"ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 9 พฤษภาคม 2007.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตรียมรับมือกับตึกถล่มจากเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวแล้วหรือยัง?

    a.jpg

    เห็นควรจัดฝึกอบรมขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับการป้องกันตัวและรับมือกับภัยพิบัติแผ่นดินไหว และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้กับอาสาสมัครและประชาชน เพื่อลดการสูญเสียจำนวนมาก อันใกล้จะมาถึงนี้ นับแต่นี้ไปจะมีเหตุแผ่นดินไหวมากและถี่ขึ้น ต้องเตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัวเพื่อยังชีพไว้ด้วย และอย่าลืมเตรียมเสบียงบุญไว้ในภพหน้าด้วยครับ สาธุ

    นายอดิศร ฟุ้งขจร ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงใหม่ ในฐานะรองโฆษกสาขาภาคเหนือ กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นตามหลังเหตุแผ่นดินไหวหลายครั้งต้องเกิดขึ้นแน่ เพราะเมื่อแผ่นดินไหวแรงขนาดถึง 6.7-7 ริกเตอร์แล้ว ธรรมชาติจำเป็นต้องคืนตัวสู่จุดภาวะสมดุล

    การเกิดแผ่นดินไหวในพม่าครั้งนี้เกิดขึ้นที่รอยเลื่อนฉาน ในเขตรัฐฉานของพม่า ซึ่งขนานกับรอยเลื่อนเชียงแสนประมาณ 50 กิโลเมตรไปทางเหนือ และเกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์ เมืองเซนได ญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกใบเดียวกัน และมีความเชื่อมโยงเป็นพลวัตซึ่งกันและกัน

    "กรณีที่เซนไดประเทศญี่ปุ่นนั้นแผ่นเปลือกโลกของแปซิฟิกมุดลงไปใต้เปลือกโลกของญี่ปุ่น เหมือนวัวกระทิงที่พยายามขวิดดันกันไปดันกันมาแล้วเปลือกแปซิฟิกก็ชนะญี่ปุ่น ส่งผลให้เปลือกโลกญี่ปุ่นขยับไป 2.4 เมตร จึงทำให้กระทบไปยังรอยเลื่อนอื่นๆ เพราะเป็นโลกใบเดียวกัน"


    เตือนเกิดรอยเลื่อนใหม่

    นายอดิศรกล่าวว่า การเกิดแผ่นดินไหวในพม่าในครั้งนี้ สิ่งที่น่าห่วงคือรอยเลื่อนจากพม่าได้วิ่งขนานมากับลอยเลื่อนไทยแล้วมาหักศอกตรงบริเวณเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน ไปประมาณ 30 กิโลเมตร น่าจะเกิดรอยตัดของเปลือกโลกบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะทำให้แผ่นดินไหวมีการเปลี่ยนทิศ ต้องจับตาให้ดีว่าโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวหรือการสะสมพลังในรอยเลื่อนที่ไม่เคยเกิดอาจเกิดขึ้น คืออาจเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นได้หลังจากนี้

    พายุเข้าไทย ไฟฟ้าคงดับ น้ำประปาคงไม่ไหล ธนาคารไม่เปิด ห้างไม่เปิด ตลาดไม่มีของขาย แล้วเราจะทำตัวอย่างไร ในภัยพิบัติครั้งนี้ครับ เพราะคิดว่าถ้าเกิดจริงก็น่าจะลำบากไปอีกนานหลายเดือนครับ


    การเตรียมตัวรับมือ ดังนี้ครับ
    (สำหรับความลำบากเป็นเวลาเดือนหรือสองเดือน)

    1. เตรียมแสงสว่าง ซื้อเทียน ไม้ขีดไฟ,ไฟแซ็คหลายๆอัน ตะเกียงน้ำมันก๊าช ตุนไว้ครับไฟฟ้าดับแน่นอน
    2. เตรียม น้ำสะอาดไว้ดื่ม และ ชำระร่างกาย เช่น ถังน้ำตุนน้ำไว้ ตุนน้ำดี่มไว้มากๆ
    3. เตรียม ข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง แก๊สสำหรับหุงต้ม
    4. ถุงดำเล็ก ใหญ่ ไว้ทิ้งขยะและปลดทุกข์
    5. เก็บของขึ้นที่สูงไว้ป้องกันน้ำท่วม หรือถ้ามีอุปกรณ์เสริม ถังลอยน้ำ หรือ ทำเป็นบ้านเรือนแพชั่วคราวลอยน้ำ โดยมีเชือกมัดตัวเรือนแพปล่อยไว้และปรับระดับความสูงเองได้ โดยมีเสาหลักมัดไว้
    6. เตรียมกระสอบทรายไว้กั้นเวลาน้ำจะเข้าบ้าน หรือทรัพย์สิน
    7. อุปกรณ์ขอความช่วยเหลือ เช่น นกหวีด เสื้อชูชีพ ไฟฉายกันน้ำ
    8. อยู่ห่างตึกหรืออาคารสูงถ้าเกิดแผ่นดินทรุดล้มมาทับเอาครับ หรือ ทางน้ำไหลผ่าน
    9. ติดตามข่าวสารเรื่องภัยพิบัติอย่างต่อเนื่องๆ เช่น วิทยุทรานซีสเตอร์, ว.สมัครเล่นใช้ถ่านหรือแบตเตอรี่ขนาดเล็ก
    10. อย่าลืมเตรียมอาวุธไว้ด้วยครับ เผื่องูเข้ามา หรือ สัตว์ร้ายเข้ามา ถ้าโจรปล้นจะทำยังไง (ปืนลูกซอง,มีดดาบ,มีดอีโต้ ฯ)
    11. เสื้อกันหนาวใส่ทำตัวให้อุ่นหนาๆไว้ อากาศจะหนาวซ้ำ,อย่าถูกน้ำนานจะเป็นตะคริว อาจทำให้หัวใจช๊อกได้,โรคน้ำกัดเท้า
    12. เรือ เช่น เรือท้องแบน , เรือยางพาย, เรือยนต์
    13. ยารักษาโรคประจำตัว , ยาสามัญประจำบ้านและยาที่จำเป็น ,เตรียมพลาสเตอร์ปะแผลไว้เยอะๆ เผื่อมีแผล
    14. เปลนอนแบบมีมุ้ง,ที่นอนมุ้งครอบ หรือ เต้นท์กางอัตโนมัติ พร้อมผ้าห่มกันหนาวไม่ใช่นอนแข็งตายในเต้นท์
    15. เตรียมการอพยพเคลื่อนย้าย หากถึงเวลาที่จะต้องอพยพ
    16. วางแผนป้องกันภัยสำหรับครอบครัว ที่ทำงาน และสถานที่ศึกษา มีการชี้แจงบทบาทที่สมาชิกแต่ละบุคคลจะต้องปฏิบัติ มีการฝึกซ้อมแผนที่จัดทำไว้ เพื่อเพิ่มลักษณะและความคล่องตัวในการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

    เตรียมตัวไว้ดีกว่าครับถ้าไม่เกิดขึ้นก็เอาที่ตุนไว้มาใช้มากิน ไม่เสียหายอะไร อาจจะคิดว่าบ้า ไม่เชื่อพระเจ้าแล้ว ก็เชื่อเจ้าหน้าที่ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติเตือนละควรฟังเขาไหม ถึงแม้ว่าเขาคาดการณ์ก็ตาม ถ้าจริงขึ้นมาละก้อ คุณๆจะเอาตัวรอดกันได้ยังไง เตรียมตัวไว้ดีกว่าครับไม่เสียหาย ถึงตอนนั้นก็คงต้องช่วยตัวเองและครอบครัวตัวเองไปแล้วครับ ถ้าจะให้ดีก็อย่าเดินทางไปแถวชายทะเลกันตอนปลายๆเดือน พ.ค-ก.ค.ละกันครับ อยู่ใกล้บ้านจะได้ช่วยเหลือครอบครัวและทรัพย์สินกัน

    ห้ามโดนเปียกฝน........จะเป็นผดผื่นคันได้......จากฝนกรด หรือกัมมันตภาพรังสีได้.....หากโดนคันไม่หายให้ใช้ยาคารามายทา.......อาการจะดีขึ้น......ขอให้โชคดีทุกคน


    แบบจำลองสถานการณ์ช่วงวิกฤติ

    ชุมชนเมืองจะอยู่อาศัยไม่ได้ ไม่ปลอดภัย คนจนในเมืองกลายเป็นอาชญากร คนรวยมีเงินมากมายแต่ไร้ค่า ไม่มีใครยอมขายอาหารให้ ต้องหลบซ่อนตัวในที่พัก ปกป้องทรัพย์สินของตน ชุมชนชนบท ไม่มีข้าวกินเพราะขายข้าวไปหมดแล้ว ได้เงินมาก็ใช้หมดแล้ว ลงทุนเพาะปลูกไปแล้ว ยังไม่ได้ดอกผล อาหารจะรวมกันที่โรงสี และศูนย์อาหารจะอยู่ในเมือง การกระจายอาหารที่ไม่ดี ทำให้คนจนก่ออาชญากรรม คนรวยถูกฆ่าง่ายๆ คนดีไม่มีข้าวกิน แม้แต่น้ำก็ขาดแคลน

    กลยุทธ์การกัน, แก้ และก้าว (ก่อนเกิดกันได้, หากเกิดเหตุแก้ได้, ไม่เกิดก็ก้าวหน้าได้)

    ประกาศโครงการ "ชุมชนพอเพียงเพื่ออนาคต" โดยรณรงค์ว่า จะให้ชนบทเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำรายได้เข้าชุมชนโดยตรง ตามโครงการพัฒนาชุมชน เป็นการปิดข่าวสงคราม คนไม่แตกตื่น และการทำแบบนี้คือการเตรียมตัวรับสถานการณ์อย่างแนบเนียน ชุมชนชนบทจะมีเต้นท์สำรอง, น้ำสำรอง, อาหารสำรอง, ที่พักเครื่องกันหนาวสำรอง โดยบอกว่าเตรียมไว้เพื่อรับนักท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งจะทำเงินให้ประเทศ แต่แท้จริงแล้ว เตรียมไว้ช่วยคนเมือง ที่จะหนีภัยสงคราม และสึนามิที่ท่วมเกือบครึ่งประเทศมา เมื่อคนจากเมืองไร้บ้านมาสามารถเปิดบ้านต้อนรับได้ทันที

    เตรียมสังคมเมตตาธรรม โดยการรณรงค์การต้อนรับประทับใจ โดยการให้ไปฝึกความเมตตา, พรหมวิหารสี่ โดยมีศูนย์กลางการฝึกที่วัด มีบุคลากรอาสาสมัครไปสอนงาน เช่น การเตรียมตัวป้องกันและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับภัย สร้างมาตรฐานความปลอดภัย เป็นต้น ฝึกซ้อมแบบนี้สามารถช่วยคนที่ตกยากมาได้ทันที แต่บอกว่าเป็นการฝึกการบริการที่ดี เพื่อเตรียมเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เราจะปิดไม่ให้เขารู้ตัวว่าเป็นการเตรียมตัวช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เมื่อยามเกิดสงครามและภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ฟื้นฟูวัฒนธรรมความเมตตาอารีที่ถูกขายไปนาน ให้กลับมาสู่แดนดินไทย

    เตรียมศูนย์กลางชุมชน ได้แก่ ศูนย์กลางเสบียง ซึ่งมียุ้งฉางกลาง เก็บเมล็ดพันธุ์พืช ต่างๆ ทั้งที่กินได้ทันที เช่น พวกถั่ว พวกที่ต้องนำไปเพาะแต่โตเร็ว เช่น ผัก และเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้สามารถช่วยเหลือคนทั้งหมู่บ้านได้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์กลางปฐมพยาบาล และศูนย์เก็บสมุนไพรประจำตำบล ที่สามารถรองรับการรักษาโรคได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง ทั้งยังเตรียมบุคคลากรไว้ให้พร้อมด้วย ส่วนศูนย์กลางการสื่อสารนั้นก็จำเป็นเช่นกัน เพื่อประกาศข่าวต่างๆ ให้ความรู้ได้ทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย ประชาชนจะรู้ได้ว่าควรทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางข่าวสารนี้ ควรคำนึงถึงเวลาขาดไฟฟ้าด้วย

    เตรียมแหล่งน้ำจำนวนมาก ควรพิจารณาแหล่งน้ำสำรองจากใต้ดิน บ่อน้ำบาดาลควรมีจำนวนมาก เพราะจะปลอดภัยจากฝุ่นกำมันตรังสีและอาวุธเชื้อโรค ที่อาจแพร่มาทางแม่น้ำโขง ดังนี้ จึงควรรณรงค์ให้แต่ละหย่อมมีบ่อน้ำบาดาลใช้ร่วมกัน กระจายอย่างทั่วถึง น้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะเขตอีสาน หากน้ำทะเลท่วมหนุน น้ำใต้ดินมีเกลือมาก จะขุดกินน้ำบาดาลไม่ได้ แม่น้ำโขงก็มีอาวุธเชื้อโรคแพร่ระบาด แต่เราต้องไม่บอกประชาชนตรงๆ บอกว่าฟื้นฟูวัฒนธรรม บอกว่ารสนิยมฝรั่งเขาชอบมาดูแบบนี้ เป็นเอกลักษณ์ที่ประเทศอื่นไม่มี เราจะทำให้เป็นจุดขาย และใช้กินได้ทันทีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้าแล้งหรือหน้าไหนก็ตาม โดยเราจะสอนการกรองน้ำ, ต้มน้ำ และช่วยกันทำเครื่องกรองแจกให้ทั่ว

    การลงทุนสร้างที่พักอาศัยใหม่จะใช้เวลานาน และไม่ทันการณ์ ต้องใช้ชุมชนเดิมเป็นรากฐาน โดยต้องอาศัยอาสาสมัครทำงานนี้ ให้ครอบคลุมทั่วไทย กระจายทั้งด้านยุทโธปกรณ์, บุคลากร ฯลฯ ซึ่งต้องลาออกจากงานมาทำงานรับใช้ชาติเต็มตัว งานนี้จึงจะสำเร็จได้ หาไม่แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดลงมือช่วยเหลือ สังคมไทยถูกทอดทิ้ง คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไม่รู้ตัว คนที่รู้มากเห็นแก่ตัวก็ถูกอาชญากรปล้นฆ่าตาย บ้านเมืองไหน ไม่เตรียมสังคมพุทธไว้ บ้านเมืองนั้นเป็นอันต้องล่มสลายสิ้นชาติ

    กลยุทธนี้เดินหมากเกมเดียว ใช้ได้ทั้ง กัน, แก้ และก้าว รับศึกได้ทุกแบบ ทุกทิศ ทุกสถานการณ์ มีสมดุลในตัว เติบโตได้ ยืดหยุ่นได้ พลิกแพลงต่อได้ และเหมาะสมสอดคล้องกับรากฐานสังคมความเป็นไทย ทุกประการ ซึ่งหากไม่เกิดอะไรขึ้น ชุมชนไทยจะเข้มแข็งเป็นชุมชนพึ่งพาตนเองได้ทันที พร้อมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้ในอนาคตอย่างพอเพียงอีกด้วย วัฒนธรรมก็ถูกฟื้นฟู ความสามัคคีของคนในชาติก็กลับคืนมา แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา จะเป็นแหล่งพึ่งพาอาศัยและอยู่ร่วมกันได้ยามวิกฤติ

    ภัยใดไม่เท่าภัยจากมนุษย์ด้วยกัน ขาดน้ำและอาหารอยู่ได้หลายวัน ขาดอากาศหายใจอยู่ได้ไม่เกินสี่นาที แต่มนุษย์ด้วยกันนี้ฆ่ากันได้ในพริบตาเดียว ขอให้คนดีช่วยเหลือกัน เราเสียสละส่วนตนสองสามปี สร้างชาติใหม่ ไทยพุทธจะครองโลก สามัคคี, เมตตาธรรม, ขันติ, อุเบกขา และปัญญา จะทำให้รอดพ้นภัยพิบัติสู่ยุค "ศรีวิไล" เอย...

    โพสต์ข้อความโดยคุณ boon
    เมื่อ: มีนาคม 29, 2011, 10:40:39 am


    ที่มา http://forum.maehongson.go.th/index.php?PHPSESSID=2c44e7bf8e7062da2368a3c07e6cbd78&topic=34.msg98#msg98
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้ำมาจากไหนกัน ถึงท่วมโลกได้
    โดยลุงคนเชียงใหม่(ตอนนี้บวชเป็นพระอยู่ครับ)

    a.jpg

    หลายคนไม่เชื่อและไม่เข้าใจว่า ทำไมมีคนพยายามบอกว่าน้ำจะท่วมโลก หลายคนหัวเราะท้องแข็ง ว่ามันจะเอาน้ำมาจากใหนตั้งเยอะแยะ ถึงได้ท่วมได้ต่อให้นำแข็งละลายหมดโลก ก็อย่างมากก็คงจะค่อยๆ ท่วมแล้วมันจะอันตรายตรงไหนวะอย่างมากก็อยู่เรือนแพ (มีเวลาเสมอภาคกันระหว่าง คนรวยกับคนจน คือหมดตัวเหมือนกัน)

    แต่ลองมองข้อมูลตรงนี้แล้ว เปรียบเทียบกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นนะครับทุกวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมากมายคือ เขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่จะมีนำท่วมขัง อยู่เป็นจำนวนมากมายหลายล้านล้านตัน มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โลกต้องใช้การไหลของดินชะของน้ำ เพื่อให้เกิดแบบสมดุลของมวลดินมวลน้ำตั้งหลายร้อยหลายล้านปีและค่อยๆเกิด จนโลกปรับการหมุนได้ ในระยะที่ผ่านมาโลกปรับตัวโดยการให้น้ำไหล ไปยังจุดที่สมดุลย์ไม่กวัดแกว่งจนเสียศูนย์ (แต่อีกประมาณ ไม่เกิน 2 ปี เขื่อนลำน้ำโขงของจีน และเขื่อนกั้นแม่น้ำแยงซีเกียง ของจีนก็จะเป็นเขื่อนเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำ ใหญ่มากที่สุดในโลก)

    การเสียศูนย์สมดุลย์ของโลก ในทุกมิติมีอย่างต่อเนื่องที่สำคัญคือด้านจิต คนที่สามารถฝึกจิตถึงระดับหนึ่ง เมื่อก้มลงแล้วลองกำหนดจิตลงมายังพื้นโลกจะสัมผัสกับดวงจิตที่ดำทะมึน รวมกันจากก้อนเล็กๆจำนวนมาก ภาพของสังคมที่เปลี่ยนไป จากจิตที่เต็มไปด้วยความ โลภ โกรธ หลง ที่มีพลังรุนแรงมากขึ้นคนจะทำชั่วง่ายขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ

    ***ล้อรถที่ถ่วงเพี้ยนไปไม่กี่กรัม ยังแกว่งตุปัดตุเป๋ ดังนั้นน้ำจำนวนขนาดที่หลายคนคิดว่าไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนมวลของโลก แต่อย่าลืมว่าล้อยางกับเหล็กถ่วงล้อรถ เทียบกันไม่ได้แต่มีผลมากมายกับระบบ***

    ..............................................................................
    เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการปรับตัวของโลก
    ..............................................................................
    สังเกตุนะความไม่สมดุลย์ก่อให้เกิด แผ่นดินไหว อย่างต่อเนื่องโลกพยายามปรับตัว แต่ไม่ได้ผลครับ ทำให้เกิดการสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง แล้วถึงจุดหนึ่งก็ต้อง reset ตัวเองหรือทั้งระบบ 1 ครั้งคือ จนต้องหยุดหมุนหรือเปลี่ยนองศาการหมุน สิ่งที่เกิดคือโลกจะหยุดหมุน 1 กึ๊ก หลายตนคิดว่าคงไม่เป็นไร แต่ผลกระทบคือมวลน้ำทะเลที่ไหลตามความเร็วโลกนั้น ในยามที่โลกหยุดหมุน (แบบหยุดกึ๊กเลย แผ่นดินไหวอย่างรุนแรงและภูเขาไฟระเบิด ก้อนหินที่ทวีปตั้งวางอยู่ ที่เกิดการบดอัดกันของก้อนหินใหญ่ๆอย่างรุนแรง) หลังจากนั้น

    **************************************************
    เหตุการณ์ ดอกที่ 1

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโลกหยุด (แผ่นดินที่เป็นของแข็งหยุด แต่น้ำทะเลกลับไม่ยอมหยุด ยังคงเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วเท่าเดิม) ด้วยจำนวนการเคลื่อนที่มีเร็วเท่ากับการหมุนของโลกก่อนหยุดหมุน ทำให้น้ำทะเลกวาด (พูดเฉพาะประเทศไทยนะที่อื่นไม่ทราบ) ภาคใต้ทั้งหมด ภาคกลาง..........น้ำจากทะเลอันดามัน จะขึ้นฝั่งแถวเมาะตะมะของประเทศพม่า น้ำในอ่าวไทย.........จะถล่มเขมร ขึ้นฝั่งแบบเกือบหมดอ่าว

    เหตุการณ์ดอกที่ 2

    หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง เมื่อโลกปรับสมดุลย์ได้แล้ว น้ำก็เริ่มไหลตามความลาดชั้นของพื้นที่ ทำให้สิ่งก่อสร้างที่ทนการกวาด ในแนวจากตะวันตกสู่ตะวันออก ต้องพังลงจากน้ำที่ไหลจากเหนือลงใต้อีกระลอกหนึ่ง และภาคใต้ ก็จะถูกวาดอีกครั้งกับคลื่นยักษ์ หลังจากน้ำทะเลจะถูกปรับเข้าสู่ภาวะสมดุลย์จะเหลือคนเพียงไม่กี่คเท่านั้นเอง และที่เหลือส่วนใหญ่ก็จะตายจากไปด้วยการอดน้ำ

    **************************************************
    ลุงลำดับเหตุการณ์ให้ฟังก็แล้วกัน เพื่อจะได้เตรียมตัวถูก(ไม่ต้องเชื่อ)

    1. เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง เหมือนล้อรถที่เสียสมดุลย์แกว่งอย่างน่ากลัว เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟที่ดับไปแล้วจะถูกอัดบดให้เกิดระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง

    2. โลกพยายามปรับสมดุลย์โดยอาศัยน้ำทะเลเป็นตัวช่วยจัดความสมดุลย์
    แต่ทำไม่มากนัก

    3.โลกหยุดกึ๊กหนึ่ง (เหตุการณ์ ที่สังเกตุได้คนจะล้มทั้งยืน ตึกอาคารจะพังเกลื่อนอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน)

    เสียงเตือนเหมือนวัวยักษ์ครางอือๆ อยู่ระงม ถึงตอนนี้ให้รีบหนีขึ้นที่สูงหรือภูเขาที่ไกล้ที่สุด ขอให้คนที่เตรียมพร้อมแล้ว อย่าเสียดายของที่พังลงไปแล้วขอให้เดินทางขึ้นเหนือให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้ถนนหนทางยังพอเดินทางได้ ให้ไปไกล้ตอนเหนือของประเทศให้มากที่สุด

    หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะมีเสียงดังเหมือนพายุใหญ่ทั้งเมืองจะได้ยินพร้อมกัน ภาพน้ำก็จะข้ามภูเขามาถล่มเมือง เพื่อกวาดทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจมอยู่ใต้น้ำที่ไหลกรากอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนน้ำจำนวนมหาศาล

    4.หลังจากนั้น น้ำก็เริ่มไหลย้อนกลับ ไปตามความลาดชัน ทำให้สิ่งก่อสร้างทั้งหลายถูกกวาดหายไปกับสายน้ำ

    5.หลังจากวันนั้น ผู้ที่ยังรอดอยู่จะต้องเดินไปสุดแสนไกล เพื่อแสวงหาน้ำจืดเพื่อจะได้นำมาดื่ม

    คนที่รอด เริ่มเจอซากศพของคนตายเกลื่อนเมือง ความหิวกระหาย หนาวเย็นเริ่มทำให้คนแก่งแย่งอาหาร เครื่องนุ่งห่มกัน คนเสียสติจากการพบเห็นซากศพ และความสูญเสียเต็มทางเดิน ที่คนที่เป็นผู้รอดผ่านไป

    .............................................................................

