ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 13 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ฝรั่งเศสคุมเข้มแน่นปึ้ก! ผู้นำเกือบ 150 ชาติ ร่วมประชุมโลกร้อนที่ปารีส


    ฝรั่งเศสคุมเข้มรักษาความปลอดภัย ขณะผู้นำประเทศและผู้นำรัฐบาลเกือบ 150 ประเทศเข้าร่วมการประชุมยูเอ็นว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ท่ีปารีส

    เมื่อวันที่ 29 พ.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ผู้นำประเทศและผู้นำรัฐบาลถึง 147 ประเทศ รวมทั้งบรรดาผู้แทนจากหลายหน่วยงาน รวมแล้วราว 40,000 คน เข้าร่วมการประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือรู้จักในชื่อสั้นๆ ว่า การประชุม ซีโอพี 21 (COP21) ที่กรุงปารีส ซึ่งเริ่มขึ้นแล้วในวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย. และจะมีการประชุมในหลายภาคส่วนไปจนถึงวันที่ 11 ธ.ค. 58

    บีบีซี แจ้งว่า การที่จะมีผู้นำประเทศและรัฐบาลมาร่วมการประชุม ซีโอพี 21 ถึง 147 ประเทศ ถือเป็นจำนวนที่มากกว่าการประชุม ซีโอพี 21 ที่กรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงเดนมาร์ก ในปี 2552 ซึ่งครั้งนั้น ได้มีผู้นำประเทศและรัฐบาลมาร่วมประชุม 115 ประเทศ และยังเป็นครั้งสุดท้ายที่ที่ประชุมเกือบจะบรรลุข้อตกลงในการหาทางหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศบนโลก อันเนื่องจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก และทำให้โลกร้อนขึ้น

    สำหรับการประชุม ซีโอพี 21 ในครั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนจะมาร่วมประชุมด้วย ขณะที่เหตุโจมตีปารีส ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ได้ทำให้ผู้นำโลกเดินทางมาประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและอยู่เคียงข้างประชาชนชาวฝรั่งเศสที่ต้องเผชิญกับภัยก่อการร้าย

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเพิ่งเกิดเหตุโจมตีปารีส จึงทำให้ทางการฝรั่งเศสยกระดับเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในการประชุมซีโอพี 21 มากยิ่งขึ้น อาทิ มีผู้คนเกือบ 1,000 คน ซึ่งถูกพิจารณาว่ามีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฝรั่งเศส ตั้งแต่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา, ระดมกำลังตำรวจ และสารวัตรทหารถึง 8,000 นาย ตรวจเข้มที่ด่านตรวจชายแดน รวมทั้งได้มีการระดมกำลังตำรวจและทหารนับ 120,000 นาย ตรวจตราทั่วประเทศ นับตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีปารีส

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    ปูตินลงนามกฤษฎีกาคว่ำบาตรตุรกีแล้ว ตอบโต้สอยบินรบร่วง


    ผู้นำรัสเซียลงนามกฤษฎีกาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศตุรกีแล้ว โดยเป็นความเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้กรณีกองทัพอากาศตุรกีส่งเครื่องบินโจมตีเครื่องบินรบของรัสเซียจนตกบริเวณชายแดนซีเรียเมื่อ 24 พ.ย. แล้ว...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 28 พ.ย. ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ลงนามในกฤษฎีกาดำเนินการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศตุรกี ประกอบด้วยการระงับนำเข้าสินค้าบางประเภทจากตุรกี, จำกัดการทำงานของบริษัทตุรกีในรัสเซีย และจำกัดการจ้างงานชาวเติร์กโดยบริษัทของรัสเซีย นอกจากนี้ยังให้ยุติเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำเดินทางจากรัสเซียไปตุรกี และให้ผู้จัดทัวร์งดขายแพคเกจท่องเที่ยวไปตุรกีด้วย

    กฤษฎีกาดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที มีหัวข้อว่า 'มาตรการเพื่อรับประกันความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซียและการปกป้องพลเมืองรัสเซียจากอาชญากรรมและกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ และการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจเป็นพิเศษต่อตุรกี'

    ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซียเกิดขึ้นหลังจาก เกิดเหตุเครื่องบินรบเอฟ-16 ของตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิด ซู-24 ของรัสเซียตกบริเวณชายแดนซีเรีย โดยรัฐบาลอันการาอ้างว่ารัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าและเพิกเฉยต่อการเตือน ขณะที่รัฐบาลมอสโกยืนยันว่าเครื่องบินของพวกเขา

    ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศยังทำสงครามน้ำลายลายกันอย่างเผ็ดร้อน และมีมาตรการต่างๆออกมาตอบโต้กันเช่น เมื่อวันศุกร์รัสเซียประกาศระงับข้อตกลงเดินทางโดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางกับตุรกี ขณะที่กระทรวงต่างประเทศตุรกีเตือนประชาชนของตัวเองไม่ให้เดินทางเข้าสู่รัสเซียหากไม่มีธุระสำคัญจริงๆจนกว่าสถานการณ์จะมีความชัดเจน

    อนึ่ง รัสเซียและตุรกีเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญต่อกัน โดยรัสเซียเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของตุรกี ขณะที่ตุรกีก็เป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวรัสเซียนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุด โดยเมื่อปีก่อนมีชาวรัสเซียไปเที่ยวตุรกีมากกว่า 3 ล้านคน

    ขณะเดียวกัน ตามการเปิดเผยของนาย ดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกประธานาธิบดีปูติน ปัจจุบันในรัสเซียมีชาวตุรกีทำงานอยู่เกือบ 90,000 คน แต่เมื่อรวมกับสมาชิกครอบครัวเข้าไปด้วย ตัวเลขก็จะพุ่งสูงถึง 2 แสนคน

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    ตุรกีลั่น พร้อมมอบศพนักบิน เครื่องบินรบ ซู-24 โดนยิงร่วง ให้รัสเซีย!


    ทางการตุรกีได้รับศพนักบินรัสเซียประจำเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด ซู-24 โดนตุรกีสอยร่วงแล้ว ขณะที่นายกฯ ตุรกีลั่นวาจา พร้อมจะมอบศพคืนให้แก่รัสเซีย

    เมื่อวันที่ 29 พ.ย. สำนักข่าวบีบีซี รายงาน นายกรัฐมนตรีอาห์เหม็ด ดาวูโตกลูแห่งตุรกี เผยว่า ทางการตุรกี ได้รับศพเรืออากาศโท โอเลก เปชคอฟ นักบินชาวรัสเซียที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิด ซู-24 ของรัสเซียโดนเครื่องบิน เอฟ-16 ของตุรกียิงตก เมื่อ 24 พ.ย. แล้ว และจะส่งมอบให้แก่ทางการรัสเซีย หลังจากเรืออากาศโทเปชคอฟ ได้ส้ินชีพอย่างน่าเศร้า ระหว่างดีดตัวออกจากเครื่องบินซู-24 ที่ถูกตุรกียิงจนไฟลุกไหม้ได้แล้ว แต่กลับโดนยิงซ้ำระหว่างลอยตัวอยู่กลางอากาศด้วยร่มชูชีพ ขณะที่ นักบินอีกนายประจำเครื่องบินซู-24 รอดตายหวุดหวิด

    เหตุการณ์เครื่องบินเอฟ-16 ของตุรกี ยิงเครื่องบินซู-24 ตก โดยอ้างว่าละเมิดน่านฟ้าของตุรกี ส่งผลให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวด้วยความคับแค้นใจว่า รัสเซียโดนแทงข้างหลังและตุรกีจะต้องเตรียมรับผลลัพธ์ที่จะเกิดตามมา ก่อนที่ไม่กี่วันต่อมา รัฐบาลรัสเซียได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรตุรกีในหลายเรื่องเป็นการตอบโต้ และประธานาธิบดีปูตินยังต้องการได้ยินคำขอโทษจากปากของประธานาธิบดีรีเซป เทย์ยิป เออร์โดกันแห่งตุรกี

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    เสียหน้า! โสมเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำล้มเหลว


    สื่อของประเทศเกาหลีใต้แฉ เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำในทะเลญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่การทดสอบล้มเหลว...

