ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๘๕ ณ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๕
ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๘๕
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ
จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.
หน้า 282 ของ 857
-
-
เอารูปพระที่ไปไหว้วันนี้มาฝากค่ะ ตอนแรกเอ๋อาศัยโหลดรูปจากเพื่อนในกระทู้นี้แหละค่ะ
เอาไปดูเพื่อฝึกจิตเกาะพระ วันนี้ให้แฟนไปถ่ายภาพให้ค่ะ เอามาแบ่งกันค่ะ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
คุณแนท ศิษย์ลูกพลัง และครูเกษ
จบกิจจิตเกาะพระเป็นจิตบุญ 85 ณ วันที่ 25 กันยายน 2555
คุณแนทอยู่ต่างประเทศ เข้ามาเรียนฝึกจิตเกาะพระ...ถึงเดือนไหมคะครูเกษ
ครูเกษท่านมีเมตตามาก
เห็นใครมีแววตาดีน่าสงสารท่านจับมาชำระจิตให้ใสสะอาด
เสริมทัพวิปัสสนาด้วยครูลูกพลัง
ส่วนครูพี่เพ็ญตามดูอยู่ห่าง ๆ
แต่เชื่อมือครูเกษว่า ณ ตอนนี้อินทรีย์ท่านแก่กล้าขึ้นมาก
จิตไวขึ้น สติไวขึ้น ปัญญาคมฉับๆๆ มากกว่าตอนจบกิจใหม่ ๆ ใช่ไหมคะครูเกษ
เท่าที่พี่เพ็ญตามดูสำเนาการบ้าน คุณแนทเป็นผู้ที่มีใจใฝ่ธรรมมาก
ท่านใส่ใจในการเรียนรู้ตามที่ครูสอน เก็บไม่มีตกหล่น
ท่านเป็นผู้มีปัญญาดีมีวิริยะสูงและมีความเพียรเป็นเลิศ
สุดท้ายสิ่งที่ท่านได้คือปัญญารู้แจ้งแทงตลอดในอวิชชา
ขอเชิญคุณแนทขึ้นรายงานตัวบนกระทู้กับพ่อภูด้วยค่า
และขอเชิญครูลูกพลังและครูเกษช่วยให้โอวาทธรรมสักเล็กน้อยค่ะ
สุดท้ายที่เพ็ญต้องขออภัยคุณครูทั้งสองท่านและคุณแนทที่ประกาศช้า
เนื่องจากการเข้าชมเวปพลังจิตเกิดขัดข้อง
ถึงลูกศิษย์ที่รักลูกท่านวันนี้ครูพี่เพ็ญของดตอบการบ้านสักวันนะคะ
กะว่าวันนี้จะนอนเร็วหน่อย
เอ่อ เพื่อนของท่านโอปอลโปรดรอก่อนนะ
วันนี้ครูเพ็ญสื่อสารไรไม่ค่อยรู้เรื่อง หมองมึน ฮ่าๆๆ
โปรดใจเย็น ๆ กันก่อนนะจ๊ะ
ขอเชิญท่านรับเมตตาจากครูจิตบุญบนกระทู้จิตพร้อมฯไปพลางก่อนนะ
ไม่รู้จะติดต่อทางไหน ขอฝากแปะไว้บนกระทู้หละกัน
เอ่ พี่ภู สงสัยเราต้องหาครูพิเศษสอนกลุ่มจิตพิเศษซะล่ะมั้ง^^ -
จิตคุณเอ๋ เริ่มนิ่งแล้วค่ะ ให้ถี่ๆต่อเนื่องนะคะ ขอเป็นกำลังใจค่ะ -
ขออนุโมทนา กับจิตบุญดวงที่ ๘๔,๘๕ และครูจิตบุญทุกท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
-
“...วิปัสสนากรรมฐาน เป็นกรรมฐานให้เกิดปัญญา
มันไม่มาก มีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ให้ว่าไปเถอะ เขี่ยมันออกไปเสีย..เรื่องม<wbr>ันไม่เที่ยง
อะไรเกิดขึ้นมา ก็สอบอารมณ์เจ้าของ
ดีนี่ก็ไม่แน่ ชั่วนี้ก็ไม่แน่นะ ได้มานี่ก็ไม่แน่นะ เสียไปนี่ก็ไม่แน่นะ
เขี่ยไปเขี่ยมาอย่างนี้ สักวันหนึ่งมันจะเกิดความแน<wbr>่ขึ้นมา
นี่แหละ...ทำให้ปัญญาเกิดแห<wbr>ละ ไม่ต้องไปเรียนอภิธรรม
ความเป็นจริงรู้เรื่องสิ่งท<wbr>ั้งหลายเหล่านี้..มันก็รู้เ<wbr>รื่องแล้ว
เราไม่ยึดมั่นถือมั่น เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เท่านี้จิตมันก็สงบ
เห็นชัดเข้าไป ท่านจึงว่าปฏิบัติไม่ผิด ถ้ารู้หลัก
เอาสองอย่างนี้เท่านั้น..มี<wbr>สติสัมปชัญญะ ปัญญา
เกิดเพราะว่าเราใช้คำบริกรร<wbr>มว่าอนิจจังทุกขังอนัตตา ว่ามันไม่แน่
ถ้าคุณทั้งหลายเห็นว่า..ไม่<wbr>แน่เกิดขึ้น คุณจะสงบ คุณจะสบาย
แล้วความโกรธเกิดขึ้น มาคุณจะทิ้งเดี๋ยวนั้น
ความรักชังเกิดขึ้น ก็จะทิ้งเดี๋ยวนั้นแหละ เพราะมันไม่แน่!
