ชรวย ณ สุนทรเรื่องอาถรรพณ์ณ'บ้านร้อยอันพันอย่าง'

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 16 สิงหาคม 2015.

  1. pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ชรวย ณ สุนทรเรื่องอาถรรพณ์ณ'บ้าน ร้อยอันพันอย่าง' : พระเครื่องสรณะคนดัง เรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู
    "บ้าน ๑๐๐ อัน ๑,๐๐๐ อย่าง" ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-สันป่าตอง ต.หารแก้ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ซึ่งงานหลายๆ ชิ้นหาดูไม่ได้
    จากที่ใดในโลก แม้จะมีคนมาขอซื้อด้วยจำนวนเงินถึงหลักสิบล้าน แต่ "อ.ชรวย ณ สุนทร" ผู้เป็นเจ้าของก็ไม่ยอมขาย ครั้งหนึ่งมีนักธุรกิจชาวจีน
    ติดต่อขอซื้อโครงการทั้งหมดกว่า ๓๐๐ ล้านบาท แต่ อ.ชรวย ยืนยันว่า ขอเก็บไว้เป็นมรดกแก่ชนรุ่นหลังเพื่อเป็นสถานที่เรียนรู้และสัมผัสศิลป
    วัฒนธรรมล้านนาแท้ๆ ดังนั้นการขายไม่ใช่เรื่องยากแต่เพียงอยากให้ผลงานทุกชิ้นที่นี่อยู่คู่กับเมืองไทยต่อไปตลอดกาล

    อ.ชรวย เล่าให้ฟังว่า ด้วยใจหัวใจที่รักในงานศิลปะแรกเริ่มของการก่อสร้าง เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๑ ได้ไปกู้เงินก้อนหนึ่งมาลงทุนซื้อบ้าน
    เพื่อมาทำเป็นสถานที่สะสมงานแกะสลักโดยเฉพาะ ซึ่งช่วงที่รวบรวมสะสมงานแกะสลักไม้ ชรวยถูกชาวบ้านบางคนเรียกขาน
    เป็น "ครูผีบ้า" เพราะเขาได้ไปซื้อยุ้งข้าวที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นยุ้งของผีปอบ ผีกะ มาจำนวน ๓ หลัง เพื่อมาสร้างเป็นบ้านร้อยอันพันอย่างนั้น คน
    ไม่ซื้อเพราะเชื่อว่ามีอาถรรพณ์ เป็นอัปมงคลที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยพินาศวิบัติยิ่งซื้อ ๓ หลังแล้วมาปลูกสร้างรวมกันที่เรียกว่า "สามเส้า" เขาไม่ทำ
    กัน

    ใครจะมองว่าอย่างไร แต่ในมุมของตัวเองมองว่าเป็น "พระรัตนตรัย ซึ่งประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์" จะไม่ดีได้
    อย่างไร ยุ้งข้าวหลังแรกที่ซื้อมาเป็นยุ้งข้าวผีปอบ มีเสา ๘ ต้น โดยตั้งราคาไว้ที่ ๘๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่มีใครซื้อเพราะเป็นยุ้งข้าวผีปอบ จึงซื้อมา
    ได้ราคา ๔๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น หลังที่ ๒ มีเสา ๖ ต้น เจ้าของถูกรถชนตายไม่มีคนซื้อ ส่วนหลังที่ ๓ ก็มีประวัติไม่ดีเช่นกัน นอกจากนี้แล้วบริเวณ
    ที่ปลูกยังคร่อมบ่อน้ำเก่าๆ ยิ่งเพิ่มความอาถรรพณ์เข้าไปอีก

    เมื่อครั้งที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ใครๆ ก็ปรามาสว่าเป็นอัปมงคลที่สุด ยิ่งมีผึ้งหลวงมาทำรังก็ผสมความเชื่อว่า ยุ้งข้าว
    สามเส้าต้องอาถรรพณ์เพราะมีสัตว์มีพิษเข้ามาอาศัย แต่ตนเองมองว่าเป็นมงคลอย่างยิ่ง
    เพราะเมื่อมีผึ้งมาทำรังเราย่อมได้น้ำผึ้ง
    บริสุทธิ์ไว้กิน ขณะเดียวกัน คืนแรกฝันว่าขับรถไปชนคนตาย คืนต่อมาฝันว่านั่งรถบรรทุกศพที่ชนตายไว้คืนก่อน ก็เกิดความ
    กังวลใจขึ้นมาจึงไปนั่งสวดคาถาชินบัญชร โดยตั้งชื่อยุ้งข้าวสามเส้าว่า "ศาลาพระสุปฏิปันโณ" โดยอัญเชิญรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหม
    รังสี แกะสลักมาประดิษฐาน และฝันว่ามีคนมาให้เลขเด็ดรุ่งเช้าไปซื้อหวยใต้ดิน ๓ ตัวตรง เลขเดียว ๓,๐๐๐ บาท ไม่น่าเชื่อว่าจะถูก ๓ ตัวตรง
    จริงๆ


