ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เจอต่อเนื่อง! ไลบีเรียพบผู้ติดเชื้ออีโบลาเพิ่มอีก​

​

ไลบีเรียพบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะ อีโบลา รายใหม่เพิ่มอีก หลังพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสตัวนี้อีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ ทั้งที่เคยคิดว่าปลอดโรคแล้ว...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ทางการไลบีเรียยืนยัน พบผู้ติดเชื้อไวรัส อีโบลา เพิ่มอีก 2 เพียงไม่กี่วันหลังจากกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้เป็นรายแรกในรอบหลายสัปดาห์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เชื่อกันว่า เชื้อก่อโรคไข้เลือดออกชนิดนี้ถูกกำจัดไปจากประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกแห่งนี้แล้ว

ดร. โมเซส มาสซาควออี หัวหน้าทีมบริหารจัดการผู้ป่วย ของหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อรับมืออีโบลาในไลบีเรีย ยืนยันในวันพุธว่า ว่า ในวันนี้ (พุธ) ในไลบีเรียมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้ออีโบลาอีก 2 ราย และเจ้าหน้าที่กำลังทดสอบในรูปแบบต่างๆเพื่อหาว่า มีผู้ติดเชื้อรายอื่นๆอีกหรือไม่ แต่ไม่เผยรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อรายใหม่

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายแรกเป็นชายวัยรุ่นอายุ 17 ปี ในเขตมาร์กาบี ชานกรุงมอนโรเวีย และเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่กระทรวงสารสนเทศแห่งไลบีเรีย ทวีตข้อความบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ว่า คน 2 คนจากบ้านของวัยรุ่นรายนี้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้ออีโบลา แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นรายเดียวกับที่นาย มาสซาควออี กล่าวถึงหรือไม่ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขได้ดำเนินการแยกเดี่ยวผู้ที่สัมผัสกับวัยรุ่นชายวัย 17 ปีแล้ว

อนึ่ง ไลบีเรียเคยเป็นประเทศที่ต้องเผชิญการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัส อีโบลา ร่วมกับประเทศกินี และเซียร์ราลีโอน ซึ่งอีโบลาทำให้มีผู้เสียชีวิตม่กกว่า 11,200 รายทั่วโลก นับตั้งแต่เริ่มการระบาดเมื่อเดือน ธ.ค. 2013 ก่อนที่ในวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกจะประกาศให้ไลบีเรียปลอดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้ เนื่องจากไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 42 วัน หรือ 2 เท่า ของจำนวนระยะเวลาฟังตัวของเชื้อ ก่อนจะพบผู้ป่วยรายใหม่ดังกล่าว

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 1 ก.ค. 2558

นครนิวยอร์ก สั่งห้ามใช้กล่องโฟมใส่อาหารแล้ว อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม​

​

นครนิวยอร์ก เดินเครื่องรักษาสิ่งแวดล้อมจริงจัง ประกาศห้ามใช้บรรจุภัณฑ์โฟม ไม่ว่าจะเป็น จาน ถาด กล่องที่ทำจากโฟมประเภทโพลีสไตรีนแล้ว พร้อมให้เวลาบริษัทร้านค้าปรับเปลี่ยนภาชนะใส่อาหาร 6 เดือน จากนั้น หากใครฝ่าฝืนเจอโทษปรับแน่

สำนักข่าวบีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่า ทางการนครนิวยอร์ก ภายใต้การบริหารของนายกเทศมนตรีบิล เดอ บลาซิโอ ในประเทศสหรัฐฯ ประกาศห้ามใช้บรรจุภัณฑ์ โฟม ประเภท โพลีสไตรีน (Expanded Polystyrene ) หรือ EPS นำมาใช้สำหรับใส่อาหาร รวมทั้งยังห้ามไม่ให้ร้านค้าและโรงงาน จำหน่ายบรรจุภัณฑ์โฟมประเภทนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.58 เป็นต้นไป เนื่องจากเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

ข่าวแจ้งว่า ทางการนครนิวยอร์กได้เริ่มมีคำสั่งห้ามไม่ให้เป็นเจ้าของ ครอบครอง หรือจำหน่ายบรรจุภัณฑ์โฟม EPS ที่ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทแก้ว จาน ชาม ถาด กล่องใส่อาหาร รวมถึงเม็ดโฟมกันกระแทกต่างๆ เหล่านี้ ภายในระยะเวลา 6 เดือน มิเช่นนั้นจะเผชิญหน้ากับการถูกปรับ หากยังมีการใช้หรือขายบรรจุภัณฑ์โฟมเหล่านี้อยู่