จิตของคุณก็สงบ..... เท่านั้น..”
หลวงปู่ชา สุภทฺโท -
สาธุ ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 85 ด้วยค่ะ
-
-
-
อ้าว ทำไมมาเบิ้ลได้ละเนี่ย!!!:eek:
-
วันนี้ตอนบ่ายที่บริษัทผม ฝนตก มืดครื้มยังกะวันฟ้าดับ
พอเย็นๆ ฟ้าสว่างสวยงามมาก
เดินกลับไปที่จอดรถไป มองท้องฟ้าไป ใจคิดว่าวันนี้น่าจะมีจิตยกนะ
เยี่ยมๆครับครูเกษ ..... ขอคารวะด้วยน้ำเต้าหู้ 3 ถุง 555555
ผมยังไม่ลืมนะ วันหลัวมาสไกป์ช่วยกันสอน ..... ว่าแต่วันทำยังไงครับ เคยได้ยินแต่เค้าคุยกัน ยังทำบ่เป็นเด้อๆๆๆๆๆๆ 555555555
จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม -
ช่วยดูๆเธอด้วย ผมใช้วิธีคุย LINE (ไทย - เยอรมัน)
เธอวางอาราณ์+กำลังใจได้ดีแล้ว ให้เธอทำให้ต่อเนื่องครับ จิตจะได้เดินเข้าวิปัสสนาญาณ
ช่วงนี้ผมนี่เอาทุกกระบวนท่าเลยครับพี่น้อง
ทั้งเมล์ ทั้งตัวต่อตัว ทั้งโทรศัพท์ ทั้งLINE 55555
มายังไงเราตั้งรับทุกกระบวนท่า .....
จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม -
ต่อเนื่องนะครับ ผมเอาใจช่วย
จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม -
รับทราบงับ ครูวิทย์ เดี๋ยวจุ๋มจะมีมาฝากอีก คนค่ะ....(deejai) -
http://www.webcam2home.com/webcam-skype-playing.htm -
ท่านพ่อให้โกอินเตอร์ด้วย อิอิ
ส่งมาเถอะครับ หน้าที่ของผมนี่แหละครับ ที่ต้องทำเพื่อทุกคนครับ
จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม -
ทำเป็นแล้วจะได้นัดฝั่งอเมริกา กะยุโรปสอนพร้อมกันเลยครับ
จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม -
อนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ ๘๕ด้วยคะ ขอให้ท่านเจริญธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
อนุโมทนาบุญกับจิตครูผู้สอนทุท่านคะ
ขอเป็นกำลังให้ผู้ปฎิบัติ,จิตบำเพ็ญ,และผู้อยู่ขอบๆกระทู้ สำเร็จในมรรคผลนิพพานชาตินี้ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
ปลื้มจบ๔๓ -
คุณแนท ลูกศิษย์ครูเกษ ส่วนครูแก่(ครูลูกพลัง+ครูเพ็ญ..555) ยืนดันให้อยู่ข้างหลัง..
เดี๋ยวรายละเอียดการฝึก ให้ครูเกษมาว่าก็แล้วกัน
เราขอเอาการบ้านฉบับสุดท้าย มาให้ทุกๆท่านอ่านเป็นธรรมาทานด้วยครับ
สวัสดีค่ะ ครูเกษ, ครูลูกพลัง และ คุณครู พี่เพ็ญ
ก่อนอี่น พี่แนท ต้องขอกล่าวคำว่า ขอบคุณในความมีน้ำใจของครู ทั้ง 3 ท่าน และคุณพี่ภู... ที่ครูได้เสียสละเวลามาแนะนำ สอนการปฏิบัติ... โดยเฉพาะ ครูเกษ ที่แนะนำให้พี่รู้จัก และ ปฏิบัติ จิตเกาะพระ ...
มาถึง วันนี้ ก็เป็นเวลาเกีอบเดีอน ...สิ่งที่พี่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ ผลที่พี่ได้รับจากการปฏิบัติ จิตเกาะพระ... เหมือนกับว่า ได้ปฏิบัติเพิ่มและพัฒนา การปฏิบัติธรรมที่พี่ได้ทำอยู่ก่อนแล้ว แต่ว่า ผลที่พี่รู้สึกได้ในตัวเองว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก ในช่วงระยะเวลาอันสั้น....( ก่อนนั้น มุ่งหวังการปฏิบัติ เอาแค่ให้ได้ พระโสดาบัน และ ให้มีพระนิพพาน เป็นอารมณ์ ก็พอ...)
