ตามรอย "พระมหาชนก"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.

  1. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791



     
  2. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    คลู จากคุณปกรณ์

    เป็นไปได้มากทีเดียว ขอบคุณคุณปกรณ์
    ลองเอาภาพภูเขาไฟใต้ทะเล มาเปรียบเทียบกัน :cool:



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. พุทธเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +174
    ไม่อยากจะยุ่งกับคุณหนุมานซักเท่าไหร่ อ่านเห็นในกระทู้อื่นๆ ก็ทำใจผ่านไปได้ แต่มากระทู้นี้ มันเกินไปหน่อย จนเจ้าของกระทู้เค้าออกปากเอง คุณหนุมาน ควรรู้จักกาละเทศะบ้าง อ่านอยู่นาน ก็รู้ว่า ที่คุณโพสท์ไม่เกี่ยวกับกระทู้ที่คุณ falkman กำลังทำอยู่เลย ขอเถอะครับ กดลบข้อความตัวเองที่พิมพ์ไว้ออกไปจากกระทู้นี้ซะ คนที่เค้าตั้งใจมาอ่าน มาช่วยค้นคว้า เค้าอึดอัดใจกับการกระทำอันไร้สติ และไม่รุ้กาละเทศะของคนอย่างคุณ

    ปล.ผมได้หนังสือพระมหาชนกมาไว้ในมือแล้วเหมือนกันครับ พยายามนั่งดูรูปและคิดวิเคราะห์คนเดียว จดลงกระดาษ ลงคอม พอว่างก็มานั่งอ่านนั่งคิดบ่อยๆ ขอบคุณคุณ falkman ที่ช่วยแนะนำสิ่งดีๆนี้ให้ ขอบคุณครับ
     
  4. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    อยากได้ ส.ค.ส. พ.ศ.๒๕๔๗ แบบชยาย จะดูจุดรูประเบิดว่ามีอะไร





    ลองขยายดูอีกที





     
  5. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ได้มาแล้ว ใหญ่กว่าเดิม :cool:



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 2547 Big.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      3,440
  6. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ตรงเรือเขียนว่า มช ตรงอ่าวไทยมีเส้นสามเส้นแฃ้วตรงกรอบเหลื่ยๆ ไม่มีลาย

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791












     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791


    คุณหนุมาน อย่างอลลลลเลย มาเล่นกันดีๆ นะ :boo:
     
  9. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ขออนุญาตเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ "ซุปเปอร์ใต้ฝุ่นทุเรียน"

    ซุป เปอร์ ใต้ฝุ่น ทุเรียน

    พายุเริ่มเข้าฟิลิปปินส์



    คร่าชีวิตคนไปมากกว่า 100 คนที่ฟิลิปปินส์

    Red Cross: Typhoon toll tops 100
    POSTED: 1:35 a.m. EST, December 1, 2006

    MANILA, Philippines
    (Reuters) -- Typhoon Durian has killed more than 100 people in the Philippines after heavy rains and howling winds triggered landslides from a volcanic mountain, the head of the local Red Cross said on Friday.

    จำนวนเพิ่มขึ้นเป็นหลักหลายร้อย

    อย่างน้อย 388 คน ถูกยืนยันว่าตาย อีก 96 คนสูญหาย หลังจากโคลนและถ่านภูเขาไฟมายอนระเบิด


    (7th UPDATE) 388 dead in typhoon mudslide: Red Cross

    ประธานาธิบดีอาร์โรโย แถลงว่า รัฐบาลจะระดมทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป
    แม้พบศพผู้เคราะห์ร้ายแล้วกว่า 800 ศพ และคาดว่าตัวเลขอาจสูงถึง 1,000 ศพ ก็ตาม นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้จัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านเปโซ หรือราว 725 ล้านบาท ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นทุเรียนที่กระหน่ำ ฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ก่อนด้วย Rescuers fear Bicol death toll could pass 1,000



    กำลังเคลื่อนตัวมายังไทย


    ดาวเนอร์ กล่าวว่ามีการประมาณว่ามีผู้คนกว่า 800,000 รายที่ได้ผลกระทบจากเหตุฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และโคลนถล่ม ขณะที่มีบ้านเรือนกว่า 100,000 หลังคาเรือนที่ถูกทำลาย ทั้งนี้คาดกันว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตน่าจะพุ่งสูงถึง 1,000 คน


    คาดว่าจะเข้าไทยวันเฉลิมพระชนมพรรษา


    เตือนภัยลักษณะอากาศ
    "พายุ โซนร้อน ‘‘ทุเรียน”"

    ฉบับที่ 8 (189/2549) ลงวันที่ 5 ธันวาคม 2549
    เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (5 ธันวาคม 2549) พายุโซนร้อน ‘‘ทุเรียน” บริเวณปลายแหลมญวน ประเทศเวียดนามตอนล่าง ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 700 กิโลเมตรทางตะวันออกของจังหวัดชุมพร หรือที่ละติจูด 10.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 106.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวไทยในเย็นวันนี้ ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 5-7 ธันวาคม 2549 ส่วนภาคใต้จะมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง ฝนตกหนักและคลื่นพายุซัดฝั่งในช่วงวันที่ 6-7 ธันวาคม 2549 นี้
    กรมอุตุนิยมวิทยาจะเฝ้าระวัง ติดตาม และแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป



    คร่าชีวิตคนเวียตนาม
    ไต้ฝุ่น “ทุเรียน” คร่าชีวิตคนเวียดนามแล้ว 37 คน

    แต่พอมาถึงประเทศไทย วันที่ 5 ธันวา 2549 ก็เลี้ยงลงอ่าวไทยแล้วออกจุดที่แคบที่สุด เย้ !!!



    เป็นไปได้อย่างไร อิอิ :cool:
     
