ติดตามสถานะการณ์

กลุ่มฮามาสประกาศแต่งตั้ง ยาห์ยา ซินวาร์ (Yahya Sinwar) ซึ่งเป็นผู้วางแผนปฏิบัติการโจมตีภาคใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่แล้ว ขึ้นเป็นผู้นำฝ่ายการเมืองคนใหม่แทนที่ อิสมาอีล ฮานิเยห์ ซึ่งถูกปลิดชีพที่กรุงเตหะราน ในความเคลื่อนไหวที่สะท้อนให้เห็นถึงการยกระดับนโยบายต่อต้านรัฐยิวแบบสุดโต่ง
.
ซินวาร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมันสมองที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีที่สร้างความสูญเสียต่ออิสราเอลมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ยังคงใช้ชีวิตกบดานอยู่ภายในฉนวนกาซา แม้จะถูกกองทัพอิสราเอลไล่ล่าเด็ดหัวมาตั้งแต่สงครามเริ่มปะทุขึ้นเมื่อ 10 เดือนที่แล้วก็ตาม
.
“ขบวนการต่อต้านเพื่ออิสลามฮามาส (The Islamic Resistance Movement Hamas) ขอประกาศแต่งตั้งผู้บัญชาการ ยาห์ยา ซินวาร์ ขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักงานฝ่ายการเมืองของฮามาส แทนที่ผู้บัญชาการ อิสมาอีล ฮานิเยห์ ซึ่งเป็นผู้สละชีพ ขอพระเจ้าโปรดประทานความเมตตาแก่เขา” ถ้อยแถลงของฮามาสระบุ
.
ข่าวการแต่งตั้ง ซินวาร์ มีขึ้นในขณะที่อิสราเอลกำลังเตรียมความพร้อมรับมือการโจมตีแก้แค้นจากอิหร่านและกลุ่มติดอาวุธพันธมิตรตามหลังเหตุลอบสังหาร ฮานิเยห์ ที่กรุงเตหะราน
.
“การแต่งตั้งครั้งนี้เท่ากับบีบให้อิสราเอลต้องเผชิญหน้ากับ ซินวาร์ เพื่อหาวิธียุติสงคราม” นักการทูตในภูมิภาคซึ่งใกล้ชิดกับวงเจรจาที่มีอียิปต์และกาตาร์เป็นผู้ช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อยุติการสู้รบในกาซา และช่วยเหลือตัวประกันชาวอิสราเอลและต่างชาติอีก 115 คนกลับบ้าน ระบุ
.
“มันคือการส่งสารที่แข็งกร้าว และไม่ยอมประนีประนอม”
.
ซินวาร์ ซึ่งเคยใช้เวลาครึ่งชีวิตวัยผู้ใหญ่ติดอยู่ในคุกอิสราเอล ถือเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลสูงสุดของฮามาสที่ยังคงมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ ฮานิเยห์ ถูกลอบสังหารจนเสี่ยงกระพือสงครามครั้งใหญ่ในภูมิภาค
.
รัฐบาลอิหร่านประกาศจะ “ลงโทษ” อิสราเอลอย่างสาสมที่บังอาจหยามหน้าลอบฆ่าผู้นำฮามาสถึงในเมืองหลวง ขณะที่อิสราเอลแม้ยังไม่ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการตายของฮานิเยห์ แต่ก็ยอมรับว่าเคยลอบสังหารแกนนำฮามาสมาแล้วหลายคน รวมถึง ซาเลห์ อัล-อารูรี (Saleh Al-Arouri) อดีตรองผู้นำฮามาสซึ่งถูกสังหารที่กรุงเบรุต และ โมฮัมเหม็ด เดอิฟ (Mohammed Deif) อดีตผู้บัญชาการทหารของฮามาส
.
ยายาห์ ซึ่งเวลานี้อายุ 61 ปี เกิดที่ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองข่านยูนิสทางตอนใต้ของฉนวนกาซา และได้รับเลือกขึ้นเป็นผู้นำฮามาสในกาซาเมื่อปี 2017 ด้วยชื่อเสียงด้านความโหดเหี้ยมและการตั้งตนเป็นศัตรูตัวฉกาจกับอิสราเอล
.
แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล ออกมากล่าวหา ซินวาร์ ว่าเป็นผู้บงการและวางแผนให้พวกมือปืนฮามาสบุกโจมตีภาคใต้อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. พร้อมประกาศจะติดตามเด็ดหัวผู้นำฮามาสรายนี้ให้ได้
.
“มีสถานที่แห่งเดียวเท่านั้นที่เหมาะสมกับ ยาห์ยา ซินวาร์ นั่นคือการตามไปอยู่เคียงข้างกับ โมฮัมเหม็ด เดอิฟ และพวกผู้ก่อการร้ายคนอื่นๆ ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.” ฮาการี ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Al-Arabiya
.
“นั่นคือสถานที่เดียวที่เราเตรียมไว้ให้แก่เขา”
.
ในความเคลื่อนไหวที่บ่งชี้ว่าแกนนำฮามาสพร้อมใจสนับสนุน ซินวาร์ เป็นผู้นำคนใหม่ แหล่งข่าวภายในขบวนการยืนยันว่า คอลิด มาชาล (Khaled Mashaal) อดีตหัวหน้าสำนักงานการเมืองของฮามาสในช่วงปี 1996-2017 ซึ่งเคยถูกคาดหมายว่าอาจจะก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง ก็ประกาศจุดยืนสนับสนุน ซินวาร์ แล้วเช่นกัน
.
ในมุมของอิสราเอล การแต่งตั้ง ยาห์ยา ซินวาร์ ถือเป็นเครื่องยืนยันว่าฮามาสคือศัตรูที่จ้องทำลายล้างรัฐยิว และนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ก็คงจะหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นเหตุอ้างความชอบธรรม เพื่อทำสงครามกวาดล้างฮามาสในกาซาจนถึงที่สุด
.
ทำเนียบขาวยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการตั้ง ซินวาร์ เป็นผู้นำฝ่ายการเมืองคนใหม่ของฮามาส แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้บ่งบอกว่าฮามาสอาจปรับไปใช้จุดยืนแข็งกร้าวมากขึ้นในการเจรจาหยุดยิง และทำให้การบรรลุข้อตกลงเป็นเรื่องยากขึ้นอีก
.
ที่มา: รอยเตอร์

https://www.facebook.com/share/p/iGLnhwdDVWZu6WZC/?mibextid=oFDknk

 