สังโยชน์ 10 .ประการ ที่มีอยู่ประจำใจ ... ที่จะคอยเช็คตัวเองว่า ...กิเลสข้อไหนที่มันเบาบางลงบ้าง..... พี่ขอรายงานด้วยอารมณ์จิตที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ นะคะ ว่าพี่มั่นใจว่าพี่รู้สึกอย่างนั้น จริงๆ
1.สักกายทิษฐิ ...เมื่อก่อนรู้แค่ว่า เราต้องตาย ตายแน่ๆ ความตายคือ สิ่งที่เที่ยง เลี่ยงไม่ได้ แต่เดี่ยวนี้ รู้สึกชัดว่า เรา(จิต)ไม่มีในร่างกาย และ ร่างกายไม่มีในเรา ค่ะ... รู้ว่าเราแค่มาอาศัยมันอยู่เท่านั้น อยู่กับบ้านเช่าชั่วคราวที่แสนจะสกปรก จะทำความสะอาดมันก็ได้แต่ภายนอก แต่ข้างในมันสกปรกโสโครกมาก และความสกปรกนั้น ยังพยายามออกมาข้างนอก ให้เราได้เห็นได้สัมผัสอีก ...แต่ก็ต้องอยู่ค่ะ ...อยู่แบบทนอยู่ไงคะ...ตอนนี้คือรู้สึกเบื่อที่ต้องมีภาระกับไอ้ขันธ์ 5 นี้ ในทุกๆเรื่อง มองมันไม่ต่างจากวัตถุธาตุค่ะ..ว่ามันไม่ทรงตัว เสื่อมลง และก็พังในที่สุด ...จิตมองเห็นแล้ว และ ไม่เกาะค่ะ ...ไม่รู้สึกยินดีหรือให้ความสนใจอะไรกับมันมากเหมือนเมื่อก่อนค่ะ ...ก็ดูแลมันไปตามอัตตภาพ เพืยงเพื่อไม่ให้มันเพิ่มทุกข์มากไปกว่าทุกข์ที่มันต้องมีอยู่แล้วตามธรรมดาของมัน ...พอจิตพี่ยอมรับนะคะ จิตเบา สุข และเริ่มเข้าใจว่า... การทำหน้าที่ต่างๆ โดยที่ไม่เอาจิตไปยึดเกาะกับหน้าที่เป็นอย่างไร... เข้าใจแล้วค่ะ... เมื่อก่อนนี้ โอ๊ย เครียดไปหมดซะทุกเรื่อง
....ตอนนี้อารมณ์จิตพี่คิดอย่างนี้ทุกวัน และ เตือนตัวเองเสมอว่า เราจะทำให้ดีที่สุด ทำให้เหมือนกับว่า " วันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต " เราพร้อมมั้ย ที่จะปล่อยและวางทุกอย่างรอบตัวเรา และ พุ่งจิตเราไปนิพพานทันที ... จะบอกกับตัวเอง และเตรียมพร้อมเสมอ ไม่มีอะไรห่วงอีกแล้วค่ะ ...พร้อมทิ้งขันธ์ 5 ทันที ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างทันที พอคิดอย่างนี้ทีไร จิตเบา ลอย เหมือนเป็นอิสระ ตัวเบา เดิน ลอยๆ ทุกทีค่ะ ก็ไม่รู้นี่ค่ะ ว่าความตายจะมาตอนไหน ...เช้า สาย บ่าย เย็น หัวค่ำ กลางดึก เกิดได้เสมอ ค่ะ ... แต่ไม่กลัวค่ะ ..เพราะ ถ้าไม่มีความตายเกิดขึ้น เราก็ไปนิพพาน ไม่ได้ ต้องมีความตาย เกิดขึ้นก่อน ถึงจะไปได้ไงคะ ...กลับบ้านเราอย่างถาวรเสียที
2.วิจิกิจฉา ... ความลังเลสงสัยในคุณพระรัตนตรัย ไม่มีใตจิตเลยค่ะ.. . เพราะ ลงมือปฏิบัติแล้ว เห็นผลแจ้ง จริงตามนั้น ทุกประการที่ท่านตรัสสอนไว้หมด ... มีแต่ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่านอันหาประมาณมิได้ ที่มีต่อสัตว์โลก ที่ต้องการรื้อขนสัตว์โลก ทั้งหลาย ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ซาบซึ้งในความดีของพระองค์มากๆ ที่พระองค์ไม่ทอดทิ้งทุกคน โดยเฉพาะ พี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นลูกที่ดื้อ ของท่าน ก็เจอทุกข์ ... จนต้องวิ่งเข้ามาซบต่อหน้าพระพักตร์ แล้วตัดสินใจ ยึดพระรัตนตรัย เป็นที่พี่ง ไม่อยากเกิดเป็น มนุษย์ อีกแล้ว พอตัดสินใจอย่างนั้น ก็ เริ่มหาธรรมะ คำสั่งสอน ของพระองค์ทันที ลงมือปฏิบัติ เมือ 2 ปีทีแล้ว แต่ก็ไม่ต่อเนื่อง จนเมื่อมา ปฏิบัติ จิตเกาะพระ นี่และค่ะ ที่ครูเกษ ขอร้องว่า ต้องต่อเนื่องนะพี่แนท ไม่อยากนั้น ไม่เห็นผล ก็โอเค.. ตั้งปฏิญานกับตัวเองเลยว่า ต้่องเคร่งครัดกับตัวเอง ห้ามขี้เกียจ ..จนพบความสุขใจค่ะ ...พบว่า ความสุขจริงนั่นอยู่ที่ความสงบในจิต เรานั่นเอง...เหมือนคำของพระพุทธองค์ว่า " ความสุข ที่ยิ่งกว่าความสงบในจิตนั้นไม่มี"