    สำนักข่าว ยอนฮัป ของเกาหลีใต้ รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รัฐบาลผู้ไม่เปิดเผยนาม ว่า เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธ เคเอ็น-11 จากเรือดำน้ำของพวกเขาในทะเลญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ในเวลา ระหว่าง 14:20น.-14:40น. แต่การทดสอบล้มเหลว

    "ดูเหมือนว่าเกาหลีเหนือจะประสบความล้มเหลวในการทดสอบยิง" เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเผยต่อยอนฮัป "ไม่มีใครเห็นขีปนาวุธพุ่งขึ้นสู่อากาศ พบเพียงแต่เศษชิ้นส่วนของขีปนาวุธเท่านั้น"

    ด้านสำนักข่าวเอพีระบุว่า ได้พยายามติดต่อกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้เพื่อสอบถามเกี่ยวกับรายงานของยอนฮัป แต่โฆษกปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ

    อนึ่ง หากรายงานของยอนฮัปได้รับการยืนยันจะเท่ากับว่า นี่เป็นการทดสอบยิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำเป็นครั้งที่ 2 ของเกาหลีเหนือ หลังจากทดสอบยิงครั้งแรกเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้น คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของประเทศไปชมการทดสอบด้วย ขณะที่เกาหลีเหนืออ้างว่า การทดสอบประสบความสำเร็จ

    ทั้งนี้ ภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เกาหลีเหนือถูกห้ามไม่ให้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธแต่มตินี้ถูกรัฐบาลเปียงยางเพิกเฉยมาตลอด

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 พ.ย. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สุขล้น!! หนุ่มลาออกจากงานทำนาโบราณ 2 คนกับเมีย ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี กำไรเห็นๆ


    สุดทึ่ง!! หนุ่มใหญ่มุกดาหาร ผันตัวจากมนุษย์เงินเดือนในเมืองกรุง กลับบ้านเกิดมาทำนาแบบโบราณ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี หรือต้องควักเงินจ้างคนปักดำนา เกี่ยวข้าว ทำกันสองคนกับเมีย แต่ละปีได้กำไร ไม่ชีช้ำเหมือนชาวนาอื่นๆ มีแต่รายจ่าย เจ๊งกับเจ๊ง...

    เมื่อวันที่ 29 พ.ย.58 มีรายงานจาก จ.มุกดาหาร พบชายหนุ่มโบกมือลาการเป็นมนุษย์เงินเดือนใน กทม. ผันตัวมาเป็นชาวนาที่บ้านเกิด ใช้วิธีทำนาแบบโบราณเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ปลอดสารเคมี โดยชายดังกล่าวชื่อ นายศิริวัฒน์ อาจวิชัย อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 121/2 หมู่ 8 ต.หนองสูงเหนือ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ซึ่งกำลังยืนเกี่ยวข้าวอย่างมีความสุขในที่นา จำนวน 24 ไร่

    นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า เรียนจบช่างโยธา ระดับ ปวช. ที่ จ.ขอนแก่น ก่อนมาทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ 17 ปี ซึ่งไม่มีเงินเหลือเก็บ จึงหันเหชีวิตกลับมาทำนาที่บ้านเกิดตั้งแต่ปี 2549 แบบเต็มตัว จำนวน 24 ไร่ โดยปีแรกซื้อปุ๋ยเคมีใส่ต้นข้าว มีการจ้างคนปักดำนาและจ้างเกี่ยวข้าว แต่เมื่อหักกลบลบหนี้พบว่าขาดทุน ต่อมาในปี 2550 จึงหันมาทำนาแบบย้อนยุคเมื่อ 100 ปีเหมือนบรรพบุรุษปู่ย่าตายาย โดยไม่ใส่ปุ๋ยเคมี แต่ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ รวมถึงไม่มีการจ้างปักดำนา และเกี่ยวข้าว

    “ลงมือทำเองทุกๆ อย่าง เพราะหากไปซื้อปุ๋ย ราคากระสอบละร่วม 1,000 บาท และค่าจ้างปักดำนา ค่าเกี่ยวข้าว ตกวันละ 400-500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ หากเทียบกับค่าแรงงานขั้นต่ำที่ กรุงเทพฯ ยังจ้างวันละ 300 บาท และขายข้าวเปลือกในปัจจุบันราคาไม่ถึงกิโลกรัมละ 10 บาท จนชาวนาตอนนี้มีแต่ตายอย่างเดียวเท่านั้น ผมทำนาแบบไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ทำให้เมล็ดข้าวมีเม็ดสวย และไม่หล่นร่วงตามท้องทุ่งนา แถมยังปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะสุขภาพร่างกายแข็งแรง เนื่องจากปลอดจากสารเคมีในร่างกาย”

    พร้อมบอกอีกว่า ชาวบ้านหลงทางกันมานานอยู่หลายปีในการทำนา ต้องไปจ้างคนอื่นมาปักดำนา เกี่ยวข้าว ซึ่งค่าจ้างแพงมาก โดยตนและภรรยา ทำนาเพียง 2 คน มีค่าใช้จ่ายในการทำนาแต่ละปีเพียง 2,000 บาท เท่านั้น เมื่อขายข้าวเปลือกจะได้เงินประมาณปีละ 48,000 บาท ซึ่งยังมีกำไรเหลือ แต่ชาวนาคนอื่นๆ ขาดทุนเพราะต้องไปซื้อปุ๋ยเคมี เสียค่าจ้างคนปักดำนา เกี่ยวข้าว จนค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้

    ด้าน นายคามนีย์ แสนโคตร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.หนองสูงเหนือ อ.หนองสูง กล่าวว่า ปัจจุบันชาวบ้านเริ่มหันมาทำนาเหมือนกับนายศิริวัฒน์ เพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี เพราะเป็นการทำนาแบบประหยัดค่าใช้จ่ายแถมได้กินข้าวที่ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ถือเป็นการทำนาแบบย้อนยุคเก่าจริงๆ เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วยังมีกำไรเหลืออีก ต่างกับการทำนาปัจจุบันนี้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ ซึ่งไม่ได้กำไรและยังขาดทุนตามมาอีกด้วย

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    เมืองลับแลเจอแล้งหนัก ประกาศภัยพิบัติแล้ว 8 อำเภอ 40 ตำบล


    ปภ.เมืองลับแลประกาศภัยพิบัติแล้ง 8 อำเภอ 40 ตำบล ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1.4 แสนคน ทางจังหวัดอนุมัติงบช่วยเหลือแล้ว 3 อำเภอ…

    เมื่อวันที่ 29 พ.ย. นายสมคิด ผานุการณ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จังหวัดอุตรดิตถ์ได้เกิดสถานการณ์ภัยแล้ง ในพื้นที่ 8 อำเภอ 40 ตำบล 339 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 55 ของพื้นที่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 138,663 คน 62,648 ครัวเรือน ประกอบไปด้วย อ.เมือง อ.ลับแล อ.ตรอนอ.พิชัย อ.ทองแสนขัน อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด และ อ.ฟากท่า โดยทางจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติแล้งกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) และขณะนี้ภัยพิบัติดังกล่าวยังไม่สิ้นสุดอยู่ระหว่างการสำรวจช่วยเหลือในระดับอำเภอ

    ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้อนุมัติเงินทดรองราชการเชิงป้องกันหรือยังยั้งภัยพิบัติงบ 10 ล้านบาท และยังขยายงบประมาณเงินทดรองราชการให้การช่วยเหลือ ในภาวะฝนแล้งด้านการเกษตรไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอการจัดสรรงบประมาณ ส่วนเงินทดรองราชการ ของ อ.ทองแสนขัน อ.บ้านโคก และ อ.ตรอน ได้จัดส่งโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติ ให้จังหวัดพิจารณา โดยคณะกรรมการประเมินสถานการณ์ฯได้ประชุมคณะกรรมการร่วมอำเภอไปเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 58 ตรวจสอบโครงการและสำรวจพื้นที่เรียบร้อยแล้วเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาอนุมัติงบประมาณให้การช่วยเหลือแล้ว ใน 3 อำเภอ จำนวน 23 โครงการ เป็นเงิน 3,865,860 บาท ส่วนอีก 5 อำเภอได้ขยายงบประมาณเงินทดรองราชการให้ความช่วยเหลือเช่นกัน.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    เจอทุกปี ‘คราบน้ำมันสีดำ’ ไม่รู้ที่มา! ลอยติดหาดชุมพร ยาว 3 อำเภอ


    ชาวบ้านที่ชุมพรเจออีก คราบน้ำมันสีดำจับตัวเป็นแผ่น ลอยติดชายหาดยาวเกือบ 40 กม. ทำนักท่องเที่ยวผวา หนีไปเที่ยวที่อื่น ชาวประมงหาปลาไม่ได้เพราะคราบน้ำมันติดอวน เผยปีที่แล้วก็เจอแบบนี้ ยังเป็นปริศนา ไม่รู้ที่มา...

