ค้านตั้งสำนักสงฆ์"พระเกย์-ตุ๊ด"
ชี้พระธรรมวินัยกำหนดชัดห้ามบวช วธ.สอบรูป"พระกอดผู้ชาย-เล่นน้ำ"
เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยกรณีที่พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เสนอให้จัดตั้งสำนักสงฆ์โดยเฉพาะให้กับพระสงฆ์ และสามเณร ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เพื่อป้องกันประชาชนขาดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จนไม่มีใครอยากบวชเรียนว่า โดยปกติคนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศไม่สามารถบวชเป็นพระสงฆ์ได้อยู่แล้ว เพราะมีระเบียบ และข้อกำหนดไว้ชัดเจน อีกทั้งหากพบว่าผู้ที่มาบวชเป็นพะสงฆ์นั้นมีจิตใจ และพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศก็จะต้องถูกจับสึกทันที ทั้งนี้ ตนจะไม่นำเรื่องนี้เข้าไปหารือในที่ประชุมมหาเถรสมาคมในวันที่ 30 เมษายน เนื่องจากมีความเป็นไปได้ยากมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศก็ยังสามารถถือศีล ปฏิบัติธรรมได้ตามปกติ แต่ไม่สมควรที่จะมาเป็นนักบวชเท่านั้นเอง
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>
ภาพพระกอดผู้ชายที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง และ (ภาพข้างล่าง) พระเล่นน้ำตกกับหนุ่มๆ ซึ่งศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียน เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับสมณเพศ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
นายเสถียร วิพรมหา เลขาธิการเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนพิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของพระพยอม เพราะการจะแยกพระภิกษุ และสามเณรที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศออกไปตั้งเป็นสำนักสงฆ์โดยเฉพาะ จะยิ่งเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศมาบวชเป็นพระสงฆ์ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาอย่างไม่จบสิ้น เพราะผู้ที่จะบวชเป็นพระสงฆ์นั้น จะต้องมีคุณสมบัติตามที่พระธรรมวินัยกำหนด คือต้องอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี มีศรัทธาที่จะบวชในพุทธศาสนา ไม่เคยทำความผิดเสียหายต่อแผ่นดิน ไม่มีคดีความทางอาญา และแพ่ง และมีความประพฤติดี สิ่งสำคัญคือต้องมีจิตใจปกติ ซึ่งกำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้ที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศนั้น ไม่สามารถบวชเป็นพระสงฆ์ได้
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
"อย่างไรก็ตาม อยากให้เจ้าอาวาสตะหนักกับการคัดเลือก หรืออนุญาตให้คนเข้ามาบวชมากกว่านี้ โดยให้เจ้าอาวาสให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มงวดก่อนอนุญาต ซึ่งจะช่วยคัดกรองคนที่มาบวชได้อย่างดี รวมทั้งคนที่จะมาขอบวชต้องยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิด ดังนั้น การแก้ปัญหาควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ ทั้งนี้ การห้ามคนที่เป็นเกย์ หรือตุ๊ดบวชนั้น ไม่ใช่เป็นการปิดกั้นเสรีภาพแต่อย่างใด แต่เป็นการยึดหลักตามพระวินัย จึงไม่อยากให้คิดว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ" นายเสถียรกล่าว
น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจากเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมว่ามีภาพพระสงฆ์กำลังยืนกอดกับผู้ชายที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง และภาพขณะกำลังเล่นน้ำตก ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ตามอินเตอร์เน็ตไปทั่ว ซึ่งเป็นกิริยาท่าทางที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ขัดต่อสมณเพศ และภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ ขณะนี้ตนสั่งให้เครือข่ายเฝ้าระวังฯ ตรวจสอบว่าบุคคลกลุ่มดังกล่าวว่าใช่พระสงฆ์หรือไม่ และอยู่วัดไหน ทั้งนี้ ตนจะประสานงานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้ช่วยตรวจสอบว่ากลุ่มคนที่อยู่ภาพใช่พระสงฆ์หรือไม่
วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11007
ค้านตั้งสำนักสงฆ์"พระเกย์-ตุ๊ด"
ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย อธิมุตโต, 29 เมษายน 2008.
