การเดินทางและความคิดของกาขาว (เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 19 เมษายน 2012.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เยือนถิ่นกาขาว " เวียงกาหลง " (2)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02090.JPG
      DSC02090.JPG
      ขนาดไฟล์:
      594.1 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSC02088.JPG
      DSC02088.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      74
    • DSC02089.JPG
      DSC02089.JPG
      ขนาดไฟล์:
      983.6 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSC02131.JPG
      DSC02131.JPG
      ขนาดไฟล์:
      577.6 KB
      เปิดดู:
      58
    • DSC02134.JPG
      DSC02134.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1,017.9 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSC02133.JPG
      DSC02133.JPG
      ขนาดไฟล์:
      966.1 KB
      เปิดดู:
      64
    • DSC02080.JPG
      DSC02080.JPG
      ขนาดไฟล์:
      588.3 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSC02097.JPG
      DSC02097.JPG
      ขนาดไฟล์:
      892.5 KB
      เปิดดู:
      61
    • DSC02076.JPG
      DSC02076.JPG
      ขนาดไฟล์:
      935.8 KB
      เปิดดู:
      54
    • DSC02075.JPG
      DSC02075.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1,013.4 KB
      เปิดดู:
      55
  2. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เยือนถิ่นกาขาว " เวียงกาหลง " (3)

    ตำนานถิ่นกาขาว วัดพระเกิด - เวียงกาหลง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02104.JPG
      DSC02104.JPG
      ขนาดไฟล์:
      794.4 KB
      เปิดดู:
      92
    • DSC02105.JPG
      DSC02105.JPG
      ขนาดไฟล์:
      819.2 KB
      เปิดดู:
      83
    • DSC02106.JPG
      DSC02106.JPG
      ขนาดไฟล์:
      705.5 KB
      เปิดดู:
      89
    • DSC02107.JPG
      DSC02107.JPG
      ขนาดไฟล์:
      749.1 KB
      เปิดดู:
      73
    • DSC02108.JPG
      DSC02108.JPG
      ขนาดไฟล์:
      734.9 KB
      เปิดดู:
      95
    • DSC02109.JPG
      DSC02109.JPG
      ขนาดไฟล์:
      801.4 KB
      เปิดดู:
      72
    • DSC02110.JPG
      DSC02110.JPG
      ขนาดไฟล์:
      775.9 KB
      เปิดดู:
      75
    • DSC02125.JPG
      DSC02125.JPG
      ขนาดไฟล์:
      786.8 KB
      เปิดดู:
      414
    • DSC02239.JPG
      DSC02239.JPG
      ขนาดไฟล์:
      985.7 KB
      เปิดดู:
      73
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2012
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    " ม่อนพระเจ้าหลาย "
    ถวายทองคำและพระผงจักรพรรดิฝากบรรจุในพระบรมธาตุเพื่อเป็นพุทธบูชา




    พระธาตุม่อนพระเจ้าหลาย เป็นพระธาตุที่เก่าแก่นับประมาณเป็นพันกว่าปี ไม่ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าใครเป็นคนสร้าง มีแต่ผู้คนได้เห็นพระบรมธาตุ ดวงแก้วใสสว่างเสด็จออกทุก วันโกณ วันพระ บนยอดเขาแห่งนี้

    พระธาตุม่อนพระเจ้าหลาย มีความเป็นมาสลับซับซ้อนและอัศจรรย์หลายอย่าง คนโบราณเก่าแก่เล่าต่อกันมาว่า ม่อนเขาลูกนี้มีถ้ำอัศจรรย์ ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปทองคำ ศักดิ์สิทธิ์มากมายมหาศาล พร้อมทั้งเครื่องประ ดับและของใช้สอยต่างๆของกษัตริย์ ์เจ้าเมืองในสมัยก่อน ได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ถ้ำแห่งนี้เมื่อยามบ้านเมืองมีภัยไม่สงบ พร้อมทั้งถวายไว้เป็นพุทธบูชาแก่พระบรมธาตุ เมื่อประมาณ ๑๐๐ ปีก่อน ถ้ำยังเปิดเข้า ออกได้อยู่ผู้คนยังศีลสัจจะ ผู้เฒ่าเล่าว่าเมื่อทางวัดที่อยู่ข้างล่างมีเทศกาล งานบุญต่างๆ ก็ยังสามารถยืมของใช้ในงานได้อยู่ เมื่อเสร็จงานแล้วก็ส่งคืนถ้ำเหมือนเดิม ถึงไม่มีคนดูแล แต่คนสมัยก่อนคิดว่าก็ต้อง มีผีสางเทวดาดูแลของในถ้ำอยู่ แต่ต่อมาระยะหลัง ผู้คนไม่มี ศีลสัจจะ มีความโลภมาก มักยืมของแล้วไม่ส่งคืนถ้ำเหมือนเดิม จึงเกิดอาเพศ ทำให้หิน ก้อนใหญ่หล่นลงมาปิดปากถ้ำ ตั้งแต่นั้น มาผู้คนจึงไม่มีโอกาสได้ยืมของและได้เห็นภาย ในถ้ำพระเจ้าหลายอันพิสดารแห่งนี้อีกเลย

    พระธาตุองค์ใหม่ที่จะสร้างครอบองค์เดิม ซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้าง ความสูง 49 เมตร กว้าง 25 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา ชึ่งภายในบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ที่สมเด็จพระญานสังวรสมเด็จพระสังฆราชทรงประทาน เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๕ จำนวน ๙ องค์ ที่จะอัญเชิญประจุเป็นหัวใจของพระธาตุม่อนพระเจ้าหลาย เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02229.JPG
      DSC02229.JPG
      ขนาดไฟล์:
      576.2 KB
      เปิดดู:
      49
    • DSC02220.JPG
      DSC02220.JPG
      ขนาดไฟล์:
      721 KB
      เปิดดู:
      64
    • DSC02202.JPG
      DSC02202.JPG
      ขนาดไฟล์:
      578.2 KB
      เปิดดู:
      44
    • DSC02201.JPG
      DSC02201.JPG
      ขนาดไฟล์:
      555.7 KB
      เปิดดู:
      48
    • DSC02204.JPG
      DSC02204.JPG
      ขนาดไฟล์:
      560.3 KB
      เปิดดู:
      49
    • DSC02213.JPG
      DSC02213.JPG
      ขนาดไฟล์:
      570.4 KB
      เปิดดู:
      52
    • DSC02219.JPG
      DSC02219.JPG
      ขนาดไฟล์:
      597 KB
      เปิดดู:
      49
    • DSC02248.JPG
      DSC02248.JPG
      ขนาดไฟล์:
      400.4 KB
      เปิดดู:
      55
    • DSC02232.JPG
      DSC02232.JPG
      ขนาดไฟล์:
      574.9 KB
      เปิดดู:
      63
    • DSC02223.JPG
      DSC02223.JPG
      ขนาดไฟล์:
      860.1 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2012
  4. taktay

    taktay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +338
    ทุกตัวอักษรที่ท่านได้กล่าวไว้ลึกซึ้งจริงๆ ...อนุโมทนาสาธุ
    ......เราจะพบกันที่นั่น และจะไม่กลับมาที่นี่อีก....
     
