สวัสดีครับ ท่านผู้รู้ท่านผู้เจริญในห้องอภิญญา - สมาธิ ทุกท่าน
ผมมีข้อสอบถามเรื่องอาการหรือสภาวะจิตอันเนื่องมาจากการฝึกสมาธิ รายละเอียดโดยสังเขป ดังนี้
ผมเพิ่งเริ่มฝึกนั่งสมาธิได้ไม่นาน ซึ่งผมจะเริ่มฝึกนั่งสมาธิในตอนกลางคืน โดยหลังจากสวดพระพุทธมนต์เสร็จจะนั่งสมาธิก่อน หลังจากนั้นจึงแผ่เมตตา ขออโหสิกรรม และอุทิศส่วนกุศลตามลำดับครับ
- ขณะนั่งสมาธิจะกำหนดโดยรับรู้ลมหายใจเข้าออก พร้อมกับภาวนาในใจว่า "นะมะพะทะ" พอจิตเริ่มสงบ (ไม่ทราบเป็นเวลานานเท่าใด) เริ่มมีอาการสั่นที่หน้าตักขัดสมาธิจากเบาๆ และค่อยๆ แรงขึ้นตามลำดับจนสั่นไหวทั้งตัว (บางครั้้งถึงกับล้มหงายหลัง) รู้ แต่ไม่อาจบังคับตัวเองได้ ขณะเดียวกันนั้น จิตมีสภาวะเหมือนมีแสงวาบเข้ามาแล้วก็ผ่านไป บางครั้งเห็นบางสิ่งบางอย่างแต่ไม่ชัดเจนแล้วก็หายไป และบางครั้งเห็นแสงคล้ายฟ้าแลบสีม่วง สีทองบ้าง แล้วก็หายไป จนกระทั่งผมเริ่มค่อยๆคลายออกจากสมาธิ อาการสั่นไหวของร่างกายก็ค่อยๆเบาลงจนร่างกายเข้าสู่สภาวะปกติครับ (ย้อนดูนาฬิกาใช้เวลานั่งสมาธิประมาณ 40 - 45 นาที) หลังจากนั้นจึงสวดแผ่เมตตาฯ ตามที่เกริ่นไว้ข้างต้นครับ
ผมจึงขอความกรุณาสอบถามท่านผู้รู้ท่านผู้เจริญสมาธิทุกท่าน ว่า อาการหรือสภาวะดังกล่าวคืออะไร แล้วควรฝึกหรือแก้ไขอย่างไรครับ โปรดชี้แนะเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยครับ ขอบคุณครับ
ขอสอบถามอาการหรือสภาวะจากการฝึกสมาธิ
ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สมณธรรม, 5 สิงหาคม 2021.
หน้า 1 ของ 2
-
ผมขออนุโมทนาสาธุกับคุณ @สมณธรรม ในการสวดเจริญพระพุทธมนต์ นั่งสมาธิ และแผ่เมตตา ขออโหสิกรรมและอุทิศส่วนกุศลตามลำดับครับ _/\_ ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ โอภาสที่เกิดกับผู้ปฏิบัติธรรม ขอให้ถือเป็นเรื่องธรรมดาโดยเฉพาะผู้ที่คิดว่ากำลังเจริญสติปัฏฐาน หรือ เจริญวิปัสสนากรรมฐานครับ
อาการสั่นที่หน้าตักขัดสมาธิจากเบาๆ และค่อยๆ แรงขึ้นตามลำดับจนสั่นไหวทั้งตัว (บางครั้้งถึงกับล้มหงายหลัง) รู้ แต่ไม่อาจบังคับตัวเองได้ ขณะเดียวกันนั้น จิตมีสภาวะเหมือนมีแสงวาบเข้ามาแล้วก็ผ่านไป บางครั้งเห็นบางสิ่งบางอย่างแต่ไม่ชัดเจนแล้วก็หายไป และบางครั้งเห็นแสงคล้ายฟ้าแลบสีม่วง สีทองบ้าง แล้วก็หายไป ดังกล่าวนั้น เกิดจากอำนาจของสมาธิ เป็นโอภาสที่เป็นวิปัสสนูปกิเลสครับ
วิธีการที่ควรปฏิบัติคือ ให้กำหนดรู้เท่าทัน อาการสั่น และ การเห็นแสงนั้นๆไปเรื่อยๆ สักพักมันก็จะดับไปเองครับ แล้วสภาวะนั้นอาจจะเกิดขึ้นมาใหม่อยู่เนืองๆ เมื่อกำลังสติของเราดีขึ้น ทันทีที่เรากำหนดรู้เท่าทันอาการสภาวะดังกล่าวนั้น… อาการสั่น และ การเห็นแสงนั้นอาจหายไปในทันที บางครั้งอาจกำหนดได้ละเอียดขนาดว่า จิตกำลังคิดอยากให้โอภาสนั้นเกิดขึ้นอีก เมื่อกำหนดจิตอยากนั้น โอภาสก็จะไม่เกิด แต่ลองปล่อยให้เกิด มันก็จะเกิดขึ้นจริงๆ ดังนั้น อย่าได้ไปยึดมั่นถือมั่นกับโอภาสที่เกิดขึ้นเมื่อมีความยินดี ความสุขใจ ความตื่นเต้น ความกลัวในโอภาสที่เกิดขึ้น ก็ให้กำหนดความรู้สึกที่ยินดี ความสุขใจ ความตื่นเต้น ความกลัว นั้นแทนให้ทำไว้ในใจว่าเรากำลังเจริญสติปัฏฐานสี่ มิได้กำลังเจริญอาโลกกสิณเพื่อให้ได้ฌาน อภิญญา คือ ทิพยจักขุ
ปรากฏการณ์ที่เกิดในระหว่างปฏิบัติ บางอย่างแม้จะเป็นสิ่งที่ดี เป็นกุศล แต่ก็เป็นเครื่องขวางกั้นวิปัสสนาปัญญาที่จะก้าวหน้าขึ้น การเห็นอยู่รู้อยู่เนืองๆของสภาวธรรมตามเป็นจริง (ลักษณะเฉพาะๆ ของสภาวธรรมแต่ละอย่างๆ) นั้นเป็นเป้าหมายแรก เมื่อเห็นอยู่อย่างนั้นชัดขึ้นลักษณะทั่วๆไปของสภาวธรรมนั้นๆ (สามัญญลักษณะ) ก็จะปรากฏ เมื่อเฝ้าสังเกตสภาวธรรมเหล่านั้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง ความเกิดดับของสภาวธรรมเหล่านั้นก็ปรากฏ ถึงตรงนี้ก็เป็นที่หวังได้ว่ามาถูกทางอย่างแท้จริงครับ _/\_
ควรทำความเข้าใจให้ตรงกันไว้ก่อนว่า วิปัสสนากรรมฐาน มันก็คือ สติปัฏฐาน 4 นั่นเอง… ต่างกันที่ตัวอักษรในการเขียนเท่านั้น แต่หลักการ แนวทาง และ วัตถุประสงค์หลักในการปฏิบัติ คือสิ่งเดียวกันครับ… หากเราปฏิบัติตามแนวทางสติปัฏฐาน 4 อยู่เนืองๆ สติของเราจะมีความเฉียบคม และ ละเอียดมากขึ้น รู้เท่าทัน อาการทางกาย ความคิด อารมณ์ และ ความรู้สึกของตนเองตามความเป็นจริงในปัจจุบันขณะ… เกิดปัญญาพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างตามกฎไตรลักษณ์... เห็นการเกิด ดับ ของรูปและนาม ขันธ์ 5 (กฎไตรลักษณ์)
เอกายนมรรค และ สติปัฏฐานจึงมีความหมายเหมือนกันคือเป็นธรรมที่เป็นเครื่องกำจัดกิเลส ต่างกันที่เอกายนมรรคแสดงให้เห็นถึงว่า เป็นทางเดียว ส่วนสติปัฏฐานแสดงให้เห็นถึงความมีสติมาก เพราะมีอารมณ์ให้สติระลึกมาก ต่างกันแค่พยัญชนะและตัวอักษรในการเขียนเท่านั้นครับ ซึ่งบุคคลที่อบรมเจริญสติปัฏฐานก็ชื่อว่าอบรมอริยมรรคมีองค์ 8 (วิรัธสูตร)
"สติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้ อันบุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งปรารภแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่าปรารภอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังสัตว์ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ"
ขอทิ้งท้ายด้วยข้อธรรมะที่ว่า "ผู้ใดศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางของสติปัฏฐาน ๔ ... ผู้นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้เป็นเลิศ"
… ที่ผมโพสต์ตอบคุณ @สมณธรรม มาทั้งหมดนี้ ผมขออนุญาตเรียนซ้ำย้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับว่าผมนั้นไม่ใช่ ผู้รู้ ผมเป็นแค่ กัลยาณมิตรธรรมดา คนหนึ่งที่พอจะมีความรู้อยู่บ้างในทางธรรมะ และ ปฏิบัติธรรมอยู่บ้างตามสมควรอยู่ในขณะนี้ที่ฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็มแล้วครับ (^ ^) ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ (^__^) ขอให้คุณ @สมณธรรม ลองพิจารณาอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์โดยใช้ โยนิโสมนสิการ และ กาลามสูตร ครับ _/|\_
ประมาณนี้ครับ… ขอบคุณสำหรับพื้นที่ตรงนี้ครับ _/|\_ บุญรักษาครับ _/\_
-
เป็นอาการของปิติครับ
เท่าที่ผมเคยเจอมา....
...เคยเกิดปิติ....บางครั้งขนลุก
...บางครั้งตัวโยก..ตัวชา
...บางครั้งเหมือนมีน้ำหยดตามตัว
...บางครั้งเหมือนมีอะไรไต่ตามตัว
...บางครั้งมีแสงสว่างจ้า...
...บางครั้งเหมือนตัวเบา..ลอยขึ้น
ส่วนบางคนอาจเจอ...อาการของปิติ
นอกเหนือจากนี้...ต่างกันไปสารพัดแบบ
เวลาเกิดปิติขึ้น....ก็ไม่ต้องสนใจครับ
เพียงแต่รู้ว่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้น....
แล้วดึงสติกลับไปอยู่ลมหายใจ...
หรือคำบริกรรม...
...ซักพักจิตจะละ...จากปิตินั้นเอง
บางคนติดสมาธิตรงนี้นานมาก
...นั่งกี่ทีก็มาตกร่องตรงนี้...ทุกครั้ง
ไม่ก้าวไปสู่สมาธิที่สูงกว่านี้...
...น่าเสียดายครับ
อาการของปิติทั้งหลาย..
....มันมาจากการปรุงแต่งของจิต
รู้สึกว่ามาน้ำหยดที่แขน...หรือมดมาไต่ตามตัว
ตัวพอง...ตัวลอย...ตัวโยก
ถ้าลืมตาขึ้นมาดู..จะพบเลยว่า
....ไม่เป็นจริง...
และเป็นตัวชี้ว่า...สมาธิจิตตรงนี้
...ยังไม่ทิ้งรูป....
จะปิติ หรือ นิมิต อะไรก็ตาม
เป็นสิ่งที่ต้องข้ามไป...ในที่สุด
ต้องคิดไว้ก่อน....
อาการของปิติ...เป็นเรื่องธรรมดาของสมาธิ
ตั้งความคิดไว้แบบนี้....พอเจอปิติ
จิตจะไม่สนใจ...
....แล้วไปต่อสู่สมาธิ....ที่ปราณีตยิ่งกว่าเองครับ -
คนรอบๆตัวติดกันไปหมดแล้ว
ถูกล้อมไว้...แต่ยังไม่ได้วัคซีนซักเข็มเลยครับ:rolleyes:
ศิษย์น้องคุณราโซบได้2เข็มแล้ว
มีอาการแพ้วัคซีนบ้างไหมครับ -
ลองขอขมาก่อนครับ นั่งเสร็จแล้วขอขมาอีกรอบ การขอขมามีประโยชน์มาก ทำให้ มานะ น้อยลงมากๆ
มานะ จะเป็นธรรมที่ทำให้เราได้ผลช้า
ช่วงนี้ขอให้เปลี่ยนคำภาวนาเป็น พุทโธ ไปก่อนครับ นับได้สัก 500 ก็ปล่อยคำภาวนา
ถ้าพบเห็น นิมิตใดๆ ก็ให้รู้ว่ามีนิมิต แต่ยังจับที่ลมเป็นหลัก ห้ามไปเน้นที่นิมิต เพราะสมาธิจะหลุด
ใช้คำภาวนา พุทโธ ไปสัก 2 เดือนก่อนครับ -
… สุดท้ายนี้ผมขอให้คุณ @สมณธรรม และ กัลยาณมิตรทุกๆท่านในกระทู้นี้มีความเจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งในทางโลก และ ทางธรรมครับ _/\_ -
ไว้ฟังศึกษาเพิ่มเติมครับ จขกท.
-
[QUOTE="หมูไม้ละ5, post: 11585734, member: 698371"]ตอนนี้ผมอยู่ในวงล้อมโควิด...คนรอบๆตัวติดกันไปหมดแล้ว ถูกล้อมไว้...แต่ยังไม่ได้วัคซีนซักเข็มเลยครับ:rolleyes: ศิษย์น้องคุณราโซบได้ 2 เข็มแล้วมีอาการแพ้วัคซีนบ้างไหมครับ[/QUOTE]
ผมก็อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่สีแดงเข้มเหมือนกันครับพี่… ของผมไม่มีอาการแพ้วัคซีนครับ… ผมแนะนำให้คุณพี่ @หมูไม้ละ5 รีบดำเนินการหาทางฉีดวัคซีนป้องกันโรค Covid - 19 ให้เร็วที่สุดนะครับพี่ และ คุณพี่ @หมูไม้ละ5 ควรงดพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และ อย่าประมาทนะครับ … วัคซีนที่ดีที่สุดขณะนี้ คือ วัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุดครับ วัคซีน Covid - 19 ทุกยี่ห้อมีประสิทธิภาพไม่แตกต่างกันครับป้องกันไม่ให้เกิดอาการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ครับ… หาทางฉีดวัคซีนป้องกันโรค Covid - 19 ให้เร็วที่สุดนะครับพี่ _/|\_
หากฉีดวัคซีน Covid - 19 แล้วมีอาการแพ้รุนแรงจากการรับวัคซีน เช่น มีผื่นทั้งตัว หน้าบวม คอบวม หายใจลำบาก ใจสั่น วิงเวียน หรือ อ่อนแรง หรือ มีอาการแขนขาอ่อนแรง ควรรีบไปโรงพยาบาล หรือโทร 1669 เพื่อรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินครับ… บุญรักษาครับ _/\_
ปล. ผมไม่ได้ชื่อราโซบครับ [^ ^] -
มีทางแก้ ๒ ทางครับ
๑.เปลี่ยนคำภาวนา ซะ ให้ใช้คำว่า พุทโธ หรือ สัมปจิตฉามิ หรือ นะโมพุทธายะ หรือ โสตัสตัสภิญญา คำใดคำหนึ่งที่กล่าวมาแล้ว ข้างต้น อย่าใช้คำอื่นที่ไม่ได้เขียนบอกในนี้
จะเหมาะกับ จริต จขกท. ที่สุด
คำไหนก็ได้ ใน ๔ คำนี้ที่่ชอบ เหตุเพราะ จขกท มีในเรื่องของสัมผัสภายในเป็นทุน
เวลาที่นั่งสมาธิ แต่ ณ เวลาปัจจุบัน ภูมิต้านทานทางสมาธิที่จะส่งผลต่อร่างกายยังไม่เพียงพอ
ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องเสียหายอะไรนะครับ
หรือ ๒.ถ้ายังยืนยันจะภาวนาคำเดิม ต้องมาเจริญสติในชีวิตประจำวันให้ต่อเนื่องให้ได้ทั้งวัน
และในระหว่างวันให้ทำสมาธิบ้างครั้งละนาทีสองนาที คือ อาจจะลืมตาระลึกรู้ลม
หรือหลับตาระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก เอาแค่จิตสงบพอ แต่ให้ทำบ่อยๆ หรือให้เดินจงกลมก่อน
ที่จะนั่งสมาธิ เพื่อสร้างเสริมกำลังสมาธิที่จะมาเป็นภูมิต้านทานร่างกาย
ไม่งั้นอาการที่เป็นอย่างไรก็ไม่มีทางหายครับ
สาเหตุเพราะว่า คำภาวนา คำที่ใช้อยู่ พอนั่งสมาธิไปในระดับที่จิตเริ่มจะตกลงมา
สู่อุปจารสมาธิเมื่อไหร่ หรือ พอเริ่มมีความเป็นทิพย์ (ที่มันเริ่มเห็นแสงโน้นนั่นนี่นั่นหละ)
ตัวจิตพร้อมที่จะออกไปท่องเที่ยวทันที ตรงนี้โดยทั่วไป
ต้องอาศัยกำลังสติทางธรรมเพื่อควบคุมมันก่อนในเบื้องต้น(หรือต่อให้มีกำลังสติทางธรรมนะครับกรณีที่มันออกไปเที่ยว กำลังสติแทบจะตามมันไม่ทันครับ)และถ้าเราไม่ได้ฝึก
กรรมฐานเริ่มต้น ด้วย วิชามโนยิทธิ ตามสาย จ.อุทัยธานี โดยมีการขอบารมีพระ
และมีการยกครูมาก่อน การไปใช้คำภาวนานี้ โดยที่กำลังสมาธิสะสมเรายังเองไม่เพียงพอ
ที่จะเป็นภมิต้านทานกิริยาทางกายได้ จะเป็นเหมือนที่มาถามนั่นหละครับ
คำภาวนาที่ใช้ มันเกี่ยวกับ ระบบธาตุที่มารวมเป็นกาย
ดังนั้น ควรมีกำลังสมาธิสะสมที่เพียงพอก่อน ถึงจะไม่ส่งผล
อะไรต่อกาย และถ้าไม่ได้คิดจะฝึก วิชาพิเศษทางสายอุทัยธานี
ก็ควรเว้นคำภาวนานี้ไว้ก่อน
เอาไว้มีกำลังสมาธิเพียงพอเมื่อไหร่ แล้ววันใดวันหนึ่ง
จิตมันออกไปเที่ยว จะพบว่า มันจะไปเร็วมากแทบตามไม่ทัน
เล่าให้ฟัง เพื่ออนาคตอยากจะลองพิสูจน์ด้วยตนเองครับ
หลักการง่ายๆ ในการฝึกสมาธิ
๑.ถ้ายังส่งผลต่อร่างกายไม่ว่าจะเกิดกิริยาใดๆ แสดงว่า กำลังสมาธิสะสมยังไม่พอ
ถือว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ ให้หาวิธีเสริมสร้างกำลังสมาธิสะสม
๒.ถ้าไม่เข้าในกิริยานามธรรมต่างๆระหว่างทาง หรือ ไม่ทราบว่า นามธรรมต่างๆ
เหล่านั้นหมายถึงอะไร หรือ ลืมตาแล้วยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดคืออะไร แสดงว่า กำลังสติทางธรรมไม่เพียงพอ ให้ลืมกิริยานั้นไปเลย อย่าไปสนใจ ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น และถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ให้มาเจริญสติในชีวิตประจำวันให้ต่อเนื่องครับ
ท้ายนี้ สิ่งที่ทำประจำหลังจากนั่งสมาธินั้น ถือว่าดีแล้วให้ทำต่อไปอย่าขาด
สาเหตุหนึ่ง ที่ จขกท มาเจอกิริยาแบบนี้ได้เร็ว เพราะนิสัยหลังจากที่นั่ง
สมาธินั่นเองครับ -
... ส่วนอันนี้เป็นแนวทางคำสอนและการปฏิบัติตามแนวทางในการฝึกมโนมยิทธิจากใน หนังสือ มโนมยิทธิ เล่ม ๑ และ เล่ม ๒ ของพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ที่มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งได้เมตตาโพสต์แปะ file ของหนังสือทั้งสองเล่มดังกล่าวไว้ให้แล้วครับ… เป็นการขยายความเพิ่มเติมในประเด็นที่คุณ @hastin และ พี่นบได้กรุณาโพสต์แนะนำคุณ @สมณธรรม ไว้นะครับ … บางทีอาจจะเป็นประโยชน์กับคุณ @สมณธรรม ครับ _/\_
… ฝากไว้ให้คุณ @สมณธรรม ลองพิจารณาอ่านเพิ่มเติมดูนะครับ [^_^] ด้วยความปรารถนาดีครับ _/|\_ -
วัคซีนที่ดีที่สุด....คือประกันโควิดครับ 55
คนรอบตัวผม ...ฉีดทั้งซิโนแวค ...ฉีดทั้งแอสต้า
ติดโควิดเฉย....
ผมอยู่ใกล้พวกเค้า..แทบหายใจรดกัน
ตรวจมา3ครั้ง...ผลเป็นลบเฉย
อาจจะเป็นเพราะประกันโควิดมั้ง...ผมถึงรอดมาถึงวันนี้:rolleyes: -
ข้าพเจ้าขอน้อมบูชาคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณมารดาบิดา คุณครูบาอาจารย์ ด้วยความเคารพ
สวัสดีครับกัลยาณมิตรท่าน @rochotp ท่าน @หมูไม้ละ5 ท่าน @hastin ท่าน @ปราบเทวดา ท่าน @บุรุษไร้เงา ผู้รู้ผู้เจริญในธรรมทุกท่านครับ
ผมต้องขอขอบพระคุณในวิทยาทาน ธรรมทาน ความเมตตา ที่ท่านทั้งหลายได้เสียสละเวลาอันมีค่าของท่าน ช่วยสงเคราะห์ชี้แนะแนวทางการฝึกฝนสมาธิให้แก่ผมด้วยความกรุณายิ่ง ผมรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจอันประเสริฐของทุกท่าน ผมเองนั้นเป็นเพียงผู้ด้อยปัญญาขาดประสบการณ์การฝึกฝนเหมือนเด็กน้อยเพิ่งเริ่มหัดคลานหัดเดิน หากไม่ได้ท่านกัลยามิตร ผู้มีเมตตาจิตหยิบยื่นช่วยเหลือดังกล่าว ผมคงรู้สึกท้อแท้และอาจล้มเลิกก็เป็นได้ คำชี้แนะแนวทางการฝึกฝนสมาธิเป็นประโยชน์อย่างดียิ่ง เปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะนำพาผมให้เพียรพยายามฝึกฝนไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสม ทั้งยังเสริมสร้างกำลังใจมิให้ย่อท้ออุปสรรคที่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่า การฝึกสมาธิอบรมจิตตภาวนาตามแนวทางที่ถูกต้องไม่เคยทำให้ตายจากการฝึกได้ แต่หากจะต้องตายเพราะการฝึกสมาธิก็ถือว่าได้ตายในขณะที่อารมณ์ทรงตัวเป็นสมาธิจิตอยู่ ดีกว่าตายด้วยเหตุอื่นทุกประการ ครับ
ผมขออนุโมทนาบุญกุศลความดีในธรรมทาน กัลยามิตรผู้รู้ผู้เจริญในธรรมทุกท่าน และขอให้ท่านมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมทุกประการครับ ขอบคุณครับ -
-
-
-
-
-
ผมนึกถึงตัวเอง...เมื่อก่อน
ชอบทำสมาธิแบบจขกท.
ผมมักหาหนังสือการทำสมาธิ
ฟังธรรม....เรื่องของสมาธิ
...ใจใฝ่แต่การทำสมาธิเท่านั้น
ถ้าสนใจสมาธิ....ก็เอาดีทางนี้ครับ
ไปให้สุด...เป็น expert ด้านนี้
สุคติเป็นอันหวังได้...ครับ
สมถะอาศัย...การทำซ้ำ...ทำบ่อย
หาฉันทะให้เจอ....
พอเรามีฉันทะ....เราจะมีกำลังใจทำ
เป้าหมาย...คือสุคติ....เป็นพรหม เป็นเทวดา
หรือเป้าหมาย...อยากมีฤทธิ์...รู้ใจคน
เป้าหมาย...อยากถึงฌานนั้นนี้
ก็ตั้งเป้าหมายเถอะครับ....
