คุณมีจิตสัมผัส-ความผูกพัน-สื่อพลังพุทธะ พลังเทพหรือไม่

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ..

<script language="javascript" type="text/javascript"><!-- var boxid; //function copyHTML(obj){ // copyme=document.getElementById(obj); // copyme.select(); // textRange=copyme.createTextRange(); // textRange.execCommand("Copy"); // //alert("คุณ Copy โค้ดเสร็จแล้วค่ะ\nไป comment ใน Hi5, myspace หรือ Planet ได้เลย"); //} function box_open(event,rel_obj,msg){ var Position={ getpositoin:function(element){ var valueT = 0, valueL = 0; do { valueT += element.offsetTop || 0; valueL += element.offsetLeft || 0; if (element.offsetParent == document.body){ //if (Element.getStyle(element, 'position') == 'absolute') break; } element = element.offsetParent; }while (element); return [valueL, valueT]; } } var rid=Math.ceil(Math.random(100)*10000); var t=document.body; t.style.zIndex=-1; var targetHeight=t.offsetHeight+15; var back_box=document.createElement('div') back_box.id='back_'+rid back_box.style.left=0; back_box.style.top=0; back_box.style.width='100%'; back_box.style.height=targetHeight+'px'; back_box.style.background='#FFFFFF'; back_box.style.zIndex=1; back_box.style.filter='alpha(opacity=35)'; back_box.style.opacity=.35; back_box.style.position='absolute'; var d=t.appendChild(back_box); var box_width=400; var box_height=180; var lt=Position.getpositoin(rel_obj) var middleY=lt[1]-event.clientY ; var m_h=Math.ceil( ((screen.height/2)-(box_width/2))+middleY)-70; var m_w=Math.ceil( (back_box.offsetWidth/2)-(box_width/2)); var front_box=document.createElement('div') front_box.id='front_'+rid front_box.style.left=m_w+'px'; front_box.style.top=m_h+'px'; front_box.style.width=box_width+'px'; front_box.style.zIndex=2; front_box.style.position='absolute'; var msg2='
<input type="button" onclick="box_close('+rid+');return false;" value=" ปิด " />
'; var html='<table width="100%" border="0" cellspacing="0" cellpadding="0">'; html+='<tr>'; html+=' <td width="15" height="44" style="background:url(/images/glitter/box/box_top_left.gif); "></td>'; html+=' <td height="44" style="background:url(/images/glitter/box/box_top_center.gif); "></td>'; html+=' <td width="15" height="44" style="background:url(/images/glitter/box/box_top_right.gif); "></td>'; html+='</tr>'; html+='<tr height="'+box_height+'">'; html+=' <td width="15" style="background:url(/images/glitter/box/box_left.gif)"></td>'; html+=' <td valign="bottom" align="center" bgcolor="#FFFFFF">'; html+=msg; html+=msg2; html+=' </td>'; html+=' <td width="15" style="background:url(/images/glitter/box/box_right.gif)"></td>'; html+='</tr>'; html+='<tr>'; html+=' <td width="15" height="11" style="background:url(/images/glitter/box/box_bottom_left.gif); "></td>'; html+=' <td height="11" style="background:url(/images/glitter/box/box_bottom_center.gif); "></td>'; html+=' <td width="15" height="11" style="background:url(/images/glitter/box/box_bottom_right.gif); "></td>'; html+='</tr>'; html+='</table>'; front_box.innerHTML=html; var d=t.appendChild(front_box); return rid; //setTimeout('box_close('+rid+')',1000); } function deleteglitter(id,catid){ if(id!=0&&catid!=0){ //alert('id: '+id+'\ncatid: '+catid); if(confirm('Delete ?')){ ajax_deleteGlitter(id,catid); } } } function box_close(id){ var d=document.getElementById('back_'+id); d.parentNode.removeChild(d); //document.getElementById('front_'+id).style.display=''; var d=document.getElementById('front_'+id); d.parentNode.removeChild(d); } function flagGlitter(event,rel_obj,glitterid){ var msg='