ถึงแม้ว่าโฟม EPS จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาถูกและน้ำหนักเบาเพราะมีส่วนประกอบเป็นอากาศถึง 95% แต่ปัญหาหลักซึ่งทำให้นครนิวยอร์กออกมาสั่งห้ามใช้โฟมประเภทนี้ก็คือมันไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เนื่องจากเมื่อสาร Sytrofoam ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของโฟม EPS นี้ถูกทำให้พองและขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แล้ว สารนี้จะไม่สามารถถูกนำมาทำให้พองตัวเป็นรูปแบบอื่นได้อีก นอกจากว่าจะใช้วิธีการนำความร้อนตามธรรมชาติมารีไซเคิล ซึ่งมีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูง

มีการประมาณการว่า ลำพังชาวอเมริกันชาติเดียว ได้ทิ้งแก้วกาแฟโฟม EPS กว่า 25,000 ล้านใบต่อปี แต่คงเทียบไม่ได้กับถุงพลาสติกที่แต่ละปีมีการใช้มหาศาลกว่า 1 แสนล้านใบ โดยศาสตราจารย์ดักลาส แมคคอลีย์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์น้ำแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในแซนตา บาร์บารา ประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวว่า ปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งก็คือ เมื่อขยะโฟม EPS ซึ่งยากต่อการกำจัดและรีไซเคิลให้หมดไปนี้ถูกทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ มันจะส่งผลกระทบไปถึงชีวิตสัตว์น้ำด้วย เนื่องจากถ้าสัตว์น้ำเผลอกินโฟมเข้าไปโดยคิดว่าเป็นอาหาร อาจทำให้โฟมที่มีมลพิษและสิ่งแปลกปลอมมากมายที่โฟมดูดเก็บไว้ไปอุดตันลำไส้ได้

ด้านนายกเทศมนตรีรัฐนิวยอร์ก บิล เดอ บลาซิโอ กล่าวว่า ในขณะนี้ กรุงนิวยอร์กได้เข้าร่วมกับกลุ่มเมืองทางชายฝั่งตะวันออก ได้แก่ เมืองซีแอตเทิล เมืองพอร์ตแลนด์ เมืองซานฟรานซิสโก และเมืองหลวงอย่างวอชิงตัน ดี.ซี. ในการสั่งห้ามใช้ผลิตภัณฑ์โฟมประเภท EPS แล้ว และหวังว่าอีกหลายประเทศทั่วโลกจะทำตามโครงการนี้ด้วย โดยการลดขยะจำนวนโฟมกว่า 30,000 ตัน จากแหล่งฝังกลบขยะ ท้องถนนและชายฝั่งทะเลนี้จะถือเป็นก้าวสำคัญในการทำให้นิวยอร์กเป็นเมืองที่ดีและร่มรื่นขึ้น

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

ระทึก! เรือโดยสารฟิลิปปินส์ล่มกลางทะเล สังเวยแล้ว 34 ศพ​

​

เกิดโศกนาฏกรรมสลด เรือโดยสารล่มกลางทะเล ในฟิลิปปินส์ พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 34 คน หลังนำผู้โดยสาร 173 ชีวิต ออกจากท่าเรือที่เมืองออร์ม็อค จ.เลย์เต ได้เพียงไม่กี่นาที แต่ต้องเผชิญคลื่นลมแรงจนเรือพลิกคว่ำ

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานด่วนเกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารในฟิลิปปินส์ อับปางกลางทะเล นอกชายฝั่งเมืองท่า ออร์ม็อค ซิตี้ ในจังหวัดเลย์เต ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ เมื่อเวลาประมาณ 12.50 น.ของวันนี้ (2 ก.ค.58) ตามเวลาท้องถิ่น โดยเบื้องต้น สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในฟิลิปปินส์รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 34 ราย และมีผู้โดยสารจำนวนหนึ่ง ราว 50 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ขณะที่ ทีมกู้ภัยในฟิลิปปินส์กำลังค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

