ถามมาสิจ๊ะ...แม่ชีณัฐทิพย์ ตนุพันธ์ ยินดีตอบจ้า...

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 14 สิงหาคม 2006.

  1. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    เรื่องการช่วยตัวเองนั้นมันเป็นเรื่องปกติของสังขารที่มีอาการอย่างนั้น เช่น ซ่าน เสียวดังที่คนเราใช้คำพูดกันเพื่อความเข้าใจในสังคม

    ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าสังขารเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เป็นรูปธรรม สังขารก็ทำหน้าที่ของสังขาร ถ้าสังขารไม่ทำหน้าที่ก็เป็นอันว่า ตายทางสังขาร

    ส่วนจิตใจภายในหรือความคิดนั้นเป็นนามธรรม ซึ่งต้องอาศัยสังขารที่เป็นรูปธรรม เพื่อการแสดงพฤติกรรมออกมาให้ผู้อื่นรับรู้

    จิตใจจึงจัดว่าเป็นใหญ่ทั้งปวง จิตที่คิดแล้วไม่ว่าถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว ย่อมแสดงพฤติกรรมทางกายและคำพูดออกมาเพื่อให้ผู้อื่นรู้ว่าคิดอย่างไร?

    รูป คือ กายสังขาร
    นาม คือ ความคิดจึงต้องอาศัยซึ่งกันและกัน

    สังขารร่างกายมีอาการเสียวซ่านหรือที่เรียกว่า เกิดอารมณ์ทางเพศนั้นมันเป็นเรื่องปกติของสังขาร เพราะในร่างกายคนเราประกอบด้วยกลไกต่างๆที่ทำงานตลอดเวลา ถ้าส่วนใดไม่ทำงานก็ถือว่าร่างกายเกิดการผิดปกติ

    การเกิดอารมณ์ทางเพศก็เช่นกัน ต่อมเพศก็ทำงานปกติ
    มันอยู่ที่ว่า จิตใจของผู้นั้นมีความยับยั้งชั่งใจ อดทน อดกลั้นต่อสู้กับการทำงานของร่างกายได้หรือไม่?

    เช่นเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ จิตใจของเราปรุงแต่งอารมณ์เข้าไปด้วยหรือไม่? ถ้าปรุงแต่ง คือนึกถึงคนที่เรารัก ชอบ หรือแอบรัก แอบชอบ
    อารมณ์ที่ปรุงแต่งเข้าไปจะเกิดมีมากขึ้น

    ถ้าไม่มีความยับยั้งชั่งใจ แยกแยะไม่ได้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร อารมณ์นั้นก็เข้าครอบงำ ทำให้ขาดสติทำในสิ่งที่ไม่ดีต่อผู้อื่นได้ เช่น ทำการล่วงเกินในร่างกายผู้อื่น คือข่มขืน เป็นต้น

    หากยับยั้งชั่งใจได้ แต่อารมณ์นั้นยังไม่หายไป การช่วยตัวเองเพื่อให้สังขารผ่อนคลายมันก็ไม่ผิด ตอนที่ช่วยตัวเองอาจมีการจินตนาการ
    ต่างๆนานา ก็ไม่แปลกอีกนั่นแหละ

    เมื่อสังขารผ่อนคลายคือเสร็จภาระกิจจากการช่วยตัวเองแล้ว ลองคิดดูสิว่า แท้ที่จริงแล้วอาการเหล่านั้นมันเกิดขึ้นมาจากอะไร?

    มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่มันอยู่ที่จิตของเราร่วมปรุงแต่งหรือมีการยับยั้งชั่งใจหรือเปล่า?

    การรักษาศีล 5 ได้ทั้งหมดถือว่าประเสริฐคนแล้ว ท่านจึงจัดเป็นอริยบุคคลตามลำดับ

    ส่วนศีลในข้อ3 คือกาเมฯ นั้น จุดประสงค์คือ การไม่ล่วงเกินผู้อื่นที่มีเจ้าของโดยการยินยอมหรือแต่งงาน ซึ่งเป็นของรักของหวง

    หากผู้อื่นเข้าไปยุ่งเกี่ยวฉันชู้สาว คู่ครองหรือเจ้าของย่อมหึงหวง การทำร้ายต่อสู้ด้วยวิธีต่างๆย่อมมีขึ้น เกิดเป็นความทุกข์