ส่งข้อมูล



'; //alert(glitterid); var id=box_open(event,rel_obj,msg); //ajax_flagGlitter(9011); ajax_flagGlitter(glitterid); } function flagGlitterFree(event,rel_obj,glitterid){ var msg='

ส่งข้อมูล



'; var id=box_open(event,rel_obj,msg); //alert(id); //alert(glitterid); //ajax_flagGlitterFree(9011); ajax_flagGlitterFree(glitterid); } function flagGlitterHi5(event,rel_obj,url){ var msg='

ส่งข้อมูล



'; var id=box_open(event,rel_obj,msg); //alert(id); //alert(url); //ajax_flagGlitterHi5('http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=113&sid=da6acffc130166e36682723d10cc3fc4'); ajax_flagGlitterHi5(url); } function sendGlitterToFriend(event,rel_obj){ // var msg='

ส่งข้อมูล



'; var msg='<form id="frmSendmail" name="frmSendmail">'; msg+='<input type="hidden" id="subject"name="subject" value="เพื่อนของคุณชวนไปดู รูปสวยๆน่ารักๆ ที่ glitter.kapook.com" />'; msg+='<input type="hidden" id="message"name="message" value="ดูรูปได้ที่ http://glitter.kapook.com/content.php?id=9011&category_id=24" />'; msg+='<fieldset>'; msg+='<legend> ส่งหน้านี้ให้เพื่อน </legend>'; msg+='<label> ชื่อคุณ <input type="text"size="30" id="fromname"name="fromname" /></label>'; msg+='<label> เมล์คุณ <input type="text"size="30" id="fromemail"name="fromemail" /></label>'; msg+='<label> ชื่อเพื่อน <input type="text"size="30" id="toname" name="toname" /></label>'; msg+='<label> เมล์เพื่อน <input type="text"size="30" id="toemail" name="toemail" /></label>'; msg+='</fieldset>'; msg+='<input name="btnSendmail" type="button" onclick="sendmail(ajax.getForm(\'frmSendmail\'));" value=" ส่งเมล์ " />
'; msg+='</form>
'; boxid=box_open(event,rel_obj,msg); document.getElementById('frmSendmail').fromname.focus(); //alert(id); //ajax_flagGlitter(9011); } function sendmail(fromValue) { frm = document.getElementById('frmSendmail'); if(frm.fromname.value == '') { alert('กรุณากรอกชื่อของคุณด้วยคะ.');frm.fromname.focus();return false;} if(frm.fromemail.value == '') { alert('กรุณากรอกอีเมลล์ของคุณด้วยคะ.');frm.fromemail.focus();return false;} if(frm.toname.value == '') { alert('กรุณากรอกชื่อของเพื่อนคุณด้วยคะ.');frm.toname.focus();return false;} if(frm.toemail.value == '') {alert('กรุณากรอกอีเมลล์ของเพื่อนคุณด้วยคะ.');frm.toemail.focus();return false;} ajax_sendtofriend(fromValue); } function closeBoxaction(){ var d=document.getElementById('back_'+boxid); d.parentNode.removeChild(d); //document.getElementById('front_'+id).style.display=''; var d=document.getElementById('front_'+boxid); d.parentNode.removeChild(d); } --></script>

 

คุณโอมขอถามต่อนะค่ะ คือแบบว่าอยากรู้นะค่ะเพราะจิตวิญญาณเป็นตัวรับรู้นี่ค่ะ ..ไม่มีวิญญาณ...ที่ถูกสร้างจากพระพรหม
พระหรหมสร้างเทพโดยไม่มีวิญญาณหรือค่ะ? แปลกดีปกติเคยได้ยินว่า เทพ เทวาปรากฏเป็นพลังงานที่บางคนเท่านั้นจะสามารถรับรู้โดยจิตว่าคงอยู่จริง
ถ้าไม่เข้าฌาณ (สมาธิ) ก็ไม่ปรากฏเห็นเพราะเนื่องด้วยไม่มี 4-5 ธาตุประกอบด้วยกันเหมือนมนุษย์ ที่มองเห็นด้วยตาเปล่านะค่ะ แต่น่าจะมีวิญญาณ (จิต) นี่ค่ะ?