    *** เตรียมตัวนะครับลูกๆหลานๆ****

    การเดินทางของผู้รอด จากระยะที่ 1

    1.ต้องขึ้นเหนือให้เร็วที่สุด ถนนหนทางที่เคยมีจะไม่สามารถใช้ได้ (เข็มทิศจะมีประโยชน์ตอนนี้เอง) สิ่งที่เราเคยจดจำเพื่อเป็นจุดสังเกตุในการเดินทาง จากการถูกกวาดของน้ำจำนวนมหาศาล ผู้อยู่ไกลจะไปไม่ถึง เพราะน้ำดื่มจะหมดระหว่างทางและคนเจ็บ คนเสียสติ โจรจะแก่งแย่งอาหารกัน(ดังนั้นขอให้ตัดสินใจเดินทางหลังจากเกิดแผ่นดินไหวทันที ดีที่สุดคือรถมอเตอร์ไซต์จะไปได้ไกลที่สุด)

    2. ลุงฝากถึงทุกคนที่จะต้องเดินทาง ถ้าไม่แน่ใจจะไปทางไหนขอให้ใช้จุดสังเกตุที่ตรงไป คือควันที่ลอยไปถึงขอบฟ้า (น่าจะเป็นควันที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิดแถวภาคเหนือตอนล่าง)

    3. ลุงจะส่งวิทยุคลื่นสั้น(วิทยุสื่สารระบบ VHF) สำหรับติดต่อทุกคนที่กำลังมีการจัดเตรียมจุดทวนสัญญานอยู่ไว้เป็นเครื่องมือนำทางสำหรับทุกคน...........(หลานของคุณลุงคงจะมาทำแทนในเรื่องนี้เพราะคุณลุงบวชเป็นพระไปแล้ว)


    *****มีเวลาเตรียมตัว อีกไม่นานนัก******

    แตยังพอมีเวลานะ เพียงแต่เริ่มก็พอมีความหวัง ลุงไม่กล้ากล่าวเอ่ยถึงนิมิตมาก เพราะคนที่มีระดับจิตสูงกว่าลุง มีมากมายเพียงแต่ลุงเน้นฝึกอนาคตังญานเป็นหลัก ในระยะที่ผ่านมาหรือญานในส่วนอื่นๆ อ่านจะอ่อนด้อยลงไป

    *************************************************
    ขอบารมีแห่งธรรมโปรดตัดรอน กรรมที่เบียดบังความเห็นชอบของท่าน

    *************************************************
    ส่วนใหญ่ที่นำมา post ในเว็บบอร์ดพลังจิต คือเกิดจากนิมิตของลุงเอง นำมารวมกับคำพยากรณ์และบอกเล่าของครูบาอาจารย์ เพราะลุงเองเห็นเหตุการณ์เป็นเพียงบางจุดเท่านั้นเอง

    ไม่ต้องเชื่อหรอกครับ ยิ่งคนที่ไม่เคยฝึกทางจิตจนสามารถสัมผัสกับโลกในมิติอื่นๆได้ยิ่งไม่เข้าใจ และยิ่งอธิบายก็คงเหมือนเล่าให้คนในป่าฟังเรื่องรถไฟฟ้าใต้ดิน เขาไม่เข้าใจหรอกครับ เพราะในความรู้สึกของเขาอย่างมากก็มีพวกใส้เดือน จิ้งหรีดเท่านั้นเองที่อยู่ใต้ดิน อย่าไปพยายามทำความเข้าใจเลยครับเหนื่อยเปล่า แต่เชื่อว่าคนในเว็บพลังจิตส่วนใหญ่จะเข้าใจ


    ลุงคนเชียงใหม่<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_435270", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    <!-- / message --><!-- / message --><!-- attachments -->
    31-12-2006, 04:48 AM

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=65310
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องเล่าของนิมิตฝัน

    [​IMG]
    นิมิตฝันนี้ผมได้รับรู้มาจาก ผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งซึ่งผมไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เป็นเรื่องของความฝันเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ผมจึงขออนุญาตนำเนี้อความในฝันนั้นมาเล่าให้ท่านฟังดังนี้ครับ (ขอย้ำว่าเป็นเรื่องของความฝันเท่านั้นนะครับ)

    ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

    เรื่องสุบินนิมิตของผมนั้น จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ต่างจากไปจากนวนิยายชวนฝันทั้งหลายหรอกครับ เพราะเป็นเพียงแค่ภาพที่เห็นจากความฝัน มิใช่สมาธินิมิตจริง ๆ ดังนั้นเรื่องราวที่เกิดจากความฝันของผม ขอคุณเกษมฟังเป็นนิทาน นะครับ

    ก่อนอื่นขอเล่าถึงเหตุแห่งสุบินนิมิตก่อนครับ.....คือเวลานอน ผมนอนทำสมาธิแล้วก็ก้าวลงสู่ความหลับ ซึ่งบางครั้งก็ฝัน บางครั้งก็ไม่ฝันครับ...ความฝันที่เกิดต่อจากจิตสงบแล้วก้าวลงสู่ความหลับ...จึงเป็นสุบินนิมิต (ซึ่งก็คือความฝันอยู่ดีครับ) บางครั้ง หากผมอยากเห็น ผมก็อธิษฐาน หรือตั้งใจอยากเห็นอย่างแรง แล้วค่อยนอนครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะฝันเห็นทันทีหลังจากอธิษฐานนะครับ จะฝันเห็นอย่างนั้นก็ต่อเมื่อ จิตของผมคลายจากความอยากนั้นแล้ว คืนต่อ ๆ มา ไม่คืนใดก็คืนหนึ่ง เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ก็จะฝันเห็นเองครับ...เช่นเคยอธิษฐานขอเห็น นาค นารีผล รุกขเทวดา เป็นต้น คร่าว ๆ คือ ฝันเห็นช่วงเกิดภัยพิบัติ ทั้งจากคน ทั้งจากธรรมชาติครับ เช่น

    ฝันเห็นความหนาวมาก หนาวระดับน้ำแข็งเกาะต้นไม้ (เกิดหลังใช้อาวุธร้าย), ฝันเห็นน้ำท่วมใหญ่สูงระดับตึกสิบสองชั้น บ้าง น้ำท่วมหลากไหลนองเต็มทุกพื้นที่ที่ไม่สูง บ้าง (ฝนตกหนักนาน),

    ฝันเห็นความร้อน แล้ง ไม่มีอาหารจะกิน คนเป็นกินคนตาย..คนที่ไม่ตายก็ถูกฆ่าเป็นอาหาร...(ในกลุ่มคนบาปเอง จะรวมกลุ่มกันเองแล้วกินกันเอง...กลุ่มผู้มีศีล ถือศีลอดอาหารยอมตาย ไม่ยอมกินใครก็มี)...ทั้งเห็นเขาเอาแขนคนขาคน ซี่โครงคน มาแขวนแลกข้าวของ ตามข้างทาง...

    ฝันเห็นแผ่นดินไหว, ตึกถล่ม, บ้านทรุดหายไปในดิน, คนที่อยู่ชายหาดหายไปกับน้ำ, เห็นลำแสงจากฟ้าฟาดลงพื้น จนดินแยก น้ำทะเลล้นกระแทกตึกถล่มไล่ทะลายล้มเป็นทิวแถว

    ฝันเห็นสงครามหลายครั้ง ทั้งทหารไล่ยิงคนตามภาคพื้นบ้าง ทั้งเครื่องบินบินเต็มท้องฟ้าทิ้งระเบิดสังหารบ้าง


    ฝันเห็นแดนเร้นภัยต่าง ๆ

    ฝันเห็นเจดีย์ทองอันสวยงามสูงเสียดฟ้า เห็นวิหารเจดีย์ที่จมอยู่ใต้น้ำ เห็นทำเลเมืองใหม่ (เปิดตามองภาพจากอากาศ) เห็นสถานที่มุรธาภิเสกที่มีอยู่แต่ผีบังไว้หรืออยู่อีกมิติหนึ่ง ซึ่งมีหุ่นพยนต์ยักษ์รักษาไว้อยู่ (ในฝันมีพระอาจารย์บุญพาเข้าไป)...แสดงว่าของทั้งหลายปัจจุบันโดยมากมีอยู่ มีเกิดขึ้นแล้ว แต่เทวดาปิดบังไว้อยู่........เป็นต้น


    นับตั้งแต่ช่วงก่อนปี 2000 ผมมักจะฝันเห็นสถานที่แปลก ๆ ฝันเห็นเจ้าลัทธิต่าง ๆ เช่นพวกเข้าทรง รวมถึงสำนักพระศรีอาริย์ทั้งหลาย ฝันเห็นพระที่เป็นมิจฉาทิฏฐินำพาคนไปสู่มิจฉาทิฏฐิดุจตน ฝันเห็นพระเกิดความโลภครอบงำ..เป็นต้น แล้วในฝันนั้น ๆ ตนเอง เข้าไปพยายามขัดขวาง แต่ก็สู้ไม่ค่อยได้ หลาย ๆ ครั้งในฝันต้องนั่งสมาธิเอาตัวรอดและก็รอดได้ทุกครั้ง และหลาย ๆ ครั้งในฝันก็ตั้งจิตอธิษฐานขอบำเพ็ญตนเพื่อเป็นคนหนึ่งที่จะสะสางชำระและรักษาพุทธศาสนาให้ผุดผ่อง

    ผมตระหนักอยู่เสมอว่า ตนเองเกิดมาพบพระพุทธศาสนาแล้ว ได้นับถือพุทธศาสนาจนสุดใจ มีโอกาสศึกษาพระไตรปิฎก มีครูอาจารย์ทางกรรมฐานที่จบกิจแล้ว มีธรรมิกสหาย...เหล่านี้นับว่า เป็นโชคดีอย่างยิ่ง เป็นโชคดีที่ไม่ใช่โชคลางบังเอิญ แต่เป็นโชคดีที่ตนเองเสาะแสวงหา ตั้งจิตอธิษฐาน และสั่งสมปัจจยกรรมนี้มายาวนาน

    หากตัวเราเองแค่คิดว่า เราเดินทางมาเพียงนี้ ถือว่าโชคดีพอแล้ว พอล่ะเราจักหยุด หยุดรอ รอคอยสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย...นี่นับว่าเสียโอกาสที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพุทธศาสนา...ตัวเราเอง พึงใช้ร่างนี้ ใช้ชาตินี้ ใช้ร่างอื่น ชาติอื่น ตราบเท่าที่ยังไม่เข้านิพพาน คอยจรรโลงพระพุทธศาสนา น่าจะเป็นการสร้างปัจจยกรรมที่ดีกว่า ที่ดีขึ้น อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ตน และประโยชน์สรรพสัตว์ทั้งหลาย

    มีพุทธภาษิตซึ่งมีความหมายว่า " การนอนเฉย ๆ ดีกว่าการทำบาป แต่การนอนเฉย ๆ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นกว่าเดิมเลย มีแต่ร่างกายจะบริโภคของเก่าไปเท่านั้น...."

    คำนึงถึงพุทธภาษิตนี้แล้ว จึงคิดว่า ตนเอง พึงทำตนให้เป็นประโยชน์ ทำตนเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยให้ล้อหมุนไปได้ ช่วยให้เครื่องจักรอุปกรณ์อื่น ๆ ทำงานได้....จึงได้อธิษฐานตนเป็นผู้หนึ่งที่จะรักษาพุทธศาสนา

    นอกจากผมจะฝันเห็นความเสื่อมแห่งพุทธศาสนิกชนอันเกิดจากปัญญาด้อยศรัทธาน้อยแล้ว ผมได้ฝันเห็นภัยพิบัติต่าง ๆ ผู้คนตายมากมาย....ผมจึงได้อธิษฐานตัวเองเป็นผู้หนึ่งที่จะช่วยผู้อื่น (ทั้ง ๆ ที่ตนก็ไม่รู้ว่าตนจะรอดหรือไม่) แต่ด้วยใจเมตตาเป็นทุนเดิม จึงตั้งใจไว้เช่นนั้น

    ผมเองเข้าใจว่า ภัยพิบัติใหญ่ จะเกิดขึ้นแน่นอน และตอนนี้ก็กำลังคืบคลานรุกเข้ามาเรื่อย ๆ และผมก็เข้าใจว่า คงมีผู้คนอีกมากมายคิดคล้าย ๆ ผม อยากให้โลกสงบสุข อยากให้โลกมีแต่คนดี ๆ มีเมตตา มีมุทิตา ไม่โลภ ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ไม่รังแกกันและกัน

    ซึ่งก่อนนี้ ด้วยเมตตาธรรม และกรุณาธรรม ผมคิดจะช่วยผู้อื่นโดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายให้รอดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของตน จึงพยายามบำเพ็ญตนเพื่อให้สามารถทำได้ดังนั้น แต่ต่อมากลับมองเห็นการช่วยเหลือแบบนั้น เป็นวิธีการไม่ชอบธรรม เนื่องเพราะว่า คนเราจะอยู่จะตาย ก็ด้วยกรรมของตนบริโภคกรรมของตนเท่านั้น สัตว์ทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม นั่นคือ หากเราช่วยผู้คนที่มีศีลไม่ดีงามพอ มีคุณธรรมไม่งามพอ ให้รอดชีวิตจนเป็นชาวประชาแห่งเมืองใหม่แล้ว ผู้คนเหล่านั้น จักอยู่ลำบากเอง เพราะธรรมตนไม่เหมาะสมกับธรรมของคนส่วนใหญ่ เปรียบเสมือนให้คนไม่ชอบเข้าวัดฟังธรรมไปอยู่ในวัดฟังธรรมทั้งวัน เขาย่อมทนอยู่ไม่ได้ ฉะนั้น นี่อย่างหนึ่ง จักอยู่สร้างความลำบากให้คนดีคนอื่น เพราะธรรรมชาติของตนเป็นคนไม่ค่อยดีอยู่ก่อนแล้ว นี่อย่างหนึ่ง ผู้คนเหล่านี้ จักสร้างความปั่นป่วนให้เมืองใหม่ได้

    แต่หาก กรรมของตนของตน เป็นผู้จำแนก คัดสรร จัดสรรแล้ว กลุ่มของสรรพสัตว์ จะเกิดการแบ่งอย่างชัดเจน คนที่รอดชีวิตก็จะรอดได้ด้วยกรรมของตนเองเป็นปัจจัย คนที่มีศีลดีงามจริง ๆ มีคุณธรรมดีงามจริง ๆ มีทิฏฐิตรงจริง ๆ มีศรัทธาเดียวกันจริง ๆ จะได้อยู่ในเมืองใหม่ เมืองที่เหลือแต่คนดี ๆ จึงจะมีแต่ความสงบสุขสมเป็นเมืองในอดุมคติได้

    เมื่อเห็นดังนี้ จิตจึงก้าวเข้าสู่อุเบกขาธรรม ปล่อยให้คนทั้งหลายสร้างตนเอง บำเพ็ญทางรอดเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ...ผู้ใดได้ยินได้ฟังเรื่องราว เกิดความตื่นตัว มิใช่ตื่นตูม แล้วใคร่รู้ทางรอด วิธีการดำเนินชีวิตเพื่อความเป็นผู้รอด ผู้นั้น ก็จักขวายขวายเอง เมื่อรู้วิธีดำเนินตนแล้ว พยายามดำเนินตนตามแนวทางนั้น ๆ จริง ๆ จนคุณธรรม ศีลธรรมซึมเข้าจิตใจเป็นอันดีแล้ว เขาจักรอดเอง ด้วยคุณธรรมของเขาเอง

    แม้แต่ตัวผมเอง หากมีคุณธรรม ศีลธรรมดีไม่พอ ก็ไม่รอดเหมือนกัน ดังนั้น จึงสำนึกในใจเสมอว่า ต้องประพฤติตัว บำเพ็ญตน ในคุณธรรม ศีลธรรม อันนั้นเหมือนกัน

    อากาศรองรับได้แต่เฉพาะของเบากว่าหรือคู่ควร สิ่งที่หนักกว่าอากาศ หรือไม่คู่ควร ย่อมอยู่บนอากาศไม่ได้

    น้ำปรับตัวเองเป็นไอน้ำ จึงอยู่บนอากาศได้

    ไอน้ำเมื่อรวมตัวกันเป็นหยดน้ำ ย่อมร่วงหล่นลงภาคพื้น

    ฉบับนี้ เท่านี้ก่อนนะครับ...ไม่ทราบว่าคุณเกษม ได้ยิน ได้ฟัง วิธีการดำเนินตนเพื่อเป็นผู้รอดแบบไหนบ้างครับ หากคุณเกษมรู้ ได้ยินได้ฟังมา ก็ช่วยเล่าให้ฟังบ้างนะครับ..

    ขอบคุณครับ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-8
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำแจ้งเตือนวันชำระล้างโลก (พ.ศ. 2549-2562)
    จากหลวงปู่เทพโลกอุดร แจ้งไว้แก่ หลวงปู่ภารตะฤๅษี (บัวขาว)


    qc%20(1)(1).jpg
    • ขอยกกลอน สอนใจ ในยามยาก ช่วงลำบาก ไว้เป็น อุทาหรณ์
    • โลกทั้งโลก กำลัง จะสั่นคลอน เพื่อสะท้อน ผลกรรม คนทำมา
    • จากวันนี้ ต่อไป ภายภาคหน้า ในไม่ช้า วิบากกรรม วิ่งเข้าหา
    • ให้โหยหวน คร่ำครวญ แสนเวทนา คนทั่วหล้า ต่างล้มหาย ตายเป็นเบือ
    • หากไม่เชื่อ ให้เผ้าดู จะรู้สึก ต้องสะอึก เมื่อไม่มี สิ่งใดเหลือ
    • ทุกวันนี้ มีใช้ อย่างเหลือเฟือ จะไม่เหลือ ให้ใช้ ในบัดดล
    • คนหลายคน วกวน เพื่อเสพสุข ไม่เคยทุกข์ ร้อนใจ ให้ขัดสน
    • เฝ้าเอาเปรียบ เบียดเบียน หมู่ผู้คน ไม่เคยสน เวรกรรม มันมีจริง
    • ไม่ว่าใคร ใดใด ในโลกนี้ ชั่วหรือดี ทุกเยาว์วัย ชายหรือหญิง
    • สัจธรรม เท่านั้น คือความจริง ทุกสรรพสิ่ง หนีไม่พ้น ผลของกรรม
    • คนคิดดี ทำดี ย่อมมีสุข พ้นกองทุกข์ ชีวี ไม่แปรผัน
    • พาพ้นทุกข์ สิ้นวิบัติ ในฉับพลัน บุญเท่านั้น ที่หนุนนำ คนทำดี
    • ผิดกับคน ที่ทำผิด และทำพลาด ต้องถึงฆาต บาปกรรม ซ้ำเป็นผี
    • ครั้งอยู่ดี มีสุข ไม่ใฝ่ดี พอจะม้วย ชีวี แล้วใฝ่บุญ
    • กุศลหนุน บุญใด ไหนจะช่วย มีแต่ซวย เท่านั้น ที่เกื้อหนุน
    • เกิดเป็นคน ไม่เคยคิด ตอบแทนคุณ จะเอาบุญ ที่ไหน มานำพา
    • อีกไม่นาน ก็ถึง กึ่งพุทธะ เป็นจังหวะ รอยต่อ ศาสนา
    • สิ่งทุกสิ่ง ย้อนกลับ สู่เวลา ทรัพย์ไร้ค่า คนยึดจิต อภิญญา
    • ถิ่นกาขาว ยาวนาน จะผันผ่าน พระศรีอารย์ อริยะเมตไตร เข้ามาหา
    • ศรีวิไล ใฝ่ธรรม ทุกเวลา เทวดา ปกป้อง ตลอดกาล
    • อยากอยู่ดี มีสุข ถึงยุคนั้น ต้องช่วยกัน สร้างกรรมดี ไว้สืบสาน
    • ภัยวิบัติ โลกสลาย อีกไม่นาน สิ้นคนพาล เหลือคนดี ไม่กี่คน
    • คำยืนยัน ปู่ฤๅษี ภารตะ ให้สละ อย่ายึดมั่น อย่าสับสน
    • ให้รู้ไว้ ภัยจะถึง ทุกตัวตน ให้ทุกคน หลบลี้ หนีออกมา
    • การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะบังเกิด จำไว้เถิด จะสิ้นยุค กลุ่มเศรษฐี
    • ที่คดโกง ฉกฉวย จนได้ดี จะสิ้นที หมดท่า พาตรอมตรม
    • บาปและกรรม ตามซ้ำ ไม่ย่อหย่อน กินหรือนอน เดินนั่ง ช่างขื่นขม
    • ถึงรวยทรัพย์ เคยยิ่งใหญ่ ยิ่งระทม ก็จะล้ม จมดิ้น สิ้นกันไป
    • จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว
    • ธรณี จะโกรธ เป็นพื้นไฟ พระพรายไซร้ จะถามโถม โจมดีเรา
    • พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา
    • ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา
    • ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พึงจำไว้ จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา
    • ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
    • เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย
    • เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย นอกนั้นไซร้ ไร้ชีวิต วิบัติภัย
    • บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่ ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย
    • สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน
    • พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย ก็ไม่ว่าย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์
    • ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย
    • พลังจากนั้น คนที่เหลือ จะแปรเปลี่ยน บำเพ็ญเพียร ภาวนา ไม่ขาดสาย
    • ทุกข์และโศก โลกมนุษย์ จะผ่อนคลาย ศรีอริยะเมตไตร จะบรรเจิด เกิดขึ้นพลัน
    • สร้างมนุษย์ สร้างโลก ให้ผุดผ่อง ตามครรลอง ศรีวิไล ให้เฉิดฉันท์
    • สิ้นทุกข์โศก โรคภัย ไม่โรมรัน จิตเท่านั้น ที่วัดใจ ให้อยู่ยืน
    • ทรัพย์เงินทอง ก่ายกอง เต็มไปหมด ช่างรันทด ไม่มีค่า เท่าผ้าผืน
    • สิ่งที่หา และใฝ่ ทุกวันคืน ที่ยั่งยืน คือจิต ผ่องอำไพ
    • อาศัยกรรม ทำดี ช่วยชูค้ำ ให้ได้นำ สู่อภิญญา น่าสดใส
    • ทั้งอิ่มเอิบ อิ่มกาย อิ่มจิตใจ พระยาธรรม นั่นไซร้ คือกฎเกณฑ์
    • หากไม่เชื่อ สิ่งที่กล่าว ชาวโลกเอย จำไว้เลย นี่คือแท้ แน่นักหนา
    • เฝ้าติดตาม การเปลี่ยนแปลง ทุกเวลา จะรู้ว่า เริ่มตั้งเค้า เข้าสู่กาล
    • พายุโหม น้ำท่วม แผ่นดินไหว โลกทั้งใบ ไม่แน่น ไร้แก่นสาร
    • ธาตุดินน้ำ ลมไฟ ถูกรุกราน จากวิญญาณ กาลอดีต กรีดทำลาย
    • คนทั่วโลก จะพบ ภัยพิบัติ สารพัด ปัญหา ให้แก้ไข
    • ทั้งเรื่องโลก เรื่องคน จนวุ่นวาย แก้อย่างไร ก็ไร้ค่า พาล้มครืน
    • เป็นด้วยเหตุ อาเพศ โลกใบนี้ ถูกย่ำยี จากมนุษย์ สุดทนฝืน
    • มุ่งทำลาย ล้างผลาญ ทุกค่ำคืน ไม่อาจฝืน ขืนปล่อยไว้ ใจโลกตรม
    • มอบให้เหล่าท่านทั้งหลายได้พิจารณา เห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ด้วยสติปัญญาของตนเอง จากหลวงปู่ ภารตะ ฤๅษี (บัวขาว)
    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/rwm-kha-thanay-1/kha-thanay-pu-hiy-theph-lok-xudr
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หลวงปู่เทพโลกอุดร พยากรณ์ภัยพิบัติ ที่กำลังจะมาถึงนี้

