จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043

    สัตตาวาส ๙ ชั้น

    ววัตถสัญญาสูตร
    [๒๒๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตตาวาส ๙ ชั้น ๙ ชั้นเป็นไฉน ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย สัตว์พวกหนึ่ง มีกายต่างกัน มีสัญญาต่างกัน เหมือนมนุษย์ เทวดาบางพวก และ วินิปาติกสัตว์บางพวก นี้เป็นสัตตาวาส ชั้นที่ ๑ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง มีกายต่างกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน เหมือนเทวดา ผู้อยู่ในชั้นพรหม ผู้เกิดในภูมิ ปฐมฌาน นี้เป็นสัตตาวาส ชั้นที่ ๒ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาต่างกัน เหมือนเทวดาชั้น อาภัสสระ นี้เป็น สัตตาวาส ชั้นที่ ๓ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง มีกายอย่างเดียวกัน มีสัญญาอย่างเดียวกัน เหมือนเทวดาชั้น สุภกิณหะ นี้เป็น สัตตาวาส ชั้นที่ ๔ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง ไม่มีสัญญา ไม่เสวยเวทนา เหมือนเทวดาผู้เป็น อสัญญีสัตว์ นี้เป็น สัตตาวาส ชั้นที่ ๕ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง ผู้เข้าถึงชั้น อากาสานัญจายตนะ โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่า อากาศหาที่สุด มิได้ เพราะล่วง รูปสัญญา โดยประการทั้งปวง เพราะดับ ปฏิฆสัญญา เพราะไม่ใส่ใจถึง นานัตตสัญญา นี้เป็น สัตตาวาส ชั้นที่ ๖ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง ผู้เข้าถึงชั้น วิญญาณัญจายตนะ โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่า วิญญาณ หาที่สุด มิได้ เพราะล่วง อากาสานัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง นี้เป็น สัตตาวาส ชั้นที่ ๗ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง ผู้เข้าถึงชั้น อากิญจัญญายตนะ โดยคำนึง เป็นอารมณ์ว่า อะไรหน่อยหนึ่ง ไม่มี เพราะล่วง วิญญาณัญจายตนะ โดยประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาส ชั้นที่ ๘ ฯ
    สัตว์พวกหนึ่ง ผู้เข้าถึงชั้น เนวสัญญานาสัญญายตนะ เพราะล่วง อากิญจัญญายตนะ โดย ประการทั้งปวง นี้เป็นสัตตาวาส ชั้นที่ ๙ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตตาวาส ๙ ชั้นนี้แล ฯ

    จบสูตรที่ ๔
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    “แผ่เมตตาเจโตวิมุตติ”
    การแผ่เมตตาเจโตวิมุตตินั้นคือ ต้องเข้าสมาธิให้ได้ระดับจตุตถฌาน เพื่อให้บรรลุภาวะดวงจิตหลุดพ้นจากกิเลสชั่วคราว เรียกว่า เจโตวิมุตติ ประเภทยังไม่หลุดพ้นอย่างเด็ดขาดเป็นแต่เพียงหลุดพ้นจากกิเลส ด้วยอำนาจพลังจิตโดยเฉพาะด้วยกำลังฌาน ๔ คือกิเลสทั้งหมดได้ถูกอำนาจอัปปนาสมาธิกดข่มไว้ หรือทับไว้ดุจก้อนหินใหญ่มหึมาทับหญ้าเอาไว้ฉะนั้น ตลอดเวลาที่อยู่ในฌาน ๔ นั้นเรียกว่า “วิขัมภนะวิมุตติ”

    การแผ่เมตตาเจโตวิมุตติมีอานุภาพมาก เป็นกระแสคลื่นจิตตานุภาพอันชุ่มชื่นเยือกเย็น ภูตผีปีศาจยักษ์มาร เทวดา พรหม คนธรรพ์ นาค และมนุษย์ ตลอดถึงสิงสาราสัตว์ดุร้ายทั้งหลาย เมื่อได้กระทบสัมผัสกระแสเมตตาเจโตวิมุตติแล้ว จะบังเกิดความรู้สึกชุ่มชื่น เย็นกายเย็นใจ อิ่มเอิบเบิกบาน ปีติปราโมทย์ ดุจดังได้เสวยความสุขอันเป็นทิพย์สุดวิเศษ จะมีไมตรีจิตมิตรภาพ รักใคร่เคารพนับถือผู้ทรงศีลที่แผ่เมตตาเจโตวิมุตตินั้น ไม่กล้าคิดทำร้ายแต่ประการใดเลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    บุญกุศลตัวจริง
    <iframe src="https://www.youtube.com/embed/ruZfePo3WaA" allowfullscreen="" width="560" height="315" frameborder="0"></iframe>

    hiphoplanla

    Uploaded on Feb 22, 2012
    Playlist : http://www.youtube.com/playlist?list=...
    พระธรรมเทศนาพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร)
    ให้เสียงโดย ภิกขุ กิจฺจวิชฺโช


    ปุญฺญานิ ปรโลกสฺมึ ปติฏฺฐา โหนฺติ ปาณินํ.
    บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า

    จาก ... สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ข้อ ๘๘
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ภาพหาย!pity_pig
     
  5. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ธรรมะก่อนนอน ว วชิรเมธี เรื่อง แค่คิดบวก ชีวิตก็บวก
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/cGAXzAS-zmw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ธรรมะสอนใจ บทสวดมนต์ ออนไลน์
    Published on Oct 2, 2015

