ตามรอย "พระมหาชนก"

หลังจากที่ทัพหน้าของแต่ละฝ่ายห้ำหั่นกันแล้ว ทัพหลังที่ใหญ่กว่าก็มาถึง ระหว่าง...

 

รอคุณแก้มแดงมาเล่าต่อนะคะ

 

ส่วนใครจะเป็นปูทะเลยักษ์ เป็นปลา เป็นเต่านั้น ผมเชื่อมั่นว่ามีรู้หลายท่านก็รู้เท่าทันเช่นเดียวกันครับ

ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ รบกวนช่วยชี้แนะหน่อยนะคะ อยากรู้มาก ๆ

 

อยากรู้ว่าคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์บนกำแพงหน้า 16 ต่อ 17 ตรงด้านบนเขียนว่า DMC ใช่ไหมคะ แล้วรูปในโทรทัศน์เป็นรูปอะไรคะ มองไม่เห็นเลย..

 

ขอปรบมือให้ สายตาอันแหลมคม ของคุณหญิงกีรติ สมกับที่หลุดมาจากนวนิยาย เรื่อง ข้างหลังภาพ

ล้อเล่นนะครับ ... เอาจริงๆบ้าง

ภาพที่ปรากฏในหน้าที่ 16 นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ จอแบบ CRT ยุคสมัยที่ศิลปินวาดนั้นจอคอมพิวเตอร์แบบ LCD ยังไม่นิยมแพร่หลาย เหตุที่เชื่อว่าเป็นจอคอมพิวเตอร์เพราะภาพ(ดาวหางสีเขียว?)ในหน้า 17 มีเสาอากาศแบบจอโทรทัศน์ทั่วไป หากศิลปินจะวาดโทรทัศน์น่าจะวาดในลักษณะเดียวกัน
ส่วนตัวอักษรที่อยู่้บนจอ CRT นั้น ถ้ามองในแง่บริษัทที่ผลิต ก็อาจเป็น NEC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตจอคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมในยุคก่อน
แต่ ... ถ้า สังเกต โลโก้ คำว่า NEC โดยทั่วไปจะใช้ ตัวอักษรสีฟ้า พื้นสีขาว

มองในมุมที่คุณหญิงกีรติ เอ้ย คุณ Crearati กล่าวว่าน่าจะเป็น DMC ก็มีความเป็นไปได้สูง (DMC ในที่นี้อาจจะหมายถึง Dunkin donut-McDonald-Coca Cola ก็ได้ (นะจ๊ะ ... อุ๊บ!)) ปกติจะใช้ อักษรสีเหลือง พื้นสีแดง ซึ่งคล้ายๆกับโทนสีที่ปรากฏอยู่ในภาพหน้า 16

ที่น่าสนใจคือ จอคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าวดันหันไปทางด้านข้าศึกศัตรู แถมยังอยู่ตำแหน่งสูงเสมือนว่า จงใจให้เห็นหรือให้ทราบข้อมูลบางอย่าง แต่ถ้าแย้งว่า ศิลปินอาจจะต้องการวาดให้ผู้อ่านเห็น ก็คงถามต่อว่าถ้าเช่นนั้น จอคอมพิวเตอร์ก็ควรจะหันในมุมเดียวกับรูปทีวีหน้า 17

ขณะที่คนอื่นป้องบ้านป้องเมืองนั้น ข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์กับเปิดเผยออกไป งานนี้จะเรียกว่า เกลือเป็นหนอน ดีมั้ย ?



ปล. ผมแกล้งอ่านชื่อเพี้ยนเป็น กีรติ ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ :)

 

ใช้กล้องขยายดูเอาค่ะ..แต่มั่นใจว่าเป็น DMC ซึ่งในที่นี้หมายถึงลัทธิจานบินธรรมกาย อาจจะเกิดอะไรขึ้นกับลัทธินี้หรือไม่ก็มีอะไรเกี่ยวพันกันแน่เลยแต่ยังไม่เข้าใจดี
ปล.แปลชื่อซะแก่เลยนะคะ ไม่ใช่คุณหญิงกีรติค่ะ...อ่านว่าครีอาราติ ต่างหาก ไม่มีความหมายค่ะชอบเฉยๆ..