3.สีลพตปรามาส ... ข้อนี้เรื่องการรักษาศีล เมื่อก่อน จะเป็นการระมัดระวัง... แต่เดึ่ยวนี้ตั้งแต่ ปฏิบัติจิตเกาะพระ นี่ จิตไม่ค่อยส่งออก ไปวุ่นวายข้างนอก จิตอยู่ที่พระตลอด การรักษาศีลเลยเป็นอัตโนมัติค่ะ ...และแถมจิตพอใจที่จะรักษา กรรมบท 10 ไปแล้วค่ะ และวันพระ ก็จะ ถึอศึล 8 โดยเต็มใจ แบบ สบายๆ คือ จะรู้สึก ว่าอยากขยับขี้นเองน่ะค่ะ ... ตั้งแต่มีพระอยู่ในใจตลอดนี้่ เรื่อง กาย วาจา ใจ เรียบร้อย เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเลย คนใกล้ตัว ยังทักเลย ค่ะ
4. กามฉันทะ .. เรื่องนี้ พี่เปลี่ยนไปเป็น คนละคน เลยค่ะ... จากคนที่เป็น เจ้าแม่แฟชั่น ต้องงามตลอด ห้วจรดเท้า ติดลุค.. สวย เซ็กซี่ ... ไม่อยากบอกว่า... เดี่๋ยวนี้ ...ไม่สนใจเรื่องการแต่งตัวเลย ..การหลงใหลในรูปโฉมโนมพรรณของตัวเอง ไม่มี บ้างที่ไม่ได้ดูกระจกเลยด้วยซ้ำ ...กลายเป็นคนง่ายๆ อยู่ง่ายกินง่าย โดยเฉพาะ เรื่องกิน เมื่อก่อนเรื่องมาก เดี่ยวนี้ ก่อนกิน จิตมันจะพิจารณาเลย อาหารทุกอย่างมัน มาจากความสกปรกทั้วนั้น กินแค่เพื่อไม่ให้ร่างกายเสียดแทง ขอบอกว่า น้ำหนัก ลด ไป 2 กก. ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติ จิตเกาะพระ ... มันไม่ enjoy แล้วค่ะ ... เรื่องน้ำหอม แทบจะไม่ได้แตะเลย ....เพราะมันจะคิดว่าอย่าหลอกตัวเองน่า ร่างกายของจริงสกปรก จะตาย จะฉีดไปทำไม... เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ... มันกลายเป็นเฉยๆ ไปทั้งหมด ...ก็แค่รับรู้เท่านั้น แล้วมันจะวางเลยค่ะ มันไม่ยินดีอะไรอีกแล้ว หรือจะบอกว่ามันไม่อินแล้วค่ะ ...ก็เลยพลอยมอง รูปคนอี่นๆ ไม่เหมือนเดิมไปด้วย มองแค่ว่า เป็น ก้อนเนื่อ ธาตุ 4 เดินได้ เท่านั้น มีแต่ความสงสาร ความเมตตาให้ทุกคน เท่านั้น เรื่อง ความเมตตา กรุณา (พรหมวิหาร 4 ) นี่มันรู้สึกมากขี้นเป็น สิบเท่า ของเมื่อก่อนเลยนะคะ
5. ปฏิฆะ ... อารมณ์ ไม่พอใจ หงุดหงิด ง่าย กับทุกเรื่อง มันหายไปเลย ..มันเฉยๆน่ะค่ะ. มองอะไร ก็ เออ ธรรมดาของมันต้องเป็นอย่างนั้น นี่น่า ไม่มีประโยชน์ ที่จะอารมณ์เสีย รักษาอารมณ์ใจให้ผ่องใสดีกว่า เดี่ยวภาพพระหาย กลัวภาพพระหายค่ะ เพราะ ตั้งแต่ ทำจิตเกาะพระนี่ จิตจะ โปร่ง เบา เป็นสุข ค่ะ พอวันไหน จิตไม่โปร่ง จะรู้เลย ว่ามีกิเลสตัวไหน มาเกาะนะ ก็จะรีบ จับภาพพระทันที เมือสองวันก่อน ...
6. รูปฌาณ .. ก็รู้นะคะ ว่า รู้สึกเป็นสุข .. เมื่อวันก่อน แหมสุขจัง ไม่อยากถอนจากสมาธิเลย ... มีเสียงเตือนเชียวค่ะ .. อย่าติดสุขน่ะ เดี่ยวไม่ถึงมรรคผลหรอก ก็เสียงครู 2 คน นี้แหละ ครูเกษ กะ ครูลูกพลัง อิอิ..
