การฝัน คือการปรุง ของสังขาร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เพ็ชร คมปภ้สษ์, 19 มีนาคม 2019.

  1. เพ็ชร คมปภ้สษ์

    เพ็ชร คมปภ้สษ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2019
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +11
    การฝันถือว่าขันท์4 สังขารมันปรุงแต่งหรือไม่ครับ
     
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ใครปรุงแต่งให้ล่ะ เทพรึตัวเรา
     
  3. เพ็ชร คมปภ้สษ์

    เพ็ชร คมปภ้สษ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2019
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +11
    ตัวเราที่ฝันอยู่น่ะครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ใช่ครับ การปรุงแต่งมันมาทีหลังครับ
    เด่วช่วยอธิบายเพิ่มเผื่อเข้าใจอะไรมากขึ้น


    หลักๆแล้ว เริ่มต้นเลยนะครับ
    มันมาจากตัวสัญญาในจิตเราที่เป็นนามธรรม
    จะส่งกระแสตัวหนึ่งออกจากตัวจิตเราเรียก
    ตัววิญญานการรับรู้ ส่งออกไปภายนอก
    (ถ้ามีกายคือส่งตัววิญญานผ่านทางตา หูฯลฯ)
    แล้วไปกระทบกับสิ่งต่างๆภายนอก
    แล้วก็ดึงมาเก็บไว้ในตัวจิตครับ
    พวกนี้เป็นกิริยาปกติของตัววิญญานนี้
    ที่ทำงานร่วมกับจิต เป็นปกตินะครับ
    (เพียงแต่ถ้ามีกาย มันก็สร้างช่องทางให้ตัววิญญานนี้
    เป็นอายตนะต่างๆ จนรวมเป็นกายเรานี่หละครับ
    จะเอาแรงอะไรมาสร้าง ออกมาเป็นอย่างไรก็แล้วแต่)
    อาจจะงง ได้

    เด่วดู

    ตย. เหมือนเราเคยไปยังสถานที่ A

    ตัววิญญานที่ส่งจากจิตออกผ่านไปกระทบสถานที่ A มาเก็บไว้ในจิต ก็จะจะกลายเป็นสัญญา (ทางวิทย์อนุภาคที่เป็นสื่อนำแรงเรียกปัวซองไม่ต้องการพื้นที่
    ซ้อนทับกันได้ไม่จำกัด ไม่มีพื้นที่ เลยไม่มี
    เรื่องขอบเขต เรื่องระยะเวลาเดินทาง
    ดังนั้นมันจึงเหนือคำว่ากาลและเวลาครับ)
    แต่เราเวลาปกติเราจะไม่สนใจ
    ถ้าไม่มีการกระตุ้น
    ถ้าไม่มีใครถาม หรือว่าได้
    ผ่านไปยังสถานที่ A อีก
    คือยังไงมันก็ยังมีอยู่เก็บไว้เป็น
    สัญญาในจิตอยู่อย่างนั้น


    ที่นี้ในกิริยาที่มนุษย์ฝัน
    คลื่นความถี่จะอยู่ในระดับ
    ที่มีความเป็นทิพย์ชั่วคราว คือสามารถสัมผัส
    รับรู้ทางด้านนามธรรมต่างๆได้ ไม่ว่า แสงสีเสียง
    ในระดับที่ ยังตัดระบบประสาทที่ทำงาน
    สัมพันธ์กับร่างกายในเวลาใช้ชีวิตปกติ
    ยังไม่ขาดดีร้อยเปอร์เซนต์