 

คุณแก้มแดงคะ ที่ว่าได้แจ้งและพิจารณาไป อย่าได้ตื่นข่าวสึนามิเข้าอ่าวไทยนั้น จะเป็นจริงใช่หรือไม่คะ แต่ลำดับจะมาทีหลังการทำสงครามในเมือง ขอความกระจ่างด้วยค่ะ

ได้โปรดให้คนไทยที่มีสติได้รู้เพื่ออยู่รอดด้วยเถิด

 

อาจจะจริงอย่างที่คุณ Crearati ตั้งข้อสังเกตไว้

แต่ถ้า องค์กรที่มีอักษรย่อ DMC ไปเกี่ยวข้องกับ MDCCLXXVI เดี๋ยวจะพากันสนุกไปกันใหญ่ (หรือไม่ ...ออกทะเลกู่ไม่กลับ)
:)

 

แย่แล้ว..ถ้าใช่จริงๆนี่ล่ะคือตัวแปรสำคัญเลยทีเดียว..

 

แล้วเลขโรมันเหล่านี้ แปลงเป็นเลขอารบิคได้อย่างไรบ้างครับ ผมลืมวิธีแปลงไปหมดแล้ว...ขอบคุณมากๆนะครับ:cool:

 

MDC = 1600 + CLX = 160 + XVI = 16 = 1776

 

อิลลูมิเนติ Illuminati

สมาคมอิลลูมิเนติ (Illuminati) ก่อตั้งขึ้นที่เมืองอินกอลสตาดท์ (Ingolstadt) ประเทศเยอรมัน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม
1776 โดย อดัม ไวส์ฮอพ (Adam Weishaup) ผู้ยึดถือปรัชญาความคิดอิสระ ไม่ยึดติดกับความเชื่อเก่าๆที่สั่งสอนกันมาทั้งเรื่องระบบการปกครองและศาสนา เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคการปกครองแบบใหม่ (New World Order) และเชื่อกันว่าสมาคมอิลลูมิเนติอยู่เบื้องหลังการล้มล้างการปกครองด้วยระบบ กษัตริย์ของหลายๆประเทศในทวีปยุโรป รวมถึงการประกาศอิสรภาพของอเมริกาในปี 1776

ออกทะเลเจอบางสิ่งที่น่ากลัว

 

ตอบ Khun Ta-Ton

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman พลังจิตนานาชาติ
ครับ ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ Falkman ตอบคำถามนี้ได้งามมากครับ

คุณเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ “ ที่จริงผมจะเขียนสามรูปคือ ออกเรือ แล้วก็เรือล่ม แล้วก็ว่ายน้ำ ๗ วัน ๗ คืน แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อทอดพระเนตรรูปเสก็ตช์ของผมทั้งหมด

ทรงจินตนาการว่า น่าจะมีรูปสักรูปมาเสริมตรงนี้ คือก่อนเรือล่ม ควรจะเขียนบรรยากาศของเรือ ที่พระมหาชนกยืนอยู่ตรงหัวเรือ แล้วชี้ไปเห็นปูกับปลาต่อสู้กัน ในความหมายของพระองค์ท่านทรงบอกไว้ว่า ฝ่ายปูนี่เป็นฝ่ายที่หนุนเท้าพระมหาชนก เป็นฝ่ายดีฝ่ายธรรมะ ฝ่ายปลานี่เป็นฝ่ายกิเลส ดังนั้น อยากให้เขียนรูปแบบนั้น ทรงอธิบายถึงสีสันของทะเลตอนก่อนที่พายุจะมาเป็นอย่างไร ออกสีส้มออกสีเหลือง อันนี้เป็นรูปที่มาจากจินตนาการของพระองค์ท่านทั้งหมด ผมไม่ได้คิดเลย ดังนั้น รูปจะออกมาเป็นสามลักษณะด้วยกันคือ รูปของความสงบนิ่ง กับรูปของการกำลังจะเกิดความวุ่นวาย แล้วก็รูปความวุ่นวาย.”

