ช่วยแผ่เมตตายื้อชีวิตน้องเอย เด็กติดรถตู้ 5 ชั่วโมงจนสลบ สมองบวม โคม่า!!! ด่วน ไม่งั้น...

อนุโมทนากับทุกท่านที่ส่งพลังบุญช่วยเหลือน้อง
หัวอก คนเป็นพ่อ แม่ ใจแทบขาด ขอให้น้องแข็งแรง กลับมาเป็นปกติด้วยแรงบุญนะคะ

 

ขอบารมีพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ช่วยคุ้มครองน้องเอยด้วย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรเปิดโอกาสให้น้องเอยได้สร้างความดี สร้างบารมีเสียก่อนเถิด สาธุ

 

ขออานิสงส์ผลบุญจากการทำบุญให้ชีวิตสัตว์ในวันนี้ของข้าพเจ้ากับคุณพ่อ อันได้แก่ปลาช่อน 2 ปลาไหล 4 ปลาหมอ 4 หอยขมอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งสังฆทานยาอีก 1 ชุด และถวายปัจจัยทำบุญร่วมสร้างพระประทานปางมารวิชัยอีก 200.- บาท ข้าพเจ้าขออธิษฐานจิตขอถวายบุญนี้ให้แก่องค์เทพเทวดาที่ดูแลปกปักษ์รักษากายสังขารของน้องเอย และขออุิทิศบุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของน้องเอยขอโปรดงดโทษ และอโหสิกรรมแก่น้องเอย ให้ผ่านพ้นวิบากกรรม เพื่อขอให้น้องเอยได้อยู่สร้างบุญสร้างกุศลและขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรของตัวของน้องเอยเอง และขออานิสงส์นี้ผลบุญนี้จงสำเร็จแก่เพื่อนสมาชิกทุกท่านและอ.แบ๊งค์ ด้วยเทอญ..สาธุค่ะ ^^

** ทุกท่านได้ทำเต็มที่แล้วไม่ว่าผลจะดีหรือร้าย..ก็ขอให้ใช้สติคิดว่า..ไม่มีสิ่งใดใหญ่เกินกรรม.. **

 

บันทึกย้อนหลังเมื่อวาน (อาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2556)

ช่วงบ่าย ผมทำพิธีกรรมฐาน ต่อเทียนอายุึขัยให้น้อง ให้มีอายุต่อไป เทียนที่ดับไปแล้วก็จุดให้ติด


ช่วงเย็น 5 โมงไปแล้ว ผมเดินทางไปถึงโรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อไปช่วยน้องถึงที่เตียง
แต่คุณแม่น้อง มาไม่ได้เนื่องจากติดนั่งสมาธิที่วัดบางพลีใหญ่ สมุทรปราการ นั่งนานมากๆ จนถึง 1 ทุ่ม (ในขณะที่ผมอยู่โรงพยาบาลคุยกับคุณยายและญาติๆ ของน้องเอย ตามภาพคลิปที่ให้ดู) แต่ผมบอกให้แม่น้องเอยแผ่เมตตาระบุเจาะจงให้เต่า ตะพาบไปก่อนหน้านั้นแล้ว แม่น้องเอย ทำตามทุกอย่างอย่างเชื่อมั่น


และที่สำคัญผมสอบถามเกี่ยวกับว่า มีคนทำกรรมกับเต่าและตะพาบมาไหมในครอบครัว โดยการต้มเป็นๆ เผาๆ เป็นๆ คำตอบคือ มีจริง และทำบ่อย คนที่ทำคือ ยายกับตา ของน้องเอยเอง (ตา ตายไปแล้วตอนน้องเอยอายุได้ 8 เดือน คุณตาตายตอนอายุ 60 ปี ถือว่าอายุสั้นเพราะกรรมฆ่าเต่า)

แม้ครอบครัวนี้จะไม่ได้ทำมานานหลายสิบปีแล้วก่อนน้องเกิด แต่อยากบอกว่า ด้วยอายุของเต่า มันยาวนานเป็นหลายสิบจนถึงร้อยปี ดังนั้นการจองเวรและการอาฆาตของมันจะยาวนานถึงร้อยปีเช่นกัน ดังนั้นหากมีลูกหลานเกิดมาในตระกูลภายในร้อยปี ก็ต้องรับกรรมเช่นกัน แต่ตัวน้องเอยเองก็ต้องมีกรรมของน้องเอยเองด้วยในชาติใดชาติหนึ่ง กรรมจึงประสานกัน ไม่ใช่ว่าลูกหลานทุกคนจะได้รับกรรมหมด อย่างน้องลี พี่ชายของน้องเอย (บ้านนี้มีลูก 2 คน) น้องลีก็ไม่เห็นได้รับกรรมอะไรเลย เพราะไม่มีกรรมรวมกับบรรพบุรุษมา