    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านพื้นที่หมู่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่า พบก้อนสีดำคล้ายคราบน้ำมันดิบลอยเกลื่อนชายหาดบางน้ำจืด จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า คราบดังกล่าวมีลักษณะเป็นแผ่นหนา สีดำ มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ เมื่อใช้มือบี้ดูจะเหนียวติดมือ และมีกลิ่นเหม็นคล้ายน้ำมันดินเมื่อถูกแสงแดดจะละลาย ลอยอยู่เกลื่อนชายหาดเป็นทางยาว ปะปนกับขยะที่ลอยมากับคลื่นทะเล

    นางศรีเรือน รอดสวัสดิ์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน เจ้าของร้านอาหารที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาด กล่าวว่า คราบดังกล่าวเริ่มมากขึ้นตั้งแต่เมื่อวานมาจนถึงวันนี้ ส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว ไม่กล้าลงไปบริเวณชายหาด เพราะคราบน้ำมันจะติดรองเท้าและติดตามตัวของนักท่องเที่ยว จนหลายคนเปลี่ยนโปรแกรมไปเที่ยวที่อื่น

    ด้าน นายสุรินทร์ พรหมวารี อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บางน้ำจืด กล่าวว่า ขณะนี้คราบน้ำมันมีการกระจายตัวตั้งแต่ชายหาดอำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน และอำเภอละแม ยาวกว่า 40 กิโลเมตร ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของอำเภอหลังสวน อีกทั้งยังทำให้ชาวบ้านที่มีอาชีพเก็บขยะและเชือกตามชายหาดขายได้รับผลกระทบ ทำให้ไม่สามารถนำไปขายได้ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านเนื่องจากคราบน้ำมันติดอวนและอุปกรณ์ทำประมง จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.2557 ที่ผ่านมา มีคราบน้ำในลักษณะนี้ ลอยมาติดชายหาดบริเวณนี้แล้วครั้งหนึ่ง ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์น้ำตามชายหาด รวมถึงอาชีพประมงชายฝั่ง และครั้งนั้นยังไม่มีผลพิสูจน์ หรือข้อสรุปที่แน่ชัดว่า คราบน้ำมันสีดำ รั่วไหล หรือถูกปล่อยมาจากแหล่งใด.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    คลื่นซัดหนักชายฝั่งปากพนัง! ครวญที่ดิน 20 ไร่ หายกลายเป็นทะเล!


    จ.นครศรีธรรมราช เตรียมประกาศชายฝั่งทะเลปากพนังที่ถูกคลื่นกัดเซาะ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ หลังพบความเสียหายทั้งถนน และบ้านเรือนประชาชน แขวงการทางเร่งนำก้อนหินไปถม ชาวบ้านครวญ เคยมีที่ดิน 20 ไร่ ตอนนี้กลายเป็นทะเลไปหมดแล้ว...

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ย.58 นายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย นายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช นายชัพวิชญ์ ไตรแพทย์ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ได้ลงตรวจสอบพื้นที่บ้านเกาะทัง หมู่ 7 ต.ท่าพญา และบ้านหน้าโกฏิ หมู่ 10 ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นพื้นที่ถูกคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้ถนนสายปากพนัง-หัวไทร (หมายเลข 4013) ได้รับความเสียหาย ที่บ้านเกาะทังมีระยะทางประมาณ 200 เมตร และบ้านหน้าโกฏิ ประมาณ 500 เมตร

    นอกจากนี้ บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ชายฝั่งได้รับความเดือดร้อนเสียหาย 7 หลังคาเรือน เบื้องต้น ทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ได้นำหินขนาดใหญ่ไปถมบริเวณตลอดแนวถนนที่ถูกคลื่นทะเลกัดเซาะ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ให้รถสามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ 1 ช่องทางจราจร

    นายพงศ์เทพ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวจะประสบปัญหาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมที่คลื่นลมแรงในช่วงเดือนพฤศจิกายน–ธันวาคม โดยในเบื้องต้นทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ได้จัดซื้อหินขนาดใหญ่ไปถมตลอดแนวถนนที่ถูกคลื่นกัดเซาะเพื่อให้รถสามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ 1 ช่องจราจร ส่วนในระยะยาวจะมีการถมหินให้สูงประมาณ 1.5 เมตร

    ทั้งนี้ แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ที่ 1 ได้จัดเจ้าหน้าที่อยู่ประจำจุดดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยอำนวยความสะดวกและเก็บกวาดทรายและเศษวัสดุต่างๆ ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นไปบนถนน สำหรับบ้านเรือนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบ 7 หลังคาเรือนนั้น ได้ให้ทางอำเภอปากพนังรายงานเหตุด่วนไปให้จังหวัดทราบเพื่อจะได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการต่อไป ในเบื้องต้นหากคลื่นลมแรงให้อพยพไปนอนที่บ้านญาติเป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อความปลอดภัย

    ขณะที่ นายประมวล สถาพร อายุ 61 ปี ชาวบ้านเกาะทัง ต.ท่าพญา กล่าวว่า เดิมตนมีที่ดินกว่า 20 ไร่ แต่ถูกคลื่นทะเลกัดเซาะได้รับความเสียหายต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2531 จนถึงปัจจุบัน ต้องย้ายบ้านหนีแล้ว 3 ครั้ง

    "วันนี้ที่ดินทั้งหมดกลายเป็นทะเลไปแล้ว บ้านที่สร้างอยู่ในปัจจุบันอยู่ในเขตทางหลวง ที่ยังอยู่ได้เพราะ อบต.ท่าพญา ได้นำก้อนหินขนาดใหญ่ไปถมกันคลื่นไว้ แต่ความแรงของคลื่นได้ซัดหลังคาบ้านได้รับความเสียหายและน้ำทะเลเข้าไปในบ้านด้วย ซึ่งอยู่ด้วยกัน 4 คน ยังไม่รู้ว่าจะอพยพไปอยู่ที่ไหน จึงอยากขอให้ทางราชการช่วยหาที่อยู่ให้ใหม่ด้วย" นายประมวล กล่าว

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    อินทนนท์เหลือ 6 องศาฯ !! เตือนหมอกหนา ระวังรถตกดอย


    อุตุฯ ประกาศฉบับ 21 ภาคเหนืออากาศหนาวกับหมอกหนา แม้ว่าความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง หน.อช.อินทนนท์ เผยอุณหภูมิลดลงมาแตะที่ 6 องศาฯ แล้ว วอนขยะล้น นทท. อย่าใช้กล่องโฟม...