ผู้นำฮิซบอลเลาะห์ในวันอังคาร(6ส.ค.) ระบุกลุ่มของเขาและอิหร่าน จำเป็นต้องตอบโต้อิสราเอล "ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม" ตามหลังเหตุลอบสังหาร ฟูอัด ชูคร์ ผู้บัญชาการทหารฮิซบอลเลาะห์ และ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เหตุลอบสังหารทั้ง 2 คน โหมกระพือความตึงเครียดพุ่งสูงในตะวันออกกลาง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระดับภูมิภาคและสงครามเต็มรูปแบบระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งยิงตอบโต้ข้ามชายแดนแทบทุกวัน นับตั้งแต่พวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส พันธมัตรของฮิซบอลเลาะห์ บุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

"อิหร่านพบว่าตนเองจำเป็นต้องตอบโต้ และศัตรูกำลังอยู่ในสถานะที่หวาดกลัวอย่างมาก" ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำฮิซบอลเลาะห์กล่าวระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ พร้อมระบุกลุ่มของเขาก็จำเป็์นต้องตอบโต้เช่นกัน

"ฮิซบอลเลาะห์จะแก้แค้นเพียงลำพังหรือในบริบทของการตอบโต้อย่างเป็นปึกแผ่นของอักษะทั้งมวลของกลุ่มต่างๆที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในภูมิภาค ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม วันนี้ ภูมิภาคกำลังเชผิญกับอันตรายอย่างแท้จริง" เขากล่าว

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในย่านชายเมืองทางใต้ของกรุงเบรุต สังหาร ชูคร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของฮิซบอลเลาะห์ ในวันอังคารที่แล้ว(30ก.ค.) เช่นเดียวกับที่ปรึกษาทางทหารของอิหร่านนายหนึ่งและพลเมือง 5 ราย

จากนั้นในวันพุธ(31ก.ค.) ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาส ถูกสังหารในเหตุโจมตีในกรุงเตหะราน ซึ่งกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล อย่างไรก็ตามอิสราเอลไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยตรงต่อเหตุลอบสังหาร

"การตอบโต้ของเรากำลังมา" นาสรัลเลาะห์กล่าวหลังจาก ชูคร์ เสียชีวิตครบ 1 สัปดาห์ พร้อมบอกว่ามันจะเป็นการตอบโต้ที่หนักหน่วงและทรงประสิทธิภาพ "มันคือฝ่ายอิสราเอลที่เลือกโหมกระพือสถานการณ์ให้ลุกลาม และพวกเขาโจมตีอิหร่าน เราไม่อาจร้องขอให้ใครก็ตามทั้งในเลบานอน หรือนอกเลบานอน ปฏิบัติกับเหตุโจมตีเมื่อวันอังคารที่แล้ว เป็นเพียงการโจมตีปกติทั่วไป ในบริบทของการสู้รบกับอิสราเอล"

สหรัฐฯเปิดเผยว่าพวกเขากำลังทำงานทั้งวันทั้งคืน เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง หลังจากก่อนหน้านี้วอชิงตันได้เสริมเรือรบและเครื่องบินขับไล่เข้าไปยังภูมิภาค เพื่อสนับสนุนอิสราเอล และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประชุมฉุกเฉินกับคณะทำงานด้านความมั่นคงไปเมื่อวันจันทร์(5ส.ค.)

"อเมริกันบอกกับอิหร่านและเลบานอน หรือใครก็ตาม ให้อดทนและมอบเวลาให้เรา เพราะว่าเรากำลังหาทางหยุดสงครามในกาซา และพวกเขาถามเราว่า เป้าหมายของคุณไม่ใช่ต้องการหยุดสงครามในกาซาหรือ?" นาสรัลเลาะห์กล่าว

"ใช้ เป้าหมายคือการหยุดการรุกรานในกาซาและสงครามที่ทำกับประชาชนชาวปาเลสไตน์ แต่ใครสามารถเชื่อใจอเมริกาได้บ้าง หลังจาก 10 เดือนแห่งการหลอกลวง หน้าซื่อใจคดและโกหก ต่อประชาคมนานาชาติทั้งมวลและผู้คนทั่วโลก" นาสรัลเลาะห์ระบุ "เป้าหมายการต่อสู้คือขัดขวางอิสราเอลจากชัยชนะและจากการกำหนดผู้ขัดขืนชาวปาเลสไตน์"

(ที่มา:เอเอฟพี)

https://www.facebook.com/share/p/j8QeKCge84pLZNfB/?mibextid=oFDknk

 

Aug 7, 2024 มากันเยอะ! คนจีนแห่อพยพมาอยู่ในมาเลเซียเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า กว่า 150,000 คน ตะลึงมีย้ายมาปลูกทุเรียนแล้วส่งออกกลับไปจีน ครอบครัวคนจีนส่วนใหญ่ย้ายมาไทยมีรายได้ต่ำถึงปานกลาง เศรษฐกิจจีนซบเซา มุ่งหาโอกาสใช้ชีวิตใหม่ในต่างประเทศทั้งเจ้าของกิจการ นักเรียน นักศึกษา