แต่กรรมมาลงที่น้องเอย ให้ต้องมาพบเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะกรรมบันดาลให้ส่งผล

ตอนนี้แม่กับพ่อน้องเอย เข้าใจที่ผมอธิบายหมดแล้ว จึงอโหสิกรรมให้กับครูที่โรงเรียนทั้งหมด และปล่อยให้คดีเป็นเรื่องของคดีต่อไป แต่ในใจไม่ได้พยาบาทซึ่งกันแล้ว เพราะเข้าใจในกฎแห่งกรรมที่ผมเล่าดี เพราะว่าน้องเอยจะไม่หายเลยหากพ่อแม่ยังโกรธครูอยู่ การแผ่เมตตาก็ไม่ใช่การแผ่ "เมตตา" ที่แท้จริง เมตตาที่แท้จริงคือไม่โกรธ ไม่พยาบาท และต้องสำนึกในกรรมนั้น ยอมรับในกรรมนั้น และค่อยแผ่บุญออกไป จึงจะสำเร็จ


ราวๆ ประมาณ เกือบ 1 ทุ่ม
ผมพาญาติๆ และคุณยายน้องเอย ราว 4-5 คน จับมือล้อมเตียงน้องเอยในห้องไอซียู และแผ่เมตตาช่วยเป็นหมู่คณะ สวดมนต์ ไตรสรณะคมณ์ สวดอิติปิโส พุทธคุณ อารธนาอัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยมาคุ้มครองน้อง และบารมีพระพิฆเนศมาดูแลให้น้องแข็งแรง ให้ร่างกายตอบสนองกับยาที่แพทย์ให้ ทำอยู่ราว 10 นาที (ถ่ายรูปไม่ได้ นางพยาบาลคุมเข้ม ไม่ให้ถ่าย) เลยเสียดายที่ไม่มีภาพความประทับใจที่ทุกคนช่วยร่วมใจกันแผ่เมตตาหมู่รอบเตียงน้อง (วิธีเดียวกันกับที่ผมนำญาติๆ ทำให้สาวมาดเมกะแดนซ์จนฟื้น)

พอทำเสร็จ ก็สบายใจกันทุกคน ญาติๆ บอกรู้สึกโล่งอกที่ได้ทำแบบนี้ เพราะไม่มีใครเคยนำให้ทำมาก่อน (ผมนำให้ทำคนแรก)

เมื่อทำเสร็จก็พบคุณพ่อน้องเอย ยืนรอดูอยู่หน้าห้องไอซียูตั้งนานแล้ว เห็นหมดว่าผมนำญาติๆ ทำแบบนี้ให้ ผมจึงออกมาอธิบายว่าทำไมต้องมาสวดมนต์หมู่ล้อมเตียงให้น้อง

พ่อจึงเข้าใจ และผมก็มาอธิบายเรื่องกรรมของน้องเอยทั้งหมดตั้งแต่ต้นให้คุณพ่อน้องเอยฟังอีกรอบ เพราะตอนแรกเขายังไม่มา

คุณพ่อเขาจดทุกคำอธิษฐานผมไป อย่างเชื่อมั่น เพราะเขาอยากให้ลูกตนเองหายและกลับมา

พ่อน้องเอยชื่อ "คุณเอก" เขาได้แนะนำ แฟนเพจ ในเฟซบุ๊ค "น้องเอย"

ทุกท่านเข้าไปให้กำลังใจน้องได้นะครับ



(กลับมาหาพ่อให้ได้นะลูก...เอย )
(ภาพนี้มีคนกดไลค์ 6 หมื่น 5 พันกว่า และ 1 พันกว่าแชร์แล้ว เห็นแล้วได้อ่านข้อความที่พ่อเอกได้โพสไว้ น้ำตาจะไหล)


และไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเช้าวันนี้ (8 เมษายน 2556) คุณแม่รายงานว่า หน้าตาน้องเอยสดใสขึ้น และอาการไม่ทรุดแล้ว มีแต่ทรงตัว นับว่าเป็นสัญญาณที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง
แม้ว่าร่างกายยังไม่ตอบสนอง ก็ตาม แต่ก็เป็นก้าวแรกที่จะพาให้น้องรอดจากความตายไปได้

ผมเจราจากับท่านเจ้ากรรมนายเวร และท่านพยายมว่า

"ขอโอกาสให้น้องเอย ฟื้นกลับมา สร้างบุญกุศลด้วยตัวน้องเอง กลับมาหาพ่อแม่ที่ยังรอคอยด้วยความเป็นห่วง ขอความยุติธรรมให้น้องเอยด้วย เพราะว่าน้องเอยไม่ได้ก่อกรรมด้วยตัวเอง เป็นทายาทกรรมจากคุณตา และบรรพบุรุษเท่านั้น มันไม่เป็นธรรมกับน้องเอยหากจะเอาชีวิตน้องเอยไป ก็เท่ากับปิดกั้นไม่ให้น้องเอยได้ทันรู้จัก ทาน ศีล ภาวนา ด้วยตัวของน้องเองเลย น้องยังเด็กเกินไปที่จะทันเรียนรู้การทำกุศล ขอโอกาสให้น้องกลับมาแก้ไขวิบากกรรมนั้นด้วยตัวของน้องเอง ขอบุญกุศลที่คุณแม่คุณพ่อช่วยกันทำ และญาติช่วยกันทำ ร่วมทั้งตัวผมที่เร่งภาวนาให้อยู่อย่างไม่ขาด ขอบิณฑบาตชีวิตน้องเอย กลับคืนมาด้วยเถิด ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรับช่วยนำพาดวงวิญญาณที่หลุดไปแล้วของน้องกลับเข้าร่างด้วยเถิด...."

 

ขอส่งกำลังใจให้น้องเอยนะคะ

 

เช้าวันอังคารที่ 9 เมษายน 2556 ทำบุญตักบาตรยื้อชีวิตให้น้องเอย ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่









หลวงตาจากวัดเกิดการอุดม ที่ทำบุญอยู่บ่อยๆ ได้เมตตาเอาชื่อน้องเอยไปสวดให้ในมือท่านเลย












































ฝากชะตาน้องเอย รายงานต่อพระพิฆเนศอุ้มเด็กทรงทราบการทำบุญตักบาตรเช้าวันนี้

 

ป้าขอรบกวนขอสอบถามท่านสมาชิกฯ ช่วยตอบป้าด้วยนะคะ วันนี้เวลาประมาณ 9.30 น ป้าไปบริจาคโลหิตกับสภากาชาด ในระหว่าที่บริจาคป้าก็ตั้งจิต ขอบุญกุศลจากการบริจาคโลหิต ครั้งนี้ให้กับน้องเอย และเจ้ากตมนายเวรของน้องเอย ป้านึกถึงหน้าน้องเอย แต่ป้าไม่ได้เอ่ยชื่อ นามสกุล ของน้อง บุญครั้งนี้จะสำเร็จถึงน้องเอย ไม๊คะ
คือป้ารีบไปลงชื่อบริจาคก็เลยไม่ได้จดชื่อ นามสกุล ของน้องเค้าน่ะค่ะ
ป้ารบกวนท่านสมาชิกฯ ท่านใดรู้ช่วยแนะนำป้าด้วยค่ะ
ยอบคุณค่ะ

 

อนุโมทนาครับ

ทุกท่านที่ได้ทำบุญกุศลให้น้องเอยมาแล้วนะครับ

หากอยากให้บุญถึงเต็มที่จริงๆ นะครับ

อยากให้ทุกท่านมากรวดน้ำโดยใช้น้ำจริงๆ ในการกรวดนะครับ



ข้าพเจ้าขออุทิศบุญนี้ให้ น้องเอย ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ ผู้ที่เกิด วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2552

ขอส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้ว เช่น................................. (ให้พูดถึงบุญที่ตนเองทำมาแล้ว เมื่อใดก็ตาม ที่ตนได้ทำมา แต่ลืมกรวดน้ำระบุเจาะจงให้น้องเอย)