    ท่านเคยคิดมาก จนนอนไม่หลับหรือไม่ ?? เครียดกับความคิดของตัวเองหรือไม่ ?? หากใช่ เชิญฟัง ธรรมะจากท่าน ว. วชิรเมธี พระครูชื่อดัง ได้เทศนาธรรมเกี่ยวกับ การคิดบวก เพียงแค่ท่านคิดบวก ชีวิตท่านก็บวกตาม ไม่มีอะไรที่จะเป็นลบไปได้ตลอด หากใจสงบ ร่มเย็น ทุกๆ อย่างก็จะดีขึ้นเอง ได้แนวคิด ได้ข้อคิดที่ดี ฟังสบาย ก่อนนอน หลับสบายมากๆ


    ธรรมะฟังเพลินๆ ให้ทุกท่านฟังเป็นธรรมะก่อนนอน จิตใสเป็นบุญ จิตขุ่นเป็นบาป ทำจิตใจให้สงบ คิดในแง่บวก ทุกๆอย่าง จะเป็นบวกแน่นอน

    สาธุ หากชอบรบกวนส่งต่อธรรมไปให้เพื่อนๆ ได้รับธรรมกันด้วย อนุโมทนาบุญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    พุทธทาส ภิกขุ - สติและการฝึกสติ
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/2WJETr9LwXk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    Thai Bhikkhus
    Published on Dec 1, 2013

    พระธรรมโกศาจารย์ (เงื่อม อินทปัญโญ) - ตามรอยพุทธทาส
    สติและการฝึกสติ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    เรื่องเล่าอาจารย์ยอด | บวช 6 ครั้ง
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/JRCSy-fy1ww" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เรียนเชิญทุกท่านร่วมบุญกับอาจารย์ยอด เพื่อสร้างแผ่นบันทึกเสียงกฏแห่งกรรมและเรื่องเล่าชาวบ้าน ถวายวัดวาอาราม
    มอบให้สถานีวิทยุชุมชนทั่วประเทศ มอบให้โรงเรียนและหอกระจายข่าวและภิกษุสามเณรเพื่อเป็นการเผยแพร่ธรรมะ
    สนใจติดต่อร่วมบุญได้ที่ ☎ 084-643-8770 (นายปรีชา เรืองเดช หมายเลขบัญชี 356-2-46886-1 ธนาคารกสิกรไทย สาขาจันทอุดม ระยอง)
    ติดตามการร่วมบุญที่นี้นี้ครับ https://www.facebook.com/ajarnyord
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DhammaLife.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.5 KB
      เปิดดู:
      85
  8. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043

    หนังสือ ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า

    โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ


    ๖.ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง จงจำไว้ให้ถึงที่สุด

    ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง จงจำไว้ให้ถึงที่สุด เมื่อจำไว้ทุกวัน ลืมตาขึ้นมา เช้ามีความรู้สึกไว้เสมอว่าเราอาจจะไม่ได้กินข้าวเช้า อาจจะตายก่อนก็ได้ ความตายไม่มีนิมิต ความตายไม่มีเครื่องหมาย ถ้าเราตายเลว ก็ดูตัวอย่างสัตว์ในอบายภูมิ มีนรกและเปรตเป็นต้น ก่อนจะตายถ้าเราทำความดี นั่นก็เป็นเรื่องที่เราจะฟังต่อไปข้างหน้าในเรื่องวิมานวัตถุ จะเห็นผลมีความสุข ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยทรัพย์ มีความสุข ถ้าเป็นเทวดาก็เป็นเทวดาที่มีความสุขสมบูรณ์ ไม่ต้องเป็นเปรตไปก่อนแล้วจึงเป็นเทวดา เหมือนกับนางเปรตทั้ง ๒ นั้น

    ท่านจงตั้งใจไว้ว่า การเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความป่วยไข้ไม่สบายเป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์ ทุกข์มาจากไหน ทุกข์มาจากตัณหาความทะยานอยาก ถ้าเราทำลายตัณหาเสียได้อย่างเดียวเราก็พ้นทุกข์

    ตัณหาส่วนไหนที่เราจะมองกัน คือ ตัณหาจุดหลงใหลใฝ่ฝันไปในเรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสเนื่องด้วยกามารมณ์ อยากได้ในสิ่งเหล่านี้ รู้ว่าตัณหาเป็นทุกข์ มีความโลภ ความอยากได้ อยากจะร่ำรวย มีอาชีพที่ไม่สมควรกับสภาวะของตน ถ้าเป็นคนธรรมดาก็เรียกว่า โลภอยากจะยื้อแย่งทรัพย์สินของบุคคลอื่น ถ้าเป็นพระโยคาวจรก็เรียกว่ามีจิตคิดติดอยู่ในลาภ แม้จะหามาได้โดยชอบธรรม แต่จิตติดอยู่ในลาภนั้นๆ ก็ชื่อว่าเป็นตัณหาในข้อนี้ เป็นคนที่สิ้นความดีหาความดีไม่ได้

    และก็ความอยากอีกอย่างหนึ่ง อยากโกรธ อยากพยาบาท อยากเด่น ติดอยู่ในโลกธรรม แล้วก็อยากจะหลงคิดว่าเราไม่แก่ เราไม่ป่วย เราไม่ตาย มีสภาวะของจิต ไม่เนื่องด้วยความเมตตาปรานี ไม่เนื่องด้วยพรหมวิหารสี่ ไม่มีการเสียสละ

    รวมความว่าตัณหาประเภทนี้เป็นปัจจัยให้เราเกิด มันต้องเกิด ต้องแก่ ต้องป่วย ต้องตาย ต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจอยู่เรื่อยไป เป็นของไม่ดี

