อะไร ยังไง ก้อ ต้องเป็นไป ...
แต่ใครอยากคุยเรื่องจิตเกาพระ 16ธค นี้ก้อเชิญนะครับ ...
จิตพร้อม รับภัยพิบัติ ... อิอิอิ
จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม
จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.
หน้า 472 ของ 857
-
-
ชาวชุมพร ศิษย์พระอาจารย์ชัชวาลย์
พี่ภู..ขอซื้อมีดโกนอาบน้ำผึ้งเดือน ๕ ของครูเพ็ญหน่อยดิ่
จะเอาไปปาดหัวใจคนสักหน่อย
เดี๋ยวไวๆนี้ จะมีดวงจิตที่กำลังเข้าถึง จิตพุทธะหลายท่าน
หลังจากทรงอารมณ์พระพุทธเจ้าได้
จิตจะนิ่ง+แน่นมากเป็นพิเศษ
อย่าลืมนะ จิตจะศักดิ์สิทธิืได้ ต้องมีความศรัทธานำหน้าเลย
สาธุๆๆ -
พักนี้คนรอบข้างว่าเป็นอะไรไปพูดเหมือนเป็นคนละคน เราก็เออ ว่ะ เราพูดแบบนั้นไปได้ไงเนี่ย บางทีพิมพ์สอนคนเหมือนมือพิมพ์ไปเองเลยนะครับ -
มันเหมือนจะอั้นๆอยุ่ครับครูเกษ มีข่าวว่าจะเกิดๆอยุ่หลายครั้ง ...ซึ่งอย่างไรก็เป็นวาระที่ต้องเกิดอยู่แล้วเพราะเป็นกรรมที่มวลมนุษย์ได้สร้างสมมายาวนานแล้ว เราต้องทำใจยอมรับผลแห่งกรรมนี้ร่วมกัน เพียงแต่จะเกิดช้า หรือเกิดเร็วแค่นั้น...ก็อยากจะให้เรียบร้อยเสียโดยเร็ว ไม่ได้ท้าทายนะครับ ตอนนี้เปรียบเสมือนคนรอรับโทษ..ระหว่างรอนี้อึดอัด รับโทษเสียไวๆ จะได้กลับมาทำหน้าที่ของเรากันต่อไป(ถ้ารอดนะ) 5555
ผมก็เชื่อว่าคนดีมีศีลธรรมคงจะไม่เป็นไร ทุกอย่างเป็นไปตามวาระกรรมอยุ่แล้ว...คนที่จะรอดก็คงรอด คนที่ไม่รอดอย่างไรก็ไม่รอด(ถ้าไม่ทำกรรมดีเพิ่ม)...เลยวางใจได้ และพร้อมที่จะเผชิญ(ไม่ได้ท้าทาย)..เขตใหนที่พระพุทธศาสนาหยั่งลงหนาแน่นในจิตใจผู้คน บริเวณแถบนั้นหรือประเทศนั้นคนจะรอดมากที่สุดครับ -
โมทนาบุญกับจิตบุญที่ ๑๑๘ และพระอาจารย์ชัชวาลค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
-
-
ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญที่ ๑๑๘ และอาจารย์ ผู้สอนทุกๆท่าน ด้วยเทอญ.:cool::cool:
-
อริยสัจ ๔ ให้พิจารณาให้รู้ให้เห็นตามเป็นจริง ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยควรละเสีย นิโรธควรทำให้แจ้ง มรรคควรทำให้เกิดให้มี ชาติความเกิด ชราความแก่ พยาธิความเจ็บ มรณะความตาย นี่ทุกขสัจ ทุกข์มันเกิดมาจากไหน ทุกข์เป็นตัวผล สมุทัยเป็นตัวเหตุ สมุทัย คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ความใคร่ในรูปที่สวยงามในวัตถุกามต่าง ๆ มีเงินทองข้าวของเป็นต้น เรียกว่า กามตัณหา ความอยากมีอยากเป็น อยากเป็นโน่นเป็นนี่ อยากเป็นเศรษฐีคหบดีเป็นต้น เรียกว่า ภวตัณหา ความไม่พอใจของได้มาแล้วหายไปก็เกิดความไม่พอใจ ร่างกายของตนก็ดี ของคนอื่นก็ดี เมื่อแก่ลงมามีความชำรุดทรุดโทรม ผมหงอก ฟันหัก แก้มตอบ เป็นต้น เลยไม่พอใจ นี้เรียกว่า วิภวตัณหา ตัณหาทั้งสามประการนี้ เป็นเหตุให้สัตว์ท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสาร ในภพน้อยภพใหญ่ นับกัปนับกัลป์ไม่ได้ ตัณหามันเกิดขึ้นจากไหน ต้องค้นหาเหตุมัน เหตุมันเกิดจากอายตนะภายใน และอายตนะภายนอกมาสัมผัสกัน ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายถูกต้องสัมผัส ใจรู้ธรรมารมณ์ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้เพียรสำรวม เพียรละ ไม่ให้เกิดความยินดียินร้าย ทำจิตให้เป็นกลาง วางเฉยต่ออารมณ์ นี่เรียกว่า การดับตัณหา
หลวงปู่ขาว อนาลโย -
ภัยพิบัติVSใจวิบัติ
ไฟล์ที่แนบมา:
-
-
จิตพระอริยเจ้า
..."จิต" ของพระอริยเจ้าขั้นโลกุตระนั้น
แม้จะยังอยู่ในโลก คลุกคลีกับสิ่งแวดล้อมโดยสถานใด
ก็ไม่อาจจูง "จิต" ของท่าน ให้ไขว้เขว เจือปนกับสิ่งเหล่านั้นได้
คือ โลกธรรม ไม่อาจครอบงำ "จิต" ได้เลย
คือ "จิต" ไม่อาจกลับกลายไปเป็น "จิตปุถุชน" ได้อีก
ไม่อาจกลับไปอยู่ใต้อำนาจของกิเลสตัณหาได้อีก
เปรียบเหมือนกะทิมะพร้าวที่คั้นออกมาแล้ว
เอาไปเคี่ยวด้วยความร้อน จนเป็น "น้ำมัน" ออกมาได้แล้ว
ย่อมไม่กลับกลายไปเป็นกะทิเหมือนเดิมอีก
แม้จะเอาไปปะปนระคนกับกระทิอย่างไร
ก็ไม่อาจทำให้ "น้ำมัน" นั้น กลายเป็นกะทิเหมือนเดิมได้...