พระแม่จึงยอมเสด็จมาเกิดใหม่เพราะคำขอของเหล่าเทพในร่างของพระ
แม่อุมาเทวี ไม่มีวิญญาณแล้วไปเกิดใหม่แบบสร้างร่างขึ้นมาใหม่หรือค่ะ?
ใช่ หรือ ไม่ใช่ร่างอวตารที่เขาเรียกกันค่ะ?

มหาเทพปราบมาร ในนาม พระสกันท์ หรือ ขันทกุมาร
โดยปกติคนจะรู้จักพระพิคเนตร (อะเขียนไม่ถูก) ไม่สันทัดเทพทางฮินดู แต่ก็อยากรู้เรื่อง พระขันทกุมารจิงๆๆ ช่วยเล่าเพิ่มหน่อยค่ะ​

 

พระขันธกุมาร (พราหมณ์) = พระสมันตภัทร (พุทธ)

 

มังกรเขียว

 

เสือขาว

 

หงส์แดง

 

เต่าดำ

 

...........โอม ...ศักติ..............

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

วิญญาณทางคติฮินดู ในที่นี้ ต่างกับ วิญญาณขันธ์ในหมวดขันธ์5 ทางพุทธ

ที่ว่า องค์ศักติ ไม่มีวิญญาณแบบที่พระพรหมสร้าง

เพราะท่านเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า เป็นต้นแบบของวิญญาณที่พระพรหมได้รับจากมหาเทวะ เพื่อทำให้สิ่งทั้งหลายที่สร้าง ได้มีชีวิตชีวา

พูดง่ายๆตามคติ พราหม์ณ์ฮินดูคือ ไม่สามารถสร้างปรมาตมัน จาก อาตมัน

 

แจ้งข่าวดี สำหรับพี่น้องที่ต้องการทำบุญใหญ่ให้ตนและเจ้ากรรมนายเวร

เชิญทำบุญพระอรหันต์กลางกรุง และ ครูอาจารย์สายพระป่ากว่า 120รูป
( ครูอาจารย์ 94 รูป พระติดตาม 30 รูป )

ที่สวนทิพย์

ตามกระทู้นี้นะครับ http://palungjit.org/showthrea...69#post1808069


<!-- / message --><!-- sig -->__________________

 

ขอบคุณค่ะ แต่ไม่ค่อยเข้าใจบางส่วนค่ะ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเป็นความรู้หน่อยค่ะ
เป็นต้นแบบของวิญญาณที่พระพรหมได้รับจากมหาเทวะ
...มหาเทวะคือใครค่ะ?

ไม่สามารถสร้างปรมาตมัน จาก อาตมัน
...หมายความว่าไม่สามารถสร้างความมีตัวตนจากความไม่มีตัวตน (ความว่างเปล่า) ใช่ไหมค่ะ?

พลังที่ยิ่งใหญ่ทีว่าตอนนี้อยู่ทุกที่รอบกายเรา ไปได้ทุกที่ไม่มีเขตพรมแดนต่างสถาที่หรือต่างศาสนาใช่ไหม?

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


รู้ในสิ่งที่จำเป็นต่อการดับทุกข์ ก็เพียงพอ

 

สวัสดีค่ะคุณเม้าท์...และคุณโอม...เครื่องคอมพ์เสียตั้งนานเพิ่งซ่อมเสร็จค่ะเลยหายหน้า
ไป แต่ไม่ได้หายไปเปล่าๆนะคะไปหาข้อมูลของ พระนางมาริษา(มนสาเทวี)ธิดาของ
พระศิวะเทพแบบเต็มๆมาด้วยค่ะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระนาง...

