"จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว..."

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย CopperOxide, 6 มิถุนายน 2011.

  1. warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    อืม น่าคิดนะ 1 นารีเนี่ย เตรียมตัวกันไว้เถอะพวกเรา อะไรก้อเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
     
  2. ธงสามสี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2011
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +72

    จาก http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680

    บทกลอนที่มีผู้อ้างว่าเป็น "คำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ" มีดังนี้

    ๐ คำทำนายที่เคยมีมาช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
    ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
    พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาชนเต็มพระนคร
    ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
    ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
    ชาวประชาจะปีติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
    จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
    จะมีการต่อตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
    คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
    ข้าราชการตงฉินถูกประณาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
    เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
    ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนี
    ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
    พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
    เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย
    แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
    เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
    ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
    ทั้งพฤฒาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
    ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
    คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อทำท่าดัง
    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
    คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
    ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ


    จึงขอแจ้งให้ทราบว่า คำทำนายบทกลอนทั้งหมดนี้ ไม่ใช่คำทำนายของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ทั้งสิ้น
     
  3. CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    สงสัยบางท่านไม่ได้อ่าน ... ความคิดเห็นหลังจากนั้น ถัดๆมา
     
  4. ควายเผือก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +48
  5. ajmin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +628
    ขอใช้ความสามารถทางกลอนและทางคำทำนายมาให้ทุกท่านได้อ่านกันหน่อยนะครับ

    เกริ่นนิดนึงว่า ใครจะไปอ้างอิงใครถึงใคร อันนี้เราต้องรอให้มันผ่านไปก่อนครับ ถึงจะมาบอกได้ว่าใครเป็นใครตรงกับอะไรในคำทำนาย เพราะบางครั้ง คำทำนายนั้นมันจะส่อออกมา2แง่2ง่ามครับ เราไม่มีทางแน่ใจหรอกครับ เราได้แต่ระวังเท่านั้น ส่วนคำทำนายนั้นจะสื่อความและถอดออกมาได้ดังนี้ครับ
    ข้าราชการตงฉินถูกประณาม
    สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
    เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
    โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

    อันนี้คือว่า คนดีจะถูกใส่ร้าย และจะมีคนตามล่า(ลากไส้) ทุกอย่างจะยุ่งเหยิงโกลาหลไปหมด

    ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว
    ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
    ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
    เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน

    ทุกคนนั้นจะไม่รู้ว่าอะไรคือดี อะไรคือชั่ว อะไรถูก อะไรผิด จนบางครั้งก็ไม่กล้าทำและหลบซ่อนตัวเลยครับ

    แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
    เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
    เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
    เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

    ในนี้ใช้คำว่าแผ่นดิน แต่จริงๆอาจหมายถึงผู้คนและประชาชนในชาติจะแตกแยกกัน จะไม่มีใครหังใคร เกิดความทุกข์มากขึ้น มากระต่อสู่ปราบการจลาจลจนมีคนล้มตายไปและสร้างความโศกเศร้าให้คนทั้งหมดทั้ง2ฝ่าย

    ความระทมจะถมทับนับเทวศ
    ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
    คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
    ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

    ความทุกข์เศร้าจะทับถมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนถูกปิดตาให้มืดบอด(ปิดจากความจริง) คนที่ดีไม่สามารถทำอะไรได้ คนชั่วจะได้อำนาจและความเป็นใหญ่จนสมแก่ใจ

    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
    ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
    สายน้ำหลั่งกรากวหวาดเสียวใจ
    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
    หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
    เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา


    คำว่า ขี่ม้าขาว นี้ จริงๆแล้วมันจะหมายถึงผู้ที่มาช่วยเหลือ แต่ว่า มาจากไหนไม่รู้ครับ คนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่ไม่เคยมีใครรู้จักหรือให้ความสำคัญมาก่อน แล้วจึงออกมาครับ
    ส่วนควงคทานี้ หมายถึงว่า เป็นการนำครับ เพราะคทา สามารถหมายถึงการนำได้ การนำนี้อาจหมายถึง นำทาง หรือเป็นผู้นำครับ
    ดาวนั้น คือสิ่งที่สูง และมีความหมายในเชิงว่าเป็นจุดที่สูงที่สูดครับ
    ผู้ปกครองเป็นหญิง คือตามนั้นแหละครับ หากแต่ว่าจะเป็นการมาขยายความจากบาทก่อนหน้าอีกทีหนึ่ง
    สายน้ำหลังกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ คือว่า อะไรๆน้ัน จะเกิดขึ้นเร็วมากครับ จะเร็วเหมือนสายน้พที่กรากเชี่ยว ไม่ได้หมายถึงว่าจะมีน้ำท่วมนะครับ
    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ คือว่า ความศิวิไลซ์หรือความรุ่งเรืองนั้น ก็เกิดขึ้นและมีขึ้น ซึ่งมันจะเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่ไม่ดีหนะครับ ในทำนองที่ว่าเป็นยุคมืด และเมื่อยุคมืดผ่านไป ทุกอย่างจะดีขึ้น ในทำนองที่ว่า เมื่อพายุผ่านไปสายรุ้งจะบังเกิด อะไรทำนองนี้อะครับ
    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา บาทนี้ ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายนะครับ แต่อาจจะหมายถึงเป็นการเปลี่ยนยุคและเปลี่ยนความคิดของคน คนหลุ่มมากจะเป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศ มิใช่คนหมู่น้อยแค่ไม่กี่คน และจะเป็นยุคของคนทุกๆคนครับ
    คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
    แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
    ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
    ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ...

