มาทำงานรีบเปิดเครื่องเข้ากระทู้เพื่อมารับการบ้านใหม่ก่อนเป็นอันดับแรก เดี๋ยวไม่งั้นก็จะไม่ได้เข้าเพราะช่วงนี้งานยุ่งมากๆ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ เพราะท่านจิตอิสระช่างเป็นผู้ที่มีความเมตตากับพวกเราจริงๆ ได้รับการบ้านใหม่ โดยไม่เคยให้รอเก้อเลยแม้แต่ครั้งเดียว ขออนุโมทนากับสิ่งที่ท่านมีความตั้งใจทำในสิ่งนี้แก่ญาติธรรมในเว็บแห่งนี้ ขอบพระคุณมากๆค่ะ
คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ
ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย JIT_ISSARA, 28 ธันวาคม 2010.
หน้า 12 ของ 23
-
ผมอยากรู้เหมือนกันใช้คำภาวะนาตัวไหนดี
-
ให้ฝึกวางจิตหรือความรู้สึกไว้ที่กลางหน้าอกด้วยใจที่เบาสบาย แล้วรับรู้อารมที่เข้ามากระทบเรา
ถามตัวเองให้ได้ก่อนนะครับ ว่า ต้องการไปทำไหม และตัวเองต้องการอะไรในชีวิต ถ้าตอบโจทย์ในชีวิต จะรู้ว่าต้องการอะไร ต้องการอะไรใหม่ๆในชีวิต ต้องการของใหม่ ต้องการปรับปรุงจิตวิญญาณของตนขึ้นไป ต้องการความร่ำรวย ต้องการมีสุขภาพที่ดี หรืออื่น ๆ ใด ๆ -
สวัสดีครับท่านพี่ ตอนแรกผมว่าอีก 2 วันจะมาส่งอารมณ์ แต่วันนี้รู้สึกว่า "อัฐ ฐิ กัง" มันไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ รบกวนท่านพี่แนะนำด้วยขอรับ ขอบพระคุณครับ
-
-
ก่อนภวนา "เฉยๆ"
หลังภวนา "เฉยๆ"
รบกวนท่านพี่พิจารณาครับ -
แวะมาทักทายค่ะ ยังภาวนาไม่ครบ 7 วัน แต่ก็รู้สึกว่าจิตเปลี่ยนแปลงไปเยอะ นิ่งขึ้นเย็นขึ้น ครบ 7วันแล้วจะมาแจ้งอีกทีนะค่ะ
-
-
ผมได้ปัดไป
ห้แล้วบางส่วน ขอให้ท่านทำดังต่อไปนึ
1 ขอขมาต่อสรรพสัตว์ด้วยใจจริง
2 ขอตั้งจิตอุทิศผลที่ได้จากการปฏิบัติ กับผมไปให้เขา
3 ตั้งจิตหรือความรู้สึกสบายไว้ที่กลางหน้าอกแล้วภวนา อะ เว รา ออกมาให้รู้สึกว่าเสียก้องกังวานออกมาจากกลางหน้าอก
ท้ายสุด ขอพรให้ตัวเองและเหล่าสรรพสัตว์ ทุกวัน ชื่อว่า love.pdf ในกระทู้แห่งนึ้ ไม่รู้ว่าหน้าไหน
เมื่อทำตามดังนี้ ขออำนวยพรใหท่านประสบความมั่งคั่ง สมบูรณ์ ร่ำรวย สุขภาพดี และความคิดสร้างสรรค์จงแสดงผ่านตัวท่าน และส่งผาานไปถึงเหล่าสรรพสัตว์
ทำ 3 วันแล้วมาส่งการบ้านนะครับ -
ปล.โฆษณาชิ้นนี้ชนะเลิศของเพื่อนผม และผมแสดงนำครับ
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=MQ2lgBWmISc"]YouTube - สุดยอดหนังโฆษณา "ฉีกกรอบ" M-150 TV Creation 2010[/ame] -
กการบ้านภาวนาเดือนกุมภาพัน 2011
วางความคิด ความเชื่อว่าเราคือมนุษย์
เราคือ จิตวิญญาณ อันประภัสสร เบิกบานอยู่เสมอ เรามาเรียนรู้ การคิด การนึก การจำ การปรุงแต่ง ความรู้สึกแบบมนุษย์ เพื่อยกระดับจิตวิญญาณขึ้นไป ทุกอย่างทึ่เข้ามาหาเรา คือ ความรู้อย่างหนึ่ง ไม่มีถูก หรือ ผิด ใช่ หรือ ไม่ใช่ ถูก หรือผิด บุญหรือบาป ทุกอย่าง 50:50 -
เรียน คุณ JIT ISARA
