จิตพุทธะสว่างขึ้นได้ ด้วยรหัสบรรทัดเดียว
ในผู้ไม่ยึดติดขั้นตอนการปฏิบัติจิต
ถ้าเชื่อในความจริงที่ว่าขั้นตอนทั้งหลาย
เป็นสังขารธรรมเพื่อนำพาไปเข้าถึง
วิสังขารธรรม
คับ
จิตพุทธะสว่างขึ้นได้ในชั่วปัจจุบันขณะจิตเดียว
ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 17 พฤษภาคม 2021.
หน้า 1 ของ 49
-
-
จิตพุทธะสว่างขึ้นได้ ด้วยการตั้งจิต แม้นในขณะ สดับบรรทัดเดียว
ในผู้ใส่ใจขั้นตอนการปฏิบัติจิต
อย่าใช้เชื่อ แต่จงอาจหาญที่จะพิสูจน์ขั้นตอนทั้งหลาย
ยกเห็นว่าเป็นสังขารธรรมพาห่างข้าศึก แต่ก็ติดวังวนอุปทาน
จนกว่าจะมีปฏิภาณปัญญาอันยิ่ง "ไปสัมผัสวิสังขารธรรม"
แจ้งสัจจที่มีอยู่โดยไร้ปัจจัยการใด ตรัสรู้เองโดยชอบ
เลิกโดน ตัวที่นี่!! มันหลอกให้ พกกระสจวยห้อยคอ หลอกแหละ -
สังขารธรรม คือ ธรรมที่เกิดขึ้น
โดย"มีปัจจัย" ปรุงแต่ง ได้แก่ ธรรมอื่นๆที่ไม่ใช่นิพพาน
ส่วนวิสังขารธรรม คือ ธรรมที่ไม่ปรากฎ "ไม่มีปัจจัย" ปรุงแต่ง ได้แก่ นิพพาน
สังขตธรรม คือ ธรรมที่เกิดดับ ได้แก่ ธรรมอื่นๆ ทั้งหลาย
(ที่ไม่ใช่นิพพาน) -
"ปัจจัย" ต่างๆ ที่จะเกื้อหนุนให้เกิดสังขารธรรม (ธรรมปรุงแต่ง)
ได้แก่สภาพธรรม
ของรูปทั้งหมด
ของจิตทั้งหมด
ของเจตสิกทั้งหมด
ทั้งนี้ ทั้งนั้น สังขารธรรมคือธรรมที่ต้องรู้ แต่ต้องไม่ยึดถือ คับ -
ขอโอกาสจากท่านปราบคับ
-
อูย ลืมเห้น
-
[๔๘๔] สังขารขันธ์ มีในสมัยนั้น เป็นไฉน ?
ผัสสะ เจตนา วิตก วิจาร เอกัคคตา ชีวิตินทรีย์ หรือนามธรรม
ที่อิงอาศัยเกิดขึ้นแม้อื่นใด เว้นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ มีอยู่ใน
สมัยนั้น นี้ชื่อว่า สังขารขันธ์มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต.
...............
ลุงแมว ลองพิจารณา จาก บทนี้ นี่เป็นธรรม ที่เป็นกลางๆ เป็นของกลาง
ปัจจัยทั้งหลายปรุ่งแต่งขึ้น เรียกว่า สังขาร
มีผัสสะก็เป็นผัสสะบริสุทธิ์ จึงเรียกว่า เป็นกลาง
จะเรียกโดยไวพจน์ วิสังขารก้ได้ เพราะ วิสังขาร ก็เป็นไวพจน์เดียวกับนิพพาน
เหมือน ที่ลุงแมว ยกคำหลวงตามหาบัวมาใช้
จิตที่เป็นหนึ่งกับธรรมธาตุ จิตบริสุทธิ์ เป้นไวพจน์เดียวกับนิพพาน
นี่เรียก ว่าไวพจน์
อาหาร วิชชาและวิมุตติ ก็มีสองส่วน
ส่วนมีอุปธิ หรือ ส่วนให้ผล เพียงแต่ว่า ให้ไปเสวยผลกุศล ไปสุคติเมื่อ ยังไม่บรรลุธรรม
อีกส่วน เป็นส่วนพ้นอุปธิ ไม่มีผลกุศลให้เสวย เป้นกลางของจริง จนกว่าจะบรรลุธรรม