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 พ.ย.58 กรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศฉบับที่ 29 เรื่องอากาศหนาว และคลื่นลมแรง ระบุว่า

    "บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลงไว้ด้วย

    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และปัตตานี ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

    ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปยังคงมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง รวมถึงประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งควรระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งต่อไปอีก 1 วัน"

    ขณะที่ นายวรพจน์ วิวัฒนานางกูร พยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ แจ้งว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็น โดยทั่วไปในช่วงตลอดระยะสัปดาห์นี้ภาคเหนือตอนบนอากาศค่อนข้างหนาวถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับบริเวณเทือกเขาและยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กิโลเมตร/ชั่วโมง

    ทางด้าน นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สภาพอากาศบนดอยอินทนนท์ ขณะนี้หนาวเย็นมาก อุณหภูมิวัดได้ต่ำสุดเช้ามืดวันนี้ต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส ที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน ขณะที่บนยอดดอยจุดสูงสุดวัดได้ 8 องศาฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าเที่ยวชมและสัมผัสอากาศหนาวบนดอยอินทนนท์จำนวน 5,794 คน ยานพาหนะ 1,297 คัน

    "ขอประชาสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมา ขอความร่วมมือนำขยะกลับไปทิ้งที่บ้านด้วย เนื่องจากขณะนี้มีขยะมากขึ้นทุกวันโดยเฉพาะกล่องโฟม ขอความกรุณาอย่านำมาใช้ที่อุทยานฯ เพราะย่อยสลายยาก ควรใช้วัสดุห่อหุ้มที่ย่อยสลายง่ายหรือเป็นพวกวัสดุธรรมชาติจะดีกว่า จะช่วยลดขยะตกค้างได้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่ชำนาญเส้นทางควรหลีกเลี่ยงขับรถขึ้นเขา เพราะอาจได้รับอันตรายได้ เนื่องจากขณะนี้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นลดลง ช่วงเช้ามืดมีหมอกลงหนาจัด ดังนั้น ผู้ที่ขับรถควรเปิดไฟหน้าหรือไฟตัดหมอกจะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้" หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าว.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    น้ำน้อย แต่สวยมาก! คนแห่เที่ยว นั่งแพล่องไปในเขื่อนภูมิพล


    สถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล มีน้ำเหลือใช้งานได้ 1,225 ล้านลบ.เมตร ลดระดับลงจนเรือแพจำนวนมากต้องจอด แต่ยังมีนักท่องเที่ยวที่ชอบทิวทัศน์บรรยากาศช่วงหน้าแล้งน้ำแห้งเขื่อน พากันมาเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์...

    เมื่อวันที่ 29 พ.ย.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำกักเก็บของเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ต้องระบายช่วยพื้นที่การเกษตรท้ายเขื่อนและระบบนิเวศวันละกว่า 4 ล้านลูกบาศก์เมตร

    ทั้งนี้ ปัจจุบันเขื่อนภูมิพลมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 5,025 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 37.33 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง จากขีดกักเก็บสูงสุดที่ 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำใช้งานได้เพียง 1,225 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 12.69 เปอร์เซ็นต์ ระบายวันละ 4.4 ล้านลูกบาศก์เมตร วานนี้มีน้ำไหลเข้า 3.12 ล้านลูกบาศก์เมตร และจากที่ระดับน้ำลดต่ำลงทำให้เรือแพจำนวนมากต้องลงมาจอดพักตามบริเวณหน้าเขื่อน

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กลับคึกคัก มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งจากในพื้นที่และนอกพื้นที่มาเที่ยวชมเขื่อน พร้อมล่องแพชมความงามเหนือเขื่อน แม้ว่าเรือแพจะขึ้นไปชมทัศนียภาพเหนือเขื่อนได้เพียงใกล้ๆ เพราะระดับน้ำลดลงจนเรือไม่สามารถไปจนถึงดอยเต่าหรือพื้นที่ใกล้เคียงได้ แต่นักท่องเที่ยวกลับชื่นชอบทิวทัศน์และภูมิประเทศในอ่างเก็บน้ำ ในช่วงหน้าแล้งน้ำน้อยแบบนี้.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    เหนืออุณหภูมิลดลงอีก-ใต้ฝนตก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน


    ตอนบนของประเทศอุณหภูมิยังคงลดลง จากมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไปมีกำลังแรง คลื่นสูง2-4เมตร เตือนภาคใต้มีฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้...

    วันที่ 29 พ.ย.58 จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวีเช้านี้ พบว่ามวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ซึ่งลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียสในบริเวณภาคเหนือ

    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง โดยทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

    ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง รวมถึงประชาชนที่อาศัยตามแนวชายฝั่งควรระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งด้วย

    แต่ในช่วงตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม มวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยกับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนลดลง และในช่วงวันที่ 2-4 ธันวาคม มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้ง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนในระยะแรกต่อจากนั้นจะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิจะลดลงได้ 2-4 องศาเซลเซียส ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจาย

    จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมในเช้าวันนี้ก็พบว่า ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก เช้านี้ท้องฟ้าค่อนข้างโปร่ง มีเมฆเป็นบางส่วนเท่านั้น โดยส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำและชั้นสูง แต่ไม่พบกลุ่มเมฆฝนในจังหวัดใด ส่วนภาคใต้ ยังคงมีเมฆหนาตา โดยเป็นเมฆชั้นต่ำและขั้นสูงเป็นส่วนมาก มีเมฆฝนฟ้าคะนอง บริเวณฝั่งอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัด ชุมพร ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส

    สำหนับการคาดการณ์การตกกระจายตัวของฝนในวันนี้ พบว่าบริเวณตอนบนจนถึงตอนกลางของประเทศมีการตกของฝนเป็นหย่อมๆในบางพื้นที่เท่านั้น ส่วนใหญ่วันนี้ฝนจะเน้นตกบริเวณภาคใต้ ตั้งแต่ในช่วงเช้า พบกลุ่มฝนตกในฝั่งอ่าวไทย โดยเน้นตกบริเวณตอนกลางของภาค ส่วนช่วงเที่ยงพบกลุ่มฝนตกเพิ่มขึ้นทางตอนล่างของภาค ก่อนที่ช่วงเย็นกลุ่มฝนจะขยายพื้นที่ไปตกในบริเวณฝั่งอ่าวไทยด้วย

    สภาพอากาศโดยรวมในแต่ละภาควันนี้ เป็นดังนี้

    ภาคเหนือ อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศาเซลเซียส

    ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออก ตอนบนของภาคอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

    ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ย. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายรวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


    ขั้วโลกเหนือ 30 พ.ย.-ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งแถบขั้วโลกเหนือมีการละลายอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยยูเอ็นชี้มหันตภัยโลกร้อนเป็นปัจจัยสำคัญ

    ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งแถบขั้วโลกเหนือมีการละลายอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่อุณหภูมิแถบขั้วโลกยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่ใดๆ ในโลก โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติระบุว่า มหันตภัยโลกร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทะเลน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือลดน้อยลงไป โดยเฉพาะธารน้ำแข็งในนอรเวย์และกรีนแลนด์ ซึ่งมีการละลายอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

    มลภาวะยังปกคลุมจีนและอินเดียในวันเริ่มการประชุมโลกร้อน


    ปักกิ่ง/นิวเดลี 30 พ.ย. – เมืองหลวงของจีนและอินเดีย สองประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและควันพิษในวันนี้ ซึ่งเป็นวันเริ่มการประชุมสภาวะอากาศโลกที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส โดยผู้นำของจีนและอินเดียอยู่ในคณะผู้แทนคนสำคัญ

    ในวันนี้กรุงปักกิ่งของจีนยังประกาศเตือนภัยมลภาวะในระดับสีส้มซึ่งสูงสุดเป็นอันดับสอง ต้องปิดทางหลวง ระงับการก่อสร้าง และเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ภายในที่พักอาศัย ส่วนที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย สถานทูตสหรัฐวัดดัชนีคุณภาพอากาศได้ 372 ซึ่งหากเกินกว่า 100 แสดงว่าค่าความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐานและถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย หมอกควันหนาทึบปกคลุมกรุงนิวเดลี ทำให้ทัศนวิสัยลดลง

    อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังไม่ยกระดับการเตือนภัยจากสภาพอากาศในปัจจุบันและไม่มีประกาศเตือนประชาชน ทั้งนี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแห่งอินเดียต่างมาร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่กรุงปารีส โดยมีกำหนดพบกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐในวันนี้เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการประชุมราว 2 สัปดาห์ .- สำนักข่าวไทย

    โอคลาโฮมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้งรัฐ หลังเกิดพายุน้ำแข็งและน้ำท่วม


    ฮิวสตัน 30 พ.ย.- รัฐโอคลาโฮมาของสหรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้ง 77 เทศมณฑลหลังเกิดพายุน้ำแข็งและน้ำท่วมช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    นางแมรี ฟอลลิน ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมากล่าวเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะอำนวยความสะดวกให้ขอความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น เนื่องจากบ้านเรือนเกือบ 100,000 หลัง ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนที่รัฐเทกซัส พื้นที่ตอนเหนือหลายแห่งเกิดน้ำท่วมในช่วงวันศุกร์และวันเสาร์ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 คน ขณะที่รัฐแคนซัส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนจากอุบัติเหตุที่เกิดจากถนนมีน้ำแข็งเกาะ และมีบ้านเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้ประมาณ 10,000 หลัง.-สำนักข่าวไทย

