กุมารทอง VS. รัก+ยม ใครเก่งและซนกว่ากัน?

ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ !!

สำหรับเรื่องอภินิหารย์ของกุมารทองนั้น ผมได้ประจักษ์กับสายตาอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนเรื่องราวของ รัก+ยม นั้น ผมยังไม่ได้สัมผัส เรื่องราวของกุมารทองนั้นผมจะไม่เล่าให้ท่านฟังหรอกนะ เพราะเกรงจะเฝือ และผูกพันกับจิตวิญญาณ์ที่ลี้ลับกันเกินไป เนื่องด้วยการพานพบหรือพิสูจน์กันในเรื่องนี้เป็นเรื่องของปัจเจกชน ที่ค้นคว้าและค้นพบได้ด้วยตนเอง เจอด้วยตัวเอง สัมผัสได้ด้วยจิตของตนเอง ... อภินิหารย์ของกุมารทองนั้นผมเชื่อว่าเป็นจริง หากแต่เรื่องราวของ รัก+ยม นั้น ผมยังไม่ได้มีโอกาสสัมผัสกับคู่แฝดนี้

เชิญท่านที่มีประสบการณ์สัมผัส กับสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์นี้ มาร่วมเสวนา และแชร์ประสบการณ์ครับท่าน.

ใครเก่งกว่ากัน? ใครซนกว่ากัน? ใครรักพ่อมากกว่ากัน?

(ping)

 

อะไรจะเก่งกว่ากันนั้น ผมว่าอยู่ที่คนเสก มากกว่าครับ

 

เสกให้ใส่ชุดเกราะถือปืนพกมีดสั้นไว้สิครับ อิอิ เอาออกสงครามโลกเลยได้ยิ่งดี55+

 

ตัวเองมีแต่กุมารทอง เลยไม่รู้ แต่ว่าน้องเขาเลี้ยงทั้งกุมารทองและ รักยม เขาบอกว่าลักยมออกมามากกว่า ซนกว่ากุมารทอง แต่เก่งกว่าหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่ว่าเวลาน้องเขาขอความช่วยเหลือได้ทุกครั้งขอรวมกันทั้ง3เลย

 

เก่งเท่ากันค่ะ

 

มันเก่งและถนัดคนละอย่างกัน

กุมารทองถนัดทางปราบ พวกผีชั้นต่ำกว่า หรือชั้นเดียวกันแต่ฤทธิ์น้อยกว่า
ส่วน รักยม ถนัดทางเมตตา กล่อมใจเขามาหาเรา เรียกว่าเรื่องรักๆใคร่ๆ รัดยมถนัดกว่า
ส่วนเรื่องใช้ทางพรายกระซิบ ใช้ได้ทั้ง กุมารทองและรักยม เสมอกัน


เรื่องการซน กุมารทองซนกว่าเพราะถนัดทางใช้ฤทธิ์ บางครั้งเจ้านายแค่ไม่พอใจคนอื่น
กุมารทองจัดการให้เลย แค่เจ้าของไม่พอใจ กุมารก็ทำของตกหล่นในบ้านแสดงให้รู้ว่า
เจ้านายกระผมอารมณ์เสียแล้วนะ แต่ถ้าเป็นรักยม เราไม่ใช้เขา เขาก็อยู่เฉยๆ ไม่ตัดสินใจเอง

การเรียกกุมารทอง เขาจะเรียกวิญญาณ"คน" เข้าหุ่น หรืออาจเอา"คน"มาทำเลยก็มี
ส่วนรักยม ท่านมักเรียกวิญญาณ"เทวดา" ตั้งแต่ชั้นอากาศเทวดาขึ้นไป มาลง ส่วนใหญ่
หาคนเรียกชั้นนี้มาลงหุ่นยาก ส่วนมากจะเรียกได้แต่ชั้น "ปา" มาลงหุ่นมันเลยยุ่งกันไงคับ

 

แต่ถ้าคิดจะเลี้ยง..ควรจะเลี้ยงอะไรดีกว่ากันคะ...

 

ใครเก่งว่ากันอันนี้ไม่รู้ *O*
แต่คิดว่าซนน่ะ คงไม่มีใครยอมใคร(มั้ง)!
ที่บ้านเพื่อนเลี้ยงทั้งกุมารทองและรักยม
เวลาร่วมมือกันนี้ถึงขั้นคนทั้งบ้านไม่ได้นอนกันเลยอ่ะ

อิอิ

 

ที่เคยเจอมามีแต่ชอบแกล้งคนด้วย
น่ากลัวออก

 

เราก็เลี้ยงนะ กุมารทอง 2 ตน แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นเลยอ่ะ มีแต่ฝันว่าเล่นกับเขาในฝันทั้งคืนเลยค่ะ

 

ขอแบ่งปันนะครับ เก่งกว่ากันหรือไม่นั้นอยู่ที่ผู้ปลุกเสกและการเลี้ยงดูหากผู้เลี้ยงดูนั้นมีวิชาอาคมที่สูงก็สามารถเพิ่มเติมกำลังความสามารถให้กับเค้าได้

โดยส่วนตัวเลี้ยงกุมารเทพ(ธาตูจุติจากครรค์เป็นลูกกรอก)ครับ
คือมีร่างกายแตกต่างจากคนทั่วไป คือมี 2หัว แต่ร่างเดียวกัน ชื่อพลายและเพชร
ซนเป็นเวลา ซ่าเป็นพักๆ

โมทนาคุณครับ...