โฆษกหน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ แจ้งว่า เรือโดยสารลำดังกล่าว ชื่อ ‘NB Nervana’ ได้บรรทุกผู้โดยสาร 173 คน ออกจากเมืองออร์ม็อค ซิตี้ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะคาโมเตส ในจังหวัดเซบู ทว่าหลังจากเรือโดยสารออกจากฝั่งได้เพียงไม่กี่นาที และแล่นออกไปไม่ไกลนักราว 200 เมตร ต้องเผชิญกับคลื่นลมแรงจนทำให้เรือพลิกคว่ำ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

อียิปต์เครียด!! ปะทะเดือดกลุ่มไอซิส โหมโจมตีคาบสมุทรไซนาย ทหารดับ 17​

​

‘ไอซิส’ แผลงฤทธิ์...โหมบุกโจมตีด่านทหารอียิปต์บนคาบสมุทรไซนาย หลายระลอก จนเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือด ทหารอียิปต์สังเวยชีวิต 17 นาย ส่วนนักรบไอซิสตายกว่าร้อย ด้านกองทัพอียิปต์ประกาศกร้าวจะเดินหน้าส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดปราบไอซิส

เมื่อวันที่ 2 ก.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กองทัพอียิปต์ออกแถลงการณ์จะยังคงส่งเครื่องบินรบปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มมุสลิมติดอาวุธนิกายสุหนี่ ‘รัฐอิสลาม’ (ไอซิส) ในวันนี้ (2 ก.ค.) หลังจากได้โหมบุกโจมตีด่านทหารชายแดนของอียิปต์ 5 แห่ง หลายระลอก ในเมืองชีก ซูเวอิดและราฟาห์ บนคาบสมุทรไซนาย เมื่อวันพุธที่ 1 ก.ค. จนเกิดการปะทะกับกำลังทหารอียิปต์อย่างดุเดือด เป็นเหตุให้ทหารอียิปต์สิ้นชีพไปอย่างน้อย 17 นาย ขณะที่นักรบกลุ่มไอซิสเสียชีวิตกว่า 100 ราย

บีบีซี แจ้งว่าการบุกโจมตีจังหวัดไซนาย ในประเทศอียิปต์ครั้งนี้ของกลุ่มไอซิสถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่ง หลังจากรัฐบาลอียิปต์ได้ประกาศให้จังหวัดไซนายอยู่ภายใต้การใช้มาตรการฉุกเฉินและมีการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้านในยามวิกาล ตั้งแต่เดือนต.ค. ปี 57 หลังจากกลุ่มไอซิสได้บุกโจมตี จนทำให้ทหารอียิปต์เสียชีวิตหลายสิบนาย

ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า กลุ่มไอซิสได้โพสต์ทวิตเตอร์อ้างความรับผิดชอบ ในเหตุการณ์โจมตีด่านทหารอียิปต์ บนคาบสมุทรไซนาย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โฆษกกองทัพอียิปต์กล่าวกับสำนักข่าว MENA กระบอกเสียงของทางการว่า ขณะนี้ กองทัพอียิปต์สามารถควบคุมสถานการณ์ทางตอนเหนือของจังหวัดไซนายได้ 100%

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

ผู้นำอินโดฯสั่งเช็กเครื่องบินกองทัพด่วน หลัง ‘ซี-130’ ตก ตายเพิ่ม 141 ราย​

​

โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร้อนใจ สั่งตรวจเช็กเครื่องบินเก่าของกองทัพ หลังเกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินซี-130 ผ่านการใช้งานนานถึง 50 ปี ตกใส่ย่านที่อยู่อาศัยของประชาชนที่เมืองเมดาน จนทำให้ยอดคนตายเพิ่มเป็น 141 คนแล้ว

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย แจ้งความคืบหน้าโศกนาฏกรรมเครื่องบินขนส่งลำเลียง ซี -130 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซียตกใส่เขตที่พักอาศัยของประชาชน ในเมืองเมดาน จังหวัดสุมาตราเหนือ บนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. หลังทะยานขึ้นจากสนามบินได้เพียงแค่ 2 นาที ว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลดครั้งนี้ เพิ่มเป็น 141 คนแล้ว โดยนักบิน ลูกเรือ และผู้โดยสารบนเครื่อง 122 คนเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่ประชาชนเบื้องล่างดับอนาถอย่างน้อย 19 คน