    อียิปต์พร้อมส่งออกอาหารและสินค้าแทนตุรกีที่ถูกรัสเซียคว่ำบาตร


    ไคโร 30 พ.ย.- อียิปต์เผยว่า พร้อมที่จะส่งอาหารและสินค้าไปรัสเซียแทนตุรกีที่ถูกรัสเซียคว่ำบาตรหลังเกิดเหตุตุรกียิงเครื่องบินรัสเซียตก

    สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียอ้างหนังสือพิมพ์ในอิยิปต์ว่า นายทาเร็ก กาบิล รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมอียิปต์ได้สนอกับนายเดนิส มานตูรอฟ รัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมรัสเซียว่า รัสเซียนำเข้าผักผลไม้ เสื้อผ้าและเครื่องหนังจำนวนมากจากตุรกี แต่หลังจากที่รัสเซียจำกัดการนำเข้าจากตุรกีแล้ว ก็จำเป็นต้องหาแหล่งนำเข้าใหม่เพื่อรองรับความต้องการบริโภค อียิปต์สามารถเป็นแหล่งนำเข้าใหม่ให้แก่รัสเซียได้เพราะมีศักยภาพมหาศาลในการผลิตอาหารและสินค้าเหล่านี้ ขอให้รัสเซียร่างรายชื่อสินค้าที่ต้องการชดเชยการนำเข้าจากตุรกี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ในกระทรวงของเขานำไปหารือกับผู้ผลิตเรื่องดำเนินการจัดส่งให้ต่อไป นายกาบิลเผยด้วยว่า รัสเซียเคยขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์นมและชีสที่ส่งมากจากอียิปต์ทั้งหมดเพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องการนำเข้าจากอียิปต์ในอนาคต

    ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียลงนามในคำสั่งจำกัดการนำเข้าสินค้าจากตุรกีหลังเกิดเหตุเครื่องบินตุรกียิงเครื่องบินซู-24 ของรัสเซียตกบริเวณชายแดนด้านที่ติดกับซีเรียเมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ยังระงับเที่ยวบินเช่าเหมาลำกับตุรกี และห้ามบริษัทนำเที่ยวขายแทพคเกจท่องเที่ยวตุรกี ปีที่แล้วมีชาวรัสเซียไปเที่ยวตุรกีมากกว่า 3 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

    สถานทูตสหรัฐเตือนชาวอเมริกันให้ระวังเหตุโจมตีกรุงคาบูล


    คาบูล 30 พ.ย. – ทางการสหรัฐประกาศวันนี้เตือนชาวอเมริกันในกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานว่าอาจมีเหตุโจมตีภายในอีก 1-2 วันนี้ ท่ามกลางความพยายามรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มตอลีบานที่ชะงักไป

    สถานทูตสหรัฐในกรุงคาบูลขอให้ชาวอเมริกันระมัดระวังตัวให้มากที่สุดในช่วงเสี่ยงภัยคุกคามจากการโจมตีสูง แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเป้าหมายหรือวิธีการโจมตี แถลงการณ์ฉุกเฉินทางเว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐระบุว่า สถานทูตสหรัฐในกรุงคาบูลได้รับรายงานที่น่าเชื่อถือได้ว่าอาจมีเหตุโจมตีในกรุงคาบูลเร็วๆนี้ หรือภายในอีก 48 ชั่วโมง แถลงการณ์ระบุว่า สถานการณ์ด้านความมั่นคงในอัฟกานิสถานถือว่าไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง ส่วนภัยคุกคามที่มีต่อชาวอเมริกันทั้งหมดในอัฟกานิสถานยังคงวิกฤต

    ทั้งนี้สถานทูตสหรัฐมักออกแถลงการณ์เตือนภัยฉุกเฉินหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดมีขึ้นในขณะที่คาดว่าผู้นำอัฟกานิสถานและปากีสถานจะได้พบกันนอกรอบการประชุมสหประชาชาติที่กรุงปารีส ซึ่งจะถือเป็นก้าวแรกในความพยายามรื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มตอลีบานที่มีปากีสถานเป็นผู้ไกล่เกลี่ย .-สำนักข่าวไทย

    กรุงปักกิ่งวันนี้มลพิษสูงกว่ามาตรฐาน 22 เท่า


    ปักกิ่ง 30 พ.ย.- ทางเหนือของจีนถูกหมอกควันปกคลุมเลวร้ายที่สุดของปีในวันนี้ โดยที่กรุงปักกิ่งมีค่ามลพิษทางอากาศสูงกว่าระดับปลอดภัยถึง 22 เท่า ทำให้ต้องแจ้งเตือนภัยมลพิษสูงสุดอันดับ 2 ขณะที่ผู้นำเดินทางไปร่วมประชุมโลกร้อนที่ฝรั่งเศส

    สถานทูตสหรัฐในกรุงปักกิ่งแจ้งค่าฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอน ที่สามารถฝังลึกเข้าไปในปอดว่า สูงเกิน 560 ไมโครกรัมต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร หรือกว่า 22 เท่าของค่าสูงสุดที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนเมืองอื่น ๆ ในมณฑลเหอเป่ยที่อยู่ติดกันก็มีฝุ่นละอองเกิน 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่าสูงสุด 20 เท่า ทางการกรุงปักกิ่งได้แจ้งเตือนมลพิษสูงสุดอันดับสองคือระดับสีส้ม และถือว่าสูงที่สุดของปีนี้ โดยขอให้ประชาชนอยู่แต่ในอาคารและสั่งปิดโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่ง ชาวเน็ตบางคนเขียนในเว่ยปั๋วว่า อากาศเลวร้ายถึงขนาดมองไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แม้แต่ในรถไฟใต้ดินก็ยังเต็มไปด้วยหมอกควัน สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมกรุงปักกิ่งคาดว่า มลพิษทางอากาศจะไม่ดีขึ้นจนกว่าจะมีแนวปะทะอากาศเย็นในวันพรุ่งนี้

    มลพิษดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนไปร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้กรุงปารีสของฝรั่งเศส และกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 11 ธันวาคม ประมาณกันว่าจีนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 9,000-10,000 ล้านตันในปี 2556 เกือบสองเท่าของสหรัฐ และเกือบสองเท่าครึ่งของสหภาพยุโรป (อียู) จีนรับปากเมื่อปีก่อนว่าจะลดปริมาณการปล่อยลงให้ได้ภายในปี 2563 ต้นตอมลพิษทางอากาศในจีนส่วนใหญ่มาจากการเผาถ่านหินตามโรงไฟฟ้าและบ้านเรือน.-สำนักข่าวไทย

    ที่มา เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สกัดหวัดนกระบาดในเขมร! สระแก้วยึดไข่เป็ด 500 ฟอง ลอบเข้าไทย


    เจ้าหน้าที่สระแก้ว สนธิกำลังตรวจค้นยานพาหนะออกจากโรงเกลือ สกัดกั้นไข้หวัดนก พบรถตู้ 2 คัน ขนชาวเขมรเข้าชลบุรี - กทม. ลักลอบขนไข่ตัวรวม 500 ฟองเข้าไทย ยึดทำลาย ด้าน สสจ. ยัน มีเชื้อ H5N1 ระบาดในกัมพูชาจริง

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ย. 58 พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.ท.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ ร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1201 ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก.ตม.จ.สระแก้ว และ นายวิบูลย์ ศรีมั่นคงธรรม หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ที่ 2 ภาคตะวันออก/หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สระแก้ว สนธิกำลังร่วมกันตั้งด่านตรวจค้น บริเวณด่านตรวจถาวรหน้าตลาดเทศบาล 2 บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจค้นรถยนต์โดยสารทุกชนิดที่วิ่งออกจากตลาดโรงเกลือ และหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ เข้ามาในพื้นที่ชั้นใน เน้นตรวจค้นหลังสืบทราบว่า มีชาวกัมพูชาลักลอบนำสัตว์ปีกที่มีชีวิตและไข่ดิบจากประเทศกัมพูชาเข้าไทย โดยเฉพาะไข่ตัวหรือไข่ที่ใกล้จะฟักเป็นตัว

