คาถาเพื่อการยกระดับทางด้านจิตใจและจิตวิญญาณ

ตั้งจิตไว้ที่กลางหน้าอกแล้วภาวนา แผ่ออก มิต้องคำนึงถึงลมหายใจ

 

:cool:
หนูควรภาวนา คาถาอะไรดีค่ะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ,, ขอบพระคุณค่ะ :)

 

สวัสดียามเช้าครับ ท่านจิตอิสสระ

มาส่งการบ้านครับ หลังจากภาวนา สุขิ ตายัง จิตตัง ปะชานะติ สองวัน

มีความรู้สึกสบายและสงบครับ แต่ความโกรธยังมีอยู่แต่ระงับได้เร็วมากๆครับ

เปลี่ยนเป็นความสงบเข้าแทนที่ครับ

ภาวนาอะไรต่อครับผม

 

อนุโมทนาในความเมตตาครับท่านพี่ มีแต่บุคคลสนใจการยกระดับจิต บางคนเห็นผลก็มาขอคำภวนาต่อไป อนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยครับ

 

ภาวนา ธัมมัง ปะชานาติ อธิฐาน กายเบา ใจเบา กลางหน้าอก แผ่ออก 3 วัน ให้เห็นความสงบ ความเย็นใจ แต่อย่าไปยึดหรือจมกับมัน

 

มาส่งการบ้านครับ หลังจากตอนแรกเลยที่ได้เริ่มภาวนา เกิดความแปลกคือกายเบา ใจเบา มีความหวิวๆ เหมือนว่า ใช่เลย จิตชอบคำนี้ จิตมีความเป็นปกติ ภาวนาขึ้นมาเองหลายๆครั้ง พอมีบททดสอบมาตอนแรกก็รู้สึกโกรธแต่ก็สู้ไปสู้มา รู้สึกแปลกว่าปล่อยวางความโกรธได้ดีขึ้น และบททดสอบอื่นๆก็เริ่มเข้ามาแต่ก็กลับไม่โกรธ หรือว่ารู้เท่าทันและคิดไปว่าจะโกรธไปทำไมก่อนที่จะโกรธไปมากกว่านี้หรือว่าแต่ก่อน และยิ้มในใจกับตัวเองได้กับอารมณ์ที่กระทบ รู้สึกแปลกดี สบายดีครับ ตอนท่องก็เหมือนรู้สึกว่าเสียงเราก้องออกจากอกกระจายไปทั่วอวกาศ อยากทราบว่าต้องทำอย่างไรต่อครับ ขอบคุณมากครับ และอนุโมทนาสาธุกับธรรมทาน ด้วยครับ

 

อ้อลืมบอกไปครับ ผมท่องคำว่า ปะสะนะวา ได้ สองวัน และเพิ่มเป็น ปะสะนะวา ปะชานาติ ได้ 1 วันครับ

 

ภาวนา ธัมมัง ปะชานาติ อธิฐาน กายเบา ใจเบา และเปลี่ยนความคิดความเชื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความรู้อย่างหนึง และมีความรู้สึกสนุกสนานในการได้เรียนรู้

 

ภาวนา ธัมมัง ปะชานาติ แผ่ออก 3 วัน​

 

วันนี้มี้เรื่องมาเล่าสู่กันฟัง
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ขอน้อมรับพระพุทธะเป็นที่พึ่ง
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ขอน้อมรับพระธรรมเป็นที่พึ่ง
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ขอน้อมรับพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
เราท่องทุกครั้งเวลารับศีลแล้ว พุทธัง ธังมัง สังฆัง คืออะไร ใครรู้ช่วยตอบที
ผมมีความเชื่อมั่นเกือบร้อยว่า ส่วนใหญ่จะตอบว่า
พุทธัง คือ พระพุทธัง
ธัมมัง คือ พระธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าตรัสแล้วเราใช้เป็นพระไตรปิฎก
สังฆัง คือ พระสงฆ์ ผู้ห่มผ้าเหลืองที่บวชในพระศาสนา
แต่มาในวันนี้ผมเริ่มมีความคิดเปลี่ยนไป
พุทธัง หรือ พุทโธ มิใช่ตัวบุคคลพระพระองค์มิได้เคยบอกให้ยึดพระองค์ พุทโธ คือ สภาวะ สภาวะอารมหนึ่งที่เป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานของจิต (ต้องเป็นคนที่มีอริยมรรคองค 8 คือเห็นดี คิดดี ทำดี อยู่ตลอดเวลาเป็นประจำจิต )