ขอผลบุญทั้งหมดนี้ จงส่งผลให้กับน้องเอย ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ ให้ฟื้นคืนสติสัมปชัญญะมาในเร็ววันนี้ กายสังขาร กายวิญญาณ จงแข็งแรงมีกำลังสมบูรณ์ อย่าได้ขาดออกจากกันไปไหน หากวิญญาณหลุดไปแล้ว ขอบุญนี้จงนำพาดวงจิตของน้องเอยกลับคืนสู่ร่าง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ชั้น4 ที่ซึ่งน้องนอนอยู่ และขอให้ท่านเจ้ากรรมนายเวรของน้อง ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ เด็กหรือผู้ใหญ่ หญิงหรือชาติ ในอดีตชาติ หรือชาตินี้ ที่น้องเอยเคยล่วงเกินไว้แล้ว ด้วยกาย วาจา ใจ และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่เป็นสัตว์ที่ถูกเผา ถูกต้ม ถูกนึ่ง ถูกความร้อนทำให้ตายเป็นๆ ให้ขาดอากาศหายใจ ตายในความร้อนอย่างทรมาน ทุกๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นเต่า ตะพาบ กุ้งหอยปู ปลา ปลาไหล กบ เขียด อึ่ง..... ที่ตัวน้องเอยกระทำมาเองในอดีตชาติ หรือที่คุณตา คุณยายหรือบรรพบุรุษของน้องทำมามากน้อยเพียงใดก็ตาม ขอพวกท่านทั้งหลายเหล่านี้

ได้โปรดเมตตางดซึ่งโทษทัณฑ์ทั้งหลาย ขอให้กรรมชั่วใดที่ส่งผลสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว ให้น้องเอยได้รับวิบากกรรมไปแล้ว ขอจงอย่าส่งผลกรรมชั่วอันใดอีก และหากกรรมชั่วอันใด ที่ส่งผลอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ ขอได้โปรดเมตตาลดทอนลงเป็นเพียงเศษกรรม และสลายหายไปเป็นอโหสิกรรมในเร็ววันนี้ด้วยเถิด

ขออำนาจแห่งพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และผลบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้แล้ว โปรดคุ้มครองน้องเอย หรือ ด.ญ. มนัสนันท์ ทองภู่ ให้รอดพ้นจากวิบากกรรม และรอดพ้นความตายครั้งนี้ให้จงได้ด้วยเถิด และขอให้บุญนี้จงส่งผลให้กับ ขน หนัง ฟัน เล็บ เกศา โลมา นขา ทันตา ตะโจ อวัยวะ น้อยใหญ่ ของร่างกาย ทั้งภายใน ภายนอก ระบบสมอง เส้นเลืิอดน้อยใหญ่ ตับ ไต ไส้พุง หัวใจ การไหลเวียนโลหิต ระบบควบคุมร่างกายทั้งหมดจงทำงานเป็นปกติ ไร้โรคภัยเบียบเบียน และจงกลับคืนมาเพื่อเร่งสร้างบุญ ทำทาน รักษาศีล ภาวนา ด้วยตัวของน้องเอยเองต่อไปด้วยเถิด.......... สาธุ



*****หากน้ำถูกเท หมดก่อนแต่ยัง อธิษฐานจิตไม่ครบตามที่ผมบอกข้างต้น ก็ไม่เป็นไรครับ ให้วางขันกรวดน้ำลง และพนมพูดออกเสียงต่อ จนจบ ไม่จำเป็นต้องพูดให้เหมือนทุกๆ คำแบบนี้ก็ได้ครับ แต่เอาใจความสำคัญประมาณนี้ สำคัญว่า ให้ระบุว่า บุญอะไรที่เราทำ เช่นปล่อยปลา บริจาค เลือด สร้างพระ หรือนั่งกรรมฐานเป้นต้น ให้ระบุไปครับ และให้เอ่ยชื่อจริงนามสกุลจริง วันเดือนปีเกิดของน้องให้ชัดเจน จะได้ไม่ผิดตัว ใครนึกถึงหน้าน้องออกได้ก็ดีมากครับ ในขณะที่กรวดน้ำอธิษฐานจิตไป จะได้ส่งกระแสบุญไปถูกตัวพอดี จะได้มั่นใจว่า บุญนี้ ถึงน้องเอยคนนี้แน่ๆ ที่สำคัญอย่า่ลืมระบุตัวเจ้ากรรมนายเวร และสาเหตจุแห่งกรรมไปด้วยนะครับ กรรมชั่วนั้นจะได้ถูดลดทอนลงไปได้โดยง่าย