    ทั้งนี้ ผกก.สภ.คลองลึก เผยว่า ทราบข้อมูลจาก นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้วว่า จากการประสานข้อมูลไปยังเครือข่ายเฝ้าระวังโรคติดต่อชายแดนที่ประเทศกัมพูชา ได้รับการยืนยันว่า มีการพบเชื้อไข้หวัดนก (H5N1) ในฝูงเป็ดไล่ทุ่งในหมู่บ้าน จ.พระตะบอง และ จ.เสียมราฐ และเก็บตัวอย่างผู้เข้าข่ายส่งตรวจ 5 ราย พบว่าติดเชื้อไข้หวัดนกทั้งหมด สาธารณสุขกัมพูชา จึงมีการเฝ้าระวังและติดตามนี้อย่างเข้มข้น ซึ่งเกรงว่าเชื้อจะเข้ามาระบาดในไทย จึงสนธิกำลังคุมเข้มพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดนและสกัดไม่ให้มีการลักลอบนำสัตว์ปีกมีชีวิตพร้อมทั้งไข่ดิบทุกประเภทเข้ามา

    ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมตรวจค้นรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง สายระยอง-ตลาดโรงเกลือ ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 10-0780 สระแก้ว รับผู้โดยสารเป็นแรงงานชาวกัมพูชา ที่มีเอกสารการเดินทางอย่างถูกต้องจากตลาดโรงเกลือ จะไปส่งที่ อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี มาเต็มคันรถ ตรวจค้นภายในรถพบไข่เป็ดดิบ ซึ่งเป็นไข่ตัว 250 ฟอง สอบถาม นายวิชัย ทิพย์จันทร์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.2 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว คนขับรถ อ้างว่ามีชาวกัมพูชา ฝากส่งไปที่ อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี จึงทำการตรวจยึดไว้ จากนั้นตรวจค้นรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 30-0168 สระแก้ว รับผู้โดยสารเป็นแรงงานชาวกัมพูชา จะไปส่งใน กทม. พบไข่ตัว 250 ฟอง เช่นกัน นายนภดล ทิพย์จันทร์ อายุ 30 ปี คนขับรถชาวอุบลราชธานี อ้างว่าชาวกัมพูชาฝากไปส่งที่ กทม.

    เจ้าหน้าที่นำไข่เป็ดของกลางรวม 500 ฟอง ส่งมอบให้หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สระแก้ว ฝังกลบทำลายทิ้งทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไข้หวัดนกสามารถลุกลามเข้ามาแพร่ระบาดในไทยได้อีก.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ย. 2558

    นราธิวาส ฝนถล่ม 4 วัน น้ำทะลักท่วมโก-ลก เร่งช่วยชาวบ้านเดือดร้อน


    ฝนถล่มนราธิวาส 4 วัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ขณะที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 2 ชุมชน ล่าสุดระดับน้ำสูง 1.20 เมตร ทางเทศบาลเร่งช่วยชาวบ้านได้รับผลกระทบ ...

    เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.นราธิวาส ติดต่อกัน 4 วัน ล่าสุด ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลก เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล้นตลิ่งไหล่เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่ปลูกสร้างอยู่ริมตลิ่งในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 2 ชุมชน คือ 1.ชุมชนท่าโรงเลื่อย และ 2.ชุมชนท่าประปา ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลก สูงกว่าตลิ่ง 1.20 เมตร

    โดยมีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ จำนวน 80 หลังคาเรือน 300 คน โดยส่วนใหญ่ได้ขนย้ายสิ่งของมีค่า และอพยพไปอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน และบางส่วนได้อพยพไปอาศัยอยู่ที่บ้านของญาติเป็นการชั่วคราว ซึ่งล่าสุด นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งออกให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ย. 2558

    อุตุฯภาคใต้ เตือน 1-2 วันนี้ ฝั่งอ่าวไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก


    ศูนย์อุตุนิยมวิทยา เผย ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยมีฝนเกือบทั่วไป ตกหนักในหลายพื้นที่ แจ้งเตือน ปชช.ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 30 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้ ด้าน รอง ผวจ.ยะลา ประสานทุกหน่วยเตรียมพร้อม-ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด...

    วันที่ 30 พ.ย.58 ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกได้ประกาศเตือน ฉบับที่ 10 เรื่องคลื่นลมแรงในอ่าวไทย และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย แม้ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยมีฝนเกือบทั่วไป และตกหนักหลายพื้นที่ ตั้งแต่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และปริมาณน้ำฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.นี้

    ด้าน นายราชิต สุดพุ่ม รอง ผวจ.ยะลา เปิดเผยว่า ได้มีการประสานแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกพื้นที่ ให้มีการเตรียมความพร้อมและมีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่มแม่นำ้ปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ที่ท่วมซ้ำซาก ให้นำเรือออกไปสำรวจระดับน้ำอย่างต่อเนื่อง และให้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารข้อมูล จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

    นอกจากนั้น ทางจังหวัดได้มีการจัดเตรียมงบประมาณเร่งด่วนในการให้ความช่วยเหลือยามเมื่อเกิดอุทกภัยในพื้นที่ ฉะนั้น เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่ ให้ทางท้องถิ่นได้มีการประสานข้อมูลการให้ความช่วยเหลือเข้ามาที่จังหวัดโดยทันที และในส่วนของประชาชนที่ปลูกบ้านเรือนริมทางหลวงสาย 410 (ยะลา-เบตง) โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้ภูเขาและเชิงเขาใน อ.เบตง อ.ธารโต ให้มีการเฝ้าระวังดินโคลนถล่มเป็นพิเศษ เพราะหากฝนตกลงมาต่อเนื่อง ดินเกิดการชุ่มน้ำ อาจเกิดดินถล่มได้

    สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของจังหวัดยะลาขณะนี้ ยังอยู่ในภาวะปกติ แต่ระดับปริมาณน้ำในพื้นที่ราบลุ่มของพี่น้องประชาชน ริมแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น ก็ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานหน่วยงานในระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าช่วยเหลือยามเกิดสถานการณ์.

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ย. 2558

    ฝนกระหน่ำน้ำป่าซัดรถยนต์ 2 ผัวเมียพ่อค้าทุเรียนจมน้ำ เจ้าหน้าที่เร่งช่วย ไร้เจ็บ


    อ.สิชล จ.นครศรีฯ ฝนตกติดต่อกันหลายชั่วโมงน้ำป่าลง พ่อค้ารับซื้อทุเรียน 2 คนผัวเมียขึ้นไปซื้อทุเรียนในหุบเขาบ้านสำนักเนียนอำเภอสิชล ขับรถพลาดร่องถนนขณะข้ามลำคลองรถติดหล่มเคลื่อนที่ไม่ได้ เจอน้ำป่าซัดรถจมน้ำ โชคดีชีวิตปลอดภัย

    เมื่อเวลา 17.00น.ของวันที่ 29พ.ย.58 พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผู้บังคับกองร้อยฝึกรบพิเศษที่4 ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล ได้รับแจ้งจากองค์การบริหารส่วนตำบลเขาน้อย อำเภอสิชล ว่ามีพ่อค้ารับซื้อทุเรียน2คนผัวเมียได้ขอความช่วยเหลือว่ารถยนต์ถูกกระแสน้ำพัดจมไปกับน้ำบริเวณบ้านสำนักเนียน ม.3 ต.เขาน้อย อ.สิชล และได้ร้องขอทางอบต.เขาน้อยทำการช่วยเหลือ อบต.เขาน้อยจึงได้ประสานไปค่ายฝึกการรบพิเศษสิชลซึ่งได้เตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือ

    จากนั้นได้เดินทางไปช่วยเหลือทันทีพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ปภ.นครศรีธรรมราชสาขาอำเภอสิชล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ้ง เจ้าหน้าที่กว่า30 นาย ไปเข้าไปช่วยเหลือต้องเดินเท้าเกือบ3กิโลเมตร รถไม่สามารถขับผ่านได้เนื่องจากไม่มีสะพานและกระแสน้ำเชี่ยว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกผูกอีกฝั่งจึงจะสามารถเดินข้ามไปได้ ถึงบริเวณที่รถจมน้ำเริ่มมืดพอดี ตรงจุดที่รถยนต์จมน้ำเป็นถนนเป็นฝายน้ำล้นเล็กๆที่รถยนต์สามารถขับผ่านไปมาได้

    พบรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีขาว ตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน ฆว 9245 กทม. ลงไปอยู่ในลำคลอง ห่างจากจุดที่รถจมน้ำประมาณ 200 เมตร ถูกกระแสน้ำพัดไปทีละนิด เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำเชือกขนาดใหญ่ผูกกับรถและไปผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่ เพื่อไม่ให้รถถูกกระแสน้ำพัดไป ช่วยกันอย่างทุลักทุเล และจะทำการช่วยเหลือนำรถขึ้นมาจากคลองในวันพรุ่งนี้เพราะไม่มีแสงสว่างและฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง

    นายกมลวร ปุณวิทยโภคิน เจ้าของรถคันที่จมน้ำเล่าให้ฟังว่า ตนและภรรยาเป็นพ่อค้ามาจากจังหวัดชุมพร ได้มาหาซื้อทุเรียนที่บ้านสำนักเนียนแห่งนี้ ขณะที่ขับรถผ่านลำคลองที่เกิดเหตุรถขับพลาดร่องถนน เพราะไม่ชำนาญเส้นทาง รถไม่สามารถเคลื่อนได้ และฝนก็กำลังตกหนัก ขณะที่กำลังพยายามเลื่อนรถก็ได้ยินเสียงน้ำป่าลงมาตนและภรรยาจึงรีบออกจากรถ แล้วสักครู่เดียวกระแสน้ำก็พัดพารถลงลำคลองไปต่อหน้าต่อตา จากนั้นก็ได้เดินเท้าขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านจนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาช่วยเหลือไว้ได้ในเบื้องต้น

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ย. 2558

    เหนือ-อีสาน อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย ขณะใต้ฝนลดลง


    เหนือ-อีสาน อุณหภูมิจะสูงขึ้น ขณะที่ภาคใต้ ฝนลดลง แต่พอกลางสัปดาห์ฝนจะเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลมวลอากาศเย็นจากจีนจะแผ่ลงมาอีกครั้ง

    วันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากระบบพยากรณ์อากาศไทยรัฐทีวี เดอะ เวตเตอร์ คอมพานี พบว่าในเช้าวันนี้ และวันพรุ่งนี้ มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนก่อนหน้านี้มีกำลังอ่อนลงแล้ว ซึ่งลักษณะเช่นนี้ก็จะทำให้บริเวณดังกล่าว มีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย กับมีหมอกหนาในตอนเช้า แต่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ยังคงถือว่า มีอากาศเย็นๆได้ในช่วงเช้า

    และหลังจากนั้น ในช่วงวันที่ 2 ถึง 5 ธันวาคม มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่ จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอีกครั้ง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนในระยะแรก ต่อจากนั้น จะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลงได้ประมาณ 2 - 4 องศาเซลเซียส ดังนั้นผู้ที่อยู่บริเวณภาคเหนือ และภาคอีสาน ก็ยังคงต้องดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงด้วย

    ส่วนพื้นที่ภาคใต้ วันนี้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ก็จะค่อยๆมีกำลังอ่อนลง ซึ่งก็จะทำให้บริเวณภาคใต้ มีฝนลดลง แต่ในช่วงวันที่ 2 ถึงวันที่ 5 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้บริเวณภาคใต้กลับมามีฝนเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

    จากการตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมในเช้าวันนี้ พบว่า ภาคเหนือ ภาคอีสาน ท้องฟ้าค่อนข้างโปร่ง มีเมฆชั้นกลางปกคลุมบางพื้นที่ ไม่พบกลุ่มเมฆฝน ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก มีเมฆเป็นบางส่วน โดยส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลาง แต่ไม่พบกลุ่มเมฆฝนเช่นเดียวกัน ในขณะที่ภาคใต้ ยังคงมีเมฆมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นกลางและชั้นสูง และมีเมฆฝนฟ้าคะนองกระจายเป็นแห่งๆ บริเวณตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไป รวมทั้งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน

    ส่วนการตรวจสอบ ลักษณะการตกกระจายตัวของกลุ่มฝนตามช่วงเวลาในวันนี้ พบว่า ทางตอนบนจนถึงตอนกลางของประเทศ วันนี้ท้องฟ้าค่อนข้างโปร่ง ไม่พบกลุ่มฝน ส่วนทางตอนล่างยังคงพบกลุ่มฝนตกในพื้นที่ แต่ภาพรวมแล้วน้อยกว่าในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว โดยช่วงสายวันนี้พบการตกของฝนบริเวณตอนกลางของภาค ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง และสตูล ช่วงเที่ยง กลุ่มฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเน้นตกในฝั่งอันดามันตั้งแต่บริเวณตอนบนจนถึงตอนล่างของภาค หลังจากนั้นช่วงบ่าย พบกลุ่มฝนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือบริเวณตอนกลางที่จังหวัด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช และอีกกลุ่มเน้นตกบริเวณตอนล่างของภาคที่สงขลา และยะลา และช่วงเย็นกลุ่มฝนจะลดลงเหลือบริเวณตอนกลางของภาคเท่านั้น

    อุณหภูมิเช้านี้ บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ยังคงมีอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบเช้าวันนี้จะอยู่ที่ประมาณ 17 องศาเซลเซียสในบริเวณภาคเหนือ ส่วนตามยอดดอยในภาคเหนือต่ำสุดจะอยู่ที่ 8 - 14 องศาเซลเซียส ขณะที่บริเวณยอดภู ในภาคอีสาน ต่ำสุดประมาณ 12 - 16 องศาเซลเซียส ขณะที่ตอนกลางของประเทศ ยังคงมีอากาศร้อน แดดแรงในช่วงบ่ายสูงสุดวันนี้อยู่ที่ประมาณ 35 -36 องศาเซลเซียส

    สภาพอากาศในแต่ละภาคตลอดสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไรไปเริ่มกันที่

    ภาคเหนือ ช่วงต้นสัปดาห์ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย หลังจากกลางสัปดาห์ไปแล้ว จะเริ่มมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดต่ำลง อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-9 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สัปดาห์นี้ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ต้นสัปดาห์จะมีอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2- 4 องศา ส่วนช่วงปลายสัปดาห์มีโอกาสเกิดฝน หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดภู อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส

    ภาคกลาง ต้นสัปดาห์มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนหลังกลางสัปดาห์มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองเป็นบางแห่ง แต่อากาศจะเย็นลง อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

    ภาคตะวันออก มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองได้ตลอดสัปดาห์ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

    ภาคใต้ มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองกระจายตลอดช่วง ประมาณร้อยละ 50 - 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 องศาเซลเซียส

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีโอกาสเกิดฝนบางแห่ง หลังกลางสัปดาห์คาดว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้น อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส

    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ย. 2558

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  5. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรทำเงิน. : แปลงผักสวนครัวผสมผสาน รายได้หลักหมื่น/เดือน


    เผยแพร่เมื่อ 21 ต.ค. 2015​

    เกษตรทำเงินวันนี้ พาไปดูการปลูกผักแบบผสมผสานในพื้นที่ ม.1 ต.ราไวย์ จ.ภูเก็ต เก็บขายได้ทุกวัน มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท/เดือน
     
  6. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : ชุมชนพึ่งตนเอง ผ่านเกษตรอินทรีย์ จ.ระยอง


    เผยแพร่เมื่อ 18 ต.ค. 2015​

    ชุมชนบ้านจำรุงในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง มีชื่อเสียงเรื่องยึดเกษตรอินทรีย์เป็นหัว­ใจในการทำการเกษตรมาหลายสิบปี เป็นชุมชนที่พึ่งพาตนเองจนเข้มแข็ง เป็นตัวอย่างให้องค์กรและชุมชนอื่นได้เรีย­นรู้
     
  7. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : มะนาวยักษ์สวนเพชร ผลดกออกลูกทั้งปี