พระนางมาริษาเทวี ( มนสาเทวี )...บุตรีแห่งองค์ศิวะเทพ...

เทพเทวีแห่งงู....

บางคัมภีร์ระบุว่าพระศิวะมีลูกสาวองค์เดียวคือพระนางมาริษาหรือมนสาเทวีอิตถี
เทพผู้เป็นที่กล่าวขวัญกันว่างดงามเป็นยิ่งนักแต่ทว่าในคัมภีร์ก็กล่าวว่า
พระธิดาองค์นี้จะประสูติจากพระมเหสีองค์ใดของพระศิวะก็มิอาจทราบได้
เพราะมิได้ปรากฏหลักฐานอันใดจึงมีการสันนิษฐานกันว่าอาจจุติมาจากการ
ที่พระศิวะทรงนิรมิตเสกสรรขึ้นมาเองก็เป็นได้และไม่มีทางที่พระนางมาริษา
จะเป็นธิดาของพระศิวะที่ประสูติจากพระนางปาราวตีหรือพระแม่อุมาเพราะ
มีเรื่องร่ำลือกันว่าพระนางมาริษาไม่ค่อยถูกชะตากับพระอัครมเหสีของผู้เป็นพระ
บิดาเท่าใดนักพระนางมาริษากับพระนางปาราวตีมีเรื่องขัดแย้งกันบ่อยๆจน
ฝ่ายอ่อนเยาว์กว่าได้ตัดสินใจเสด็จลงมาประทับบนโลกและสถิตย์อยู่ในฐานะ
เทพนารีที่ประทานพรต่อมนุษย์จึงมีผู้คนนิยมสักการะบูชากันไม่น้อยในเวลา
ต่อมาในบางคัมภีร์ก็ยังระบุว่า พระศิวะมีลูกสาวอีกองค์หนึ่งคือพระนางเน
ตาเทวีและก็มิได้บ่งบอกไว้เช่นกันว่าพระมารดาของพระนางเนตาเทวีคือใคร
กันแน่แต่ถึงอย่างไรเรื่องราวของพระนางเนตาเทวีก็มิค่อยปรากฏบทบาท
ใด ๆ มากนักในแวดวงเทพเทวะ...
ตามประวัติเดิมนั้น นางมนสาเทวี ไม่เป็นที่โปรดปราณของพระนาง
ปราวตีนักด้วยเหตุนี้เธอจึงเสด็จสู่พื้นล่างบนโลกมนุษย์กับลูกสาวพระศิวะ
อีกพระองค์หนึ่งคือนาง เนตา เมื่อลงมาสู่โลกมนุษย์พระนางมีความใฝ่ฝัน
ว่าอยากจะให้โลกได้บูชาพระนางเหมือนกัน
เรื่องเล่าสืบกันมาว่า จานนท์ ซึ่งเป็นนายพานิชน์แห่งจำปาก เป็นผู้ซึ่ง
นับถือพระศิวะและพระนางปราวตีเป็นที่สุด พระนางมนสาเทวี พยายาม
ทุกวิถีทางที่จะเปลื่ยน
ความตั้งใจของจานนท์ แต่ก็ไม่สำเร็จ ด้วยความร่ำรวยของจานนท์ได้
สร้างสวนดอกไม้ขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อน นางมนสาเทวีได้สั่งให้งู
บริวารทั้งหลายเข้าไปทำลายสวนดอกไม้นั้นเสีย ด้วยผลบุญที่จานนท์
มั่นคงในพระศิวะเทพจนเป็นที่โปรดปราณพระเป็นเจ้าจึงได้ประทาน
มนตราลึกลับให้บทหนึ่งเพื่อใช้ในการชุบสิ่งที่ตายแล้วให้ฟื้นได้และ
ด้วยมนตร์บทนี้เองที่ทำให้ดอกไม้ทั้งหลายเบ่งบานในสวนอีกครั้ง
นางมนสาเทวีไม่สิ้นความตั้งใจ ใช้มายาและมนตราแปลงร่างเป็นหญิง
สาวสวยเพื่อให้จานนท์หลงรัก จนในที่สุดนางก็ล้วงเอาความลับแห่งมน
ตราในการชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นได้สำเร็จและคืนร่างเดมบอกกับจานนท์