คำอธิษฐานจิตนี้ ใช้ได้กับทุกบุญที่ทุกท่านตั้งใจทำให้น้องเอยนะครับ

ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ สวดมนต์ ภาวนา หรือใส่บาตร หรือบุญอื่นใดก็ตาม ใช้บทขออโหสิกรรมนี้ได้หมดครับ สำคัญจิตต้องเชื่อมั่นว่า บุญที่เราได้ทำแล้วนั้น ช่วยได้จริงๆ
อย่าทำไปโดยคิดลบว่า รอดหรืิอไม่รอด ต้องมั่นใจ และศรัทธาก่อนว่าบุญนี้ช่วยได้จริง นะครับ ถึงจะได้ผล

 

ขอบคุณมากค่ะ กระจ่างเลยค่ะ ป้าจะนำไปปฏิบัติค่ะ หวังว่าจะช่วยให้น้องเอย กลับมาปกติโดยเร็ว

 

ขอส่งกำลังใจให้น้องเอย...และอนุโมทนา กับ อ.แบงค์ ด้วยครับ

 

อนุโมทนา ครับ

 

กำลังจะไปนั่งกรรมฐาน จนถึงเที่ยงคืน ให้น้องเอย แล้ววันศุกร์นี้ จะไปเยี่ยมน้องเอย เพื่อสวดมนต์ให้น้องเอยในไอซียูครับ
เสียดายที่วันพุธ พฤหัส ไม่ว่างเลย อยากไปช่วยทุกๆ วันเลย

หากน้องเอย สามารถยื้อสังขารตนเองไว้ได้ ถึงหลังสงกรานต์ไปแล้ว
คือหลัง 16 เมษายนไปแล้ว ยังอยู่ดี น้องเอยเขาก็จะรอดแล้วครับ หากไม่ถึงก็คงต้องเป็นไปตามวาระกรรม เพราะเจ้ากรรมนายเวรเขากะจะเอาให้สาสมเลยครับ
ต้องภาวนายื้อน้องเอยไว้จนไปถึงหลังสงกรานต์นะครับ ทำบุญวันปีใหม่ไทยอย่าลืมอุทิศให้น้องเอยด้วยนะครับ


(บันทึก 9 เมษายน 2556 เวลา 10.30)

 

นั่งกรรมฐาน 5 ทุ่มกว่าถึงเกือบตี 3 ช่วยน้องเอย
เมื่อคืน นั่งตามวิญญาณน้องเอย จากเจ้ากรรมนายเวร คืนสู่ร่าง










วันนี้ (10 เมษายน 2556) ณ วัดเขียนเขต เพื่อถวายสังฆทานให้น้องเอย แข็งแรง

 

เมื่อคืน นี้ นั่งสมาธิให้น้องเอย จนถึง เกือบ ตี 3 ราวๆ 3ขั่วโมง ก็พบว่ามีผู้หญิงใส่สไบ ผมยาวๆ มาพาน้องเอยไปวิ่งเล่น และบอกว่า ให้ไปอยู่กับเขาไหม
ผมบอกว่า ไม่ได้นะ น้องเอยมีแม่ในชาตินี้อยู่ จะพาไปเล่นที่ไหนไม่ได้ ให้กลับเข้าร่าง ผมจึงตั้งจิตดึงวิญญาณน้องเอยกลับมาจากผู้หญิงใส่สไบคนนั้น
แต่เธอก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรผม เธอบอกว่าไม่ได้เป็นเจ้ากรรมนายเวรอะไรของน้องเอย แต่อยากเล่นกับน้องเอยเท่านั้นเพราะน้องน่ารักมาก
ผมบอกว่าน้องเอยมีแม่พ่อที่รออยู่ ให้คุณปล่อยน้องเอยกลับมา เธอจึงยอม ผมก็พาน้องเอยกลับมาที่โรงพยาบาลที่เตียงที่มีร่างเธอนอนอยู๋
พอเมื่อกี้ผมโทรบอกแม่น้องเอยถึงนิมิตที่เห็น ว่ามีผู้หญิงใส่สไบมาเล่นจูงมือน้องเอย กระโดดโลดเต้น เดินตามเธออยู่ แม่น้องเอยก็บอกว่า
กำลังคิดว่าจะไปบนบาน แม่นาคพระโขนง ให้ช่วยอยู่พอดี !!!!

