ทำไมคนดีในสมัยก่อนบางคนได้เป็นเทพกับจอมเทพไม่เหมือนกันใช่ไหมครับ แล้ว เทวดาตีกัน ??

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 21 มีนาคม 2014.

  1. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    คือก่อนที่ผมจะมีคำถามแปลกๆแบบนี้ผมต้องบอกก่อนเลยว่าผมซื้อหนังสือมา 2 เล่มซึ่งดีมากๆ อันนึงเป็นเล่มย่อเนื้อหาในพระไตรปิฏำ ซึ่งเป็นเรื่องของคนจนที่เป็นธาตุประมาณนี้นะครับรู้ถึงภัยวัฎสงสารแต่บวชไม่ได้เพราะต้องทำงานเลยไปขออารธาศีล 5 และก็ถือมาตลอดเป็นระยะเวลาเป็นล้านปีแล้วก็ตาย ทำให้ได้เป็นจอมเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วก็ได้เกิดบนสวรรค์อีกไม่รู้กี่รอบ แล้วก็เกิดมาเป็นจักรพรรดิ์ ซึ่งเป็นการเล่าย่อๆนะครับ เลยสงสัยว่าทำไมบางคนที่ทำดีขึ้นสวรรค์เป็นเทพอย่างเดียว แต่คนทำดีมาก ถึงได้เป็นจอมเทพ แสดงว่ามันต่างกันใช่ไหม หรือจอมเทพคือพระอินทร์เท่านั้นครับ หรือจอมเทพคือตำแหน่งใหญ่โต

    แล้วก็ผมซื้อหนังสือนวนิยายที่เขียนขึ้นโดยอ้างจากพระไตรปิฏกให้สอดคล้องกัน เพื่อไม่ให้คนอ่านน่าเบื่อซึ่งมีการทะเลาะกันของเทพชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งผมขอยกตัวอย่างหนึ่งคือ เทพแย่งมัครีผลกันนั่นเอง จึงตีกัน ซึ่งแบบนี้เขาไม่ต้องจุติไปเกิดกันหรอ หรือแค่สู้กันงอมแงมแล้วก็เลิก

    คำถามผมพิศดารครับ แต่เพราะหนังสือ 2 เล่มนี้ แต่มันก็มีกำลังใจให้ผมทำทาน รักษาศีลครับ และผมจะทำต่อไปเรื่อยๆครับผม :cool:
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    นวนิยายที่เขียนขึ้น
     
  3. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ไม่ได้อยู่ที่ทำมากหรือทำน้อย.....
    แต่อยู่กำลังของจิตของเราต่างหาก.....
    การรักษาศีลนั้น....จะยอมรักษาไว้จนตัวตายหรือเปล่า....
    การทำทานนั้น...จะยอมตายได้หรือเปล่าถ้าถูกห้ามไม่ให้ทำ...หรือสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยก็มีจิตคิดแต่จะให้ คิดแต่จะทำทาน....
    การภาวนานั้น...ทำไปตามวัตถุประสงค์ของการภาวนาหรือเปล่า....ไม่ได้ทำไปเพื่อหวังสวรรค์วิมานต่าง ๆ

    อนึ่งการ รักษาศีล นั้นท่านเจ้าของกระทู้นั้นก็ยกตัวเองเป็นสมมุติฐานได้เลยว่า....ทั้ง 5 ข้อนั้น รักษาได้ครบถ้วนสมบรูณ์แค่ไหนในแต่ละวัน....ไม่ต้องรอให้ตายก่อนเราก็รู็ได้แล้ว....ว่าจะเป็นเทพ...หรือ จอมเทพ...........สวัสดี
     
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ต้องมีจุดมุ่งหมาย ต้องรู้วิธีทำเหตุปัจจัย
    เมื่อรู้เหตุปัจจัย ก็เพียรสร้างเหตุปัจจัยส่ำเสมอ
    และที่สำคัญ ความปรารถนาอันแรงกล้า ความมุ่งมั่นที่อยากจะเป็น
    จิตสุดท้ายจะยึดติดที่ความโหยหาอยากที่จะเป็น
    หากมีกำลังมากพอ ก็จะได้ไปเกิด ณ ที่ที่เหมาะสม
    อาจได้เป็นจอมเทพจริง หรืออาจจะได้ไปเกิดในทีีๆคล้ายๆ แล้วแต่วาระกรรม
     
  5. Malaiteva

    Malaiteva เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +192
    .การดูระดับของบุญเวลาที่จะทำอะไรนะ
    .ให้ดูความสุขในจิตใจท่านหลังจากทำแล้วน่ะ
    .ไม่สุขเลย เฉยๆ สุขนิดหน่อย สุขมาก
    .ทำได้เยอะแยะ ไม่เบียดเบียน ลบหลู่ ล่วงเกินผู้อื่น ให้ทาน
    สร้างพระ สร้างวัด กินเจ ดูแลพ่อแม่
    ช่วยเหลือคน นั่งสมาธิ ชำระกิเลส...
    .ผู้ที่บุญมาก จิตสงบ สุขมาก
    .ฉะนั้นเจตนาจึงสำคัญ เช่น
    ให้ทานถือศีลเพราะต้องการทิพยสมบัติและความเป็นใหญ่ในเทวโลก กับ อีกคนทำเพราะช่วยเหลือคน และไม่เบียดเบียนใคร ท่านว่าใครเป็นสุขมากกว่ากัน
    .ลองสังเกตุดูนะ ดูใจปัจจุบันนี่แหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2014
  6. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    คืออยากจะบอกว่า... ถ้าไม่ใช่ อรหันต์ตัดแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง มันก็ทะเลาะแย่งชิง กันเป็นธรรมดา ไม่ว่าจะอินทร์ พรหม ยมยักษ์ครับ ตั้งใจปฏิบัติตัดกิเลส ตัดความลุ่มหลงทั้งปวงดีกว่า... จะเป็นจอมเทพจอมมาร มหาเทพ มหาพรหม แต่ก็ยังจมอยู่ในวัฏฏะสงสารเวียนว่ายตายเกิด เพื่ออะไรกัน
     