  5. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2555 ได้ไปเข้าร่วมฝึกอบรมและกิจกรรมปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์รัตน์
    ได้รับเอกสารแจกมาหลายฉบับ ซึ่งมีอยู่ 2 ฉบับที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องภัยพิบัติ
    เอกสารดังกล่าวจัดทำโดยผู้ที่เคารพเชื่อถือในพระอาจารย์รัตน์และได้ติดตามข้อมูลมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
    แต่ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา เราไม่ขอยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะตรงกับข้อมูลของพระอาจารย์รัตน์ทั้งหมด
    เพราะอาจมีการคลาดเคลื่อนจากการจดจำหรือถ่ายทอด
    ขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณเพื่อนำไปประกอบเป็นแนวทางในการเตรียมตัวอย่างไม่ตระหนก แต่ไม่ประมาท

    เอกสารฉบับที่ 1 : การเตรียมตัวรับภัยพิบัติ

    1. เตรียมหาที่หลบภัย ซึ่งควรจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 230 เมตรขึ้นไป

    2. จังหวัดที่อยู่ทางภาคอิสาน ซึ่งเป็นพวกที่อยู่ยากลำบากมาก่อน น่าจะพออยู่ได้ นอกนั้นเป็นภาคเหนือบางแห่ง

    3. ภาคกลางนั้น พระอาจารย์บอกว่า ให้เลยนครสวรรค์ขึ้นไป และไม่อยู่ใต้เขื่อน

    4. เพชรบูรณ์น่าจะเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้ เพราะอาจารย์เคยบอกว่าจะกลายเป็นเมืองชายทะเล

    5. การเปลี่ยนแปลงของขั้วโลกนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน
    อาทิเช่นสนามพลังแม่เหล็กจะย้ายจากเหนือ-ใต้ เป็นตะวันออก-ตะวันตก

    6. ถ้ามีการย้ายขึ้นจริง เราน่าจะอยู่ประมาณแนว 30 ลิบดา ซึ่งน่าจะอยู่ในโซนยุโรป หรือแคนนาดาตอนใต้

    7. ถ้าในกลุ่มของท่านสามารถหาแหล่งน้ำใต้ดินที่เป็นลักษณะการไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำได้
    ให้ติดต่อพระอาจารย์ ซึ่งพระอาจารย์มีเครื่องไล่เมฆฝนซึ่งจะทำให้บริเวณที่ท่านอยู่ฝนตกน้อยลง
    ถามว่าจำเป็นอย่างไร คำตอบคือ ถ้าเกิดแกนพลิกจริงในช่วงนั้น ฝนจะตก 3 วัน 3 คืน
    ในช่วงการเปลี่ยนจะเป็นสูญากาศซึ่งจะทำให้อะไรที่ลอบอยู่บนฟ้า เช่น ก้อนน้ำแข็งจะหล่นลงมา
    ถ้าอยู่ในที่มีก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากควันน้ำมันมาก ก้อนก็จะใหญ่ตาม กระแสไฟฟ้าก็จะไหลลงมาทำให้มีฟ้าผ่ามากขึ้น
    นอกจากนนี้จะเกิดความมืดมากๆเพราะแสงต่างๆจะถูกดูดเข้าไป เราต้องอยู่กับตัวเองให้ได้

    8. ให้เตรียมอาหารเม็ด และน้ำไว้ใกล้ตัวให้มากที่สุด เพราะเราไม่สามารถออกไปหาอาหารอื่นได้
    การทานน้อยการขับถ่ายก็จะน้อย

    9. ฝึกสมาธิให้เอาจิตไว้กับตัวให้มาก ไม่รับรู้ต่อเสียงรอบข้าง

    10. ควรเตรียมอาหารให้อยู่ได้ประมาณ 3 เดือน ฝนตกลงมาอาจจะเป็นฝนพิษได้
    เพราะโรงงานนิวเคลียร์ในโลกนี้มีมากมาย
    เมื่อไม่มีคนควบคุม กัมมันตภาพรังสีอาจรั่วไหลออกมาทำลายสภาพแวดล้อมได้

    11. หลังจากนั้นให้เตรียมเมล็ดพันธ์พืช ต้องซื้อแบบของชาวบ้านเพราะสามารถเอามาขยายพันธุ์ต่อๆกันไปได้

    12. การตุนข้าวสารนั้น ถ้าสามารถสร้างยุ้งฉางที่ป้องกันหนูได้ ก็สร้างเอาไว้เก็บข้าวสารอาหารแห้ง
    ถ้าไม่ได้ อาจซื้อข้าวที่แพคสูญญากาศ เคยทดลองเก็บไว้ได้ 2 ปีโดยไม่มีมอด

    13. ให้เตรียมเทียนไข น้ำมันพืช ซึ่งสามารถทำให้เกิดแสงสว่างได้
    พยายามนึกย้อนยุคไปสู่ยุคที่ไม่มีไฟฟ้าใช้สักระยะหนึ่ง

    14. สำหรับคนเมืองให้นึกว่าเราไปเที่ยวป่าสักระยะก็แล้วกันนะ สำคัญคือเงินไม่มีความหมาย
    เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่แบบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ของเขาของเรา

    15. พยายามคิดว่าถ้าไม่มีอะไรเหลืออยู่ หรือเหลือน้อยที่สุด เราจะทำอย่างไร อย่าพยายามยึดติดกับปัจจุบันให้มาก

    16. การหาที่อยู่ไม่ควรอยู่ใต้เขื่อนหรือเชิงเขา เพราะถ้าฝนตก 3 วัน 3 คืนไม่หยุด น้ำมากมายมหาศาลจะไปไหน
    นอกจากนั้นแผ่นดินไหว 3 วัน 3 คืน เราจะทำอย่างไรให้อยู่ได้

    17. อย่าคิดว่าตายไปเลยดีกว่า เพราะโอกาสเกิดยาก อาจเป็นหมื่นปี
    พระอาจารย์บอกให้ทำบุญให้มาก มีจิตใจที่เป็นบุญ คิดแต่สิ่งดีดี คนที่มีจิตใจดีจะรอดมากกว่าคนที่ใจบาป
    คนที่รอดจะสามารถปฏิบัติธรรมได้เห็นมรรคผลเพราะอากาศจะโล่งโปร่งเบา

    18. มีคนเคยบอกว่าก่อนเกิดเหตุ 6 เดือน ให้ทานมังสวิรัติเพราะจะทำให้เซลล์เป็นสีขาว
    ซึ่งจะรอดพ้นจากการทำลายของรังสีพายุสุริยะ ถ้าเราคาดว่าจะเกิดเดือนธันวาคมเราก็ต้องเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน


    - จบเอกสารฉบับที่ 1 -​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379

    สิ่งที่เตรียมไว้เพื่อให้รอดจาก<wbr>ภัยพิบัตินั้นยังไม่แน่ว่าจะได้<wbr>ใช้หรือไม่
    แต่สิ่งที่เตรียมไว้เผื่อว่าไม่<wbr>รอดจากภัยพิบัตินั้นยังไงก็ได้ใ<wbr>ช้แน่นอน ไม่มีสูญเปล่า



    หลวงตาม้า (ศิษย์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ) ท่านสอนว่า
    " ให้เตรียมตัวตาย ยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว จำหน้าหลวงปู่ให้ได้ก็จบ "



    สิ่งที่เป็นปัญหาทุกวันนี้ สำหรับผู้ปฎิบัติที่ไม่ก้าวหน้า นั่นคือ "ลืม"
    เหตุที่ลืมเพราะว่ามัวแต่ยุ่งกับงาน กับครอบครัว กับสิ่งรอบข้างที่เข้ามากระทบ
    สุดท้ายก็ไม่ได้สวดมนต์ ภาวนาเลย จะทำอย่างไรให้ไม่ลืม

    หลวงตาสอนวิธีกันลืมไว้ดังนี้

    1.ให้เราห้อยพระ อย่าได้ถอดพระออก
    เพราะว่าเวลาเราทำอะไรก็ตาม เมื่อเราขยับ เราจะรู้สึกว่าพระที่เราห้อยนั้นมากระทบตัว
    จะช่วยให้พวกเรามองเห็นพระอยู่เสมอ

    2.ว่างเมื่อไหร่ให้สวดมนต์
    จะได้มากได้น้อย ให้สวดไว้ก่อน
    สำหรับคนทำงาน อาจจะเป็นช่วงระหว่างเดินทาง เข้าห้องน้ำ กินข้าว สามารถสวดได้ทั้งนั้น

    3.ถ้าเราไม่มีเวลาสวดบทพระมหาจักรพรรดิได้ในรอบ 20.30 น.
    ก็ให้เราสวดจักรพรรดิ สัพเพ ซักรอบหนึ่งก็ยังดี แล้วอธิษฐานรวมบารมีเลย
    เสร็จแล้วนึกกราบพระ ทำทุกวัน ให้เป็นประจำ

    4.ก่อนหลับให้เราสวดจักรพรรดิในใจไปเรื่อยๆจนกว่าจะหลับ
    เป็นวิธีบันทึกบุญที่ดีที่สุด สำหรับคนทำงาน และมีเวลาน้อย
    ถือว่าเป็นการปฎิบัติที่เหมาะที่สุด