    จงน้อมจิตไปถึงคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินสีห์ในมหาสติปัฏฐานสูตร ว่าเราเห็นร่างกายของเรามีความรู้สึกเพียงสักแต่ว่าเห็น จิตไม่ผูกพันอยู่ในร่างกายนั้น ถ้าหากว่าเราเห็น ร่างกายของบุคคลอื่นก็ไม่ผูกพันอยู่ในร่างกายของบุคคลอื่น เราไม่ผูกพันอยู่ในร่างกายของเราหรือร่างกายของบุคคลอื่น หรือทรัพย์สินทั้งหมดในโลก
    เป็นอันว่าเราไม่พอใจในมนุษย์โลก เทวโลกและพรหมโลก สิ่งที่เราต้องการคือพระนิพพาน หาจุดทำลายความรักระหว่างเพศ ทำลายอำนาจของความโลภ ทำลายอำนาจความโกรธ ทำลายอำนาจของความหลง เราศึกษากันมาแล้ว ทรงอารมณ์จิตไว้อย่างนี้ ไม่ช้าดวงจิตของท่านก็จะผ่องใสเหมือนแก้ว เวลาตายแล้วก็ไปนิพพาน ไม่ต้องเกิด ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตาย ไม่ต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ไม่ต้องมีอะไรเป็นทุกข์

    นี่เป็นเรื่องของท่านทั้งหลายที่จะต้องพยายามทรงจิตไว้เสมอ แล้วการทรงจิตไว้เพื่อให้จิตทรงอยู่เนื่องในการจิตจะระงับนิวรณ์ห้าประการคือ กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา ความจริงสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เราต้องต่อสู้จริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นของยาก ดูปฏิปทาของท่านผู้เฒ่า ฟังมาแล้ว อย่าฟังทิ้ง ฟังมาแล้วพึงปฏิบัติตาม ท่านทำได้เราก็ทำได้ ท่านบรรลุได้เราก็บรรลุได้ ที่นี้มาฟังปฏิปทาของท่านต่อไปโดยย่อ

    ท่านกล่าวว่า สมัยที่ท่านได้อสุภสัญญา เห็นกระดูกลอยมา และก็พิจารณาเห็นคนทั้งหมด สัตว์ทั้งหมดเป็นกระดูก ก็จับกระดูกเป็นภาพนิมิต จนกระทั่งจิตทรงตัวฌานสี่ เป็นอันว่าอสุภกรรมฐานนี่เขาบอกว่าเป็นกรรมฐานพิจารณา ทรงจิตไว้อย่างสูงแค่ปฐมฌาน เขาว่ากันอย่างนั้น แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ ถ้าเราฉลาด เราก็เอาปฐมฌานมาทำฌานเสียอย่างสบายๆ ถึงฌานสี่

    ท่านผู้เฒ่าท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านจับเอาอสุภทั้งหมด เมื่อได้อัฏฐิกัง ปฏิกุลังแล้ว ท่านก็ไล่เบี้ยไปเลยตั้งแต่ ๑ ถึง ๑๐ จับภาพไปเลยให้จิตทรง มันเน่าแบบไหน มันเหม็นแบบไหน มันเละแบบไหน มันขึ้นแบบไหน มันพองแบบไหน ท่านทำเป็นฌานสี่ได้หมดทุกอสุภ ๑๐ อย่าง จิตใจทรงตัว เห็นคนเมื่อไร เห็นสัตว์เมื่อไร เน่าหมด เห็นวัตถุธาตุต่างๆ เห็นโครงกระดูก ไม่มีความติดในความสวยสดงดงาม แต่ทว่าเวลานั้นเป็นเรื่องสมถภาวนา เวลานั้นความรู้สึกในระหว่างเพศก็ไม่มี เห็นคนๆ เน่า เห็นสัตว์ๆ เน่า เห็นคนเป็นกระดูก เห็นสัตว์เป็นกระดูกมีสภาพน่าเกลียด แต่จิตยังไม่น้อมไปในด้านวิปัสสนาอย่างสูง มัวแต่เล่นสมถภาวนาธรรมดาเห็นว่าเน่า เห็นว่าเหม็น เห็นว่าน่าเกลียด เห็นว่าโสโครก นี่เป็นสมถภาวนา ถ้าเป็นวิปัสสนาต้องพิจารณาเห็นความเสื่อมความโทรมของร่างกาย มีสภาพไม่เที่ยง เสื่อมไปทีละเล็กละน้อย แล้วในที่สุดมันก็สลายตัว จิตไม่เข้าไปยึดไปถือ ท่านบอกว่าเวลานั้นอารมณ์วิปัสสนาญาณท่านมีนิดหน่อย เล่นเฉพาะสมถภาวนาให้มันช่ำใจเพราะความเข้าใจผิด ตามบันทึกท่านบอกว่า ถ้าเราคิดควบกับวิปัสสนาเสียเวลานั้น ความจริงท่านบอกว่าหลวงพ่อปานก็สอนวิปัสสนา แต่ว่าท่านเป็นคนใจเดียว ถ้าจะเอาอะไรเอาให้มันพังไปเป็นด้านๆ ถ้าไม่ได้ยอมตายเสียดีกว่า ขึ้นชื่อว่าไม่สามารถในชีวิตนี้จะไม่มีเป็นอันขาดสำหรับท่าน ท่านรู้สึกว่ามีกำลังใจเด็ดเดี่ยวมาก

    ในสมัยที่กำลังเล่นอสุภกรรมฐาน แล้วก็มีวิปัสสนาญาณเจือปนนิดหน่อยกันฌานเสื่อม สิ่งที่เป็นศัตรูกับอารมณ์อย่างนี้มันก็เกิด นั่นก็คืออิสตรีที่เป็นเพศตรงกันข้าม สตรีก็ระวังบุรุษ ถ้าบุรุษก็ระวังสตรีจะเข้ามาเล้าโลมด้วยเหตุต่างๆ มาติดต่อสร้างความสัมพันธ์ในฐานะที่อยากจะเป็นคนรักด้วย ดีไม่ดีแกก็พูดเปิดเผยชวนรักชวนแต่งงาน แต่ต้องระวัง และก็จงอย่าไปโทษใครเขา ถ้าเราไปหลงละเมอในคำป้อยอทั้งหลายเหล่านั้น คำชักชวน ความดีของเรามันจะด้วน ฌานจะสลายตัว