ส่วนที่พ้นอุปธิ จะเรียกว่า ธรรมขั้น วิสังขาร
ส่วนที่มีอุปธิ ยังเป็นธรรม ฝ่าย สังขาร -
การรู้ซื่อๆ ของลุงแมว ไม่ใช่การรู้ซื่อๆ ของ จิตเดิมแท้ ไม่ใช่การรู้จากของไม่เกิดไม่ดับ
ที่ปล่อยมันเกิดเองดับเอง
เพราะหากการรู้จากของไม่เกิดไม่ดับ จะมาภาวนาทำไมให้เมื่อยตุ้ม
การรู้ซื่อๆ เป้นตัวล่อ ให้เข้าไปสู่ ความเป็นหนึ่ง จิตหนึ่ง จนปรากฎสิ่งไม่เกิดไม่ดับ
เมื่อไม่เกิดไม่ดับ ปรากฎแล้ว ก็จบเลย
หากมัวตั้งเป่า ไม่ต้องทำไร เอารู้ที่ไม่เกิดไม่ดับนั่นมาคอยรู้ นี่ ตายห่านเลย
กลายเป็นนมผสมเมลามีน เหมือนจะลงรูนะ แต่แป๊ก -
จิตไม่โน้มไป น้อมไปมันจะเอาอะไรไปสปาร์กอะ
อุปมา อาบน้ำปะแห้งให้ห๊อมหอม จุดธูปจุดเทียน และนั่งลง นั่งเสร็จละอิ่มบุญ เห็นภาพตามมะ?
วางจิตไม่ถูกจุดตั้งกะเริ่ม ก็กลายเป็นติดดีไป
และวางจิตไม่ถูก ขั้นตอน process ภายในระหว่างนั่งก็จะผิดไปหมด กระดุมเม็ดแรกมันผิดไง -
จิตก่อนคิด นั่นแหล่ะจิตพุทธะ..จะตีความทำไมให้เยอะแยะ.......ชิมิคระ...เหมียว
-
โน้มไป โน้มไปคืออะไร ถ้าพูดง่ายๆก็จิตแบบสมณะ สละเรือน เป็นผู้ไม่มีเรือน ไม่มีเพื่อนสอง จะเอาบรรลุธรรม แต่รักพี่เสียดายน้อง ไม่สละ ยังติดหอบสารพัด ติดตบแต่งขันธ์
ต้องจับจุดตัวเอง จังหวะไหนนะที่จิตเรามันเหมือนอยากสละออก นั่นละจำจุดนั้นไว้ และโน้มมาใช้ ลงมือทำ -
-
เนื่องจากมีความเห็นของบางท่าน
ใช้ภาษาอธิบายแจกแจงธรรมใน
กะมู้ว์ลุงแมว
อย่างน่าเชื่อถือ
แต่เวทนาลุงแมวไม่ถึงขั้นพอใจ ไม่พอใจ
แต่
หากเยาวชนได้มาอ่านข้อความในเม้นต์
นั้นแล้วอาจเกิดความเข้าใจผิดว่า
การแจกแจงธรรมจะต้องใช้ภาษา
ถึงขั้นนี้ด้วยหยอ จึงจะเข้า
ใจได้อย่างแจ่มชัด
และอาจเข้าใจว่าลุงสนับสนุนการ
แจกแจงธรรมด้วยภาษา
นี้ในกะมู้ว์
ซึ่งในเป็นจริงมันไม่ใช่ภาษาจรรโลง
และพิทักษ์พระสัทธรรม
จึงแสดงการปฏิเสธภาษาขั้นสูงที่ใช้
แจกแจงธรรมด้วย
การใช้อำนาจปิดกะมู้ว์คับโชว์ฮับ -
-
และไม่ใข่จิตว่างโล่งโปร่งเบาสบายฮับ -
ตามความเหมาะสมเพื่อการผ่อนปรน
ความตึงเครียดคับ -
-
แค่อธิบายมรรค 8 ก็ผิดถูกๆกันแล้ว ตัดความฟุ้งซ่านในธรรมส่วนจิตพุทธะ นิพพานอัตตาอนัตตา(เถียงกันชนะแต่ไม่เกิดประโยชน์) แต่ไปวิจัยธรรมส่วนมรรคยังมีประโยชน์กว่า -
รู้แบบสิ้นคิด
ใช่เปล่าคับ -
นอกจากออกตัวคุยเล่น เอาฮา ไม่เน้นให้ใครสอน โอเคคุยเลยจะไร้สาระกี่เลเวลจัดไปเลย
หน้า 1 ของ 49