    worldend1.jpg
    • มวลมนุษย์ ภัยพิบัติ น้ำจะท่วมโลก แผ่นดินจะไหว มนุษย์ที่ดีถึงจะรอด หมู่ชนควรทำดี ให้มนุษย์มีการปฏิบัติ มวลชนทุกหมู่เหล่าต้องปฏิบัติ พระเจ้าผู้สร้างโลก มองเห็นมวลมนุษย์ กำลังจะทุกข์ยาก ล้มหายตายจาก เวลานั้นใกล้เข้ามา มนุษย์เท่านั้น ที่จะช่วยตัวเองได้ จงทำตัวเองให้ดี จงมีจิตที่ดี จึงจะรอดพ้น ไม่มีใครช่วยใครได้ แผ่นดินจะกลืนกิน มิรู้สิ้นชีวิตเท่าใด ผู้ที่จะรอดปลอดภัย ต้องอยู่ในศีลธรรม
    • พึงรักษาชีวี อย่าคิดว่าตายแล้วดีกว่าอยู่ ต้องอดทน ผู้รอดจากภัยพิบัติ คือ ผู้ที่ต้องอยู่ต่อ เป็นผู้ที่ต้องช่วยกัน ปรับสภาพจากเหตุการณ์ ที่ผ่านพ้นแต่กว่าจะถึงตอนนั้น มนุษย์ก็แสนสาหัส ทุกข์ยากอดอยาก ยากไร้ปางตาย ไร้ความทรงจำก็มี เพราะขาด การเตรียม ด้วยความไม่รู้ มนุษย์ต้องพบ วิบากกรรมชีวิต ทุกชีวิตที่อาศัย อยู่บนโลกลำบาก มนุษย์เป็นผู้ทำทุกสิ่งด้วยมือ ของมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่มี ไม่ใช่ ใครที่ไหนทำ เวลาใกล้เข้ามา ทุกขณะความตาย กำลังเข้ามาใกล้ตัว
    • ก่อนถึงเวลา ก่อนถึงวันนั้น มนุษย์ผู้ซึ่งกระทำการทำลาย มนุษย์ด้วยกัน มันต้องพินาศเช่นกัน การกระทำของมันผู้นี้ ทำให้มนุษย์ จำนวนมากมายสิ้นชีวิต คล้ายใบไม้ร่วง มันหวังว่าจะได้เป็นใหญ่ ในแผ่นดินทั่วโลก แต่แล้วความหายนะ เข้ามาครองโลกแทน ความพินาศเต็มไปหมด ความหวังย่อยยับ ปฐพีเต็มไปด้วยเลือด ศพกลาดเกลื่อนเลือดทาแผ่นดิน ชีวิตสูญสิ้น สิ้นไร้ผู้คน มีแต่ความตาย ที่เห็นชัดความดับสูญครั้งใหญ่ ของมวลมนุษย์และสัตว์ในโลก <= (อาจหมายถึงกลุ่ม Illuminati+อเมริกา)****
    • ความตายเป็นผู้ชนะ ผู้แพ้คือผู้กระทำความชั่วร้าย ผู้ที่ตายทั้งหมดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ ผู้ที่รอดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ มิใช่ทุกอย่างคือ กฎแห่งกรรม วิถีแห่งกรรม มาจากที่ใด ทำไม มวลมนุษย์จึงต้องรับความดับสูญ เพราะชีวิตกับความตายเป็นสิ่งที่คู่กัน ไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่มีทางหนีพ้น โอกาสผู้ที่รอด หมายถึง ผู้อยู่ต่อ เพื่ออนาคตโลก ผู้ทำลายดับสิ้นสูญ โลกร้อนระอุ มีแต่ไฟ เถ้าถ่านท่วมท้นแผ่นดิน น้ำเป็นพิษ สารเคมีท่วมท้น เชื้อโรคสารพัดชนิด กัดกินผู้คน ผู้ที่รอดแสนสาหัส ทุกข์ยากรอความตาย
    • ผู้มีบุญจะออกมาช่วย รักษาชีวิต ผู้คนมากมาย จะรอดชีวิตจากโรคร้าย การรักษา ไม่ต้องใช้ยา เป็นวิชา ไม่มีใครรู้จัก คนผู้นี้ รักษาผู้คน ไม่หวังสิ่งใด เพราะเป็นหน้าที่ก่อนเกิด การรักษา ไม่ต้องมาพบตัวผู้ป่วยอยู่แห่งใด รักษาได้ ไม่ต้องมา ถึงเวลาไม่ต้องค้นหา โรคจะหายเอง
    • เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องการผู้แก้ไข ทั่วโลกวุ่นวาย ขาดอาหาร น้ำตาเนืองนอง ศพลอยฟูฟ่อง เพราะน้ำหลากมา น้ำตาไหลริน ไม่มีใครได้กินอิ่ม
    • มีแต่ความทุกข์ ความเศร้าโศกครอบคลุม คนทั่วโลกไม่ต่างกัน ทุกที่มีแต่ความเศร้า การสูญเสีย ของมวลมนุษย์ แต่ก็มีบางประเทศ ฟื้นตัวเร็ว การฟื้นตัวของบางประเทศรวดเร็ว เป็นประเทศเล็กๆ ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่สูญเสียหนัก การพัฒนา เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ช้า ทุกอย่างจึงกลับกัน ประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจ กลายเป็นผู้ยากไร้ แทบไม่น่าเชื่อ เคยมีเงินเหลือเฟือ ต้องฝืดเคือง ยิ่งกว่ากินเกลือ โลกไม่พ้นวิกฤต ความทุกข์ยังครองเมือง
    • ผู้อ่อนแอจะไม่รอด อากาศหนาว หิมะถล่ม น้ำแข็งละลาย น้ำป่าหลาก ความทุกข์ยากทับถม คนตายเพราะความหนาวทุกข์ทับถมทวี กว่าจะรู้ ความดื้อรั้น ความเชื่อยาก ทำให้มนุษย์ ได้รับบทเรียน แต่ไม่เข้าใจ เพราะความตายมาเร็วเกินไป ไม่ทันรู้ตัว มนุษย์ไมทันได้คิด ไม่มีโอกาส เข้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะไม่บรรลุธรรม ต้องมีชะตากรรม เวียนว่ายตายเกิด อยู่เช่นนี้ ทุกชีวี ผู้รู้เหตุการณ์ รอเวลามีน้อย ความไม่แน่นอน
    • ความไม่มั่นใจ คิดว่าไม่เกิด จึงทำให้ การเตรียมตัวไม่พร้อม
    • อาหารไม่พอ น้ำดื่มไม่มี หมอก็ป่วย คนไข้มากมาย โรคที่เป็นก็หายยาก พุพองทั่วร่างกาย โรคร้ายทั้งสิ้น เกาะกินร่างกายกัมมันตภาพรังสี สารเคมี เชื้อโรคมากมี ทำร้ายร่างกาย อาหารเป็นพิษ ยาปฏิชีวนะ ช่วยไม่ได้ โรคระบาด ทุกหย่อมหญ้า ชีวิตร่วงเหมือนผักปลา ไม่มีเวลา มีแต่ชีวิตที่สิ้นไป กว่าเถ้าจะมอด กว่าน้ำจะลด กว่าเชื้อโรคจะหมดสิ้น ชีวิตสิ้นไปไม่รู้เท่าไหร่ ความอดทนต้องสูงสุด ไม่มีเสียงนกร้อง มีแต่เสียงโอดครวญ ความเจ็บปวด ครองเมือง
    • การครั้งนี้ กว่าจะสิ้นสุด ไม่มีใครล่วงรู้ ความไม่แน่นอน เที่ยงที่สุด ทุกชีวิต กว่าจะผ่านพ้น เหตุการณ์ สุดแสนลำบาก นอกจาก ผู้คนจำนวนหนึ่งหยั่งรู้ เตรียมรับสถานการณ์ ผู้คนเหล่านั้น มีโอกาส เป็นผู้อยู่รอด ชาวโลก กว่าครึ่งโลก ที่ล้มหายตายจาก ล้วนแล้วแต่ กรรม ฟ้าจะใสอีกครั้ง เมื่อฤดูฝนร่วงหล่น ละลายสิ่งต่างๆ ฝนจะชุ่มโชก สิ่งที่ร้ายจะกลายเป็นดี แต่ก็ต้องใช้เวลา พลิกฟื้นขึ้นมาใหม่
    • ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาทุกประเทศต้องพัฒนา เหมือนยุคเก่าย้อนมา แต่เจริญรุ่งเรือง กลายเป็นโลกยุคใหม่ วิทยาศาสตร์ล้ำหน้า ชาวประชาหน้าใส คนที่เหลือจากเหตุการณ์ มีความคิดเปลี่ยนไป ไม่มีแล้วความคิดเก่าๆ ทุกอย่างเปลี่ยนไป แม้แต่ความคิดของคน เปลี่ยนแปลงไปหมด ลดทิฐิ จิตใจดี มีเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การแก่งแย่งชิงดี แทบสิ้นไป มนุษย์ จิตใจร้ายยังมีอยู่ ความเมตตาค้ำจุนโลก ทุกข์สร่างโศก
    • ผู้มีเมตตาธรรมปรากฏ เพื่อนมนุษย์ช่วยเหลือกัน บำรุงรักษา ผู้มีจิตเมตตา เปิดโฉมหน้า แต่ไม่ปรากฏตัว ได้ยินแต่ข่าว ร่ำลือไปทั่ว เพื่อนมนุษย์ ทั่วโลก ต่างยินดีชื่นชม เหมือนพระเจ้ามาโปรด คนทั่วโลก ต้องการหมอรักษา หาหมอ ไม่ได้ โรคที่ระบาด ไม่มีในตำรา และไม่มียา แก้โรคที่ระบาด ความตาย มาเยือน ชีวิตมนุษย์ ได้สำนึก กว่าจะรู้ตัว เกือบจะรู้ตัว เกือบจะตาย ผู้ที่ตายไม่ได้รู้ตัว สำนึกในบาป
    • คนที่เหลือ ล้วนคิดได้ ความตาย ผ่านพ้นไป ผู้มีบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่กลัวเหนื่อย ไร้การแบ่งชั้น ทุกคนเสมอภาค ความดี ความพยายาม ผู้สร้างโลก ไม่ปล่อยให้ มนุษย์ ทุกข์ทรมานสู้กับความตาย นิมิตรหมายใหม่ ประกอบกรรมดี ละเว้นความชั่ว รักษาความดี อยู่ในศีลธรรม ตั้งมั่นในการปฏิบัติ อย่าเห็นแก่ตัว ทางสายกลาง ช่วยเหลือผู้อื่น จงมองตนเอง อย่ามัวรอเวลา ความว่าง (สุญญตา) จิตตั้งมั่น ปล่อยใจวาง จิตเป็นหนึ่ง มีสติ
    • คนที่สามารถทำได้เช่นนี้ ทางสายใหม่ คือการหลุดพ้น ผู้ที่ทำได้ ไม่ต้องมาเกิด ตามวัฎจักร ทางสายนี้มีมานาน ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ผู้ที่รู้ และเข้าใจ พยายามศึกษา ผิดบ้างถูกบ้าง เพื่อหาทางหลุดพ้น จากกิเลส พระเจ้าเบื้องบน เฝ้ามองดู ใครทำอะไร ไม่รอดพ้นสายตา การกระทำ ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ในสายตา มีการบันทึก ผู้ที่รอดตาย ต้องมีจิตใจเข้มแข็ง อดทนต่อสถานการณ์ ไม่ใช่ง่าย สิ่งที่เลวร้าย มนุษย์ ต้องอดทนให้ได้
    • กาลเวลาผ่านไป ผลที่ได้รับต่างทุกข์ถ้วนหน้า จิตใจสำคัญที่สุด เมื่อเวลานั้นมาถึง สภาวะคับขัน ผู้เข้มแข็ง จะรอดพ้น ความอดอยาก ความพลัดพราก คืบคลานเข้ามาความลำเค็ญ ผู้คนโอดครวญ ชีวิตทุกผู้ทุกนาม รอความหวัง อย่างสิ้นหวัง แต่ก็รอ สภาวะเช่นนั้น ใครทนได้ ยอดคน ชีวิตมืดมน ยิ่งกว่าความมืด หนทาง มองไม่เห็น
    • สิ่งลี้ลับ เริ่มปรากฏ ผู้คนแตกตื่น ได้ยินเรื่องราว อันมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์นั้น ไม่เคยปรากฏ ตั้งแต่สมัยพุทธกาล มาสู่ยุคปัจจุบัน มนุษย์จะได้พบ สิ่งมหัศจรรย์ ในยุคนี้ ผู้ซึ่งไม่เคยได้พบเห็น ความมหัศจรรย์ จะมีโอกาส ได้เห็น
    ที่มา https://sites.google.com/site/jantimema/rwm-kha-thanay-1/kha-thanay-pu-hiy-theph-lok-xudr
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    12 ปี แห่งมหันตภัยล้างโลก (พ.ศ.๒๕๔๙-พ.ศ.๒๕๖๒)

    a131de35b33d4c3d888c02fc1eb88b5c_620.jpg

    มหันตภัยล้างโลกได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่เกินอีก ๑๒ ปีข้างหน้าเป็นการเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่

    ...วันที่ 30 มกราคม 2550 สัญญาณจากจักรวาล บอกเราว่า เป็นการเริ่มนับเวลาจากนี้ไป ที่มนุษย์จะพบภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น จนประสบมหันตภัยล้างโลกในที่สุด ในเวลาอีก 12 ปีข้างหน้า คือประมาณต้นถึงกลางปี พ.ศ. 2562 มนุษย์ทั้งหลาย จงตื่นจากความโง่เขลา จงตื่นจากความเห็นแก่ตัว คิดแต่อยากได้ทรัพย์ หรือวัตถุ จนไม่รู้ว่าธรรมชาติจะเอาชีวิตไปในไม่ช้านี้แล้ว และพึงรักษาธรรมชาติให้สมดุล รักษาจิตให้บริสุทธิ์ร่วมกัน เพื่อลดความรุนแรงของมหันตภัย ให้เกิดน้อยลงมากที่สุด เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของโลกในเวลานี้ ผู้นำประเทศทั้งหลาย หรือผู้ใดที่มุ่งหวังอำนาจ และกระหายสงคราม จงจำไว้ว่าผู้นำเหล่านั้น หรือผู้นั้นเป็นผู้ทำลายโลกที่ร้ายกาจ

    สภาพของการเกิดมหันตภัยในระยะเวลา 12 ปี สามารถแบ่งโดยความรุนแรงเป็น 3 ช่วงเวลา คือ

    1. ช่วงแรก เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2550-2551 ระยะเวลา 2 ปีแรก เกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ตามรอยต่อของแผ่นทวีปทั้งหมดที่แตกร้าวไปทั่วดาวดวงนี้ สัตว์ และมนุษย์มีวิธีทำร้ายกัน แบบดุร้ายป่าเถื่อนมากยิ่งขึ้น สัตว์ขนาดเล็กเตรียมปรับตัวรับวิกฤติดังกล่าวแล้ว และเตรียมปรับตัวเพื่อทำลายล้างมวลมนุษย์อีกด้วย โดยการสะสมถ่ายทอดโรค ที่ร้ายแรงมากขึ้น นอกจากนั้นทั่วโลกยังเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงกว่าเดิม และเกิดอุบัติเหตุที่แปลกๆ โดยมนุษย์หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้

    เช่น ระหว่างปีใหม่ ( พ.ศ. 2550) ที่ผ่านมาเครื่องบินภายในประเทศอินโดนีเซียสูญหายระหว่างบินอยู่เมืองสุราเวสี ไม่สามารถค้นพบได้จนบัดนี้ สาเหตุที่มนุษย์คาดไม่ถึง ก็คือ เกิดจุดตัดสนามแม่เหล็กโลก เกิดขึ้นบริเวณนั้นพอดี เนื่องจากความไม่สมดุล จึงดูดเอาเครื่องบินลำนี้ ออกนอกมิติของโลก เข้าสู่มิติมืดที่ว่างเปล่า หรือเป็นปรากฏการณ์ที่มนุษย์เข้าใจแล้วว่า เสมือนสามเหลี่ยมเมอมิวดา ในแกนกลางมหาสมุทร นั่นคือหลุมมิติในน้ำ แต่ที่จริงแล้ว ยังมีหลุมมิติในอากาศ (ที่เครื่องบินหายไปในช่องหลุมมิติ) และหลุมมิติบนพื้นโลก (ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเนื่องจากมิติซ้อนกันทำให้มองไม่เห็นกัน) เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งลี้ลับ แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยสมองที่มีแต่ความอยาก และความต้องการในวัตถุทั้งหลาย

    2. ระยะที่ 2 ตั้งแต่ พ.ศ. 2552-2556 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง เกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นมากกว่าเดิม และต่อเนื่องจนมนุษย์ทั้งโลกหวาดกลัว กลุ่มมนุษย์ที่มีจิตต่ำจะก่อกวนมนุษย์ด้วยความรุนแรงเหมือนไม่ใช่คน เกิดหลุมมิติมากมายเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อย่างที่มนุษย์คาดไม่ถึง มีการตายของมนุษย์เป็นกลุ่มใหญ่จำนวนมาก ด้วยอุบัติเหตุและภัยพิบัติ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย พื้นโลกบางส่วนยุบตัวลง เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด อากาศร้อนขึ้นอย่างมาก และอากาศหนาวก็มากขึ้นเช่นกันของแต่ละพื้นที่

    จะเริ่มมีพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของมนุษย์น้อยลง ความแห้งแล้งมากขึ้น น้ำในทะเลยกระดับสูงขึ้นจากสาเหตุการยุบตัวของโลก น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และการนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้สมทบด้วยอีกแรงหนึ่ง เริ่มเกิดโรคระบาดจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่ผุดมาจากดินที่ไม่เคยมีมาก่อน เชื้อเหล่านี้ทนทานต่อการทำลาย เพราะปรับตัวจากที่ที่เย็นจัดหรือปรับตัวจากที่ที่ร้อนจัดจึงทนต่อสภาวะที่เปลี่ยนไป

    3. ระยะที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2557-2561 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง พอที่จะละลายน้ำแข็งเกือบทั้งหมดของขั้วโลกทั้งสอง เกิดน้ำท่วมโลก โดยที่พื้นที่อาศัยของมนุษย์จะหายไปอย่างน้อยก็ 2 ใน 3 ส่วน ได้แก่ ที่ริมทะเลปากแม่น้ำ และที่ราบลุ่มต่างๆ คงเหลือพื้นที่ราบสูงพื้นที่บนภูเขา ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับกับการเกษตรนัก จึงเกิดการขาดแคลนอาหาร เฉพาะพื้นที่ประเทศไทยนั้นเหลือเพียงภาคเหนือ ภาคอีสาน นอกจากนั้นที่เหลือก็มีสภาพเป็นเกาะแก่งเล็กๆ