หลวงปู่ฝากไว้ (หน้า ๙๙)
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี -
เรื่องความตาย. ตายนั้นมันตายแน่ แต่จะตายแบบใหนแล้วแต่ว่าจะเกิดขึ้นกับแต่ละคน ซึ่ง.
แล้วแต่กรรมลิขิต แล้วแต่กรรมที่จะแปรสภาพ ยังอยู่ก็ไม่ใช่เรา ตายไปแล้วก็ไม่ใช่เราอย่าไปยึด.
และไปกลัวอะไรถ้าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด. เพราะเป็นธรรมชาติ การเกิดภัยพิบัติ ก็เป็นธรรมชาติ.
ซึ่งเราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องท่องจำเอาไว้เลยว่า ตาย ตาย ตาย จะตายเมื่อไหร่ก็ตายไม่
ต้องไปหวั่นไหวมัน คิดอยู่เสมอว่าเราไม่ได้ตายคนเดียวทุกคนก็ต้องตาย จะเป็นเมื่อไหร่นั้นมันไม่มีผู้ใดรู้ล่วงหน้ามันห้ามความตายไม่ได้. ถ้าเราได้เรียนรู้กับธรรมชาติของมันเราจะไม่
กลัวตาย. เมื่อเราได้เรียนรู้เรื่องความตายจนจบแล้วเราก็จะได้รับปริญญา. เมื่อเราได้รับ
ปริญญาแล้วเราไม่ต้องกลัวตาย ความตายเป็นยอดคน คือ ยอดเราผู้เรียนจบแล้วความตาย
เราไม่กลัว ถึงวาระตายเราก็ต้องตาย เพราะเราตายด้วยปัญญาที่เราได้สระสมไว้รอบด้าน
รอบตัวเรา. เราจึงไม่หวั่นไหวต่อความจริงนั้นๆ ซึ่งรู้อยู่กับใจของเราทุกเวลานาทีอยู่แล้ว
อย่างสมบูรณ์.ให้ภาวนาว่าตายหนอ ตายหนอ ตายหนอ แล้วก็ ตายแน่ ตายแน่ ตายแน่
นะคะ จะไม่ต้องกลัวตาย. อย่างไรก็ตามขอให้พวกเราทุกคนทุกท่านเรามาช่วยกันสวดมนต์
ภาวนาขอให้สิ่งที่ชั่วร้ายกลายดี สิ่งที่จะเกิดหนัก ให้เป็นเบา ขออำนาจองค์สมเด็จ. องค์พระปฐม
และพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ปกป้องคุ้มครองประเทศชาติและพวกเราทุกๆคนด้วยเทอญ.