สมาคมผู้ประกอบการชาวจีนแห่งมาเลเซีย หรือ China Entrepreneurs Association in Malaysia (CEAM) เปิดเผยว่า มีคนจีนใหม่ๆ เข้ามาประเทศมาเลเซียทุกสัปดาห์ เพื่อมาทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กโทรนิคส์ และซัพพลายเออร์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนที่อยู่นอกประเทศแม่ เนื่องจากต้องหลีกเลี่ยงนโยบายการกีดกันการค้าระหว่างสหรัฐที่มีต่อจีนในด้านภาษี ที่สำคัญ มีชาวจีนที่เป็นผู้ประกอบการด้านสินค้าผลไม้ เข้ามาประเทศมาเลเซียเพื่อมาปลูกทุเรียนและส่งออกกลับไปประเทศจีน

เหงียว โชว บิง ผู้อำนวยการ สถาบันการศึกษาจีน มหาวิทยาลัยมาลายา มาเลเซีย เปิดเผยว่า อย่างน้อยๆ มีคนสัญชาติจีน 150,000 คน และอาจจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 200,000 คน อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย จำนวนคนสัญชาติจีนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 82,000 คนในปี 2022 เพิ่มขึ้นราว 1.8 ถึง 2.5 เท่าในช่วง 3 ปีผ่านมา โดยกลุ่มคนสัญชาติจีนที่ย้ายมาอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียประกอบด้วยนักเรียน นักลงทุนหน้าใหม่

สำหรับในประเทศไทยนั้น ผศ.ดร.ศิวริน เลิศภูษิต อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ College of Interdisciplinary Studies, Thammasat University เปิดเผยว่า ในปี 2022 จำนวนคนสัญชาติจีนที่ย้ายเข้ามาอยู่ในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วระหว่าง 110,000-130,000 คน ส่วนใหญ่แล้วเป็นคนสัญชาติจีนที่เป็นเจ้าของกิจการ พนักงานมนุษย์เงินเดือน นักเรียน นักศึกษา และครอบครัว โดยส่วนใหญ่ของคนสัญชาติจีนที่มาอาศัยในไทยจะเป็นครอบครัวคนจีนชนชั้นกลางที่มีรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลาง

ปัจจัยที่ส่งผลให้คนสัญชาติจีนย้ายออกนอกประเทศจีนมายังอาเซียนโดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา และวิถีทางการหาโอกาสการทำธุรกิจ ผลักดันให้คนสัญชาติจีนต้องการค้นหาชีวิตใหม่ในต่างประเทศ คนสัญชาติจีนที่มีฐานะดีมากจะย้ายออกจากประเทศจีนไปอาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมอลต้า ซึ่งชาวจีนสามารถยื่นขอรับการพิจารณาสัญชาติเพื่อเป็นพลเมืองในสิงคโปร์ และมอลต้าผ่านโครงการการลงทุนของชาวต่างชาติ นอกจากนี้ คนสัญชาติจีนยังมีจำนวนมากที่ยื่นขอวีซ่าทองในประเทศโปรตุเกส และกรีซ

สำหรับประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางประเทศอันด้บต้นๆของอาเซียนที่ชาวจีนย้ายมาอาศัยนั้น พบว่า จะเป็นคนสัญชาติจีนชนชั้นกลาง ซึ่งมองว่าอาเซียนเป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายเหมาะสมและสามารถจ่ายได้ หรือเป็นกลุ่มนักเรียนชาวจีนที่ต้องการหลีกเลี่ยงการต่อต้านคนจีนจากในประเทศตะวันตก ทั้งหมดทำให้คนสัญชาติจีนกลายเป็นกลุ่มใหญ่ของนักเรียนต่างชาติ และกลุ่มอาศัยระยะยาวในมาเลเซีย(มีต่อหน้า 2/2)

(หน้า 2/2) คนสัญชาติจีนที่เข้ามาอาศัยในมาเลเซียส่งผลให้มหาวิทยาลัย และโรงเรียนนานาชาติมีจำนวนนักเรียนต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเป็นที่ต้องการของนักเรียนต่างชาติด้วย กระทรวงการศึกษา มาเลเซีย เปิดเผยว่า ในปี 2023 สถาบันการศึกษาระดับสูง เช่น ระดับมหาวิทยาลัย มีนักเรียนนักศึกษาชาวจีนเข้าเรียนจำนวน 44,043 คน เพิ่มขึ้น 35% จากในปี 2021 หรือใน 2 ปี ขณะที่ ไฟแนนเชียล ไทมส์ เปิดเผยงานวิจัย พบว่า จำนวนนักเรียนชาวจีนที่เข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติในมาเลเซียมีเพิ่มขึ้นถึงกว่า 2 เท่า ในช่วงระหว่างปี 2021-2023

จากการเปิดเผยของนักศึกษาสัญชาติจีนมีชื่อว่า เซียวเฟ่ย ซึ่งไม่ขอเปิดเผยนามสกุล และกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซีย หรือ National University of Malaysia ยอมรับว่า ตนเองทำคะแนนสอบได้ไม่ดีเมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยในจีน ตนเองสามารถเข้าเรียนได้ในสถาบันการศึกษาระดับปานกลาง หรือธรรมดาๆเท่านั้น และค่าเล่าเรียนมีราคาแพงในจีน นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ดึงดูดนักเรียนและนักศึกษาชาวจีนมาที่มาเลเซีย นอกจากค่าเล่าเรียนถูกแล้ว การแข่งขันในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยไม่รุนแรงเหมือนในประเทศจีน