ธัมมัง หรือ ธัมมัง พระพุทธองค์ท่านทรงตรัสไว้ก่อนที่ปรินิพานว่า เมื่อพระตถาคตสิ้นไปแล้ว ให้ใช้พระธรรมคำสอนของท่านเป็นทางนำพา และท่านเคยบอกไว้ด้วยว่า เมื่อเธอใช้ธรรมหรือแพนำพาเพื่อข้ามฝั่งได้แล้ว ให้วางแพหรือธรรมนั้นทิ้งไปเสีย ไม่ต้องแบกไป สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่เทียง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น และผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคต (ธรรมนั้นคืออารมณฺต่างๆที่เข้ามากระทบจิตเราเช่น ความโกรธ ความโลภ ความริษยา ความถือดี ความสุข ความทุก่ข์ ความเบิกบาน ความตั้งมั่น ความสว่าง ความกว้าง และอื่นๆ โดยแท้จริงธรรมนั้นก้อไม่มีลักษณะใดๆที่ควรยึดมั่นถือมั่น ธรรมนั้นเป้นอกาลิโก ปัจจัตตัง วิญญูหิติ ไม่จำกัดการ ผู้ปฏิบัติดีปฎบัติชอบพึงรู้ได้ด้วยตนเอง ) ดังนั้น พระธรรมคือสภาวะอารมร์ ที่เกิดที่จิตเรา 84000 พระธรรมขันธ์ก้ออยู่ที่กึ่งกลางหน้าอกเรามิได้อยู่ที่ไหน

สังฆัง หรือ สังโฆ คือ สภาวะของผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ปฎิบัติตรงชอบ เป็นเนื้อนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญไหนยิ่งกว่า สังโฆที่แท้จริงมิได้วัดกันที่ผ้านุ่ง หรือการบวช แต่วัดกันที่การปฎิบัติว่าตรงต่ออารมณ์หรือธรรมที่เกิดขึ้นจากกลางหน้าอกเราไหม เมื่อมีสติหมั่นนิ่งและเรียนรู้อามรณ์ที่ปรากฎขึ้นอย่างตรงไปตรงมาที่กลางหน้าอก เมื่อดีใจ นิ่ง รู้, เมื่อเสียใจ นิ่ง รู้, เมื่ออยาก นิ่งรู้ , เมื่อโกรธ นิ่ง รู้ , อื่นๆ นิ่ง รู้

*******************************************
จากทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วตามนัยยะแห่งข้าพเจ้า พระพุทธ, พระธรรม และพระสงซ์ คือหนึ่งเดียวกัน มิได้แยกจากกัน สัมพันธ์กัน เมื่อปฎิบัตี ปฎิบัติชอบ เรียนรู้อามรณฺการปรุงแต่งของจิตเราที่กึ่งกลางหน้าอก ทำให้จิตเราเป็นผู้รู้ ผู้ตืน ผู้เบิกบาน มีสติ สัมปัชัญญะ มีสมาธิ มีเมตตา กรุณา ประจำจิต ,โดยพื้นเดิมว่าจิตเราประภัสสรอยู่แล้ว มีอะไรจรมาทำให้จิตเราหม่นหมองไปชั่วครู่ เท่านั้น

ดังนั้นขอน้อมนอบแต่สภาวะพระพุทธะ พระธรรม พระสงฆ์ ที่เข้ามาณกระทู้ด้วยใจรักและบริสุทธ์
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ขอน้อมรับพระพุทธะป็นที่พึ่ง
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ขอน้อมรับพระธรรมเป็นที่พึ่ง
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ขอน้อมรับพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