    คือว่าอันนี้หมายถึง คนชั่วจะหมดไป ประเทศชาติจะไม่มีปัญหาความขัดแย้งอะไรอีก และจะผ่านวิกฤตทั้งหมดไปได้ด้วยความหวังความเชื่อที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และฟ้าศรีทองผ่องอำไพ คือว่า ประเทศชาติจะรุ่งเรืองครับ

    อันนี้คือยกมาแค่บางส่วนที่เห็นว่ามันสำคัญนะครับ มีอีกนิดๆหน่อยๆที่กล่าวถึงเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติเหมือนกัน และช่วงแรกนั้น ก็คือว่าจะมีความรุ่งเรืองในประเทศที่กล่าวถึงครับ ส่วนกาขาวนี้น่าจะหมายถึงฝรั่งนะครับ เพราะว่ามันต่อด้วยว่าเป็นประชา ก็คือกลืนเป็นชาวประเทศเดียวกันครับ
    แค่นี้ก่อนนะครับ มีอะไรสงสัยถามได้เลยครับ
     
  6. numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,156
    สงสัยจะพลิกล๊อกกันน่าดู แบบว่าล๊อกถล่มไง
     
  7. สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    680
    ค่าพลัง:
    +603
    ปล่อยวางเถอะครับ มันคงเป็นตามกรรม ถ้าเราไปยึดติด เราก็ติดอยู่ในบ่วงนั้นด้วย .........
     
  8. organich สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +10
    คำแปลหนึ่งนารีขี่ม้าขาว

    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว:>> หนึ่งสตรีคนนี้ จะได้รับการเกื้อหนุนประคับประคอง
    (ขี่)จากสิ่งซึ่งหมายถึงความรวดเร็วฉับไวและมีพลัง (ม้า)และเปี่ยมล้นไปด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ จริงใจ (ขาว) ซึ่งจะหมายถึง สตรีผู้นี้จะได้รับการเกื้อหนุนประคับประคองจากกลุ่มผู้ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ และทำงานเป็นทีมด้วยความรวดเร็ว อาจเป็นกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมในทางศาสนาที่มีศรัทธาแรงกล้า หรือกลุ่มของนักบวช ผู้ทรงศีล และผลักดันเธอด้วยใจอาสา
    ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง:>> สตรีผู้นี้จะได้รับโอกาส หรือ อำนาจจากผู้คนจำนวนมาก (คทา) และมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามความต้องการของผู้มอบหมาย ในสิ่งที่สูง และแสนไกลเกินกว่าที่ผู้คนจะเอื้อมไปถึง ซึ่งเธอก็ไม่น่าที่จะไปถึงได้ (มุ่งสู่ดาว) แต่เธอจำเป็นต้องไปให้ถึงเพื่อความประสงค์ของผู้ที่รอคอยและมอบภาระกิจให้แก่เธอ (สร้างความหวัง)
     
  9. organich สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +10
    คำแปลหนึ่งนารีขี่ม้าขาว (2)

    ผู้ปกครองจะเป็นหญิง:>> เป็นเรื่องต่อจากท่อนที่แล้ว ภาระกิจที่หนึ่งสตรีนั้นต้องก้าวมาให้ถึง คือการเป็นผู้ปกครอง แต่อาจไม่ใช่ตัวเธอเอง หรือ อาจเป็นตัวเธอเองก็ได้ แต่ในที่สุด ผู้ปกครองจะเป็นสตรี
    พึงระวังสายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ:>> บทนี้เป็นการเขียนคร่อมประโยค หากแปลตามโคลงกลอน อาจกลายเป็นต้องระวังผู้ปกครองที่เป็นหญิง แต่ความหมายในโคลงกลอนนี้คือ "ผู้ปกครองนี้จะเป็นสตรี และเธอจะเป็นประหนึ่งเรือลำน้อย ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ที่หลั่งไหลจากห้วงต้นน้ำที่สูงและไกล ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต้องหวาดเสียวว่าเรือลำนี้ต้องล่ม" คำแปลท่อนนี้คือ...สตรีผู้นี้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด กับแรงเสียดทาน อุปสรรค มากมาย นานับประการที่ถาโถมเข้าใส่เธอ จนทำให้เหล่าผู้ที่มอบหมายภาระอันยิ่งใหญ่ให้กับเธอ ต้องนั่งสวดมนต์ภาวนา ให้เธอเอาชนะอุปสรรคนี้ให้จงใจ ด้วยใจระทึก จดจ่อ
     