    และถึงแม้จะมีการยินยอมโดยเจ้าตัว เช่นเด็กที่มีผู้ปกครองดูแลอยู่ วัยยังไม่สมควรต่อการมีเพศสัมพันธ์ หากผู้ที่เข้าไปข้องเกี่ยวไม่ได้รับอนุญาต
    จากผู้ปกครองถือว่า ผิดกฎหมายและประเพณีรวมทั้งศีลธรรมอันดีงามด้วย

    ฉะนั้นการเป็นคฤหัสห์แล้วช่วยตัวเองให้เสร็จภาระกิจของสังขารโดยไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็ไม่ผิด ไม่พร่อง ไม่ด่าง ไม่พร้อย

    แต่ถ้าล่วงเกินผู้อื่นโดยที่เจ้าของไม่อนุญาตถือว่าผิด เกิดความด่างพร้อยในชื่อเสียง ในตัวตน ทำให้ผู้อื่นชิงชังกับการกระทำนั้น

    การช่วยตัวเองเป็นเรื่องธรรมดาและปกติของคนเราไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดหรือน่าอายเลย แต่อย่าฝักใฝ่ให้มากเกินความพอดี ช่วยตัวเองไปมานานวันมันก็เบื่อเองนั่นแหละ

    จากการวิจัยพบว่า ชายหญิงที่เข้าสู่วัยทองมักจะหงุดหงิด เนื่องจากกลไกในร่างกายบางส่วนพร่อง อันเนื่องมาจากผ่อนคลายไม่เป็นจึงเกิดความตึงเครียดสะสม หญิงชายที่ไม่ได้แต่งงานถ้าช่วยร่างกายไม่เป็น

    รวมทั้งทำจิตใจให้ผ่อนคลายไม่เป็นมักมีอาการหงุดหงิด กระสับกระส่ายง่าย
    ส่วนคนที่ช่วยตัวเองทางร่างกายบ้างและทำจิตใจให้ผ่อนคลาย อาการหงุดหงิด กระสับกระส่ายจะมีน้อยกว่าประเภทแรก

    คนถามเป็นคฤหัสห์ก็ไม่น่าคิดมากเรื่องนี้เลย ถ้ามีคู่ครองก็ร่วมกับคู่ครอง ถ้าไม่มีเป็นโสดก็ช่วยตัวเองไปดีกว่าไปยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น

    เพราะตอนนี้ดูหน้าไม่รู้กายผู้อื่น คือไม่รู้ว่าในร่างกายเขาสะสมโรคร้ายอะไรไว้บ้าง ถุงยางอนามัยกันโรคบางอย่างไม่ได้แล้ว

    ช่วยตัวเองก็ระวังโรคร้ายที่เกิดจากการสกปรกของอวัยวะตัวเองด้วยนะ

    เอาละตอบไปเสี่ยงเหมือนกัน เดี๋ยวท่านผู้คิดไม่ตรงกันจะด่าว่าด้วยประการต่างๆอีก เอาเป็นว่าผู้ถามคิดด้วยเหตุผลก็จะเข้าใจในการตอบของแม่ชี
    ขอบคุณที่ใช้บริการจ้า...

    บุญรักษา/ ธรรมสวัสดี
     
  2. ศึกษาธรรม2551

    ศึกษาธรรม2551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +234
    ถามเรื่องการทำบุญกับบิดามารดาเลี้ยงดู