    ตามบันทึกของท่านผู้เฒ่าบอกว่ามากันหลายแบบ คนมากันหลายฐานะ เรียกกันว่าความสวยก็มี ความร่ำรวยก็ปรากฏ ศักดิ์ศรีก็ใหญ่ ฐานะก็สูง มากันทุกแบบ ท่านก็เฉย จะมาอย่างไรก็ช่าง โผล่หน้าเข้ามา ท่านเอาความพังคือว่าร่างกายเน่าเข้าตั้งไว้เป็นอสุภสัญญา จนถึงกับถูกออกปากว่าคนหน้าโง่อย่างนี้ไม่เคยพบ สตรีนางนั้นสมัยนั้นเธอยังมีอายุไล่เลี่ยกับท่าน ยังเป็นสาว ท่านกำลังเป็นหนุ่ม แล้วมีเงินนับแสน คนมีเงินนับแสนในสมัยนั้น ในสมัยนี้ก็นับเป็นสิบๆ ล้าน เอาทั้งร่างกายทั้งทรัพย์ทั้งหลายเข้ามาล่อ ท่านก็ไม่ยุ่ง เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เขาพูดทางนี้ เราไปทางโน้น เขาพูดมาทางนี้ ทำไม่รู้ไม่ชี้เสีย เมื่อพูดในด้านความรักระหว่างเพศ ท่านทำเป็นไม่เข้าใจ แต่ว่านางนั้นก็ไม่ละความพยายาม ใช้ความมานะพยายามอยู่ถึง ๑ ปี เป็นอันว่าราชสีห์ไม่สามารถจะฆ่าหมูได้ เพราะหมูตัวนี้กลายเป็นหมูป่า มันมีเขี้ยวเล็บ

    ในที่สุดเขาเบื่อหน่ายถอยไปเอง แต่การถอยไปตนเองก็ยังไม่พอ ยังให้คนอื่นมาติดต่อเป็นตัวแทน ท่านก็เลยบอกว่าท่านต้องปล้ำกับอสุภสัญญาอยู่ตลอดเวลา

    ในที่สุดท่านก็ชนะ ท่านชนะตอนที่จิตใจไม่น้อมไปตามนั้น ความสำคัญในความรักไม่มี ทำให้คนใจด้าน แต่ยังไม่ได้พระอนาคามี คือเรื่องของฌานโลกีย์เท่านั้น ท่านคุยให้ฟังว่าฌานโลกีย์นี่ต้องระวังมันเสียจริงๆ เผลอไม่ได้ เผลอเมื่อไรอารมณ์แวบเข้ามาทันที เคราะห์ดีที่ท่านไม่ยอมแพ้มัน

    เป็นอันว่าเมื่อท่านไม่ยอมแพ้ มาตุคามผู้เป็นศัตรูกับอสุภกรรมฐานเขาก็แพ้ไปเอง ในช่วงนั้นท่านบอกว่ามันมีความลำบากใจไม่น้อย หนีเสือปะจระเข้อยู่ตลอดเวลา คนนี้หมดไป คนใหม่เข้ามา มีลีลาด้วยประการทั้งปวง ถ้ามีอารมณ์ธรรมดาก็ทนไม่ไหว แต่ท่านก็เลยมัดกับอารมณ์ฌานในอสุภกรรมฐานหนักขึ้น ยิ่งมีคนมากมาเท่าไร เมื่อคนจะขึ้นกุฏิท่านก็จับอารมณ์เข้าฌานสี่ พิจารณาภาพของสตรีเป็นซากศพเน่าเละไปหมด

    เป็นอันว่าท่านชนะ เมื่อชนะแล้ว อาจารย์ของท่านก็ยิ้ม คือหลวงพ่อปาน เมื่อเห็นหน้าท่าน เข้าท่านก็ยิ้ม บอกว่าชนะแล้วหรือ ท่านก็กราบเรียนหลวงพ่อปานว่าชนะแล้ว หลวงพ่อปานท่านบอกว่ายังไม่ชนะจริง การชนะอย่างนี้เป็นประเภทจับเสือกดคอเอาไว้เท่านั้น เรียกว่าเรากดคอเสือไม่ให้เสือกัด คอยระวัง กำลังฌานถ้าพลาดเมื่อไรเมื่อนั้นเสือกัด หลวงพ่อปานก็สั่งว่าอย่าประมาท กรรมฐานกองใดถ้าได้แล้ว ถ้าจะทำกรรมฐานกองอื่นต่อไป ต้องใช้กรรมฐานกองเดิมให้มีอารมณ์จุใจ ให้มีอารมณ์ทรงตัวเสียก่อน จงอย่าทิ้งของเก่า จงอย่าเดินไปหาของใหม่ ต้องไล่เบี้ยของเก่าก่อน เมื่อไล่เบี้ยของเก่าครบแล้ว จึงจะจับของใหม่ต่อไป แล้วท่านก็บอกต่อไปว่าของใหม่ของเธอยังจะปรากฏขึ้นในระยะคืนนี้ นี่พระอาจารย์ท่านดี ท่านบอกอย่างนั้น แต่ว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน อย่าคิดว่าอาตมาเป็นครูท่านเวลานี้ จะบอกบ้างไม่ได้หรือ ก็ขอตอบคำเดียวว่าไม่ขอวัดรอยอาจารย์ ครูบาอาจารย์ทำมาอย่างนั้นอาตมาไม่ขอวัดรอยท่าน จะขอแนะนำท่านไปตามคัลลองธรรมดาปกติ เป็นสายกลางเท่านั้น จะไม่จี้จุดเฉพาะ เว้นไว้แต่ท่านใดมีความสามารถจะตัดสังโยชน์ได้ อย่างนั้นจะเตือนให้นิดๆ พอเป็นนิมิตเครื่องหมายเท่านั้น จะไม่บอกชัด ทั้งนี้เพราะว่าการพยากรณ์เป็นหน้าที่ขององค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์