นอกจากนี้ จำนวนนักเรียนชาวจีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในระดับมัธยมปลายในประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จากโรงเรียนนานาชาติ 15 แห่งในมาเลเซีย เปิดเผยว่า สัดส่วนนักเรียนชาวจีนมีเพิ่มเป็น 10-30% รวมเป็นจำนวน 2,500 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากในปี 2021 ทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม สมาคมชุมชนชาวจีนในมาเลเซีย เปิดเผยว่า โรงเรียนนานาชาติมีมากกว่า 250 แห่งในประเทศมาเลเซีย จึงมองว่าจำนวนนักเรียนชาวจีนจะต้องมีรวมกันมากกว่าที่ระบุมาข้างต้นที่เรียนอยู่ในโรงเรียนนานาชาติ

ด้านสถาบันบริการการศึกษาทั่วโลกแห่งมาเลเซีย หรือ Education Malaysia Global Services เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ จำนวนนักเรียนนักศึกษายื่นใบสมัครเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ปี 2023 สาเหตุจากนักเรียนนักศึกษาสัญชาติจีนไม่ได้เป็นที่ยินดีต้อนรับในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ซึ่งเกิดจากการต่อต้านของพลเรือนชาวจีนของประชาชนในทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว

ปัจจุบัน มีจำนวนคนสัญชาติจีนที่ได้รับวีซ่าพำนักระยะยาวในโครงการบ้านหลังที่สองของฉัน หรือ MMSH ย้ายมาอาศัยอยู่ในมาเลเซียมากกว่า 56,000 คน ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นกว่า 2 เท่าจากปี 2023

ทั้งนี้ นักลงทุนชาวจีนเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ส่งผลให้จำนวนชาวต่างชาติที่มาทำงานในประเทศมาเลเซียมีจำนวนมากขึ้นอย่างคึกคัก ปัจจุบัน มีเจ้าของกิจการเป็นคนสัญชาติจีน มีชาวจีนที่เป็นนักบริหารระดับผู้จัดการ มีมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในบริษัทของชาวจีนในมาเลเซีย รวมกันมากถึง 45,000 คน นับเป็นจำนวนที่เพิ่มสูงมากกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 10,000 คนในปี 2021

#จีน #มาเลเซีย #อาเซียน #ไทย #นักเรียน #นักศึกษา #ย้ายประเทศ #อพยพ #ต่อต้าน #เศรษฐกิจ #ทุเรียน #BTimes

https://www.facebook.com/share/32AW4YUDz2jtxjMq/?mibextid=oFDknk

 

Aug 7, 2034 กลัวไม่ทัน! รัฐบาลญี่ปุ่นยืนยันข้อมูลทุ่ม 5.92 ล้านล้านเยน เข้าพยุงค่าเงินเยนที่กำลังดิ่งเหว ทุบสถิติการแทรกแซงค่าเงินครั้งใหญ่ที่สุดภายในวันเดียว

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า วันนี้ (7 ส.ค.) รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยวว่าได้ทุ่มเงิน 5.92 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. เพื่อหนุนค่าเงินเยน โดยนับเป็นการแทรกแซงครั้งใหญ่ที่สุดภายในวันเดียว ตามมาด้วยอีก 3.87 ล้านล้านเยนในสองวันต่อมา

ข้อมูลดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่ทางการญี่ปุ่นได้ออกมายืนยันวันและปริมาณการเข้าซื้อเงินเยนและเทขายเงินดอลลาร์ระหว่างเดือน เม.ย. ถึง มิ.ย. โดยวงเงินทั้งหมดที่ใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวแตะ 9.79 ล้านล้านเยน ซึ่งถือเป็นสถิติเข้าซื้อเงินเยนสูงสุดเมื่อรวมทั้งไตรมาส เนื่องจากการที่เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วส่งผลให้ทางการญี่ปุ่นเกิดความกังวล ซึ่งในขณะนั้นขู่ว่าจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับตลาดปริวรรตเงินตราที่มีความผันผวนมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปีเทียบเงินเยน โดยอยู่เหนือระดับ 160 เยน แต่ต่อมา ดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงราว 5 เยนในช่วงเวลาสั้น ๆ ลงสู่ระดับ 154 เยนในตลาดนิวยอร์กเมื่อวันที่ 29 เม.ย. และเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงจาก 157 เยน เหลือ 153 เยน

#เงินเยน #เงินเยนอ่อนค่า #รัฐบาลญี่ปุ่น #ดอลลาร์ #BTimes

https://www.facebook.com/share/Gz6vj4Xtamv5tbvh/?mibextid=oFDknk

 

รัสเซียในวันพุธ(7ส.ค.) ต่อสู้สกัดการรุกรานข้ามชายแดนจากยูเครนเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ถือเป็นการโจมตีเล่นงานดินแดนของรัสเซียโดยกองกำลังเคียฟครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือน กระตุ้นให้ทั้ง 2 ชาติต้องอพยพพลเรือนหลายพันคน

ขณะเดียวกันรัสเซียได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับท้องถิ่นในแคว้นคูสค์ ในช่วงเย็นวันพุธ(7ส.ค.) ราว 36 ชั่วโมงหลังจากทหาร รถถังและยานเกราะของยูเครน บุกจู่โจมแคว้นชายแดนทางใต้ของประเทศ

มอสโกเผยว่าพวกเขาใช้แสนยานุภาพทางอากาศและปืนใหญ่สกัดการโจมตีตลอดทั้งวันพุธ(7ส.ค.) หลังจากรุดเสริมกำลังเข้าไปยังภูมิภาค ในความพยายามสกัดการรุกคืบของยูเครน

แม้การปะทะผ่านพ้นไป 2 วันแล้ว แต่ขอบเขตความเสียหายและยูเคนรุกคืบเข้าไปได้ลึกแค่ไหน ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่รายงานข่าวจากยูเครนและบล็อกเกอร์ทหารรัสเซีย บ่งชี้ว่าเคียฟรุกคืบได้หลายกิโลเมตร

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกว่ายูเครนโจมตีใส่อาคารพลเรือนและรถฉุกเฉินโดยไม่เลือก ขณะที่ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซียประกาศบดขยี้การรุกราน "รัฐบาลเคียฟดำเนินการยั่วยุครั้งใหญ่อีกรอบ" ปูตินกล่าวระหว่างการประชุมร่วมกับพวกเจ้าหน้าที่รัฐบาล ที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์

อเล็กเซ ซมินอฟ ผู้ว่าการแคว้นคูสค์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงเย็นวันพุธ(7ส.ค.) ความเคลื่อนที่มอบอำนาจแก่พวกเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม ในการดึงสถานการณ์กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุม

มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 5 รายและบาดเจ็บ 31 คน ในนั้นเป็นเด็ก 6 ราย นับตั้งการรุกรานของยูเครนเริ่มต้นขึ้น จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัสเซียเมื่อวันพุธ(7ส.ค.)

จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ เปิดเผยว่าวอชิงตันกำลังติดต่อไปยังพวกเจ้าหน้าที่ยูเครน เพื่อรับรู้เข้าใจสถานการณ์ดีกว่าเดิม พร้อมเน้นว่า "ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในนโยบายของเรา และยูเครนสามารถใช้อาวุธที่ได้รับการจัดหาจากสหรัฐฯ เพียงเล็งเป้าหมายเล่นงานภัยคุกคามอย่างปัจจุบันทันด่วนตามแนวชายแดนเท่านั้น"

พวกเจ้าหน้าที่ในแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับแคว้นคูสค์ แถลงว่ากำลังทำการอพยพประชาชนราว 6,000 ราย ขณะเดียวกันก็มีผู้คนอีกหลายพันคนอพยพออกจากแคว้นคูสค์เช่นกัน

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของรัสเซีย เผยว่าได้เสริมการป้องกันสถานีไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์คูสค์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนเพียง 60 กิโลเมตร ขณะที่ วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานเสนาธิการทหารรัสเซีย บอกว่ามีพวกนักรบจากยูเครนราวๆ 1,000 คน ที่เกี่ยวข้องกับการจู่โจม และกองกำลังรัสเซียสามารถสกัดพวกเขาจากการรุกคืบลึกเข้าไปในแคว้นคูสค์ "ปฏิบัติการจะสิ้นสุดด้วยความพ่ายแพ้ของศัตรู และผลักดันพวกเขากลับไปยังชายแดนของประเทศ"

ยูเครน ไม่ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการรุกราน ซึ่งถือเป็นการโจมตีข้ามชายแดนครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือน แต่ทางประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ในวันพุธ(7ส.ค.) กล่าวขอบคุณทหารยูเครนสำหรับความ "กล้าหาญ" ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์

"ยิ่งเรากดดันรัสเซียมากเท่าไหร่ เราก็จะเข้าใกล้ได้รับสันติภาพมากเท่านั้น สันติภาพต้องดำเนินการผ่านการใช้กองกำลัง" เขากล่าว

ปูติน เมื่อเดือนพฤษภาคม เปิดปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งใหม่เข้าสู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ในความพยายามสร้างสิ่งที่เขาเรียกว่าแนวกันชนด้านความปลอดภัย เพื่อปกป้องแคว้นต่างๆของรัสเซียที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน

ปฏิบัติการจู่โจมดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่แคว้นคาร์คิฟของยูเครน ไปจนถึงแคว้นซูมี ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการโจมตีข้ามชายแดนของฝ่ายยูเครนเมื่อวันอังคาร(6ส.ค.)

อย่างไรก็ตามการโจมตีใส่ดินแดนของรัสเซียยังคงเกิดขึ้นไม่หยุด โดยเฉพาะในแคว้นเบลโกรอด ที่ต้องประกาศว่าหมู่บ้านหลายสิบแห่งใกล้ชายแดน เป็นเขตห้ามเข้า สืบเนื่องจากการยิงปืนใหญ่ถล่มในเดือนกรกฏาคม

ยูเครน กล่าวซ้ำๆว่าพวกเขามองว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการพื้นฐานของพลเรือนภายในดินแดนรัสเซีย เป็นการตอบโต้ที่ชอบธรรม ต่อปฏิบัติการรุกรานทางทหารเต็มรูปแบบของมอสโก

(ที่มา:เอเอฟพี)

https://www.facebook.com/share/p/LRHA8DHrXgSGDAtj/?mibextid=oFDknk

 

ตำรวจและผู้ประท้วงต่อต้านเหยียดผิวหลายพัน รวมตัวกันบนท้องถนนทั่วสหราชอาณาจักรในวันพุธ(7ส.ค.) เพื่อท้าทายพวกกลุ่มขวาจัด ตามหลังเหตุความรุนแรงโจมตีเหยียดผิวที่เล็งเป้าเล่นงานชาวมุสลิมและพวกผู้ลี้ภัย ที่ลากยาวมานานกว่า 1 สัปดาห์

สหราชอาณาจักรต้องเผชิญกับจลาจลหลายระลอกที่ปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามหลังมีเด็กหญิง 3 คนเสียชีวิต ในเหตุโจมตีด้วยอาวุธมีด ในเมืองเซาท์พอร์ท ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ โหมกระพือข่าวเท็จบนสื่อสังคมออนไลน์ ที่กล่าวอ้างอย่างผิดๆว่าผู้ต้องสงสัยมือสังหารเป็นผู้ลี้ภัยชาวอิสลาม

ข้อความต่างๆที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ บอกว่าพวกผู้ประท้วงขวาจัดและต่อต้านมุสลิม จะเล็งเป้าหมายเล่นงานสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ผู้ลี้ภัย ศูนย์สนับสนุนผู้ลี้ภัยและบริษัทกฎหมายต่างๆในวันพุธ(7ส.ค.) กระตุ้นให้หลายธุรกิจต้องปิดทำการก่อนกำหนดและร้านค้าบางส่วนต้องหาไม้มาปิดกั้นประตูหน้าต่าง