แสง สีส้มจัดจับขอบฟ้า ท้องธาราเรียบสงบ แต่ฝูงปลาสัตว์สมุทรกลับพากันแตกตื่น เป็นสัญญาณถึงภัยแห่งพายุร้ายที่กำลังจะมา บรรดากลาสีคนเรือต่างตระหนก พากันวิงวอนต่อเทพแห่งท้องนที มีแต่พระมหาชนกที่ครองสติ พิจารณาหาหนทางจะพ้นภัย

ในหลวงท่านทรงแจ้งพวกเราคนไทย ทุกๆคนไว้ชัดเจนแล้วนะครับ ก่อนสึนามิในอ่าวไทยจะเกิด ต้องเกิดการรบกัน ฆ่ากันก่อน ดังที่ผมได้แจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วนะครับ

 

ตอบครับ คือให้ทางคุณ เข้าไปอ่านข้อความเก่าๆที่ผมได้แจ้งไปก่อนนานแล้วในห้อง "ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงหรือไม่" ห้องนี้คุณ เกษม(ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ) ท่านดูแลอยู่ครับ

เท่าที่พอจำได้คร่าวๆดังนี้ ให้อ่านไปตามลำดับครับ โดยเริ่มต้นจาก
ครั้งแรก ข้อความจาก อ.จตุพรทำนายผ่านองค์เทพ...
ครั้งที่สอง ข้อความจากคุณ แก้มแดง
ครั้งที่สาม ข้อความจากคุณ K97

ครับคำตอบที่แจ้งไปนั้น ไปเป็นในแนวทางเดียวกันหมดครับ เงื่อนเวลาต่างๆก็ใกล้เคียงกันมากครับ เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายต้องพิจารณาให้เห็นเองนะครับ มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆง่ายๆนะครับที่จะอพยพ หรือย้ายที่อยู่ใหม่ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นกฎของสวรรค์ก็มีนะครับมีบทลงโทษอยู่ ตอนนี้คงบอกได้เท่านี้นะครับ
คงต้องมีความเพียรในการอ่านข้อความหน่อยนะครับ มีความรู้มากมายจากผู้รู้หลายๆท่านครับลองดูครับ...หรือจะขอรบกวนพี่เกษมให้ช่วยหาก็ลองขอความเมตตาดูนะครับเผื่อพี่เขาจะเมตตาครับ

 

ทะเลาะกันก่อนเกิดภัยพิบัติ ... อืม น่าคิด น่าคิด

จริงๆแล้ว แนวความคิดนี้อาจจะไปพ้องกับตอนหนึ่ง วรรณคดีเรื่อง พระอภัยมณี ขออนุญาตยกมาวาง ไว้ที่่นี้นะครับ ...[FONT=&quot]

"... สุนทรภู่เริ่มพาดพิงถึง [/FONT][FONT=&quot]“แผ่นดินไหว” ครั้งแรกในเรื่อง พระอภัยมณี ตอนที่ ๒๗ อย่างย่นย่อ แต่แล้วก็ได้หยุดไปอาจเพราะคิดหาประโยชน์ยังไม่ได้ จนกระทั่งถึงตอนที่ ๔๔ “กษัตริย์สามัคคี” สุนทรภู่จึงได้แต่งให้มีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติหลายอย่าง อันเป็นเหตุให้บรรดากษัตริย์ทั้งหลายตกลงใจที่จะเลิกรบกัน[/FONT]

[FONT=&quot]“พออากาศฟาดเปรี้ยงเสียงสนั่น
เป็นหมอกควันมืดมิดทุกทิศา
พวกรบสู้ดูเหมือนไม่มีตา
ไม่รู้ว่าจะไปหนตำบลใด

ประเดี๋ยวดังหงั่งเหง่งเสียงเครงครึก
ลั่นพิลึกโลกาสุธาไหว
เป็นฝนฟุ้งทุ่งท่าพนาลัย
ทุกนายไพร่หนาวทั่วทุกตัวคน