    อาการคือ ใจไปแต่กายไม่ไป
    (ปกติคิดแบบนี้ แขนจะต้องขยับไปแล้ว
    แต่เหมือนได้แต่คิด แต่ว่า แขนดันไม่ไป ประมาณนี้)
    บางคนเลยเรียกว่า คล้ายๆผีอำ
    หรือกึ่งหลับกึ่งตื่น
    แต่ทางวิทย์คือ ช่วง คลื่นความถี่
    ประมาณ ๔ ถึง ๘ Hz นั่นเองครับ
    คือ ช่วงคลื่นความถี่สมอง
    ที่มีช่วงการทำงานค่อนข้างถี่
    แต่ถ้าคลื่นหลับนั้น จะต่ำกว่า
    ๓ Hz ลงมา ซึ่งเป็นคลื่น
    พักผ่อนปกติทั่วไปครับ

    หากสังเกตุ ที่ช่วงคลื่น
    จะพบว่า เรามักจะหลับก่อน
    แล้วค่อยฝัน หรือนอนไปแล้ว
    ค่อยรู้สึกมีอาการเหมือนผีอำ
    เพราะว่า การเพิ่มคลื่นความถี่
    สมองมันง่ายกว่า การลดคลื่น
    ความถี่เป็นปกติอยู่แล้วนั้นเองครับ


    ดังนั้นความฝันมักจะมาหลังจาก
    ที่หลับไปแล้ว...พอหลับ
    ด้วยเหตุที่ช่วงนี้ มันตัดกับระบบประสาท
    หรือการควบคุมร่างกาย(แต่ไม่ร้อยเปอร์เซนต์)
    มันเลยพลิกไปสู่ในโหมดนามธรรมแทน

    พอเข้าสู่ในโหมดนามธรรม ซึ่งมันไม่ข้องเกี่ยว
    กับร่างกายนี้แล้วชั่วคราว ก็จะเป็นไปได้ว่า
    ตัวจิตมันจะเข้าไปค้นสัญญา ในตัวมันเองครับ

    ถ้ามันไปค้นเจอ เรื่องอะไร ที่มันเคยเก็บไว้
    มันก็จะผุดขึ้นมาเป็น เรื่องราวต่างๆ นาๆ
    ไม่ว่า คน สถานที่ สิ่งของ สัตว์ หรือไม่ใช่คน ฯลฯ
    แล้วแต่ว่า ช่วงเวลานั้น มันจะค้นไปเจอเรื่องอะไรก่อน
    สมมุติ เมื่อค้นเจอเรื่อง B แล้วปรุงแต่งเรื่อย
    เป็นเรื่องเป็นราว จนหมดสัญญา เรื่อง B มันก็จะดับไปเลย......

    และหากว่า มันยังค้นต่อ ไปเจอสัญญาเรื่องอื่นๆ
    สมมุติว่า เรื่อง C
    แล้วดึงขึ้นมาอีก เราก็จะฝันไปเรื่อง C นั้นทันที
    ซึ่ง เรื่อง C มันอาจจะเป็น คนระเรื่อง
    และไม่มีความเกี่ยวเนื่อง
    อะไรกับ เรื่อง B เลยก็ได้
    บางคนเรียกกรณีนี้ว่า ฝันเรื่อยเปื่อย

    ส่วนที่บอกว่า เพราะธาตุพร่อง
    เทพสังหรณ์ หรือ เก็บเรื่องราวที่ผ่านมา
    ในระหว่างวันมาคิด หรือ ความเครียด
    หรือเก็บเรื่องราวในอดีตมาคิด ฯลฯ
    พวกนี้ถ้าสังเกตุดีๆ ก็เป็นการสร้างสัญญา
    ขึ้นมาเก็บไว้ในจิตเราเหมือนกัน
    หลักการที่ จะทำให้เราฝันเป็นเรื่องราว
    ต่างๆได้ก็คล้ายๆกันนั่นเองครับ

    ส่วนทางปฏิบัติ ความฝันบอกอะไรเราได้บ้าง
    ๑.ถ้าเราลืมตาแล้วไม่รู้อะไร หรือ
    ไม่รู้เรื่องราวอะไรในระหว่างที่ฝัน
    มันฟ้องว่า กำลังสติทางธรรมเรายังไม่พอ
    ให้แก้ด้วยการมาเจริญสติให้ต่อเนื่องเพิ่มขึ้น
    เด่วอนาคตจะสามารถย้อนรู้ วัตถุประสงค์
    ที่ทำให้เราฝันเรื่องแบบนั้นได้อัตโนมัติของมันเอง