    สรุปได้ดังนี้ บนพื้นดินที่อยู่ตรงกลางทวีปทั้งหลาย ก็จะแห้งแล้งด้วยความร้อนจากใต้ผิวดินประทุขึ้นมา พื้นที่ที่อยู่ริมบริเวณชายฝั่ง หรือค่อนมาทางริมขอบทวีปทั้งหลาย ก็จะถูกน้ำทะเลกลืนกิน บางที่ก็จะยุบหายไป บางที่ก็จะถูกเหวี่ยงออกไปแยกตัวเป็นอิสระ มีแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ทั่วโลก มนุษย์จะเผชิญกับสภาพความแล้งจัด จนต้องอดตาย พบโรคใหม่กับสัตว์สายพันธุ์ดุร้าย และมีพิษ คร่าเอาชีวิตมนุษย์ทั่วไปทั้งโลกนี้เช่นกัน

    โดย Dr.G.G.Junior

    แหล่งที่มา
    http://www.universal-signal.com/
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หากภัยพิบัติมาจริง เราก็จะได้พบกับพระยาธรรมิกราชแล้วซิ

    A9709829-4.jpg
    ณ เขาควง สมาชิก

    ก็หลายๆ คนอยากพบเจอพระยาธรรมิกราชกัน

    แต่ก่อนจะได้เจอพระยาธรรมิกราชนั้น เราคงต้องฝ่าวิกฤต ภัยพิบัติให้ได้เสียก่อน จึงจะเหลือผู้รอดชีวิตสัก 30 % แล้วคนที่รอดก็จะได้พบพระยาธรรมิกราช ผู้จะมากอบกู้พระศาสนา ของพระพุทธเจ้า

    ท่านไม่ได้มาเพื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านะครับ เพราะพระพุทธเจ้าไม่มีทางมาซ้อนกันสองพระองค์ได้ ศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์นี้ต้องมีอายุครบ 5,000 ปี

    ส่วนพระยาธรรมิกราช ท่านจะมาปกครองบ้านเมือง ปกครองโลก กอบกู้พระศาสนา ว่ากันว่า จะมีพระมหาโพธิสัตว์ ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก 2 หรือ 3 องค์ มาบังเกิด

    1. พระมหาโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ท่านจะต้องเป็นสมเด็จพระสังฆราช หรือ ต้องมีอำนาจทางสงฆ์ หรือไม่ใช้พระมหาโพธิ์สัตว์ แต่จะต้องเป็นพระอรหันต์ องค์นี้ ไม่มีตำรา ระบุว่ามีลักษณะเช่นไร

    2. พระมหาโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ท่านจะเป็นสามัญชนคนธรรมดา ไม่ได้เป็นพระ ท่านจะทำหน้าที่ปกครองชาวโลก และทำหน้าที่กอบกู้พระศาสนา องค์นี้ ตามตำรา ต่างๆ ระบุไว้ประมวลได้ดังนี้

    2.1 ชดใช้กรรมที่เคยถวายแตงโมที่หนูเจาะกิน ส่งผลให้ศรีษะท่านมีลักษณะบูดเบี้ยว มีแผลขึ้นที่ศรีษะประจำ แก้ไม่หาย แต่จะหายในภายหลัง
    2.2 ท่านเกิดในตระกูลที่พ่อแม่หรือปู่ย่าตายาย ทำนา ทอหูก
    2.3 บ้านที่ท่านเกิดมีหลังคา 3 หลัง
    2.4 ด้านหนึ่งของบ้านจะมีภูเขาลักษณะเหมือนถ้วยคว่ำ
    2.5 ท่านจะมีเชื้อชาติอื่นผสมด้วย (บางตำราระบุว่า เชื่อชาติลาว และคงจะรวมประเทศลาวในอนาคตกาล)
    2.6 ท่านใช้พระจันทร์เป็นสัญลักษณ์
    2.7 ท่านมีขนยาวพิเศษ เส้นหนึ่งที่ไหล่ด้านซ้าย (ถ้าจำไม่ผิด)
    2.8 ท่านมีแผลเป็นที่นิ้วหรือมือด้านซ้ายเป็นตำหนิ
    2.9 ท่านมีแผลเป็นที่เท้า (จำข้างไม่ได้)
    2.10 ตอนเด็กนอนแบบหนึ่ง เป็นสามเณรนอนแบบหนึ่ง เป็นพระนอนแบบหนึ่ง สึกจากพระนอนอีกแบบหนึ่ง ก่อนเป็นพระยาธรรมิกราช นอนอีกแบบหนึ่ง พอได้เป็น พระยาธรรมิกราชแล้ว ก็จะนอนอีกแบบหนึ่ง (บวชสองครั้งคาดว่า บวชเป็นสามเณรหนึ่งครั้ง และอาจสึก แล้วมาบวชเป็นพระอีกหนึ่งครั้ง แล้วก็สึกไป น่าจะทำให้เข้าใจศาสนา ความเป็นอยู่ของพระ ความเสือมโทรมเป็นอย่างดี พร้อมทั้งน่าจะทราบแนวทางแก้ไขในอนาคต)
    2.11 สมัยบวช พระเณร ก็ไม่ชอบท่านเอาเสียเลย สงสัยท่านอัธยาศรัยไม่เหมือนคนอื่น หรืออาจเป็นเพราะกรรมเก่า สึกไปคนก็ไม่ค่อยชอบท่าน อาจเป็นกรรมเก่าท่าน หรืออาจเป็นเพราะท่านตั้งใจเก็บตัวไม่ให้ใครทราบจนกว่าพระองค์จะปรากฏพระองค์
    2.12 ชีวิตท่านจนหนักแน่นอน แม้วันหนึ่งเป็นนายก ก็คงจนเหมือนเดิม (ใครรวยก็คงไม่ไช้ บางครั้งคนจะเรียกท่านว่า พระยาธรรมิกราชผู้ยากจน)
    2.13 ท่านต้องเป็นคนที่เก็บตัวอย่างเงียบๆ แน่ๆ คงไม่บอกใครง่ายๆ หากยังไม่ถึงเวลา คงบอกเฉพาะบางคนเท่านั้น (ใครประกาศมาประจำก็คงเป็นตามตำราว่า "ดังบ่ดี ดีบ่ดัง" หมายถึงคนที่ชอบทำตัวดังด้วยการประกาศว่าตนเองเป็นพระยาธรรมิกราชนั้น ไม่ใช้ของแท้ องค์แท้ท่านจะไม่ประกาศตนออกมา จะเก็บตนเองเงียบๆ จนถึงเวลา ประกาศองค์ท่าน ขณะนี้ท่านอาจจะมาเป็นนักการเมืองผู้ทรงคุณธรรม โดยแอบอยู่ ก็เป็นได้ แต่ถึงเป็นก็ยังไม่ใหญ่โต เพราะยังไม่ถึงเวลา ท่านคงจะถึงดวงดาว เมื่อเป็นพระยาธรรมิกราชเต็มตัว ตอนภัยพิบัติสงบมั่งครับ เดานะครับ)
    2.14 ท่านจะต้องมาปราบพวกนอกศาสนาที่รบราฆ่าฟันกัน (นอกศาสนา) และปราบพระพร้อมทั้งผู้ที่มาแอบอ้างพระพุทธเจ้าหากิน (ในศาสนา) ให้คนเหล่านี้สิ้นไป แล้วกลับมาในแนวทางที่ถูกต้อง ส่วนใครที่กลับตัวไม่ได้ ก็คงต้องจากไปกับภัยพิบัติในครั้งที่จะมาถึงนี้

    ใครอยากเจอองค์ท่าน ต้องผ่านภัยพิบัติครั้งนี้ไปให้รอดซะก่อน
    วิธีการทำให้รอด ก็คงไม่ยาก รักษาศีล 5 ประจำ นั่งสมาธิภาวนา

    ท่านจะมาเมื่อไหร่ คำตอบก็คือ เมื่อภัยพิบัติสงบนั่นเอง และภัยพิบัติจะกินเวลาประมาณ 5 ปี หนักขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้อาจนับเป็นปีที่ 1 หรือยังไม่นับก็ได้ อาจนับปีหน้าเป็นปีที่ 1 หากเกิดเหตุการณ์จริงคงต่อเนื่องถึงปีพ.ศ. 2560 หรือ 2562 ก่อนจะจบเหตุการณ์ ให้ท่านดีใจได้ล่วงหน้า 7 วัน แต่จะเป็น 7 วันที่ทรหดที่สุด ที่ต้องผ่านไปให้ได้ นั่นคือ ท้องฟ้าจะมืดมิดเป็นระยะเวลายาวนานถึง 7 วัน 7 คืน มืดมิดสนิท มองไม่เห็นอะไรเลย กินเวลา 7 วัน ก็หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ท่านที่ทราบแล้วจง โปรดทราบเถิดว่า เมื่อผ่าน 7 วัน พระยาธรรมิกราชท่านจะปรากฎพระองค์ให้คนได้รู้จักพระองค์กันในครั้งนั้น ในวันนั้นหลังฟ้ามืดมิดไม่มีไฟฟ้า ไม่มีแสงสว่างใดๆ เป็นระยะเวลา 7 วัน 7 คืน (ส่วนใหญ่ไม่ทราบวันเวลาที่ผ่านไป เพราะไม่เห็นเดือนและตะวัน) เริ่มตอนเช้าจะมีแสงฟ้าเป็นสีทอง สวยงามที่สุด นั่นคือปรากฏการณ์ แสงฟ้าสีทองหลังฟ้ามืดมิด 7 วัน 7 คืน คือ สิ่งชี้บ่ง ว่า

    1. นี่คือสถานการณ์ที่จะหนักที่สุดและกำลังจะสิ้นสุดลงแล้วเมื่อผ่าน 7 วัน 7 คืน สุดระทมไป

    2. พระยาธรรมิกราช จะปรากฏพระองค์ให้เห็น คงไม่ได้เห็นทันทีนะครับ ผมเชื่อว่าท่านจะไม่แสดงปาฏิหารย์ที่เป็นอิทธิฤทธิ์ ถึงแม้ว่าท่านมี เพราะท่านมาทำให้ศาสนาของพระพุทธเจ้า เป็นเสมือนที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ อิทธิปาฏิหารย์เลย

    3. โลกจะเปลี่ยนแบบใหม่ มีลักษณะการปกครองที่เรียกว่า 3 โพธิ์ศรี ผมเดาว่า 3 โพธิศรี 1.คงเป็นพระมหาโพธิสัตว์ที่เป็นพระ หรือหากไม่ใช้พระมหาโพธิสัตว์ก็คงเป็นพระอรหันต์ผู้เชี่ยวชาญอภิญญา 6 แน่นอนเป็นอย่างน้อย 2.คงเป็นพระมหาโพธิสัตว์ที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน 3.คงเป็นพระมหาโพธิ์สัตว์ที่เป็นนายกรัฐมนตรี

    4. พระยาธรรมิกราช จะมาปราบพวกชอบแอบอ้าง อิทธิฤทธิ พวกบิดเบือนพระศาสนา พวกอาศัยผ้าเหลืองหากิน พวกนักไสยศาสตร์ แล้วหันมาเป็นแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนอย่างถูกต้องทุกกระเบียดนิ้วอย่างแน่นอน

    5. พระอรหันต์จะมากขึ้น อาจเกือบเท่าสมัยที่พระพุทธเจ้าที่ทรงพระชมน์อยู่

    ท่านยังอยากเจอพระยาธรรมิกราชอยู่หรือไม่ ถ้าอยากเจอ ก็พยายามรักษาศีล 5 และปฏิบัติกรรมฐานที่ถูกต้องให้มากๆ อย่าไปนอกลู่นอกทางพระศาสนาเลยครับ หากใครไม่ฟัง อาจต้องตกเป็นอาหารของปลาและเต่า ก็เป็นได้ครับ แต่หากใครฟัง ก็อาจจะผ่านภัยพิบัติที่กินระยะเวลาหลายปี จนได้พบพระยาธรรมิกราช ยิ่งใครทีชอบแอบอ้างว่าคือ พระศรีอริยเมตไตร นั่นแหละจะหายไปกับสายน้ำ ภูเขาไฟถล่ม แผ่นดินไหว หรือพายุ อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแน่ พวกชอบแอบอ้างเนี้ย ทำกรรมหนักนะครับ หากใครยังแอบอ้างอยู่ ก็เลิกซะ "ดังบ่ดี ดีบ่ดัง" จำไว้ ผมก็จะพยายามภาวนา หากรอดไปอาจได้มีโอกาสได้พบพระยาธรรมิกราช ผู้มาปราบทุกข์เข็ญ ในครั้งนี้ด้วย (แต่ไม่รู้ว่าจะมีบุญได้พบหรือเปล่าก็ไม่ทราบ คงแล้วแต่บุญวาสนาของผมเอง ว่าจะมีโอกาสได้พบหรือไม่)

    อย่าประมาทในชีวิต อย่าประมาทในคืนและวัน อย่าปล่อยให้วันเวลาล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าหายใจทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ เร่งภาวนา "พุทโธ" กันให้มากๆ น่าจะช่วยได้มากทีเดียว

    หากกล่าวแล้วไปกระทบใครก็ขออภัยอย่างสูง (สิ่งที่ผมกล่าวมา เกี่ยวกับลักษณะของพระยาธรรมิกราชนั้น ผมก็อ่านตำราต่างๆ โดยเฉพาะในเวบพลังจิตนี้ แล้วใช้ปัญญาที่มีอยู่อย่างน้อยนิดประมวล แล้วสรุปมาให้อ่านกัน เผื่อใครเร่งภาวนา ผมก็จะได้บุญอยู่รอดไปพบพระยาธรรมิกราชด้วย)

    ขอให้ทุกคนสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พุทธตำนานพระเจ้าเลียบโลก กัณฑ์ที่ ๙

    maxresdefault.jpg

    ขณะนั้นสมเด้จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเล็งเห็นพระยายักษ์ตนนั้นเป็นผู้มีบุญสมภาร ซึ่งจักต้องปรากฏด้วยบุญและคุณแห่งตนในภายภาคหน้าเป็ฯอันมาก ก็ทรงรับเอาปรมามิสบูชา และทรงลดโทษแก่พระยายักษ์ตนนั้นด้วยดี แล้วทรงสั่งสอนพระยายักษ์ให้เข้าถึงสรณาคมน์และรักษาเบญจศีล พระยายักษ์ก็ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการ แล้วนั่งเฝ้าปรนนิบัติพระพุทธเจ้าอยู่

    พระพุทธอค์ทรงพยากรณ์ว่า "ดูรา ยักขราชผู้เป็นใหญ่ ต่อไปในอนาคตเบื้องหน้าในระหว่างแห่งศาสนาที่ตถาคตตั้งไว้นั้น ท่านจะได้เกิดมาเป็นพระยาธรรมิกราชองค์หนึ่ง ในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาพันที่สาม (พ.ศ.๒๐๐๑-พ.ศ.๓๐๐๐) ท่านจะได้ส่งเสริมยกย่องพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก เหตุการณ์เช่นนี้จะมีต่อไปในกาลภายหน้าอย่างแน่นอน

    เมื่อท่านเกิดมาเป็นพระยาธรรมิกราชนั้น ท่านจะมีอายุยืน ๒๐๐ ปี ในกาลนั้นพระพุทธศาสนาล่วงไปแล้วสองพันปีกว่า จะย่างเข้าสู่สามพันปี ในระหว่างนี้แหละที่ท่านจะได้เป็นพระยาธรรมิกราชภายหลังแต่นั้น อายุแห่งพระพุทธศาสนาจะเหลือประมาณ ๒,๐๐๐ ปี

    ดูรามหายักษ์ โดยที่ในระหว่างศาสนา ตถาคตที่ตั้งไว้ ๕,๐๐๐ ปี นัแต่ตถาคตนิพพานไปนั้นจะมีพระยาธรรมิกราชมาเกิด ๕ พระองค์คือ องค์ที่ ๑ จะเกิดนเมืองปาฏลีบุตรนคร มีนามบัญญัติว่า ปัตตมาลิก (บางฉบับว่าปุตตมาลิก) คือพระเจ้าอโศกราช องค์ที่ ๒ จะเกิดในเมืองสาวัตถีคือเมืองหงสาวดี ท่านองค์นี้จะได้อาชีพค้าขายเมื่อง เวลานั้นเมี่ยงจะราคาแพงน้ำหนัก ๑,๐๐๐ จะขายได้เงิน ๓๒ ลูกเงินตลิง องค์ที่ ๓ จะเกิดในเมืองอังวะ องค์นี้จะเป็นพ่อค้าเกลือ

    คือในเวลานั้นเกลือจะมีราคาแพง คือเกลือน้ำหนักสองพันปลายสามร้อยธ๊อก จะขายได้ ๓๒ ลูกเงินตลิง องค์ที่ ๔ จะเกิดในเมืองอโยธิยา องค์นี้จะเกิดมาเป็นพ่อค้าพลู เวลานั้นพลูจะมีราคาแพง พลู ๑๐๐ ใบจะขายได้ ๓๐ ลูกเงินตลิง องค์ที่ ๕ องค์นี้เกิดมาเป็นพ่อค้าข้าวสาร คือในเวลานั้นข้าวสารจะมีราคาแพง คือ ข้าหมื่นน้ำหนัก (ประมาณ ๑๒ กก.) จะขายได้เงิน ๗๐ ลูกเงินตลิง คือว่าหมื่นข้าวมีราคา ๓๐๖ เถ้ (ธ็อก) เงินตลิง ๑ ลูกมีน้ำหนัก ๕ ผิน (ไม่ทราบมาตรโบราณ ต้องค้นคว้าต่อไป ฝ่านท่านผู้รู้ช่วยคิดด้วย)

    ในพระยาธรรมิกราช ๕ องค์นี้ พระยาธรรมิกราชองค์ชื่อว่า พระเจ้าอโศกราชจะเกิดก่อน ในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาหนึ่งพันวัสสาแรก พระยาธรรมิกราชองค์ที่ ๒ มีชื่อว่า ตัมพลุ อนุรุทธรรมิกราช ที่เป็นพ่อค้าเมี่ยง เกิดในเมืองพุก่ำในเมืองหงสาวดี ในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาพันที่สอง พระยาธรรมิกราชเป็นพ่อค้าพลู จะมาเกิดในเมืองอโยธิยาทวารวดี ในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาพันที่สอง

    พระยาธรรมิกราชที่เป็นพ่อค้าข้าวสารจะมาเกิดในเมือง โยนกโลก หรือเมืองหริภัญชัยนคร ในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาพันที่สาม พระยาธรรมิกราชองค์ที่เป็นพ่อค้าเกลือจะมาเกิดในเมืองอังวะ ในระหว่างอายุพระพุทธศาสพันที่สี่

    ดูรา ยักขราช ท่านจะได้เกิดเป็นพระยาธรรมิกราชในศาสนาตถาคตในระหว่างอายุพระพุทธศาสนาพันที่สาม คือว่าหลังจากตถาคตนิพพานไปแล้ว ตถาคตจะต้้งพระพุทธศาสนาไว้ ๕,๐๐๐ พรรษา ในเมื่ออายุพระพุทธศาสนาล่วงไปแล้วได้ ๒,๐๐๐ ปีบริบูรน์และย่างเข้าสู่พรรษาที่สามมาถึงเมื่อใด เมื่อนั้นท่านจะได้เกิดเป็นพระยาธรรมิกราช จะได้เกิดในเมืองที่นี้ จะเสวยราชสมบัติเป็นสุขในเมืองเชียงดาวที่นี้

    ท่านจะได้ยกย่องส่งเสริมพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก ภูเขาลูกใหญ่ดอยอ่างสรงนี้ ซึ่งใหญ่และกว้างได้โยชน์ สูงก็ได้โยชน์หนึ่ง มีถ้ำใหญ่แห่งหนึ่ง มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งสูง ๑,๐๐๐ วา และมีรูปยักใหญ่ ๔ ตนอยู่เฝ้ารักษาพระพุทธรูปที่นั้น ดูรา ยักขราช ในกาลต่อไปภายหน้า เมื่อศาสนาตถาคตล่วง ๒,๐๐๐ ปีเข้าสู่เขต ๓,๐๐๐ ปี ในเมืองหริภุญชัยนครนี้ จะมีพระเจ้าแผ่นดินองค์หนึ่งพระนามว่า นครสีสา ภาษาไทยว่า พระยาหัวเวียง จะเสวยราชสมบัติในเมืองหริภัญชัยนคร

    ในเวลานั้นจะมีหญิงโสเภณีคนหนึ่งจะยุยงสนลส่อเท็จทูลให้พระองค์เบียดเบียนเสนาอำมาต์ประชานาราษฎร์ทั้งหลายคือ ให้ปรับไหมให้ถึงความฉิบหายเป็นอันมาก อีกประการหนึ่งพระยาองค์นี้จะมัวเมาในการเล่น ชอบไปเที่ยวตลาดทุกวัน เสนาอำมาตย์ไม่พอใจ จึงพร้อมใจกันปลดจากพระเจ้าแผ่นดิน แล้วยกย่องพระยาองค์อื่นขึ้นเสวยราชสมบัติแทน ต่อมาก็เปลี่ยนพระเจ้าแผ่นดินถึง ๒๐ รัชกาล

    ในสมัยที่โอรสพระเจ้าแผ่นดินองค์ที่ ๒๐ ขึ้นครองราชสมบัตินั้น ข้าศึกพวกลัวะยกลมาจากเมืองโกสัมพี เข้ามาตีนครหริภุญชัยจะเกิดเป็นโกลาหลกลียุคเป็นเวลานาน ศึกสงครามครั้งนั้นจะชนะกันด้วยรี้พลคนกล้าหาญก็หามิได้ แต่จะชนะกันด้วยคนบ้าคนหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมาจะไม่มีเชื้อสายท้ายพระยากษัตริย์เสวยเมืองเป็นเวลานานยิ่งนัก

    จนถึงปีกัดไค้ถึงปีเล้า ในระหว่างนั้นท่านจะได้มาเกิดเป็นพระยาธรรมิกราช ได้ยกย่องส่งเสริมศาสนาแห่งตถาคต และปีเบิกสันพระอินทร์ผู้เป็นเจ้าแก่เทวดาทั้งหลาย จะเสด็จลงมาจากชั้นฟ้าดาวดึงส์มาตีกลองแก้วใบหนึ่ง เป่าหอยสังข์ ให้คนทั้งหลายในสกลชมพูทวีปทั้งสิ้น ให้ได้ยินได้ฟังทุกแห่ง เพื่อให้สมณพราหมณ์และคฤหัสถ์หญิงชายทั้งหลายได้กระทำบุญให้ทาน รักษาศีลเจริญเมตตาภาวนาเป็นนิรันดร์เถิด ต่อจากนั้นจะบังเกิดภัยอันใหญ่ คือพระอาทิตย์และพระจันทร์ จะปรากฏแก่ตาโลกเห็นเป็นสองดวง จะมีต่อไปภายหน้า