ไม่รู้ที่หนีไปข้างไหนรอด
เหมือนตาบอดมืดเขม้นไม่เห็นหน
หนาวสะท้านคลานคลำด้วยจำจน
เสียงแต่ฝนซู่ซู่เข้าหูตา

ดูมืดสิ้นดินสวรรค์เป็นควันโขมง
แต่เพลิงโพลงพลุ่งอยู่ที่ภูผา
เห็นหนทางต่างคลานทะยานมา
พวกโยธาโถมชิงกันผิงไฟ”[/FONT]

[FONT=&quot]โดยเมื่อปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติต่าง ๆ สงบลง พระโยคีก็ได้ออกมาสั่งสอนเหล่ากษัตริย์ เหตุการณ์จึงจบลงด้วย

[/FONT] [FONT=&quot]“ฝ่ายกษัตริย์ขัตติยาสิบห้ากษัตริย์
ต่างจบหัตถ์สาธุสะพระฤาษี
โปรดปรึกษาว่าให้เป็นไมตรี
ข้าเห็นดีพร้อมพรักจะรักกัน”

[/FONT][FONT=&quot]เรื่อง กษัตริย์หันหน้าเข้าปรองดองกันนี้เชื่อได้ว่าสุนทรภู่น่าจะได้แรง บันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๓๘๒ อีกเช่นกัน เพราะมีบันทึกปรากฏอยู่ใน พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓[/FONT][FONT=&quot] (หน้า ๘๑-๘๒) ถึงกรณีที่พระยาศรีพิพัฒน์ (ทัด) มีตราให้หาเจ้าเมืองแขก (มลายู) ซึ่งมีข้อวิวาทถึงขั้นสู้รบกัน และได้บังคับให้เลิกรบทั้ง ๒ ฝ่าย แล้วให้สบถสาบานตามอย่างแขกดีกัน เรื่องนี้เป็นอีกหมุดหมายหนึ่งซึ่งบอกเราว่าสุนทรภู่แต่ง พระอภัยมณี ตอนดังกล่าวนี้ในช่วงเวลาใด..."


[/FONT]

 

เห็นว่ารูปมันคล้าย ๆ กัน ^ ^

 