  10. Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
  11. ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    สวัสดีครับ คุณfalkman เรื่องลูกระเบิดผมคิดได้เท่านั้นครับ ยังมองไม่เห็นเป็นอย่างอื่นจะมองว่า หมายถึงสงครามทั่วโลกก็ไม่น่าจะใช่
    ส่วนอื่นๆ เช่น อักษรม.ช.ที่ใบเรือ เส้นสามเส้นที่อยู่ใต้ประเทศไทย รูปสุนัขหรือหมา ตัวใหญ่และลดขนาดลงเรื่อยๆ จนเล็กสุดเป็นขนาดเดียวกับที่อยู่ที่คำว่า ห้าพันปี หรืออื่นๆซึ่งส่วนตัวเห็นว่ามีนัยสำคัญทั้งสิ้นเนื่องจากเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงเตือนประสกนิกรชาวไทย(อาจจะรวมถึงมนุษยชาติด้วยก็ได้)
    แต่ที่คิดได้ตอนนี้ เป็นแบบแยกส่วน ยังเชื่อมต่อไม่ได้คงต้องค่อยๆขบคิดสักระยะหนึ่งค่อยมาแลกเปลี่ยนกันอีกคร้้งหนึ่ง แต่ที่อยากจะเสนอก็คือ
    สุนัขหรือหมา เนี่ยเป็นตัวแทนของความซื่อสัตย์ ท่านกำลังจะสื่อถึงคนที่ซื่อสัตย์หรือเปล่าไม่ทราบ ขนาดที่ลดลงเรื่อยๆจนเล็กที่สุด หมายถึงความซื่อสัตย์ของคนจะลดลงไปเรื่อยๆหรือเปล่าไม่ทราบ ซึ่งมันไปสัมพันธ์กับสุนัขขนาดเล็กที่อยู่ข้างคำว่า ขอจงมีความสุขความเจริญ happy new year จึงหมายความว่าเฉพาะคนที่ซื่อสัตย์(ซึ่งมีจำนวนไม่มากในปัจจุบัน)เท่านั้นจงมีความสุขความเจริญ ถ้าไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่เจริญ อันนี้ไปสอดคล้องกับที่ทรงคือตรัสกับใครสักคนนะ ท่านสุเมธ หรือเปล่าไม่แน่ใจเรื่องถ้าข้าราชการหรือคนมีอำนาจทุจริตของล่มจมอะไรทำนองนี้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจนะครับว่าผมแปลถูกหรือเปล่า
    ย้อนกับมาที่คำว่า มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ ผมค้นในกูเกิ้ลพบว่ามีบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้เขียนโดยพระรูปหนึ่ง ผมตัดตอนที่เกี่ยวข้องมาให้อ่านนะครับ
    " “ธัมมิกประชาธิปไตย” กับ “ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย” มรดกธรรมหลวงพ่อพุทธทาส และแนวทางพระราชทาน สำหรับการปฏิรูปการเมืองไทย
    (ที่คนไทยทุกคนควรเรียนรู้ และต้องเริ่มนำมาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ)"


    แนวคิดในเรื่องประชาธิปไตยกับหลักศีลธรรมไว้อย่างน่าสนใจศึกษายิ่งว่า
    “ ..ธัมมิกประชาธิปไตย คือเป็นประชาธิปไตยที่ประกอบไปด้วยธรรม, ประชาธิปไตย ถ้าว่าประชาชนหรือคนแต่ละคนมันไม่มีศีลธรรมแล้วมันก็วินาศแหละ วินาศในเวลาอันสั้น, ถ้าประชาชนทุกคนไม่มีศีลธรรมแล้วเอามาเป็นใหญ่สำหรับปกครองบ้านเมือง พักเดียวมันก็ทำวินาศหมด. เราต้องมีประชาธิปไตยที่ประกอบไปด้วยธรรม เรียกว่า ธัมมิกประชาธิปไตย นี้เกี่ยวกับการปกครอง. ธัมมิกสังคมนิยม นั้นมันเกี่ยวกับเศรษฐกิจ, ถ้าธัมมิกประชาธิปไตย นี้มันเกี่ยวกับการปกครอง เอาธรรมะเป็นใหญ่ เอาความถูกต้องเป็นใหญ่ ไม่ใช่ประชาธิปไตยของคนเห็นแก่ตัว, เอาคนที่เห็นแก่ตัว เต็มอัดทุก ๆ คน มาเป็นระบบปกครองเป็นประชาธิปไตย มันก็ฆ่ากันตายหมดแหละ ด้วยความต่างคนต่างเห็นแก่ตัว ต่างคนต่างเห็นแก่ตัว. ฉะนั้น ประชาธิปไตยต้องจำกัดความให้ดี ๆ ว่าต้องของประชาชนที่มีศีลธรรม เลยต้องใช้คำว่า ธัมมิกประชาธิปไตย, มีธรรมเป็นหลัก มีความถูกต้องเป็นหลัก อย่าเห็นแก่ตัว แต่เห็นแก่ธรรมะ, เห็นแก่ธรรมะ แล้วก็อย่าเห็นแก่ตัว. นี่เรียกว่า มีธรรมะเป็นหลัก มีระบบการปกครองชนิดนี้ แล้วก็จะมีการปกครองสังคม หรือโลกให้มีสันติภาพได้โดยง่าย.”
    (ธัมมิกสังคมนิยม จาก
     