    5.ตื่นขึ้นมา ให้สวดจักรพรรดิ และกราบหลวงปู่

    ก่อนไปทำงานหรือทำธุระใดๆ หากอธิษฐานประกอบไปด้วยจะดีมาก

    เท่าที่กล่าวมา คือ สิ่งที่หลวงตาได้เคยแนะนำศิษย์เอาไว้
    สิ่งไหนที่ยังไม่ได้ทำ หากทำได้ขอให้เริ่มทำ
    สิ่งไหนที่ทำแล้ว ก็ขออนุโมทนาด้วย การปฎิบัติธรรม
    สามารถทำได้โดยไม่ต้องมาวัด

    หลวงตาเคยกล่าวว่า
    "ใครทำคนนั้นก็ได้ หากไม่ทำแล้วมันก็ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ที่เราเท่านั้น"


    ได้ไปกราบหลวงตาม้าและท่านได้เตือนว่าต่อไปภัยพิบัติจะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ




    เกี่ยวกับการเกิดภัยพิบัติ
    คัดลอกจาก http://www.prakammatanputtoe.com/board/board.php?id=000027

    ศิษย์ : ฝากถามหลวงตาเรื่อง ภัยพิบัติโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยครับว่าระยะเวลาเหลืออีกสักเท่าไรครับ
    หลวงตาม้า : ไม่เกิน 10 ปี
    ศิษย์ : ในประเทศไทยที่ไหนปลอดภัยบ้าง
    หลวงตาม้า : ขอนแก่นนี่แหละปลอดภัย ไม่ต้องไปไหนเลย
    ศิษย์ : (หัวเราะ) มิน่าทำไมหลวงตาถึงมาขอนแก่น
    หลวงตาม้า :
    ศิษย์ : แล้วที่ลพบุรีมีสถานที่ปลอดภัยไหมครับ
    หลวงตาม้า : มี ทั้งหมดแหละ ลพบุรีไม่เป็นอะไร
    ศิษย์ : ช่วงเวลาหลังจากภัยพิบัติเสร็จสิ้นคนบนโลกจะมีความทุกข์ยากมากไหมครับ
    หลวงตาม้า : เปล่า ปกติ
    ศิษย์ : อ้าว ทำไมครับ
    หลวงตาม้า : ไม่เกี่ยว มันก็ปกติ เมืองไทยมันปกติ ที่อื่นไม่รู้
    ศิษย์ : คือ....ผมจินตนาการไม่ออกว่า มันจะเหมือนกับที่เขาทำนายกันหรือเปล่าครับ แบบว่าโลกล้างไปเลย
    หลวงตาม้า : ไม่เป็น มันเป็นบางประเทศ เขารบกัน ประเทศเล็กๆ อย่างเราเขาไม่มอง ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาเลย ที่ว่าจะล้างหมด มันไม่ใช่ มันเป็นบางประเทศ


    ศิษย์ : เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยจะได้ลืมตาอ้าปากเสียทีครับ
    หลวงตาม้า : สามัคคีเมื่อไหร่มันก็ดีเมื่อนั้นแหละ
    ศิษย์ : สามัคคีเมื่อไหร่ ! เฮ้อ...เมื่อไหร่น้อ...

    ศิษย์ : ในอนาคตประเทศไทยจะต้องสูญเสียภาคใต้ด้ามขวานของไทยไปไหมครับ
    หลวงตาม้า : หายไปในทะเล
    ศิษย์ : ภายในกี่ปีครับหลวงตา
    หลวงตา : ประมาณ 5 ปี

    ศิษย์ : คือเวลาที่จมนี่ ค่อย ๆจมหรือจมไปทีเดียวเลยครับ
    หลวงตาม้า : บางส่วนก็จมไปเลย เดี๋ยวนั้นเลย เกิดจากแผ่นดินไหว
    ศิษย์ : งั้นมาเลย์ก็จมไปด้วย
    หลวงตาม้า : ที่สูงหน่อยหน่อยก็เป็นเกาะ
    ศิษย์ : คือก่อนเกิดแผ่นดินไหวสัก 4-5 เดือน มีสัญญาณไหมครับ คือคนเขาจะได้อพยพขึ้นมา
    หลวงตาม้า : ดูว่าทุกปีมันท่วมไหม ปีหน้ามันจะท่วมอีกไหม
    ศิษย์ : แสดงว่าภายใน 2-3 ปี ก็ต้องมีคนเริ่มอพยพขึ้นมาแล้ว
    หลวงตาม้า : แผ่นดินก็สะเทือนบ่อย ไหวบ่อย
    ศิษย์ : คนจะตายเยอะไหมครับ
    หลวงตาม้า : เป็นล้าน


    พลังภูติพระเจ้าในพระบรมสารีริกธาตุ
    ศิษย์ : พลังภูติพระเจ้ามีอยู่ในพระบรมสารีริกธาตุจึงทำให้เสด็จไปใหนมาใหน ได้เมื่อถึงวาระสมควรการใช้พระผงจักรพรรดิ์แผ่บุญจะอัญเชิญน้อมนำพลังมา สงเคราะห์ปรับภพภูมิได้หรือไม่
    หลวงตาม้า : คือพลังงานของพระอรหันต์ ของพุทธะที่แล้ว ๆมา เป็นพลังงานที่รวมแล้ว เหมือนบัญชีที่ปิดแล้ว
    ศิษย์ : แต่ก็ยังมีพลังอยู่
    หลวงตาม้า : มีอยู่แต่ต้องใช้พลังงานของพระโพธิสัตว์เป็นตัวนำ ตัวดึง เป็นตัวเชื่อมน้อมเข้ามา คือท่านไม่มีกระแสในการข้างหน้า ตัดอดีตอนาคตแล้ว ไม่เหมือนกระแสของพระโพธิญาน
    ศิษย์ : อย่างพลังงานของพระธาตุพระสิวลี ถ้าจะนำมาใช้ในทางโชคลาภให้ได้ผลจริง ๆ ต้องทำอย่างไรครับ ต้องดึงกระแสหรือจุดกระแสอย่างไร
    หลวงตาม้า : กระแสพวกนี้มันอยู่ที่เรา เป็นกระแสเราเอง เหมือนกับเรามีเงิน ในบัญชีเราก็สามารถเบิกมาใช้ได้ ถ้าเราไม่มีเราก็เบิกอนาคตมาใช้ได้
    ศิษย์ : เบิกอนาคตมาใช้ได้ ?
    หลวงตาม้า : ได้ โดยการทำปัจจุบัน คุณไปยืมเงินธนาคาร ในปัจจุบันใช่ไหม มาใช้ในอนาคตหรือเปล่า การทำธุรกิจยืมเงินมาใช้ในอนาคตใช่หรือเปล่า ดังนั้นคุณต้องมีสัจจะ คุณต้องรู้ว่าคุณนำมาใช้อะไร ใช้เพื่ออะไร


    ศิษย์ : ด้วยเหตุนี้ที่เขาบอกว่ากระแสของโพธิญานจะโน้มนำพลังงานได้ง่าย ด้วยสัจจะหรือปณิธานตรงนี้นี่เอง
    หลวงตาม้า : ใช่ กำลังมันมี ธุรกิจจะเป็นโลกหรือว่าธรรมก็ต้องใช้อดีตเหมือนกัน เพิ่มที่ปัจจุบัน เพื่อเป็นอนาคต สังเกตุครูบาอาจารย์ที่ท่านเกิดมา ท่านเกิดมาใช้บุญไหม เกิดมาก็ทำเลย เรายังต้องมาใช้ เบิกมาใช้อยู่ แล้วบางคนใช้แล้วไม่ได้ทำด้วย ทำธุรกิจอะไรไม่นานก็เจ้งต่อให้เก่งขนาดไหน

    ศิษย์ : คือต้องไม่ประมาท ต้องทำตลอดใช่ไหมครับ
    หลวงตาม้า : ใช่ เรารู้ไหมว่าอนาคตเราจะไปไหน
    ศิษย์ : มันอยู่ที่ปัจจุบัน
    หลวงตาม้า : ถูก มันอยู่ที่ปัจจุบัน คุณวางอนาคตไว้ที่ปัจจุบัน คุณจะไปไหน คุณตายแล้วไปไหน ชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ คุณอายุเท่าไร คุณตายแล้วไปไหน พูดถึงคนทุกวันนี้ส่วนมากคนเขาไม่ได้คุยกันเรื่องนี้กัน