 

สำหรับคนธรรมดา ไม่มีฤทธิ์และศัตรู สมควรเลี้ยง รักยมใว้เป็นเพื่อนเล่น
เพราะเวลาเราลืมเขา เขาก็ไม่ว่าอะไรเรา เราไม่เลี้ยงเขา เขาก็เฉยๆ เหมือน
กับว่าเขาไม่มีตัวตน แต่เวลาเราจะใช้งานเช่น วันนี้เรียกลูกค้าเข้าร้านด้วยนะ
หรือ อยากให้คนๆนั้นโทรมาหาเราก็บอกรักยมว่า บอกเขาโทรมาหน่อย
ก็ใช้เขาได้ตามปกติไม่ขออะไรเรา
แต่ถ้ากุมารทอง เว้นได้ ให้เว้นเสีย แม้คนมีฤทธิ์เลี้ยงกุมารทอง ในบางครั้ง
ยังโดนกุมารทองหลอกจนเกือบขวัญหนีดีฝ่อ เพราะกุมารทองค่อนข้างขี้เล่น
มีความคิดเป็นของตัวเอง เวลาใช้งานหนักๆแรงๆเขาชอบมีข้อแม้ เช่น ขอไก่
ตัวนึงใส่บาตรให้หน่อย หรือ ช่วยแล้วขอนั่นขอนี่ตอบแทนตลอด ทีนี้ถ้าคนไม่มีฤทธิ์ เขามาบอกเราไม่ได้ว่าเขาอยากได้อะไรตอบแทน ตอนนี้ละยุ่งเลย เจ้าของ คนเลี้ยงจะโดนกวนตลอด

 

ของแปลกๆเลยนะเนี่ย............

 

เลี้ยงบุพการี
เลี้ยงบุตร หลาน บริวาร
เลี้ยงสมอง บริหารสมองให้ห่างไกลจากความโง่
เลี้ยงตัวเองให้รอด โดยไม่คิดพึ่งคนอื่น เลิกคิดพึ่งผีสางเทวดา

 

ขอแสดงความยินดี และปลาบปลื้มกับทุกท่านที่ได้แสดงความเห็นครับ

ผมได้สัมผัสของกุมารทองตั้งแต่เกิด เป็นปาฎิหาริย์ที่ประสบพบพานด้วยตาเนื้อ สัมผัสได้ด้วยดวงจิต ชีวิตของผมเกิดขึ้นในชนบทที่ห่างไกล ผ่านการเกิดอย่างทุลักทุเลด้วยหมอตำแย ถูกตัดขาดจากครรภ์มารดาด้วยเปลือกหอย หากแต่หมอตำแยพิศวงเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยแรกเกิดของผมนั้น มีแผ่นหนังที่หนานุ่มคล้ายชฎาสวมใส่อยู่บนศีรษะ อีกทั้งมีแผ่นหนังผืนเล็กๆอีกแผ่นหนึ่งที่ไม่หนามากมีความกว้างเพียงสองสามหุนลักษณะบางเบาเป็นเส้นสาย พาดเฉียงบ่าเป็นสายสะพายแล่งจากจากบ่าซ้ายไปเอวขวา และได้มอบให้กับบิดามารดาของผม และกำชับบอกว่าทำเกิดให้กับทารกมาหลายร้อยหลายพันแล้ว เพิ่งเจอรายนี้เป็นรายพิเศษ และเก็บไว้รักษาไว้ ตราบจนเติบใหญ่จึงค่อยมอบให้บุตร และอย่าลืมทำพิธีไหว้ครูให้ด้วย ... นี่เป็นคำบอกเล่าของหมอตำแย ... ในเรื่องราวชีวิตของผมนั้นผ่านการตายมาแล้วหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นโรคไอกรน บาดทะยาก อุบัติเหตุต่างๆ แม้กระทั่งมะเร็ง ก็ผ่านชีวิตไปได้ ด้วยคู่แฝดที่มองไม่เห็น แต่ยังอยู่เคียงข้างผมเสมอมาตลอดเวลาทั้งสุขและทุกข์ จิตวิญญาณที่ไร้ร่างนี้บิดามารดาของผม ต่างบอกกล่าวกับผมว่าว่า "เอ็งเกิดมา มีพี่กุมารฯคอยช่วยเหลือเมื่อคราวทุกข์ยาก จงระลึกถึง เขาเป็นพี่ที่ไม่มีรูปมีแต่ดวงจิต ส่วนเอ็งเป็นน้อง "