    นอกจากนี้แลัวยังได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า "หากมีบุญบารมีขอให้เจอคนดีๆ คนมีบุญบารมีมาเยี่ยมชมศาลา
    พระสุปฏิปันโณ ในที่สุดปาฏิหาริย์ คำอธิษฐานก็เป็นจริง สิ่งไม่เคยคาดคิดมาก่อนและถือเป็นมหามงคลที่สุดในชีวิต คือ สมเด็จพระนางเจ้าฯ
    พระบรมราชินีนาถเสด็จฯ เป็นการส่วนประองค์ถึง ๓ ครั้ง และได้มาลั่นฆ้องให้ด้วย จากนั้นก็มีพระราชวงศ์อีกหลายพระองค์เสด็จฯ กษัตริย์ต่าง
    ประเทศ ร่วมทั้งคนดังทั้งในและต่างประเทศแวะเวียนมาเยี่ยมไม่เคยขาด ใครที่เคยว่า ยุ้งข้าวสามเส้าอาถรรพณ์นั้น บัดนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มี
    อาถรรพณ์ใดๆ มีแต่สิ่งที่ถือว่าเป็นสุดยอดมหามงคล แสดงว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สามารถเรียกคนมาดูได้ราวปาฏิหาริย์"


    "ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยมีความเชื่ออะไรเกี่ยวกับปาฏิหาริย์เลย แต่ภายหลังมีเรื่องที่อยากจะหาคำอธิบายเกิดขึ้นกับตนเองหลายครั้ง
    ทำให้ทุกวันนี้อิทธิปาฏิหาริย์เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง แม้จะให้คำอธิบายและหาคำตอบด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ไม่ได้ก็ตาม" อ.ชรวยกล่าว

    สำหรับสิ่งมงคลที่ อ.ชรวย ใช้และพกติดตัวตลอดเวลา คือ เครื่องรางที่แกะจากไม้พญางิ้วดำ (พญาแห่งไม้ทั้งมวล) พลีต้นยืนตาย
    พราย ทั้งนี้ อ.ชรวย ได้ให้เหตุผลว่า ทุกวันนี้เลี้ยงชีวิตเลี้ยงครอบครัวด้วยไม้ทั้งสิ้น ไม้มีบุญคุณต่อตัวเองและครอบครัว จึงหาไม้ที่เป็นมงคล
    มาแกะเป็นพระเครื่องและเครื่องราง ไม้ที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ก็คือ ต้นนางพญางิ้วดำ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีเทพรักษา โบราณท่านว่าไว้เป็นต้นไม้
    ขององค์อินทร์ เกิดในป่าลึกโดยเฉพาะป่ามีอาถรรพณ์เร้นลับ เนื้อไม้มีสีดำ แข็งแกร่ง เป็นมัน จึงมักนิยมพลีมาเพื่อแกะเป็นวัตถุมงคลอาถรรพณ์
    แต่ก็ไม่ใช่จะพบเจอง่ายๆ

    โบราณจารย์ว่าหลายร้อยปีทีเดียวถึงจะเกิดสักต้นหนึ่ง จัดเป็นของทนสิทธิ์มหาวิเศษชั้นดีชั้นเลิศชนิดหนึ่ง เมื่อถึงเวลาอันสมควร
    เทพเทวาที่ดูแลปกปักรักษางิ้วดำ จะพลีต้นยืนตายพรายทิ้งไว้ให้ผู้มีบุญบารมีนำไปสร้างประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนา ซึ่งถ้าหากกลายสภาพ
    เป็นหิน (คต) เมื่อใด ก็จะยิ่งมีพลังอานุภาพแรงกล้าเป็นทวีคูณ พญางิ้วดำมีอานุภาพดีเด่นทางมหาอุดคงกระพัน แคล้วคลาด โชคลาภ เมตตา
    มหานิยม ป้องกันคุณไสยมนต์ดำ และภูตผีปีศาจ วิญญาณร้ายเกรงกลัวนัก