    มาฟังปฏิปทาของท่านผู้เฒ่าต่อไป อันนี้จะไม่เล่าให้ยาวนัก ลัดๆ จะได้มีประโยชน์แก่บรรดาท่านพุทธบริษัท เมื่อหลวงพ่อปานพยากรณ์มานั้น ว่ากรรมฐานเก่าจะเกิด ท่านก็ระงับธรรมปีติ ต้องระวังให้ดี คำว่าปีติ ความอิ่มใจ ความปลื้มใจ ความหวังมันเกิดขึ้นมาเมื่อไร การสลายตัวของความดีมันจะปรากฏเมื่อนั้น ข้อนี้บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านต้องระวัง เมื่อนมัสการครูบาอาจารย์กลับมาที่ของตน อย่าลืมว่าท่านผู้นี้ท่านเป็นนักปฏิบัติที่ไม่มีเวลา คือคำว่าเวลาแน่นอนของท่านไม่มี ท่านพอใจเมื่อไรก็เมื่อนั้นแหละ ท่านไม่มีท่าในการปฏิบัติ ไม่ใช่ต้องไปหาท่านั่งเครียดขัดสมาธิ ท่านใช้อิริยาบถทุกอย่าง แม้แต่นั่งเล่นปลายสะพานน้ำมองดูน้ำใส ก็เอาใจจับน้ำเป็นสมาธิ จะดูอะไรสักอย่างเมื่อสมัยที่มีความช่ำชองในอสุภกรรมฐาน ท่านก็เอาทุกอย่างเป็นอสุภไปเสียหมด อสุภะ แปลว่าไม่สวยงาม มันมีความสกปรกเป็นภาคพื้น แม้แต่ผ้าใหม่ก็มองเห็นสกปรก ว่าสีสันวรรณะทั้งหลายมาจากความสกปรก สิ่งที่เข้ามาแปดเปื้อนมันเป็นของสกปรก เนื้อด้ายที่เขานำมาก็เนื้อด้ายมาจากที่สกปรก ถ้าเป็นผ้าฝ้ายๆ มันก็มีพืชพันธุ์มาจากวัตถุธาตุ คือฝ้ายที่มีความสกปรก ท่านเห็นเป็นอสุภกรรมฐานไปหมด มันก็เชื่องสบาย แต่อย่าลืม ฌานโลกีย์พังง่าย

    เมื่อระงับกำลังใจก็มากุฏิ นอนเล่นๆ แบบสบายๆ พอใจสบายก็จับอสุภสัญญาคือจับอานาปานสติ พอทรงตัว พอจับปับท่านก็ทรงตัวแล้ว เสียเวลาไม่ถึง ๑ นาที ต่อจากนั้นอัฏฐิกัง ปฏิกุลัง ก็ปรากฏ ท่านกำหนดกระดูกว่าเป็นของไม่ดี มาตอนนี้ท่านบอกมีอารมณ์เคลิ้มไปนิดจิตพลาดจากกระดูกไป เผลอมีสภาพเหมือนหลับวูบไปนิดหนึ่ง นั่นเป็นอาการของกรรมฐานเดิมสลายตัว หายไปเพราะกรรมฐานของใหม่จะปรากฏเมื่อจิตวูบไปหน่อยหนึ่ง มีสภาพคล้ายจะหลับชั่วขณะประเดี๋ยวเดียวจิตก็สว่างโพล่งขึ้นมาใหม่ ตอนนี้ปรากฏมีแสงไฟปรากฏเป็นดวงใหม่ขึ้นในเบื้องหน้า

    ตอนนี้ท่านไม่รอแล้ว ท่านเป็นผู้ชำนาญในวิสุทธิมรรค ความจริงลูกศิษย์ของหลวงพ่อปานสมัยนั้นที่เอาจริงเอาจังเขามีความชำนาญในวิสุทธิมรรคเหมือนกันหมด พอดวงไปปรากฏขึ้นท่านก็จับเตโชกสิณ จับเตโชกสิณอยู่พักเดียว เวลานั้นเป็นเวลาบ่ายประมาณสองโมงเศษ ตามที่ท่านเขียนไว้ ท่านบอกเห็นแสงไปปรากฏขึ้น ภาวนาว่า เตโชกสิณัง ดูแสงไฟ เมื่อจิตเป็นฌานสี่อยู่แล้ว เป็นของไม่ยาก แสงไฟก็ปรากฏชัด มันก็ลุกท่วมมากขึ้นทุกทีๆ เกือบจะเต็มท้องอากาศ ท่านก็ทราบว่านี่เป็นอุคคหนิมิตใหญ่