7 อรูปฌาณ...ก็แบบเดียวกับ ข้อ6 แหละ ค่ะ ไม่หลงไหลอะไร เพราะมันจะทำให้เราไปไม่ถึง นิพพาน
8. มานะทิษฐิ ... โอ้โหข้อนี้ หนักสำหรับพี่มาก ... แถมไม่รู้เรื่องด้วยนะ ว่าฉันเนี่ย แบกเอาไว้ เต็มหัวกบาลเลย ... ต้องขอบคุณครูลูกพลัง ที่จี้จุด .. เล่นเอาซะจิตตก ไป 1 วัน เลย และก็มารู้ชัดแจ้งในสมาธิตอน ที่สมเด็จพ่อองค์ปฐม ท่านมาสงเคราะห์ ตอนนั้น ก็เลย วางได้ ก็ได้เอาไปใช้จริง เมื่อวานค่ะ ไม่มีเหลือแล้ว เพราะ รู้ชัดว่า มันเป็นของร่างกาย ไม่ใช่ของจิต ..เมื่อร่างกาย มันไม่มีตัวตน (อนัตตา) เราจะไปแบกมันไว้ทำไม ไปยึดสิ่งที่มันไม่เที่ยง...จะบ้าเหรอ (ว่าตัวเองนะคะ อิ อิ) ตอนนี้ก็เลยมองด้วยความจริงค่ะ ว่า เรา เขา สัตว์ ทั้งหมดนี้ เหมือนกันหมด เพราะ มาอาศัย อยู่ในธาตุ 4 ขันธ์ 5 นี่ สกปรก ทรุดโทรม พัง เหมือนกันหมด ฉะนั้นไม่มีอะไร ที่จะต้องมาเปรียบเทียบกันเลย ว่าเขาดีกว่าเรา เราดีกว่าเขา เราเสมอเขา ... เลิกคิดตัดไปได้เลย มีแต่ความสงสารอย่างเดียว ตอนที่ตัดตัวนี้ได้ นะคะ ... พี่เจอ ตัวทาก ตัวหนี่ง ปกติ พี่เกลียด ขยะแขยงมาก ก็แค่ไม่อยากเข้าใกบ้น่ะค่ะ ... พอเจอกันคราวนี้ มองเฉย พูดกับมันว่า ... เธอกับฉัน เหมือนกันนะ มาอาศัย อยู่ใน ธาตุ 4 เหมือนกัน เพียงแต่รูปของเธอกับฉัน ต่างกัน เผลอๆ เธอยังดีกว่าฉันอีก เพราะ เธอน่ะ ไม่เคยว่าใคร ... คุยกับมันน่ะค่ะ ...เลยเปลียนเป็นสงสารไปเลย
9. อุทธัจจะ ... ความฟุ้งซ่าน ... จะบอกว่าตั้งแต่ปฏิบัติ จิตเกาะพระ นี่จิตไม่ค่อยส่งออกนอกค่ะ เลยไม่ฟุ้งซ่าน.. พอจะมีบ้าง สติจะเตือนทันที ก็รีบนึกถึงพระ ก็หาย ..ตอนปฏิบัติมีอยู่ช่วงที่ไม่ค่อยเข้าใจการปฏิบัตินัก ก็เล่นพิจารณาทีละตัว จนท้อ ก็คิดว่า เอาแค่ละ ข้อ 4 ข้อ 5 ได้ก็พอ ก็ฟุ้งซ่านเหมือนกัน แต่พอครูเกษบอกว่าตัดขันธ์ 5 อย่างเดียวให้ขาด เดี่ยวอย่างอื่นมันตัดอัตโนมัติ ก็เลยเข้าใจ เพราะคิดไว้เสมอว่า เป้าหมายเราคือ พระนิพพาน เราต้องวางขันธ์ 5 ทิ้งขันธ์ 5 ถึงจะไปถึงเป้าหมายได้
10. อวิชชา ..ความโง่ ที่คิดว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ ดี ไม่มีแล้วค่ะ ตัดสินใจเด็ดขาด หนักแน่น เมื่อ2 วันก่อน ว่าเราไม่ยินดีในการเกิดเป็นมนุษย์ อีกต่อไป ..เกิดเป็นพรหม เทวดา ก็ไม่เอา เพราะเดี่ยวก็ต้องกลับลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ไม่เอาแล้ว ... เข็ดกับการเกิดจริงๆ มันทุกข์ น่ะค่ะ
ก็เนี่ยแหละค่ะ ... ส่งการบ้าน มาให้ครูทราบว่า นี่คืออารมณ์จิตของพี่ ณ ขณะนี้ค่ะ
พี่แนท -
เรื่องนี้จะต้องขยาย จากจิตบุญล่าสุด จบ.๘๕
แอบนำมาจากเมล์หางว่าว
สวัสดีค่ะ ครูเกษ, ครูลูกพลัง และ คุณครู พี่เพ็ญ
ก่อนอี่น พี่แนท ต้องขอกล่าวคำว่า ขอบคุณในความมีน้ำใจของครู ทั้ง 3 ท่าน และคุณพี่ภู... ที่ครูได้เสียสละเวลามาแนะนำ สอนการปฏิบัติ... โดยเฉพาะ ครูเกษ ที่แนะนำให้พี่รู้จัก และ ปฏิบัติ จิตเกาะพระ ...