    ย้ำว่า อย่าไปเน้นว่า สิ่งที่เห็นคือ อะไร
    ให้เน้น ตรงวัตถุประสงค์ ว่า ทำไมเราถึง
    ฝันเป็นเรื่องนี้ ถึงจะมีประโยชน์ในทางปฏิบัติครับ
    เพราะถ้ามัวไปคิดหาคำตอบว่า คืออะไร
    นอกจากจะขวางการปฏิบัติของเราแล้ว
    ยังสร้างความยึดติดทางนามธรรม
    ให้เราได้อย่างไม่รู้ตัวครับ


    ๒. ถ้าเราฝันซ้ำ ต่อจากเรื่องที่เคยฝันไปแล้ว
    มันฟ้องว่า ตัวจิตกำลังยึดติด หลงนามธรรม
    อย่างไม่รู้ตัว ให้แก้ด้วยการ ระลึกตัวในความ
    ฝันให้เร็วแล้วก็ดับมันซะ ไม่งั้นอนาคต
    อาจจะ ทำให้ สติ สัญญา แปลกประหลาด
    หรือวิปลาสได้ครับ

    ๓. เราสามารถฝึกสร้างกำลังสติทางธรรม
    จากความฝันได้. ด้วยการถ้าเรื่องมันจบแล้ว
    อย่าพึ่งลืมตา แต่ให้ระลึกเรื่องราวในฝันให้ได้
    จะเป็นการสร้างกำลังสติไปในตัว
    แต่ถ้าหากลืมตาแล้ว ให้ลืมไปเลย
    นึกว่า ไม่เคยเกิดขึ้นกับเราครับ
    เพราะถ้าไปคิด ยิ่งคิดจะนึกไม่ออก
    จะกลายเป็นการปรุงแต่งรอบสองได้ครับ

    ๔. ดีสุดคือ จะฝันเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าลืมตาแล้วไม่รู้
    หรือไม่รู้เลยในฝัน ถ้าเกี่ยวกับคนก็อุทิศส่วนกุศลไปก่อน
    ถ้าไม่เกี่ยวก็ให้ ลืมไปเลยครับ.
    และระวังเกี่ยวกับการ ฝันเห็นอนาคตล่วงหน้าให้ดี
    อย่าเผลอไปยึด เพราะจะทำให้หลงตัวเองได้ง่ายๆ
    เพราะ มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนแม้ไม่เคยฝึกอะไรมา
    กว่าจะพัฒนาไปถึงระดับที่เชื่อได้ เปลี่ยนแปลงได้
    ต้องย้อนฝันอนาคตกลับมาจากหลักปีมาเป็นวันได้ก่อน
    มันก็จะเพิ่มไป วันไปปีได้เอง ถึงตรงนี้ พอเชื่อถือได้ครับ
    ถ้ายึด ช่วงที่เวลามันกำลังจะถอยกลับมา
    จะเป็นอันตรายและหลงตัวเองได้อย่างไม่รู้ตัวครับ....

    ๕. สุดท้าย ให้จำเอาไว้ว่า เราอาจจะเห็นภาพนั้น ในความฝัน
    ได้ด้วยตาเปล่าๆก็ได้ แม้ว่าเราจะลืมตาแล้ว
    ให้ระลึกเสมอว่า มันเป็นเพียงกิริยาคงค้าง
    ที่สืบเนื่องมา จากความฝัน มันเป็นเรื่องปกติ
    ธรรมดามากๆ ที่เกิดขึ้นได้ทั่วๆไปเท่านั้นเองครับ.....