หน้า 1 ของ 2
-
เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ
เปิดดูไฟล์ 315526
-
จับสึก แล้วตัดเอ็นดีกว่ามั่งจ๊ะ
อย่ามาทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสียเลยคุณ -
มาบวชเพราะไม่รู้จะทำมาหากินอย่างไร มาบวชเพราะมีที่อยู่สบาย พ่อแม่จับมาบวชเพราะเอือมระอาในความประพฤติ หรือไม่มีเงินทองที่จะเลี้ยงดู อย่ามาบวชให้ศาสนามัวหมองเลยจะเป็นกรรมติดตัวเปล่าๆ ชาตินี้ก็อาภับแล้วยังจะก่ออเวจีให้แก่ตนในชาติหน้าอีกหรือ หากมีศรัทธาในการปฏิบัติจริงก็ไปบวชเนกขัมมะซะยังจะก่อเกิดประโยชน์แก่ตนมากกว่า
-
ตัดตอนเสียก่อนเถอะครับ ศาสนาพุทธจะได้ไม่เสื่อมไปกว่านี้ ภาพที่เห็นมันอุบาทว์สิ้นดี
-
ใจหาย..พระพุทธทำนายของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เคยกล่าวไว้ไม่ผิดบิดเบือนเลยแม้แต่น้อย และต่อไปอีก2500 ปี การนุ่งห่มจีวรของพระสงฆ์จะเหลือแต่เพียงการนำจีวรมาทัดหู เพื่อบ่งบอกความเป็นสมณะเพศ
การที่พวกเราได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่งและเป็นสิ่งที่มีค่ามากมายมหาศาลเพราะกว่าที่พระพุทธองค์จะสามารถหาหนทางดับทุกข์ได้และตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ กว่าจะประกาศศาสนาให้อยู่ได้จนมาถึงปัจจุบันนี้ พระองค์ท่านทรงเสียสละเพื่อเราชาวพุทธมากมายเหลือเกิน หากท่าน(ผู้อยู่ในรูปภาพด้านบน)ได้อ่านพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์บ้างท่านก็จะทราบว่าพระเมตตาธรรมของพระองค์ท่านนั้นยิ่งใหญ่กว่ามหาจักรวาล
...ไม่ช่วยทำนุบำรุงรักษก็ขออย่ามาทำลาย....
ข้าพเจ้าขออารธณาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงช่วยดลบันดาลให้พวกท่านทั้งหลายในภาพได้มีจิตรสำนึกกลับตัวกลับใจเดินไปในทางที่ถูกที่ควร ด้วยเถิด อย่าให้เสียชาติเกิดเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายชาติพระ เลย สาธุ -
เห็นด้วย
-
รีบๆควบคุมเถอะครับ ผมเองก็ทนดูผู้ที่เข้ามาบวชแล้วแสดงอาการอย่างนี้ไม่ได้ครับ
รีบทำอะไรให้มันจริงจังเสียที ก่อนที่พุทธศาสนาจะเสื่อมลงไปมากกว่านี้ -
อื่ม...แบบนี้บวชเข้ามาได้งัย
-
พิจารณาตัวเองก่อนจะบวชว่าเหมาะสมหรือเปล่า ผ้าเหลืองคือ ธงชัยของพระอรหันต์ ควรไตร่ตรองก่อนที่จะห่มผ้าเหลือง ว่าบวชเพื่ออะไร จะได้เตือนใจในการที่จะประพฤติปฏิบัติ
-
บวชแบบนี้จับสึกเลยด่วนมากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
อนิจัง ทุกขัง อนัตตา
-
คิดไปได้ จัดตั้งสำนักสงฆ์สำหรับคนเหล่านี้ แค่นี้ศาสนาก็มัวหมองแย่แล้ว
-
เจออย่างนี้ที่ไหน จับสึกที่นั่น ครับ
-
หยุดกระทำผิดพระธรรมวินัยได้แล้ว