  7. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    ทำความดีตามลำพังได้เป็นเทพ แต่เป็นผู้นำชักชวนมหาชนให้ทำความดีก็จะเป็นจอมเทพ
    เทวดายังบริโภคกามอยู่ จึงมีกิเลสประจำตนอาจแย่งชิงวัตถุกามต่างๆได้ แต่ว่าการแย่งชิงต่างจากมนุษย์หรือสัตว์ที่สามารถทำได้ทุกรูปแบบ ล้างผลาญกันได้แบบไม่มีขึดจำกัด ทั้งนี้เพราะมนุษย์หรือสัจว์มีความหยาบของร่างกายมากสามารถรองรับเพลิงโทสะได้มาก แต่มนุษย์เองถ้าโกรธมากๆ ความดันขึ้นจนเส้นเลือดสมองแตกหรือหัวใจวายได้ สรีระมนุษย์ก็มีชีดจำกัด ส่วนเทวดามีกายละเอียดกว่ารองรับเพลิงโทสะในใจได้น้อย ถ้าเทวดาโกรธแล้วระงับไม่ทันก็จะจุติ ไม่ใช่ว่าโกรธปุ๊บต้องจุติปั๊บ
    เทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกาแม้จะมีกายเป็นทิพย์ก็ยังมีความหยาบของสรีระมาก สามารถรองรับโทสะได้ระดับหนึ่ง เทวดาชั้นจาตุมักทำบุญไม่สมบูรณ์ตามหลักวิชา สมบััติทิพย์ที่เป็นของเฉพาะตนมีน้อย แต่สมบัติที่เป็นของกลางมีมากเช่นมัคคลีผลที่ท่านเจ้าของกระทู้กล่าวถึง มันจึงต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง เทวดาก็อาจแย่งชิงกัน ปกติเทวดาที่รัศมีน้อยจะถอยไม่สู้เทวดาที่สว่างกว่าเพราะรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้แน่ๆ แต่พวกที่รัศมีเท่ากันก็ต้องประลองกันหน่อย แต่เขาแค่แพ้ชนะก็เลิกไม่ตามราวีกัน ถ้าอีกฝ่ายยอมแพ้ก็จะปล่อยไป ถ้าไม่ยอมหยุดตนเองก็จุติ เพราะปล่อยโทสะครอบงำนานไป
    เทวดาชั้นสูงขึ้นไปเช่นดาวดึงส์มีวิมานของตนเอง สมบัติก็จะเกิดในวิมานของตนไม่ปะปนกัน เลยไม่ต้องแย่งชิงกัน แต่ก็อาจมีกรณีที่ตกลงกันไม่ได้ เช่นมีครั้งหนึ่งที่มีนางเทพธิดาเกิดขึ้นระหว่างรอยต่อของวิมาน เทพบุตรต่างก็อ้างสิทธิ์ในความเป็นเจ้าของ เมื่อตกลงกันไม่ได้ ก็ไปให้ท้าวสักกะตัดสิน ส่วนเทวดาชั้นสูงกว่าขึ้นไปอีก ยิ่งไม่ทะเลาะกัน
     
  8. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    คนเขียนกะคนอ่านเนี่ยช่างเพ้อฝัน พอๆกัน
     
  9. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ก็แค่สงสัย ทำไม การสงสัยมันคือการเพ้อหรอครับ

    ผมคิดว่าการสงสัยมากคือการพัฒนาสมองฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้คำถามนั้นจะไร้สาระเพียงใดก็ตาม แต่อยู่ในกฎเกณฑ์ ซึ่งคำถามผมก็อยู่ในส่วนของ ภพภูมิ ครับ

    ถ้าถามแค่นี้มาว่าผมเพ้อก็ไม่รู้แล้ว เพราะแค่อยากจะบอกคนส่วนใหญ่ที่รวยๆและประสบความสำเร็จมีไอเดียยิ่งใหญ่เพราะเขาช่างฝัน ช่างจินตนาการ หรือช่างเพ้อนั่นแหละครับ
     
  10. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    พระปัญจสีลสมาทานิยเถระ ท่านบรรุอรหันต์ตอน 5 ขวบ และได้บรรลุวิชชา 3 วิชชา6 อภิญญา ปฏิสัมภิทาญาณ 4 แทงตลอดหมด ซึ่งชาติก่อนท่านมีชื่อว่า อโนมทัสสีเป็นคนยากไร้ ได้ถือศีล 5 จนครบอายุขัยเป็นล้านปีสมาทานศีลจากพระนิสเถระ ได้บังเกิดเป็นจอมเทพในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 30 ครั้ง พระเจ้าจักรพรรดิ์ 75 ครั้ง และพระเจ้าประเทศราชอีกหลายครั้งนั่นเอง นี่คือเรื่องจากพระไตรปิกฎของการถือศีล 5 ที่ผมอ่านมาในข้อ 1 ของคำถามไม่ใช่การเขียนนวนิยาย

    ส่วนข้อสองเขียนเชิงนวนิยายจริงแต่อิงจากพระไตรปิฎกทุกอย่างครับ !!

    ผมไม่ได้คิดไปเอง อยากไปเอง หลงไปเอง เข้าใจตรงกันนะ !!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...