    ก่อนอื่นผมขอขอบพระคุณอย่างสูง ในคำตอบก่อนหน้าด้วยครับ ทำให้กระจ่างขึ้นมาบ้างครับ
    มีคำถามมาใหม่ครับที่ผมก็สงสัยมานานแล้วครับ
    ผมถูกเลี้ยงดูโดยป้าตั้งแต่7เดือน เหตุเพราะว่าพ่อแม่มีปัญหาทางร่างกาย และไม่อาจเลี้ยงดูได้ และสุดท้ายพ่อแม่ต่างคนต่างมีคนใหม่ทั้งคู่ครับ
    ผมพยามยามหาคำตอบมา เกี่ยวกับการทำบุญกับบิดามารดาผู้ให้กำเนิดในพระไตรปิฏก บอกว่าทดแทนคุณท่านไม่หมด แม้จะนำท่านทั้ง2มาอยู่บนบ่าและเลี้ยงดูตลอด100ปีก็ทดแทนไม่หมด ทดแทนหมดคือให้ธรรมะแก่ท่าน
    และผมสงสัย ตอนหนึ่งว่า ....หากเราให้ทาน หรือทำบุญโดยเลี้ยงดูท่านเปรียบเสมือนทำบุญกับพระอรหันต์ สรุปคือพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด หากเราทำบุญได้บุญเท่าพระอรหันต์ คือหมื่นล้านเท่าเป็นอย่างน้อย
    ท่านหนึ่งบอกว่าใครมีพ่อแม่อยู่ตอนนี้ถือว่าโชคดีมากๆ
    1.ผมขอถามว่าหากเราทำบุญเลี้ยงดูแก่ผู้ที่เลี้ยงเรามาจนโต เราได้บุญกี่เท่า?
    (มีอาจารย์รู้ธรรมท่านหนึ่งบอกว่า ครึ่งหนึ่งของผู้ให้กำเนิด และ
    มีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่งบอกว่า หากป้ามีศีล5ก็หมื่นเท่า? คนธรรมดาพันเท่า
    ยังงัยผมก็ต้องตอบแทนบุญคุณป้าอยู่แล้วครับ เพราะไม่มีท่านผมอาจไม่จบปริญญาตรีและมีงานทำที่ดี จนถึงทุกวันนี้ และอาจไม่รู้ธรรมมะด้วย
    2.ผมมาโชคดีตอนโต พบว่าป้าให้ผมไปหาพ่อแม่ จนรู้จัก ตอนนี้ท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ ถามว่าผมควรจะให้ท่านน้ำหนักเท่าไหร่ดีเทียบกับป้า เพราะผมก็มีภาระมากครับ เช่นมีเงินพอให้ได้3,000บาท แบ่งให้ป้า? พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเท่าไหร่?
    3.มีตอนหนึ่งผมให้ป้า 2,000บาทต่อเดือนเป็นประจำป้าบอกว่าเป็นเศษเงิน แต่ให้แม่500 นานๆทีหากเจอกัน
    แม่ดีใจน้ำตาคลอครับ และป้าก็รู้ว่าผมมีภาระ แต่ท่านมักจะเอาลูกบ้านอื่นมาเปรียบเทียบครับ ป้าเลยไม่สบายใจ เพราะเลี้ยงเรามาเพื่อประโยชน์มาเลี้ยงท่านตอบครับ ตอนนี้ผมก็อายุมากแล้วครับจบมาหลายปีครับ ผมพยามยามไม่ตอบโต้ นิ่งครับ ในใจก็นึกเสียใจครับที่ป้าบอกว่าเป็นเศษเงิน(อนึ่งตอนนี้ผมให้แม่ทุกเดือนแล้วครับ เดือนละ600)มีโอกาสจะให้มากกว่านี้ครับ

    ขอรบกวนนะครับ ที่ผมระบายความในใจให้ฟังครับ
     
  3. ศึกษาธรรม2551

    ศึกษาธรรม2551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +234
    ขอรบกวนถามอีก1หัวข้อครับ สงสัยมานานแล้วเหมือนกัน

    ปัจจุบันผมรักษาศีล5 บางวันพระรักษาอุโบสถแต่ไม่ทุกวันพระครับ สาเหตุมาจาก -มีบางท่านบอกว่าต้องรักษาที่วัด
    -ในพระไตรปิฏกบอกว่าหากศีลขาด เมื่อกายแตกดับจะไปอุบัติเป็นนายนิรยบาล มีท่านหนึ่งบอก ผมยังไม่ได้ค้นคว้าครับ
    -ในพระไตรปิฏกบอกว่ารักษาศีลอุโบสถครึ่งวัน ได้เป็นพระมหากษัตริย์
    เต็มวันได้สมบัติอันเป็นทิพย์