ขนลุกซู่ ทั้งผม ทั้งแม่น้องเอย ผมเลยบอกว่าดีเลยครับ ให้ไปบนเลย แสดงว่าที่ผมเห็นผู้หญิืงใส่สไบในสมาธินั้น เป็นท่านแม่นาคนั่นเอง !!!!


(บันทึก 10 เมษายน 2556)

 

เอาใจช่วยนะครับ อาจารย์แบงค์ ขอให้น้องเขาฟื้นด้วยเทอญครับ..

 

วันนี้ อาการน้องเอยยังคงปกติ ไม่ทรุดลง และทรงตัวอยู่เช่นเดิม (ภาพนี้เป็นภาพวันนี้ 11 เมษายน 2556)







และผมได้นัดทางแม่อ้อ (รัตนา) แม่ของน้องเอย ว่า วันศุกร์ที่ 12 เมษายนนี้ (พรุ่งนี้) ผมจะไปสวดมนต์ นั่งกรรมฐาน ข้่างเตียงน้องเอยในห้องไอซียูให้อีกรอบ
เพื่อขอความเมตตาจากเจ้ากรรมนายเวร ราวๆ 1 ชั่วโมง วันนี้ได้แนะนำคุณแม่อ้อ ให้ไปถวายเทียน เล่มใหญ่ๆ 1 คู่ เพื่อต่ออายุขัยของน้องเอยไปอีก
จนกว่าแพทย์จะหาหนทางเยียวยาได้ และได้แนะนำตามที่ผมเห็นในสมาธิว่า ให้คุณแม่ขอพรพระโพธิสัตว์กวนอิมให้คุ้มครองน้อง และได้ให้ถือศีลกินเจ
เพื่ออุทิศบุญให้น้องเอย จะเกิดอานิสงส์มากเลยหากทำทั้งพ่อและแม่ ปรากฏว่าคุณแม่น้องเอยบอกว่าตั้งใจจะทำอยู่แล้ว และกำลังทำอยู่พอดี
และได้สวดมนต์ถึงพระแม่กวนอิม 108 จบ แล้ว

หวังว่าสิ่งที่ผมเห็น กับสิ่งที่แม่ทำอยู่พอดี มันตรงกัน แล้วจะทำให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้
พรุ่งนี้ผมจะไปตามที่นัดไว้ เพื่อยื้อชีวิตน้องเอยอย่างเต็มที่ ถึงข้างเตียงในห้องไอซียู (ช่วงบ่าย)
ขอกำลังใจ กำลังบุญกุศลจากทุกท่านด้วยนะครับ

 

เจ้ากรรมนายเวร แรงเหลือเกิน มีความอาฆาตมากเลยแม้ผลบุญที่ส่งไปเจ้ากรรมนายเวรยังไม่ยอมเปิดจิตเปิดใจที่จะรับ สิ่งที่จะช่วยน้องได้มากก็คือผลบุญจากกรรมฐานครับ ผลบุญใดที่ผมได้กระทำมารวมถึงบารมีครูบาอาจารย์ ชอนานิสงส์ผลบุญนี้ ไปถึงเจ้ากรรมนายเวรของน้องเอยให้รับผลบุญของข้าพเจ้าและอโหสิกรรมให้น้องเอยด้วยเทอญ .....Dank

 

ดูจากรูปเหมือนน้องเขา แค่นอนหลับ
หวังอย่างยิ่งว่าปฏิหารคงเกิด และ
ด้วยแรงบุญที่ทุกๆคนช่วยกันอธิฐานและส่งบุญ
ให้เจ้ากรรมนายเวรของน้องเขา
ขอให้เจ้ากรรมนายเวรปลดปล่อย
และอโหสิกรรมให้น้องเขาด้วยเถอะ...สาธุ...

 

สวดมนต์ให้น้องเอย แ่ผ่เมตตา 12เมษา56


กำลังจะออกไปช่วย แผ่เมตตาให้น้องเอย ข้างเตียง ราวๆ หนึ่งชั่วโมง นะครับ ไปเจอคุณแม่รัตนาด้วย นัดไว้แล้ว และไปพร้อมกับพระพิฆเนศปางนาคปรก เพื่อช่วยเหลือคุ้มครองน้องเอย ให้ฟื้นคืนสติในเร็ววันนี้
(บันทึก 12 เมษายน 2556)