    ต่อมาไม่ช้าไม่นาน นับเวลาผ่านไปประมาณสักสิบนาที ไฟก็รวมสภาพคงที่ในลักษณะเดิมแต่เปลี่ยนจากแสงไฟเดิมกลายเป็นสีเหลือง สีเหลืองแก่ ท่านก็ภาวนา จิตจับภาพ มันทรงไว้เสียแล้วนี่ก็อสุภกรรมฐานเป็นฌานสี่ อะไรมันก็ไม่ยาก แสงไฟจากสีเหลืองก็กลายเป็นเหลืองอ่อนลงไปๆ จนเหลือเหลืองเล็กน้อย เป็นขาว จากขาวทั้งหมดเป็นประกายพรึก เป็นอัปปนาสมาธิ ชั่วขณะเดียว อีกไม่กี่นาที จิตก็ทรงฌานสี่ในกสิณอันเป็นของเก่า อันนี้ท่านบอกว่าท่านเล่ากสิณเป็นเตโชกสิณอยู่อย่างนี้ ไม่ยอมเอาอย่างอื่น ทั้งหมดเอาอยู่ ๗ วันให้มันช่ำใจ นึกขึ้นมาเวลาไหน แม้แต่เวลาเดินไปบิณฑบาท นึกถึงภาพกสิณก็ปรากฏชัด เป็นประกายพรึกแจ่มใส จะไปอาบน้ำ น้ำน้อยต้องคอยกัน เวลานั่งอยู่อย่างนั้นก็หลีกจากเพื่อนที่เขาคุยกันมาห่างนิดหนึ่ง ตาไม่หลับ ตาลืมใจจับภาพกสิณ กสิณก็ปรากฏชัด มีความช่ำใจ บังคับให้สูงให้ต่ำก็ได้

    เมื่อท่านเล่นกสิณกองเดิมจนชำนาญได้ถึงฌานสี่ ทรงได้ตามเวลานี่ภายในเจ็ดวัน หลังจากนั้นก็ไล่เบี้ยกสิณทั้งหมด คือ ปถวีกสิณ เตโชกสิณ เป็นการทรงตัวแล้ว แล้วก็วาโยกสิณ อาโปกสิณ โลหิตกสิณ ปีตกสิณ นีลกสิณ โอทาตกสิณ อาโลกสิณ อากาสกสิณ กสิณทั้งหมด ๙ กอง เสร็จภายใน ๑ เดือน เมื่อเสร็จภายใน ๑ เดือนแล้ว ก็ตั้งใจว่านี่เป็นโอกาสที่จะสามารถสร้างอภิญญาสมาบัติได้ แต่ทว่ากำลังใจของท่านคิดว่าเรื่องอภิญญาสมาบัติทิ้งไว้ก่อน เรามาว่าสมาบัติแปดกันดีกว่า จะได้เป็นทุน ถ้าบังเอิญตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหานเมื่อไร เพราะอาศัยสมาบัติแปดเป็นพื้นฐาน เราก็จะเป็นอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ฉะนั้นท่านจึงจับกสิณกองใดกองหนึ่งให้ทรงตัว แล้วเลิกกสิณนั้น และจับอากาสานัญจายตนะ พิจารณาอากาศ วิญญาณัญจายตนะ พิจารณาวิญญาณ อากิญจัญญายตนะ พิจารณาเห็นว่ารูปทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ท่านบอกว่าอีนี่ทำยากหน่อย สามอย่างนั่นกล้วยๆ ทั้งนั้น จับแผลบเดียว วันเดียว คำว่าวันนี่ไม่ได้เต็มวัน เดี๋ยวเดียวก็อารมณ์ทรงตัว สำหรับเนวสัญญานาสัญญายตนะชักจะยุ่งๆ สักนิด เพราะคำว่าเนวสัญญานาสัญญายตนะ มีสัญญาทำเหมือนคนไม่มีสัญญา สัญญาแปลว่าความจำ ความจำมีอยู่ ทำเป็นว่าคนไม่มีความจำ ใครเขาด่าก็ทำเฉย ไม่รู้ เหมือนสังขารุเปกขาญาณ ใครเขาชมก็ไม่สนใจ มันจะหนาวมากจะมีผ้าน้อยก็ปล่อยมันหนาว แค่ไรก็ช่างมัน ทำเหมือนคนไม่หนาว เอาจิตเข้าจับอยู่ในฌานไว้ตลอดเวลา มันจะร้อนจัดเกินไปก็ไม่สนใจ อยากจะร้อนก็เชิญร้อน มันเป็นของไม่แปลก ร้อนเท่านี้ไม่สำคัญ ตายลงนรกร้อนกว่านี้ ใครจะว่าดีชั่วไม่รับรู้ ใครจะประกาศตัวเป็นศัตรู ใครจะเป็นไม่สำคัญ เป็นอันว่าเห็นหน้าคนก็ทักทายปราศรัยกันตามปกติ ใครจะเกลียด ใครจะรัก ไม่สนใจ ตามสบายของเขา เราเท่านั้นเป็นผู้ทำจิตให้ดีแล้วก็หมดเรื่อง ท่านบอกว่าท่านปลุกปล้ำกับเนวสัญญานาสัญญายตนะจริงๆ มาประมาณ ๑๕ วันถึงชนะแน่นอน จึงทรงกำลังจิตได้เป็นปกติ

    คราวนี้ก็เล่นฌาน จากฌานที่ ๘ ที่ ๗ ที่ ๖ ที่ ๕ ที่ ๔ ที่ ๓ ที่ ๒ ที่ ๑ ไล่ฌานที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ที่ ๖ ที่ ๗ ที่ ๘ เล่นไปเล่นมา เล่นมาเล่นไป ให้มันคล่องตัว หลับตาลืมตา นั่งอยู่นอนอยู่ยืนอยู่ ไม่เลือกเวลา ว่ามันจะคล่อง อีตัวนี้ตั้งเวลาไว้ ๑ เดือนนี่จะไม่เอาดีทางไหน จะเอาดีในทางการเล่นฌาน เข้าฌานตามลำดับฌาน จะเข้าฌานสลับฌาน คือเข้า ฌานที่ ๑ แล้วออกฌานที่ ๘ เข้าฌานที่ ๘ ออกฌานที่ ๒ เข้าฌานที่ ๒ ออกฌานที่ ๔ เข้าฌานที่ ๔ ออกฌานที่ ๗ ว่ากันสลับกันไปตามแบบนี้จนคล่อง เมื่อคล่องตัวดีแล้วมีอารมณ์ทรงตัว ก็เชื่อว่าเป็นผู้คล่องในสมาบัติแปด เมื่อมีความคล่องในสมาบัติแปดก็มีความอิ่มใจ คิดว่าถ้าเราสามารถทรงอารมณ์อย่างนี้ได้ ถ้าเราสามารถตัดกิเลสให้เป็นสมุจเฉทปหาน เราก็จะเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ตามที่เราได้คิดไว้เบื้องต้น