    (คัดลอกมาเพียงบางส่วน ท่านที่สนใจจะอ่านรายละเอียดทั้งหมด เข้าไปอ่านต่อได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)

    ที่มา https://sites.google.com/site/krubanphen/phuthth-tanan-phracea-leiyb-lok
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ซอพญาอินทร์ทายโลก


    เผยแพร่เมื่อ 11 ก.พ. 2015
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เทวดาทายโลก


    เผยแพร่เมื่อ 22 ก.ค. 2011
    มันท่าจะเป็นความจริง บางตอนก้อเกิดขึ้นแล้ว ทำบุญนักๆ เน้อปี้น้องเฮา

     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิมิตเหตุการณ์ภัยพิบัติในต่างประเทศ
    (ที่ท่าน Aunyasit ได้กรุณาตอบไว้แล้ว)



    ประเทศอังกฤษ
    - จะเหลือเป็นเกาะแก่งครับ ถ้าจะกลับเมืองไทย อย่างช้าที่สุดให้ถึงไทยก่อนกลางเดือน พ.ค.ครับ ส่วนที่ปลอดภัยในอังกฤษไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะไม่ทราบว่า location ของสถานที่นั้นอยู่ตรงไหนในประเทศนั้น และไม่รู้ว่าชื่ออะไร มีพื้นที่ที่พอจะปลอดภัย คร่าวๆคือน่าจะเป็นที่ของรัฐบาลที่อยู่ตามภูเขาครับ แต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร

    ประเทศสวีเดน
    - ประเทศสวีเดนนั้น จะเกิดภัยพิบัติประมาณภายใน 30 ชั่วโมง เริ่มจากเหตุการณ์ฟ้ามืดตอนกลางวัน ถ้าคร่าวๆก็ภายใน 24 ชั่วโมง จะเสียหายทั่วโลก ถึงเวลานั้นการสื่อสารสมัยใหม่ทุกประเภทจบสิ้นครับ เพราะฟ้าจะลงทำลายหมดทุกที่ที่ไหนที่ประจุไฟฟ้า สามารถวิ่งผ่านไปได้ จะถูกทำลายด้วยพลังประจุไฟฟ้ามหาศาล ที่มาจากอากาศครับ
    - ส่วนประเทศสวีเดนนั้น ทางยุโรปก็จะเจอภัยพิบัติหนักเช่นกัน ไม่น่าอยู่เลยครับ
    - แถบประเทศสวีเดน จะมีภัยน้ำท่วมและภูเขาถล่มด้วยครับ ดังนั้นความสูงจากน้ำ 330 เมตร อาจจะปลอดภัยจากน้ำท่วม แต่อาจจะไม่ปลอดภัยจากภูเขาถล่ม แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว จะเกิดขึ้นทั่วโลกครับ


    ประเทศฝรั่งเศส
    - ประเทศฝรั่งเศส โดยรวมก็จะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติหนักครับ

    - พื้นที่แถวปารีสฝรั่งเศส ต่อไปภัยพิบัติเล่นงานราบคาบครับ คงจะเสียหายยับเยินเช่นกัน

    ประเทศอเมริกา
    - ประเทศอเมริกา โดยรวมต่อไปแทบล่มจมครับ เข้าใจว่าจะเจอภัยพิบัติหลายอย่าง ทำให้เหลือเป็นเกาะน้อยใหญ่ แต่ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งรอดครับ เพราะคนดีมีศีลธรรมนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคนในพุทธศาสนาเท่านั้น หากใครเป็นผู้มีเมตตา มีไมตรีจิต เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักการให้การแบ่งปัน ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ก็ถือว่าอยู่ในกฏเกณฑ์ของคนดีมีศีลธรรมทั้งนั้น อย่างไรก็ตามผมเข้าใจว่าในอนาคตอันใกล้ บางส่วนของอเมริกาจะปกคลุมด้วยหมอกควันจากนิวเคลียร์ด้วยครับ ส่วนนิวยอร์กนั้นจะเหลือเป็นเกาะครับ ไม่รู้ว่าโดนภัยอะไรตอนไหน อันนี้ผมไม่ทราบ
    - ส่วนอเมริกาก็จะเหลือเป็นเกาะ ในเวลาถัดมาไม่นานเมื่อพายุไปถึง

    - อเมริกาฝั่งตะวันตก ที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิกนั้น ต่อไปจะราบคาบครับ คลื่นยักษ์ใหญ่มหาศาลจะซัดเข้าทางทิศนี้ จะเหลือเฉพาะที่สูงเท่านั้นครับ

    ประเทศมาเลเซีย
    - กัวลาลัมเปอร์มาเลเชีย จะเหลือเฉพาะที่เป็นภูเขาครับ ในส่วนที่ราบก็จะราบเลยครับ น้ำจากทะเลคงกวาดไปเยอะครับ

    ประเทศจีน
    - ประเทศจีนแถวกวางเจา จะเจอแผ่นดินไหวอย่างหนักครับ ขนาดความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้น จะต้องหาค่าของมาตรวัดแผ่นดินไหวกันใหม่ครับ
    - เมืองต้าเหลียน ตอนเหนือของจีน ก็ค่อนข้างสาหัสจากภัยพิบัติครับ

    ฮ่องกง
    - ฮ่องกงนั้นไม่น่าจะมีอะไรเหลือครับ หากมีลูกอยู่ก็น่าจะหาทางให้กลับมาเมืองไทยครับในช่วงเวลาอันใกล้นี้ เมืองไทยจะดีที่สุดครับ


    ประเทศสิงคโปร์
    - ประเทศสิงคโปร์ จะอยู่ได้จนถึงวันที่มีภัยพิบัติครับ ผมเข้าใจว่าภายใน 3 วัน หลังจากภัยพิบัติ ประเทศสิงคโปร์น่าจะหายไปจากแผนที่ครับ

    ญี่ปุ่น
    - ญี่ปุ่นจะจมหายไปก่อนครับ
    - ญี่ปุ่นหาย

    เกาหลี
    - เกาหลีจะเหลือที่เป็นภูเขาอยู่ส่วนนึง แต่คนในเกาหลีจะเหลือน้อยครับ หากจะกลับไทยก็ควรกลับมาภายในเดือนเมษายน ครับ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/กระทู้...ธิ์-ขอเชิญเข้ามาสอบถามได้ที่นี่.344425/page-2
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิมิตเหตุการณ์วันสิ้นโลก
    โดย ซาร่า ฮอฟแมน แปลโดย 1p2m


    เขียนเมื่อ วันที่ 14 มีนาคม 2006 นิมิตของวันสิ้นโลก(ยุคเก่า)

    ซาร่า ออฟแมน ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อปี 1979 (แต่ไม่สำเร็จ) เธอกล่าวว่าเธอจำต้องฟื้นกลับขึ้นมาและทำบางสิ่งในชีวิตให้สำเร็จ แต่สิ่งแรกก็คือเธอได้รับการสำแดงเกี่ยวกับวาระสิ้นโลก (หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมคนที่คิดฆ่าตัวตายอย่าง ซาร่า ถึงได้รับเลือกจากพระเจ้าให้ได้เห็นนิมิตร พระเจ้าทรงมีหนทางในแบบที่เราไม่อาจคาดคิดได้ ดังตัวอย่างหลาย ๆ ตอนในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าไม่ได้เลือกคนที่เราคิดว่าดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ)

    ต่อไปนี้คือภาพมุมกว้างของโลกที่ข้าพเจ้าเห็นจากมุมกว้างและแคบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เหมือนกับเราอยู่นอกโลก ในอวกาศและกำลังบินเข้ามาใกล้โลก

    ข้าพเจ้ารู้ว่านี้คือสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องตัดสินใจกลับมายังโลก(ฟื้นขึ้นมา) กลับมาสู่ชีวิตที่น่าระทมอีกครั้ง ร่างกายส่วนหนึ่งข้าพเจ้าต้องการไปสู่โลกฝ่ายวิญญาณหรือสวรรค์ แต่อีกส่วนหนึ่งก็อยากกลับไปสู่ร่างกายเดิมและดำเนินชีวิตใหม่ ความรู้สึกภายในเหมือนว่ากำลังชักเย่อกันอยู่ และสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังจะไปพบเห็นนั้นก็ช่วยให้ข้าพเจ้าได้เข้าใจถึงสิ่งที่ข้าพเจ้าจะต้องไปบอกเมื่อข้าพเจ้าได้กลับมายังกายเดิม (จิตวิญญาณกลับมาเข้าสู่ร่าง)

    ทุกอย่างวนกลับมาอีกเหมือนเล่นวีดีโอเทปไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเป็นอีกครั้งที่ข้าพเจ้าได้ซึมซับเห็นทุกสิ่งอย่างชัดแจ้งและสมบูรณ์ ขณะที่โลกเคลื่อนใกล้เข้ามาข้าพเจ้าได้เห็นโลกทั้งใบและเห็นหลาย ๆ ประเทศ

    ข้าพเจ้าไม่รู้จักประเทศต่าง ๆ ดีนัก แต่ขณะที่ได้มองเห็นผืนแผ่นดินก็พอจะรู้ว่าเป็นประเทศอะไรบ้าง ข้าพเจ้ามองไปที่ตะวันออกกลางได้เห็นมิสไซต์พุ่งออกจากลิเบีย พุ่งเข้าโจมตีอิสราเอลเกิดระเบิดเป็นรูปดอกเห็ดใหญ่โตมาก ข้าพเจ้ารู้ว่ามิสไซต์นั้นแท้จริงแล้วเป็นของอิหร่าน ที่ได้แอบนำมาซ่อนเก็บไว้ที่ลิเบีย นั่นคือระเบิดนิวเคลียร์ และเกือบในทันทีทันใดก็มีมิสไซต์พุ่งออกจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง มิสไซต์พุ่งข้ามไปมาทั่วทั้งโลก ข้าพเจ้าได้เห็นการระเบิดของนิวเคลียร์ ที่ไม่ได้มาจากมิสไซต์อย่างมากมาย แต่เป็นการระเบิดจากใต้ดินชนิดหนึ่ง ข้าพเจ้ารู้ว่าในอนาคตจะมีสงครามนิวเคลียร์แน่นอนทั่วทั้งโลก และต่อไปนี้คือภาพการเริ่มต้นของสงครามว่าเริ่มต้นได้อย่างไร

    ข้าพเจ้าเปลี่ยนการเพ่งมองจากตะวันออกกลางไปที่อเมริกา และกำลังจะได้เห็นสิ่งที่นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ซึ่งข้าพเจ้าจะเป็นพยานถึงสิ่งนี้ ขณะที่มองดูไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือนั้น ข้าพเจ้าได้เพ่งดูไปที่แถวชายฝั่งตะวันออกขึ้นไปจนถึงนิวยอร์ก ได้เห็นตึกมากมายและผู้คน และก็ได็เห็นตึกสูงกำลังพังทลายลงมาที่พื้นดินมีควันกระจายอย่างน่ากลัว ซากปรักหักพัง ฝุ่งคลุ้งไปทั่ว (เธอเห็นภาพตึกเวิร์ดเทรดถล่มหรือเปล่า?) ข้าพเจ้าเห็นผู้หญิงอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในอ้อมแขนวิ่งหนีจากจากตึกที่ถล่ม

    ผู้หญิงผมยาวสีดำ หยิกเล็กน้อยพาดไหล่ ใส่ชุดสูทผ้าขนสัตว์สีแดงปลายสีเข้มหรือออกสีเปลือกไม้ ไม่ใส่แว่นตา เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ดูอายุประมาณ 6-7 ปีผมสั้นเลยคางสีน้ำตาลทรงผู้หญิง พวกเขาจับมือกันวิ่งหนีจากตึกสูงที่กำลังถล่มลงมา ฝุ่นควันหนาทึบมากและทำให้พวกเขาแยกจากกัน เด็กร้องอย่างตกใจกลัวหาแม่หลายครั้ง ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะเป็นหรือตาย ข้าพเจ้าเห็นหน้าของผู้หญิงคนนี้ได้อย่างชัดเจนและระบุตัวถ้าหากได้เห็นรูปของเธอ หรือบอกให้นักวาดรูปวาดภาพของเธอได้ ข้าพเจ้าสงสัยว่าตึกถล่มเพราะแผ่นดินไหวหรือไม่ แต่ในความรู้สึกที่เห็นก็คือ ไม่ใช่ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดแน่

    สิ่งต่อมาก็คือข้าพเจ้ารู้สึกได้มากกว่าที่เห็นแม้จะช่วงสั้น ๆ คือหลังจากเหตุการณ์นี้ไม่นาน การค้าขาย การซื้อขายก็หยุดชงักหรือกล่าวได้ว่าเศรษฐกิจยุติลง หรือเกือบล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่มีใครมีเงินถืออยู่เลย

    ต่อมาข้าพเจ้าเห็นผู้คนล้มป่วยและค่อย ๆ ตายไป สิ่งที่เห็นนี้เจาะจงลงไปยังเมืองใหญ่ ๆ 4 เมืองคือ นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส ซานฟรานซิสโก และ ซอร์ลเลค เชื้อโรคก็เริ่มแพร่กระจายโดยเกิดตุ่มสีขาว ๆ ไปทั่วตัวคน บางตุ่มก็ขนาดเท่าเหรียญบาทอยู่บนมือ แขนและหน้า และพัฒนาไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นตุ่มพองฟูสีขาวอย่างน่ากลัว ผู้คนเริ่มเดินสะดุดหกล้มลงและตายในเวลาอันรวดเร็วอย่างมากมาย หรือภายใน 24 ชม.

    ข้าพเจ้าเห็นบางคนมีเลือดออกมาจากจมูก ปากตา และหู มันเริ่มต้นคล้ายไว้รัสไข้หวัดใหญ่และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เร็วกว่าเชื้อผุพองสีขาวที่เห็น ประชาชนที่ได้รับเชื้อโรคนี้ตายเร็วกว่าเดิมเสียอีก สิ่งนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอเมริกา คนหลายแสนเริ่มอ่อนแอเจ็บป่วยด้วยเชื้อโรคสองชนิดนี้ (ถูกฉีดวัคซีนที่มีพิษ หรืออาจจะถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีชีวภาพ?)

    ข้าพเจ้ารู้ว่ามันคือเชื้อโรค และมีหลายชนิดมาก แต่สองตัวแรกบรรจุใส่ภาชนะขนาดเล็ก ๆ ที่ขนเข้ายังอเมริกา มันมีลักษณะคล้ายกับเหยือกเบียร์ และข้าพเจ้าเห็นเหมือนกับมีคนถือมันและนำมันไปลงบนพื้นในที่ ๆ มีฝูงชนเยอะ ๆ และคนก็ติดเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว

    ในเมืองเหล่านี้ที่บอกมามีเชื้อโรคกระจายไปทั่ว ประชาชนก็พยายามหนีออกจากเมืองไปนอกเมือง มีจราจลวุ่นวายาทั้งเมือง สังคมแตกสาแหรกขาด ไม่มีไฟฟ้าอีกต่อไปโดยข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไม และไม่รู้ว่าจะมีได้อย่างไร มีรถยนต์เต็มไปหมดขวางกั้นถนนและคนจำนวนมากได้เดินเท้าเปล่า เชื้อโรคกระจายออกไปทั่วโดยเริ่มต้นที่เมืองเหล่านี้

    ประชาชนเริ่มหนีไปยังเมืองอื่น ๆ และก็มีแก็งอันธพาลโจมตีและฆ่าประชาชน ในเมืองที่ถูกโจมตีด้วยเชื้อโรคนั้นก็จราจลวุ่นวายทั้งเมือง มีการปล้นสะดม ฆาตกรรม พังพินาศสิ้น คนจำนวนมากดูเหมือนกับเสียสติบ้าคลั่ง ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ระบบไฟฟ้าล้มเหลวไปทั้งเมือง และไม่มีอะไรนอกจากการวิ่งหนีวุ่นวาย ไม่มีการติดต่อสื่อสารหรืออะไรเลยไม่ว่าที่ไหนในประเทศ ไม่มีการทำงาน ไม่มีการออกอากาศวิทยุหรือโทรทัศน์ ข้าพเจ้าเห็นประชาชนขว้างปาก้อนหินใส่กระจก หน้าต่าง เพื่อขโมยทีวีในร้านซึ่งข้าพเจ้าคิดว่ามันเป็นความบ้าคลั่งจริง ๆ เพราะขโมยทีวีไปก็ใช้ไม่ได้

    ในทันใดนั้น ในขณะที่ข้าพเจ้าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกา ข้าพเจ้าก็กระโดดกลับมามองแถวตะวันออกกลางและได้เห็นบางสิ่งในอิสราเอล เป็นความเลวร้ายเช่นเดียวกัน คือข้าพเจ้าได้เห็นเชื้อโรคบางชนิดหรือโรคร้ายบางอย่างที่นั่น ข้าพเจ้ารู้โดยไม่ทราบสาเหตุเลยว่าเชื้อโรคที่ใช้ในอเมริกานั้นก็เป็นชนิดเดียวกับที่นำมาใช้ในอิสราเอลด้วย

    ในชั่วขณะหนึ่งข้าพเจ้าก็ได้พุ่งกับมาที่อเมริกา ได้เกิดฤดูหนาวที่น่ากลัวอย่างยาวนานขึ้นซึ่งยาวไปจนถึงหน้าร้อน นั่นทำให้หลายคนประหลาดใจและเป็นจุดเริ่มต้นของความอดอยากขาดแคลนอาหารอย่างเต็มที่ แต่จริง ๆ แล้วที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้นเพิ่งจะเริ่มความอดอยากครั้งยิ่งใหญ่อย่างเต็มขนาด เพราะความอดอยากได้เริ่มมาแล้วตั้งแต่เกิดเพราะพายุ ความแห้งแล้ว น้ำท่วมหรือโรคระบาด ซึ่งเกิดมาเป็นเวลาหลายปีนำหน้าฤดูหนาวที่ยาวนานนี้แล้ว

    มันดูเหมือนเป็นปีที่ตามมาด้วยฤดูหนาวที่ยาวนาน เริ่มเมื่อทุกสิ่งเริ่มต้นล่มสลายลงอย่างรวดเร็วหรือ ทุกสิ่งพังทลายหักทับถมกันโดยไม่มีสิ้นสุด ข้าพเจ้าไม่แน่ใจเรื่องเวลาชัดเจนนักเพราะข้าพเจ้าเห็นหลาย ๆ สิ่งดูเหมือนเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในเวลาใกล้เคียงกันมาก

    ในช่วงระหว่างและหลังจากฤดูหนาวที่ยาวนานนี้ เชื้อโรคได้แพร่กระจายไปทุกที่ และเพิ่มความเลวร้ายขึ้นอีก เศรษฐกิจล่มสลายอย่างสมบูรณ์พร้อมทั้งระบบไฟฟ้าด้วยมีการจราจล ไร้กฎหมายบ้านเมือง อย่างสมบูรณ์ทั่วทั้งอเมริกา ไม่มีรัฐบาลเพราะทุกอย่างล่มสลาย ไม่มีอาหารอีกต่อไป ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนพยายามค้นหาอาหารและประสาทเสียอย่างสุดขีดเพราะไม่มีอาหารกิน และได้เห็นประชาชนขุดดินเพื่อหาหนอนกินเพราะความหิวอย่างมาก

    ในระหว่างนี้ข้าพเจ้าได้คิดถึงเกี่ยวกับน้ำ เพราะมีน้ำอยู่เพียงน้อยนิด และน้ำที่เหลือเกือบทั้งหมดเป็นพิษ หากว่ามีใครดื่มเข้าไปก็จะติดเชื้อและตาย คนจำนวนมากไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะตายเพราะพวกเขาหิวน้ำอย่างมาก

    ประชาชนบางส่วนดูเหมือนจะบ้าคลั่งเสียสติ และเข้าร่วมไปกับแก็งอันธพาลต่าง ๆ เพื่อไล่ฆ่าคนอื่น ๆ โดยเหตุผลเพราะอยากฆ่า ซึ่งเป็นความเลวร้ายสุดขีด ในขณะที่บางส่วนก็ฆ่าฟันคนอื่นเพราะต้องการอาหาร พวกเขาดูเหมือนสัตว์ร้าย สัตว์ป่าที่ไร้ซึ่งการควบคุมตนเองอย่างสิ้นเชิง มีการขมขื่น ปล้นสะดม เผาทำลาย ไล่ฆ่าสับประชาชนข้าพเจ้าเห็นพวกเขาเข้าไปยังบ้านของคนต่าง ๆ และเข้าไปฉุดลากคนในบ้านที่ซ่อนตัวออกมาและขมขื่น และฆ่าสับพวกเขา

    ดูเหมือนกับความกลัวและความเกลียดชังได้พุ่งออกมาจากตัวของคน ครอบครัว ภรรยา สามิ ความรักระหว่างกันไม่มีเหลืออีกต่อไป มีแต่ความอยู่รอดเท่านั้น สามีจะฆ่าภรรยาและลูก ๆ ของเขาเพื่ออาหารและน้ำดื่ม แม่จะฆ่าลูก ๆ เป็นความเลวร้ายอย่างถึงที่สุดเกินจะบรรยายได้

    ในอากาศดูเหมือนจะเต็มไปด้วยหมอกควัน และตึกจำนวนมากถูกเผาทำลายไม่มีใครดับไฟ ในขณะที่ข้าพเจ้ามองดูฉากแห่งความวุ่นวาย การพังทลายและหมอกควัน ก็สังเกตุเห็นกลุ่มแสงกระจายไปทั่วอเมริกา ข้าพเจ้าคาดว่าน่าจะประมาณยี่สิบหรือสามสิบ และส่วนมากจะวางอยู่บริเวณตะวันตกของอเมริกา เพียงสามหรือสี่กลุ่มอยู่ทิศตะวันออก กลุ่มแสงเหล่านี้ดูเหมือนจะส่องผ่านความมืดออกมาและทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสนใจและเพ่งดู สงสัยว่ามันคืออะไร

    ข้าพเจ้าได้เห็นว่ามันคือกลุ่มของประชาชนที่รวมตัวกันและคุกเข่าอฐิษฐาน แสงเหล่านี้ออกมาจากตัวพวกเขา ข้าพเจ้านึกได้ทันทีว่ามันคือความดีและความรักของพระเจ้าข้าพเจ้าเข้าใจว่าพวกเขาคงมารวมตัวกันเพื่อความปลอดภัยและห่วงใยคนอื่นมากกว่าตัวเอง บางกลุ่มเล็ก ๆ มีคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่บางกลุ่มก็มีคนหลายพันคน