    เผยแพร่เมื่อ 17 ต.ค. 2015​

    “เกษตรสร้างชาติ” วันนี้ พาไปดูความใหญ่ของมะนาวยักษ์ ที่สวนเพชร ริเวอร์วิว รีสอร์ท จ.เพชรบุรี มะนาว 1 ลูก คั้นน้ำได้ถึง 1 แก้ว แถมยังออกลูกดก เก็บขายได้ทั้งปี
     
  8. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : ฟาร์มเห็ดท่าหรั่งครบวงจร จ.สงขลา


    เผยแพร่เมื่อ 15 ต.ค. 2015​

    ไปดูฟาร์มเห็ดครบวงจร ที่อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ซึ่งนอกจากจะเพาะเห็ดขายแล้ว ยังจำหน่ายอุปกรณ์เพาะเห็ดอย่างครบวงจรด้ว­ย
     
  9. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรทำเงิน : มะม่วงนอกฤดูเพื่อการส่งออก


    เผยแพร่เมื่อ 15 ต.ค. 2015​

    ชาวบ้านใน อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น รวมกลุ่มกันปลูกมะม่วงนอกฤดูเพื่อการส่งออ­กได้ผลเป็นอย่างดี ทำเงินปีละกว่า 10 ล้านบาท จนดึงดูดให้เกษตกรอยากเข้ากลุ่มอย่างต่อเน­ื่อง ติดตามได้ในช่วง "เกษตรทำเงิน" วันนี้
     
  10. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรทำเงิน : นศ.เพาะเห็ดขาย สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว


    เผยแพร่เมื่อ 14 ต.ค. 2015​

    นักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพาะเห็ดนางฟ้าจำหน่าย สร้างรายได้เกือบ 1,000 บาท/วัน มีรายได้ส่งตนเองเรียนหนังสือและเลี้ยงครอ­บครัวได้
     
  11. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรทำเงิน : ปลูกฝรั่งแป้นสีทองแก้จน


    เผยแพร่เมื่อ 13 ต.ค. 2015​

    หลังจากที่ปลูกพืชหลายชนิดแต่ไม่ประสบผล เพราะเจอปัญหาทั้งต้นทุนสูงและต้องดูแลใกล­้ชิด ทำให้เกษตรกรชาว อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รายหนึ่งเปลี่ยนไปศึกษาการปลูกฝรั่ง และลงมือปลูกจนได้ผลดีตลอดทั้งปี ทำรายได้ปีละหลายแสนบาท
     
  12. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรทำเงิน : สบู่อะโวคาโดออร์แกนิก ต่อยอดเพิ่มรายได้หลายแสน


    เผยแพร่เมื่อ 12 ต.ค. 2015​

    ช่วงเกษตรทำเงิน การทำการเกษตรนอกจากเพาะปลูกให้ได้ผลผลิตค­ุณภาพดีแล้ว หากสามารถนำมาต่อยอดเพิ่มมูลค่าได้จะสร้าง­รายได้เพิ่มขึ้น อย่างหนุ่มคนหนึ่งที่แม่ฮ่องสอน ซึ่งทำสวนอะโวคาโด และนำมาผลิตเป็นสบู่อะโวคาโดออร์แกนิก สร้างรายได้เพิ่มหลายแสนบาท และยังรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้านเพื่อพยุงรา­คาได้ด้วย
     
  13. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : ข้าวพันธุ์ใหม่เพิ่มผลผลิต-ใช้น้ำน้อย


    เผยแพร่เมื่อ 10 ต.ค. 2015​

    กรมการข้าวเปิดตัวข้าวพันธุ์ กข61 ที่ให้ผลผลิตดี ใช้น้ำน้อย เหมาะสำหรับปลูกทั้งในที่ลุ่มน้ำหลากและพื­้นที่แล้ง มีอายุการเพาะปลูกสั้นเพียง 90 วัน ใช้ จ.พิจิตร เป็นพื้นที่นำร่อง หวังช่วยเหลือชาวนาในภาวะที่กำลังเผชิญภัย­แล้ง
     
  14. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : ปลูกผักหวานป่า รายได้หลักแสน


    เผยแพร่เมื่อ 9 ต.ค. 2015​

    ผอ.โรงเรียนที่สระบุรี ใช้เวลาว่างจากงานประจำปลูกผักหวานป่า บนพื้นที่ 5 ไร่ พัฒนาการปลูกเก็บยอดอ่อนขายได้ทั้งปี และขยายกิ่งพันธุ์ออกรากเร็ว มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
     
  15. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : อนุรักษ์ข้าวพันธุ์พื้นเมือง ข้าวก่ำนาสีนวน


    เผยแพร่เมื่อ 8 ต.ค. 2015​

    ประเทศไทยมีพันธุ์ข้าวพื้นเมืองอยู่มากมาย แต่หลายสายพันธุ์สูญหายเนื่องจากภัยธรรมชา­ติ และเกษตรกรหันมาปลูกข้าวพันธุ์ใหม่ที่ให้ผ­ลผลิตสูง ทำให้ความหลากหลายของข้าวพันธุ์พื้นเมืองล­ดลง มหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงอนุรักษ์พันธุ์ข้า­วพื้นเมืองร่วมกับชุมชน สร้างตลาดและส่งเสริมการปลูกแบบอินทรีย์
     
  16. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : ปลูกพริกหวาน 200 ตารางวา แค่ 2 เดือนครึ่งขายได้ 3 แสน


    เผยแพร่เมื่อ 7 ต.ค. 2015​

    หนุ่มช่างยนต์เชียงใหม่หันมาปลูกพริกหวาน ใช้พื้นที่เพียง 200 ตารางวา แค่ 75 วันเก็บผลผลิตขายได้ 300,000 บาท
     
  17. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : ส้มควายมหัศจรรย์ จ.ภูเก็ต


    เผยแพร่เมื่อ 3 ต.ค. 2015​

    เกษตรสร้างชาติวันนี้พาดูเรื่องราวของผลส้­มควายที่ชาวบ้านในภูเก็ตนำมาพัฒนาเป็นอาหา­รและเวชสำอาง สร้างรายได้เป็นอาชีพเสริม
     
  18. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : วิศวกรหนุ่มสระบุรีผันตัวปลูกตะไคร้เงินแสน


    เผยแพร่เมื่อ 1 ต.ค. 2015​

    “พยนต์ มูลเกิด” หนุ่มวิศวกรผันตัวเองออกมาทำการเกษตร เลือกปลูกตะไคร้ส่งโรงงาน บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใน อ.วิหารแดง จ.สระบุรี เขามีเทคนิคในการนำโคลนมาใช้ เพื่อง่ายต่อการปัก ทำให้ตะไคร้แตกรากและเจริญเติบโตเร็ว ปัจจุบันมีรายได้ต่อเดือนเกินหลักแสนบาท
     
  19. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรทำเงิน : ปลูกเมลอน เกษตรเชิงท่องเที่ยว


    เผยแพร่เมื่อ 1 ต.ค. 2015​

    อดีตพยาบาลผันตัวมาเป็นเกษตรกร ลองผิดลองถูกปลูกเมลอนจากปลูก 20 ต้น ปัจจุบันมี 13 โรงเรือน ส่งขายห้างสรรพสินค้ากิโลกรัมละ 120-150 บาท และเปิดสวนให้นักเที่ยวเข้าชมการปลูกเมลอน สามารถเลือกซื้อและตัดเมลอนเองได้จากต้น
     
  20. เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกษตรสร้างชาติ : ส้มโอนครชัยศรี ผลไม้ขึ้นชื่อ จ.นครปฐม


    เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ย. 2015​

    ส้มโอสายพันธุ์เก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องคว­ามอร่อย คือ ส้มโอนครชัยศรี ซึ่งปลูกกันใน 3 อำเภอของ จ.นครปฐม โดยพันธุ์ที่ปลูก ได้แก่ ขาวน้ำผึ้ง เนื้อสีขาว หวานกรอบ และทองดี เนื้อสีชมพู หวานฉ่ำ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูม­ิศาสตร์ (GI) เพราะหากนำพันธุ์ไปปลูกที่อื่นก็ไม่ได้รสช­าติดีเท่าที่ปลูกในท้องที่
     

แชร์หน้านี้