ข่าวลือดังกล่าวกระตุ้นให้มีการประจำการตำรวจหลายพันนาย ท่ามกลางฝูงชนผู้ประท้วงที่รวมตัวกันตามเมืองต่างๆ ในนั้นรวมถึงลอนดอน บริสตอล เบอร์มิงแฮม ลิเวอร์พูลและฮาสติง ชูป้ายข้อความว่า "ต่อสู้กับการเหยียดผิว" และ "หยุดพวกขวาจัด"

พวกผู้ประท้วงเป็นการรวมตัวของกลุ่มต่างๆที่หลากหลาย ทั้งชาวมุสลิม พวกต่อต้านการเหยียดผิวและกลุ่มต่อต้านฟาสซิสต์ เช่นเดียวกับสหภาพแรงงานต่างๆ องค์การฝ่ายซ้ายทั้งหลายและชาวบ้านท้องถิ่นที่ตกใจกับเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นภายในประเทศ

จนถึงเวลา 20.00 จีเอ็มที(ตรงกับเมืองไทย 02.00น.) ยังไม่มีรายงานสถานการณ์ความวุ่นวายใดๆ แม้ตำรวจระบุว่าผู้ประท้วงราว 50 คน ในเมืองครอยดอน ทางใต้ของลอนดอน ขว้างปาขวดและพยายามก่อความปั่นป่วน

เหตุจลาจลปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครั้งที่กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เกิดการปะทะกับตำรวจและทุบกระจกหน้าต่างโรงแรมที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่รองรับพวกผู้ขอลี้ภัยจากแอฟริกา เอเชียและตะวันออกกลาง พร้อมตะโกนว่า "เอาพวกมันออกไป" และ "ช่วยหยุดเรือที" อ้างถึงพวกที่ใช้เรือขนาดเล็กลักลอบเข้ามาในสหราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

พวกเขายังขว้างปาก้อนหินเข้าใส่มัสยิดหลายแห่ง กระตุ้นให้องค์กรมุสลิมทั้งหลายต่อออกคำแนะนำด้านความปลอดภัยในชุมชน

นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ อดีตหัวหน้าอัยการ ที่กำลังเผชิญวิกฤตแรกนับตั้งแต่คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งวันที่ 4 กรกฏาคม เตือนพวกก่อจลาจลว่าจะต้องเจอกับโทษจำคุกเป็นเวลานาน ในขณะที่เขาพยายามหาทางควบคุมวิกฤตความรุนแรงครั้งเลวร้ายที่สุดในสหราชอาณาจักในรอบ 13 ปี

ชายวัย 58 ปีรนายหนึ่งถูกลงโทษจำคุก 3 ปีในวันพุธ(7ส.ค.) สำหรับก่อจลาจลรุนแรง ส่วนอีก 2 คน อายุ 41 ปี และ 29 ปี ถูกพิพากษาจำคุก 20 เดือนและ 30 เดือนตามลำดับ

พวกผู้ลี้ภัยที่ไหลบ่าเข้าสู่สหราชอาณาจักร เป็นประเด็นหลักที่ประเทศแห่งนี้ โหวตถอนตัวจากสหภาพยุโรปในปี 2016 และเป็นประเด็นต่อสู้ในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนที่้แล้ว โดยพรรคปฏิรูปของไนเจล ฟารัก ได้คะแนนเสียงราวๆ 4 ล้านเสียง จากนโยบายควบคุมชายแดนเข้มข้นขึ้น

สหราชอาณาจักร พบเห็นระดับผู้ลี้ภัยสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2022 จากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของบรรดาผู้ที่เดินทางมาจากยูเครนและฮ่องกง เช่นเดียวกับผ่านวีซ่าการทำงานและวีซ่านักศึกษา

จำนวนผู้ลี้ภัยสุทธิที่เดินทางเข้ามาผ่านช่องทางที่ถูกต้องทางกฎหมายอยู่ที่ระดับ 685,000 คน ในปี 2023 แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้คนอีกกว่า 29,000 ราย ที่ล่องเรือเล็กข้ามช่องแคบชานเนลเข้ามา หลายคนหลบหนีมาจากเขตสงคราม ทั้งนี้การที่พวกขวาจัดตะโกนว่า "หยุดเรือที" มันเป็นสโลแกนของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ก่อนที่พวกเขาจะถูกเขี่ยพ้นจากอำนาจ หลังปกครองประเทศมายาวนาน 14 ปี

รัฐบาลสั่งให้กองกำลังพิเศษของตำรวจ 6,000 นาย อยู่ในความพร้อม คอยตอบสนองสถานการณ์ความรุนแรงใดๆ ขณะที่สภาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าจนถึงตอนนี้มีผู้ประท้วงถูกจับกุม 428 คน ในนั้น 120 คน โดนตั้งข้อหาแล้ว ในความเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบ

(ที่มา:รอยเตอร์)

https://www.facebook.com/share/p/nNXbTtqtF2gLDyEJ/?mibextid=oFDknk

 

อัปเดต: แผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้ง ขนาด 6.9 และ 7.1 สั่นสะเทือนทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เมืองหลวงของญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น ทางการได้ออกการเฝ้าระวังสึนามิในพื้นที่แล้ว

(Antipoda: อเมริกาใต้)

Actualización: Dos fuertes sismos con magnitud de 6.9 y 7.1 sacuden el sur de Japón Se ha emitido una vigilancia de tsunami local.