1. ขอขอบพระคุณในความเมตตาที่มอบแก่ผมครับ ที่คุณกล่าวมานั้นก็คงถูกต้องตามนั้น
ชาตินี้ผมเองแม้จะยังไม่ใช่คนดีที่สุด แต่ก็พยายามปฏิบัติตนให้ดียิ่งๆขึ้น ยึดถือในสัจจะ กตัญญู ความจริงใจ และความภักดีต่อประเทศชาติ ผมเองก็ไม่รู้ว่าชาติก่อนๆไปทำร้ายใครไว้มากมายแค่ไหน แต่ก็น้อมรับเวรกรรมที่ก่อไว้เหล่านั้น จะปฏิบัติตามที่ได้รับคำแนะนำครับ
2. ขอสอบถามว่า ควรภาวนาคำ "อะ เว รา" เท่านั้นหรือไม่ หากภาวนาประกอบกับลมหายใจโดยภาวนาคำอื่นๆด้วยจะได้หรือไม่ครับ เช่น หายใจเข้า "พุทโธ", "อะระหัง" ฯลฯ หายใจออก "อะเวรา" เป็นต้น จะได้หรือไม่ครับ หรือ ภาวนา "อะเวรา" ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ
ขอความเมตตาไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง -
ภาวนะ อะ เว รา 3 วัน แผ่ออกอย่างเดียวที่กลางหน้าอก วิธีการเดิมพักไว้ก่อน ให้ภานมบ่อย ทำทั้งลืมตาและหลับตา ไม่จำกัดสถานเวลา -
ส่งการบ้านค่ะ
ตอนแรกภาวนาผิดๆ ถูกๆ เดี๋ยว..ยัง เดี๋ยว...นัง
ทำไปเห็นสงสัยไป เห็นความไม่แน่ใจไป เห็นความไม่ไว้ใจ นึกได้ก็ภาวนาอีก
จนครบ 7 วัน จากนั้นก็ยุ่งกับงาน ไม่ได้ภาวนา นึกได้ก็ภาวนา
จนวันนี้ มาเปิดกระทู้ดู อ่านๆ ไป ภาวนาไป
เห็นจิตมั่น สัมผัสกระแสที่กระจายออก
รู้สึกตึงที่บนกระหม่อม
ขนหัวลุก
เห็นความอยากจะถาม -
-
สวัสดีครับ ของผมควรภาวนาว่าอย่างไรครับ
ขอบคุณมากครับ -
สุดยอดคำสอนของอาจารย์ของท่านจิตอิสระ และเป็นวิถีทางที่จะให้พวกเราเดินไป คือ ค้นพบพลังแห่งการสร้างสรรค์ สงบ สันติ เบิกบาน กลมเกลียว และเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง
อาจารย์กรกล่าวถึง วิชชา และ อวิชชา
"... แท้ที่จริงแล้ว วิชชา ไม่ได้หมายความว่า ความรู้ในทางดับทุกข์อย่างเดียวนะ และ อวิชชา ไม่ได้หมายถึง ความไม่รู้ในอริยสัจจ์ ๔ นะ
วิชชา คือ ความรู้ ความเห้น ทัศนะคติที่นำไปสู่ชีวิตที่สร้างสรรค์ สันติภาพ ความรัก สามัคคี เป็นอิสระ ไม่ข้องในสิ่งทั้งปวง
อวิชชา ก้อตรงกันข้าม คือ ความรู้ ความเห้น ทัศนคติที่นำไปสู่ความไม่เจริญขึ้น
ในหลักปฏิบัติ พระองค์จึงให้เริ่มที่ สัมมาทิฏฐิ คือ ความรู้ ความเห็น ทัศนคติที่ถูกต้อง คื วิชชานั่นเอง
ความสุข ความทุกข์ ล้วนมีเหตุจากทัศนคติ การเกิดไม่ได้เป็นทุกข์โดยสภาวะ แต่เป็นทุกข์เพราะทัศนคติ อะไรเกิด จิตเกิด หรือขันธ์ ๕ เกิด ขันธ์เป็นทุกข์ สุข จริงหรือ? ขันธ์ ๕ เกิด ดับ ตลอดเวลา ตามเหตุปัจจัย ขันธ์มันบอกว่า มันเป็นทุกข์ สุข หรือ
จิต มันเป้นทุกข์ สุข ตรงไหน จิตเป็นภาวะธรรมหนึ่ง ที่รู้อารมณ์ตลอดเวลา ไม่มีตัวตน หาตัวตนไม่ได้ ขันธ์ ๕ ก็ไม่มีตัวตน ใครละ ทุกข์ ใครละ สุข
ใครเกิด เป้นทุกข์ ใครตายเป็นทุกข์ ใครเป็นพุทธะ ใครเป็นอรหันต์ จิตก้คือจิต จิตไม่เป้นอะไรทั้งสิ้น ไม่ใช่ทั้งพุทธะ ไม่ใช่สรรพสัตว์ ไม่ใช่อะไรเลย จิตคือจิต