    ข้าพเจ้าระลึกได้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะส่วนใหญ่ของเมืองนี้รวมตัวกันก่อนการโจมตีด้วยเชื้อโรค และพวกเขามีการจัดเตรียมการอย่างดีแล้ว ก็ดูเหมือนพวกเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและได้เตรียมรับมือไว้ ข้าพเจ้าไม่เห็นมีผู้นำหรืออะไรควบคุม แต่เห็นคนจำนวนมากเกาะติดพวกเขาแม้ไม่มีอะไรแต่อะไรทำให้พวกเขายึดถือไว้ได้

    ในเมืองแห่งแสงสว่างนี้มีอาหารและการแบ่งปันอาหารให้คนที่เข้ามาร่วมในกลุ่ม มีสันติและความปลอดภัย พวกเขาอาศัยอยู่ในเต้นท์ มีเต้นท์หลายชนิด ส่วนมากจะเป็นผ้าห่มคลุมขึงกับเสา ข้าพเจ้านึกถึงพวกแก็งอันธพาลที่ไม่ยุ่งกับกลุ่มประชาชนเหล่านี้ แต่จะเลือกโจมตีประชาชนที่ไร้การป้องกัน พวกเขายังคงอธิษฐานต่อผู้ที่พยายามจะมายังเมืองแห่งแสงสว่างนี้ คนจำนวนมากในเมืองนี้มีปืนเพื่อป้องกันตนเองจากพวกแก็งและดูเหมือนพวกแก็งไม่ต้องการต่อสู้กับพวกเขา

    ข้าพเจ้าเห็นว่าเมืองแห่งแสงสว่างเหล่านี้ นับแต่แรก ๆ ที่ข้าพเจ้าคิดถึง ในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นประชาชนในกลุ่มก็เริ่มออกไปยังที่ต่าง ๆ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ไหนแต่ดูเหมือนพวกเขาจะรวมตัวกันที่ภูเขาหรือที่สูง ขณะที่ข้าพเจ้ามองดูเมืองแห่งแสงสว่างนี้ ก็เห็นมิสไซร์พุ่งออกมาและโจมตีบางเมืองและมีควันรูปดอกเห็ดพุ่งขึ้นเกิดขึ้นทั่วอเมริกา บางส่วนเป็นมิสไซร์ซึ่งข้าพเจ้ารู้ว่ามาจากรัสเซียแต่บางส่วนเป็นระเบิดที่อยู่ในอเมริกาแล้วนั่นเอง พวกเขานำมาซ่อนไว้ในรถบรรทุกหรือรถยนต์และระเบิด

    ข้าพเจ้ามองอย่างเจาะจงไปที่ ลอส แองเจลิส ลาสเวกัส และนิวยอร์ก ที่ถูกโจมตีด้วยระเบิด นิวยอร์กถูกโจมตีด้วยมิสไซร์ แต่ ลอสแองเจลิส ดูเหมือนถูกโจมตีด้วยระเบิดในรถบรรทุกหรือหลาย ๆ อย่าง แต่ข้าพเจ้าไม่เห็นมิสไซร์ ส่วนทางเหนือของเมือง ซอล์ค เลค มีระเบิดดอกเห็ดกลุ่มหนึ่งแต่ไม่มีมิสไซร์

    ในความมืดมิดข้าพเจ้าเห็นลูกไฟเล็ก ๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าสิ่งนี้อาจเกิดก่อนหรือหลังกลุ่มควันดอกเห็ด แต่มีลูกไฟเป็นล้าน ๆ ตกลงทุกที่ และร้อนมาก มีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ ขณะที่มันตกลงมาจากฟ้ามันก็มีสายเปลวไฟเป็นหางมีควันตามหลัง และไม่ว่ามันตกกระทบอะไรก็จะเกิดไฟลุก ไม่ว่าจะตัวคน ตึก ต้นไม้ กระจก และทุกสิ่ง ข้าพเจ้าไม่รู้ได้ว่ามันคืออะไรหรือมาจากไหน เพราะในเวลานี้ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนคนป่วยที่ต้องได้เห็นภาพเหล่านี้และเพียงได้แต่มองโดยไม่สามารถถามอะไรได้

    หลังจากควันดอกเห็ดลอยพุ่งขึ้นเบื้องบนแล้ว ข้าพเจ้าได้เห็นกองทหารรัสเซียเคลื่อนพลบุกเข้ามาในอเมริกา มีพลร่มลงตามที่ต่าง ๆ จำนวนมากมาก่อนหน้านั้นจากฝั่งตะวันออก และเห็นพลร่มลงที่เมือง ซอล์ค เลค และข้าพเจ้าเห็นกองทหารจีนเคลื่อนพลเข้ามาทางฝั่งตะวันตกใกล้ ลอส แองเจลิส และประชาชนที่ยังคงอยู่ก็เริ่มต่อสู้ด้วยปืนของพวกเขาแต่ไม่เห็นทหาร(อเมริกา)ใด ๆ

    นี่คือสงครามนิวเคลียร์ ที่ข้าพเจ้าได้เห็นตอนเริ่มแรกและรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก อย่างที่ได้เห็นมาก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าไม่เห็นสงครามมากนัก แต่พอรับรู้ได้ว่ามันจะกินเวลานานมากนัก และรัสเซียและจีนจะแพ้ แต่ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

    กลุ่มควัน(จากระเบิดนิวเคลียร์)จะหนามาก ๆ ทั้งมืดและหนัก เป็นสิ่งที่ดูจะเลวร้ายพอ ๆ กับจุดกำเนิดของมัน และในทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว สิ่งนี้จะเกิดในฤดูหนาว ซึ่งดูเหมือนเป็นฤดูหนาวที่ยาว นานมาก จนทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นเกือบทั้งปี แผ่นดินไหวดูเหมือนจะเริ่มในฝั่งตะวันตกรอบ ๆ รัฐ ไอดาโฮ และไวโอมิ่ง และแผ่กระจายไปทั่วทุกที่

    ข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวใหญ่โจมตีเมือง ยูทาห์ และ แคลิฟอร์เนีย มีแผ่นดินไหวทั่วแคลิฟอร์เนียร์ แต่ ลอส แองเจลิส และ ซานฟรานซิสโก ถูกทำลายพินาศ แผ่นดินไหวนี้กระตุ้นให้เกิดภูเขาไฟระเบิดทั่วตลอดฝั่งตะวันตก และพ่นควันขี้เถ้าจำนวนมหาศาลอย่างรุนแรงขึ้นสู่อากาศ และอากาศก็มืดมิดสกปรก ดวงอาทิตย์ก็มืดลงเพราะควันและเกิดฝนขี้เถ้าตกกระจายไปทั่ว

    ข้าพเจ้าเห็นคลื่นยักษ์พักถล่มชายฝั่งตะวันตก และเห็นว่ามันเกิดขึ้นทั่วชายฝั่งทะเลทั่วทั้งโลก เมืองลอส แองเจลิส เกือบทั้งหมดถูกคลื่นกวาดสิ้น คลื่นนั้นใหญ่มาก ๆ ข้าพเจ้าเห็นกำแพงน้ำ สูงกว่าตึกจำนวนมาก บางทีอาจสูงถึง 20 ฟุต(6 เมตร) พัดถล่มเมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ ข้าพรู้สึกแปลกใจมากเพราะเมืองนี้ตั้งอยู่ห่างจากมหาสมุทรมาก และสงสัยว่าคลื่นเดินทางจากมหาสมุทรมาตลอดทางจนถึงเมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ได้อย่างไร

    ข้าพเจ้าเห็นได้ว่ามันไม่ได้มาจากมหาสมุทรแต่มาจากใต้ติด ข้าพเจ้าเห็นการแตกออก ของพื้นดินอย่างรวดเร็วรอบ ๆ เมือง ซอล์ค เลค ซิตี้ เปิดออกและมีน้ำพุ่งออกมาจากใต้ดินที่ลึกมาก มีน้ำจำนวนมากมหาศาลอยู่ใต้ดินและแผ่นดินไหวได้ผลักดันมันออกมาเมื่อน้ำพัดทำลายเมือง ก็ไม่มีตึกหลงเหลืออยู่อีก เป็นการทำลายล้างอย่างน่ากลัวจนไม่มีอะไรเหลืออยู่ และน้ำไหลไปจาก ไอดาโฮ ลงไปยังเมือง ซีดาห์ ใกล้ ๆ เลวร้ายอย่างมาก

    ส่วนในเมืองมีการพังทลายอย่างใหญ่หลวง ตึกส่วนมากพังทลายสิ้น มีเศษอิฐปูนกระจายไปทั่ว แม้ว่าแผ่นดินไหว เชื้อโรค น้ำท่วม ภูเขาไฟ และคลื่นยักษ์ จะฆ่าคนไปจำนวนมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็ตายเพราะถูกแก็งอันธพาลฆ่า และฆ่ากันเอง ไม่ได้มาจากภัยพิบัติทำลายล้างที่น่ากลัว ขณะนั้นเองข้าพเจ้าก็ได้เห็นโลกทั้งหมด ดูเหมือนย่ำแย่เพราะสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นบนโลก และก็มีการปฏิกิริยาต่อต้านในที่สุด ข้าพเจ้าเห็นเหมือนว่าโลกนี้ต้องการทำความสะอาดตัวเอง ต่อสิ่งเลวร้ายวุ่นวายและความความชั่วร้ายที่ครอบงำมนุษย์อยู่

    เพราะภูเขาไฟระเบิดทุก ๆ ที่ ทำให้มีฝุ่นขี้เถ้าผสมกับอากาศ ขี้เถ้าได้ตกลงทุกที่ ทำให้ทุก ๆ ที่เกือบจะมืดสนิท เชื้อโรคก็กลับมาเลวร้ายเพิ่มอีกอย่างมาก ข้าพเจ้าได้เห็นประชาชนล้มตายบนพื้นอย่างชัดเจน และมีเชื้อโรคอื่น ๆ อีกด้วย ประชาชนมีตุ่มแผลบนตัวและเริ่มออกเลือดไปทั่วตัว และก็เริ่มแตกกระจายหรือรวมตัวกันไปเป็นอะไรบางอย่างที่บอกไม่ได้เป็นก้อนเนื้อและกระดูก ข้าพเจ้าก็ไม่อาจจะบรรยายสิ่งที่เห็นได้ ศพคนตายมีอยู่ทุกที่

    หลังจากฤดูหนาวที่น่ากลัวนี้ ข้าพเจ้าได้เห็นหน่วยกู้ภัยได้เก็บศพคนตายกองทับถมกันและเผารวมกัน ส่งกลิ่นเหม็นสุดขีด ข้าพเจ้าสามารถได้กลิ่นได้แม้จะเพียงเล็กน้อยการเผาศพคนตายเหล่านี้เกิดขึ้นช่วงเล็ก ๆ ในระหว่างเกิดจราจลวุ่นวาย แต่มีคนไม่มากนักที่กังวลถึงเรื่องความอยู่รอดมากกว่าจนไม่ใส่ต่อคนตาย

    สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เห็นมากกว่าสี่อย่าง ข้าพเจ้าได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่ใจกลางอเมริกา มันน่ากลัวมากดูเหมือนจะแยกอเมริกาออกเป็นครึ่งหนึ่งตรงบริเวณเริ่มแม่น้ำ มิสซิบซิบปี้ รอยแตกนี้เปิดออกและทำให้แผ่นดินจมหายลงไปทั้งหมด มันกว้างเป็นไมล์และแผ่นดินก็จมลงไปในนั้น ดูเหมือนมันกลืนทุกสิ่งลงไปและน้ำจากอ่าวเม็กซิโกก็ไหลลงไปด้วยทำให้เกิดทะเลสาบขนาดใหญ่ แต่มันไม่ได้เป็นทะเลสาป แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลในพื้นแผ่นดิน

    และข้าพเจ้าเห็นแผ่นดินไหวที่น่ากลัวเป็นชุด ๆ ไปทั่วโลก แต่มีไม่มากที่เป็นแผ่นดินไหวเดี่ยว ๆ มันจะเป็นคลื่นแผ่นดิวไหวอันเดียวกัน เป็นแผ่นดินไหวที่ใหญ่โตอย่างมากสุด ๆ ที่เขย่าโลกทั้งโลก และเพราะแผ่นดินไหวนี้ ทำให้น้ำไหลเข้ามาท่วมแผ่นดินทั่วทั้งโลก กำแพงน้ำยักษ์พัดถล่มชายฝั่งทั่วโลก แผ่นดินไหวและกำแพงน้ำที่เกิดก่อนหน้านี้ดูจะเล็กกว่าข้าพเจ้าไม่รู้ว่าแผ่นดินไหวที่แบ่งอเมริกาออกเป็นสองส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินไหวที่เกิดทั่วโลกด้วยหรือไม่

    และข้าพเจ้าได้เห็นลมที่พัดอย่างรุนแรงมาก พัดผ่านบนแผ่นดินโลก ขณะที่ลมพัดข้าพเจ้าเห็นประชาชนวิ่งหนีเข้าถ้ำต่าง ๆ หรือรอยแตกของเปลือกหินต่าง ๆ เพื่อหนี มันน่ากลัวมาก ลมพัดต้นไม้และทุกสิ่งปลิวหมด มันดูเหมือนจะรุนแรงกว่าเฮอร์ริเคนหรือทอร์นาโด ทุก ๆ สิ่งถูกพลัดปลิวหมด ข้าพเจ้าเข้าใจโดยไม่ต้องถามว่า แผ่นดินไหวใหญ่ทั่วโลกนี้และลมนี้ เกิดจากวัตถุขนาดใหญ่อันหนึ่ง มันดูเหมือนดาวเคราะห์หรือบางสิ่ง (ดาว Nibiru ที่กำลังมา?) โดยมันเคลื่อนที่เข้ามาใกล้โลกและมีผลกระทบต่อทุกสิ่งบนโลก และนั่นคือจุดจบที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ใกล้เข้ามา

    และข้าพเจ้าก็กลับมาสู่อวกาศนอกโลก มองเห็นโลกทั้งโลกจากระยะไกลอีกครั้ง ข้าพเจ้าเห็นลูกบอลไฟขนาดใหญ่ ใหญ่กว่าโลกสองหรือสามเท่า (ลูกไฟที่ดาว Nibiru ปล่อยออกมาเพราะถูกกระตุ้นจากดวงอาทิตย์ ?)วิ่งเข้ามาที่โลกมันมีสีแดงเจิดจ้ามากและมีสีทองผสม และทันใดนั้นมันก็พุ่งมาห่อหุ้มโลกทั้งโลก เมื่อข้าพเจ้าเห็น เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่ประหลาดกว่าสิ่งใด ๆ ก็ได้สงสัยว่าคืออะไร ข้าพเจ้าได้เห็นมันกำลังพุ่งมาเผาโลกซึ่งเป็นไปตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้

    2 เปโตร 3:7 "แต่ว่าท้องฟ้าอากาศและแผ่นดินโลกที่อยู่เดี๋ยวนี้ พระองค์ทรงเก็บงำไว้โดยคำตรัสนั้นสำหรับให้ไฟเผา คือเก็บไว้จนถึงวันทรงพิพากษาและวันพินาศแห่งบรรดาคนอธรรม"

    ข้าพเจ้าเข้าใจได้ว่าก่อนที่มันจะเกิดขึ้นนั้น (ก่อนลูกไฟวิ่งมาเผาโลก) พระเยซูคริสต์จะปรากฎต่อคนทั้งโลกและพวกประชาชนที่เป็นคนดีที่ข้าพเจ้าได้เห็นแต่แรกนั้น(ที่อยู่ในเมืองแห่งแสงสว่าง และที่อื่น ๆ ทั่วโลกและรวมตัวอธิษฐาน) จะถูกรับขึ้นไปจากโลกพร้อมกับพระคริสต์ไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป แต่พวกประชาชนที่หลงเหลืออยู่ที่เป็นพวกคนชั่ว คนไม่ดีต่าง ๆ คนทำบาป จำนวนหนึ่งที่รอดตายจากภัยพิบัตินับแต่ครั้งแรก แต่ก็มีไม่มากและที่เหลือก็จะถูกไฟเผา

    --------------------------- จบ ---------------------------------


    ที่มา http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jesuscomingverysoon&date=04-02-2010&group=1&gblog=3
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์

    ;3639;3656;3629;3591;3619;3634;3623;3586;3629;3591;3612;3641;3657;3617;3637;3610;3640;3597;-copy.jpg
    ภัยพิบัติจะเริ่มต้นในปี 55 นี้ครับ นับจากเดือนที่เกิดภัยพิบัติไปอีก 5 ปี จะเป็นยุคพระจักรพรรดิ์

    สำหรับพระธาตุพนมนั้น ยังคงดำรงอยู่หลังเกิดภัยพิบัติครับ ทางภาคเหนือในเขตเขาหลวง จ. สุโขทัย ตามเนินเขาจะปลอดภัยครับ โดยเฉพาะวัดบางวัดในเขต อ.คีรีมาศ จะเป็นศูนย์กลางที่พึ่งพิงของผู้รอดพ้นจากภัยพิบัติอีกที่นึง ตรงวัดใหญ่(วัดพระพุทธชินราช)ก็จะปลอดภัย เช่นกันครับ

    ยุคพระจักรพรรดิ์ในกึ่งพุทธกาลนี้ จะเป็นยุคของ พระจุลจักรพรรดิ์ (ยุคพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะ) จะมีพระมหาจักรพรรดิ์(ในยุคพระพุทธเจ้าแบบศรัทธาธิกะ) และจะมีพระบรมจักรพรรดิ์ (ในยุคของพระพุทธเจ้าแบบวิริยาธิกะ)

    ในการสถาปนาพระจักรพรรดิ์นั้น พระบรมจักรพรรดิ์ที่เป็นใหญ่ในอนันตจักรวาล จะเป็นผู้ขออนุญาตพระพุทธเจ้า เพื่อสถาปนาพระจักรพรรดิ์ จากนั้นพระบรมจักรพรรดิ์ผู้เป็นใหญ่จะอธิษฐานแก้ว 7 ประการ ให้เคลื่อนเข้าสู่อาณาเขตของโลกนั้นๆที่จะมีพระจักรพรรดิ์อุบัติขึ้น โดยเฉพาะจักรแก้วอาวุธประจำกายที่เป็นอำนาจของพระจักรพรรดิ์นั้นจะ บังคับ/สั่งโดยจิตของผู้มีอำนาจพระจักรพรรดิ์ จักรแก้วนี้เป็นรองเฉพาะจักรของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

    ในกาลที่ เกิดภัยพิบัตินั้นจะมีความแปรปรวนของธาตุต่างๆและจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับ การเคลื่อนที่ของจักรแก้ว ที่จะเป็นของคู่บารมีพระจักรพรรดิ์ เข้าใจว่าจักรแก้วนั้น ปัจจุบันอยู่ใต้มหาสมุทรและจะเคลื่อนที่มาพร้อมๆกับเวลาของภัยพิบัติ

    ผมจะเรียงลำดับการเกิดมหาภัยพิบัติแบบคร่าวๆ ให้นะครับ เหตุการณ์บางอย่างจะเกิดขึ้นแทบจะพร้อมๆกันครับ

    อันดับแรก เกิดระเบิดใต้น้ำ จากลาวาร้อนจัดใต้พื้นโลกขึ้นมากระทบกับความเย็นจัดใต้มหาสมุทร ใกล้ประเทศใต้หวัน

    ต่อมาจะ เกิดแผ่นดินไหวแรงมากๆ จะกระทบและทำลายหลายๆประเทศ พร้อมทั้งเกิดคลื่นยักษ์ตามมาติดๆพร้อมกับน้ำมหาศาลยกตัวมีระดับสูงขึ้นแล้ว ก่อตัวเป็นมหาพายุ ประเทศที่เป็นเกาะหลายประเทศจะทะยอยทรุดตัว จมลงใต้มหาสมุทรเป็นโดมิโน่ จากแถวใต้หวัน ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น จีน(ชายทะเล) ฮ่องกง ไล่ลงมาถึงเวียดนาม กัมพูชา ลาว ไทย ฯลฯ พื้นที่ ที่คลื่นยักษ์ผ่านและแผ่นดินทรุด ล้วนจะวายวอดหมดครับ

    และ การทรุดตัวจมลงของเกาะใหญ่ๆ กระแทกกับพื้นด้านล่างจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์ตาม มาถล่มแถบชายฝั่งของประเทศต่างๆเป็นระลอกๆ ครับ คลื่นขนาดใหญ่ยักษ์และมีจำนวนถี่ๆ สามารถเข้าไปทำลายลึกเข้าไปในแผ่นดินร่วมร้อยกิโลเมตร ครับ

    ผมเองทีแรกตัดสินใจว่าจะไปก่อนวันฟ้ามืด แต่ก็ต้องรอญาติส่วนนึงที่เป็นประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เมื่อฟ้ามืดมาพวกนี้ก็จะยอมหนีไปด้วยแต่โดยดีครับ

    อัญญาสิทธิ์


    ที่มา http://palungjit.org/threads/กระทู้นี้-เฉพาะผู้ที่ยินดีรับฟังคุณอัญญาสิทธิ์-ขอเชิญเข้ามาสอบถามได้ที่นี่.344425/
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มีบางคนที่สำเร็จอภิญญาหก สามารถใช้อิทธิฤทธิ์ ช่วยเหลือผู้คนได้

    8588-1.jpg

    นิมิตร้าย เตือนภัยพิบัติใหญ่ แผ่นดินยุบตัว น้ำทะเลท่วม

    ณ. “ประตูไปสู่อีสาน” เมื่อยามใกล้เช้า พ่อค้าแม่ค้ากำลังขนสินค้าไปขายในตลาดสด คนส่วนใหญ่กำลังหลับใหล พลันก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง พร้อมเสียงเหมือนฟ้าคำรามมาแต่ไกล ไม่มีใครรู้ว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น จนกระทั้งท้องฟ้าเริ่มสว่าง ทุกคนตกใจเมื่อมองเห็นชายทะเลเกิดขึ้นใหม่ที่ฟาร์มเลี้ยงโคนมที่ใหญ่ที่สุด

    ภาพที่ทุกคนเห็นคือหายนะครั้งยิ่งใหญ่สุดบรรยาย ที่ชายฝั่งทะเลเกิดใหม่นั้น มีเศษซากศพคนสัตว์สิ่งของลอยอยู่มากมาย บางส่วนถูกคลื่นทะเลซัดมาติดบนชายฝั่ง บางคนยังไม่ตาย ผู้คนและคณะกู้ภัยฯกำลังช่วยกันชักลากคนเข้าหาฝั่งเพื่อช่วยชีวิต เกิดความสับสนวุ่นวายเต็มไปหมด เสียงผู้คนคุยกัน ตะโกนร้องเรียกหาญาติพี่น้องที่สูญหายไประงม บางคนร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เมื่อพบศพของญาติพี่น้องของเขาแล้ว

    มีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติปรากฏขึ้น บางคนรอดตายทั้งที่ในสภาพนอนหลับอยู่? คนเหล่านั้นลอยอยู่ในอากาศเหนือน้ำทะเลเพียงเล็กน้อย เมื่อใช้สมาธิเพ่งดูให้ดี จะเห็นร่างทิพย์บางใสโปร่งแสงของ “เหล่าเทวดานางฟ้า” กำลังอุ้มร่างของเด็กบางผู้ใหญ่บางที่มีบุญมากและยังไม่ถึงคราวตาย นำมาวางบนบกแล้วรีบกลับไปนำคนอื่นมาวางไว้อีก มีเทวดานางฟ้าอีกคณะหนึ่งลอยเข้ามาหาชายฝั่งมาในระดับสูงมาก กำลังนำพาผู้มีบุญวาสนาสูงไปไว้ที่อื่น ไม่มาปะปนกับคนธรรมดาสามัญ มีบางคนที่สำเร็จอภิญญาหกสามารถใช้อิทธิฤทธิ์ “เดินหนบนอากาศ” ได้มาช่วยสงเคราะห์อุ้มชูญาติพี่น้องและผู้มีบุญคุณให้พ้นภัยนี้เช่นกัน เสียงเสื้อผ้าและผ้าห่มที่ห่อตัวคนเหล่านั้นสะบัดไปมาในอากาศ ฟังแล้วเหมือนเสียงธงชาติยามต้องลมแรง

    ที่น่าสังเกตคือคนที่รอดตายนั้นล้วนแล้วแต่เป็น “ผู้ทรงศีล 5-8 บริสุทธิ์” เป็นปกติ พวกเขาชอบทำบุญเน้นการไถ่ชีวิตสัตว์ ปล่อยปลา+สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน เป็นปกติ บำเพ็ญความเพียรฝึกฝนสมาธิ+วิปัสสนากรรมฐาน 40 ทุกวันไม่ขาด

    ใครเกรงกลัวภัยอย่างนี้ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำไว้ดังกล่าวข้างต้น ถ้าภัยอย่างนี้เกิดขึ้นจริง ท่านจะรอดพ้นภัยอันนั้นไปได้ครับ ชุมชนใดเมืองใดที่พลเมืองส่วนใหญ่ขาดศีลธรรมมากเกิน 75% ของพลเมืองทั้งหมด ก็เสี่ยงที่จะถูก “พระแม่ธรณีสูบ” แล้ว ท่านลองถามเพื่อนๆที่ท่านรู้จักว่าเคยทำบุญรักษาศีล 5 บริสุทธิ์หรือไม่ ซุ่มถามสัก 10 คน ถ้าทั้งหมดตอบว่าไม่ชอบทำบุญ ไม่ชอบรักษาศีล แสดงว่าท่านกำลังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยใหญ่แล้ว


    ที่มา https://freecheckhoroscope.wordpress.com/2011/10/27/tsunami/
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถอดรหัสจากพุทธทำนาย

    hqdefault.jpg

    - ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ปลายเดือน สิงหาคม 2550 มีคุณยายผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งได้นำหนังสือเรื่องพุทธทำนาย ฉบับถอดรหัสมาให้อ่าน ในขณะที่ผู้เขียนได้จัดสรรเวลาของตนเอง ไปฝึกทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนา และเมตตาภาวนา ที่วัดเพลง แขวงและเขตบางพลัด ซึ่งพระอาจารย์ พระมหาฉัตรชัย รักขิตจิตโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสนำการสอนทำสมาธิภาวนา วิปัสสนาภาวนา และเมตตาภาวนา ที่กระชับ และกะทัดรัดดี

    - เมื่อผู้เขียนได้อ่านแล้ว ก็เห็นว่ามีเนื้อหาแปลกดี แต่ไม่แน่ใจว่า ข้อความทั้งหมดที่คัดลอกต่อ ๆ กันมามีการตกหล่นจากความเดิมจนถ้อยคำเปลี่ยนไปหรือไม่เพียงไร

    - ในหนังสือเล่มนี้ อ้างว่า นำความมาจากหนังสือใบลานเก่า ที่พบในจังหวัดอัตตะปือ ประเทศลาว โดยมีพระธุดงค์นำมาถ่ายทอดโดยสรุป คือ

    1. ในปีจอ (2561) กรุงเทพฯ จะหมดสภาพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย

    2. พระคาถาป้องกันภยันตรายในใบลานจารึก ให้นำไปท่องว่า "ปะโต เมตัง ปะระชีวินัง สุคะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นินะนัง สุคะติ จุติ" โดยท่านแนะให้นำไปเขียนลงแผ่นผ้าก็ได้ แล้วนำไปปิดที่ประตูบ้าน หรือปิดในรถยนต์ ยามเกิดเหตุการณ์คับขันจะช่วยให้รอดชีวิตพ้นจากภยันตรายได้ มหันตภัยร้ายแรง ท่านว่าจะมี 10 ประการ ได้แก่

    1. วาตภัย (ลมพายุ)
    2. ธรณีพิบัติภัย (แผ่นดินไหว) ภูเขาไฟระเบิด
    3. อัคคีภัย (ไฟไหม้)
    4. อุทกภัย (น้ำท่วม)
    5. ฟ้าผ่าดังลั่นสะเทือนแก้วหู

    6. อากาศร้อนมากเกินไป หนาวมากเกินไป
    7. สารพิษแพร่กระจายทุกแห่งหน
    8. เกิดโรคระบาดต่าง ๆ
    9. เกิดข้าวยาก – หมากแพง
    10. เกิดการอาฆาตพยาบาทจองเวร จองล้าง จองผลาญ

    3. ถ้าเข้าถึงปีกุน (2562) ไปแล้ว ทุกคนจะได้รับความสุขกาย-สุขใจ เคร่งครัดในการรักษาศีล 5 มาก โดยช่วงนั้นจะมีประชากรลดลงมาก แต่ประเทศไทยจะมีประชากรเหลือมากหน่อย คือ มีเหลือรอดถึง 30% หรือประมาณ 18 ล้านคน ขณะที่ประเทศอื่น ๆ จะมีชีวิตรอดอยู่เพียง 10% เท่านั้น

    4. เหตุการณ์ร้ายตามท้องถนน จะรุนแรงมาก ตั้งแต่ เดือน 7 ของปีระกา (ปี 2560) และในเดือน 9–10 ของปีจอ (ปี 2561) คนใจบาปจะถูกล้างผลาญหมดสภาพสังคมโดยทั่วไป มีบ้านแต่ไม่มีคนอยู่ มีข้าวแต่ไม่มีคนกิน มีทางแต่ไม่มีคนเดิน

    5. ที่ศิลาจารึกในมหาวิหารเชตวัน ณ สวนมฤคทายวัน ได้กล่าวถึงมหันตภัยในอนาคต สิ่งที่คนทั้งหลายไม่เคยเจอะก็จะได้เจอ ไม่เคยพบก็จะได้พบ ยักษ์หินที่ถูกสาป กลับตื่นขึ้นมาอาละวาด จะมีการรบราฆ่าฟันกันนองเลือด แผ่นดินจะมีไฟลุกโชติช่วง แต่ละฝ่ายตายไปฝ่ายละครึ่งจึงจะเลิกรา ที่เลิกราก็เพราะต่างหมดกำลังลง ผู้ที่สร้างสมกุศลผลบุญ มีสติอยู่เสมอ ก็จะรอดอยู่ได้ ทั้งนี้ไฟจะมาจากทางทิศตะวันออก
    ไฟไหม้บ้านเรือน และวัดวาอาราม สมณะชีพราหมณ์ ก็จะต้องอดอยาก ลูกไฟจะตกจากฟ้า ข้าวสารจะขาดแคลน ทุพภิกขภัยจะมีไปทั่ว ครุฑจะบินกลับฐาน (เงินบาทจะด้อยค่า) ในช่วงนี้ ให้ภาวนาว่า "ชา ตะ มะ สะ ละ วา" เขียนใส่กระดาษใส่ผ้าขาว ติดตัวติดบ้าน ติดหัวนอน จะทำให้รอดจากพญามัจจุราชได้มากขึ้น

    6. ผู้ที่ต้องการได้พบผู้มีบุญระดับพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะเป็นพระศรีอารย์ในอนาคต คัมภีร์ในใบลานแนะนำให้หมั่นภาวนา หมั่นรักษาศีล 5 ให้ครบถ้วนเป็นประจำ ก็จะสมปรารถนาได้

    7. สัญญาณเตือนภยันตราย จะเกิดชัดเจนครั้งแรกในปีมะเส็ง (2556) ตลิ่งริมฝั่งน้ำจะพัง ทะเลและมหาสมุทรจะบ้าคลั่ง ให้ติดตามเหตุการณ์ดูในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า หากเข้าสู่สถานการณ์นั้น ๆ คัมภีร์ใบลานแนะให้ท่องว่า "สะโรนะกา โททายะโม พุทธะตะยะ" จะลดภยันตรายลงได้กึ่งหนึ่ง

    8. โลกของเรากำลังเข้าสู่กลียุค จะมีปัญหาทั้งภัยธรรมชาติ จากดิน น้ำ ลม ไฟและเกิดจากน้ำมือมนุษย์ในการแย่งชิงผลประโยชน์ แย่งชิงความเป็นใหญ่ แย่งชิงอำนาจและทำสงคราม รวมทั้งใช้อาวุธทุกรูปแบบทำลายล้างซึ่งกันและกัน

    9. ประเทศไทย ก็ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติเช่นเดียวกัน โดยในปี 2556 จังหวัดชายทะเล และ กทม. จะมีแผ่นดินยุบตัว คลื่นน้ำจะพัดเข้าชายฝั่ง คลื่นน้ำอาจมีความสูงถึง 20 เมตร (สูงเกือบเท่าตึก 7 ชั้น) ผู้ที่อยู่ริมน้ำทั้งหมดจะล้มตายเกือบครึ่ง โดยจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปถึงปี 2560 ในที่สุดประชากรไทย จาก 65 ล้านคน จะเหลือเพียง 18 ล้านคนในปี 2561

    (ข้อนี้ฟังดูแล้วคลับคล้ายคลับคลา กับพยากรณ์ของนางมณีเมขลา 9 พฤษภาคม 2556 มากทีเดียว ผู้ที่ติดตามข้อมูลที่ในหลวงทรงแจ้งเตือนพสกนิกรชาวไทยล่วงหน้า เป็นปริศนาเช่นเดียวกับนอสตราดามุส ผู้ยังความไม่ประมาทพึงพิจารณาด้วยตนของตนเอาเถิด)

    ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้ อาจเกิดขึ้นจริง หรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่พวกเราก็ไม่ควรดำเนินชีวิตด้วยความประมาท อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้ท่านจัดสรรเวลาวันละเล็กวันละน้อย ฝึกความมีสติ และความมีสัมปชัญญะ เพิ่มการรักษาศีล และรู้จักให้ทานมากขึ้นด้วยครับ เพราะสิ่งที่ท่านให้แก่ผู้อื่น สงเคราะห์เกื้อกูลผู้อื่น มีความเมตตาผู้อื่นสัตว์อื่น หรือปรารถนาให้ผู้อื่นสัตว์อื่นมีความสุขในปัจจุบัน มีความกรุณาต่อผู้อื่น สัตว์อื่นหรือมีจิตปรารถนาให้ผู้อื่น สัตว์อื่นที่มีความทุกข์ ได้พ้นจากทุกข์ในปัจจุบัน

    สิ่งเหล่านี้จะเป็นพลังกุศลผลบุญสนองตอบแก่ท่านในช่วงที่โลกเข้าสู่วิกฤต อันจะมีผลให้ท่านมีความสุขได้ในทุกสถานการณ์ และพ้นทุกข์ได้โดยเร็วพลัน เป็นการลงทุนสร้างความงามความดีในปัจจุบัน ขณะที่เราสามารถกระทำได้โดยไม่เดือดร้อน ก็ขอให้ท่านรู้จักใช้โอกาสอันดีดังกล่าวด้วย หากประมาท ท่านอาจสูญเสียโอกาสที่ดีดังกล่าวตลอดไปก็ได้

    (ในประเด็นนี้ ท่านผู้เป็นใหญ่สูงสุด ที่ได้แจ้งคณะเตือนภัยเขากะลา เอาไว้ว่าการช่วยเหลือพลโลกได้เฉพาะบางส่วนที่มีบารมี...บารมีของท่าน ผู้ใหญ่แห่งดาวพลูโต นั้นอาจหมายถึง ผู้ที่ได้ฝึกจิตเข้าถึงสภาวะจิตเดิม หรือ "ทาง" ของทุก ๆ คนก็ได้ ...จึงจะนับว่าเป็นผู้มีบารมี ที่จะได้รับความช่วยเหลือจากชาวต่างดาวหลาย ๆ ดวง ที่ได้มาเตรียมงานบนดาวดวงนี้ล่วงหน้า 10 กว่าปีทีเดียว)

    %E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A5%20%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8A%201.jpg
    มงคล กริชติทายาวุธ
    ประธานชมรมศาสนาและการกุศล

    หมายเหตุ

    ปีนักษัตร ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ กุน เริ่มนับจากเดือน เมษายน เป็นเดือนที่ 1 ของปี เดือนสุดท้ายของปี จึงเป็นเดือนมีนาคมของปีถัดไป ดังนั้นปีระกาในพุทธทำนาย จึงหมายถึงตั้งแต่เดือน เมษายนของปี พ.ศ. 2560 ถึง เดือนมีนาคม พ.ศ. 2561

    ที่มา
    https://hilight.kapook.com/view/61834
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ย้อนดู 10 เหตุการณ์ภัยพิบัติแห่ง ปี 2556
    (ปีมะเส็ง ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล)

    page_3.jpg


    ในช่วงปี 2556 มีความสูญเสียมากมายเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แต่ความสูญเสียที่สร้างความสลดใจให้กับคนทั้งโลก เห็นจะไม่พ้นความสูญเสียจากภัยพิบัติ ที่คร่าชีวิตผู้คนและทำให้มีผู้บาดเจ็บคราวละนับร้อยนับพัน แต่หากจะถามว่าภัยพิบัติใดบ้างที่น่าสะพรึงกลัวและสร้างความสลดใจให้กับคนทั้งโลก หลายคนคงจะหลงลืมไปบ้างแล้ว กระปุกดอทคอมวันนี้จึงขอสรุป 10 เหตุภัยพิบัติแห่งปี ที่ส่งผลกระทบมากที่สุดในปีนี้มาฝากกัน

    1.ซูเปอร์ไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน

    philippines02.jpg

    ภัยพิบัติครั้งนี้นับว่าเป็นหายนะสำหรับชาวฟิลิปปินส์ ที่สะเทือนใจคนทั่วโลก เพราะเป็นภัยพิบัติระดับ "ซูเปอร์ไต้ฝุ่น" ที่ฟังชื่อแล้วก็ยืนยันชัดว่าไม่ธรรมดาแน่ ๆ โดยพายุไห่เยี่ยนลูกนี้ได้พัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ด้วยความเร็วลม 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 2 ล้านคน และเสียชีวิตราว 4,500 คน ซึ่งนอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแล้ว หลังเกิดเหตุผู้ประสบภัยยังต้องต่อสู้กับภาวะขาดแคลนน้ำและอาหารด้วย เพราะความช่วยเหลือจากทางการนั้นเข้าถึงผู้ประสบภัยช้าเหลือเกิน จึงทำให้เกิดภาพความอดอยากตอกย้ำหัวใจของคนทั่วโลกให้สลดซ้ำ แต่อย่างไรก็ดี เพื่อนร่วมโลกก็ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว นานาประเทศต่างแห่บริจาคเงินและสิ่งของจำเป็น ธารน้ำใจยังหลั่งไหลถึงผู้ประสบภัยจนถึงทุกวันนี้

    2.น้ำท่วมหนักในอินเดีย

    000_TS-Del6225294.jpg

    อีกหนึ่งภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลกและรุนแรงที่สุดในอินเดียปีนี้ หลังจากมรสุมเข้าปกคลุมหลายพื้นที่ในอินเดีย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม โดยเฉพาะในรัฐอุตตราขัณฑ์ ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 1,000 คน ยังไม่รวมผู้สูญหาย ซึ่งทางการเปิดเผยว่า น้ำท่วมดินถล่มครั้งนี้ นับว่าเป็นน้ำท่วมฤดูมรสุมที่หนักที่สุดในรอบ 80 ปีของอินเดียเลยทีเดียว

    อย่างไรก็ดี หลังเกิดเหตุ ทางการอินเดียก็ได้ประกาศห้ามประชาชนก่อสร้างอาคารบ้านเรือนริมน้ำหวั่นเกิดน้ำท่วมอีกและนำมาซึ่งความเสียหายมหาศาลต่อชีวิตและทรัพย์สิน และจะจัดตั้งหน่วยงานเพื่อควบคุมกฎระเบียบด้านการก่อสร้างอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สินมหาศาลเช่นนี้อีก

    3.แผ่นดินไหวในปากีสถาน

    000_TS-Del6250131.jpg

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูด ได้เขย่าพื้นที่ทางตะวันตกของปากีสถาน ทำบ้านเรือนพังราบ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตอย่างน้อย 208 ศพ ซึ่งหลังเกิดเหตุรัฐบาลก็รีบประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และส่งเจ้าหน้าที่หลายร้อยคนเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขณะเดียวกัน แผ่นดินไหวครั้งนี้ก็ได้ทำให้เกาะขนาดเล็กแห่งใหม่ผุดขึ้นกลางทะเล ห่างจากชายฝั่งราว 600 เมตรด้วย สร้างความฮือฮาให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในชั่วชีวิต

    4.แผ่นดินไหวในฟิลิปปินส์

    STR4.jpg

    ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นจะกระหน่ำซัดซ้ำเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น โดยแผ่นดินไหวนี้มีความรุนแรง 7.2 แมกนิจูด เกิดขึ้นบนเกาะโบโฮลที่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของฟิลิปปินส์ ซึ่งแน่นอนว่ามันได้สร้างความเสียหายหนักต่อบ้านเรือนประชาชนและชีวิตประชาชนด้วย โดยคร่าชีวิตประชาชนไปนับร้อยชีวิตเลยทีเดียว

    5.น้ำท่วมเม็กซิโก

    000_Was7917470.jpg

    หลังจากที่เฮอริเคนอินกริดและพายุโซนร้อนมานูเอล เคลื่อนตัวกระหน่ำชายฝั่งทั้งสองด้านของเม็กซิโกเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องแบบมาราธอน 3 วัน ตามมาด้วยน้ำท่วมและดินถล่มครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย ประชาชนหลายคนบ้านเรือนพังยับ บางรายชอกช้ำ น้ำท่วมทำเอาสูญเสียทุกอย่าง เดินลงน้ำฆ่าตัวตายจนกลายเป็นข่าวสุดสลดที่สะเทือนใจใครหลายคนในช่วงนั้น

    6.น้ำท่วมครั้งใหญ่ในจีน

    China%20Floods2.jpg

    ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคมต่อเนื่องถึงสิงหาคม หลังจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ได้ทำให้น้ำท่วมกินบริเวณกว้างหลายมณฑล แถมยังมีดินถล่มในหลายพื้นที่ โดยทางการจีนถึงกับเปิดเผยว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี สำหรับหลายพื้นที่เลยทีเดียว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตนั้น อยู่ที่อย่างน้อย 170 ศพ บ้านเรือนประชาชนหลายหลังพังราบเป็นหน้ากลอง

    7.ทอร์นาโดถล่มโอคลาโฮมา สหรัฐฯ

    454517-01.jpg

    ภัยพิบัติครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายมหาศาลในรัฐโอคลาโฮมา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทอร์นาโดหลายลูกที่พัดเข้าถล่มพื้นที่ประสบภัย มีความเร็วเฉลี่ยระดับ 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มีบ้านเรือนถูกทำลายพังราบราว 2,400 หลัง ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 51 ราย บาดเจ็บราว 240 คน

    8.แผ่นดินไหวที่เสฉวน ประเทศจีน

    siquanearthq.jpg

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.6 แมกนิจูดขึ้นในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ก่อนเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกกว่า 1,400 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 78 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน โดยเกิดขึ้นใกล้กับพื้นที่ซึ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและหายสาบสูญไปกว่า 90,000 คน เมื่อ 5 ปีก่อน

    9.คลื่นความร้อนปกคลุมอินเดีย

    hot.jpg

    แม้ว่าภัยพิบัติประเภทนี้ ฟังแล้วอาจจะดูไม่รุนแรงเท่าไรนัก แต่สำหรับในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สภาพอากาศที่ร้อนจัดทะลุ 45 องศาเซลเซียส ได้ทำให้ประชาชนอินเดียเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยจากสถิติที่รายงานครั้งสุดท้ายคือ 524 ศพ ส่วนใหญ่อยู่ในรัฐอานธรประเทศ

    10.อุกกาบาตตกในรัสเซีย

    r1.jpg

    เป็นประเด็นที่ช็อกคนทั่วโลกเลยทีเดียวสำหรับเหตุการณ์นี้ เมื่ออุกกาบาตหนักกว่า 7 พันตันได้โคจรตกลงมาสู่ชั้นบรรยากาศโลก ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นจนกระจกบ้านเรือนประชาชนแตก และมีผู้บาดเจ็บ 102 คน ก่อนที่ต่อมานักวิทยาศาสตร์จะค้นพบเศษซากอุกกาบาตได้ในทะเลสาบเมืองเชนยาบินสก์ แล้วนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด ขณะเดียวกัน เหตุการณ์ดังกล่าวก็ไปกระตุ้นให้นาซาได้วางแผนที่จะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำสอง ด้วยการขอความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์ด้านดาราศาสตร์ทั่วโลก มาแข่งขันค้นหาดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเล็กเกินกว่ากล้องโทรทรรศน์ของนาซาจะจับภาพได้

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก rt.com, RONALDO SCHEMIDT / AFP, STR / AFP, BANARAS KHAN / AFP, PRAKASH SINGH / AFP, TED ALJIBE / AFP