ข่าวแจ้งว่า ผู้เสียชีวิตบนเครื่องบินลำนี้ ไม่ได้มีเพียงเฉพาะ กัปตัน ช่างเทคนิค และเหล่านายทหารบนเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาด้วย โดยเครื่องบินขนส่งลำเลียงลำนี้ ได้ปฏิบัติภารกิจนำทหารและสมาชิกครอบครัว รวมถึงสิ่งของจำเป็น จากกรุงจาการ์ตา ไปยังเกาะหลายแห่งของอินโดนีเซีย

ด้านเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียกำลังทำการตรวจสอบสาเหตุของเครื่องบินตกในครั้งนี้ โดยพลอากาศเอก เอกุส สุเปรียตนา ผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินโดนีเซีย กล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นปัญหามาจากตัวเครื่องยนต์ขัดข้อง ซึ่งเครื่องบินซี-130 ลำนี้ถูกสร้างขึ้นในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2507 มีอายุการใช้งานรวมมากถึง 50 ปีแล้ว

ขณะเดียวกัน นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวว่า ถึงเวลาที่จะตรวจเช็กและวัดประสิทธิภาพเครื่องบินเก่า รวมถึงการปรับปรุงสมรรถนะเครื่องยนต์ของเครื่องบินเก่าให้มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเช่นนี้อีก ทั้งนี้ ได้เกิดโศกนาฏกรรมเครื่องบินกองทัพอากาศอินโดนีเซีย โหม่งพสุธาหลายครั้ง ในขณะที่ กองทัพอากาศก็ยังไม่สามารถชี้แจงข้อสรุปสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินลำเลียงง ซี-130 ประสบเหตุตกเมื่อปี 2552

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 1 ก.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

พระ-ชี กินเห็ดป่วยทั้งวัด! คาดมีพิษ ญาติโยมไม่รู้ทำถวาย​

​

ระดมช่วยพระสงฆ์ ชี วัดดัง รวมทั้งญาติโยม นำส่งโรงพยาบาล 15 ราย หลังมีอาการป่วยท้องเสีย อาเจียน ปวดเมื่อย คาดกินเห็ดพิษที่ชาวบ้านทำมาถวายโดยไม่รู้ เตือนหน้านี้มีเห็ดออกมาก อย่าเก็บมากินโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเห็ดอะไร...

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 58 หน่วยกู้ชีพจาก อบต.พุ่มแก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลอำเภอนาแก จ.นครพนม ระดมให้ความช่วยเหลือ พระสงฆ์ พร้อมแม่ชีลูกวัดส้างพระอินทร์ บ้านน้อยคำเจริญ หมู่ 11 ต.พุ่มแก อ.นาแก ซึ่งเป็นวัดชื่อดังตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน มีญาติโยม ผู้มีจิตศรัทธาเดินทางมาทำบุญไม่ขาดสาย หลังมีอาการป่วยท้องเสีย เวียนหัว อาเจียนไม่หยุด รวมทั้งหมดทั้งพระ แม่ชี และญาติโยม 15 ราย

โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอนาแก แพทย์ตรวจอาการแล้วได้ให้น้ำเกลือ ส่วนสาเหตุเชื่อว่า มาจากการรับประทานเห็ดพิษ จนส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว ท้องเสีย และเมื่อยล้าตามร่างกาย ล่าสุดทุกรายอาการปลอดภัยแล้ว แต่บางรายยังมีอาการท้องร่วง และป่วยเมื่อย หายใจติดขัด

จากการสอบถาม พระสมัย วงศ์คะชุม อายุ 35 ปี พระลูกวัด ที่ป่วยท้องร่วง กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ได้มีญาติโยมที่มีจิตศรัทธา ทำข้าวปลาอาหารมาทำบุญถวายภัตตาหารเช้า ซึ่งทางวัดจะฉันมื้อเดียว มีอาหารหลากหลายชนิดมาถวาย รวมถึงเมนูสารพัดเห็ดป่า ทั้งเห็ดเผาะ เห็ดไข่ เห็ดโคน ที่ชาวบ้านนิยมเก็บมารับประทาน นำมาแกง นึ่ง ตำป่น เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูเห็ด อากาศร้อนอบอ้าว มีฝนตกบ้าง ทำให้เห็ดป่าออกมาก ญาติโยมจึงนำมาทำอาหารถวายพระ

"จนกระทั่งช่วงเย็นมีอาการเวียนหัว เมื่อย หายใจหอบ พระลูกวัดบางราย ท้องร่วงไม่หยุด จนกระทั่งถึงเช้า อาการหนักขึ้น จึงแจ้งขอความช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาล รวม 15 ราย เชื่อว่าน่าจะมีเห็ดพิษปะปนมา จนทำให้เกิดอาการป่วยดังกล่าว" พระสมัย กล่าว