  12. ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ใส่การศึกษาที่แท้ลงในการเมืองการปกครอง:
    ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย คือการศึกษาที่แท้นั้น
    นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจยิ่งที่ทางออกที่หลวงพ่อพุทธทาสได้เมตตาให้แนวทางไว้ดังกล่าวนี้ ได้สอดคล้องตรงกันกับแนวพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน พระองค์มีพระปรีชาญาณอันน่าอัศจรรย์ยิ่ง ได้ทรงมีพระเมตตาถ่ายทอดแนวพระราชดำริในเรื่องการเมืองการปกครองและการแก้ปัญหาสังคมนี้ผ่านงานวรรณกรรมในพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย แต่เป็นที่น่าแปลกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยกลับไม่ค่อยได้อ่านอย่างเอามาขบคิดให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง แล้วนำมาปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สุขแก่สังคมไทย ความจริงแล้วพระองค์ได้ทรงชี้ให้เห็นถึงความเสื่อมถอยทางสังคม และทางออกทางแก้ไว้อย่างชัดเจน อันน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ผู้ที่จะต้องมาปฏิรูปการเมืองทั้งหลายสมควรจะได้นำมาอ่านและศึกษาเรียนรู้อย่างถ่องแท้ จะเห็นว่า แนวทางการปฏิรูปการเมืองที่สมบูรณ์อยู่ในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกนี้แล้ว
    พระองค์ได้มีพระราชปรารภไว้ถึงตอนที่มีผู้คนมายื้อแย่งผลมะม่วงจนทำลายต้นมะม่วงให้โค่นล้มลงว่า
    “นับแต่อุปราชจนถึงคนรักษาช้างคนรักษาม้า และนับแต่คนรักษาม้าจนถึงอุปราช และโดยเฉพาะเหล่าอำมาตย์ ล้วนจาริกในโมหภูมิทั้งนั้น. ไม่มีความรู้ทั้งทางวิทยาการทั้งทางปัญญา ยังไม่เห็นความสำคัญของผลประโยชน์แท้แม้ของตนเอง จึงต้องตั้งสถานอบรมสั่งสอนให้เบ็ดเสร็จ”
    (พระมหาชนก หน้า (๗))
    ในพระราชนิพนธ์เรื่องนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงมีพระเมตตาพระราชทานแนวทางออกไว้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องว่า ทรงให้ตั้ง “ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย” ขึ้นมา ซึ่งจะทำหน้าที่ฝึกฝนอบรมให้กับคนทุกระดับ ตั้งแต่อุปราช เหล่าอำมาตย์ ลงไปถึงคนเลี้ยงช้าเลี้ยงม้า ให้มีความรู้ทั้งทางโลกและปัญญาทางธรรม จึงต้องตั้งคำถามกับ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลว่า “จะทำอย่างไรถึงจะมีปูทะเลย์มหาวิชชาลัยในรัฐบาลได้?” ตั้งคำถามกับนักการเมืองทุกท่านว่า “จะทำอย่างไรถึงจะมีปูทะเลย์มหาวิชชาลัยในรัฐสภาและทุกพรรคการเมืองได้?” ตั้งคำถามกับผู้ดูแลระบบการศึกษาสมัยใหม่ของไทยว่า “จะทำอย่างไรถึงจะมีปูทะเลย์มหาวิชชาลัยในการศึกษาในระบบของไทยได้ในทุกระดับตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาเอกในทุกสาขาวิชา?” … และสำคัญที่สุดที่จะเป็นเครื่องมือต้นเริ่มที่กำหนดให้ทุกฝ่ายต้องตระหนักจนนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ก็คือต้องตั้งคำถามกับคณะบุคคลที่จะเข้ามาปฏิรูปการเมืองว่า “จะทำอย่างไรถึงจะมีปูทะเลย์มหาวิชชาลัยในรัฐธรรมนูญที่ต้องบัญญัติให้เป็นหน้าที่ที่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม?”
    ปูทะเลย์มหาวิชชาลัยคืออะไร? ใช่การศึกษาที่จะพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์หรือไม่ ใช่การศึกษาที่ทำให้คนมีศีลธรรมหรือไม่ จะทำให้เกิด ธัมมิกประชาธิปไตยได้จริงหรือไม่? คนไทยทุกคนโปรดกลับไปอ่าน หรือจำเป็นต้องอ่านพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกนี้อย่างตั้งใจและเรียนรู้อย่างจริงจังจนเกิดปัญญา อันจะเป็นแสงสว่างส่องให้เห็นทางออกจากวิกฤตของบ้านเมืองในทุกวันนี้ได้อย่างดียิ่ง
    ในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปีแห่งชาตกาลของหลวงพ่อพุทธทาส ในปี ๒๕๔๙ นี้ อันสบสมัยกับปีมหามงคลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในปี ๒๕๔๙ เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตการณ์ของบ้านเมืองขึ้นมาพอดี ผู้เขียนจึงถือใช้โอกาสนี้นำแนวคิดหลักธรรมและอัญเชิญแนวพระราชดำริที่มีความสอดคล้องต้องกันเป็นอย่างยิ่งมาเป็นเครื่องบูชาธรรมในหลวงพ่อพุทธทาส และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งหวังว่าคนไทยทุกคนเมื่ออ่านแล้วจะเข้าใจและเริ่มที่จะย้อนกลับมาเรียนรู้จนเกิดปัญญาแท้จริง อันจะนำมาซึ่งประโยชน์สุขแก่สังคมไทยได้อย่างยั่งยืนสืบไป..

    ฐิตวํโส ภิกฺขุ
    ๘ เมษายน ๒๕๔๙
     
  13. ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    เศร้าใจมาก ยังมีข้อความที่ผมเขียนยาวกว่านี้ แต่พอกดส่ง... หายหมด ลองใหม่นะครับ(คิดใหม่จะเหมือนเดิมมั้ยเนี่ย)
    ต่อจากความข้างบน.....

    คำว่า มหาวิทยาปูทะเลย์ ในสคส.จึงน่าจะหมายถึง ต้องเร่งฟื้นฟูศีลธรรมเป็นวาระสำคัญเร่งด่วน ส่วนคำว่า บ้านเชียง กับห้าพันปีและมีรูปสุนัขสองตัวขนาบข้างนั้น ยังคิดไม่ออกครับ และผมก็ไม่แน่ใจว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบรรทัดล่างๆนี้ จะไปสัมพันธ์กับ รูปลูกระเบิด ในส่วนบนของ สคส. หรือเปล่า
    ถ้ามีคิดอะไรได้จะมาแลกเปลี่ยนอีกทีนะครับ ขอบคุณครับ
     
  14. Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    เเถม เผื่อมีคนใช้

     
  15. ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ขอบคุณมากครับ แสดงว่า มหาวิทยาลัยปูทะเลย์ ปรากฎขึ้นในสคส.ตั้งแต่ ปี2545 จนมาถึงปี47 ที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่

    แสดงว่า ลูกระเบิด กับ ข้อความม.ปูทะเลย์ และรูปสุนัขรวมถึงข้อความอื่นในสองบรรทัดสุดท้ายของสคส.พระราชทานปี47 ไม่เกี่ยวพันกันโดยตรง จึงไม่น่าจะนำมาตีความรวมกันหรือเปล่าครับ
     
  16. สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    <TABLE border=0 bgColor=#f5f9fa><TBODY><TR><TD>นกกระทุง 'สมิทธ'
    นักเตือนภัยธรรมชาติ

    ...มีวันนึงนับได้ 15 ตัว ก็หมายความว่า เขาก็มีความสุข แต่วันนี้เดี๋ยวนี้ในสระนี้ เหลือลอยอยู่ตัวเดียว เพราะตัวอื่นคงไปเยี่ยมญาติ หรือตั้งครอบครัวขึ้นมาใหม่ต้องดูแลครอบครัว แต่ตัวที่อยู่นี้ เราเรียกว่า ให้ชื่อว่า คุณสมิทธ แล้วในที่ประชุมนี้มีคุณสมิทธ 2 คน คุณสมิทธคนนึงมาคนเดียว คุณสมิทธอีกคนก็มาคนเดียว คนอื่นอาจจะไม่ทราบว่าคุณสมิทธคือใคร คนไหน แต่คุณสมิทธเองก็รู้ว่าเป็นใคร คุณสมิทธนี้ ที่เรียกว่าคุณสมิทธเพราะว่า ถ้าเขาลอยในสระในทางทิศเหนือแปลว่า ลมมันเปลี่ยนทิศ เมื่อลมเปลี่ยนทิศแล้วจะรู้ว่าอากาศจะมีฝน อากาศจะมีลม หรืออากาศจะแห้ง อาจจะเคยฉงนว่าทำไมเคยพยากรณ์อากาศได้อย่างแม่นยำ ก็เพราะว่ามีสมิทธนี้เอง คุณสมิทธตัวจริงก็พยากรณ์เหมือนกัน แล้วก็คุณสมิทธนกกระทุงก็พยากรณ์ ก็มาประกอบกันจนกระทั่งทราบว่า อากาศทางอุตุนิยมฯ เป็นอย่างไร แล้วก็คุณสมิทธเองเคยฉงนว่าทำไมพยากรณ์ได้แม่นยำนัก เราก็เลยบอกว่าไม่ได้บอกว่าคุณสมิทธนกกระทุง เพราะว่าไม่กล้า แต่เดี๋ยวนี้คุณสมิทธก็พ้นหน้าที่อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาแล้วก็พูดได้ ว่าเหลือคนเดียว เหลือตัวเดียวที่เป็นคุณสมิทธที่จะพยากรณ์อากาศและนอกจากนั้นก็ได้รับความช่วยเหลือจากนางมณีเมขลาด้วยอันนี้ก็เป็นที่ฉงนของคุณสมิทธตัวจริง

    พระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งถึง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2540 เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา

    ทันทีที่ นายสมิทธ ธรรมสโรช ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ ออกมาบอกว่าประเทศไทยจะประสบกับภัยธรรมชาติพายุรุนแรงที่เรียกว่า Storm Surge อันหมายถึงพายุที่พัดคลื่นยักษ์ขึ้นสู่ชายฝั่ง แต่ไม่ใช่สึนามิ สังคมก็เกิดการแตกตื่น เพราะเพิ่งประจักษ์ถึงความรุนแรงของพายุนาร์กีสที่เกิดขึ้นในพม่าไปหมาด ๆ คนที่ไม่เชื่อถึงกับออกมาวิพากษ์วิจารย์ “กูรู” ด้านภัยธรรมชาติเสีย ๆ หาย ๆ แถมยังบอกว่า “สมิทธคิดไปเอง”

    แม้ว่าอดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาผู้นี้จะได้เครดิตเรื่องสึนามิมาแล้ว ในฐานะเป็นคนแรกที่เตือนว่าประเทศไทยจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ แถมยังขำกลิ้งอีกต่างหาก แต่แล้วคลื่นยักษ์ก็ถล่มประเทศไทยจริงเมื่อเดือน ธ.ค.2547 แล้วเรื่อง Storm Surge ล่ะจะซ้ำรอยเหมือนกับสึนามิหรือไม่ ลองฟังหลายแง่หลายมุมเกี่ยวกับพายุจากปากคำ ผอ.ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติ

    ทำไมจึงจุดที่มาพูดเรื่องนี้
    มองว่าโอกาสที่จะเกิดมี ก็บอกเขาไป ต้องระวัง แต่ผมไม่เคยพูดว่าจะมีพายุขนาดนาร์กีสเข้าประเทศไทย เพียงแต่บอกว่าลักษณะอากาศที่โลกร้อนทำให้เกิดพายุขึ้นบ่อยครั้ง ในประเทศไทยอาจมีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก พวกคุณก็เอาไปลง เอาไปพูดกันว่าจะเกิดขึ้นที่ปากน้ำ ที่ชายฝั่งทะเล ทำให้คนแตกตื่น มีคนโทรมาต่อว่า มันไม่ใช่อย่างนั้น มีนักวิชาการออกมาไขข้อมูลมีโอกาสเกิดน้อย หรือไม่มีทำให้คนยิ่งสับสน ไม่รู้จะเชื่อใคร ผมเพียงแต่มีการเตือนว่าภัยธรรมชาติอะไรบ้างที่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของเขา ไม่ได้บอกเลยว่าภัยธรรมชาติจะเกิดวันไหน แต่เดือนที่มีโอกาสเกิด จากแนวโน้มจากสถิติจากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยามันมี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม กันยายน ตุลาคม แค่นั้นเอง ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ตนแตกตื่น ไปบอกว่าเกิดน้ำท่วม 6 เมตร มีคลื่น Storm Surge ผมไม่เคยพูด เพียงแต่เตือนว่าถ้ามีลักษณะอากาศปกติ พายุจะเกิดขึ้น อย่างพายุนูริเข้าประเทศจีนทำให้น้ำท่วมประเทศจีน อพยพกันเป็นหมื่นแสนไม่เห็นแตกตื่น

    พายุที่ว่าค่อนข้างรุนแรงไหม
    ภัยธรรมชาติบอกไม่ได้ว่ารุนแรงหรือไม่ คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดแบบนาร์กีสหรือไม่เกิด แต่ในอดีตเคยมีมาแล้ว ผมไม่ได้พูดพล่อย ๆ พูดตามหลักฐานเกิดมาแล้ว แต่ทีนี้กรมอุตุฯ ซึ่งนับทับข้อมูลอยู่ เวลาพูดไม่ได้เอาหลักฐานขึ้นมาพูด เคยเกิดขึ้นมาแล้วปี 2526 น้ำท่วมกรุงเทพฯ 4 เดือน ทำไมเขาไม่จำกัน ปี 2507 ก็มีครั้งนึง น้ำท่วมนิดหน่อย ปี 2504 ก็มี ของเคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่อยู่ ๆ ปั้นน้ำเป็นตัวว่าจะต้องเกิดอย่างนั้นอย่างนี้

    ที่ว่าพายุจะปั่นน้ำในทะเลขึ้นมา
    ใช่สิ ถ้าเผื่อเกิดขึ้นแล้ว ถ้ามันมีความรุนแรงเท่าพายุเกย์มันก็หอบน้ำขึ้นมาได้ สถิติมันก็บอกใน 57 ปีเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 187 ลูก ผ่านประเทศไทยเกิดมากใน 4 เดือนนี้ มีข้อมูล ลมเข้ามาอย่างไร จะหอบน้ำออกไปอย่างไร มันเคยเกิดขึ้นในอดีตทั้งนั้น ทีนี้ไปลงข่าวกันทำให้มันน่ากลัว พาดหัวกัน คนก็ตกใจ เขาก็นึกว่าจะมีน้ำ 6 เมตรมาท่วม ไม่ใช่ผมไม่เคยบอก ผมบอกถ้ามันเกิดขึ้นมาต้องระวังไว้ ให้ฟังเตือนกรมอุตุฯ เตือนล่วงหน้าได้ 2-3 วัน ถ้าเกิดในบริเวณไหนก็ต้องอพยพหรือป้องกันตนเอง คนที่ไม่เข้าใจหาว่าผมทำให้เขาแตกตื่น เขาจะขายที่ขายทาง เขาสร้างบ้านไม่ได้ก็เดือดร้อน หาว่าผมไปทำลายเศรษฐกิจเขา

    ตามประมาณการความรุนแรงเทียบกับอดีต รุนแรงกว่าไหม
    ก็แล้วแต่ อันนี้บอกไม่ได้ ไม่มีนักวิชาการคนไหนบอกได้หรอก นอกจากเดาไป หรืออยากดังอยากพูดไปให้ตกใจเล่น แต่ไม่มีใครกล้าบอกหรอกเทียบกับนาร์กีส นาร์กีสเป็นพายุไซโคลนที่เกิดในมหาสมุทรอินเดีย ปกติขึ้นที่บังกลาเทศ ถ้าขึ้นบังกลาเทศคนก็ตายเป็นแสนเหมือนกัน แต่เลื่อนมาขึ้นที่พม่า และความรุนแรงมีมากกว่าในอดีต