    ขอถามครับ
    1. การรักษาอุโบสถ จำเป็นหรือไม่ต้องไปรักษาที่วัด
    ในวันที่เราทำงานที่บริษัท สามารถสมาทานรักษาได้หรือไม่
    2. คำว่ารักษาครึ่งวัน กับเต็มวัน เริ่มเมื่อไหร่เช้า? ก่อนเที่ยง?
    ต่างกันตรงเวลาไหน?
    3. หากเราสมาทาน แต่ไปได้ยินเขาเปิดวิทยุ ไม่ได้เจตนาที่จะฟัง ศีลด่างพร้อยหรือไม่ , เวลาขับรถผ่านเห็นของสวยๆงามๆแล้วพอใจปลื้มใจ ศีลขาดด่างพร้อยหรือไม่,
    4. นอนฟูกที่ขาหยั่งถึงพื้น ศีลด่างหรือขาดหรือไม่(เพราะผมพยามตีความว่า ไม่นอนเตียงตั่ง ที่ใส่ด้วยนุ่นหรือสำลี และ ที่ใหญ่ และที่สูงเกินประมาณ
    ขอบคุณครับ
     
  4. janpim

    janpim Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +88
    กราบนนัสการแม่ชีค่ะ
    ดิฉันเป็นสมาชิกใหม่ขอเรียนถามแม่ชีค่ะ ว่าตัวเองมีกรรมอะไรเวลานี้สามีเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย เค้ามีภริยาน้อยหรือไม่ค่ะ ไม่ต้องการหย่าร้างกันค่ะมีลูกด้วยกัน พยายามทำใจและอโหสิกรรมค่ะ แต่บางครั้งก็ทำใจไม่ได้ค่ะ อยากอยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกดังเดิมค่ะขอคำแนะนำจากแม่ชีค่ะว่ามีทางจะแก้ไขให้ดีขึ้นหรือไม่ค่ะ
     
  5. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    อย่าคิดยึดมั่นในตัวผู้อื่นและตนเองเลย มันยึดมั่นไม่ได้ เดี๋ยวก็ตายจากกัน
    มีสามีต้องไว้ใจสามี เมื่อไว้ใจแล้วสามีจะมีคนอื่นอีกก็ไม่แปลก อย่ามัวแต่คิดว่าสมบัติผลัดกันชมสามีฉันไม่ใช่ขนมนะ...

    ทำหน้าที่ภรรยาให้ดีต่อสามีและลูกเถอะ เมื่อทำดีแล้วสามียังนอกใจก็ช่างปะไร เรื่องใจผู้อื่นมันห้ามกันยาก ขนาดใจเรายิ่งห้ามยากยิ่งกว่า

    การอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกนั้นมันเป็นนิยายโบราณแล้ว จะมีใครอยู่ด้วยกันได้ตลอดล่ะ?

    ทำใจให้สบายด้วยการสวดมนต์ ทำสมาธิจิตบ้างน่าจะดีนะ อย่างน้อยใจเราได้ผ่อนคลายจากความฟุ้งซ่านบ้างดีกว่าจมอยู่กับกองความขมขื่นทุกวัน
    ขอให้พยายามทำให้ได้นะ

    บุญรักษา/ธรรมสวัสดี
     
  6. ศึกษาธรรม2551

    ศึกษาธรรม2551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +234
    สวัสดีครับ ผมรอคำตอบจากท่านอยู่นะครับ ขอบคุณครับ
    เข้ามาทุกครั้งก็เก้อ ทุกครั้งเลยครับ โอ้ละหนา....
     
  7. james132

    james132 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +8
    กราบเคารพแม่ชี้ครับผมเพิ่งจะอยากรู้เกียวกับธรรมมะอะครับเลยเข้ามาที่เว็บนี่ ผมอยากรู้ว่าถ้าเราเป็นคนดีแต่นานไปทำบุญที่จะตกนรกไหมครับฟากตัวด้วยครับ และถ้าฟึกสมาธิแรกกำหนดว่า พุดโธ หรือป่าว ครับ ขอบคุณครับ
     
  8. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    ตอบทีไรเน็ตมีปัญหาทุกที รอจังหวะดีๆก่อนนะ

    ขอบคุณที่รอจ้า...
     