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อำเภอนาแก ได้ประกาศเตือนไปยังประชาชนว่า ในช่วงนี้เป็นฤดูกาลของเห็ดป่า สารพัดชนิด ออกดอกจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านนิยมไปเก็บมาปรุงเป็นอาหารเมนูเด็ด แต่หากเป็นเห็ดป่าที่ไม่ทราบชนิด หรือไม่เคยรับประทาน ไม่ควรนำมาปรุงเป็นอาหาร หรือหากเลี่ยงได้ ไม่ควรรับประทาน เพราะบางชนิดมีพิษร้ายแรง เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว ทำให้เกิดอาการเวียนหัว อาเจียน ท้องร่วง บางรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากมีโรคประจำตัว จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง หรือเมื่อรับประทานแล้วมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

โมโหเมีย! เผารถลามไหม้บ้าน 3 หลัง โดนจับวางเพลิง​

​

หนุ่มกาฬสินธุ์ทะเลาะกับเมียไม่มีที่ลง หันไปเผารถจยย.ที่จอดอยู่บริเวณบ้าน สุดท้ายไฟลามไหม้ทั้งรถทั้งบ้าน รวมกับบ้านข้างเคียงอีก 2 หลังวอดวายไปด้วยกัน ถูกจับดำเนินคดีข้อหาหนัก ‘วางเพลิงเผาทรัพย์’...

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 ก.ค.58 พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ต.นาจารย์ ต.ห้วยโพธิ์ ต.หลุบ ต.หนองกุง เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างกาฬสินธุ์ และหน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ ได้รุดไปดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ไหม้บ้านเลขที่ 232 บ้านหนองบัว ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของนางเสงี่ยม เดชอุดม อายุ 62 ปี

พบบ้านไม้สองชั้น ถูกไฟไหม้จนใกล้จะวอดหมดทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วน ซึ่งก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะบ้านอยู่ในซอยลึก ต้องต่อสายยางเข้าไป เพลิงได้โหมลุกไหม้บ้านไม้อย่างรวดเร็ว และเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้เปลวเพลิงเริ่มลุกลามเข้าบ้านอีก 2 หลัง คือบ้านเลขที่ 198 และ 155 เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการตรวจสอบพบว่าบ้านไม้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง รวมทั้งรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ และรถฮอนด้าเวฟ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน โดยในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายบัวเรียน ยลสำอาง ซึ่งเป็นผู้วางเพลิงในครั้งนี้ ดำเนินคดีในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ ด้วย

จากการสอบถามนางเสงี่ยม เดชอุดม เจ้าของบ้าน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุตนอยู่บ้านตามปกติ โดยอยู่กับนายบัวเรียน และภรรยา ซึ่งเป็นหลาน แต่นายบัวเรียนเกิดมีปากเสียงกับภรรยา ทะเลาะกันหลายเรื่อง ตนพยายามห้ามแต่ไม่เป็นผล ผ่านไปสักพักนายบัวเรียนได้เดินไปที่รถจักรยานยนต์ฟีโน่ของตัวเอง ที่จอดอยู่ใต้ถุนบ้าน จากนั้นจุดไฟเผารถจนไฟลุกไหม้ และเปลวไฟได้ลุกลามไหม้บ้านจนวอดทั้งหลัง ทั้งยังลามไปไหม้บ้านข้างเคียงอีก 2 หลังด้วยรวมเป็น 3 หลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายบัวเรียน ผู้ก่อเหตุ ไปสอบสวนเพิ่มเติม สภ.เมืองกาฬสินธุ์ และจะสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกคน เพื่อดำเนินคดีต่อไป.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

แล้งเข็ญ! สาวครวญ ปีนี้แม้แต่ ‘ถั่วเขียว’ ยังไม่รอด​

​

สุโขทัยระทม แล้งหนักเข้าขั้นถึงขนาดถั่วเขียวพืชน้ำน้อยทนแล้งยังทนไม่ไหว แห้งเหี่ยวตายต้องไถกลบทิ้ง เกษตรกรครวญปีที่แล้วได้กำไรกว่า 4 หมื่น ปีนี้ฝนไม่ตกลงมาเลยคลองสระแห้งหมด จึงต้องเจ๊งไปตามระเบียบ...