ว่า ให้กลับใจมาบูชานางเสีย แล้วจะประสบความสำเร็จและได้จากจานนท์
ไปในที่สุด เมื่อมนตราลึกลับได้หลุดจากปากจานนท์ไปแล้วย่อมใช้กับจา
นนท์ไม่ได้ผลอีกต่อไป
การดื้อรั้นของจานนท์ เป็นเหตุให้ลูกชายทั้ง 6 ถูกงูกัดตาย และทุกครั้ง
ก่อนลูกแต่ละคนจะตาย จานนท์ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า ให้กลับใจมา
นับถือนางเสีย แต่เขาก็ยังดื้อรั้น ครั้งหนึ่งจานนท์ได้อาศัยเรือสินค้าเดิน
ทางกลับบ้าน ระหว่างทางนั้น นางมนสาเทวีได้บัดาลให้เกิดมรสุมใหญ่
เรือแตกอับปางจานนท์ได้สวดมนตร์ถึงพระนางปราวตี พระเทวีได้
เสด็จมาช่วยเหลือจานนท์ นางมนสาเทวีได้ตัดพ้อกับพระศิวะเทพ
ผู้เป็นบิดาว่าการที่พระมหาเทวีมาช่วยเหลือนั้นไม่ยุติธรรมต่อนาง และขอให้พระศิวะนำพระนางปราวตีกลับวิมานเสีย อย่าได้มาเกี่ยว
ข้องกับนางเลย พระศิวะเลยต้องทำตามคำขอร้องของพระธิดา
อันที่จริงนางมนสาเทวีไม่มีเจตนาจะฆ่าจานนท์ จึงเนรมิตปัทมอาสน์
บัลลังก์ดอกบัวรับเอาจานนท์ไว้แต่จานนท์รู้ว่าเป็นของนางมนสาเทวีจึงไม่
ยอมรับไว้ แต่นางก็บันดาลให้จานนท์ถึงฝั่งโดยปลอดภัย จานนท์สูญเสีย
ทรัพย์สินทุกอย่างจากเหตุเรือล่มครั้งนั้นได้เดินทางไปอาศัยอยู่กับเพื่อน
แต่พอรู้ว่าเพื่อนบูชานางมนสาเทวีก็ออกจากบ้านของเพื่อนไปโดย
ไม่ได้ร่ำลา ชีวิตพเนจรของจานนท์ลำบากมาก อดอยากจนถึงต้องกินกาบ
กล้วยเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆหนึ่ง
แม้ว่านางมนสาเทวีจะเสด็จมาสู่ภาคพื้นดิน แต่ก็ยังมีฤทธิ์สามารถ
ขึ้นสวรรค์เหมือนเดิมทุกประการ วันหนึ่งนางไปเยี่ยมเพื่อนที่เป็นชาว
สวรรค์ด้วยกัน เพื่อนทั้ง 2 ของนางมนสาเทวีบอกว่าจะลงไปจุติเพื่อช่วย
ให้การกิจของนางได้สำเร็จ คนหนึ่งจะไปถือกำเนิดเป็นบุตรชายของ
จานนท์ชื่อ ลักษมินทร อีกคนหนึ่งจะไปเกิดเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อ
ค้าของจานนท์ชื่อว่า นาง เพลุหา และเมื่อทั้ง 2 เติบโตจะได้แต่งงานกัน
โหรทำนายไว้ว่า วันแต่งงาน ลักษมินทรจะถูกงูกัดตาย ดังนั้นเพื่อความ
ไม่ประมาทจานนท์ได้สั่งให้ช่างสร้างบ้านขึ้นหลังหนึ่งซึ่งไม่มีรูในบ้านเลย แต่ช่างถูกนางมนสาเทวีข่มขู่ จึงได้สร้างบ้านเปิดรูเท่าเส้นผมไว้และเอาผง
ถ่านอุดไว้ พร้อมกันนั้นได้กำชับเวรยามตรวจตราเหนียวแน่นและโรยผง
พิษหมายเด็ดชีพงูไว้รอบๆบริเวณบ้าน และด้วยรูนี้เองทำให้งูบริวารของ
