลบ่อยเพียงใด หากว่า ส่งผลอยู่เรื่อยๆ
เราก็ ต้องสังเกตุแล้วว่า นี่กรรมเก่ายังส่งผลอยู่ หากเป็นเรื่อง อุบัติเหตุ ประหัตประหาร ด้วย ของมีคม ก็คือ สิ่งที่เราไปทำกับคนอื่นแบบนั้น เราก็ควรจะไป ช่วยเหลือ สัตว์ ที่เขาจะต้องถูกของมีคม ให้ห่างจากของมีคม เช่น ไถ่ชีวิต วัว ควาย ปลา และ ไม่ใช่ว่าเราจะทำครั้งเดียว เราควรทำไปเรื่อยๆ พร้อมกับ แผ่อุทิศส่วนกุศลที่ทำ ให้ตนเอง เจ้ากรรมนายเวร กรรมนี้ จะทำให้จิตของเรายกภูมิขึ้นสูง แล้วเราจะไม่ไปต้องคม
หากกรรมนั้น เป็นเรื่องของความเจ็บป่วย เราก็ต้อง ดูเรื่อง ธาตุ ในตัวเรา เช่น เราอาจจะทำให้ ผู้อื่น ต้องทุกข์ทน อดอยาก หรือ เบียดเบียนเขา ด้วยเหตุใดก็ตาม ทำให้เขาเกิด เจ็บป่วยขึ้น เช่น บางคนอาจจะเอายาฆ่าแมลงไปให้ สัตว์กิน บางคนเอาของบูดเสียไปถวายพระ แบบนี้แหละที่จะทำให้เราเจ็บป่วย
บางคน ชอบไปดีเขาทุบหัวปลา แล้วเพลิดเพลินยินดี ก็ทำให้ชาตินี้ ตนเองต้อง ปวดหัว ( พระพุทธองค์ เคยเกิดเป็นลูกชาวประมง เพลิดเพลินยินดีกับการทุบหัวปลา จึงทำให้พระองค์ปวดหัวบ่อย)
แนวทางแก้ไข คือ เราควรจะทำบุญ สวดมนต์ ทำสมาธิ อุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเรา แล้วเราก็จะยกภูมิเราขึ้นสูง เอง ก็จะทำให้พ้นจากอำนาจกรรม ตราบใดที่เรายังมีภูมิสูง หรือไม่ก็กรรมนั้นจะส่งผลเบาบางลง หรือ บางครั้งเท่านั้น
เช่นเดียวกับว่า เราไม่อาจจะเบียดเบียนเทวดา เพราะท่านอยู่สูงกว่าเรา
บางคนอาจจะมีกรรมประเภท ปัญญาทึบ บางคนไม่มีสมาธิ บางคนพิกล พิการ
กรรมต่างๆ มีอีกร้อยแปด จำแนกอย่างไรก็ไม่หมด เราเท่านั้นที่จะบรรเทากรรมของเราด้วย หลักการที่ว่า
1 สำนึกในสิ่งไม่ดี ในสิ่งที่เราเคยทำเอาไว้ จะระลึกได้หรือไม่ได้ก็ตาม ให้ถ่อมตนลงมา ไม่ประมาท ให้ระลึกเสมอว่า เราเคยทำสิ่งไม่ดีเอาไว้
2 เจริญ กุศลทั้งปวง ได้แก่ ทาน ศีล ภาวนา แล้วอุทิศให้กับ เจ้ากรรมนายเวร ญาติพี่น้อง สัมภเวสี หรือ รูปนามต่างๆ ที่เขาอาจจะทำให้เรา เกิดเคราะห์กรรมต่างๆ นาๆ
3 หมั่นเจริญสติ ให้มาก จะได้เห็นเหตุเห็นปัจจัย ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต
4 หมั่นเจริญ ในศีล สมาธิ ปัญญา อย่าให้ขาด
5 อธิษฐาน ให้พบทางออก แต่ต้องมีสัจจะให้มาก แล้วเราจะได้สมดังใจอธิษฐานหากเรามีบารมีถึงพร้อม
ขอให้โชคดีทุกท่าน
การบรรเทากรรม ฉบับทำเอง
ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 14 ตุลาคม 2010.
-
ขออนุโมทนาสาธุการค่ะ และขออนุญาต copy ส่ง mail ให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงด้วยนะคะ
-
อนุโมทนาครับอ่านแล้วได้ประโยชน์มากครับ สาธุ สาธุ
-
ขอบคุณค่ะกับข้อความดีดี
อ่านแล้ว..เข้าใจค่ะ..เข้าใจชีวิตมากขึ้น...และเราควรปฏิบัติตัวอย่างไร..ขออนุโมทนาค่ะ -
อนุโมทนาสาธุ
อ่านแล้วเข้าใจง่าย สามารถปฏิบัติตามได้ง่าย
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก