เขาค้อทะเลภูเป็น resort ที่เน้นความเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง แม้กระทั่งพืชผักต่างๆที่ใช้ในการบริโภค และนำมาทำอาหารให้แขกก็ปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง แต่ใช้วิธีการให้ธรรมชาติควบคุมกันเอง เช่นปลูกกุหลาบเพื่อล่อแมลงในสวนผัก เป็นต้น เนื้อที่ 200 กว่าไร่ เคยไปเดินมาแล้วได้บรรยากาศดีมากๆ ที่พักก็มีหลายรูปแบบเน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่าความหรูหรา และยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เป็น natural product จำหน่ายอีกมากมายภายใต้ยี่ห้อ "เขาค้อทะเลภู" อยู่ไม่ไกลจากพิษณุโลกมากนัก ที่เขียนมานี้ไม่ได้ค่าโฆษณาหรอกนะคะ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เฉยๆ
ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.
หน้า 570 ของ 661
-
พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ด้านบนของพุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว มีพระบรมสารีริกธาตุของพระองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะบูชา
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จากนั้น ได้รับโทรศัพท์จากคุณเปิ้ล เจ้าสาว ว่าตอนนี้อยู่ที่เขาค้อทะเลภู สถานที่จัดงานแต่งงานเมื่อคืนที่ผ่านมา และอยากพบกับคณะของเราอีกครั้ง
คณะ ฯ จึงได้กลับมาที่เขาค้อทะเลภูอีกครั้ง เพื่อพบกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว
และจากการสนทนากัน ได้ทราบว่าคุณเปิ้ลรู้จักกับกลุ่มที่เตรียมการเรื่องภัยพิบัติ ซึ่งอยู่ที่เขาค้อนี่เอง และคุณเปิ้ลจะพาคณะไปพบกับคุณวรวิทย์เพื่อสนทนา และเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
คุณวรวิทย์ ยินดีอย่างยิ่งที่จะได้พบเจอกับกลุ่มประสานงานเืพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) แต่ขณะนั้นท่านยังคงทำธุระอยู่ที่ภูเรือ และจะเดินทางกลับมาถึงร้าน คืนชีวิตให้แผ่นดิน ในช่วงเย็นประมาณ 18.30 นาฬิกา
จึงนัดหมายพบกันที่ ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน ซึ่งเป็นร้านอาหาร กาแฟสด ที่พัก และขายผักไร้สาร ของที่ระลึก พร้อมทั้งผลไม้นานาชนิด และเป็นร้านสไตล์เีัรียบง่าย แต่สวยงาม เน้นความเป็นธรรมชาติ และความพอเพียง
คณะจึงนัดหมายพบกับคุณวรวิทย์ ในเวลา 18.30 นาฬิกา
ณ ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
น่าเสียดายที่คุณ mead ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งงานคุณเปิ้ลกับคุณเคนด้วยกัน สนุกมาก และคู่บ่าวสาว ก็ได้ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง
และยังได้มีโอกาสไปประสานงานในเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมการเรื่องภัยพิบัติด้วย น่าสนใจหลายเรื่องทีเดียว และคุณวรวิทย์ก็ให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยมเช่นกัน
คาดว่าคงมีโอกาสได้เดินทางไปสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล กับคุณวรวิทย์อีกในโอกาสต่อไป
ในครั้งนี้ พี่สุดใจเลยเก็บภาพมาฝากคุณ mead ด้วย เพื่อชมไปพลาง ๆ ก่อน วันหน้าคุณ mead คงมีโอกาสได้ไปสนทนากับคุณวรวิทย์ด้วยตัวเองค่ะ
-
ณ กัลยาธรรมสถาน จ.พิษณุโลก
เมื่อคืนเห็นวัตถุบินได้ อยู่บริเวณเหนือศีรษะระดับสูงพอสมควร กระพริบแสงสีส้ม เคลื่อนที่จากเหนือไปใต้ และเห็นดาวกระพริบอยู่กับที่จำนวนหนึ่ง
ท้องฟ้ายามค่ำคืน โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว มีดวงดาราบางดวงที่มีลักษณะโดดเด่น ขนาดใหญ่กว่าดวงดาวทั่วไป ทอประกายระยิบระยับ เปลี่ยนสีส้ม ฟ้า เขียว ขาว ดูสวยงาม เห็นแล้วทำให้จิตใจมีความสงบ เยือกเย็นและเบิกบานอยู่ในที
ว่างๆลองแหงนดูฟ้าดุกันบ้างนะคะ เผื่อจะเห็นอะไรดีๆ แล้วมาบอกเล่าให้เพื่อนๆได้รับทราบกันในกระทู้แห่งนี้ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p> -
ขออนุโมทนากับภารกิจ ที่เพชรบูรณ์ ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
นำโดย อาจารย์สุดใจ ด้วยครับ เป็นที่น่าสังเกตว่า ภารกิจ ช่วงนี้อยู่ในโซนเหนือทั้งสิ้น
ไม่ซีกขวา ก็ซีกซ้าย
อาจารย์กัลยา แวะมาชักชวน ดูดาว
มีใครจะนอนดูดาว จนสำเร็จวิชา ขงเบ้ง ดูดาว ไหมครับ
<TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY id=threadbits_forum_2><TR><TD class=alt1 id=td_threadtitle_86674 title="">แนะนำ ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) (34 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
สุดใจเขากะลา
</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 11,626, จำนวนอ่าน: 605,746"></TD></TR></TBODY></TABLE> -
ในช่วงบ่าย ระหว่างรอพบกับคุณวรวิทย์ในตอนเย็นประมาณ 18.30 นาฬิกานั้น ได้พากันไปยังหล่มเก่าเพื่อทานขนมจีนแม่บุญมี ของขึ้นชื่อเพชรบูรณ์ และส่งอีกทีมหนึ่ง 3 ท่าน คือคุณ pluto47 คุณอ้อย คุณอร เดินทางกลับกรุงเทพฯ
และในช่วงบ่ายหลังรับประทานอาหารเสร็จแล้ว และอีกทีมได้แยกเดินทางกลับไปกรุงเทพฯแล้ว คณะฯที่เหลือ 5 ท่าน จึงได้เดินทางไปยังวัดศรีมงคล บ้านหินกลิ้ง ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
เพื่อนมัสการพระธาตุเกษแก้วจุฬามณีศรีมงคล ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดนี้
และคุณอลงกรณ์ (คุณหนุ่ย) เป็นผู้ออกแบบ และคุมการก่อสร้างบูรณะองค์พระธาตุด้วย
ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ยังไม่แล้วเสร็จ
ได้พบกับคุณณัฐ เพื่อนคุณอลงกรณ์ ซึ่งคุมการก่อสร้างบูรณะพระูธาตุอยู่ที่วัดแห่งนี้
ได้กราบพระธาตุเกษแก้วจุฬามณีศรีมงคล พร้อมกัน
หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน บนเขาค้อ เพื่อพบกับคุณวรวิทย์ตามนัดหมายไฟล์ที่แนบมา:
-
-
มาถึงร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน ประมาณ 18.30 นาฬิกา ก็ได้รับทราบจากพนักงานในร้านว่า
คุณวรวิทย์กำลังเดินทางมาแต่ยังไม่ถึง แต่ได้สั่งไว้ว่า หากคณะกลุ่มประสานงานฯ เดินทางมาถึงแล้ว เชิญสั่งอาหารมารับประทานก่อนได้เลย ไม่ต้องรอท่าน
และได้ให้แม่ครัวอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มฯด้วย สำหรับอาหารเย็นในวันนี้
ซึ่งทางกลุ่มต้องกราบขอบพระคุณ คุณวรวิทย์เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ให้การรับรองคณะกลุ่มประสานงานฯ อย่างดียิ่งในครั้งนี้
หลังจากที่ได้รับประทานอาหารแล้ว คุณวรวิทย์ได้เดินทางมาถึงที่ร้าน และได้เข้ามาทักทายกับคณะฯ ซึ่งท่านไม่ถือตัว เป็นกันเองกับทุกคน และยินดีอย่างยิ่งที่ได้พบกัน
หลังจากนั้น ได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และวิธีการเตรียมการของแต่ละกลุ่ม ฯ
ซึ่งหลังจากสนทนากันไม่นานนัก ก็มีความคุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว การสนทนาดำเนินไปจนประมาณ 22.00 นาฬิกา
คุณเปิ้ล และคุณเคน ก็เดินทางมาสมทบ หลังจากเสร็จจากการรับรองแขกที่มางานแต่งงาน จึงได้แวะมาร่วมสนทนาด้วย
คุณวรวิทย์ (คนกลางคล้องผ้าพันคอลา่ย)
สนทนากันจนดึก ในหลาย ๆ แง่้มุมที่แต่ละคณะได้ดำเนินการอยู่
คุณวรวิทย์ได้เชิญคณะพักที่ร้านของท่าน โดยจัดเต้นท์ที่พัก พร้อมเบาะรองนอน หมอน และผ้าห่มอย่างเพียงพอ ให้คณะได้พักผ่อนอย่างสบาย อบอุ่น ท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเย็น
คณะกลุ่มประสานงาน ฯ จึงได้พักผ่อนอย่างสบาย ภายในเต้นท์ที่พักแห่งนั้นไฟล์ที่แนบมา:
-
-
บรรยากาศยามเช้า บนเขาค้อ ณ ร้านคืนชีวิตให้แผ่นดิน
คณะฯ ไ้ด้ตื่นขึ้นมาเพื่อชมบรรยากาศยามเช้า ที่หนาวเย็นกำลังสบาย ไม่หนาวมากนัก ซึ่งคุณวรวิทย์ ได้ตื่นแต่เช้าและลงมาร่วมสนทนาด้วยที่ลานอาหารด้านล่าง
พร้อมทั้งให้แม่บ้านจัดกาแฟ และข้าวต้ม มาให้คณะ๊ฯ ได้รับประทานกัน
ต้องกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จากนั้น ก็ได้เดินออกไปชมการจัดสวนหน้าร้าน เพื่อให้เป็นที่สนใจของลูกค้า ซึ่งร้านอยู่ในช่วงโค้งพอดี ดังนั้น จึงจะจัดหน้าร้านให้ดูเด่น เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้ที่ผ่านร้านแห่งนี้
ซึ่งคุณอลงกรณ์ ก็ได้ร่วมออกไอเดียการตกแต่งในส่วนด้านหน้าของร้า่นคืนชีวิตให้แผ่นดินแห่งนี้ เพื่อเป็นที่สะดุดตาของผู้ที่ผ่านไปมาด้วย
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
หลังจากนั้น คุณวรวิทย์ ได้กรุณาพาคณะเดินทางไปยังศูนย์ฝึกอบรมการใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างพอเพียง โดยเน้นที่สามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้ในยามวิกฤติ
ซึ่งได้มีการวางโครงการไว้ภายใน 1 ไร่ สามารถดำรงชีพได้ใน 1 ครอบครัว และมีการทำงานครบวงจรภายในพื้นที่ 1 ไร่แห่งนี้ จนสามารถดำรงชีวิตตนเองและครอบครัวได้อย่างพอเพียง
มีแปลงทดลองการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง โดยแบ่งที่ดิน 1 ไร่ เพื่อทำการทดลองใช้ชีวิตครบวงจร
การทำไบโอดีเซลใช้เอง และเปิดอบรมให้ผู้สนใจมาเรียนเพื่อนำไปผลิตใช้เอง
ซึ่งทางเราได้แจ้งว่า เรามีผู้เชี่ยวชาญในการทำไบโอดีเซล คือ ดร.กรกาญจน์ ท่านเคยทำเป็นโรงงานผลิตไบโอดีเซลเมื่อหลายปีมาแล้ว
คุณวรวิทย์ท่านกล่าวว่า ดีครับ หากมีผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำ ให้ความรู้ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่งกับผู้เข้าอบรม
การทำเตาเผาถ่านใช้เองแบบง่าย ๆ และทนทาน
แปลงสาธิต การใช้ชีวิตพอเพียงในโครงการ 1 ไร่
มีกังหันลมผลิตไฟฟ้าใช้เอง
มีการปลูกข้าวเอง ผสมกับการปลูกพืชผักสวนครัวที่สามารถให้ผลผลิตเพียงพอกับ 1 ครอบครัว
มีการเลี้ยงไก่ เพื่อให้ออกไข่มารับประทาน
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
ภายในเนื้อที่ 1 ไร่
ได้มีการสร้างบ้านดิน 1 หลัง เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
บ้านดินหลังนี้สร้า่งโดยใช้คนเพียงคนเดียวสร้าง
คือทำก้อนดินขึ้นมาก่อน แล้วนำมาวางเรียงซ้อนกัน ใช้น้ำดินเป็นตัวประสาน และสามารถอยู่พักอาศัยได้
ทำเสร็จแล้วใช้งานอยู่อาศัยได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะดินขุดเอามาจากการทำบ่อด้านหน้าบ้าน แล้วนำมาทำเป็นก้อนดินก่อน
ใช้แฝกมุงหลังคา เข้าไปอยู่อาศัยได้ เย็นสบาย
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จะนำข้อมูลในการเดินทางไปประสานงานฯ ที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในครั้งนี้ มาแจ้งให้ทราบต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ
-
ใช้ UFO หรือเปล่า
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ช่วงตอนกลางคืน
ผมเห็นเครื่องบิน ไม่รู้ใช้หรือเปล่าครับ
เพราะมันไกล และเป็นช่วงกลางคืน ท้องฟ้ามืด
สิ่งที่ผมเห็นนั้น ส่งแสงกระพริบสีขาว เป็นระยะ
บินไปทางซ้ายมือ หมายถึงแสงที่กระพริบไปทางซ้ายมือ
ผมเห็นเฉพาะแสงที่กระพริบเท่านั้นครับ
บินไปเรื่อยๆครับ ลองนึกภาพตามนะครับ
แต่แล้วจู่ๆ ก็เหมือนจะบินช้าลง หลังจากนั้น
ก็ย้อนกลับเฉยเลย คือเปลี่ยนไปเป็นบินกลับ
บินไปทางขวามือแทน ที่ผมรู้ว่าเปลี่ยนเป็นบินไปทางขวามือ
เพราะเห็นจากแสงที่กระพริบครับ เห็นได้ชัดว่าแสงสีขาว
ที่กระพริบนั้น ไปทางขวามือแล้วไปเรื่อยๆด้วยครับ
ผมเห็นแบบนี้ประมาณ 2 เที่ยวได้ครับ
ซึ่งความจริงแล้ว ถ้าเครื่องบิน บินไปทางใดทางหนึ่ง
ก็คงต้องบินไปทางนั้นเลย ไม่มีบินกลับ จริงไหมครับ
ที่ผมเห็นนี้ บินไปทางซ้ายมือก็จริง แต่ไม่ไปตลอด
ไปสักพัก ก็เปลี่ยนเป็นบินไปทางขวามือ
ผมไม่คิดว่า มีเครื่องบินลำไหน ที่จะบินแบบนี้
บินไปทางซ้ายมือ แล้วบินกลับไปทางขวามือ
เป็นเส้นตรงในระนาบเดียวกัน
ผมเห็นตามนี้จริงๆครับ แต่ผมไม่มีกล้องวิดีโอ หรืออะไร
ที่จะถ่ายบันทึก เลยไม่ได้ถ่ายบันทึกเอาไว้ครับ -
ข้อสังเกตุของลักษณะการบินจะไม่มีเสียงครับ ไฟกระพริบจะแตกต่างจากเครื่องบิน บ้างก็กระพริบเป็นจังหวะ บ้างก็กระพริบสลับไปสลับมา และสามารถเปลี่ยนจังหวะการกระพริบได้เป็นระยะ และเส้นทางการบินสามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วครับ อย่างลักษณะที่คุณkittitpxเห็นนั้นน่าจะคาดเดาได้ว่าเป็นวัตถุลึกลับที่มาปรากฏให้คุณkittitpxให้เห็นเพื่อเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งก็เป็นได้ครับ.. -