-
ค้่านตั้งสำนักสงฆ์"พระเกย์-ตุ๊ด
จากเรื่อง มิลินท์ ปัญหา
(พระเจ้ามิลินท์ คือ พระเจ้าเมนันเดอร์ ซึ่งเป็นกษัตริย์ เชื้อสายกรีก ที่มาปกครอง อินเดียอยู่ระยะหนึ่ง)
พระเจ้ามิลินท์ :
ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน คนทุกคนถ้า ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแล้ว ย่อมได้บรรลุมรรคผล นิพพานด้วยกันทั้งนั้นหรือ
พระนาคเสน :
ทูลตอบว่า ขอถวายพระพร ไม่ทั้งนั้นมีบางจำพวกซึ่งแม้จะปฏิบัติดีสักเท่าไร ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้บรรลุ
พระเจ้ามิลินท์ : พวกนั้นได้แก่ใครบ้าง
พระนาคเสน : ขอถวายพระพร ได้แก่คนเหล่านี้ คือ -
(๑) คนมิจฉาทิฐิ
(๒) คนกระทำอนันตริยกรรม ๕
ฆ่ามารดา ๑,
ฆ่าบิดา ๑,
ฆ่าพระอรหันต์ ๑,
ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงห้อพระโลหิต ๑,
ทำสงฆ์ให้แตกจากกัน ๑,
แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง
(๓) คนปลอมเพศเป็นพระภิกษุ
(๔) พระภิกษุกลับไปถือลัทธิอันผิด
(๕) คนประทุษร้ายนางภิกษุณี
(๖) พระภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วไม่ได้อยู่กรรม
*** (๗) คนบัณเฑาะว์ (กะเทย)
*** (๘) คนอุภโตพยัญชนก (คนปรากฏทั้ง ๒ เพศ )
(๙) สัตว์เดียรฉาน
(๑๐) เปรต
(๑๑) เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ
พระเจ้ามิลินท์ :
สิบพวกข้างต้นนั้น ไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพานก็ตามที แต่เหตุไฉน เด็กอายุต่ำว่า ๗ ขวบ จึงไม่ได้ บรรลุมรรคผล นิพพานเล่า
พระนาคเสน :
เหตุว่าเด็กอายุเพียง เท่านั้น จิตยังไม่มีแนว ความคิดที่จะให้เกิด ความรู้สึกว่า ผลของความดี และความชั่ว มีอยู่อย่างไร เมื่อไม่รู้จักผล ก็ไม่เกิดความคิด ที่จะให้สาวไปหา เหตุแห่งผลนั้น ๆ ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้น กำลังใจ ก็มีไม่พอ ที่จะให้ก้าวไปหามรรคผล นิพพานได้
พระเจ้ามิลินท์ :
เธอจงหาตัวอย่างมาเปรียบให้ฟัง
พระนาคเสน :
ภูเขาสิเนรุ บุรุษพึงพยายามให้กำลังแรงของตนยกเอามา จะไหวหรือไม่
พระเจ้ามิลินท์ :
ภูเขาใครจะไปยกไหวเล่าเธอ
พระนาคเสน :
ขอถวายพระพร นั่นเป็นเพราะอะไร
พระเจ้ามิลินท์ :
เป็นเพราะกำลังมีไม่พอกันน้ำหนักแห่งภูเขา
พระนาคเสน :
นั่นแลฉันใด นี่ก็ฉันนั้น เหมือนกันการที่เด็กอายุต่ำว่า ๗ ขวบไม่ได้บรรลุมรรคผล นิพพานนั้น ก็เพราะว่า กำลังใจมีไม่พอ กับน้ำหนักแห่ง มรรคผล นิพพาน เช่นเดียวกันแล ขอถวายพระพร พระโสดาปัตติผล สกทาคามิผลอนาคามิผล อรหัตตผล ทั้ง ๔ อย่างนี้ กับพระนิพพาน เป็นธรรมที่ เผล็ดมาจากเหตุ คือมรรค ๔ ก็เมื่อเด็กอาย ุเพียงนั้น ยังไม่มีความคิด ที่จะหยั่งลง ไปสาวหาผลได้ ดังนั้นแล้ว ไฉนเลยจะมีโอกาส ได้บรรลุมรรคผล นิพพาน ซึ่งเป็นเหต ุและผลของกันได้เล่า ถึงว่าจะได้อบรมบารมีมาแก่กล้าแล้ว และได้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเพียงไร ก็ตาม ก็ย่อมเป็นไปไม่ได