มาถึง วันนี้ ก็เป็นเวลาเกีอบเดีอน ...สิ่งที่พี่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ ผลที่พี่ได้รับจากการปฏิบัติ จิตเกาะพระ... เหมือนกับว่า ได้ปฏิบัติเพิ่มและพัฒนา การปฏิบัติธรรมที่พี่ได้ทำอยู่ก่อนแล้ว แต่ว่า ผลที่พี่รู้สึกได้ในตัวเองว่าเปลี่ยนแปลงไปมาก ในช่วงระยะเวลาอันสั้น....( ก่อนนั้น มุ่งหวังการปฏิบัติ เอาแค่ให้ได้ พระโสดาบัน และ ให้มีพระนิพพาน เป็นอารมณ์ ก็พอ...)
สังโยชน์ 10 .ประการ ที่มีอยู่ประจำใจ ... ที่จะคอยเช็คตัวเองว่า ...กิเลสข้อไหนที่มันเบาบางลงบ้าง..... พี่ขอรายงานด้วยอารมณ์จิตที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ นะคะ ว่าพี่มั่นใจว่าพี่รู้สึกอย่างนั้น จริงๆ
1.สักกายทิษฐิ ...เมื่อก่อนรู้แค่ว่า เราต้องตาย ตายแน่ๆ ความตายคือ สิ่งที่เที่ยง เลี่ยงไม่ได้ แต่เดี่ยวนี้ รู้สึกชัดว่า เรา(จิต)ไม่มีในร่างกาย และ ร่างกายไม่มีในเรา ค่ะ... รู้ว่าเราแค่มาอาศัยมันอยู่เท่านั้น อยู่กับบ้านเช่าชั่วคราวที่แสนจะสกปรก จะทำความสะอาดมันก็ได้แต่ภายนอก แต่ข้างในมันสกปรกโสโครกมาก และความสกปรกนั้น ยังพยายามออกมาข้างนอก ให้เราได้เห็นได้สัมผัสอีก ...แต่ก็ต้องอยู่ค่ะ ...อยู่แบบทนอยู่ไงคะ...ตอนนี้คือรู้สึกเบื่อที่ต้องมีภาระกับไอ้ขันธ์ 5 นี้ ในทุกๆเรื่อง มองมันไม่ต่างจากวัตถุธาตุค่ะ..ว่ามันไม่ทรงตัว เสื่อมลง และก็พังในที่สุด ...จิตมองเห็นแล้ว และ ไม่เกาะค่ะ ...ไม่รู้สึกยินดีหรือให้ความสนใจอะไรกับมันมากเหมือนเมื่อก่อนค่ะ ...ก็ดูแลมันไปตามอัตตภาพ เพืยงเพื่อไม่ให้มันเพิ่มทุกข์มากไปกว่าทุกข์ที่มันต้องมีอยู่แล้วตามธรรมดาของมัน ...พอจิตพี่ยอมรับนะคะ จิตเบา สุข และเริ่มเข้าใจว่า... การทำหน้าที่ต่างๆ โดยที่ไม่เอาจิตไปยึดเกาะกับหน้าที่เป็นอย่างไร... เข้าใจแล้วค่ะ... เมื่อก่อนนี้ โอ๊ย เครียดไปหมดซะทุกเรื่อง
....ตอนนี้อารมณ์จิตพี่คิดอย่างนี้ทุกวัน และ เตือนตัวเองเสมอว่า เราจะทำให้ดีที่สุด ทำให้เหมือนกับว่า " วันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต " เราพร้อมมั้ย ที่จะปล่อยและวางทุกอย่างรอบตัวเรา และ พุ่งจิตเราไปนิพพานทันที ... จะบอกกับตัวเอง และเตรียมพร้อมเสมอ ไม่มีอะไรห่วงอีกแล้วค่ะ ...พร้อมทิ้งขันธ์ 5 ทันที ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างทันที พอคิดอย่างนี้ทีไร จิตเบา ลอย เหมือนเป็นอิสระ ตัวเบา เดิน ลอยๆ ทุกทีค่ะ ก็ไม่รู้นี่ค่ะ ว่าความตายจะมาตอนไหน ...เช้า สาย บ่าย เย็น หัวค่ำ กลางดึก เกิดได้เสมอ ค่ะ ... แต่ไม่กลัวค่ะ ..เพราะ ถ้าไม่มีความตายเกิดขึ้น เราก็ไปนิพพาน ไม่ได้ ต้องมีความตาย เกิดขึ้นก่อน ถึงจะไปได้ไงคะ ...กลับบ้านเราอย่างถาวรเสียที