อย่าหวั่นไหว....ถ้าวันนึงจะได้ยิน
...คนทั่วไปบอกว่า....
สมาธิไม่เกิดปัญญา...สมาธิหัวตอ
....อย่าใส่ใจ
เพราะความจริงคือ...
สมาธินี้จะเป็นส่วนสำคัญ...ในวันหน้า
ทุกการกระทำ.....รับรองว่าไม่เสียเปล่าครับ
วันนี้ความสนใจของจขกท.
...อาจเป็นเรื่องของสมาธิ...ก็เต็มที่กับสมาธิ
แต่วันไหน....เกิดทุกข์ใจ...
ชีวิตเจอมรสุม....จนแทบทนไม่ได้
....วันนั้น.....
การทำสมาธิ....อาจไม่ใช่คำตอบ
ให้ใจหายทุกข์ได้
...แต่ขอให้
ย้อนกลับมาดู....พระพุทธเจ้า
ท่านตรัสไว้อย่างไร....
พระพุทธเจ้า...จะพาเราออกจากกองทุกข์ได้
ด้วยคำสอนของพระองค์
สถานะการณ์เลวร้าย....สิ้นหวัง...แค่ไหน
ปัญหาร้อยแปดอย่างไร...
....ตัดจบได้...ที่ใจเรานี้...
ให้จำไว้....แบบนี้
คำสอนของพระพุทธเจ้า
เป็นที่พึ่ง....ของคนที่อยากพ้นทุกข์ครับ -
-
"ขณะนั่งสมาธิจะกำหนดโดยรับรู้ลมหายใจเข้าออก พร้อมกับภาวนาในใจว่า "นะมะพะทะ" พอจิตเริ่มสงบ (ไม่ทราบเป็นเวลานานเท่าใด) เริ่มมีอาการสั่นที่หน้าตักขัดสมาธิจากเบาๆ และค่อยๆ แรงขึ้นตามลำดับจนสั่นไหวทั้งตัว (บางครั้้งถึงกับล้มหงายหลัง) รู้ แต่ไม่อาจบังคับตัวเองได้ ขณะเดียวกันนั้น จิตมีสภาวะเหมือนมีแสงวาบเข้ามาแล้วก็ผ่านไป บางครั้งเห็นบางสิ่งบางอย่างแต่ไม่ชัดเจนแล้วก็หายไป และบางครั้งเห็นแสงคล้ายฟ้าแลบสีม่วง สีทองบ้าง แล้วก็หายไป จนกระทั่งผมเริ่มค่อยๆคลายออกจากสมาธิ อาการสั่นไหวของร่างกายก็ค่อยๆเบาลงจนร่างกายเข้าสู่สภาวะปกติครับ (ย้อนดูนาฬิกาใช้เวลานั่งสมาธิประมาณ 40 - 45 นาที) หลังจากนั้นจึงสวดแผ่เมตตาฯ ตามที่เกริ่นไว้ข้างต้นครับ"
#################
คำบริกรรม "นะมะพะทะ" เป็นคาถากำกับธาตุ หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ ท่านสอนให้บริกรรมเพื่อถอดกายทิพย์ เคยนำไปบริกรรมนานมาแล้วค่ะ ถอดกายทิพย์ได้จริง
ส่วนอาการสั่นไหวที่เกิดขึ้น คือ อุเพงคาปิติ บ่งบอกให้ทราบว่าในอดีตคุณเคยสั่งสมมาทางด้านอภิญญาฤทธิ์
ไม่มีอะไรจะแนะนำ แต่ถ้าปฏิบัติอีกแล้วเกิดสภาวะอย่างที่คุณบอกมา ก็แค่กำหนดสติรู้แล้วก็วาง เห็นอะไร รู้สึกอะไร ก็แค่รู้ไปค่ะ จดจ่อแค่ลมหายใจพอ แล้วสมาธิจะดำเนินไปจนครบองค์ฌาน เป็นสัมมาสมาธิ คุณจะได้ประโยชน์จากสัมมาสมาธิมากมาย
ขอให้เจริญในธรรมค่ะ
หน้า 1 ของ 2