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งใน จ.สุโขทัย ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างหนัก เนื่องจากเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้พืชไร่ที่ปลูกได้รับความเสียหายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไร่ถั่วเขียวใน ต.วังไม้ขอน อ.สวรรคโลก ต้องเผชิญกับภัยแล้งน้ำตามคลอง และสระแห้งขอด ไม่มีมารดต้นถั่วเขียว ทำให้ต้นถั่วไม่โตและแห้งตาย

น.ส.สำราญ อุทอง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 2 ต.วังไม้ขอน เกษตรกรที่ปลูกถั่วเขียวเล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ปลูกถั่วเขียวไว้ทั้งหมด 15 ไร่ โดยลงทุนค่าเมล็ดพันธุ์ ค่ายาฆ่าแมลง เป็นเงินกว่า 2 หมื่นบาท ปกติจะใช้เวลาปลูกอยู่ที่ 75 วันก็จะจ้างรถมาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาสามารถขายถั่วเขียวได้เงินกว่า 4 หมื่นบาท แต่ปีนี้ไร่ถั่วเขียวที่ปลูกไว้ ต้องเผชิญกับสภาวะภัยแล้งอย่างหนัก เนื่องจากบริเวณ อ.สวรรคโลก ไม่มีฝนตกลงมาหลายเดือนแล้ว น้ำในคลองและสระแห้งขอด

"ต้นถั่วเขียวที่ปลูกไว้ขาดน้ำต้นไม่โต มิหนำซ้ำยังแห้งตายกว่าครึ่ง ทำให้ปีนี้ต้องขาดทุน และรถเกี่ยวก็ไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวถั่วเขียวได้เพราะต้นไม่โต ต้องเดินเก็บฝักถั่วเขียวเองและใช้รถไถฝังกลบต้นถั่วที่แห้งตายเพื่อเตรียมดินไว้รอน้ำฝน เพื่อจะสามารถปลูกข้าวได้" น.ส.สำราญ กล่าว.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

ภัยแล้งกระทบชาวนานครสวรรค์ ข้าวยืนต้นตายกว่า 50 ไร่​

​

ภัยแล้งกระทบนาข้าวของเกษตรกรพื้นที่ริมแม่น้ำน่าน จ.นครสรรค์ ยืนต้นตายไปแล้วกว่า 50 ไร่ จาก 100 ไร่ที่ปลูกไว้ หลังระดับน้ำอยู่ในขั้นวิกฤติ ชาวนาคาด หากฝนไม่ตกใน 5-7 วัน ผลผลิตจะเสียหายหมดแน่นอน

ช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่สองฝั่งริมแม่น้ำน่าน หมู่ 8 ต.เกรียงไกร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ไม่สามารถสูบน้ำจากแม่น้ำน่านขึ้นมาทำการเกษตรได้ หลังแม่น้ำน่านมีระดับต่ำ

ล่าสุดที่สถานีวัดน้ำบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณแม่น้ำน่าน ไหลผ่านที่ 128 ลบ.ม./วินาที (จากความจุปริมาณน้ำไหลผ่านที่ 1,520 ลบ.ม./วินาที) ต่ำกว่าตลิ่ง 8 เมตร ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน และผลผลิตได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

น้ำในแม่น้ำน่าน อยู่ในระดับที่ต่ำมาก จนไม่สามารถสูบขึ้นมาใช้ทำนาได้เลย ขณะที่นายสดุดี ชูหนู ชาวนาริมฝั่งแม่น้ำน่าน ในพื้นที่บอกว่า ตนทำนาทั้งหมด 100 ไร่ ซึ่งในช่วงที่แม่น้ำน่านอยู่ในระดับที่ต่ำมาก จนไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาทำนาได้เลย ส่งผลให้ต้นข้าวอายุ 1 เดือนขาดน้ำ พื้นนาแตกระแหง ทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหายและยืนต้นตายไปแล้วกว่า 50 ไร่ ซึ่งก็ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ส่วนที่เหลือก็ต้องรอน้ำจากฝนเท่านั้น หากไม่มีฝนตกลงมาช่วยภายใน 5-7 วันนี้ คาดว่าผลผลิตจะเสียหายทั้งหมดอย่างแน่นอน