  10. organich สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +10
    คำแปลหนึ่งนารีขี่ม้าขาว (3)

    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม:>> หากแปลตรงตัวแล้ว ก่อนเหตุการณ์ที่หนึ่งนารีจะเข้ามา ศิวิไลซ์ยังไม่บังเกิดในสยามใช่หรือไม่ หากใช่ คำว่าศิวิไลซ์ที่ว่านี้ ณ.ปัจจุบันยังไม่มีใครได้เห็นใช่หรือไม่...และเมื่อไรถึงจะ "ศิวิไลซ์"
    ......คำตอบคือ....
    หลังฝนคร้าม:>> ฝนในความหมายของโคลงกลอนคือ ต้นตอของการเกิดสายน้ำหลั่งกรากเชี่ยว คือผู้ที่เป็นต้นตอ หรือจุดกำเนิด หรือจุดรวมของอุปสรรคทั้งหลายที่ถาโถมเข้าหาเธอนั้นจะ "คร้าม"คือวิตกกังวล เกรงกลัวต่อพลังของเธอ
    ลั่นครืน:>> ยามใดที่ฝนใกล้หยุดตก จะเกิดเสียงคำรามจากท้องฟ้า เป็นการสั่งลา เพื่อคืนสู่สภาวะปรกติ ในบรรยากาศท้องฟ้าอันแจ่มใส
    ......คำแปล คือ ผู้ที่เป็นสาเหตุให้เธอต้อง พบกับอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงนั้น จะต้องยอมให้กับเธอ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่ายอมแพ้เธอ เพียงแต่ อยู่ในลักษณะที่ผู้มีอำนาจยอมหลีกทางให้ ประดุจเสียงคำรามของฟ้า
    เมื่อฝนใกล้จะหยุดตก แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งพลังอำนาจ อันน่าเกรงขามนั่นเอง
    จะยืนได้:>> เมื่อเธออยู่บนเรือลำน้อย ท่ามกลางดงพายุ และกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เธอทำได้เพียงนั่งจับขอบเรือ พร้อมกับคทาในมือ และพลังใจที่มุ่งมั่นเท่านั้น แต่เมื่อหลังฝนหยุด ฟ้าเปิด ทะเลสงบราบเรียบ เธอย่อมที่จะลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีองอาจ ประดุจชายชาตรี บนเรือลำน้อยที่นิ่งสนิทได้อย่างมั่นคง
     
  11. organich สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +10
    คำแปลหนึ่งนารีขี่ม้าขาว (4)

    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป:>> เมื่ออำนาจมืดที่สตรีผู้องอาจฝ่าฟันมาได้ การเมืองจะเปลี่ยนไป สิ่งที่ทำได้ยากเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้คือ การที่ต้องต่อสู้ แก้ไข หล่อหลอมความคิด ของคนหมู่มาก ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน (ล้างสมอง)เพราะผู้ที่ทำชั่วมากก็มี ทำชั่วน้อยก็มี ทำดีมากก็มี ทำดีน้อยก็มี ควรที่จะได้รับข้อมูลที่ดี เหมือนกัน (คือล้างสมองให้สะอาด และนำความคิดดีๆใส่เข้าไป)ให้ทำความดีกันเป็นทีม ทั้งประเทศ และในประเทศสยาม จะเกิดคนดี คิดดี พูดดี ทำดี เกิดขึ้นอีกอย่างมากมาย
    เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา:>> เมื่อคนทั้งประเทศคิดดี พูดดี ทำดี ไม่ว่าร้ายกัน ไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกัน กิเลสภายในถูกทำลายสิ้น ก็จะเกิด สังคมใหม่ ในแผ่นดินของคนเดิม ร่างกายเดิม ที่อยู่เดิม แต่ความคิดในการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อิจฉา ริษยา อาฆาต พยาบาท จองเวร หมดสิ้นไป เปรียบเสมือนได้เมืองใหม่ เป็นศักราชแห่งประชา
     
  12. organich สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +10
    คำแปลหนึ่งนารีขี่ม้าขาว (5)

    คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น:>> ไม่ได้หมายความว่าคนชั่วในแผ่นดิน จะถูกคนดี ลากอาวุธเข้าเข่นฆ่าจนราบคาบ การทำเช่นนั้น ไม่ได้หมายความว่าคนสั่งฆ่าคนชั่วจะเป็นคนดีเลย การปราบคนชั่วที่ราบคาบ คือปราบที่กิเลสในใจให้หมดไป หากคนชั่วถูกปราบกิเลสในใจได้ ด้วยการชี้นำ ชักชวน จากกัลยาณมิตรที่ดี จากองค์กรของศาสนา ย่อมทำให้คนชั่วถูกปราบราบคาบสิ้น เหลือไว้แต่เพียงคนดี ที่เคยชั่วเท่านั้น (เปรียบได้กับองคุลีมาร)
    แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา:>> เมื่อคนเลวไปอยู่ที่ใด ย่อมทำให้แผ่นดินเดือดได้ดั่งน้ำในเปลวไฟ แต่คนเลวที่กลับใจ แม้จะอยู่ร่วมกันบนแผ่นดินที่เคยเดือดเป็นไฟ ที่นั่นย่อมกลับกลายเป็นร่มเย็น
    ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ:>> การหล่อหลอมความคิดของคนในชาติ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยศรัทธาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นศรัทธาสูงสุด จะทำให้ประเทศชาติผ่านวิกฤติ
    ได้อย่างแท้จริง
    ในยามรุ่งอรุณ แสงสีทองผ่องอำไพ สาดแสงสอดส่องผ่านทิวเมฆอันอบอุ่น
    ส่องมายังหมู่สัตว์โลก ภาพแห่งการให้ที่บังเกิดมาแต่โบราณ สองมือของเหล่าอุบาสก อุบาสิกา ที่บรรจงยิบยื่นอาหารหวานคาว ขนมนมเนย ใส่ลงในบาตรของภิกษุผู้ทรงศีล ผู้ที่จะเป็นแหล่งเนื้อนาบุญ ให้การอบรมสั่งสอน กล่อมเกลาจิตใจผู้คน ให้เป็นมนุษย์ที่แท้จริง กำลังจะกลับมา....ในปริศนาของ ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ....การให้เท่านั้น ที่จะเกิดสันติภาพอย่างแท้จริง

    จบคำแปล ของคำทำนายปริศนา 6 บาทสุดท้าย
     
  13. หมอเป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +687
    ผมอาสาเอารถเก็บขยะมาเก็บตัวปลอมไปทิ้งเองครับ
     
  14. warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    1 นารี ม้าขาวขี่มา 555 ร่างทรงเห็นๆๆ
     
  15. นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    คำว่า ขัตติยะนารี

    ดูก็ออกว่าทุกวันนี้จะมีกี่คนเป็นที่ยอมรับของไพร่ฟ้า ประชาราษฏร์
    มีกี่คนที่ทำคุณประโยชน์ แก่แผ่นดินเสมอมา และมีกี่คนที่สละได้แม้แต่
    ความสะดวกสบาย (และความสวย) ซึ่งท่านเข้าใจและขั้นต่ำก็คงจะโสดาบันแล้วหละ

    แผ่นดินนี้จะยาวนานก็เมื่อ ได้ล้างทำความสะอาดใหญ่กันสักครั้งก่อน ครับท่าน
     
  16. Willam สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +18
    มี 1 นารี่ ขี่ รถเบนด์สีขาวมีไหม ครับ ฮ่าๆ
     
  17. bearboyn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +36
    ใครเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมานาน ก็น่าจะรู้ว่าฝ่ายไหนเขีียน อ้างอิงคำทำนายหลวงพ่อ เพื่อผลทางการเมือง พอดีมันลงล๊อคตามคำทำนาย

    จริงๆไม่จำเป็นที่จะไปทำนายตีความกันต่อเลย หลังจากอ่านกลอนบทแรก
     
  18. DarKKazE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +239

    หืมมม คำทำนายมีทีมาจากไหนหรือครับ

    เห็นถอดความกันสนุกเลยทีเดียว

    ปล.หวังว่าคงไม่ได้เก็บมาจากใบลานกลางป่านะครับ
     
  19. lynnicky สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +8
    ถึงจะไม่มียศศักดิ์ แต่ก็เป็นถึงว่าที่น้องสาวประธานาธิปดีเลยนะครับ
     
  20. 90 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +67
    รักก็เป็นทุกข์ เกลียดก็เป็นทุกข์ สังคมเราถึงมีคนป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน ธรรมะไม่ช่วยให้เบาลงเลยหรืออย่างไร
     

แชร์หน้านี้