(Antípoda: Sudamérica)

https://www.facebook.com/share/p/jjXPAxB1R7Dbr9Dg/?mibextid=oFDknk

 

มาที่มิยาซากิ ญี่ปุ่น แผ่นดินไหว ขนาด 6.9 และ 7.1
@fumina2377 #แผ่นดินไหว #sismo

Un comercio en Miyazaki, Japón, después de los terremotos de 6.9 y 7.1
@fumina2377 #earthquake #sismo

https://www.facebook.com/share/p/ButiFCvTjrwRpH69/?mibextid=oFDknk

 

UPDATE: สภาคองเกรสประเมินผลกระทบสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบก้าวไกล
.
เบน คาร์ดิน สว. จากพรรคเดโมแครต รัฐแมริแลนด์ ประธานคณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภาสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (7 สิงหาคม) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญไทยมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลว่า
.
“การตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคก้าวไกล (MFP) และห้ามไม่ให้ผู้บริหารของพรรคดำรงตำแหน่งในรัฐบาลเป็นเวลา 10 ปี เป็นการทำลายประชาธิปไตยในประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 14 ล้านคนสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในปี 2566 และคำตัดสินที่โชคร้ายในวันนี้เป็นการทำให้เสียงของพวกเขาถูกปิดกั้น นานาชาติกำลังเฝ้าดูด้วยความกังวลอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่วุฒิสภาของไทยที่ได้รับการแต่งตั้งโดยทหารได้ขัดขวางไม่ให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้รับอิทธิพลจากทหารได้นำคดีมาสู่คำสั่งการยุบพรรค ซึ่งขาดกระบวนการยุติธรรมและความโปร่งใสมาตั้งแต่ต้น
.
“การยุบพรรคก้าวไกลทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับพันธกรณีของไทยต่อเรื่องสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม ผมขอเรียกร้องอย่างแข็งขันต่อรัฐบาลไทยให้คืนสถานะพรรคก้าวไกลและผู้นำของพรรค นำประเทศไทยกลับสู่เส้นทางประชาธิปไตยที่โปร่งใสและมีความรับผิดชอบ และเคารพความปรารถนาของคนไทยหลายล้านคนที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองผ่านการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน สภาคองเกรสของสหรัฐฯ จะประเมินพัฒนาการล่าสุดในประเทศไทยว่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ และไทยอย่างไรต่อไป”
.
ภาพ: Daniel SLIM / AFP
.
อ้างอิง:
https://www.foreign.senate.gov/pres...on-of-the-move-forward-party-in-thailand/?gbh
.
#ยุบพรรคก้าวไกล
#TheStandardNews

https://www.facebook.com/share/p/CnXruWjqias7bf6R/?mibextid=oFDknk

 

แผ่นดินไหวแรง 7.1 เขย่าทางใต้ของ “ญี่ปุ่น” เกิดสึนามิสูงครึ่งเมตร ไม่เสียหายร้ายแรง
.
.
.

.
.
เอเอฟพี - แผ่นดินไหวความแรง 7.1 แมกนิจูดเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.42 น.ตามเวลาท้องถิ่นวันพฤหัสบดี(8 ส.ค)นอกชายฝั่งจ.คิวชู เกิดสึนามิสูงแค่ 50 ซม., 20 ซม., และ 10 ซม.ไม่พบความเสียหายร้ายแรง มีรายงานบาดเจ็บ 3 ราย
.
เอเอฟพีรายงานวันนี้(8 ส.ค)ว่า สำนักงานสำรวจทางธรณีย์วิทยาสหรัฐฯ USGS กล่าวว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นนอกชายฝั่งจ.คิวชูที่ระดับความลึก 25 ก.มเมื่อเวลา 16.42 น.ตามเวลาท้องถิ่นวันพฤหัสบดี(8 ส.ค)
.
ทั้งนี้ในตอนต้น USGS รายงานว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น 2 ครั้งในระดับความแรง 6.9 แมกนิจูดและ 7.1 แมกนิจูดแต่ทว่าในเวลาต่อมาได้ประกาศว่าเป็นการเกิดแผ่นดินไหวเพียงแค่ 1 ครั้งระดับความแรง 7.1 แมกนิจูด
.
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น JMA รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวระดับความแรง 7.1 แมกนิจูด
.
สถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น NHK รายงานภาพข่าวสัญญาณไฟจราจรสั่นอย่างรุนแรงในมิยาซากิ(Miyazaki)เมืองชายฝั่งทางใต้ของจ.คิวชู
.
“พื้นผิวของทะเลเคลื่อนไหวกำลังสั่น ดิฉันรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนเมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่นานราว 1.30 นาที”
.
นอกจากนี้ NHK ยังรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บ 3 คนจากที่มิยาซากิ แต่ไม่ได้เปิดเผยในรายละเอียดมากไปกว่านี้
.
ทั้งนี้มีการคาดว่าอาจจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูง 1 เมตรบริเวณชายฝั่งจ.คิวชูและหมู่เกาะชิโกกุ(Shikoku islands) JMA แถลง
.
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น JMA กล่าวว่าคลื่นยักษ์สึนามิลูกเล็กคาดว่าจะเกิดที่จ.ชิบะ ราว 50 ก.ม จากศูนย์กลางแผ่นดินไหว
.
“สึนามิจะเกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง โปรดอย่าลงไปในทะเลหรือไปยังชายฝั่งจนกว่าคำเตือนจะถูกยกเลิก” JMA แถลงบนแพลตฟอร์ม X
.
อย่างไรก็ตามพบว่ามีการเกิดสึนามิสูงแค่ 50 ซม., 20 ซม., และ 10 ซม. ที่ได้รับการยืนยันว่าเกิดขึ้นในบางพื้นที่ รวมไปถึงท่าเรือมิยาซากิ นานกว่า 1 ช.มหลังเกิดแผ่นดินไหว
.
ศูนย์การเตือนสึนามิแปซิฟิก(Pacific Tsunami Warning Center) กล่าวว่า คลื่นยักษ์สึนามิที่เป็นอันตรายคาดว่าอาจเกิดขึ้นภายใน 300 ก.มของศูนย์กลางแผ่นดินไหว
.
เอเอฟพีรายงานว่า ไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นที่โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ญี่ปุ่นในพื้นที่อ้างอิงจากผู้กำกับนิวเคลียร์ญี่ปุ่น
.
ความเสียหายที่พบมีจำกัดโดยภาพที่เปิดเผยไปทั่วโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นร่องรอยความเสียหายเล็กน้อย รวมไปถึงจานและหนังสือตกลงมาจากชั้น และกำแพงขนาดเล็กพังในลานจอดรถ

https://www.facebook.com/share/p/tGDxqaYWmACmMcdY/?mibextid=oFDknk

 