2.วิจิกิจฉา ... ความลังเลสงสัยในคุณพระรัตนตรัย ไม่มีใตจิตเลยค่ะ.. . เพราะ ลงมือปฏิบัติแล้ว เห็นผลแจ้ง จริงตามนั้น ทุกประการที่ท่านตรัสสอนไว้หมด ... มีแต่ความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่านอันหาประมาณมิได้ ที่มีต่อสัตว์โลก ที่ต้องการรื้อขนสัตว์โลก ทั้งหลาย ให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ซาบซึ้งในความดีของพระองค์มากๆ ที่พระองค์ไม่ทอดทิ้งทุกคน โดยเฉพาะ พี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นลูกที่ดื้อ ของท่าน ก็เจอทุกข์ ... จนต้องวิ่งเข้ามาซบต่อหน้าพระพักตร์ แล้วตัดสินใจ ยึดพระรัตนตรัย เป็นที่พี่ง ไม่อยากเกิดเป็น มนุษย์ อีกแล้ว พอตัดสินใจอย่างนั้น ก็ เริ่มหาธรรมะ คำสั่งสอน ของพระองค์ทันที ลงมือปฏิบัติ เมือ 2 ปีทีแล้ว แต่ก็ไม่ต่อเนื่อง จนเมื่อมา ปฏิบัติ จิตเกาะพระ นี่และค่ะ ที่ครูเกษ ขอร้องว่า ต้องต่อเนื่องนะพี่แนท ไม่อยากนั้น ไม่เห็นผล ก็โอเค.. ตั้งปฏิญานกับตัวเองเลยว่า ต้่องเคร่งครัดกับตัวเอง ห้ามขี้เกียจ ..จนพบความสุขใจค่ะ ...พบว่า ความสุขจริงนั่นอยู่ที่ความสงบในจิต เรานั่นเอง...เหมือนคำของพระพุทธองค์ว่า " ความสุข ที่ยิ่งกว่าความสงบในจิตนั้นไม่มี"
3.สีลพตปรามาส ... ข้อนี้เรื่องการรักษาศีล เมื่อก่อน จะเป็นการระมัดระวัง... แต่เดึ่ยวนี้ตั้งแต่ ปฏิบัติจิตเกาะพระ นี่ จิตไม่ค่อยส่งออก ไปวุ่นวายข้างนอก จิตอยู่ที่พระตลอด การรักษาศีลเลยเป็นอัตโนมัติค่ะ ...และแถมจิตพอใจที่จะรักษา กรรมบท 10 ไปแล้วค่ะ และวันพระ ก็จะ ถึอศึล 8 โดยเต็มใจ แบบ สบายๆ คือ จะรู้สึก ว่าอยากขยับขี้นเองน่ะค่ะ ... ตั้งแต่มีพระอยู่ในใจตลอดนี้่ เรื่อง กาย วาจา ใจ เรียบร้อย เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเลย คนใกล้ตัว ยังทักเลย ค่ะ
4. กามฉันทะ .. เรื่องนี้ พี่เปลี่ยนไปเป็น คนละคน เลยค่ะ... จากคนที่เป็น เจ้าแม่แฟชั่น ต้องงามตลอด ห้วจรดเท้า ติดลุค.. สวย เซ็กซี่ ... ไม่อยากบอกว่า... เดี่๋ยวนี้ ...ไม่สนใจเรื่องการแต่งตัวเลย ..การหลงใหลในรูปโฉมโนมพรรณของตัวเอง ไม่มี บ้างที่ไม่ได้ดูกระจกเลยด้วยซ้ำ ...กลายเป็นคนง่ายๆ อยู่ง่ายกินง่าย โดยเฉพาะ เรื่องกิน เมื่อก่อนเรื่องมาก เดี่ยวนี้ ก่อนกิน จิตมันจะพิจารณาเลย อาหารทุกอย่างมัน มาจากความสกปรกทั้วนั้น กินแค่เพื่อไม่ให้ร่างกายเสียดแทง ขอบอกว่า น้ำหนัก ลด ไป 2 กก. ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติ จิตเกาะพระ ... มันไม่ enjoy แล้วค่ะ ... เรื่องน้ำหอม แทบจะไม่ได้แตะเลย ....เพราะมันจะคิดว่าอย่าหลอกตัวเองน่า ร่างกายของจริงสกปรก จะตาย จะฉีดไปทำไม... เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ... มันกลายเป็นเฉยๆ ไปทั้งหมด ...ก็แค่รับรู้เท่านั้น แล้วมันจะวางเลยค่ะ มันไม่ยินดีอะไรอีกแล้ว หรือจะบอกว่ามันไม่อินแล้วค่ะ ...ก็เลยพลอยมอง รูปคนอี่นๆ ไม่เหมือนเดิมไปด้วย มองแค่ว่า เป็น ก้อนเนื่อ ธาตุ 4 เดินได้ เท่านั้น มีแต่ความสงสาร ความเมตตาให้ทุกคน เท่านั้น เรื่อง ความเมตตา กรุณา (พรหมวิหาร 4 ) นี่มันรู้สึกมากขี้นเป็น สิบเท่า ของเมื่อก่อนเลยนะคะ
5. ปฏิฆะ ... อารมณ์ ไม่พอใจ หงุดหงิด ง่าย กับทุกเรื่อง มันหายไปเลย ..มันเฉยๆน่ะค่ะ. มองอะไร ก็ เออ ธรรมดาของมันต้องเป็นอย่างนั้น นี่น่า ไม่มีประโยชน์ ที่จะอารมณ์เสีย รักษาอารมณ์ใจให้ผ่องใสดีกว่า เดี่ยวภาพพระหาย กลัวภาพพระหายค่ะ เพราะ ตั้งแต่ ทำจิตเกาะพระนี่ จิตจะ โปร่ง เบา เป็นสุข ค่ะ พอวันไหน จิตไม่โปร่ง จะรู้เลย ว่ามีกิเลสตัวไหน มาเกาะนะ ก็จะรีบ จับภาพพระทันที เมือสองวันก่อน ...