12 เมษายน 2556 ผมเดินทางไปสวดมนต์นั่งสมาธิให้น้องเอย 1 ชั่วโมงกว่าๆ ผมสวดบท พาหุงมหากา โพชฌังคปริต อิติปิโส พุทธคุณ 108 จบ หมดรอบลูกประคำ
บทพระคาถาเมตตาพรหมวิหารภาวนา (เมตตาใหญ่) และได้นำพระพิฆเนศนาคปรกที่ตั้งใจนำไปช่วยน้องไปวางไว้ข้างเตียงน้องตอนสวดมนต์ตั้งแต่ต้นจนจบ และนั่งสมาธิต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวร

ไม่น่าเชื่อว่า ผมเห็นขาและตัวน้องเอยนอนนิ่งๆ อยู่ดีๆ ก็กระดิกได้และกระตุกเบาๆ ขึ้นมาเล็กน้อย ตอนแรกคิดว่าตาฝาด ก็ก้มหน้าสวดมนต์ต่อ พอสักพักขาก็กระตุกขึ้นมาให้เห็นกับตา คราวนี้ชัวร์เลย ผมตกใจ คิดว่าเป็นอาการที่ตอบสนองของน้องเอยแล้ว ผมเรียกแม่และยายและญาติเข้ามาดู ว่าน้องเอยร่างกระตุกบ่อยมากๆ ทั้งที่ขา และที่บริเวณอก (ไม่ใช่ชักเกร็งนะครับ)

พอเอามือไปเกาจักจี้ที่เท้า น้องชักเท้าหนีได้เล็กน้อยเหมือนคนจักจี้ นิ้วเท้ากระดิกได้เพราะทนจักจี้ไม่ไหว (แบบถูกจักจี้แล้วจะมีอาการคันจักจี้ที่ฝ่าเท้าจนทนไม่ได้ งอนิ้วไปมา) ผมลองทั้งสองขา ก็ปรากฏว่าตอบโต้การจักจี้ของผมทั้งคู่ ผมดีใจมาก คุณยายคุณแม่ก็มาเห็นญาติๆ ก็เห็นกับตา บอกว่าเพิ่งเคยเห็นแบบนี้ ว่าน้องเอยกระตุกที่ขาทั้งสองขวา สลับกันไปมา แต่นานๆ จะกระตุก จะกระดิกที ไม่ใช่กระตุกตลอด เพราะคุณแม่และญาติๆ บอกว่า ไม่เคยเห็นเลย เห็นแต่น้องนอนนิ่งตลอด ไม่มีอาการเคลื่อนไหวเลย และปกติหากว่าคนที่นอนสลบเป็นเจ้าหญิงนิทราไม่น่าจะตอบสนองกับการจักจี้ได้เลย ไม่ใช่หรือ ผมบอกว่านี่อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีแล้ว แต่พอนางพยาบาลเข้ามา ก็ถาม เขาก็บอกว่าอาจเป็นการตอบสนองของร่างกายแบบอัตโนมัติ ไม่ใช่ว่าจะรู้สึก (ทำเอาความหวังของแม่และญาติๆ ดับวูบลงอีก)

ผมไม่สนใจ พาแม่และญาติๆ รวมทั้งคุณยายจับมือล้อมเตียงน้องเอยกัน และแผ่เมตตา สวดมนต์หมู่ให้น้องเอย ยืนสงบนิ่งหลับตากันจับมือกัน สามัคคีกันช่วยเหลือน้องเอย โดยผมกล่าวคำอธิษฐานนำ ยืนอยู่สัก 10-15 นาที พอทำเสร็จ แม่กรวดน้ำให้ข้างเตียง สักพักเสียงอะไรบางอย่างก็ออกมาจากน้องเอย ผมเงี่ยหูฟัง ก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ ของน้องเอย เล็ดลอดออกมาจากคอของน้อง ผมให้แม่และญาติๆ ฟัง ว่าน้องเอยนอนกรนด้วย เหมือนเด็กนอนหลับปกติเลย แต่ไม่ยอมตื่น ทุกคนช่วยเรียกน้องกันหมดแต่ก็ไม่ตื่นสักที ผมถามว่าปกติเคยได้ยินน้องเอยกรนดังแบบนี้ไหม ทุกคนส่ายหน้าหมด บอกว่าเฝ้ามาหลายวันเพิ่งเคยได้ยินเสียงกรน และเพิ่งเคยเห็นตัวน้องกระดิกได้บ้างก็วันนี้ หลังจากที่ผมมาแผ่เมตตาให้ 1 ชั่วโมง กว่าๆ คุณแม่มีท่าทีดีใจเป็นอย่างมาก เหมือนจะร้องไห้ ที่เห็นน้องเอยเริ่มที่จะตอบสนองอะไรได้บ้าง และร่างกายบางส่วนโดยเฉพาะขา และแขนกระดิกและกระตุกเองได้เบาๆ แม้ว่านางพยาบาลจะบอกว่าเป็นปกติของเอฟเฟคทางร่างกาย แต่คุณแม่อ้อ ก็มีความหวัง ไม่ฟังพยาบาลวินิจฉัยเท่าไหร่เพราะเธอดีใจมาก จนผมก็ต้องเข้าไปกอดให้กำลังใจคุณแม่อ้อ ให้เชื่อมั่นในอำนาจพุทธคุณของพระพุทธเจ้า และพระพิฆเนศ และพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ดูแลน้องเอยอยู่ ขอส่งกำลังใจให้น้องเอยมากๆ นะครับ บางทีสิ่งที่ผมและคุณแม่ คุณยายและญาติๆ เจอมากับตาในวันนี้ ตอนที่ผมสวดมนต์ให้เสร็จ คงจะเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะบ่งบอกว่าอีกไม่นาน น้องเอยจะกลับมา และฟื้นคืนสติสัมปชัญญะ เป็นปกติอีกครั้ง.....