    เมื่อทานบารมีเต็มแล้ว
    ศิษย์ : หลวงตาครับคนที่ทำทานบารมีเต็มแล้ว จะต้องทำทานอีกไหมครับ
    หลวงตาม้า : ยิ่งเต็มยิ่งทำ เขาจะรู้ คนที่ทานบารมีเต็มนี่ เขาจะรู้ว่าทำ แล้วมีประโยชน์ไหม ที่ทำทุ่มสุดตัวนี่ไม่ใช่ พวกนั้นยังไม่รู้จักเรื่องของทาน มีเท่าไรทุ่มไปหมด
    ศิษย์ : ต้องมีปัญญาด้วย
    หลวงตาม้า : ถูก คุณจะกินขนาดไหน แล้วคนข้าง ๆคุณจะกินอย่างไร คนที่อยู่ข้างหลังเรา คือถ้าอยู่แล้วนี่เขาไม่ให้คนข้างหลังด่า
    ศิษย์ : แสดงว่าเราจะดูง่าย ๆเลย ดูจากนิสัย คนที่ชอบทุ่มสุดตัวนี่ก็แสดงว่ายัง
    หลวงตาม้า : ยัง
    ศิษย์ : ยังไม่เต็ม แต่ถ้าคนเต็มแล้ว ต้องรู้พอประมาณ พอดี
    หลวงตาม้า : เขารู้ว่าจะทำอะไร มีประโยชน์อะไร ทำแล้วมีประโยชน์ไหม ถ้าไม่มีประโยชน์แล้วทำทำไม (หัวเราะ)

    พระโพธิสัตว์บารมีเต็มที่รอคิวอยู่ที่ดุสิต สามารถลงมาจุติ ในเวลานี้ได้หรือไม่
    ศิษย์ : (คำถามฝากมา)กรณีที่พระโพธิสัตว์บารมีเต็มที่รอคิวอยู่ที่ดุสิต สามารถลงมาจุติ ในเวลานี้ได้หรือไม่ครับ ในยุคที่บ้านเมืองเดือดร้อน เหมือนสถานการณ์ในช่วงนี้ หรือว่าถ้าบารมีเต็มแล้วจะต้องอยู่ที่ดุสิต อย่างเดียวเพื่อรอคิวการลงมาเป็นพระพุทธเจ้าครับ
    หลวงตาม้า : มันไม่ได้เดือดร้อนนะ ประเทศไทยใครบอกว่าเดือดร้อน
    ศิษย์ : แบบนี้ยังไม่เดือดร้อนหรือครับหลวงตา (หัวเราะ)
    หลวงตาม้า : อืม...ไม่ถึงข้าวยากหมากแพง คือโพธิสัตว์เขาไม่อยู่หรอก เขาลงมาอยู่แล้ว ถึงเขาไม่ลงลูกศิษย์เขาก็ลง ไม่มีใครอยู่หรอก แล้วไม่ต้องกังวล หรอกว่าเมืองไทยจะเป็นอย่างไร มันไม่มากมายอย่างที่เขาว่ากันหรอก กลัวไปเอง ฝนตกมันยังตกไม่ทั่วแผ่นดินเลย
    ศิษย์ : อีกนิดครับหลวงตา เราย้อนไปตรงที่ถ้าเราเสียดินแดนทางใต้นี่ อย่างนี้เราไม่ระส่ำระส่ายหรือครับ เราเสียคนไปเป็นล้านเลยนะครับ ยังนึกไม่อกเลย ว่าจะไม่ระส่ำระส่ายอย่างไง
    หลวงตาม้า : จะระส่ำระส่ายตรงไหน
    ศิษย์ : อย่างน้อยก็คนอพยพน่ะครับ
    หลวงตาม้า : ภาคใต้มีข้าวไหม
    ศิษย์ : ไม่มีครับมีแต่ยาง แล้วคนที่อพพยพมานี่นะครับ จะมีการแย่งที่ดินหรือทรัพยากรอะไรต่าง ๆ ไหมครับ
    หลวงตาม้า : ไม่มี มันน้อย แผ่นดินมันจะงอกมาทางนี้(ทางเหนือ : ผู้เขียน)
    ศิษย์ : อ้อ...ก็ยังมีแผ่นดินรองรับอีก ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  7. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2555 ได้ไปเข้าร่วมฝึกอบรมและกิจกรรมปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์รัตน์
    ได้รับเอกสารแจกมาหลายฉบับ ซึ่งมีอยู่ 2 ฉบับที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องภัยพิบัติ
    เอกสารดังกล่าวจัดทำโดยผู้ที่เคารพเชื่อถือในพระอาจารย์รัตน์และได้ติดตามข้อมูลมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
    แต่ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมา เราไม่ขอยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะตรงกับข้อมูลของพระอาจารย์รัตน์ทั้งหมด
    เพราะอาจมีการคลาดเคลื่อนจากการจดจำหรือถ่ายทอด
    ขอให้ท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณเพื่อนำไปประกอบเป็นแนวทางในการเตรียมตัวอย่างไม่ตระหนก แต่ไม่ประมาท

    เอกสารฉบับที่ 2 : การเตรียมตัวรับภัยพิบัติ

    คำถามที่ว่าแล้วแต่ละคนจะเตรียมตัวอย่างไรนั้น พระอาจารย์รัตน์ รัตนญาโณ ท่านว่า
    ขอให้ทุกคนจะทำอะไรก็ตาม คิด พูดและทำแต่สิ่งที่ดีและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
    หากมีสิ่งที่ดีๆเรื่องใดยังไม่ได้ทำ ยังไม่ได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ
    อย่าได้ผลัดวันประกันพรุ่ง จงรีบลงมือกระทำในทันทีเท่าที่สามารถกระทำได้
    ถ้าจะมีภัยพิบัติใดๆเกิดขึ้นจริงๆเกิดขึ้น
    ซึ่งท่านพระอาจารย์ว่าต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแต่วันเวลาเท่านั้นยังไม่แน่นอน
    เมื่อวันเวลานั้นมาถึง หากเกินวิสัยที่จะป้องกันได้ หรือจวนตัวไม่สามารถจะหนีได้
    หรือไม่สามารถทำอย่างอื่นได้แล้ว ก็ให้นึกถึง "มรณนุสติ" ไว้ตลอดเวลา

    ขอนุญาตขยายความ : นั่นคือ ณ เวลาในขณะนั้น
    ให้นึกถึงว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา คนทุกคนที่เกิดมาย่อมต้องตายทุกคน
    ให้นึกถึงคุณความดีที่เราเคยมีส่วนร่วมกรทะหรือได้เคยลงมือกระทำเพื่อใช้เป็นพลวปัจจัย
    เป็นแรงอาสันนกรรมนำส่งไปสู่สุคติภูมิที่มีความสุขสมบูรณ์มากกว่าในชาติภพปัจจุบัน
    ต้องพยายามคุมสติสัมปชัญญะให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
    ไม่ต้องไปกังวลเรื่องอื่นใดอีกแล้ว ไม่ต้องไปห่วงทรัพย์สมบัติใดๆ
    แม้แต่คนที่เรารักที่สุด เพราะ ณ เวลานั้น เมื่อเราไม่สามารถช่วยตัวเองได้แล้ว
    ความห่วงใยใดใดก็ตาม ไม่ว่าทรัพย์สิน หรือพ่อแม่/สามีภรรยา/ลูกหลาน มีแต่จะทำให้จิตตกต่ำ
    มีความกระวนกระวาย มีจิตฟุ้งซ่านก่อนตาย ท่านต้องไปทุคติภูมิแน่นอน


    ซึ่งเรื่องนี้พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก ท่านพร่ำเตือนผู้ไปปฏิบัติธรรมกับท่านเป็นประจำว่า
    ในยามวิกฤติ เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ ให้รีบเข้าสมาธิจิตให้ได้
    ให้จิตจดจ่อกับคำภาวนาอะไรก็ได้ นึกอะไรไม่ออกก็ใช้คำว่า " พุท-โธ " ทุกลมหายใจเข้าออก
    เพื่อให้จิตมีความสงบระงัล ปล่อยวางทุกสรรพสิ่งแล้วท่านจะไปดีแน่นอน
    ให้คิดว่าเรากำลังจะไปในสถานที่ที่มีความสุขสมบูรณ์ยิ่งกว่าในปัจจุบัน