    เพราะภาวะโลกร้อน
    คนก็ยังเถียงกันอยู่ว่าโลกร้อนมีผลกระทบต่อความรุนแรงหรือเปล่า กรมอุตุฯ บอกมันไม่ใช่ ความคิดของนักวิชาการแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอก อยู่ที่การค้นคว้าศึกษา อยู่ที่ข้อมูล แต่ข้อมูลที่ผมศึกษาอยู่เป็นของกรมอุตุนิยมวิทยาโลก จากสหประชาชาติ การเกิดสภาวะน้ำทะเลสูงขึ้น พายุเกิดบ่อยครั้งขึ้นรุนแรงขึ้น ก็แล้วแต่ คนละตำรา คนละทฤษฎี แต่กรมอุตุฯ บอกโลกร้อนขึ้น พายุยิ่งเบาลง ออกมาตรงข้าม คนเลยสับสนว่าจริงหรือเปล่า แต่จากข้อมูลที่ผมมีอยู่ โลกร้อนทำให้เกิดพายุบ่อยขึ้น

    ที่ได้ยินมาน่าจะเป็นอย่างนั้น ทำไมสมมติฐานกรมอุตุฯ จึงแตกต่าง
    ผมก็ไม่ทราบ คุณต้องไปถามเขา พายุเคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2532 เกิด Storm Surge (พายุเกย์) สูง 10 เมตร ขึ้นที่ จ.ชุมพร มีคลื่นมากระทบชายฝั่งที่สมุทรปราการ 2 เมตร ถ้าจุดศูนย์กลางของพายุขึ้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ คลื่นจะสูงกว่า ด้วยแรงของคลื่นมาถึงกรุงเทพฯ ถ้ามันเข้ามาจะทำอย่างไร

    ตอนนี้อาจารย์มอนิเตอร์ข้อมูลยังไง
    อ่านข้อมูลของไอพีซีซี (องค์กรดูแลด้านการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของสหประชาชาติ) ไอพีซีซีบอกว่า พายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงมากขึ้นในเขตมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ตั้งแต่ประมาณปี 2513 ซึ่งสัมพันธ์กับการเพิ่มอุณหภูมิของผิวน้ำทะเล ไอพีซีซีจะเขียนไว้อย่างนั้น จะให้ผมเข้าใจว่าอย่างไร ก็ต้องมีการวิเคราะห์วิจัยกัน อาจจะไม่ตรงเป๋ง

    หลักการวิเคราะห์เป็นอย่างไรบ้าง
    ดูข้อมูลในอดีต และปรากฏการณ์ธรรมชาติด้วย มีการเปลี่ยนแปลงไหม รุนแรงกว่าเดิมไหม แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นมีไหม มีวัฏจักรของการเกิด เส้นทางพายุเปลี่ยนแปลงไหม มีองค์ประกอบเยอะ เป็นความสามารถเฉพาะตัว ลอกเลียนแบบกันไม่ได้ ต่างชาติก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน ผมมีประสบการณ์มานาน ทำอยู่ 40 ปี แม้กระทั่งลมพัดผ่านกรุงเทพฯ ผมก็รู้ว่าคลื่นในอ่าวไทยจะสูงจะต่ำ เป็นความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งสอนเขา บางคนก็ทำตาม บางคนก็ไม่ทำ

    อย่างที่ผมทายสึนามิ มีอธิบดีที่ไปแทนหลังผมเกษียณ (ดร.สมิทธ โชว์ประกาศกรมอุตุฯ ที่ชี้แจงข่าวเรื่องคลื่นยักษ์สึนามิ ในวันที่ 14 สิงหาคม 2541 มีใจความว่า “ไม่ตรวจพบข้อมูลใดที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์คลื่นยักษ์ดังกล่าว” (แต่เหตุการณ์สึนามิเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2547) พอมีขึ้นก็ตาย เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เป็นความรับผิดชอบของแต่ละคน

    สึนามิตอนนั้นสังเกตสิ่งผิดปกติยังไง
    ผมศึกษามานาน มันผิดปกติ มันมีวัฏจักรของมัน มันเคยเกิดขึ้น 124 ปีแล้ว เป็นวัฏจักรธรรมชาติบังคับไม่ได้ เป็นเรื่องพลังงานธรรมชาติที่อยู่ใต้โลก ไม่เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน

    ถ้ามีเขาว่าจะเกิดอย่างนาร์กีสจริง จะบอกได้ทันไหม
    ต้องดูว่าการก่อตัวพายุใกล้ฝั่งรึเปล่า กรมอุตุฯ วัดได้ แต่เขาจะเตือนรึเปล่า ผมไม่ได้เป็นอธิบดี หรือรัฐมนตรีที่คุมกรมอุตุฯ ผมเอาข้อมูลของเขามาเตือนให้มันถี่ขึ้น แต่ความหวังดีที่เราทำกลายเป็นว่าคนแตกตื่นแทนที่เขามาบอกว่าที่ผมตอนเตือนน่ะถูกต้อง กลับมาบอกว่าที่ผมเตือนน่ะผิด โอกาสเกิดไม่มี มันยิ่งไปกันใหญ่

    ตอนนี้เครื่องไม้เครื่องมือกรมอุตุฯ ทันสมัยแค่ไหน
    โอ๊ย...ตอนนี้ดีกว่า 10-20 เท่า ดีที่สุดในอาเซียน ตั้งแต่ผมเกษียณมามีการจัดซื้อปรับปรุงมาตลอด ตอนผมอยู่ก็ทำบ้าง แต่ตอนหลังได้งบประมาณมากขึ้น ความทันสมัยของเทคโนโลยีเราดีมาก อยู่ที่มนุษย์ คนที่ทำงานจะเอาข้อมูลจากเครื่องมือมาใช้ประโยชน์หรือเปล่า อยู่ที่การตัดสินใจ สมัยผมอยู่ผมก็เตือน ผิดก็มีคนต่อว่า เตือนคลื่นลมแรง ชาวประมงบอกอดหาปลาเสียรายได้ เขาก็ว่าผม แต่เตือนไปมีจริง ๆ เขาไม่ว่า ชมเชยของอย่างนี้มันต้องใช้ดุลยพินิจของเรา เคยเตือนแถวระนองจะมีพายุไซโคลน ไม่ให้ออกเรือ 17 ลำจมไป คนตายเยอะแยะ เป็นบทเรียนการเตือนภัยไม่เสียหาย แต่คนที่รับไปปฏิบัติหรือไม่บังคับไม่ได้ ผมเตือนไม่เกิดก็ไม่เป็นไร ผมก็ไม่อยากให้มันเกิด แต่ถ้าเกิดแล้วมีคนตายแบบพายุเกย์ล่ะ ตายเป็นพันเป็นหมื่นบ้านพังเสียหาย ไม่คุ้มกัน

    สถิติพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
    คาบ 57 ปี (พ.ศ.2494 – 2550)

    <TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>ม.ค.