 

ขอบคุณครับ จะภาวนาต่อครับ อีกสามวันมาส่งการบ้านครับ

อนุโมทนาสาธุครับ

 

สวัสดีตอนเย็นค่ะ คุณ JIT_ISSARA
ตามอ่านโพสต์ที่ คุณลงไว้หลายข้อความแล้ว มีสาระความรู้ที่น่าสนใจมากมากค่ะ
อยากทราบว่า สำหรับ หนูแล้วควรภาวนา พระคาถา ว่าอย่างไรตามความเหมาะสม
ตรงกับจริตนิสัย ที่ ใจร้อน , คิดมาก , มีราคะจริตสูง , มีวิตก วิจารย์ วิเคราะห์ มากมาย

ปรกติถ้ามีอารมรณ์ภาวนา จะภาวนา หลากหลาย คำภาวนา จากหลายสำนัก
ล่าสุดนี้ ภาวานา ด้วยบทสรรเสริญ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ค่ะ

ขอบพระคุณมากมายค่ะ สำหรับทุกคำแนะนำ :)

 

อนุโมทนาครับ ส่งจริตนิสัย ละเอียดดีมาก่ครับ เดี่ยวคุณหมอขอแจกยาตามนี้นะครับ
1 ให้ยิ้มน้อยๆ ที่ริมฝีปาก ให้ความรู้สึกของรอยยิ้มลงที่ใจ
2 อธิษฐานขอให้ความรู้สึกไม่ดี ความทรงจำไม่ตั้งแต่เอนกชาติจงหายไป แล้วตั้งจิตภวนาที่กลางหน้าอกว่า สัญญา นิโรโธ ปะชานาติ ภวนาแบบแผ่ออกนะครับ 9 จบ แล้วต่อด้วย ปะสะนะวา ปะชานาติ ภวนาแบบแผ่ออกเรื่อยๆ
3 ทุกๆครั้งที่เริ่มภวนาให้ทำตามข้อ 1 และ 2 แล้ว 3 วันมาส่งการบ้านนะครับ
4 จงวางความคิด ความเชื่อ การตัดสินใจถูกผิด ใช่หรือไม่ใช่ บุญบาป ลง เปลียนทุกอย่างที่เข้ามาเป็นความรู้อย่างหนึ่ง แล้วจงมีความสุขในการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เข้ามา แม้นิสัยที่บอกมาเป็นความรู้ด้วยเหมือนกัน อย่ามองว่ามันไม่ดี จงหยุด นิ่ง กลางหน้าอกแล้วสนุกกับการได้เรียนรู้มัน
************************************************************
แล้วจงวางการปฎิบัติทั้งปวงเสีย แล้วพิสูจน์หนทางนี้ด้วย ว่าจะช่วยได้จริงไหม ???
ดีครับ เราเป็นนักพิสูจน์ จงอย่าเพิ่งเชื่อ แต่จงปฎิบัติแล้ว่จะเห็นเอง เพราะคุณหมอก้อเป็นคล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน

 

สวัสดีค่ะ พี่ขอส่งการบ้านค่ะ หลังจากได้ภาวนา อะเวรา มา 3 วัน รู้สึกแน่นและจุกที่หน้าอกมาก และขึ้นไปจุกที่คอด้วยค่ะ พยายามแผ่ออกไปกว้างๆก็มีความรู้สึกปวดหัวมึบตึ๊บๆค่ะ ช่วยแนะนำต่อด้วยค่ะ

 