    ดังนั้นเราควรเตรียมความพร้อมในการรับมือกัยภัยพิบัติทางธรรมชาติตลอดเวลาในช่วงปลายปี 2012 - ต้นปี 2013
    ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้นอย่างน้อยที่สุด เราทุกคนต้องมีถุงยังชีพใส่อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยาประจำตัว เครื่องนุ่งห่ม
    ต้องให้สามารถดำรงชีวิตให้อยู่ได้อย่างน้อยที่สุด 3 - 5 วัน
    หากมีภัยพิบัติในช่วงสั้นๆจะไม่ได้รับความเดือดร้อนมากนัก
    แต่ถ้าในช่วงใกล้เวลาเกิดภัยพิบัติร้ายแรงและมีผลต่อเนื่องยาวนาน
    ท่านอาจต้องเตรียมเสบียงอาหารและปัจจัย 4 ให้มากพอสำหรับทุกคนที่จะอยู่ร่วมกันกับตัวท่าน
    ต้องกักตุนเผื่อไว้สัก 3 - 4 เดือน ท้ายที่สุดขอให้ทุกท่าน อย่าได้ประมาทในภัยพิบัติที่จะต้องเกิดขึ้นในอนาคต
    ขอให้เตรียมความพร้อมในทุกขณะ หากป้องกันเรื่องใดได้ อย่าได้ละเลยหรือเพิกเฉย
    ทรัพย์สินเงินทอง หลักทรัพย์สำคัญ จัดให้เป็นหมวดหมู่ สำหรับหยิบฉวยติดตัวไปได้โดยง่าย
    ในยามเกิดภัยพิบัติจะได้ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาอีก

    บอกกล่าวกันไว้ล่วงหน้าไม่ว่า,กหลาน/ญาติมิตร/บิดามารดา/คู่สมรส
    หากในเวลามีภัยพิบัติไม่ต้องกลับเข้าไปในเขตภัยพิบัติ
    แต่ขอให้ทุกคนไปพบกันในสถานที่ที่นัดหมายที่อยู่ห่างไกลกับจุดที่เกิดภัยพิบัติ
    ต้องหาจุดนัดพบที่มีความปลอดภัยมากที่สุดของครอบครัวท่าน
    จุดหมายปลายทางของครอบครัวใด อยู่ที่ไหน ให้ไปยังสถานที่นั้นๆเป็นสำคัญ
    และสถานที่ดังกล่าวที่จะใช้เป็นสถานที่อาศัยนั้นต้องไม่ลืมเตรียมการสร้างแท๊งค์เก็บน้ำ
    เครื่องกรองน้ำ เสบียงอาหาร อาหารกระป๋อง อาหารแห้งให้มากพอสำหรับทุกคนสัก 3 - 4 เดือน
    เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค หรือยาประจำตัวของแต่ละคน
    ต้องเตรียมสำรองไว้รับประทานให้พอเพียงสัก 3 - 4 เดือน เช่นเดียวกัน
    ต้องสะสมเมล็ดพันธ์พืชผักผลไม้ไว้หลายสิบชนิด เพื่อจะมีพืชผักและผลไม้ที่หลากหลายไว้บริโภคในยามมีภัยพิบัติ
    อย่าลืมเสริมด้วยการปลูกพืชสมุนไพรที่เป็นตัวยาในการรักษาโรคต่างๆด้วย
    ขอให้ท่านฝึกฝน ทำการทดลองปลูกให้เป็นปกติตั้งแต่บัดนี้ เพื่อเรียนรู้และปรับปรุงบำรุงรักษา
    ในยามมีภัยพิบัติมาถึงในอนาคต จะได้ไม่ต้องพึ่งพิงปัจจัยนอกที่อยู่อาศัยมากนัก
    ไม่ว่าตลาดหรือร้านค้าก็อาจไม่มีอาหารหรือปัจจัย 4 จำหน่ายในช่วงเวลานั้นๆ
    แต่ถ้าไม่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น ท่านก็ไม่เสียประโยชน์จากสิ่งที่ท่านปลูกไว้บริโภค

    - จบเอกสารฉบับที่ 2 -​
     
  8. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    พระท่านว่า...

    "ขอให้ไม่มีอนาคต ขอให้หมดเนื้อหมดตัว ขอให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด"


    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=wGfVGGpL9M4"]พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ - YouTube[/ame]



    "ขอให้ไม่มีอนาคต ขอให้หมดเนื้อหมดตัว ขอให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด"

    ไม่ได้เป็นการสาปแช่ง แต่เป็นการให้พรของพระ
    ท่านว่าขอให้ไม่มีอนาคตนั่น<wbr>คือท่านให้มีสติรู้อยู่แค่ป<wbr>ัจจุบัน
    ขอให้หมดเนื้อหมดตัวหมายถึง<wbr>ท่านให้เราละวางทุกสิ่งแม้แ<wbr>ต่ขันธ์ 5 คือร่างกาย
    ส่วนขอให้ไม่ได้ผุดได้เกิดก<wbr>็คือ ท่านให้เรานิพพานสิ้นภพจบชา<wbr>ติไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตา<wbr>ยเกิดอีก



    http://phraprasong.org/


    [​IMG]



    อาจารย์เซ็น ให้ประเด็นพร ไว้ตอนหนึ่ง
    พรตะลึง เมื่อได้ฟัง ท่านทั้งหลาย
    ขออย่ามี อนาคต หมดทุกราย
    ขอเมื่อตาย อย่าได้ผุดได้เกิด กำเนิดนา

    ขอให้หมดเนื้อ หมดตัว น่ากลัวนัก
    คนฟังชัก ใจแป้ว แล้วสิหวา
    ที่แท้ให้คิด ชีวิตจัด เป็นปรัชญา
    อันพจนา ขอข้อนี้ ต้องตีความ

    หนึ่งควรรู้ ให้อยู่จัด เพียงปัจจุบัน
    สองตายนั้น เกิดทำไม ให้ทุกข์หาม
    สามหมดตัว อัตตา พยายาม
    ถ้ามีตัว ก็ก้าวข้าม มารไป ไม่ได้เลย..

    พรวันเกิด ก็เตลิด ตะลีตะลาน
    พรสะท้าน ให้พ่อตาย ลูกตาย หลานตายเฉย
    ความหมายคำ ตายตามลำดับ จับมาเอ่ย
    ลูกตายก่อนเลย พ่อตายทีหลัง เศร้าจังแก

    องค์พุทธะ ถูกประณาม จากพราหมณ์โฉด
    ด่ากล่าวโทษ พุทธองค์ จึงทรงแก้
    แปลงคำด่า เป็นพวงมาลา ไม่ร้อนแล
    ดั่งทองแท้ ไม่ละลาย แม้ไฟลน

    เขาด่าว่า พุทธานี้ ไม่มีรส
    ด่าตถาคต ว่าเผาผลาญ การกุศล
    ด่าพุทธะ ว่าเกลียดดะ ทั่วสกล
    ด่าพระทศพล ไม่เกิดผุดขาด สูญชาติไป ฯลฯ

    เราละเรื่อง รูปรสสิ้น ไม่ติดกลิ่นเสียง
    เราเกลียดเพียง กายวาจาใจทุจริต จิตแจ่มใส
    เราเผาผลาญ ทุจริต ในจิตได้
    เราจึงไม่เกิดต่อไป เรานิพพาน..
    --------------------------<wbr>-----------

    ศ. สียวน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2012
  9. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    แผนการรับภัยพิบัติที่ดีนั้นคือแผนที่ยืดหยุ่นพอที่จะรับได้ทั้ง 3 สถานการณ์
    คือทั้งกรณีเกิดมหาภัยพิบัติรุนแรง ทั้งกรณีเกิดภัยพิบัติระดับปานกลางถึงระดับไม่รุนแรง
    และสุดท้ายที่กังวลกันมากๆคือกรณีไม่เกิดภัยพิบัติ

