ตามรอยธรรมพ่อแม่ครูอาจารย์
ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 25 กรกฎาคม 2013.
หน้า 31 ของ 34
-
-
อะไรเป็นปัจจัยของอวิชชา เรานั่นแหละเป็นปัจจัยของอวิชชา
อะไรเป็นปัจจัยของเรา อวิชชานั่นแหละเป็นปัจจัยของเรา
ถ้ามีอวิชชาก็มีเรา ถ้ามีเราก็มีอวิชชา
ตำราแบบแผนมิใช่ยา ยามิใช่ตำราแบบแผน
ความไข้ไม่ได้หายด้วยยาอย่างเดียว
ต้องอาศัยกินยานั้นด้วยไข้จึงหาย -
เขาพูดว่าเราดี เราก็ไม่ดีเหมือนคำเขาพูด
เขาพูดว่าเราชั่ว เราก็ไม่ชั่วเหมือนคำเขาพูด
ถ้าเราไม่ยึดเราไม่มีจะเอาอะไรไปดีไปชั่ว
ให้พากันละบาปและบำเพ็ญบุญ
อย่าให้เสียชีวิตลมหายใจไปเปล่า
เพราะได้มีวาสนาเกิดมาเป็นคนแล้ว -
ให้พากันละบาปและบำเพ็ญบุญ
อย่าให้เสียชีวิตลมหายใจไปเปล่า
ที่ได้มีวาสนาเป็นมนุษย์
เราเกิดมาเป็นมนุษย์มีความสูงศักดิ์มาก
แต่อย่านำเรื่องของสัตว์มาประพฤติ
มนุษย์ของเราจะต่ำกว่าสัตว์และจะเลวกว่าัสัตว์อีกมาก
เวลาตกนรกจะตกหลุมลึกกว่าสัตว์อีกมาก อย่าพากันทำ -
ตามรอยธรรมพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร
การชำระใจการพิจารณาธรรมะพิจารณาไปๆ
จนใจรู้แจ้งแทงตลอดในเรื่องของธรรม
ก็หมดทางที่จะรักษาหมดทางที่จะแก้ไข
เหมือนกับปากกาของเราหมึกหมด
ถึงเราจะเขียนได้ แต่ทว่าหมึกไม่มี มันไม่ติดกระดาษ -
การรักษาใจรักษายากยิ่งกว่าสิ่งทั่วไปในโลก
เพราะใจเป็นนามธรรมเป็นของละเอียด
แต่เมื่อรักษาได้ก็ไม่มีอะไรที่จะประเสริฐวิเศษเท่ากับเรื่องของใจ
ไม่มีอะไรที่จะมีคุณค่าสูง
เหมือนการรักษาใจให้ปลอดภัยไปจากกิเลสตัณหา
แม้การรักษาใจจะยากยิ่ง แต่ก็ไม่เหลือวิสัย -
ทุกคนก็จะไปสู่จุดหมายเดียวกัน คือความตาย
เมื่อเราพิจารณาความตาย มรณสติ อยู่สม่ำเสมอ
จิตใจเราจะไม่เพลิดเพลินไม่มัวเมาในสิ่งของภายนอก
จิตใจจะสงบ จิตใจจะเยือกเย็น
จิตใจจะเบื่อหน่ายในภพชาติ -
เวลาเป็นอยู่มีชีวิตอยู่
ก็อยากได้อันนั้น อยากได้อันนี้
วิ่งวุ่นอยู่ตั้งแต่เรื่องข้างนอก
เรื่องข้างในคือใจของตัวเอง มันสุขมันสบายไหม
มันสงบไหม เข้าใจเหตุผลตามเป็นจริงไหม
มีสติ มีปัญญารักษาใจ
ให้ปลอดภัยจากความยุ่งเกี่ยวสิ่งเหล่านี้ไหม
เราไม่ได้ตรวจตราพิจารณาดูใจของตัว
มันจึงชั่วจึงเสีย จึงลุ่มจึงหลง
เมื่อความตายเข้ามาถึงก็ร้องไห้เสียใจ
คิดอยากให้อายุยืนยงคงอยู่ต่อไป
เพื่อจะได้ทำบุญสุนทาน
สะสมคุณงามความดีอย่างนั้นอย่างนี้
เวลาจะตายมาจริงจังจึงคิดได้
แล้วจะไปทำได้อย่างไรล่ะ
แต่ตัวของตัวเองก็ลุกไม่ได้ เจ็บปวด
เหน็ดเหนื่อยอยู่ทุกหนทุกแห่งไป
ไม่มีอะไรสุข ไม่มีอะไรสบาย
มันเป็นอย่างนั้น เพราะใจไม่สบาย
ใจวุ่นวาย ใจไม่เห็นตามเป็นจริง
เราจึงควรพิจารณาให้มากเรื่องความตาย -
จะประพฤติปฏิบัติดีวิเศษขนาดไหน
คนที่ไม่ชอบใจเขาก็ตำหนิ
จะชั่วเสียขนาดไหน คนที่ชอบใจเขาก็สรรเสริญ
เรื่องของโลก เอาแน่นอนจริงจังไม่ได้
มันเป็นอย่างนั้นแต่ไหนแต่ไรมา
แต่จิตของเรามันหวั่นไหวหรือไม่
ถูกเขาสรรเสริญเยินยอ
เราลุ่มหลง เพลิดเพลินไปตามลมปากของเขาไหม
ถูกเขาตำหนินินทา เราเสียใจเหี่ยวแห้งเศร้าหมองไหม
เราตรวจตราพิจารณาภายในเรื่องของเรา
ถ้ารู้เท่า เรื่องสรรเสริญและเรื่องนินทา
มันมีมาแต่ไหนแต่ไร
จิตของเราไม่ลุ่มหลงเสียอย่างมันก็สุขสบาย -
ตามรอยธรรมหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
เราตรวจคะแนนให้คนอื่นข้อนี้ถูกข้อนั้นผิด
เราเคยตรวจดูตัวเองบ้างหรือเปล่า
วันเวลาผ่านไปตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