-
。* °♥ ˚ • ★ ความมหัศจรรย์แห่งจิต 。* °♥ ˚ • ★
หลายๆท่านคงยังไม่ทราบว่าคุณมาลินี(UK) อายุทางโลกนั้น 63 ปีเต็มๆเมื่อ
เดือน พ.ย. ที่ผ่านมานี้เอง จำได้ว่าวันเกิดของท่านดาวก็โทรไป Happy Birthday ครบรอบ 63 ปี แต่ท่านขอต่อลอง ขอสลับตัวเลข เป็น 36 ปีก็พอค่ะ...ฮ่าาาๆๆๆๆ วันนั้นก็ได้แต่ขำไปกับมุกของท่านเท่านั้นเอง ไม่คิดเลยว่าจริงๆแล้วท่านเปลี่ยนมันได้จริงๆ พลังจิตที่ท่านฝึกให้ได้มานั้น ส่งผล และ แสดงออกให้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วจริงๆ ว่าท่านมีพลังมาก มากกว่าคนที่อายุ 36 จริงๆเสียอีก
แม่นีคนนี้ ท่านใช้คอมพิวเตอร์ไปคล่องเอาซะเลย ไม่เคยเรียนจากที่ไหนมาก่อน ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ...ท่านจิ้มดีดเอาน่ะค่ะ... ไม่ใช่พิมพ์ดีด ^_^ ท่านเคยเล่าว่าท่านไม่ได้เรียนจบสูงๆเหมือนคนอื่นเขา ไม่ชอบอ่าน ไม่ชอบเขียน แต่ได้มีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ตรงกับหลวงปู่ หลวงตา หลวงพ่อ ที่ดังๆทั้งนั้นของเมืองไทย ท่านก็พยายามเก็บเกี่ยวความรู้จากการจำ และนำมาปฏิบัติเป็นเวลามากกว่า 30 ปีได้ จนในที่สุดท่านมาเจอ "จิตเกาะพระ" ซึ่งเข้าไปกระตุ้นต่อมพุทธะที่ท่านสะสมอยู่มากมาย แต่ไม่เคยเปิดออกมาใช้งาน
ณ ปัจจุบันนี้ท่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้แต่อายุ 63 ปี + สายตาที่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือนัก@_@ ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด ถ้าคุณสามารถนำดวงจิตเข้าสู่ความนิ่ง ความว่าง จนดวงจิตกลายเป็นจิตพุทธะได้แล้ว อะไรๆ ก็มาห้ามคุณไม่อยู่ รั้งคุณไม่ได้ ความนิ่ง ความละเอียดของจิต กลับกลายเป็นเครื่องมืออย่างดีให้คุณสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แม้แต่เทคโนโลยีใหม่ๆ คุณก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ได้ ถ้าเป็นคน 63 ปีที่อยู่ทางโลกด้านเดียวดวงจิตคงปฏิเสธการเรียนรู้สิ่งใหม่ไปนานแล้ว แต่สำหรับดวงจิตของแม่นีนั้นตรงกันข้ามแท้ๆ กลับกลายเป็นคนขยัน หมั่นเพียร หมั่นศึกษา พัฒนาตนมากยิ่งๆขึ้นไปอีก บางวันท่านนั่งจิ้มดีด ^_^ พิมพ์ธรรมะลงกระทู้นี้ล่ะค่ะ ใช้เวลาหมดไปเป็นชั่วโมงๆ แต่สุดท้ายเครื่อง Error ข้อความที่พิมพ์มาเป็นหน้าๆ หายเกลี้ยง แต่ท่านก็ไม่ยอมแพ้ หรือถอดใจ ท่านเริ่มใหม่ เริ่มอย่างคนมีสติ มีความปรารถนาที่จะเป็นผู้ให้ แบ่งปันความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึก นึกคิด ด้านบวก ถ่ายทอดธรรมะ คำสอนต่างๆที่ตนเคยได้รับรู้ เรียนรู้มา เพื่อให้คนอื่นที่ยังไม่รู้...ได้รู้ ผู้ที่รู้แล้ว...ก็ได้รู้เพิ่มขึ้น ผู้ที่ไม่ต้องการจะรู้แล้ว...ก็นั่งยิ้มดูไป ^_^ อย่างงี้ไม่เรียกว่าเป็น"ความมหัศจรรย์แห่งจิต" ที่เข้าถึงความบริสุทธิ์ แล้วจะเรียกอะไรดีล่ะค่ะเนี่ย!?!
ขออนุโมทนาสาธุในทุกธรรมทานของแม่นีนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ -
ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๘ พระอาจารย์ชัชวาลและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ สาธุ
-
ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญ ดวงที่ 114 115 116 117 และ 118 พร้อมทั้งครูผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ด้วยค่ะ...สาธุ
-
ปุจฉาธรรม
สวัสดีครับ
วันนี้เรามีปุจฉาธรรมจะมาถามครับ คือว่า
หากเรารู้(ขอย้ำนะ..ว่า"รู้แน่ๆและชัวร์ๆแล้ว")ว่าภัยพิบัติกำลังจะมาหาเราถึงบ้านแล้ว.. ผู้คนก็จะเลือกที่จะ
1. อพยพไปตั้งหลัก ณ.สถานที่ปลอดภัย, หรือ
2. อยู่กับบ้านนั่นแหล่ะ รอความตาย(ด้วยความที่ฝึกจิตมาดีพอสมควรแล้วหรือเหตุผลอื่นใดก็แล้วแต่นะครับ)
คำถามคือว่า อันบุคคลที่เลือกทางเลือกที่2นั้น จะถือว่าเป็นการกระทำอัตวิบากกรรม(ฆ่าตัวตาย)หรือไม่? อย่างไร? (ถ้าใช่นะ..แล้วจะตกนรกหรือไม่เพราะฆ่าตัวตาย?)
ขอเชิญทุกๆท่านร่วมวิสัชชนาธรรมตามประสบการณ์และมุมมองของท่านด้วยครับ.. สาธุครับ -
ขอร่วมอนุโมทนา กับจิตบุญทุกๆท่าน ร่วมกับ คุณครูแนทชา และขออนุโมทนากับ
คุณครูผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆท่านค่ะสาธุ.
หน้า 472 ของ 857