    ที่มา https://hilight.kapook.com/view/95041

     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กษัตริย์ทิศเหนือ กับ กษัตริย์ทิศใต้

    8bkaddbaafaeci758jgd7.jpg

    การเมืองโลกในยุค โดนัลด์ ทรัมป์

    ขอสวัสดีทุกท่าน พี่และน้องอันเป็นที่รักในเส้นทางเดียวกันกับผม
    และขอสวัสดีทุกท่าน เหล่าเพื่อนร่วมโลกที่ยังคงมีกันอยู่ในเวลานี้ ผมเคยเขียนอธิบายเรื่อง “กษัตริย์แห่งถิ่นเหนือกับกษัตริย์แห่งถิ่นใต้” (ขอเรียกสั้นๆว่า กษัตริย์ทิศเหนือกับกษัตริย์ทิศใต้) เขียนไว้เมื่อ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2016 ปัจจุบันนี้ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2017

    โดยสรุปของเรื่องที่เขียนในตอนนั้นคือ
    สถานการณ์ของโลกที่เชื่อมโยงกับพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ดาเนียล บทที่11 โดยเน้นตั้งแต่ ข้อที่ 40 ไปจนจบ คือสถานการณ์ทางการเมืองระหว่าง 2 ขั้วอำนาจของโลก คือ กลุ่มอเมริกา กับ กลุ่มของรัสเซีย ก๊อปหน้าจอมาให้ดูคร่าวๆดังนี้

    web_image002.jpg


    กษัตริย์ทิศใต้ (คือแองโกลเมกา+สมุน) ไม่ได้พินาศเพราะรบกับกษัตริย์ทิศเหนือ (รัสเซียจีน) แต่เขาจะพินาศเอง เพราะเงินดอลล่าห์กลายเป็นแบงค์กงเต๊ก หรืออะไรซักอย่างที่ใครก็ช่วยไม่ได้ เช่น รัฐต่างๆแยกตัวออกมาเองเพราะทนไม่ไหว ,โรคระบาด จลาจลรัฐประหาร ข้อความตรงนี้จบ ดาเนียล บทที่ 11 และเมื่อตัวเองไม่มีเงินแล้ว หรือใครก็ช่วยอะไรไม่ได้ มีแต่กองทัพเท่านั้นแหละ

    ที่มา http://dazedx.blogspot.com/2017/02/2.html
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฤ ค่าเงิน US จะถึงกาลวิบัติ

    dollar-499481_960_720.jpg

    19 เมษายน 2559 จีนประกาศล่วงหน้า ขายทิ้ง US Dollar 2.0 ล้านล้านเหรียญ เพื่อดึงเงินหยวนไปเทียบค่าอิงทองคำแทน

    ฤ ค่าเงิน USจะถึงกาลวิบัติ
    - - - - - - - - - - - -- --

    .. "โอบาม่ากับเฟด ร่วมประชุมด่วนรับมือจีนเตรียมทิ้งเงิน 2 ล้านล้านดอลล่าร์ และตั้งอิงเงินหยวนกับทองคำแทน"

    ... เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ 11 เมษายน 2016 ที่ผ่านมา มีการประชุมด่วน ที่ประธานาธิบดีบารักโอบาม่า รองประธานาธิบดีโจ ไบเดนและนางเจเน็ต เยลเล่น ผู้ว่าการธนาคารกลางอเมริกาหรือ เฟด ได้ประชุมหรือกันเช้าตรู่ เมื่อทำให่เกิดการระส่ำระส่ายกันมากในวงการเงินของ "อเมริกา"

    ... โดยข่าวที่ว่า "จีน" จะเทขายเงินดอลล่าร์ทิ้งกว่า 2 ล้านล้านดอลล่าร์ และจะกำหนดค่าเงินหยวนอิงกับทองคำ ในวันที่ "19 เมษายน 2016 นี้" โดยมีข่าวออกมาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับเงินแบบ Fiat Currency ที่ไม่มีทองคำค้ำแบบดอลล่าร์ จะกลายเป็นกระดาษชำระในห้องน้ำทันที

    ... The Chinese are scheduled to announce their switch from dollar to yuan on Tuesday, April 19th; which will send about two TRILLION in cash back to the US and send inflation skyrocketing overnight.

    ... เพราะถ้าเป็นจริง อาจจะมีผลทำให่ระบบการเงินการธนาคารของ "อเมริกา" ล้มครืนได้ จะเกิดเงินดอลล่าร์เฟ้อครั้งใหญ่

    ... ถ้าจริง มันจะประกอบช่วยสาดน้ำมันลงในกองเพลิงของการเงินอเมริกาอย่างมาก เพราะเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทาง Atlanta Fed ได้ออกการพยากรว่า การเติบโต GDP ของอเมริกานั้นจะปรับลดจากโตที่ 2.3% ที่ก็ต่ำอยู่แล้ว ลงมาอยู่ที่ แค่ 0.1% ในเดือนเมษายนนี้

    ... มีการพยายากรว่าเงินดอลล่าร์อาจจะค่าตกลงกว่า 30% ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเงิน และสังคมในอเมริกาต่อไป

    ... หรืออาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของ "อเมริกา" ก็ได้

    ที่มา http://www.webtraderth.com/webboard/index.php?topic=2223.0
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิวรณ์ บทที่ 18



    อเมริกาและโลก เดินทางมาถึงจุดที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อน!


    ขณะที่อเมริกาถูกเบิร์นส์ด้วยน้ำท่วมและไฟป่า โลกยังได้ยินเสียงคำขวัญต่อต้านอเมริกาออกมาดังและชัดเจนจากเกาหลีเหนือ (อเมริกาไปทำอะไรไว้ทำไมเกาเหนือจึงเกลียดชังนัก?)

    เห็นการโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือ ราวกับว่าชาวมะกันสนับสนุนระบอบการปกครองที่โหดร้าย และพวกเขาต้องการที่จะจบอเมริกาลงอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในที่ประชุม UN ว่าการเจรจาจะไม่เกิดขึ้นกับเกาหลีเหนือ และเวลาของเมริกากำลังหมดอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ และในไม่ช้าอเมริกาก็มาถึงจุดที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัวเลือกทางทหาร และสงครามจะมาถึงจุดนี้ได้ตลอดเวลา
    เห็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดที่สุดในกลุ่มต่อต้านทรัมพ์ แม้กระทั่งฮิลลารีคลินตันผู้ซึ่งเคยพูดถึงโลกไร้พรมแดนก่อนที่เธอจะพ่ายแพ้

    เดลี่เมล์จงใจรั่วไหลไฟล์ ที่มีรายละเอียดของหลายปฏิบัติการหน่วยข่าวกรองสหรัฐ http://prohibit.ais-idc.com/prohibit.html อเมริกาตกอยู่ในอันตราย Barack Obama กำลังขู่ว่าจะออกมาจากบังเกอร์เพื่อดำเนินการบางอย่างที่สำคัญ?!! http://100percentfedup.com/obama-threatens-surface-leftist…/
    กับคำเตือนว่าข้อมูลที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งนี้ ได้ถูกปล่อยออกมาโดยเจตนาเพื่อมีผลต่อ President Trump

    อเมริกาเป็นคนมีไข้ขึ้นสูงด้วยไฟป่าและน้ำท่วม
    แคลิฟอร์เนียตอนนี้ถูกคลุมเถ้าธุลีโดยไฟป่าขนาดที่ใหญ่
    ในขณะที่บางคนอาจกล่าวว่า "คนหลายคนที่อยู่ในรัฐบาลต้องการที่จะทำลาย"
    http://www.latimes.com/…/la-me-wildfire-los-angeles-2017090…

    บางคนเชื่อว่าอาจหมายถึงคำตัดสินของพระเจ้า ที่มาถึงอเมริกา
    ผู้บรรยายภาพบอกเรา "เหตุการณ์ครั้งที่ไม่น่าเชื่อ มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน" เมื่อหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกาและชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของพายุเฮอริเคนอิมม่า หลังจากที่ฮาร์วีย์ได้ทำลายล้างและน้ำท่วมใหญ่ในประวัติศาสตร์ สิ่งที่เรากำลังเฝ้าอยู่คือการทำลายล้าง และตามที่เราได้เห็นในระหว่างนี้ สงครามกับข่าวลือเกี่ยวกับสงคราม "และ" สัญญาณในสวรรค์ " ทั้งหมดของเราอาจจะบึ่งหน้ามุ่งตรงไปทางสถานการณ์สุดท้าย " ได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นเวลาที่มีสัญญาณอยู่ในสวรรค์ จากเงาดำของดวงอาทิตย์พาดผ่านประเทศสหรัฐ 33 วันเข้าสู่วิวรณ์ 12 เมื่อ 23 กันยาฯ เป็นหญิงท้องแก่ใกล้คลอด เหตุการณ์ที่น่าตกใจในพระคัมภีร์ เหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อและไม่เคยมีมาก่อน

    ในขณะที่เราถามว่า 19 สิงหาคมเรื่อง "The Great American Eclipse" คำเตือนครั้งสุดท้ายของพระเจ้าไปยังบาบิโลน ก่อนเกิดภัยพิบัติและการทำลายล้างหรือไม่? เราพบว่าน่าสนใจว่าตั้งแต่ "Great American Eclipse " สิ่งที่บางคนเรียกว่า "ช่วงเวลาแห่งความจริงในการเผยพระวจนะ" สำหรับอเมริกา เห็นได้ชัดว่าระหว่างทางของทำนายสงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม ซึ่งก็ได้ปรากฏว่าส่วนใหญ่ของอเมริกาได้มีการทำลายมากขึ้น และแม้กระทั่งกลุ่มข่าวหลักในที่สุดรายงานค่อนข้างเขียนไปในทางกลับไปที่ยุคมืด http://prohibit.ais-idc.com/prohibit.html
    -
    การคาดการณ์ในปี พ. ศ. 2525 ของ Deagel สำหรับอเมริกา ยังคงเห็นประเทศชาติอยู่ในสภาพพร่าพราย (เช่นเดียวกับที่อื่นๆ) ในเวลาไม่ถึง 8 ปีมีประชากรประมาณ 54 ล้านคน (ลดลง 270 ล้านคน จาก 324 ล้านคนที่เหลืออาศัยอยู่ที่นี่ในปี พ. ศ. 2562)

    ด้วยกำลังซื้อของชาวอเมริกัน ที่ตกอยู่ในอันดับที่ 78 ในโลก (จากอันดับที่ 15 ตอนนี้) โดยคาดว่า GDP ต่อหัวประชากรคาดว่าจะลดลงเป็นระดับที่ทำให้เขากับเวเนซุเอลาใกล้เคียงกันมากขึ้นมากกว่าประเทศที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก

    พฤหัสบดีที่จะออกจากราศีกันย์ สัญญาณที่น่าตื่นตาตื่นใจสองสัปดาห์ต่อมาหลายคนกำลังรอคอยงานเลี้ยงของแตร มังกรจะมากินเด็ก (ในวิวรณ์ 12) เมื่อเด็กจะเกิด? 2 สัปดาห์ก่อนที่ 23 กันยายน
    23 กันยายน คือการเติมเต็มของ "ทันทีที่เด็กเกิด?"
    สองสัปดาห์หลังจากที่ออกจากครรภ์ วิวรณ์ 12: 4-5 กล่าวว่ามังกรมากินเด็ก ทันทีเมื่อเป็นเด็กเกิดมาหรือ?

    วันเด็กเกิด 9 กันยายน 2017
    ทันทีที่เขาจะเกิด !!! ทำนายโลกถูกจับกุมเมื่อ 9 กันยายน 2017 นิสัน 11 (9 เมษายน) 153 วัน = 9 กันยายน 2017 !!!
    10 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า "เอาปลาที่เพิ่งจับได้มาบ้าง"
    11 ซีโมนเปโตรจึงลงไปในเรือแล้วลากอวนขึ้นฝั่ง อวนนั้นเต็มไปด้วยปลาตัวใหญ่ๆ มีหนึ่งร้อยห้าสิบสามตัว แม้จะมีมากขนาดนั้นอวนก็ไม่ขาด ยอห์น 21
    http://torahcalendar.com/
    ลูกา 21:35 (THSV11)
    เหมือนอย่างกับดัก เพราะว่าวันนั้นจะมาถึงทุกคนที่อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก

    สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current

    ที่มา
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อเมริกากับกฎอัยการศึก!!!

    3121c4c3f1040f6180595ac9cd67ede7--illuminati-symbols-the-illuminati.jpg

    ช่วงหยุดยาวแบบนี้...บ้านเราคงไม่ถึงกับมีข่าวคราวให้หยิบมาพ่น มาระบาย มากเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้คงต้องไปหยิบเอาข่าวคราวบ้านอื่น เมืองอื่น หรือข่าวต่างประเทศนั่นแหละ มาแก้ขัด มาเปลี่ยนบรรยากาศ ให้พอกล้อมๆ แกล้มๆ เอาตัวรอดไปอีกวันให้จงได้...
    ---------------------------------------------------
    เผอิญว่าช่วงวันสองวันนี้...มีข่าวต่างประเทศชิ้นหนึ่งที่ออกจะแปลกแหวกแนวอยู่ไม่น้อย ซึ่งอันที่จริงต้องถือเป็นข่าวเล็กๆ และคงไม่มีหน้าต่างประเทศหนังสือพิมพ์ฉบับไหน หยิบมาเป็นสาระ หรือให้ความสนใจมากมายสักเท่าไหร่ แต่เมื่อลองจับเอาแพะมาโยงกับแกะ ออกลูกมาเป็นสมเสร็จอะไรประมาณนั้น ข่าวดังกล่าวมันก็น่าคิดน่าติดตามอยู่พอสมควรทีเดียว คือข่าวว่าด้วยเรื่อง แรบไบ รายหนึ่ง ที่เรียกๆ กันว่า Riminov Rabbe หรือ Riminov Rabbi อันถือเป็นสถานะ ตำแหน่ง ของแรบไบชาวยิวในนิกาย Hasidism ซึ่งเป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาในหมู่ชาวยิวในยุโรป หรือบรรดาพวก อัชเคนาซี ยิว ทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นนิกายที่มีความใกล้ชิดผูกพันกับขบวนการทางการเมืองของชาวยิว ที่เรียกกันว่า ขบวนการไซออนิสต์ มาตั้งแต่เริ่มแรก หรือจะเรียกว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อตั้ง ขบวนการไซออนิสต์ เอาเลยก็ว่าได้...
    ----------------------------------------------------
    ผู้ที่ดำรงตำแหน่ง Riminov Rabbe ในแต่ละรุ่น ถือเป็นผู้ที่มีขีดความสามารถในการหยั่งรู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต อย่างชนิดลึกซึ้งเอามากๆ คล้ายๆ กับพวกที่พระคัมภีร์ไบเบิลเรียกว่า ผู้เผยพระวจนะ อย่าง เอสเสเคียล ดาเนียล หรือ เศคาริยาห์ ฯลฯ อะไรทำนองนั้น คือเชื่อว่าเป็นผู้ที่มีญาณพิเศษ จนได้รับความเลื่อมใสศรัทธาในหมู่ชาวอัชเคนาซี ยิว สืบต่อกันมาเป็นรุ่นๆ จนแม้แต่ในรุ่นปัจจุบัน Riminov Rabbe รายล่าสุดยังได้รับการโจษขาน โจษจัน ว่ามีญาณพิเศษถึงขั้นสามารถตามหาเด็กออติสติกชาวยิว ที่หายตัวไปในเมืองบรูคลิน ด้วยการหลับตาเขียนแผนที่ ให้ตำรวจตามเด็กเข้าไปในป่า จนพบตัวเป็นๆ ขณะยังมีชีวิตอยู่จนได้...
    ------------------------------------------------------
    แต่จู่ๆ เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา...ขณะไปเยี่ยมเยียนชุมชนชาวยิวในเมืองฟลอริดา Riminov Rabbe รายนี้ ก็ดันได้ไปเอ่ยคำเตือน หรือคำทำนาย ที่ออกจะสร้างความขนหัวลุก ให้บรรดาชาวยิวในอเมริกาตลอดไปทั้งชาวโลกจำนวนไม่น้อย นั่นก็คือ...ได้บอกให้บรรดาชาวยิวทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกา รีบเร่งอพยพโยกย้ายออกจากประเทศนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพราะกำลังจะเกิดเหตุเลวร้าย ระดับถึงขั้นกลายเป็น สงครามกลางเมือง ระเบิดขึ้นในประเทศมหาอำนาจสูงสุดของโลกแห่งนี้ อย่างชนิดแน่ๆ ยิ่งกว่าแช่แป้ง หรือยิ่งกว่าหมอดูอีทีดูดวงว่า น้องปูไปแน่ อะไรทำนองนั้น...
    ------------------------------------------------------
    ตามคำพูด หรือคำพยากรณ์ ที่ถ่ายทอดออกมาแบบคำต่อคำ Riminov Rabbe บอกไว้ประมาณว่า... “รีบเผ่นออกจากอเมริกากันเถอะ...ขณะที่ยังสามารถทำได้ เพราะสถานการณ์ในประเทศนี้มันจะเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ และจะยากต่อการเคลื่อนย้ายจากรัฐหนึ่งไปยังอีกรัฐหนึ่ง เมื่อครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บรรดาผู้เหลือรอดทั้งหลายเคยต่อว่าท่านแรบไบ Gedoli Yisroel (อดีต Riminov Rabbe) ผู้นำของฮาซีดิก ว่าเหตุใดถึงไม่ได้แนะนำให้ชาวยิวในยุโรปรีบหนีไปอิสราเอลหรือสหรัฐก่อนที่สงครามจะเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ความจริงท่านได้บอกเอาไว้แล้ว ให้ชาวยิวทั้งหลายรีบอพยพจากแผ่นดินที่กำลังลุกเป็นไฟ เพียงแต่ชาวยิวเหล่านั้นไม่ได้ยินเอง ฉะนั้นวันนี้...ท่านจงฟังฉันให้ดี ชาวยิวที่รักทั้งหลาย ผู้ที่สามารถอพยพไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (อิสราเอล) ควรที่จะรีบย้ายตัวเองออกไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นี่รวมไปถึงชาวยิวในอเมริกาใต้และยุโรปอีกด้วย...”
    -----------------------------------------------------------
    ส่วนเหตุการณ์เลวร้ายซึ่งกำลังจะอุบัติขึ้นมาในอเมริกานั้น Riminov Rabbe บอกว่า “อเมริกาจะกลายเป็นดินแดนที่อันตรายด้วยสงคราม แม้ยังเร็วเกินไปกว่าที่จะสรุปได้ว่ามีรัฐไหนบ้างซึ่งยังคงเหลือรอด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกทำลายและถูกแพร่พิษ แม้แต่สงครามกลางเมืองก็จะอุบัติขึ้นมาในดินแดนแห่งนี้ และจะตัดขาดรัฐต่างๆ ออกจากรัฐบาลกลาง อเมริกาจะไม่ใช่แดนสวรรค์อันปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว มีแต่ประเทศอิสราเอลเท่านั้นที่เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับสงคราม แม้ว่าจะมีความยากลำบากและความน่าหวาดหวั่นอยู่บ้างก็ตาม...”
    -----------------------------------------------------------
    นี่...เป็นไงทั่น ฟังแล้วนึกถึง เจ๊ฟองสนาน จามรจันทร์ หรือคิดถึงโหรซาดิสต์อย่าง โสรัจจะ นวลอยู่ ขึ้นมาบ้างหรือไม่ เอาเป็นว่า...ไม่ว่าจะฟังหู-ไว้หู ฟังแล้วไม่เชื่อ-แต่อย่าลบหลู่ หรืออะไรต่อมิอะไรก็ตามที แต่ระหว่างที่ Riminov Rabbe กำลังฟุ้งๆ ให้ชาวยิวในอเมริกาได้รับรู้ รับทราบ ในลักษณะเช่นนี้ เผอิญว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี โอบามา ท่านดันไปจุดประกายความงุนงง สงสัย ให้กับบรรดาชาวอเมริกันทั้งหลาย ขึ้นมาในระหว่างนี้แบบพอดิบ พอดี คือได้จัดให้มีการ ซ้อมรบภายในประเทศ ขึ้นในรัฐแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด นิวเม็กซิโก เนวาดา เทกซัส และยูทาห์ ฯลฯ ภายใต้รหัส Jade Helm ซึ่งไม่ต่างไปจากการเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศ กฎอัยการศึก ที่อาจหนักหนา สาหัส ยิ่งกว่ามาตราฉี่ฉิบฉี่ในบ้านเราแบบไม่รู้กี่สิบ กี่ร้อยเท่า ถึงขั้นที่ทำให้ชาวอเมริกันบางรายออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ ว่ารัฐบาลอเมริกันกำลังคิดจะใช้ กฎอัยการศึก เพื่อลบล้างรัฐธรรมนูญของชาวอเมริกันเอาเลยถึงขั้นนั้น...
    ------------------------------------------------------------
    ใครเป็นใคร ไผเป็นไผ อะไรเป็นอะไร...คงต้องรอให้ ความจริงปรากฏ นั่นแหละ ถึงจะสรุปกันได้ชัดๆ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ระหว่าง ความอยู่รอดของชาติ กับ ความเป็นประชาธิปไตย-ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ว่าประเทศไหนต่อประเทศไหน สุดท้าย...ต้องถือเอา ชาติ มาก่อนทั้งสิ้น ทั้งปวง นั่นแล นิทานเรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่า...แค่มาตราฉี่ฉิบฉี่ ที่พอได้สร้างความแสบๆ คันๆ ให้กับพวกไม่ปรารถนาดีต่อบ้านเมืองเอาไว้มั่ง ก็อย่าถึงกับต้องไปเอะอะโวยวายอะไรกันมากมาย ภายใต้สถานการณ์ที่โลกทั้งโลกมันชักชุลมุน วุ่นวาย หนักขึ้นเรื่อยๆ บรรดาเราๆ ทั่นๆ ผู้ได้ชื่อว่าปวงชนชาวไทยทั้งหลาย คงต้องอดทน อดกลั้น ค่อยประคับประคองกันไป น่าจะเข้าท่าที่สุด...
    --------------------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก Jean-Jacques Rousseau... “Patience is bitter, but its fruit is sweet.- ความอดทนเป็นความขมขื่น...แต่ผลของมันนั้นหวานชื่น...”.
    ------------------------------------------------------------

    ไทยโพสต์ Tuesday, April 7, 2015 - 00:01


    ที่มา http://www.thaipost.net/?q=อเมริกากับกฎอัยการศึก
     

แชร์หน้านี้

Loading...