  9. เด็กแดง

    เด็กแดง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +3
    แม่ชีค่ะหนูมีพื้นฐานนิสัยไม่ดีค่ะ คือเกียจคลานงานบ้าน และตื่นสายค่ะ อยากแก้นิสัยค่ะแม่ชีช่วยแนะนำได้ไหมค่ะ
    และเราจะรู้ได้อย่างไรค่ะว่าเราพร้อมจะบวชรึยัง สังเกตจากอะไรค่ะ
     
  10. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    การบวชไม่ได้หมายความว่า โกนหัวแล้วใส่ผ้าสีเหลือง สีขาวแล้วเรียกว่า บวชที่ไหนกัน
    ถ้าอยากจะบวชก็จะต้องพร้อมที่จะเรียน ฉะนั้นการบวชต้องมีการเรียนรู้ในกฏระเบียบที่ดีงาม

    ถ้าหนูมัวแต่นอนตื่นสาย อายทำกินอย่างนี้อยู่ในวัดยากนะ เพราะคนในวัดเขาตื่นกันแต่เช้า

    เอาละ...ถ้าอยากแก้นิสัยเดิมที่เสียให้ดีขึ้นก็เริ่มจากการช่วยพ่อแม่พี่น้องทำงานในครอบครัวก่อน อย่านอนให้ดึกนักจะได้ตื่นเช้ากว่าเดิมได้ คนตื่นเช้าได้เปรียบนะ
    ขอเป็นกำลังใจให้หนูทำได้แล้วกันจ้า....

    บุญรักษา/ธรรมสวัสดี
     
  11. เด็กแดง

    เด็กแดง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +3
  12. อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ

    อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +0
    นมัสการท่านแม่ชีครับ

    ;aa36
     
  13. Dee_Jung

    Dee_Jung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    นมัสการครับ

    1.ผมทราบมาว่าพระเกจิหลายรูปก่อนจะสำเร็จพระอรหันต์จะต้องวิปลาสจริงไหมครับ?

    2.พระพุทธเจ้าเป็นด้วยไหมครับ?

    3.ท่านผ่านมาด้วยวิธีไหน?

    4.อาการวิปลาสมีกี่ประเภทลักษณะเป็นอย่างไรครับ ผมไม่เข้าใจครับช่วยอธิบาย?

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2008
  14. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    ท่านอาจารย์แม่ชีไม่สบายหลายวันแล้วค่ะ เป็นหวัดและมีไข้สูง แต่ก็เปิดอบรมช่วงวันที่ 5 -7 ธค.ร่างกายไม่ค่อยได้พักผ่อนเท่าที่ควร หลังจากวันที่ 7 อาการที่เป็นอยู่ก็มากขึ้น คุณ Dee_Jung คงต้องรอคำตอบหน่อยนะคะ
     
  15. สรวีย์

    สรวีย์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    กราบนมัสการแม่ชีค่ะ

    ลูกได้สมัครเป็นสมาชิกใหม่เนื่องจากลูกได้เปิดเวบไซด์เข้ามาและได้อ่านประวัติของแม่ชีแล้วรู้สึกดีใจที่ได้ทราบว่ายังมีแม่ชีที่ใจดีขออนุโมทนาสาธุกับแม่ชีด้วยนะคะ และมีเรื่องอยากจะรบกวนให้แม่ชีตอบคือว่าลูกอยากเริ่มปฏิบัติธรรมแต่ไม่รู้จะเริ่มปฏิบัติอย่างไรอยากจะปฏิบัติให้ถูกต้องเมื่ออ่านแล้วก็อยากจะไปให้แม่ชีช่วยสอนให้ไม่ทราบว่าจะได้หรือป่าวคะ และถ้าได้ควรจะไปอย่างน้อยกี่วัน และเริ่มได้เมื่อไหร่ ลุกรอคำตอบจากแม่ชีนะคะหรือว่าแม่ชีจะให้เบอร์โทรศัพท์ให้ลูกติดต่อกลับไปคุยก่อนก็ได้นะคะ
     
  16. ผู้หญิงธรรมดา

    ผู้หญิงธรรมดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,122
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอให้แม่ชีหายไวๆนะค่ะ
     