    </TD><TD vAlign=top>ก.พ.






    </TD><TD vAlign=top>มี.ค.






    </TD><TD vAlign=top>เม.ย.






    </TD><TD vAlign=top>พ.ค.






    </TD><TD vAlign=top>มิ.ย.






    </TD><TD vAlign=top>ก.ค.






    </TD><TD vAlign=top>ส.ค.






    </TD><TD vAlign=top>ก.ย.






    </TD><TD vAlign=top>ต.ค.






    </TD><TD vAlign=top>พ.ย.






    </TD><TD vAlign=top>ธ.ค.






    </TD><TD vAlign=top>รวม






    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>รวม






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>1






    </TD><TD vAlign=top>7






    </TD><TD vAlign=top>7






    </TD><TD vAlign=top>12






    </TD><TD vAlign=top>20






    </TD><TD vAlign=top>45






    </TD><TD vAlign=top>51






    </TD><TD vAlign=top>30






    </TD><TD vAlign=top>9






    </TD><TD vAlign=top>182






    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>เฉลี่ย






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>0.02






    </TD><TD vAlign=top>0.12






    </TD><TD vAlign=top>0.12






    </TD><TD vAlign=top>0.21






    </TD><TD vAlign=top>0.35






    </TD><TD vAlign=top>0.89






    </TD><TD vAlign=top>0.89






    </TD><TD vAlign=top>0.53






    </TD><TD vAlign=top>0.16






    </TD><TD vAlign=top>3.19






    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ร้อยละ






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>






    </TD><TD vAlign=top>0.5






    </TD><TD vAlign=top>3.8






    </TD><TD vAlign=top>3.8






    </TD><TD vAlign=top>6.6






    </TD><TD vAlign=top>11.0






    </TD><TD vAlign=top>24.7






    </TD><TD vAlign=top>28.0






    </TD><TD vAlign=top>16.5






    </TD><TD vAlign=top>4.9






    </TD><TD vAlign=top>100






    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อยากให้พูดถึงการเตรียมตัวรับภัยธรรมชาติ
    ก็เวลากรมอุตุฯ เตือนก็เตรียมตัว เขาจะบอกพายุมาทางไหน ความรุนแรงเท่าไหร่ คุณรู้ล่วงหน้าไม่เห็นต้องตกใจ ถ้าบ้านคุณอยู่ที่ต่ำ น้ำจะท่วม 2 เมตร บ้านไม่มีรั้วรอบขอบชิดก็ต้องย้ายหนีอพยพไปก่อน ถ้ามีรั้วรอบขอบชิดก็อยู่ต่อไป ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ถ้าเป็นแบบพายุเกย์ น้ำสูง 10 เมตร พายุพวกนี้มีความรุนแรง มีความเร็วลมเกิน 100 กว่ากิโลเมตร เข้ามาต้องหนีอย่างเดียว

    คนที่อยู่ชายฝั่งสมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ
    ต้องฟังคำเตือนพายุมาแถวนั้นหรือเปล่า โอกาสที่พายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ปากอ่าวมีไหม ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องห่วง ไม่เห็นต้องตกอกตกใจ มาโทษว่าผมทำให้แตกตื่น เหมือนเดินข้ามถนน ตรงนี้รถมากนะ ถ้าคุณไม่เชื่อผม เดินไม่ระวังคุณอาจจะโดนรถชนเข้า

    ก็ดี ผมก็ขอบคุณ กทม. กระทรวงสาธารณสุข ไม่เกิดก็เป็นผลดีกับเขา เขาเกตรียมตัวไว้ล่วงหน้า อะไรที่เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าความเสียหายก็น้อย ผมมีโน้ตไปถึงลูกน้องเก่า (โชว์ประกาศฉบับเดียวกันที่มีโน้ตถึง ดร.สมชาย ใบม่วง ผอ.สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุฯ มีข้อความว่า “การให้ข้อมูลของ ดร.สมชาย ใบม่วง คล้ายคลึงกันกับการให้ข้อมูลของอดีตอธิบดีกรมอุตุฯ ก่อนการเกิดคลื่นสึนามิ ในฐานะที่ท่านรับผิดชอบเกี่ยวกับการเกิดภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะการเกิดพายุ และมีการเกิดสตรอม เสิร์จ ควรจะให้ข้อมูลแก่ประชาชนให้แน่ชัดกว่านี้ว่าจะมีการเกิดหรือไม่”) คน ๆ นี้รับผิดชอบมั้ย บอกไม่มีสาเหตุ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนแล้วพอมีอะไรเกิดขึ้นคนนี้รับผิดชอบหรือเปล่า เหมือนกันเลย ผมส่งโน้ตไปให้ลูกน้องเก่าผม

    ก็ให้เขาบอกมาสิว่าจะไม่เกิด ผมจะได้เลิกพูด ไม่อยากเถียงกับเขาผมเคารพในความคิดนักวิชาการแต่ละคน ผมก็คุยกับนักวิชาการท่านอื่น ๆ ดร.เสรี ม.รังสิต (ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์วิจัยเตือนภัยธรรมชาติ ม.รังสิต) ดร.อาจอง ชุมสาย ทำไมเชื่อผม แต่ก็มีนักวิชาการจากจุฬาฯ บางคนไม่เชื่อผม จาก กทม. สำนักการระบายน้ำ โอกาสจะเกิด 0.000 เปอร์เซ็นต์ คนสับสนและเกิดอันตราย

    ผมฟังข้อมูลจากกรมอุตุฯ เขามีเครื่องมือ ผมมีหน้าที่เอาข่าวมาเตือน แต่อันไหนที่เขาไม่ออกมาเตือนผมจะเตือนก่อน คล้าย ๆ ให้เขานึกถึงหน้าที่ที่ออกมาทำบ้าง ไม่ใช้กลัวไปหมด เดี๋ยวคนจะด่า ผมบอกว่าการเตือนผิดพลาดต้องให้คนต่อว่าบ้าง แต่ถ้าคุณไม่เตือนเลยความเสียหายจะเกิดขึ้น อย่างเตือนสึนามิ เขาบอก 1,000 เปอร์เซ็นต์ไม่เกิด แต่พอเกิดมีคนตายเรือนหมื่นเรือนแสน