    โจทย์สำคัญ คือ เราจะสามารถคิดแผนรองรับสถานการณ์แบบนี้ได้หรือไม่

    แผนประเภทที่ว่า " ลาออกจากงาน ขายทรัพย์สินทิ้ง เพื่อหนีตาย"
    แผนประเภทนี้นั้นพอภัยพิบัติไม่เกิดก็อยู่ไม่ได้ จนต้องตั้งคำถามกันว่าจะอยู่อย่างไร
    แผนประเภทนี้ใช้ไม่ได้ และเป็นที่มาของการคัดค้านและถกเถียงกันอย่างมาก

    แผนการประเภทที่ว่า " ลาออกจากงาน ขายทรัพย์สินทิ้ง เพื่อหนีตาย "
    รวมถึงแผนอื่นใดก็ตามที่หากภัยพิบัติไม่เกิดแล้วต้องอดตายหรืออยู่ไม่ได้
    แสดงว่าแผนดังกล่าวนั้น ต่อให้มีภัยพิบัติเกิดขึ้นจริงก็ต้องอดตายหรืออยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน

    กล่าวโดยสรุป ขอให้ลองคิดในทางกลับกัน
    คือขนาดไม่มีภัยพิบัติ ถ้าอพยพไปแล้วต้องอดตาย
    แล้วหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้นจริงๆ จะอยู่ได้อย่างไรโดยไม่อดตาย



    อุปสรรคสำคัญคือกรอบความคิด หากยังคิดอยู่ในกรอบเดิมๆ บางทีก็ติดอยู่ในกรอบนั้นเอง
    คำว่า " มนุษย์เงินเดือน " นั่นล่ะเป็นกรอบความคิดที่เป็นอุปสรรค
    พูดอีกอย่างคือความคิดของเรานั่นเองที่เป็นอุปสรรค
    ชวนให้คิดว่า คำว่า " มนุษย์เงินเดือน " นั้นมีความหมายอย่างไร
    ใช่คำว่า "มนุษย์เงินเดือน" หรือไม่ที่เป็นอุปสรรค
    แล้วเราจะออกจากกรอบนี้ได้อย่างไร

    บางคนก็อาจว่าก็เราไม่ได้รวยมีเงินมากมายนี่ จะได้เลิกเป็นมนุษย์เงินเดือน
    หากคิดแบบนี้ก็อาจเรียกว่า ตกหลุมพราง
    ยังไม่สามารถออกจากกรอบได้ เพราะยังแก้ปัญหาอยู่ในกรอบของ เงิน


    หากไม่ออกจากกรอบแบบเดิมๆ ก็อาจแก้ปัญหาไม่ได้
    ถ้าหลุดจากกรอบความคิดของมนุษย์เงินเดือนได้ อะไรๆก็คงง่ายขึ้น
    ถ้าใครเคยได้อ่านหนังสือ ชุดพ่อรวยสอนลูก เล่มที่ 2
    “Cashflow Quadrant” หรือ “เงินสี่ด้าน” ของ Robert T. Kiyosaki
    ได้กล่าวไว้ว่า คนในโลกแบ่งตามที่มาของรายได้ที่เขาได้รับออกเป็น 4 ด้านคือ

    [​IMG]

    หนังสือเล่มดังกล่าวบอกว่า...
    คนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนหรือลูกจ้างก็มักจะทำอะไรอยู่ในกรอบความคิดแบบลูกจ้าง

    แต่การรับมือกับมหาภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น
    ไม่อาจใช้ทฤษฎีของ " พ่อรวยสอนลูก "
    แต่ต้องใช้ทฤษฎีของ " พ่อหลวงสอนลูก "

    พ่อรวยสอนลูกให้ออกจากกรอบความคิดทางการเงินแบบ E และ S
    เพื่อข้ามไปสู่ด้าน B หรือ I

    แต่พ่อหลวงสอนลูกอย่างไร ?
    มีบางคนอาจตีความว่าพ่อหลวงสอนให้เราออกจากเงินทั้งสี่ด้าน
    คือไม่อยู่ในกรอบใดๆเลยทั้งสี่ด้าน
    ไม่ได้แปลว่าเลิกใช้เงิน แต่อาจแปลว่าไม่ให้ติดกับดักอยู่ในกรอบของเงินสี่ด้าน

    ปัญหาต่อมา้คือเราจะประยุกต์ทฤษฎีของพ่อหลวงสอนลูกอย่างไรให้เป็นรูปธรรม
    เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมรับภัยพิบัติ
    ก่อนที่เราจะไปคิดขยายความเรื่องนี้ อยากยกเกมส์ลากเส้นมาให้ลองพิจารณา


    นี่คือโจทย์แบบคลาสิคที่หลายคนอาจเคยลองเล่นแล้ว
    ให้ลากเส้นผ่านจุดทั้ง 9 จุดในภาพด้านล่างนี้
    โดยมีกติกาว่า ให้ลากเส้นตรงได้เพียง 4 เส้นเท่านั้น และห้ามยกปากกา


    [​IMG]





    ตัวอย่างการแก้ปัญหา คือแบบนี้

    [​IMG]


    แต่แบบนี้ผิดกติกา เพราะต้องลากถึง 5 เส้น
    กติกาอนุญาตให้ใช้เพียง 4 เส้นเท่านั้น










    คำเฉลย

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=W07ADwmuj8A&feature=related"]if you are genius solve this - YouTube[/ame]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    วันนี้ 13 ก.ค.เวลา 14.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญจะเริ่มอ่านคำวินิจฉัย

    มีการวิเคราะห์กันว่าคำวินิจฉัยของศาลน่าจะออกมาใน 4 แนวทาง คือ
    1.ขัดมาตรา 68 และนำไปสู่การยุบพรรค
    2.ขัดมาตรา 68 แต่ไม่นำไปสู่การยุบพรรค
    3.ข้อเท็จจริงขณะนี้ยังไม่ขัดมาตรา 68 เพราะยังไม่มีการตั้ง ส.ส.ร.
    4.การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ไม่เข้าข่ายมาตรา 68 ให้ยกคำร้อง

    หลายท่านกลัวว่าจะมีการตัดสินไปในแนวทางข้อที่ 1 คือขัดมาตรา 68 และนำไปสู่การยุบพรรค
    และวิตกกังวลว่าจะเป็นเหตุให้เกิดการนองเลือดหรือสงครามกลางเมือง

    แต่ผู้เขียนขอวิเคราะห์และคาดเดาว่าโอกาสน้อยที่จะมีคำตัดสินตามข้อที่ 1
    เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะยังไม่ถูกตัดสินยุบพรรค อย่างน้อยที่สุดก็ยังปลอดภัยในช่วงเวลานี้


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2012
  11. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379

    สรุปให้ดูเข้าใจง่ายขึ้น จากที่ศาลตั้งประเด็นพิจารณาไว้<wbr> 4 ประเด็นและผลคำตัดสินคือ....
    1. มีอำนาจไต่สวนหรือไม่ -> มี
    2. แก้รธน.ทั้งฉบับได้หรือไม่ -> ไม่ได้ เพราะต้องทำประชามติ
    3. ผิดม.68 ล้มล้างฯ หรือไม่ -> ไม่ผิด เพราะข้อมูลไม่พอ
    4. ต้องยุบพรรคหรือไม่ -> ไม่ตัดสิน เพราะข้อ 3 ไม่ผิด

    [​IMG]


    แต่รู้สึกเป็นห่วงว่าเดือนสิงหาคมยังอาจมีความวุ่นวาย
    จนอาจเกิดการนองเลือด



     
  12. อธิฎฐาน

    อธิฎฐาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,610
    นองเลือดเพราะไม่ยอมปฏิบัติตามกฏหมายค่ะ
    ยังดันทุรัง
     
  13. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    โดย... หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ
    ผ่าน Facebook วันเสาร์ที่ 14 / 7 / 2555

    คนขี่รถจักรยาน...กับคนขับรถเบ๊นซ์..
    เมื่อวานนี้ผมนั่งลุ้นคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจนลืมนั่งสมาธิ ถึงนั่งก็คงนั่งตาไม่หลับอย่างแน่นอน..
    ตอนที่ศาลอ่านคำตัดสินเสร็จใหม่ๆ เล่นเอาซึมไปหมด เนื่องด้วยความรู้และการศึกษาน้อยเป็นเหตุ...
    ยิ่งเห็นภาพคนเสื้อแดง เฮ ไชโย โห่ ฮิ้วกันทั้งประเทศมันยิ่งทำให้เจ็บปวดหัวใจ
    เดินกลับมานั่งซึมที่โต๊ะทำงาน ทำหน้าเหมือน เบื่อเมีย
    แต่เมื่อมาคิด มาฟัง กูรู ผู้รู้ ที่มีอยู่มากมายในจำนวนเพื่อนเลิฟของหมอนิดแล้วค่อยใจชื้นขึ้น และเริ่มจะมองเห็นภาพชัดขึ้น
    ไม่น่าเชื่อว่า ตุลาการ ชุดนี้จะเหยียบเมฆมา อีกทั้งยังสามารถลดกระแสความร้อนแรงลงได้ระดับหนึ่ง
    เพราะ คนเสื้อ "สีแหบ" ทั้งหลายต่างโห่ร้องดีใจคิดว่าได้รับชัยชนะแล้วในครั้งนี้
    แต่หารู้ไม่ว่า กำลังโห่ร้องโหยหวนเหมือน ควายกำลังจะถูกเชือด....