6. รูปฌาณ .. ก็รู้นะคะ ว่า รู้สึกเป็นสุข .. เมื่อวันก่อน แหมสุขจัง ไม่อยากถอนจากสมาธิเลย ... มีเสียงเตือนเชียวค่ะ .. อย่าติดสุขน่ะ เดี่ยวไม่ถึงมรรคผลหรอก ก็เสียงครู 2 คน นี้แหละ ครูเกษ กะ ครูลูกพลัง อิอิ..
7 อรูปฌาณ...ก็แบบเดียวกับ ข้อ6 แหละ ค่ะ ไม่หลงไหลอะไร เพราะมันจะทำให้เราไปไม่ถึง นิพพาน
8. มานะทิษฐิ ... โอ้โหข้อนี้ หนักสำหรับพี่มาก ... แถมไม่รู้เรื่องด้วยนะ ว่าฉันเนี่ย แบกเอาไว้ เต็มหัวกบาลเลย ... ต้องขอบคุณครูลูกพลัง ที่จี้จุด .. เล่นเอาซะจิตตก ไป 1 วัน เลย และก็มารู้ชัดแจ้งในสมาธิตอน ที่สมเด็จพ่อองค์ปฐม ท่านมาสงเคราะห์ ตอนนั้น ก็เลย วางได้ ก็ได้เอาไปใช้จริง เมื่อวานค่ะ ไม่มีเหลือแล้ว เพราะ รู้ชัดว่า มันเป็นของร่างกาย ไม่ใช่ของจิต ..เมื่อร่างกาย มันไม่มีตัวตน (อนัตตา) เราจะไปแบกมันไว้ทำไม ไปยึดสิ่งที่มันไม่เที่ยง...จะบ้าเหรอ (ว่าตัวเองนะคะ อิ อิ) ตอนนี้ก็เลยมองด้วยความจริงค่ะ ว่า เรา เขา สัตว์ ทั้งหมดนี้ เหมือนกันหมด เพราะ มาอาศัย อยู่ในธาตุ 4 ขันธ์ 5 นี่ สกปรก ทรุดโทรม พัง เหมือนกันหมด ฉะนั้นไม่มีอะไร ที่จะต้องมาเปรียบเทียบกันเลย ว่าเขาดีกว่าเรา เราดีกว่าเขา เราเสมอเขา ... เลิกคิดตัดไปได้เลย มีแต่ความสงสารอย่างเดียว ตอนที่ตัดตัวนี้ได้ นะคะ ... พี่เจอ ตัวทาก ตัวหนี่ง ปกติ พี่เกลียด ขยะแขยงมาก ก็แค่ไม่อยากเข้าใกบ้น่ะค่ะ ... พอเจอกันคราวนี้ มองเฉย พูดกับมันว่า ... เธอกับฉัน เหมือนกันนะ มาอาศัย อยู่ใน ธาตุ 4 เหมือนกัน เพียงแต่รูปของเธอกับฉัน ต่างกัน เผลอๆ เธอยังดีกว่าฉันอีก เพราะ เธอน่ะ ไม่เคยว่าใคร ... คุยกับมันน่ะค่ะ ...เลยเปลียนเป็นสงสารไปเลย
9. อุทธัจจะ ... ความฟุ้งซ่าน ... จะบอกว่าตั้งแต่ปฏิบัติ จิตเกาะพระ นี่จิตไม่ค่อยส่งออกนอกค่ะ เลยไม่ฟุ้งซ่าน.. พอจะมีบ้าง สติจะเตือนทันที ก็รีบนึกถึงพระ ก็หาย ..ตอนปฏิบัติมีอยู่ช่วงที่ไม่ค่อยเข้าใจการปฏิบัตินัก ก็เล่นพิจารณาทีละตัว จนท้อ ก็คิดว่า เอาแค่ละ ข้อ 4 ข้อ 5 ได้ก็พอ ก็ฟุ้งซ่านเหมือนกัน แต่พอครูเกษบอกว่าตัดขันธ์ 5 อย่างเดียวให้ขาด เดี่ยวอย่างอื่นมันตัดอัตโนมัติ ก็เลยเข้าใจ เพราะคิดไว้เสมอว่า เป้าหมายเราคือ พระนิพพาน เราต้องวางขันธ์ 5 ทิ้งขันธ์ 5 ถึงจะไปถึงเป้าหมายได้
10. อวิชชา ..ความโง่ ที่คิดว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ ดี ไม่มีแล้วค่ะ ตัดสินใจเด็ดขาด หนักแน่น เมื่อ2 วันก่อน ว่าเราไม่ยินดีในการเกิดเป็นมนุษย์ อีกต่อไป ..เกิดเป็นพรหม เทวดา ก็ไม่เอา เพราะเดี่ยวก็ต้องกลับลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ไม่เอาแล้ว ... เข็ดกับการเกิดจริงๆ มันทุกข์ น่ะค่ะ
ก็เนี่ยแหละค่ะ ... ส่งการบ้าน มาให้ครูทราบว่า นี่คืออารมณ์จิตของพี่ ณ ขณะนี้ค่ะ
พี่แนท
หน้า 282 ของ 857