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

เจ้าพระยาลดระดับ ตลิ่งพังถนนเมืองอุทัยฯ เสียหายหลายสิบเมตร​

​

น้ำเจ้าพระยาลดระดับลงขั้นวิกฤติเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ถนนริมตลิ่งในหมู่บ้านท่าตาโป้ย จ.อุทัยธานี ทรุดพังซ้ำรอยเดิมเสียหายหลายสิบเมตร ชาวบ้านกั้นเชือกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจราจร

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคันดินถนนริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา บ้านท่าตาโป้ย หมู่ที่ 7 ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ทรุดตัวเป็นระยะทางยาวหลายสิบเมตร หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงต่ำกว่าทุกปีที่ผ่านมา

น้ำเจ้าพระยาลดระดับถึงขั้นวิกฤติ ส่งผลถนนริมตลิ่ง หมู่บ้านท่าตาโป้ย จ.อุทัยธานี ทรุดพังยาวหลายสิบเมตร จากระดับน้ำที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดินเกิดรอยแยกสไลด์ลงสู่แม่น้ำเป็นทางยาว กินพื้นที่ถนนภายในหมู่บ้านบางส่วนเสียหาย จนชาวบ้านต้องนำแผงกั้นไปตั้งขึงแนวเชือก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดกับยานพาหนะของประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา โดยเฉพาะเวลาค่ำคืนที่ไม่มีแสงสว่าง

ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า เมื่อปีก่อน บริเวณนี้เคยเกิดเหตุตลิ่งทรุดมาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ราชการได้นำก้อนหินไปทิ้งไว้เป็นแนวป้องกันดินสไลด์ไว้ระดับหนึ่ง แต่สภาวะความแห้งแล้งในปีนี้ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดต่ำเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เกิดดินสไลด์อีกครั้ง

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ตะวันออกและใต้มีฝนเพิ่ม​

​

ทั่วไทยยังคงมีฝนลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ ภาคเหนือและอีสาน แต่ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกจะมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนประเทศไทยตอนบนก็ยังคงมีฝนน้อย ขณะที่ ทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนยังคงมีคลื่นแรง กทม.มีโอกาสเกิดฝน 38%...

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2558 ทีมข่าวไทยรัฐ ร่วมกับ The Weather Company ของสหรัฐอเมริกา รายงานสภาพอากาศเช้านี้ พบว่าภาพรวมสภาพอากาศทั่วไทยยังคงมีฝนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสาน เพราะจากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมสดๆ ณ ขณะนี้ พบการก่อตัวของกลุ่มเมฆฝนฟ้าคะนองในประเทศไทยค่อนข้างบางตา โดยส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่ในบริเวณและภาคใต้ และพบเล็กน้อยในฝั่งตะวันตก ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก เพราะกลุ่มเมฆฝนส่วนใหญ่จะไปก่อตัวอยู่ในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย และในบริเวณประเทศมาเลเซีย

ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุด พบว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนนี้มีกำลังอ่อน ซึ่งก็จะทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงในระยะนี้ แต่ในช่วงวันพรุ่งนี้ไปจนถึงสุดสัปดาห์ คาดการณ์ว่ามรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น จึงทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้นได้ ส่วนประเทศไทยตอนบนก็ยังคงมีฝนน้อย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนยังคงมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคมนี้

จากการคาดการณ์ปริมาณฝนที่จะเทลงมา บริเวณตอนบนถึงตอนกลางของประเทศในวันนี้ พบการก่อตัวของกลุ่มฝนในช่วงเที่ยงเล็กน้อยที่บริเวณนครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี และจังหวัดระยอง ส่วนในช่วงบ่ายกลุ่มฝนจะก่อตัวเป็นวงกว้าง ตั้งแต่บริเวณภาคกลางตอนบนที่ จ.พิจิตร กำแพงเพชร ไล่มาจรดภาคกลางตอนล่างที่จังหวัดนครปฐม และนนทบุรี ช่วงบ่ายแก่ๆ ถึงช่วงเย็นยังคงพบกลุ่มฝนปรอยๆ บริเวณภาคกลางตอนล่าง และตกเพิ่มในจังหวัดเชียงใหม่ เพชรบูรณ์ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ก่อนที่จะซาลงในช่วงเย็นถึงค่ำ