ลาวสั่งระงับนำเข้า "รถยนต์ราคาเกิน 50,000 ดอลลาร์" ถึง 31 ธ.ค. 2567
.
| สู่อาเซียน | เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ ลาวพัดทะนา Laophattana News รายงานว่า วันที่ 5 ส.ค. 2567 กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ได้มีหนังสือถึงสมาคมยานยนต์ลาว และบรรดาผู้บริหารบริษัทนำเข้าพาหนะทางบก เรื่องมาตรการลดการนำเข้าโดยระงับการนำเข้ายานพาหนะทางบกขนาดเล็ก (รถจิ๊ป รถเก๋ง รถตู้ และรถกระบะ) ที่มีมูลค่าสูงเป็นการชั่วคราว
.
โดยอ้างถึงพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการคุ้มครองยานพานะทางบก ลงวันที่ 27 ธ.ค. 2562, คำสั่งว่าด้วยการเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของเศรษฐกิจการเงิน ปัญหาเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน ราคาสินค้า และหนี้สินต่างประเทศ ลงวันที่ 29 ส.ค. 2566, การประชุมจัดทำแผน 5 เดือนสุดท้ายของปี 2567 ในวันที่ 1 ส.ค. 2567 และการประชุมหารือระหว่างกระทรวงการเงิน กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าในวันที่ 2 ส.ค. 2567
.
มาตรการที่ออกโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของลาว มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้อ และการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ การขาดดุลการค้า และการนำเข้ายานพาหนะที่ไม่ได้มาตรฐาน
.
รัฐบาลลาวได้ประกาศระงับการนำเข้ารถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เครื่องยนต์ไฮบริด และยานยนต์ที่มีมูลค่า CIF เกิน 50,000 ดอลลาร์ เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม ถึง 31 ธันวาคม 2567 หรือจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม
.
บริษัทที่สั่งซื้อยานยนต์ขนาดเล็กมูลค่ามากกว่า 50,000 ดอลลาร์แล้วและมีหลักฐานการชำระเงินล่วงหน้าผ่านธนาคารพาณิชย์ในลาวก่อนวันที่ 6 สิงหาคม 2567 จะได้รับการยกเว้นจากคำสั่งระงับการนำเข้านี้
.
ยานยนต์ขนาดเล็กที่มีมูลค่ามากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่นำเข้ามาสำหรับงานที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ เช่น สำหรับการใช้งานของรัฐบาล สถานทูต หรือองค์กรระหว่างประเทศ จะได้รับอนุญาตก็ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเท่านั้น
.
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://thaipublica.org/2024/08/laos-halts-temporarily-import-of-light-motor-vehicles/
.
ที่มาภาพ: XINHUANET
.
#ลาวระงับนำเข้ารถยนต์ขนาดเล็ก #ลาว #เงินเฟ้อ #ไทยพับลิก้า #Thaipublica

https://www.facebook.com/share/p/JXJVy8Z7StbzTZPG/?mibextid=oFDknk

 

http://youtube.com/post/UgkxccOeNL0oUhG0y1LkGEhD0qv3W_Rz3ee2?si=BFxiKJYUaJvH70Vi

 

นอนหลับฝันดีครับ

UPDATE: JPMorgan ปรับเพิ่มความเสี่ยง Recession ของสหรัฐฯ ขึ้นเป็น 35% ในปีนี้
.
เมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา (7 สิงหาคม) JPMorgan Chase & Co. ปรับการคาดการณ์ความน่าจะเป็นในการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ของสหรัฐฯ ในปี 2024 ขึ้นเป็น 35% จากระดับคาดการณ์ที่ 25% ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
.
บรูซ แคสแมน นักเศรษฐศาสตร์ของ JP Morgan เขียนในรายงานว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจ อย่างเช่น ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ณ ขณะนี้ แย่กว่าที่คาดการณ์กันไว้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ถึง 45%
.
แคสแมนมองว่า การปรับตัวเลขความเสี่ยงที่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นนั้นตรงข้ามกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ที่นักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า โอกาสคงดอกเบี้ยนโยบายไว้สูงเป็นระยะเวลานานลดลงจาก 50% ในช่วงสองเดือนก่อนเหลือเพียง 30%
.
เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ลดลง ทำให้ JP Morgan มองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีโอกาสลดดอกเบี้ยลงในเดือนกันยายนและพฤศจิกายนนี้
.
ทั้งนี้ ตัวเลขการประเมินภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ จาก JP Morgan ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ธนาคารอื่นอย่าง Goldman Sachs ที่มองว่ามีความเสี่ยงจะเกิดภาวะถดถอย 25% ในปีหน้า
.
นักเศรษฐศาสตร์จาก JP Morgan ชี้ว่า การรับรู้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือเศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอย จะทำให้ธนาคารกลางใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว
.
อ้างอิง:
https://www.bloomberg.com/news/arti...of-this-year?srnd=homepage-asia&sref=CVqPBMVg
.
#TheStandardWealth

https://www.facebook.com/share/Lr38g6waJpAP8hrV/?mibextid=oFDknk