  17. กิมิชาติ

    กิมิชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +29
    ฝากคุณแม่ชีช่วยตอบหรือถามท่านผู้รู้ด้วย
    เรื่องที่จะถามอาจจะสับสนไปสักนิด
    1.สามเณรรูปหนึ่งบรรพชาถูกต้องตามพระวินัย
    แต่กระทำผิดศีลข้อที่ 3 กับสามเณรด้วยกันเอง
    พออายุ 20 ปีก็เข้าทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
    โดยที่ไม่ได้ลาสิกขาก่อน เพียงรับไตรสรณาคม,ศีล 10
    แล้วสวดญัตติเป็นภิกษุเลย ต่อมาทราบภายหลังว่า
    สงฆ์บางรูปที่เข้าร่วมนั่งหัตถบาตรด้วย ต้องอาบัติสังฆาทิเสส
    และปาราชิก ก่อนหน้าที่จะอุปสมบทสามเณรรูปนี้ เมื่อทราบดังนั้น
    ก็มิได้ทำการอุปสมบทใหม่ คงครองเพศเป็นภิกษุไปตลอด
    ผู้ถามอยากถามความเข้าใจว่า
    1.ผู้ที่อุปสมบทไม่สำเร็จเป็นพระภิกษุเป็นแต่เพียงสามเณรใช่หรือไม่
    นมัสการอย่างสูง
     
  18. suthamma

    suthamma ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,440
    ค่าพลัง:
    +36,490

    [​IMG] ขออนุญาตตอบแทนแม่ชีนะครับ...สามเณรไม่มีอาบัติปาราชิก ถ้ารับศีลใหม่ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ สามารถบวชพระได้ แต่ถ้ามีพระที่ต้องสังฆาทิเสสอยู่ในหัตบาส สังฆกรรมนั้นเสีย เพราะมีอนุปสัมบัน(ผู้มีศีลน้อยกว่า)เข้าไปอยู่ในสังฆกรรมด้วย การบวชนั้นจัดเป็นวิบัติ ไม่สำเร็จผลดังประสงค์ ผู้บวชจึงเป็นได้แค่เณรเท่านั้นครับ ถ้าไปร่วมกิน ร่วมนอน ร่วมสังฆกรรม นอกจากสังฆกรรมจะเสียแล้ว ยังเกิดโทษแก่ตนเป็นอย่างมาก..! [​IMG]
     
  19. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...

    ต้องกราบขอบพระคุณท่าน suthamma ที่กรุณาตอบให้ จึงขอแจ้งข่าวตรงนี้เลยแล้วกันเจ้าค่ะ เพราะโทรไปเครื่องปิดตลอด

    ทิพยสถานธรรมจะฉลองศาลาแปดเหลี่ยมซึ่งได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานไว้บนยอดศาลา กำหนดการฉลองคือวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2551

    ในการนี้หลวงปู่สุภาเมตตามาร่วมงานนี้ด้วย จึงขอกราบนมัสการเรียนเชิญ หวังว่าคงจะได้รับความเมตตาอีกเช่นเคยนะเจ้าค่ะ

    ธรรมสวัสดี
     
  20. Ummin

    Ummin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +12
    กราบนนัสการแม่ชีค่ะ
    หนูเป็นสมาชิกใหม่ขอเรียนถามแม่ชีนะค่ะ
    1. เวลาตอนเช้า คุณพ่อของหนูจะตื่นมาใส่บาตรค่ะ หนูก็จะใส่่ด้วยเป็นบางครั้ง หนูเคยถามคุณแม่ว่า ถ้าคุณพ่อใส่บาตรคนเดียว แล้วเราจะได้บุญด้วยมั้ย คุณแม่บอกว่า พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว ถ้าพ่อทำบุญ เราก็จะได้ด้วย อันนี้มันจริงรึเปล่าค่ะ รึว่ามันเป็นความเชื่อเฉยๆ
    2. หนูเป็นเด็กที่เอนไม่ติดมาก่อนค่ะ ตอนแรกๆนั้นความคิดฆ่าตัวตายวนเวียนอยู่ในหัวตลอด คุณพ่อกับคุณแม่ก็คอยให้กำลังใจตลอดจนตอนนี้ก็ดีขึ้นค่ะ แต่หนูรู้สึกเหมือนกลายเป็นคนมองอะไรในแง่ร้ายไปนะค่ะ ไม่รู้ว่าพอจะมีทางแก้ไขได้มั้ยค่ะ
    3. เวลาหนูเอาเรื่องเกี่ยวกับธรรมมะไปคุยกะเพื่อนๆในวัยเดียวกัน ทำไมส่วนใหญ่เค้าจะมองเราแปลกๆล่ะค่ะ ทั้งๆที่หนูคิดว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2009

แชร์หน้านี้

Loading...