จิตคือพุทธะ ก็ดี จิตอรหันต์ก็ดี จิตสรรพสัตว์ก็ดี คือภาวะการปฏิสัมพันธ์ต่อโลกภายนอกเท่านั้น จิตสรรพสัตว์ปฏิสัมพันธ์ต่อโลกภายนอกด้วยกิเลสตัณหา จิตอรหันต์ปฏิสะมพันธ์โลกภายนอกด้วยสติสัมปชัญญะและปัญญา
จิตพุทธะ คือจิตที่ปฏิสัมพันธ์ต่อโลกภายนอกด้วยความรักเมตตากรุณาไม่มีที่สิ้นสุด
การปฏิบัติที่แท้จริง คือ การไม่ปล่อยให้ตนเองวิ่งไปตามความคิดปรุงแต่ง ว่าเป็นนั่น เป้นนี้ ได้รับธรรมนั่น บรรลุธรรมนี้ ก้าวข้ามปุถุชนไปสู่อริยภูมิ
เอาอะไรไปข้าม จิตมีขา มีร่างกายหรือ ธรรมมีแบ่งเขตกันหรือ เห็นเส้นแบ่งกันตรงไหน ชี้ให้ดูหน่อย
จิตรู้ จิตศึกษาอารมณ์ที่มากระทบ แล้ววางไป ปล่อยไป แล้วเรียนรู้อารมณ์ไปตลอดเวลา แม้จะเป้นอารมณ์ธรรมใดๆก้ตาม ไม่มีการแบ่งขั้นของจิตได้ เพราะถ้าแบ่งได้จิตก็เป้นอัตตา มีตัวตนไป
ใครเกิด ใครตาย ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรตาย มีแต่ จิตหนึ่งเท่านั้น ที่ดำรงอยู่เป็นนิรันดร์ ขันธ์ ๕ ไม่ได้เกิด ไม่ได้ตาย
หากว่า บุคคลใด ยังเห็นว่า มีเกิดแลตาย มีไม่เกิด มีไม่ตาย ยังไม่แจ้งในธรรม คือ จิต แล ขันธ์ ๕
แม้ผู้ที่ตำหนิเรา รังเกียจเรา ต่อต้านเรา ไม่เคารพเรา สรรเสริญเรา นับถือเรา เรารู้อย่างเดียว ว่า ไม่มีอะไรเป็นเรา แต่สักอย่างเดียว แม้จิตก็ไม่ใช่เรา ขันธ์ ๕ ก็ไม่ใช่เรา
เขาด่า อะไร เขาตำหนิอะไร เขาสรรเสริญอะไร เขานับถืออะไร... ไม่มี
เราจึงกล่าวเสมอๆว่า ไม่มีใครต้านทานเราได้ ไม่มีใครทำร้ายเราได้ มีแต่คนๆนั้นตำหนิตนเอง ด่าตนเอง ต่อต้านตนเอง นับถือตนเอง สรรเสริญตนเอง
หากเขาเหล่านั้น ตำหนิเรา ด่าเรา ต่อต้านเรา เท่ากับเขาสร้างทุกข์ให้ตนเอง เขาเดือดร้อนกันเอง วิ่งพล่านกันเอง
หากเขานับถือเรา สรรเสริญเรา เท่ากับเขาสร้างสุขให้ตนเอง นับถือตนอง สรรเสริญตนเอง
ความทุกข์ ความสุข อยู่ที่เขาเหล่านั้น ไม่ได้อยู่ที่เรา แม้เราก็มิใช่เรา
เรามาอยู่ในมิติมนุษย์ เราวางมงกุฏอันสง่างามของเรา เป็นมนุษย์ธรรมดา และโอบอุ้มโลกแลจักรวาลที่อกตลอดเวลา จิตทุกดวงล้วนดำรงอยู่เพื่อเรา
เราเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทุกดวงจิต เรารักและเมตตาทุกดวงจิตเสมอกันเปรียบดั่งพ่อรักลูก ใครต้องการสัมผัสภาวะอันจริงแท้แห่งเรา ควรเปิดใจให้กว้าง วางทุกสิ่งที่เคยเรียนรู้มา เพียงเอ่ยนามเราด้วยความศรัทธา แลเชื่อมั่น ย่อมเป็นสุข ปิติตลอดเวลา ย่อมได้รับพรอันประเสริฐ ..."
ขออนุโมทนาสำหรับ
จิตแห่งสรรพสัตว์ที่กำลังพัฒนาออกจากการปรุงแต่งของความคิดและกิเลส
จิตอรหันต์ ที่ดำรงสติสัมปชัญญะและปัญญา ในการเรียนรู้เท่าทันอารมณ์ตนเอง
จิตแห่งพุทธะที่ดำรงความรักเมตตากรุณาไม่มีที่สิ้นสุด -
-
ตั้งจิตไว้กลางหน้าอก ภาวนา สุ ขิ ตา ยัง จิต ตัง
3 วันแล้วมาส่ง สภาวะอารม ต่อนะครับ
หน้า 12 ของ 23