ก่อนที่จะเข้าเรื่องพระมหาชนก ผมขอแจ้งเรื่องภัยพิบัติก่อนนะครับว่า "ภัยพิบัติร้ายแรงระยะที่ ๑" มันเลื่อนออกไปปีหนึ่งนั้น หมายความว่าเฉพาะภัยใหญ่เท่านั้นนะครับ ส่วนเขื่อนแตก แผ่นดินไหว ดาวเคราะห์ฟุ่งชนโลก อื่นๆนั้นอันนี้ไม่ถือว่าไม่เป็นภัยใหญ่นะครับ ภัยพวกนี้ไม่มีการเลื่อนนะครับ ให้เข้าใจตรงกันครับ พอดีผมเข้าไปอ่านกระทู้อื่นมาเห็นเขาแจ้งมาว่าเลื่อนกัน ต้องแยกแยะให้มองเห็นความจริงนะครับที่กำลังจะเกิดขึ้นว่ามีอะไรบ้าง มีลำดับขั้นตอนอะไรบ้าง วิธีไหนบ้าง ไม่งั้นจะเครียด สติมันจะแตกเอานะครับต้องรู้เขาว่าเขาจะทำอะไรก่อนอะไรหลัง บางครั้งบางคนตื่นจนทำอะไรไม่ถูก ต้องใช้ปัญญาและสติให้มากๆนะครับหมั่นพิจารณาสิ่งที่ผมแจ้งบอกไปให้เข้าใจถึงลำดับขั้นลำดับตอนจังหวะปีให้เข้าใจถูกต้องนะครับ ทุกอย่างมีขั้นมีตอนของมันนะครับ บางคนก็ห่วงเรื่อง "วันฟ้าดับ" จริงๆแล้วมันยังไม่ถึงเวลาที่จะเกิดในปีนี้ปีหน้า ในเรื่องพระมหาชนกก็แจ้งบอกไว้แล้ว การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่๓ การว่ายน้ำ๗วัน๗คืน วันฟ้าดับ ในหลวงท่านทรงแจ้งบอกพวกเราคนไทยไว้หมดแล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายมีสตินะครับ ก่อนถึงวันนั้นจะต้องมีการยกระดับจิตระดับใจให้เป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่มีทรัพย์จนถึงขั้นทรัพย์ไร้ค่าคนยึดจิตอภิญญา เราๆท่านๆที่เป็นคนบุญต้องถูกกระทำให้เป็นไปตามนั้น ถ้าเกิดวันฟ้าดับในปีหรือสองปีนี้ ท่านก็ตายผมก็ตายคนตายกันหมดแล้วใครจะช่วยฟื้นฟูประเทศชาติละครับ เพราะมันข้ามขั้นตอน ดังนั้นในหลวงท่านทรงแจ้งเหตุและผลตลอดจนขั้นตอนการล้างมนุษย์-วิญญาณ รวมถึงลำดับเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยไว้จนหมดสิ้นแล้ว ผมกำลังพิจารณาแจ้งบอกไปตามกำลังและเวลาที่พอจะบอกแจ้งไปได้ ขอให้ท่านทั้งหลายเชื่อมั่นและมีความศรัทธาต่อในหลวงของเรานะครับ ท่านต้องพยายามหาหลักที่จะจับให้เจอนะครับ เมื่อเจอแล้วก็ต้องจับหลักให้มั่นนะครับ ไม่อย่างนั้นจะหลุดไปตามกระแส
อีกเรืองหนึ่ง ผมยังไม่ได้แจ้งคือในปีนี้ หลังสงการนต์ เมษายน ๒๕๕๕นี้ บ้านเมืองของเราๆท่านๆจะถดถอยจะมีปัญหามากมายที่เป็นวิกฤติหลายๆเรื่องตามที่ผมได้แจ้งไปข้างต้น ส่วนเรื่องภัยพิบัตินั้นมีแน่นอน พ่อฯบอกผมมาว่าแล้วให้ผมคอยดู มีแน่นอนมีการล้างมนุษย์แน่นอน พ่อฯไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไรที่ไหนทุกอย่างเป็นความลับ ให้ทุกท่านเตรียมตัวกันไว้นะครับ พ่อฯบอกว่าให้สังเกตุดูให้ดีๆ ส่วนบ้านผมครอบครัวผมท่านดูแลอยู่ไม่เป็นไร ท่านบอกว่าให้พยายามทำเป็นพุทธบูชาทำไปเรื่อยๆคือ ให้ทำความดี ใส่บาตร ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิสม่ำเสมอ จะเป็นเกราะคุ้มกันตัวอย่างดี

 

เต็มสิบให้ร้อยเลย...............

 

วันฟ้าดับและภัยพิบัติครั้งใหญ่ตามความเชื่อของผมน่าจะเกิดขึ้นประมาณ5-6ปีจากนี้ไปครับส่วนคร้งย่อยๆแต่รุนแรงมากจะทยอยเกิดขึ้นตั่งแตปีนี้เป็นต้นไปครับ

 

มีเปอร์เซ็นที่จะเป็นปี ๕๖ สูงจ้ะ

ถ้าตามอ่านตลอดจะทราบว่า ถอดรหัสออกมาเป็น วันเดือนปี ชัดเจนไปเลยทีเดียว

อะ แจ้งแนวโน้มว่าอาจจะมีข่าวดีก็คือว่า อาจจะผ่านแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ในส่วนของภัยพิบัติที่เป็นภัยธรรมชาติชุดใหญ่นะ ภัยสงครามก็ลุ้นกันต่อไป
เพราะในภาคส่วนดวงวันเกิดภัยพิบัตินั้น พระมหาชนกทำนายออกมาแค่ ๔ วันเท่านั้น และเรียงตามลำดับ (น่าเสียดายที่เราถอดกันแค่ ๒ วันหลัง)
แล้วที่ถอดออกมาล่าสุดนั่นคือ ครั้งสุดท้ายที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย ความแม่นยำไม่ต้องพูดถึง
ส่วนที่เหลือไปกองปลายพระพุทธศาสนา