    เป็นธรรมชาติของกรมอุตุฯ หรือเปล่าที่เกรงคนจะ PANIC
    ผมบอกหลายครั้ง ผมอยู่กรมอุตุฯ ตั้งแต่อธิบดีคนแรกจนผมเป็นอธิบดี ผมบอกวิธีการแบบนี้ ไม่ใช่ฝนตก 50% ก็ถูกหมด ฝนตกในพื้นที่นี้ 50% พูดอย่างนี้ได้อย่างไร เด็ก ป.4 ก็พูดได้ คุณไม่ต้องเป็นอธิบดีกรมอุตุฯ เจ้านายเก่าผมน่ะ ผมเป็นอธิบดีคนที่ 8 อธิบดี 7 คนเป็นทหารเรือ ประกาศบ่ายนี้ฝนตกในพื้นที่ กทม.50% ตก 50 ไม่ตก 50 ดีกว่าลาวหน่อย ฝนตกแล้วจะบอก มันไม่ใช่วิธีการแบบนั้น สมัยผมบอกเลย 30% 60% ไม่มี 50% ตกก็ตก ไม่ตกก็ไม่ตก พอตกก็โดนด่า ต้องบอกให้ทราบล่วงหน้า

    มั่นใจแน่ใจแล้วใช่มั้ย
    ไม่แน่ใจ ถ้าแน่ใจผมบอกไปแล้ว เกิดแน่นอน แต่ผมไม่เคยพูดเลยว่าจะเกิดแน่นอน ผมบอกว่าโอกาสจะเกิดมี ถ้าเกิดแล้วจะมีผลกระทบอย่างไร ตอนนี้ผมไม่ใช่นักวิชาการแล้ว ห่างจากข้อมูล ห่างจากศึกษาค้นคว้ามานาน ถ้าผมเป็นนักวิชาการผมจะบอกเลยว่าโอกาสจะเกิดขึ้นมีกี่เปอร์เซ็นต์ เกิดที่ไหน เมื่อไหร่ รุนแรงไหม แต่การศึกษาค้นคว้าของผมไม่มีแล้ว ห่างมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ดูจากข้อมูลสถิติ ดูจากความชำนาญในอดีต ประสบการณ์ในอดีตที่สามารถวิเคราะห์ได้ว่า นาร์กีสเกิดแล้ว หลังจากนาร์กีสยังจะมีพายุลูกอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก รุนแรงเท่ากับนาร์กีสในแปซิฟิกสามารถทำให้โอกาสจะเกิดมี แต่ว่าไม่ได้บอกว่าจะรุนแรง

    หงุดหงิดโมโหไหมที่คนไม่เชื่อ
    เวลาไปบรรยายไปโต้เถียงทางวิชาการกับนักวิชาการ ผมยอมรับความคิดเห็นทางวิชาการที่ไม่ตรงกัน แต่ขอให้มีข้อมูลมารองรับสิ่งที่ดูดอย่างนักวิชาการจากจุฬาฯ ไม่ตรงกับผมเลย ดูข้อมูลพื้นฐานก็ไม่เหมือนกันประสบการณ์ที่เขามีทางอุตุวิทยา อุทกวิทยา ทางน้ำอาจจะน้อย แต่อาจจะเก่งด้านธรณี ข้อมูลไม่ตรงกันแต่ต้น มีความคิดตรงกันยาก อย่างอาจารย์เสรี ม.รังสิต เห็นตรงกับผมบ้างไม่ตรงบ้าง แต่ที่ไปพดที่กระทรวงพัฒนาสังคมแกบอกว่าไม่เถียงกับผมแล้ว เพราะผมมีญาณ พูดอย่างนี้ก็เลยไม่เถียงกัน แกให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์แบบนี้ บอกเชื่อ ดร.สมิทธเถอะ แกมีญาณวิเศษ

    ผมมีญาณจริง ๆ ผมมี Six Sense เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่งั้นผมจะรู้ได้ยังไงจะเกิดอะไร แต่ผมบอกใครไม่ได้ ไม่ใช่หมอดู ไม่ได้ติดต่อกับเทพเบื้องบน ซิกเซนส์นี้เกิดจากประสบการณ์ มีความสามารถพิเศษ บางทีเรามีจิตใจแน่วแน่ในสิ่งที่เราทำ ไม่งั้นในหลวงไม่ตั้งชื่อนกทรงเลี้ยงชื่อผมหรอกเรื่องพายุแองเจลล่า ผมบอกว่า เข้า ท่านบอกไม่เข้า ตอนนี้น้ำกำลังท่วมกรุงเทพฯ อยู่ ท่านก็ถูก ไม่เข้า แต่ท่านก็อธิบายให้ฟัง ท่านรับสั่ง “ฉันให้นางมณีเมขลาพาไปเขาพระสุเมรุแล้ว” ซึ่งเราก็ไม่กล้าไปถามท่าน นางมณีเมขลาอยู่ตรงไหน เขาพระสุเมรุอยู่ตรงไหน ท่านรู้ว่ามันไม่เข้า ท่านบอกประเทศไทยบางครั้งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คลาดแคล้วจากภัยธรรมชาติที่รุนแรง

    แล้วพายุแองเจลล่าไม่เกิดใช่มั้ย
    เกิดครับ แต่มันขึ้นเหนือไปเข้าประเทศจีน ทำให้คนตายเยอะแยะ

    เรื่องแผ่นดินไหวเป็นอย่างไร
    ผมจับตา แต่พูดไม่ได้ พูดไปเดี๋ยวก็โดนด่าอีก แถวเมืองกาญจน์เรื่องที่ผมพูดออกมามีผลกระทบทั้งนั้น พูดไปตกใจคนก็หนี เดี๋ยวนี้ไม่เอาแล้ว เฉย ๆ อายุมากแล้ว ปล่อยให้ธรรมชาติลงโทษเสียบ้าง

    หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
    ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ.2551 หน้า 4


    .............................................................................................




    ได้ไปงานสัมนา เตรียมกาย เตรียมใจ รับภัยพิบัติ เมื่อวานนี้

    ในวันเสาร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๓


    ผู้ร่วมเสวนา

    พระธรรมโกศาจารย์
    ดร.สมิทธ ธรรมสโรช
    คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย

    ณ ยุวพุทธิกสมาคม


    ดร.สมิทธ ท่านได้กล่าวถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงพระอัจฉริยะและพระปรีชาสามารถ ด้วยความชื่นชม พระองค์ทรงทราบล่วงหน้า และมีพระอัจฉริยะภาพในเรื่องการพยากรณ์อากาศ ............