นางมนสาเทวีแทรกเข้ามาในบ้านหลังดังกล่าว ขณะที่ ลักษมินทรหลับอยู่
นางเพลุหา เห็นงูเข้ามาในห้องก็ทำทีเป็นป้อนนมและอาหารให้กับงู เมื่องู
เผลอก็เลื่อนบ่วงกระตุกงูขึ้นแขวนกับขื่อคา 2-3ตัวแต่นางโดนพิษงูเข้าไป
เลยทำให้นัยน์ตามัวเลยหลับไปในที่สุด ดังนั้นลักษมินทรก็เลยถูกงูเด็ดชีพ
ตามที่โหรทำนายไว้ทุกอย่าง
คนที่ถูกงูกัดตายนั้นไม่นิยมเผา แต่นิยมเอาใส่แพลอยน้ำไป และด้วย
ความที่นางรักลักษมินทรมาก นางตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ในแพกับสามีด้วย ไม่ว่าญาติผู้ใหญ่ เพื่่อนฝูง พี่น้องจะทัดทานเท่าไรก็ไม่เป็นผล
ก่อนที่แพจะออกจากฝั่ง นางได้สั่งให้แม่จุดตะเกียงขึ้น
ที่ห้องพักและปิดประตูห้องให้มิดชิด ตราปใดที่ตะเกียงยังสว่างอยู่ย่อมมี
ความหวังว่า ลักษมินทรจะฟื้นขึ้นมาแพศพของลักษมินทรล่องลอยไป
ตามลำน้ำนานถึง 6 เดือน โดยที่สภาพศพไม่เน่า
เปื่อย วันหนึ่งแพได้มาจอดที่ริมตลิ่งแห่งหนึ่ง หล่อนเห็นสาวคนหนึ่งกำลัง
ซักผ้า แต่ลูกชายร้องไห้งอแงห้ามปรามเท่าไรก็ไม่ยอมหยุด นางก็เลยเค้น
คอลูกชายจนแน่นิ่งและหมดสติไป นางไม่ได้แสดงอาการสะทกสะท้านใดๆจนกระ
ทั่งงานเสร็จ นางได้เอาน้ำพรมลงบนตัวลูกชายและพร่ำบ่นมนตราไม่กี่คำ
ลูกของนางก็ฟื้นได้ดังเดิมนางที่นั่งซักผ้าริมตลิ่งผู้นี้ หาใช่ใครอื่นแต่เป็นนางเนตา
ลูกสาวอีกคนหนึ่งของพระศิวะเจ้าที่ลงสวรรค์มาพร้อมกับนางมนสาเทวีนั่นเอง
นางเพลุหาเห็นเช่นนั้นก็อ้อนวอนขอให้นางช่วยชุบชีวิตสามี นางเนตามีข้อแม้
ว่านางเพลุหาต้องขึ้นสวรรค์ไปพร้อมกับตนและรำถวายให้กับทวยเทพชมก่อนจน
ทวยเทพประทานพรให้นางถึงจะชุบชีวิตสามีให้นางได้ ด้วยความที่อดีตชาติของ
นางเพลุหาเป็นนางอัปสรมาก่อนจึงรำได้อย่างงดงามเป็นที่จับจิตจับใจของทวยเทพ
ฝ่ายทวยเทพได้ประทานพรให้ แต่นางมนสาทวีไม่ยอมบอกว่านางเพลุหาต้องไป
เปลี่ยนความคิดให้จานนท์มานับถือนางเสียก่อน ดังนั้นนางเพลุหาจึงต้องกลับ
จำปากนครเพื่อไปบอกกับพ่อสามีตน ในที่สุดจานนท์ก็ยอมบูชานางมนสาเทวี
อย่างเสียมิได้ด้วยตำนานนี้ทำให้เกิดความเชื่ออย่างหนึ่งที่ติดมาจนถึงทุกวันนี้คือ
การใช้มือซ้ายในการถวายบูชานางมนสาเทวี เพราะมือขวาของจานนท์นั้นใช้
ถวายและบูชาพระศิวะและพระนางปราวตีเท่านั้นขณะเดียวกันก็ใช้มือซ้ายโยนดอกไม้
ถวายของบูชากับนางมนสาเทวีอย่างเสียมิได้โดยที่สายตาก็ยังไม่เหลือบมองแม้
แต่เทวรูปของนางมนสาเทวี