มอบพระพิฆเนศนาคปรกให้คุณแม่น้องเอย เพื่อคุ้มครองน้องเอย ให้หายจากอาการที่เป็นอยู่และฟื้นขึ้นมาเร็ววันนี้ คุณแม่นำไปไว้ที่ข้างเตียงน้องเอยในห้องไอซียูแล้ว



สนทานกับคุณแม่อ้อ รัตนา และคุณยายของน้องเอย



หน้าห้อง ที่ไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ ในขณะที่ผมกำลังจะเข้าไปสวดมนต์ แผ่เมตตาให้น้องเอยถึงข้างเตียง และพาคุณแม่ คุณยาย และญาติๆ จับมือรอบเตียงช่วยส่งกระแสจิตแผ่เมตตาหมู่ให้น้องเอยกลับมา



เสร็จสิ้นการแผ่เมตตา คุณแม่อ้อ กรวดน้ำ ข้างเตียงน้อง และกำลังจะเอาลงไปทิ้งที่ต้นไม้





ทิ้งน้ำที่กรวดข้างล่างโรงพยาบาล



ผมแนะนำให้คุณอ้อไปบนบานสานกล่าวขอพรกับหลวงพ่อโสธรที่ จ. ฉะเชิงเทรา คุณแม่น้องเอยบอกว่าจะไปทำทันที เพราะเชื่อมั่นว่าหลวงพ่อโสธรจะสามารถช่วยลูกสาวเธอได้ และเธอก็ได้เดินไปจุดธุปบอกกล่าวกลางแจ้งเลยทันทีว่าพรุ่งนี้จะไปนมัสการหลวงพ่อที่วัด ขอให้หลวงพ่อเปิดทางให้ด้วยเถิด....


อ่านต่อหน้า 5

 

ผมมั่นใจ 80 เปอร์เซ็นต์ว่า ผมสามารถช่วยน้องเอยได้ เพราะว่าสิ่งศักดิืสิทธิ์เปิดทางให้ผมเห็นกรรมของน้องเขาตั้งแต่วันแรกที่รู้ข่าว
แม้กระทั่งตอนนั้นยังติดต่อ คุณแม่น้องเอยไม่ได้ ผมอธิษฐานจิตว่า หากเบื้องบนต้องการให้ผมช่วยน้องเอยเขา ขอให้แม่ติดต่อผมได้ หรือผมติดต่อแม่น้องเอยได้
ปรากฏว่า วันต่อมาก็มีคนไปหาเบอร์มาให้ และได้ติดต่อกัน จนช่วยยื้อชีวิต ยื้อลมหายใจกันมาถึงตอนนี้
ก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหใ้ผมได้ช่วยและคอยดูอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นคงไม่มีบุญสัมพันธ์กันขนาดนี้

ต้องขอขอบคุณ คนในพลังจิตนี้ (ขอโทษจำชื่อไม่ได้) ที่กรุณาหาเบอร์ติดต่อมาให้ผมได้ช่วยเหลือน้องเอยได้อย่างเต็มที่


มีอัพเดทข่าวการช่วยเหลือหน้า 4