    โดยยกตัวอย่างหลายเรื่อง มีเรื่องหนึ่งกล่าวถึงพายุแองเจลล่าในอดีต ว่าพายุลูกนี้มีความรุนแรงและมีแนวโน้มตรงดิ่งมาเข้าประเทศไทย ดร.สมิทธได้วิเคราะห์แล้ว และได้ถวายรายงานกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2 ถึงรอบ ว่ามีแนวโน้มที่พายุลูกนี้จะเข้าสู่ประเทศ และทำให้เกิดภัยพิบัติอันตรายได้ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงยืนยันว่าพายุแองเจลล่าลูกนี้จะไม่เข้าประเทศไทยตามเดิม

    และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงพระราชดำริไว้ คือ


    พายุลูกนี้กลับหักเหทิศทางขึ้นไปยังประเทศจีนแทน และทำให้คนตายไปร้อยกว่าคน



    เหตุการณ์นี้ทำให้ดร.สมิทธ งุนงงและแปลกใจ

    ถึงขั้นกล่าวว่า ผมแทบฉีกตำราทิ้งและได้เก็บความสงสัยไว้ในใจว่าพระองค์ท่านทรงทราบได้อย่างไร เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าถวายงานพระองค์ท่าน ดร.สมิทธิ ก็กราบบังคมทูลถามถึงข้อสงสัยในเรื่องพายุลูกนี้ว่า


    พระองค์ทรงทราบได้อย่างไรว่า พายุลูกนี้จะไม่เข้ามาถึงประเทศไทย


    พระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสว่า " ฉันได้ให้นางมณีเมขลาพาไปที่เขาพระสุเมรุแล้ว "


    ดร.สมิทธกล่าวต่อไปว่า ท่านฟังด้วยความแปลกใจแต่ก็ไม่กล้าบังอาจทูลถามต่อ


    ดร.สมิทธได้กล่าว ชื่นชมพระปรีชาของพระองค์ท่านและ กล่าวว่า พระองค์ท่าน เปรียบเสมือน พระอาจารย์ใหญ่ ของผม




    เมื่อได้ฟังดร.สมิทธพูดเรื่องนี้ก็ให้คิดถึงกระทู้ ตามรอยพระมหาชนก ว่าบางทีเขาพระสุเมรุ อาจหมายถึงแผนที่ตั้ง แถบประเทศจีน


    **********


    อีกกรณีหนึ่งนานมาแล้วคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ดร.สมิทธ กลับไปศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเรื่อง ภูเขาไฟ กรากระตัว อีกด้วย


    ( หมายถึงทรงให้ความสำคัญอย่างมาก ถึงเรื่องการปลดปล่อยพลังงาน หรือการระเบิดของแนว ภูเขาไฟเหล่านี้ ........ อันนี้คิดเอาเองจ้า )




    ด้านล่างเป็นข้อมูลของภูเขาไฟกรากระตัว

    http://www.vcharkarn.com/varticle/37502






    </TD></TR></TBODY>
     
  17. สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368




    ในรูปส่วนที่เป็นตารางในแผนที่ ที่ไม่มีจุดๆๆๆ เป็นพื้นที่ส่วนทะเลที่ติดกับประเทศไทยมีเส้นตรงลากยาวลงมา

    ทำให้นึกไปถึง เรื่องที่ดร.สมิทธ กล่าวถึงประเทศเวียตนามว่า

    ปัจจุบันนี้

    ประเทศเวียตนามได้ทำเขื่อนกั้นน้ำทะเล เป็นแนวยาว 30 กิโลเมตร เสร็จแล้ว


    แต่ ผู้บริหารประเทศไทยและรัฐบาล ไม่ได้ให้ความสำคัญ ลงมือทำอะไร


    และ ตอนนี้ประเทศสิงค์โปร์ได้ดำเนินการ ศึกษาและลงมือสร้างเขื่อนรอบ เกาะอยู่


    *************************************


    ลองมาหาความหมายของ บ้านเชียงกันต่อนะ

    บช ตัวย่อบนเรือ คล้าย บ้านเชียง เลย


    ..................................................................................................


    และเครื่องหมาย กากบาท ในรูป คือสัญลักษณ์ จุดหมาย หรือเปล่า

    ลองนับจำนวนเปรียบเทียบดูกับรูป ปู เต่า ถึงกากบาท มี 6 จุด

    กับแผนที่ที่คุณ FALKMAN เอามาเปรียบเทียบ ก็มี 6 จุด

    เรามาลองหาความหมายของ กากบาท ในส่วนอื่นกันดูต่อ
     
  18. ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    ท่านคือผู้ชำนาญในการปลูกครับ
     
  19. ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    มช นะ

    บ้านเชียง = ชุมชน.......?
     
  20. ธัมมะอาสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +2,648
    อุทิจจพราหมณ์มหาศาลรีบมาเฝ้าพระราชา พร้อมด้วยลูกศิษย์สองคน คือ จารุเตโชพราหมณ์และคเชนทรสิงหบัณฑิต. สองคนนี้ คนแรกชำนาญการปลูก คนที่สองชำนาญการถอน. ทันใดที่มาถึง คเชนทรสิงหบัณฑิตก็ทรุดลงแทบพระบาทของพระราชาแล้วทูลว่า : "ข้าพระองค์ผิด ไปเอง เมื่อเหล่าอมาตย์ขอให้ข้าพระองค์ช่วยเก็บมะม่วงถวายพระอุปราช ข้าพระบาทจึงนำเอา 'ยันตกลเก็บเกี่ยว' มาใช้ มิได้คิดว่า จะทำให้ต้นมะม่วงถอนรากโค่น ลงมา พระพุทธเจ้าข้าขอรับ." พระราชาตรัสว่า : "อย่าโทมนัสไปเลย อาจารย์ผู้ดำริการ ต้นมะม่วงโค่นไปแล้ว ณ บัดนี้ปัญหาคือ ฟื้นฟูต้นมะม่วงได้อย่างไร. เรามี วิธีเก้าอย่างที่อาจใช้ได้. หนึ่ง เพาะเม็ดมะม่วง. สอง ถนอมรากที่ยังมีอยู่ให้งอกใหม่. สาม ปักชำกิ่งที่เหมาะแก่การปักชำ. สี่ เอากิ่งดีมาเสียบยอดกิ่งของต้นที่ไม่มี ผลให้มีผล. ห้า เอาตามาต่อกิ่งของอีกต้น. หก เอากิ่งมาทาบกิ่ง. เจ็ด ตอนกิ่งให้ออกราก. แปด รมควันต้นที่ไม่มีผลให้ออกผล. เก้า ทำ 'ชีวาณูสงเคราะห์'. ท่านพราหมณ์มหาศาล จงให้พราหมณ์อันเตวาสิกไปพิจารณา." อุทิจจพราหมณ์รับสนองพระราชโองการ ว่า : "ข้าพระองค์ผู้ทรงปัญญา จะให้คเชนทรสิงหบัณฑิต นำเครื่อง 'ยันตกล' ไปยกต้นมะม่วงให้ตั้งตรงทันที และจะให้จารุเตโชพราหมณ์เก็บเม็ดและกิ่ง ไปดำเนินการตามพระราชดำริ." พระราชาโปรดให้สองคนนี้รีบไป แต่ขอให้พราหมณ์มหาศาลคอยรับพระราชดำริต่อไป.


    จารุ= ทอง
    เตโช =ไฟ

    ท่านจะเป็นผู้นำในการฟื้นฟูแผ่นดินนี้
     

แชร์หน้านี้