คราวหนึ่งเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันอย่างรุนแรงระหว่างบิดามารดาของผม ด้วยแรงโทสะอย่างไรมิอาจทราบได้ มีดอีโต้ที่ถูกลับอย่างคมกริบ ได้หลุดจากมือมารดาขณะทำครัว ปลิวหวือร่อนฟันฉับเข้ากลางแผ่นหลังของบิดาที่ไม่ได้สวมเสื้ออาภรณ์แต่อย่างใด เสียงดังปึ๊กสนั่นหวั่นไหว ผมและเหล่่าภารดารวมทั้งญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างงุนงงในเหตุการณ์ที่เกิดอย่างกระทันหันและทันทีทันใด ที่เกิดต่อสายตาประจักษ์ชัดเจนว่าต้องบาดเจ็บอย่างแน่นอน และสาหัสมากด้วย

หากแต่ว่าหาได้ระคายเคืองผิวหนังบิดาไม่ เพียงแต่เป็นรอยเล็กๆเท่าแมวข่วน เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!

ต่อมาได้เชิญคนทรงที่เชื่ยวชาญไสยเวทย์ทำพิธีบูชา และมีการเข้าทรงท่ามกลางปะรำพิธีที่ประดับด้วยเครื่องบวงสรวงและมโหรีอันระทึก ร่างทรงท่านนั้นได้บอกว่า กุมารฯคู่แฝดของลูกชายท่านได้ช่วยเหลือไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ หรือรู้สึกแต่ประการใด รวมทั้งการที่เกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น เนื่องด้วยบิดาของผม ไปเผาร่างหนึ่งของแม่นางผมกระเต็นหรือเจ้าแม่นางผมหอมเรียกรวมๆว่าเจ้าแม่สุริยา (เป็นเส้นผมที่ถักทอขึ้นด้วยธรรมชาติของผมกระเต็น คล้ายรังนก หรือเส้นด้ายที่พันกันเป็นกลุ่มก้อน แน่นหนา ไม่สามารถหาจุดเริ่มต้นหรือจุดจบ จนเป็นก้อนแข็งๆ ไม่สามารถที่จะดึงแต่ละเส้นออกมาได้จากกลุ่มก้อนนั้น ขนาดเท่าหัวแม่มือ แต่อัดแน่นไปได้วยเส้นผมจนแยกไม่ออกว่าเป็นเส้นไหนเส้น เกิดที่ไหนจบที่ไหน น้ำหนักพอประมาณ และเกิดขึ้นหลังจากที่ตัดผมภายในคืนเดียว) ซึ่งโดยธรรมชาติเมื่อตัดผมมักจะทิ้งเส้นผมกันทั้งนั้น มารดาของผมก็ทิ้งเหมือนกับคนอื่นเช่นกัน แต่แปลกใจตรงที่ว่าตื่นขึ้นมาสู่เช้ารุ่งใหม่ เส้นผมที่ตัดแล้วทิ้งไปนั้นกลายเป็นรูปร่างดั่งที่บรรยายไว้ และเป็นทุกครั้งที่ตัดผม ส่วนบิดาผมนั้นถือว่าเป็นสิ่งอัปมงคลและต้องทำลายทิ้ง เป็นเสนียดจัญไร

เมื่อเกิดความแค้นจึงลุแก่โทสะ เจ้าแม่ผมกระเต็นก็บรรดาลอำนาจจิตเพียงชั่วขณะในชั่ววูบ เข้าสิงร่างของมารดาของผมโดยทันที โดยที่ไม่รู้สึกตัวและควบคุมตัวเองไม่ได้ เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ไม่รับรู้ถึงการกระทำใดๆที่เกิดขึ้นเลย ด้วยแรงโทสะที่บังเกิดขึ้นเพียงชั่ววูบนั้นเดียว ได้หยิบอาวุธที่ใกล้มือที่สุดเขวี้ยงออกไป และสิ่งนั้นคือมีดอีโต้ดั่งที่กล่าว

แต่ก็โชคดีเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่นำแผ่นหนังควายตากแห้งอันทนทานได้กระทำการก่อนมีดอีโต้ที่คมกริบจะทะลวงเข้ากลางแผ่นหลังของบิดา เพื่อรองรับคมมีดแทนเนื้อหนังของมนุษย์ปุถุชน นั่นคือกุมารฯ ผู้ที่รักบิดา และพร้อมยอมถวายอารักขาให้กับผู้มีพระคุณ ดั่งที่ผมกล่าวไว้

นี่คือประสบการณ์ที่ผมได้สัมผัสฤทธิ์ของกุมารฯ ส่วน รัก-ยม นั้นผมยังไม่ได้สัมผัส แต่ดูเหมือนทั้งสองจะเน้นไปในทางเสน่ห์เมตตา มหานิยมเป็นหลัก จริงแท้ประการใดท่านผู้รู้โปรดชี้แนะ