    สำหรับวันนี้ บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน เวลาไม่อำนวยไม่ช่วยให้พูดต่อไป เพราะหมดเวลาเสียแล้ว ต่อแต่นี้ไปก็ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายทรงกำลังกายตามปกติตามอัธยาศัยของท่าน จะนั่งก็ได้ จะยืนก็ได้ จะเดินก็ได้ จะนอนก็ได้ ให้เป็นตามอัธยาศัย จงใช้กำลังใจอย่างท่านผู้เฒ่า ผลที่พึงปรารถนาจะสมหวังแก่ท่านด้วยประการทั้งปวง สวัสดี


    ข้อความบางตอนจาก"หนังสือ ปฏิปทาท่านผู้เฒ่า"
    โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • LP Ruesri1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.2 KB
      เปิดดู:
      617
    • Sadhu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.7 KB
      เปิดดู:
      69
  9. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    การทำตนให้หลุดพ้นจากสังสารวัฎ
    <iframe src="https://www.youtube.com/embed/BuVhzJCp8PE" allowfullscreen="" width="560" height="315" frameborder="0"></iframe>
    Published on Mar 18, 2014
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    อารมณ์ขันของในหลวง สู่เรื่องเล่าสุดประทับใจ
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/yyabzwfluSQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
    สองยาม Published on Apr 5, 2016
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    สมเด็จพระนางพิมพาภิกษุณี ๑
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/V1pqU49BTpk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    hiphoplanla
    Uploaded on Dec 23, 2011

    Playlist : http://www.youtube.com/playlist?list
    วิมุตติรัตนมาลี ตอน สมเด็จพระนางพิมพาภิกษุณี
    พระพรหมโมลี (วิลาส ญาณวโร ป.ธ. ๙)
    ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง : http://www.84000.or
    สมเด็จพระนางพิมพาภิกษุณี ๒
    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/XhVPhPU3gNY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    สิ่งที่เป็นมงคล ( มงคล ๓๘ )
    ๑๖. การประพฤติธรรม
    ขยายความมงคลข้อที่ ๑๖ การประพฤติธรรม เป็นอุดมมงคล การประพฤติธรรมคือ การประพฤติดีประพฤติชอบทางกาย วาจา ใจ อันได้แก่ประพฤติอยู่ในกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการหรือสุจริตกรรม ๑๐ ประการ
    คือ

    ๑. งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ทั้งด้วยตนเองและใช้ผู้อื่นฆ่า
    ๒. งดเว้นจากการถือเอาของที่เจ้าของเขาไม่อนุญาต
    ๓. งดเว้นจากการประพฤติประเวณี
    ๔. งดเว้นจากการพูดเท็จ
    ๕. งดเว้นจากการพูดส่อเสียด
    ๖. งดเว้นจากการพูดคำหยาบ
    ๗. งดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้สาระ
    ๘. ไม่คิดเพ่งเล็งอยากได้ของของผู้อื่นมาเป็นของตน
    ๙. ไม่คิดพยาบาทปองร้ายผู้อื่น
    ๑๐. มีความเห็นถูกตรง ไม่เห็นผิดเป็นมิจฉาทิฎฐิ คือมีความเห็นว่ามารดาบิดามีคุณ นรกสวรรค์มี
    จริง เป็นต้น

    การประพฤติกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนี้ จัดเป็นอุดมมงคลเพราะเป็นปัจจัยให้ได้บรรลุฌาน มรรค
    ผล นิพพานในชาตินี้หรือชาติหน้า เป็นปัจจัยให้เกิดแต่ในสุคติโลกสวรรค์เท่านั้น หากยังไม่ปรินิพพานไปเสีย
    ก่อน

    ด้วยเหตุนี้การประพฤติธรรมจึงเป็นอุดมมงคล

    http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html#M2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    The Strenght To Get Up are you going to finish strong
    <iframe src="https://www.youtube.com/embed/M5vNaX4acgc" allowfullscreen="" width="560" height="315" frameborder="0"></iframe>

    สำหรับคนที่กำลังท้อแท้หมดกำลังใจ

    คลิปที่คุณอาจเสียน้ำตาให้..
    The strength to get up:
    Are you going to finish strong?

    ขอบคุณมากครับ
    ผมชื่อนิค เป็นเกียรติมากครับที่ได้มาอยู่ที่นี้กับพวกคุณ
    ผมไม่มีแขนขา
    แต่ผมมีน่องเล็กๆนี้
    อย่างนี้ครับ
    ชอบมั๊ยล่ะ
    เจ๋งใช่ไหมครับ
    นี้เลยเทคโน
    1.. 2.. 3.. 4..
    โดนใจป่าว
    สุดยอดเลยใช่ไหม
    เยี่ยม!