ขอรบกวนพี่ ๆ น้อง ๆ หน่อยครับ
เนื่องจากจะเดินทางจาก กทม. ไปไหว้พระแถวภาคอีสาน ( ค้างที่ มุกดาหาร ) ประมาณ 3 วัน อยากให้แนะนำที่ครับ ว่าไปที่ไหนบ้าง
ขอบคุณครับ ; ขอธรรมอันสูงสุดจงเกิดแก่ทุกท่าน... สาธุ
-
ด้วย 21.11.09 ที่ผ่านมา คุณ digital คุณเจ็ง คณุ นีโม คุณ sutassee และผู้ที่ติดตามที่ไม่ได้กล่าวนามในที่นี้ (ต้องขออภัยด้วย) ได้นำเงินที่เป็นส่วนของเงินร่วมบริจาคเพื่อสร้างธรรมสถาน (แต่ต้องมีอันล้มเลิกไป ด้วยเหตุไม่ตรงตามประสงค์ นั้น) บัดนี้ เงินเหล่านี้ได้ถวายให้แก่เจ้าอาวาส วัดเชิงเลน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ขอให้ท่านเจ้าอาวาสนำสวดผาติกรรมที่คณะได้กระทำแล้วมาต่อพระรัตนตรัย และการขอขมากรรม สุดท้ายก็กรวดน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยอดเงินที่นำถวาย รวมเป็นเงิน 114,870.00 (ไม่มีการรวมแล้วได้เลขเด็ดแต่อย่างใด) ในฐานะผู้ร่วมกิจกรรม และสักขีพยาน
จึงขอแจ้งเพื่อทราบ เหล่าผู้ใจบุญร่วมสมทบทุนการสร้างกุศลในครั้งนี้ ทั้งผู้ที่เอ่ยนาม และไม่เอ่ยนาม จิตน้อมที่รำลึกในการถวายเงินเพื่อเป็นปัจจัย สืบทอดพระพุทธศาสนา ได้สำเร็จเสร็จสิ้น ตามประสงค์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นะครับ:cool:
และขอแถม มีบทความมาฝาก หากอ่านแล้วนำไปปฏิบัติก็จะเป็นกุศลแก่ตนเอง หรือส่งต่อให้ผู้สนใจต่อไปได้ เพราะเป็นแนวทางที่น่าสนใจดีไม่มีพิษภัย ไม่ต้องกดจิต แค่ปฏิบัติก็เห็นตามจริงได้ จ๊ะ
7 ขั้นตอนสู่การนอนอย่างพระอรหันต์
1. ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง ทันทีที่ตื่น อย่า มัวโอ้เอ้ งัวเงียพ่ายแพ้ให้ความขี้เกียจ เพราะการตื่นขึ้น <O:p></O:p>
เองโดยไม่มีใครปลุกเป็นการส่งสัญญาณให้คุณรู้ว่า สมองได้พักผ่อนเพียงพอแล้ว การนอนนานกว่า<O:p></O:p>
นั้นจึงถือเป็นความขึ้เกียจ
2. หมั่นเจริญสติและฝึกสมาธิระหว่างวัน เพื่อจัดสรรระเบียบสมองและลดการปรุงแต่งอารมณ์
3. หลีกเลี่ยง กิจกรรมที่ทำให้สมองและร่างกายตื่นตัวก่อนนอน เช่น การดูหน้งแอคชั่น การออกกำลัง <O:p></O:p>
กาย การดื่มเครืองดื่มที่มีคาเฟอีน การคิดเรื่องงาน ฯลฯ เพื่อให้ร่างกายพร้อมเข้าสู่การนอนอย่างสงบ<O:p></O:p>
และมีสติ
4. ทำจิตใจให้ว่าง ก่อนเข้านอน ด้วยการสะสางงาน และวางแผนสิ่งที่จะต้องที่วันรุ่ง ขึ้นให้เรียบร้อย <O:p></O:p>
อาจวางกระดาษและดินสอไว้ข้างเตียงเพื่อจดสิ่งที่นึกขึ้นได้ จะได้ไม่ต้องคิดวนเวียนไปมาเพราะกังวล
5. จัดระเบียบการนอน มีกำหนดเวลาการนอนและตื่นที่ชัดเจนเพื่อสร้างวินัยให้ร่างกาย
6. นอนในที่เย็น เงียบ และ มืด ปราศจากแสง เสียง และ สิ่งรบกวนที่ทำลายสมาธิในการนอน
7. หลับไปด้วยจิตอันนิ่ง สงบ และเป็นกุศล แทนที่จะหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะคิดปรุงแต่ง<O:p></O:p>
สารพัน
ลองหันมาสงบสติอารมณ์ก่อนนอนด้วยกุศโลบายง่ายๆ 2 วิธีนี้
วิธีที่ 1 นอนสมาธิตามหลักสติปัฎฐาน (สายพุทธ)
1. นอนหงายมือวางข้างลำตัว