 

ขอ เอารูปไปนะคับ เห็นแล้วขนลุกคับ

(มีคนเคยบอก ถ้าอยากรู้ จะไม่รู้ ผมก็ งง)

ขอบคุนสำหรับรูปคับ

 

มีบางท่านบอกว่า องค์พระนารายณ์ กับ พระพรหม จริงๆแล้วเป็นองค์เดียวกัน ท่านผู้รู้ช่วย ไขความกระจ่างด้วยค่ะ

 

ขอขอบคุณคุณกุหลาบขาว ที่นำเกร็ดความรู้ดีๆ มีประโยชน์มาเผยแพร่สู่กันครับ
เป็นประวัติที่หาได้ยากมาก เพิ่งจะทราบจากคุณกุหลาบขาวนี้เอง

ขออนุโมทนาครับ

 

พี่MOUNTAIN และ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1821305", true); </SCRIPT> คุณ ไวท์โรส ผมขอร่วมเล่าเรื่องที่ได้ยินมาด้วยคนนะครับ จะผิดจะถูก ก็อย่าว่ากันนะครับ...

คือ ที่ผมได้ยินมาเป็นอย่างนี้ครับ นางมนสาเทวี นะมีหลายชื่อครับ ผมจำไม่ได้แล้ว และเท่าที่รับฟังมา นางมีพี่น้องด้วยกัน 3 ...คือ อนันตนาคราช พี่ใหญ่ วาสุกินาคาราช เป็นพี่รอง และนางเป็นสุดท้าย ครับ ส่วนบิดาของทั้งสาม ก็เป็นสร้อยพระศอของพระศิวะครับ(หมายถึง...งู...นะครับ) ผมจำได้แค่นี้ครับ...ที่ได้ฟังมา...ท่านบอกว่าให้จดจำเอา ผมไม่ได้จด และไม่ได้อัดเทปไว้เสียดายครับ เพราะนานๆถึงจะเล่า แล้วก็สนุกน่าติดตาม ท่านยังเล่าถึง บาตาลทั้ง 7 ให้ฟังด้วยนิดหน่อยครับ ...

.........ธรรมรักษา(อุดร).........

 

ขออนุโมทนาครับ
ตามตำนาน ทางเทพอินเดีย ก็มีมาหลายทางครับ เป็นเกร็ดความรู้เพิ่มเติม
ทำให้มีความรู้ได้หลากหลายดีครับ

 

;aa37

 

หลวงปู่ทวด วัดแค เกาะลอย (วัดราชานุวาส) อยุธยา