    ความจริงแล้ว ระหว่างทางคุณอาจล้มลงอย่างนี้
    พร้อมมั๊ย...ล้มแล้ว...
    พวกคุณทำอย่างไรครับ เวลาที่ล้มลง
    ลุกขึ้นใช่มั๊ย
    ทุกคนรู้ว่าต้องลุกขึ้น แล้วเดินต่อไม่งั้นคงไปไม่ถึงไหน

    แต่มีบางครั้งในชีวิตนะครับ ที่คุณล้มลง
    แล้วคุณรู้สึกว่าคุณไม่มีกำลังที่จะลุกขึ้น
    คุณคิดว่าคุณมีความหวังมั๊ย

    ผมล้มลงอยู่ตรงนี้
    ก้มหน้าอยู่ตรงนี้
    ผมไม่มีแขนขา
    ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะลุกขึ้น
    แต่มันไม่ใช่เลยครับ
    คุณรู้มั๊ย ผมจะพยายามเป็นร้อยครั้ง
    เพื่อที่จะลุกขึ้น ทุกครั้งที่ผมล้มลง

    ถ้าผมล้ม แล้วยอมแพ้
    คุณคิดว่าผมจะลุกขึ้นได้มั๊ย
    ไม่…
    แต่ถ้าผมพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    มันจะไม่ใช่จุดจบ
    มันสำคัญนะครับ ว่าคุณจะสิ้นสุดลงยังไง
    ถ้าคุณจะผ่านมันไปอย่างเข้มแข็ง
    คุณต้องอาศัยกำลังใจที่จะลุกขึ้น
    อย่างนี้ครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043


    . .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ธรรมะบรรเทิงกับหลวงพ่อ
    <iframe src="https://www.youtube.com/embed/yPpOD0033SI" allowfullscreen="" width="560" height="315" frameborder="0"></iframe>

    2530B E 03 01 x264
    denchaisai ;-Published on Aug 9, 2013

    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จันทาราม
    หลวงพ่อฤาษีตอบปัญหา A(lunar law;-หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ตอบปัญหาธรรมะ ที่บ้าน สายลม)



    <iframe src="https://www.youtube.com/embed/S330rhm5c3c" allowfullscreen="" width="560" height="315" frameborder="0"></iframe>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    103 ภัยใหญ่ของมนุษย์

    ปัญหา (เทวดาทูลถาม) อะไรหนอยังคนให้เกิด อะไรของเขาหนอย่อมวิ่งพล่าน อะไรของเขาหนอเวียนว่ายไปยังสงสาร อะไรหนอเป็นภัยใหญ่ของเขา ?

    พุทธดำรัส ตอบ “ตัณหายังคนให้เกิด จิตของเขาย่อมวิ่งพล่าน สัตว์เวียนว่ายไปยังสงสาร ทุกข์เป็นภัยใหญ่ของเขา”

    ปฐมชนสูตรที่ ๕ ส.สํ. (๑๖๗)
    ตบ. ๑๕ : ๕๑ ตท. ๑๕ : ๕๐
    ตอ. K.S. I : ๕๒
     
  18. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    แถลงสำนักพระราชวังในหลวงเสด็จสวรรคต
    ข่าวราชสำนัก วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 19:25 น.


    แถลงสำนักพระราชวัง ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต เวลา 15.52 น. สิริพระชนมพรรษา 89

    ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2557 ตามที่ สำนักพระราชวัง ได้แถลงให้ทราบ
    เป็นระยะแล้วนั้น

    แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิราราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองพระราชสมบัติได้ 70 ปี


    สำนักพระราชวัง
    13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559
    แถลงสำนักพระราชวังในหลวงเสด็จสวรรคต : INN News
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • KingDusit.jpg
      ขนาดไฟล์:
      109.6 KB
      เปิดดู:
      92
    • Sadhu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.7 KB
      เปิดดู:
      72
  19. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,953
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ - ฤาษีสอนลูก (ล่องใต้ ภาค 1 )[ตอนเดียวจบ]

    <iframe src="https://www.youtube.com/embed/YKRf1I3NM6w" allowfullscreen="" width="560" height="315" frameborder="0"></iframe>
    โกปิโก้ โกยารักษ์
    Published on Jun 7, 2015

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ - ฤาษีสอนลูก (ล่องใต้ ภาค 2 )
    ****** ฤาษีสอนลูกภาคใต้*****
    มีเนื้อหาที่ดีมาก ได้ความรู้ ที่หน้าพงศาวดารไทยไม่มี
    01- เล่าเรื่องตามทางจากอุทัยธานี, ชัยนาท, สุพรรณบุรี-เรื่องเสือฝ้าย, ขุนช้างขุนแผน
    03-เล่าเรื่องขุนช้างขุนแผน (ต่อ), วัดป่าเลไลย, อ.อู่ทอง-พระเจ้าอู่ทอง, นครปฐม-พระยาพาน
    04- เล่าเรื่องเจ้าแก้ว (ขุนแผน) (ต่อ), วิชาปลุกตน
    05- เล่าเรื่องเจ้าแก้ว (ขุนแผน) (ต่อ), นครปฐม-พระปฐมเจดีย์, สายการประกาศพระศาสนา
    06- เล่าเรื่องเพชรบุรี, เรื่องน้ำมัน, อ.ปราณบุรี
    07-เล่าเรื่องนครศรีธรรมราช, สมเด็จพระเจ้าตากสิน
    " คำนำ "ตู้พระธรรมหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ๆ นี้ เป็นการรวมธรรม ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้สั่งสอนเอาไว้ เป็นตอน ๆ คือ 1ม้วนเทปบ้าง 2 ม้วนเทปบ้างหรือหลายม้วนเทปบ้าง ข้าพฯ ผู้จัดทำ จึงจัดรวบรวม คำสั่งสอนที่ จบ ใน 1 ตลับเทปบ้าง 2 ตล้บเทปบ้าง หรือหลายม้วนเทปบ้างเอาไว้ใน " ตู้พระธรรมหลวงพ่อฤาษีลิงดำ " ด้วยความหวังว่า..ท่านทั้งหลายจะได้สะดวกกับการค้นหา ในหลักธรรมของท่าน ซึ่งสมัยก่อนนั้น ข้าพฯ อยากจะฟังในเรื่องที่ ต้องการจะฟัง ก็ต้อง นั่งค้นหาแล้วหาอีก ขอให้ได้รับความสุข สงบจากธรรมทุกท่านเทอญ.


     

แชร์หน้านี้