ส่งการบ้านค่ะ
๑ ภาวนา ปะสะนะวา มา สองวัน และ ปะสะนะวา ปะชานาติ สองวัน
๒ ภาวนา คาถา ชินปาโร บทย่อ
มีความรุ้สึก จับอารมณืได้เร็วขึ้น เช่นพออารมณืไม่พอใจเกิดขึ้นรอบรกจะมารู้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ครั้งต่อมาพอมาจ่อปั้บเห้นปั้บเลยแค่โผล่หัวแพลมออกมา พอตกเย็นจับไม่ทันอีก
ภาวนาคาถาชินปาโร บทย่อมีความรู็้สึกปิติในความเมตตาอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระพุทธเจ้า รู้สึกกายเบาจิตเบา เวลาขอพรจากจิตจักรวาลใหญ่ก็รู้สึกดีค่ะ

 

ครับอนุโมทนา
เป็นอาการของธาตุขันธ์กำลังปรับตัว เนื่องจากจิตเปลี่ยน ธาตุขันธ์ก้อจะเปลี่ยนเหมือนที่พระอรหันต์กระดูกเป็นสีขาว เพราะมีอาการฟอกธาตุขันธ์นะครับ นี้เป็นอาการระยะแรก บ่งบอกว่าในระดับเซลและร่างกายมีปัญหา พลังจากข้างนอกเลยมาปรับร่างกายให้ เป็นสิ่งดีครับ
ต่อไปให้ภวนา พุทโธ เมตตา ปะชานาติ แผ่ออก ครับ มีอะไรเกิดขึ้นต้องอดทนนะครับ 2 วัน แล้วมาส่งการบ้าน ตอนนี้ต้องทำบ่อยๆนะครับ เป็นช่วงสำคัญ

 

ท่านพี่ไปถ่ายรูปออร่าที่ไหนเหรอครับ ผมจะไปถ่ายมั่ง ราคาไม่น่าแพง==a เห็นคำภวนาของคุณพี่แล้ว สุดยอดครับ! ทั้งจำยาก ท่องยาก และยาวด้วย ออร่าของท่านพี่สีทองใช่มั้ยครับ

 

ต่อไป อธิฐาน กายเบา ใจเบา แล้วตั้งสติหรือความรู้สึกสบายใจ แล้ว ภวนา ธัมมัง ปะชานาติ 3 วัน แผ่ออก ให้มีความรู้สึกว่าจิตแผ่ไปได้ทั่วจักรวาล ทั่วทุกทิศทุกทาง และทั่วทุกมิติ รอบทิศนะครับ

 

สวัสดีคะ อยากปรับจิตใจและจิตวิญญาณมากๆเลยคะ
แต่ไม่รู้จะท่องบทไหน ท่องอย่างไร ท่องตอนไหน ท่องกี่จบ คะ?

เป็นคนคิดมาก เอาแต่คิดๆๆๆๆ อยากปล่อยวางบ้าง เครียดด้วยคะ เครียดเรื่องเรียน เรื่องความรัก ไม่เคยสมหวังในความรักเลย ทำอะไรก็เหมือนจะมีศัตรูหรือคู่แข่งตลอดเวลาในทุกๆเรื่อง หนูควรสวดบทไหนดีคะ

 

น้องอยู่แถวงามวงวานใช่ไหม จะไปเมื่อไหร บอกพี่ได้ เพราะพี่อยู่แถวพระนั่งเกล้า พี่จะได้ขอเก็บ รูปอ่อร่าของน้อง เป็นงานวิจัยของพี่ด้วย ตอนนี้อ่อร่าของน้องสวยมาก น่าไปถ่ายเก็บมาก โทรมานะ ส่วนที่อยู่ ประดิพัทซอย 10 เข้าไปไม่เกิน 200 เมตร ทางขามือ ศูนพัฒนาพัฒนาพลังชีวิต ถ้าจะไปเองนะ
ส่วนทำไหมเดียวนี้คาถายาว จะบอกว่าเป็นหลักสูตรเร่งลัดนะ เติมคำว่า ปะชานาติ ไปแล้วจะทำให้การปฎิบัติเห็นผลเร็วและชัดขึ้น และถ้าใครได้เสริมภาวนาคาถา ชินปาโร วันละ 7 รอบ ภายใน 7 วัน จะเปลี่ยนได้ชัดเจนมาก