    ปล. แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  5. เพ็ชร คมปภ้สษ์

    เพ็ชร คมปภ้สษ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2019
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +11
     
  6. เพ็ชร คมปภ้สษ์

    เพ็ชร คมปภ้สษ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2019
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +11
    ขอบคุณครับ ถ้ายังไงในช่วงที่เราเกืดตายขึ้นมาช่างที่ฝันไม่ดีเราก็จะไปภพชาติที่ไม่ดีใช่ไหมครับ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ใช่ครับ จะมาในลักษณะอุคหนิมิต
    เค้าถึงให้สร้างความดี
    หรือหาสิ่งดีๆเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวไว้
    นั้นหละครับ เพราะถ้าสังเกตุนะ
    ก็คือตัวสัญญาอย่างหนึ่งเหมือนกันครับ
     
  8. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    เรื่องชาติหน้าต้องศึกษาเรื่องโลกวิญญาณอีกทีครับ
    ฝันเป็นแค่บอกไทม์ไลน์ว่าจิตเราผูกพันกับใครยุคไหน ต้องพิจารณาที่กฎหลายๆ กฎอีกที ปรุงแต่งไว้ว่าไงมั่ง สุดท้ายขึ้นกับเจ้าที่ใครแรงครับก็ตามคนนั้น
     
  9. เพ็ชร คมปภ้สษ์

    เพ็ชร คมปภ้สษ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2019
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +11
     
  10. เพ็ชร คมปภ้สษ์

    เพ็ชร คมปภ้สษ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2019
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +11
    ถ้าเป็นแบบนี้ความฝันที่ชัดเจนมากๆก็เป็นสิ่งที่บอกเหตุได้สิครับ
     
  11. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ความฝันพระพุทธเจ้าแบ่งไว้ 4 ประเภทคือ

    1.กรรมนิมิต=ผลกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อนให้ผล
    2.จิตนิวรณ์=จิตของเราพะวงหรือคำนึงถึงสิ่งใดหรือฝังจิตฝังใจกับสิ่งหนึ่งสิ่งใดมากเกินไป
    3.เทพสังหรณ์=เทพเจ้า เทวาอารักษ์ ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรูกับเรามาดลจิตดลใจ
    4.ธาตุกำเริบ=คนที่กินอาหารมากผิดปกติ ผิดความต้องการของร่างกาย ผิดกาล ผิดเวลา
     
  12. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    ครับเป็นลางสังหรณ์ได้ แบบผมเคยฝันน้ำท่วมสมจริงมากผ่านมา 20 กว่าปีท่วมแค่เข่า เจ้าที่ดีครับ
     
  13. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,111
    ค่าพลัง:
    +3,402
    เช่นเชื่อพญายมก็ฝันต่อคิวรับโทษ เชื่อพระเจ้าก็ฝันบินได้ เชื่อเทคโนโลยีเข้าเครื่องอวตาร เชื่อพระอินทร์ก็รอคิวบนสวรรค์มาเกิด ขึ้นอยู่กับความเชื่อแล้วหลังๆ ผมเป็นอิสระแล้วมั้ง อย่าเลียนแบบนะควรเลือกเชื่ออันใดอันหนึ่งไม่งั้นเพี้ยนไม่รู้ด้วย
     
  14. แค่พลัง

    แค่พลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    2,792
    ค่าพลัง:
    +1,565
    ผมรู้สึกตัวในฝันบ่อย ๆ และผมเป็นคนซนสั่งตัวเองในผันให้ทำนี้ทำนั่น บางครั้งร่างกายยังไม่ตื่น
    จิตดันตื่นก่อน รู้สิ่งแวดล้อมภายนอกทุกอย่างแต่ตื่นไม่ได้ แล้วก็มีอะไรเวี่ยงๆ ลงไปเหมือนตกเหว
    ชีวิตจริงไม่เคยตกนะ ฮ่าๆ ก็ไม่อยู่ในฝันต่อ และก็มารู้สึกตัวจนสะดุ้งตอนจะถึงแสงสว่างที่ปลายทาง
     