ขณะที่ สถานการณ์ฝนทางตอนใต้ภาพรวมพบว่ามีฝนตกเพิ่มจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยวันนี้พบการก่อตัวในช่วงสายบริเวณตอนบนถึงตอนกลางของประเทศ ตั้งแต่จังหวัดระนอง ชุมพร พังงา สุราษฎร์ธานี และตรัง จากนั้นในช่วงเที่ยงกลุ่มฝนจะยังตกในบริเวณจังหวัดระนอง และสุราษฎร์ธานี และมีตกเพิ่มในจังหวัดกระบี่ และนครศรีธรรมราช ส่วนช่วงบ่ายกลุ่มฝนยังคงตกที่สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช มีตกเพิ่มเล็กน้อยแถวรอยต่อระหว่างจังหวัดสงขลา และยะลา จากนั้นช่วงเย็นกลุ่มฝนก็จะเคลื่อนตัวออกทะเลไป

จากฝนที่ตกลงมาค่อนข้างน้อยในระยะนี้ทำให้หลายพื้นที่อุณหภูมิขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในภาคอีสาน พบพื้นที่สีม่วง นั่นก็คือมีอากาศร้อนจัด กินพื้นที่ขยายเป็นวงกว้างครอบคลุมภาคอีสาน โดยอุณหภูมิความรู้สึกร้อน (ซึ่งคำนวณจากอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ) ไต่ระดับไปแตะสูงสุดที่ 40 องศาเซลเซียสในช่วงกลางวัน

ส่วนสถานการณ์พายุโซนร้อนจันหอม ที่ก่อตัวในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ตอนมีความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ 83 กม./ชม. ลมกระโชกแรง 102 กม./ชม. อยู่บริเวณทางใต้ของเกาะกวม ทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ ห่างจากกรุงเทพมหานคร 5,995 กม. ห่างจากจ.อุบลราชธานี 5,495 กม. โดยมีทิศทางการเคลื่อนที่มาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว 18 กม./ชม. และมีแนวโน้มเพิ่มความเร็วลมศูนย์กลางเป็นไต้ฝุ่นระดับที่ 3 ในเช้าวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 แล้วจะเคลื่อนที่ไปทางตอนใต้ของญี่ปุ่น พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อสภาวะอากาศของไทยแต่อย่างใด.

สภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้

ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งอ่าวไทย) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฝนบางแห่ง วันนี้มีโอกาสเกิดฝน 38% อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 2 ก.ค. 2558

ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "ภัยร้ายกล่องโฟม"​

เผยแพร่เมื่อ 17 ก.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "กระเป๋าถือแหล่งเชื้อโรค"​

เผยแพร่เมื่อ 22 ธ.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "น้ำดื่มในขวด จะกินต้องเลือก"​

เผยแพร่เมื่อ 5 มิ.ย. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "ลดไขมันแบบไทยด้วยสมุนไพรพื้นบ้าน"​

เผยแพร่เมื่อ 10 ธ.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "วิธีควบคุมการกินตามอารมณ์"​

เผยแพร่เมื่อ 10 ธ.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "มะระหวานเป็นลม ขมเป็นยา"​

เผยแพร่เมื่อ 10 ธ.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "การล้างลำไส้แบบธรรมชาติ"​

เผยแพร่เมื่อ 30 พ.ย. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "สารพัดประโยชน์กับโซเดียมไบคาร์บอเนต"​

เผยแพร่เมื่อ 30 พ.ย. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "กล้วยน้ำว้า"​

เผยแพร่เมื่อ 25 มิ.ย. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "น้ำปั่นเพื่อผิวสวย"​

เผยแพร่เมื่อ 15 ก.ย. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "เบาหวาน"​

เผยแพร่เมื่อ 27 ส.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "ซุปฟักทอง" ​

เผยแพร่เมื่อ 19 ก.ย. 2013​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "สาหร่ายทะเล" ​

เผยแพร่เมื่อ 19 เม.ย. 2013​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "ข้าวธัญพืช"​

เผยแพร่เมื่อ 13 พ.ย. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "การได้ประโยชน์สูงสุดจากการออกกำลังกาย"​

เผยแพร่เมื่อ 21 พ.ค. 2013​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "ออกกำลังกายแค่ไหนถึงจะดีต่อสุขภาพ"​

เผยแพร่เมื่อ 22 ม.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "ไดเอทสุดง่ายไม่ต้องอด"​

เผยแพร่เมื่อ 26 ม.ค. 2014​

 

สุขภาพแจ๋ว ตอน "ข้าวกล้อง อาหารความอ่อนวัย"​

เผยแพร่เมื่อ 12 ก.พ. 2014​