2. นำไปจดจ่ออยู่ที่หน้าท้อง
3. หายใจเข้าให้รู้ว่าหน้าท้องพอง หายใจออกให้รู้ว่าหน้าท้องยุบ
4. มีสติจดจ่ออยู่ที่การเคลื่อนไหวของหน้าท้องจนกว่าจะหลับไป
5. พยายามสังเกตให้ได้ว่าหลับไปในขณะที่หน้าท้องพองหรือยุบ
วิธีที่ 2 หลับด้วยการผ่อนคลายเชิงลึกในแบบโยคะ (สายโยคี)
1. นำใจไปจดจ่ออยู่กับการผ่อนคลายส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยเริ่มตั้งแต่ศรีษะ
2. ผ่อนคลายทุกส่วนของอวัยวะที่ใจจดจ่ออยู่ จนกระทั่งไม่รู้สึกถึงความตึงเครียดใดๆ ที่อวัยวะนั้น แล้วจึง<O:p></O:p>
เลื่อนใจไปยังอวัยวะข้างเคียง
3. หากไม่แน่ใจว่าอวัยวะนั้นผ่อนคลายพอแล้วหรือยัง ให้หายใจเข้าลึกๆ แล้วเกร็งอวัยวะนั้นให้ตึงที่สุด <O:p></O:p>
พร้อมกับกลั้นใจไว้ แล้วจึงหายใจออกเต็มที่พร้อมกับผ่อนคลาย
4. ค่อยๆ ผ่อนคลาย ไล่ไปทีละอวัยวะ จนกระทั่งถึงปลายเท้า แล้วจึงวนกลับขึ้นมาจนถึงศรีษะอีกครั้ง
5. ทำเช่นนี้จนกว่าจะหลับไปอย่างผ่อนคลายและมีสติ
:cool::cool::cool::cool::cool:
ขอขอบคุณบทความจากหนังสือ............. ซีเคร็ต<O:p></O:p>
<O:p> </O:p>
Pm ความเห็น ทั้งสองสายนี้มีต้นทาง ใครก็มิแอบอ้างก็แปลว่าลอกเลียน ผู้ลอกเลียน ย่อมไม่มีราก ไม่มีที่มา ย่อมไม่ใช่ของจริง มีแต่เลียนแต่ไม่เนียน เห็นได้ด้วยปฏิบัติ ฝึกตามนี้ได้ ทุกข์ก็น้อย เกิดสติ สว่างด้วยปัญญา รู้อริยาบททุกขณะจิต ดีกว่าปล่อยเป็นว่าวลอยลมไร้ทิศไร้จุดหมาย ไม่เกิดกุศล มีอบายเป็นที่สิ้นสุดแน่แท้ :cool:
<O:p></O:p>
คุณแม่คุณเจ็งและอาจารย์วรรณกับเงินบริจาคทำบุญเป็นเงิน 25,270 บาท:cool::cool::cool::cool::cool:
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype class=inlineimg id=_x0000_t75 title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" v:shapetype o< path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" smilieid="24"></v:shapetype>
<v:shapetype class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" v:shapetype o< path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" filled="f" stroked="f" smilieid="24">
<v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 296.25pt; HEIGHT: 222pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\siriponp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg" o:href="http://palungjit.org/attachments/a.770525/"></v:imagedata></v:shape>
<O:p></O:p>
อาจารย์โกษา (SUTASSEE) และคุณเซียมหล่อนั้ง กับเงินบริจาค 89,600 บาท:cool::cool::cool: :cool:
<v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 353.25pt; HEIGHT: 265.5pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\siriponp\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image003.jpg" o:href="http://palungjit.org/attachments/a.770534/"></v:imagedata></v:shape>
<O:p></O:p>
</v:shapetype>ไฟล์ที่แนบมา:
-
หน้า 570 ของ 661