    พวกเรามีบุญที่ได้..."ขี่รถจักยาน"...วาสนาเรามีเท่านี้ก็ต้อง พอใจในสิ่งที่เรามี
    เพราะพวกเราทำตามที่พ่อหลวงท่านทรงตรัสเอาไว้ในเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง
    แต่พวกเราขี่รถจักรยานอยู่บนถนน ซุปเปอร์ไฮเวย์ เป็นถนนที่ราบเรียบ
    และราบรื่นตลอดเส้นทาง ไม่มีหลุม ไม่มีบ่อ ไม่ติดขัดแต่อย่างไร
    เราทุกคนไม่ได้ทำให้อากาศเป็นพิษ เปรียบเช่นการเมืองทุกวันนี้
    พวกเราไม่มีใครทำให้บ้านเมืองเป็นพิษแต่อย่างไร
    มีแต่พวกเราทุกคนที่ต้องออกมาช่วยกันกำจัด มลพิษ ที่จะทำลายบรรยากาศของบ้านเมืองเท่านั้นจริงหรือไม่?

    เขาขับรถเบ๊นซ์....ช่างเขาเถอะ ไม่ต้องไปอิจฉา เพราะเขาต้องการอย่างนี้ เขาเลือกของเขาอย่างนี้
    แม้แต่ทางเดินพวกเขายังเลือกที่จะ...ขับรถเบ๊นซ์บนท้องนา...ท้อง ทุ่ง....ซึ่งเต็มไปด้วยหลุมและบ่อ
    แทนที่จะได้นั่งขับรถโก้โชว์บนถนน...กลับต้องลงจากรถ มาเข็นรถอย่างทุลักทุเล ผ่านหลุมข้ามทุ่ง มุ่งสู่เหวลึก
    ดูแล้วก็ขำมีเบ๊นซ์ให้นั่งแต่ไม่มีถนนให้วิ่ง แถมยังทำให้อากาศเป็นพิษ (ทางการเมือง) ไปทั่ว
    ทั้งตามท้องนาท้องไร่ คนใส่เสื้อ "สีแหบ" ต่างก็รุมล้อมลงมาช่วยเข็นช่วยลาก รถเบ๊นซ์ จนเหนื่อยรากเลือด
    เพราะเข้าใจว่า หัวหน้าไพร่ มีบุญวาสนาได้เป็นอำมาตย์
    ถ้าเข็นรถเบ๊นซ์ขึ้นจากเหวได้ บรรดา ควายทั้งหลายคงจะได้กินหญ้า
    ฮากลิ้งเลยพี่น้องทั้งหลาย ท่านว่าจริงหรือไม่?

    ณ.วันนี้ บรรดาอันธพาลทั้งหลาย กำลังหัวปั่นเหมือนจิ้งหรีดถูกปั่นหัว เหมือนปลาอยู่ในตู้
    ได้แต่ว่ายวนเวียนไปมาเท่าที่มีเนื้อที่จำกัด ขืนโดดออกจากตู้ก็ตาย หรือจะพุ่งชนตู้ก็ตาย
    ถ้าจะอยู่อย่างมีความสุข ต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว อยู่อย่างสงบเสงี่ยม
    รออาหารที่แล้วแต่คนจะโยนมาให้เมื่อไหร่ ก็ได้เท่านั้นตามนั้น ดูแล้วก็น่าสงสารกว่าหมาจรเสียอีก
    เพราะหมาจรมันยังมีอิสระมากกว่าปลาที่อยู่ในตู้ หมาจรจะวิ่งเล่นไปไหนก็ได้ทั้งนั้น

    แต่โดยสันดาน...ของผู้ไม่ยอมแพ้ จากปลาตู้จะเปลี่ยนเป็น "หมา" ในอีกไม่นานนี้
    ไม่ได้เป็นหมาพันธุ์ดีแต่อย่างไร สิ่งแวดล้อมต่างๆจะทำให้มันกลายพันธุ์ เป็นหมาหมู่
    และจะสู้แบบ หมาจนตรอก โดยเอาสีข้างเข้าถู พวกมันจะไม่ยอมรับคำตัดสินใดๆทั้งสิ้น
    พวกมันจะเอาประเทศและประชาชนเป็นตัวประกัน มันจะท้าทายขบวนการศาลสถิตย์ยุติธรรม
    เพราะพวกมันมีคนที่เป็นใหญ่ในบ้านเมืองหนุนหลังอยู่เงียบๆ......?

    อีกไม่นานเกินรอ...บ้านเมืองจะร้อนระอุไปทุกหย่อมหญ้า
    แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ "กลียุค" จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    ประเทศไทยจะเหมือน หรือ คล้ายๆประเทศ ลิเบีย ตูนีเซีย อียิปต์
    ประชาชนส่วนหนึ่งจะจับอาวุธออกมาต่อสู้กันอย่างดุเดือด
    ประชาชนอีกจำนวนมากจะอพยพออกจากเมืองหลวงของประเทศ
    เจ้าหน้าที่บ้านเมืองคุมสถานการณ์ลำบาก การต่อสู้จะเป็นไปอย่างดุเดือด เลือดพล่าน
    ความสูญเสียจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เศรษฐกิจพังพินาศไปทั่ว
    ธนาคาร ร้านค้า โรงงาน บริษัทหลายแห่งจะปิดกิจการไประยะหนึ่ง
    ผู้คนจะแตกตื่นแห่ไปถอนเงินจากธนาคารจนอลม่านไปหมด
    สินค้าอุปโภค บริโภคจะถูกตักตุน และขึ้นราคา
    ไฟจะลุกไหม้หลายแห่ง หลายจังหวัด การก่อวินาศกรรมจะเกิดขึ้นหลายจุด
    จรวจอาร์พีจี จะปลิวว่อน เสียงปืนจะดังไปทั่ว สถานที่ราชการจะตกเป็นเป้าหมาย
    บ้านของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะถูกโจมตี.......และ..ฯลฯ
    เอ๊ะ...............ผมฝันร้ายไปหน่อย.................


    หมอนิด กิจจา ทวีกุลกิจ

     
  14. E22QBR

    E22QBR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +177
    ศิษย์ : เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยจะได้ลืมตาอ้าปากเสียทีครับ
    หลวงตาม้า : สามัคคีเมื่อไหร่มันก็ดีเมื่อนั้นแหละ
    ศิษย์ : สามัคคีเมื่อไหร่ ! เฮ้อ...เมื่อไหร่น้อ...