  15. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
     
  16. ใครบรรลุธรรม

    ใครบรรลุธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2018
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +268
    NOPPAKAN..ส้นTEEN..ไอ้รั่ว ไบโพลา มึงเป็นดาว์ซินโดรมด้วยนะนี่ ไปเอาตำราวิทยาศาสตร์ เอาพลังงาน-คลื่นความถี่-กระแสไฟฟ้ามั่ง-มาผสมปนเป เทียบเคียง แล้วมาบรรยาย พุทธศาสนา-นามธรรม มันก็เท็จ-ปนจริงจากตำรามั่งนิดหน่อย-แต่มันคนละเรื่อง ไอ้รั่ว ไบโพลา..ไปแดกยาไปปปปปปปปปปปป.
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035


    พ้นวันพระมา อาการกำเริบ ทันที... ^_^
    ไม่มีการแสดงธรรม ให้ความรู้อะไร
    เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ เข้ามาก็ด่าเลย...

    ยาเม็ดควรทานน้ำตามเยอะๆ
    ยาประเภทน้ำอย่าลืมเขย่าขวดก่อนรับประทานครับ
    ตับ หัวใจ สมองซีกซ้ายไม่ค่อยดี
    ควรอยู่ในความดูแลของลูกๆนะครับ
    ด้วยความปรารถนาดี.... ^_^
    อายุมากแล้ว ไม่ใช่เด็ก เข้าใจเนาะ... ^_^


    เชิญพิจารณา อาการ ตัวเองนะครับ
    ถ้าอ่านไม่เข้าใจ ก็ให้ลูกๆ มาอ่าน
    หรือให้เพื่อนๆ มาอ่านนะครับ
    พอเข้าใจครับ ว่าคนที่เป็น
    มักจะไม่รู้ตัวเอง... ^_^



    https://palungjit.org/threads/ช่วยสวดภาณยักษ์-ไล่-สมาธิ-ไบโพลา-หน่อยครับ.672319/







    https://palungjit.org/threads/กลุ้มใจครับ-ปฏิบัติธรรมมาตั้งหลายสิบปี-อยากตาย-กลุ้มใจจริงๆๆๆ.672801/








    ผลที่ได้จากการปฎิบัตินั่นหละครับ จะบอกสิ่งตนเป็น
    เช่น ลักษณะนิสัย ความเข้าใจทางธรรม
    ความสามารถทางสมาธิ ความยึดมั่นถือมั่นตัวตน
    ความพยายาท อาฆาฑ ผูกใจเจ็บ
    การล่วงละเมิด การขาดความยับยั้ง
    การไม่รู้ผลที่เกิดขึ้นกับตน ณ ปัจจุบันนี่หละครับ

    เพราะปฎิบัติ แบบคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ตีความ
    และยึดแบบสุดโต่ง ก็เป็นอย่างที่เห็น นี่หละครับ


    สมาธิผิดทาง สร้างปัญหา
    ปริยัต อาพาธ
    ปฏิบัติ อาเพศ
    ปฏิเวธ จึงอาภัพ
    สติ ทิฐิ สัญญา
    จะวิปลาส
    แบบไม่รู้ตัว.....^_^

    ปล. สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ^_^

     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    โอม มโนมายุกยิกจงมา จงมา...มาแว้ว..

    อ้าวนึกว่าสมองพาฝันนะเนี่ย ความทรงจำมันอยู่ในสมอง ไม่ไช่หรือ
    เอ ต้องมาวิปัสสนึก อีกรอบ....นึก นึก นึก
    นั่นน่ะสิ...จิตมันอยู่ไหน.? วิญญาณมันอยู่ไหน.? จะจับมันมาออกงานวัดซะเลย

    โอม จงเพิก จงเพิก...จงลืม...ลืม

    อ่ะฮ้า แม่สาวน้อย....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...