้
พระเจ้ามิลินท์ : เธอว่านี้ชอบแล้ว
จบเอกัจจาเนกัจจานํธัมมาภิสมยปัญหา
+++++++++++++++++++++++
เมื่อไป นิพาน ไม่ได้จะ บวช ทำมัย กันครับ
-
นรกอยู่บนหัวกันแล้ว พระพุทธองค์ทรงเมตตาให้พระธรรมที่ดี สอนให้เราเป็นคนที่เป็นคนอย่างเต็มตัวพระ มีหน้าที่ที่จะต้องเผยเผ่พระธรรม เพื่อให้คนที่ยังไม่ได้เห็นแสงสว่างนำทางได้เห็นแล้วเดินไปอย่างถูกทาง แต่นี่พระธรรมก็ไม่มีในใจ แถมยังเป็นตัวอย่างที่แย่ๆไม่ได้เห็นนรกที่รออยู่หรือ กรุณาออกมาให้หมดอย่างอยู่ในผ้าเหลือง แล้วหลอกคนอีกเลย หรือจะต้องรอให้นรกมาอยู่ตรงหน้าก่อนจะได้กระโดดลงเลย เวรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร
-
ไม่ว่าจะเป็นผู้มีลักษณะเบี่ยงเบน หรือไม่เบี่ยงเบน อย่างไรก็ตาม เมื่อได้บวชเป็นพระภิกษุแล้ว ก็คือเกิดในเพศใหม่คือสมณะเพศ ต้องสำรวมอยู่ในศีล ดังนั้นถ้าใครบวชเข้าไปแล้วไม่สำรวมในศีล ประพฤติตนไม่เหมาะก็เอาออกไปเสียให้หมด และระงับการบวชกลับเข้าไปใหม่เสีย ถือว่ามีโอกาสไปสวรรค์นิพพานแล้วไม่เอา คิดแต่จะหากินกอบโกยตามกิเลศของตนอยู่ถึงแม้จะอ้างว่ากลับตัวได้ในภายหลัง ก็ขอให้ถือศีลเป็นฆราวาสไปไม่ต้องบวชได้อีก จึงไม่จำเป็นต้องไปตั้งวัดอะไรให้แปลกแยกเดี๋ยวไปเข้าทำสงฆ์แตกแยก ก็บาปหนักเลย ถ้าคิดจะบวชต้องสำรวมในศีลให้ได้ถ้าไม่ได้จะไปตั้งวัดให้พวกมันทำไม เพราะไม่ใช่พระภิกษุแค่คนใส่ผ้าเลียนแบบพระเท่านั้น
-
เวรกรรม
เฮ้อ...
ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็น แล้วจะไปบวชทำไมครับ พี่น้องครับ
-.-" -
พวกซึ่งแม้จะปฏิบัติดีสักเท่าไร ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้บรรลุ
(๑) คนมิจฉาทิฐิ
(๒) คนกระทำอนันตริยกรรม ๕
ฆ่ามารดา ๑,
ฆ่าบิดา ๑,
ฆ่าพระอรหันต์ ๑,
ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงห้อพระโลหิต ๑,
ทำสงฆ์ให้แตกจากกัน ๑,
แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง
(๓) คนปลอมเพศเป็นพระภิกษุ
(๔) พระภิกษุกลับไปถือลัทธิอันผิด
(๕) คนประทุษร้ายนางภิกษุณี
(๖) พระภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้วไม่ได้อยู่กรรม
*** (๗) คนบัณเฑาะว์ (กะเทย)
*** (๘) คนอุภโตพยัญชนก (คนปรากฏทั้ง ๒ เพศ )
(๙) สัตว์เดียรฉาน
(๑๐) เปรต
(๑๑) เด็กอายุต่ำกว่า ๗ ขวบ
หน้า 1 ของ 2