คะแนนฝ่ายดีกับคะแนนฝ่ายชั่วนั้นข้างไหนมันมากน้อยกว่ากัน
-
เราเคยตรวจดูตัวเองบ้างหรือเปล่า
วันเวลาผ่านไปตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
คะแนนฝ่ายดีกับคะแนนฝ่ายชั่วนั้น
ข้างไหนมันมากน้อยกว่ากัน -
ตามรอยธรรมหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต สวนทิพย์ปากเกร็ด
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต เป็นศิษย์สำคัญองค์หนึ่งของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มที่มีอนาคตสดใส แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวชและปฏิบัติธรรมแบบถวายชีวิตต่อพระศาสนา ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอดท่านเป็นศิษย์กรรมฐานของ พระอาจารย์กู่ ธมฺมทินฺโน ท่านพ่อลี ธมฺมธโร และออกป่าติดตาม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม นานถึง ๙ ปี
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต -
ถ้ามีสตินึกถึงพุทโธ ธัมโม สังโฆ
ก็ไม่ต้องไปถามไปอธิบายอะไรแล้ว
เป็นการพ้นโลก พ้นจากโลภะ โทสะ โมหะ สิ่งสกปรกทั้งหลาย
จิตบริสุทธิ์เหมือนกับเพชรบริสุทธิ์
อันนี้เป็นที่พึ่งได้ จิตนิ่งเย็นสบายเรียกว่าปีติสุขเกิดขึ้น
เป็นกุศลเป็นภาวนาแล้วให้ผลดีแล้ว
หายใจเข้าก็สบาย หายใจออกก็สบาย -
รู้สักแต่รู้ตลอด ปฏิบัติเช่นนี้ตลอดไป
เรียกว่าทำความเพียร เราจะพ้นทุกข์ได้ก็เพราะความเพียร
ความทุกข์ที่จริงเป็นสิ่งดี ทุกข์นี้ดีจะได้เบื่อ
เบื่อว่ากูไม่อยากเกิดแล้วโว้ย
จะได้ปรารถนาออกจากกาม
เพราะถ้ามันสุขมันก็จะลืมตัว
มันจะพาเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้แหละ -
ใครประมาททำความมัวหมองให้แก่จิตใจตนเอง
มากน้อยแค่ไหนก็ตาม ไม่มีใครๆเห็นก็ตาม ไม่ได้ยินก็ตาม
แต่สิ่งอันลึกลับเกินกว่าจิตของมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆ
ก็ย่อมรู้เห็นได้และยังมีอีกมากเพราะว่า
ผู้มีจิตละเอียดจริงๆยังมีอยู่ จงอย่าปฏิเสธความจริงในข้อนี้ -
มีสติ ฝึกภาวนา เป็นอริยทรัพย์
ติดตัวไปได้หลายหมื่นชาติ
ส่วนทรัพย์สมบัติทางโลก
ชาติเดียวยังเอาไปไม่ได้ -
ถึงจะรู้ว่าไฟ ไม่ไปจับมันก็ไม่ร้อน
ถ้าไม่รู้มันก็จับ อยู่อย่างนั้น
ถ้ารู้ธรรมเห็นธรรม มันก็หายโง่ พ้นทุกข์พอแล้ว
หายใจเข้า หายใจออกก็ธรรมดา
ได้ยินก็ธรรมดา ได้เห็นก็ธรรมดา
รู้สึกนึกคิดก็ธรรมดา ธรรมดาทั้งนั้น
เป็นวิญญาณที่เกิดขึ้นทุกขณะ
พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้โลกุตรธรรม
เห็นก็ได้แต่เห็น วางไปไม่ยึดถือ ดับความยึด
จึงจะไปรอดด้วยสติ ตัวสติแท้ๆ เป็นโลกุตรธรรม เป็นธรรมพ้นโลก -
ชีวิตมีค่าทุกวันทำน้อยได้น้อยทำมากก็ได้มาก
สตินี่ทำได้ทุกระยะรู้นี่สติพร้อมไม่มีทุกข์
เป็นบุญพร้อมเป็นปัญญาพร้อม
จิตผ่องใสจิตก้าวหน้าพร้อมจะไปมีปัญหาในชีวิตได้อย่างไร
ไม่ต้องถามว่าจะอยู่ไปทำไมทุกวันๆ
ก็มันแจ่มแจ้งแล้วนี่จิตอยู่ในพุทธธรรม
อยู่ในแสงสว่างจิตมุ่งสู่นิพพาน
ธรรมอะไรมันไม่สูงไปกว่านี้หรอก -
ตามรอยธรรมหลวงปู่แตงอ่อน กัลยาณธัมโม วัดป่าโชคไพศาล อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร
อวิชชา ปัจจยา สังขารา
เมื่อเกิดสังขารวิญญาณก็มีเวทนาอยู่ทุกภพทุกชาติ
อวิชาคือท่านตัดได้ อวิชชามันกลับเป็นนิโรธไปหมด
นิรุชฌันติ ดับแล้ว
อริยสัจสี่ ให้พิจารณาตามความเป็นจริง
มันต้องขยัน ถ้าบ่หมั่น บ่เพียร ธรรมก็บ่เกิด -
หน้า 31 ของ 34