    "บ้าน ๑๐๐ อัน ๑,๐๐๐ อย่าง" ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-สันป่าตอง ต.หารแก้ว อ.หางดง (ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ ๑๙-๒๐)
    เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวตามรอยพระราชอาคันตุกะ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. ช่วงแรกๆ ของการเปิดบ้านนั้น เป็นการเปิด
    ให้ชมฟรี แต่ว่าก็ทำให้ชรวยต้องประสบกับการถูกคนแอบเข้ามาขโมยของเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีทัวร์มาลงเพื่อขอใช้ห้องน้ำ ทำให้งาน
    บางส่วนถูกขโมย บางส่วนเสียหาย จนท้ายที่สุดชรวยต้องใช้วิธีเก็บค่าเข้าชมเพื่อเป็นการคัดผู้เข้าชมไปในตัว ชั้นล่าง ๕๐ บาท ชั้นบน ๑๐๐ บาท
    ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท โดยมีชากาแฟและของว่างให้รับประทาน และทุกๆ วันพระนอกจากใส่บาตรพระป่าสายหลวงปู่ชาแล้วยังตั้งโรงทาน
    แต่หากใครที่เบี้ยน้อยหอยน้อยหรือพาหมู่คณะมาเพื่อศึกษาหาความรู้ก็สามารถติดต่อล่วงหน้าเป็นพิเศษกับชรวยได้ สำหรับผู้ที่ต้องการให้
    อ.ชรวย เป็นวิทยากรบรรยายนำชมบ้าน ควรติดต่อก่อนที่ โทร.๐-๕๓๘๒-๒๖๔๙ และ ๐๘-๙๘๕๐-๗๑๒๖

    เปลี่ยนซ่องเป็นธรรมสถาน
    ปาฏิหาริย์ที่ อ.ชรวย ต้องเล่าให้ทุกคนฟัง คือ ที่ดินในการสร้างสวนธรรมะ เพราะเป็นที่ดินเดิมเคยเป็นซ่อง
    โสเภณีมาก่อน ตอนที่บ้านร้อยอันพันอย่างสร้างใหม่ๆ กิจการโสเภณีก็ยังดำเนินการอยู่ ถึงขนาดต้องสร้างกำแพงสูงกั้นไว้ เท่าที่ทราบ นอกจาก
    การค้าน้ำกามแล้ว มีทั้งคนตาย เป็นสถานที่ทำแท้ง รวมทั้งมีต้นไม้ที่คนเคยแขวนคอตายก็ยังมีอยู่ ภายหลังตำรวจมาทลายจนกลายเป็นบ้านร้าง
    อยู่ระยะหนึ่ง ด้วยเหตุที่พื้นที่ติดกันจึงอยากซื้อเพื่อขยายพื้นที่ให้กว้างขวาง แต่มีหลายคนแนะนำไม่ให้ซื้อ เพราะเป็นที่อัปมงคลต้อง
    อาถรรพณ์


    ด้วยความอยากได้มากๆ โดยเจ้าของเดิมเรียกราคาสูงถึง ๑ ล้านบาทแต่ไม่มีเงินซื้อ จนกระทั่งเจ้าของที่ดินตายอยู่ๆ ก็มีคนมาเสนอ
    ขายเป็น ๒๒๐,๐๐๐ บาท เท่านั้น เพราะรับจำนองไว้ จึงไปนั่งสมาธิในที่ดินดังกล่าว โดยได้จุดธูป ๓๒ ดอก พร้อมกับเอา
    หัวเช็ดแผ่นดิน ๓ ครั้ง และตั้งจิตอธิษฐานว่า "แผ่นดินนี้เป็นของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นเจ้าของแผ่นดินข้าพเจ้าขอแผ่นดินนี้มาครอบครอง
    โดยปาฏิหาริย์ หากได้มาครอบครองจะนำมาสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมทั้งหมด" โดยเข้าไปนั่งสมาธิอยู่ ๓ คืน


    ในที่สุดคำอธิษฐานและปาฏิหาริย์ก็เป็นจริง อยู่ๆ มีลูกค้าท่านหนึ่ง (หมออุกฤษ์ บวรเวียงรนันท์) มาซื้องานแกะสลักที่บ้านร้อยอัน
    พันอย่าง โดยได้โอนเงินเกินมา ๒ แสนบาท ทั้งนี้ ได้โทรศัพท์กลับไปทักท้วงว่าโอนเงินเกินมาทำไม และได้รับคำตอบว่า "ช่วยซื้อที่ดิน ๒ แสน
    บาท" สุดท้ายแล้วจากที่ดิน ๑ ล้านบาทจ่ายเงินซื้อจริงๆ ๒ หมื่นบาทเท่านั้น จากนั้นก็สามารถซื้อที่ดินอีก ๔ แปลงติดต่อกัน ซึ่งกว่าจะได้ต้องไป
    จุดธูป นั่งสมาธิ สวดมนต์บนพื้นดินที่จะซื้อนับสิบๆ ครั้ง ในที่สุดก็ได้ที่ดินครบทั้ง ๕ แปลง เมื่อได้ที่ดินมาก็ได้สร้างสถานที่
    ปฏิบัติธรรมดังที่อธิษฐานจิตไว้ เมื่อสร้างเสร็จไม่ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่ไหนมาสวดถอนอาถรรพณ์ แต่ได้สวดมนต์กรวดน้ำแผ่เมตตาให้
    สัมภเวสีบนที่ดิน


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้