    [​IMG]
     
  15. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    การรับมือกับความตาย บางที่ก็ง่ายกว่าการพยายามที่จะมีชีวิตอยู่
    ความตายเป็นธรรมดาของชีวิต แต่น้อยคนจะเชื่อสนิทว่าสักวันตนจะตาย







     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2012
  16. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ข้อมูลที่ควรให้ความสำคัญ

    ข้อมูลจากที่เคยได้ไปอบรมกับพระ<WBR>อาจารย์รัตน์ และการอบรมมื่อวันที่ 21 -22 ก.ค.55
    ขอยํ้าอีกครั้งว่าการเปลี่ยนแปล<WBR>งทางกายภาพของโลกจนถึงขั้นเปลี่<WBR>ยนขั้วโลกใหม่
    ไม่ได้จำเพาะว่าจะ<WBR>ต้อง เกิดขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. 55 เพียงวันเดียว
    แต่สามารถเกิดขึ้นได้ ทุกวันระหว่างวันที่ 21ธ.ค.55 จนถึงวันที่ 14 ก.พ.56 (56 วัน)
    ช่วงเวลาสำคัญจะตีกรอบเหลือแค่ 3 วันคือ 21 ธค 55 , 1 มค 56 หรือ 14 กพ 56
    (ช่วงเวลาที่แคบกว่านี้ขอให้รอสัญญาณและปรากฎกา<WBR>รณ์สำคัญประกอบอีกทีซึ่งพระอาจา<WBR>รย์รัตน์ก็รออยู่
    เมื่อครบท่านก็จะประเมินได้แคบล<WBR>งกว่านี้เพื่อการเตรียมตัวที่เห<WBR>มาะสมต่อไป)และจะได้แจ้งให้ทราบ<WBR>อีกครั้ง

    ******* ขยายความการเตรียมตัวในช่วงเวลา<WBR>ดังกล่าว *******
    ในช่วงระยะเวลาวิกฤติดังกล่าวเรียกว่าคืนเดือนดับ
    จะไม่มีแสงใดๆ<WBR>ปรากฎขึ้นในโลกได้เลยเป็นระยะเว<WBR>ลา 3 วัน 3 คืนเต็ม
    แม้แสงจากดวงดาวและพระจั<WBR>นทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้
    อากาศ<WBR>หนาวเหน็บเยือกเย็นสุดประมาณ
    ถ้าคุณมีอุปกรณ์ในการจุดไฟ เช่นไฟแช็ค ไฟฉาย
    เมื่อจุดขึ้นแสงไฟจะถูกดูดกลืนใ<WBR>นทันที จะก่อไฟหรือจุดเตาถ่านก็กระทำได้ยาก
    เนื่องจากต้องเผชิญกับสภาพค<WBR>วามดันอากาศที่ไม่คงที่
    ในช่วงการปรับสมดุลแกนโลกจึงเป็<WBR>นไปได้ยากมากที่เราจะลุกไปหุงหา<WBR>อาหารหรือทำกิจกรรมใดๆ
    คงต้องนั่ง นอนอยู่ให้นิ่งเพราะต้องปรับสมดุลร่างกายให้ทนต่อสภาพความดันอา<WBR>กาศ
    และแรงโน้มถ่วงโลกที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยพร้อมๆ กัน

    a. มีเป้ยังชีพ ประจำตัวของแต่ละคนไม่ปะปนกันใน<WBR>เป้ให้มีของใช้ที่ทุกคนสามารถนำ<WBR>มาใช้ได้สะดวก
    อาหารเม็ด, อาหารแคปซูลแต่ให้พลั<WBR>งงานสูง
    กระบอกน้ำดื่มประจำตัว ยาประจำตัว(เน้นสมุนไพร)
    อุปกรณ์<WBR>ป้องกันเสียง ถุงพลาสติกสำหรับขับถ่าย
    ขวดพลาสติกเก็บปัสสาวะเป็นต้น

    b. สวมใส่เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่ใส่สบาย
    และทนต่อความหนาวเย็น<WBR>ได้ถึง -30 ถึง-50 องศาเซลเซียส
    หมวก ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงเท้าผ้าปิดจมูกหรือหน้ากากกั<WBR>นแก๊สพิษ ฯลฯ

    c. นั่งบนเตียงหรือเก้าอี้ ที่น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ทนทาน
    พร้อมเชือกเพื่อโยงกับตัวเราไม่<WBR>ให้ล่องลอยตามแรงโน้มถ่วงของโลก<WBR>
    เมื่อความดันอากาศและอุณหภูมิใน<WBR>โลกเปลี่ยนไปเราต้องเผชิญกับสภา<WBR>พเหมือนไร้น้ำหนัก
    จึงจำเป็นต้อง<WBR>มีสิ่งจับยึดไว้ หรือมีเข็มขัดรัดไว้

    d. รับประทานอาหารสำเร็จรูปในรูปแค<WBR>ปซูล
    เช่นแคปซูลข้าวกล้องแคปซูลคลอโร<WBR>ฟิลด์ แคปซูลใบบัวบก แคปซูลผักบุ้ง
    แล้วปรับสมดุลธาตุ<WBR>ในร่างกายด้วย แคปซูล สาหร่าย พลูคาว และมะรุม

    e. การดื่มน้ำ น้ำที่ดื่มต้องบรรจุลงในกระบอกน้ำพลาสติกหรือ
    ถ้วยมัค แล้วมีหลอดดูดเข้าปาก

    f. การขับถ่ายส้วมต้องมีมือเกาะและ<WBR>มีเข็มขัดรัดไว้ให้ผู้ใช้นั่งติ<WBR>ดกับที่รองรับของเสีย
    สิ่งที่ขับ<WBR>ถ่ายจะมีน้อยถ้าหากเรารับประทาน<WBR>อาหารในรูปแคปซูล
    อาจจะใช้ถุงพลา<WBR>สติกประจำตัวเมื่อถ่ายแล้วก็รัด<WBR>ปากถุงนำไปทิ้งได้เลย

    g. การอาบน้ำ ช่วง 3 วันนี้คงไม่ต้องอาบ
    แต่ชำระทำควา<WBR>มสะอาดร่างกายด้วยทิสชูเปียกหรื<WBR>อผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ

    h. การนอน ต้องนอนในถุงนอนที่ห้อยติดอยู่กับที่แล้วรูดซิบปิดตั้งแต่เท้าถึงหน้าอก
    แล้วเอาแขนสอดไว้ในสายรัดที่พันรอบเอวเพื่อไม่ให้แขนแก<WBR>ว่งไปมาเมื่อหลับ

    ช่วงที่สอง ช่วงนี้คือช่วงที่ที่ทรมานอีกครั้งหนึ่งจะอยู่ระหว่างวันที่ 50 ถึง 70
    เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายจะถูกเคลื<WBR>อบด้วยพิษของกัมมันตภาพรังสี
    ซาก<WBR>ศพเกลื่อนกลาด คนที่กินเนื้อสัตว์จะไม่รักษาชี<WBR>วิตให้อยู่ได้
    อาหารที่กักตุนไว้จะเริ่มขาดแคล<WBR>นไม่ต้องห่วงค่ะ
    ถ้าเรารอดถึงช่วงนี้ เรายังมีอาหารที่กักตุนไว้ในช่ว<WBR>งแรก
    ซึ่งประมาณการไว้สำหรับ 6 เดือน มาใช้ได้สบายๆ

    อ้างอิงจาก http://palungjit.org/threads/ประวัติและผลงานของพระอาจารย์รัตน์-รตนญาโณ.269042/page-14
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2012
  17. A-KiT

    A-KiT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +610
    ทำไมคนกินเนื้อจึงไม่สามารถรักษาชีวิตได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2012
  18. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ได้รับข้อมูลมาเมื่อเดือนกร<wbr>กฎาคม 2555 — สถานที่ไม่เปิดเผย


    เสียงเตือนภัย ตอนที่ 1 | Facebook

    เสียงเตือนภัย ตอนที่ 2 | Facebook




    จุดจักระที่ 7 หรือที่เรียกว่า " กลางกระหม่อม " อยู่ตรงนี้

    [​IMG]

    จักระ 7 (ดอกบัว 1,000 กลีบ) ชื่อว่า สหสราระ
    อยู่ตรงกลางกระหม่อมหรือจุดตัดของเส้นที่ลากจากปลายจมูก ผ่านกลางหน้าผาก
    ตัดกับเส้นที่ลากจากหูซ้ายไปหูขวา เปรียบเสมือนมงกุฎดอกบัว
    <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG]
    </fieldset>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2012
  19. อธิฎฐาน

    อธิฎฐาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +1,610
    เสียงที่ว่าเหมือนเสียงแตรเป่าหรือว่าเสียงวัวร้องใช่มั้ยคะ
     
  20. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เสียงเตือนภัยพิบัติ

    ได้รับข้อมูลมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 — สถานที่ไม่เปิดเผย

    <object height="300" width="400">

    <embed src="http://www.facebook.com/v/452390014795374" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" height="300" width="400"></object>



    <object height="300" width="400"> <embed src="http://www.facebook.com/v/452393828128326" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" height="300" width="400"></object>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...