เรื่อง “มุมน่ารักเรื่องราวขำขันของ ๒ พระอรหันต์”
(ปกิณกธรรมของ สองพระอรหันต์ สหธรรมิก)
(หลวงปู่ขาว อนาลโย และหลวงปู่ชอบ ฐานสโม)
“หลวงปู่ชอบ” กับ “หลวงปู่ขาว” รอรับเสด็จฯ เช้าจรดเย็นก็ไม่เห็นมา มีทหารสองพ่อลูกมานั่งเป็นเพื่อนตั้งนาน
ครั้งหนึ่ง “หลวงปู่ชอบ ฐานสโม” ได้ไปเยี่ยม “หลวงปู่ขาว อนาลโย” ที่วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู พอดีวันนั้น เจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังแจ้งมาที่วัดถ้ำกลองเพลว่า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จไปเยี่ยมหลวงปู่ขาวที่วัดในวันนี้ หลวงปู่ชอบได้ยินดังนั้นจึงกราบลาหลวงปู่ขาวกลับวัด แต่หลวงปู่ขาวไม่ยอม บอกว่าให้อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน หลวงปู่ชอบบอกว่า ท่านคุยกับพระเจ้าแผ่นดินไม่เป็น
หลวงปู่ขาวจึงบอกว่า ท่านก็คุยไม่เป็นเหมือนกัน เลยต้องขอให้อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน
หมายเหตุ : ซึ่งตอนนั้นทั้งหลวงปู่ชอบและหลวงปู่ขาว ท่านทั้งสององค์ต่างก็ยังไม่เคยพบเจอกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาก่อนเลยทั้งคู่
ในที่สุด หลวงปู่ชอบจึงจำเป็นต้องอยู่เป็นเพื่อนหลวงปู่ขาวด้วยวันนั้น หลวงปู่ทั้งสองนั่งรอรับเสด็จอยู่ที่เก้าอี้ในวัดถ้ำกองเพล และนั่งรออยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเวลาเย็นก็ยังคงคอยอยู่อย่างนั้น
ท้ายที่สุด หลวงปู่ทั้งสองก็เลยถามกันเองว่า
“ทำไมถึงยังไม่มาสักที รอนานแล้ว ?”
“ เห็นแต่ทหารพ่อลูกเนาะ”
พระเณรลูกศิษย์ที่นั่งอยู่ด้วยในที่นั้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เลยบอกกับหลวงปู่ทั้งสองว่า
“ก็ทหารสองพ่อลูกนั่นแหละ
คือ ในหลวง(ร.๙) กับลูกชายท่าน (ร.๑๐)”
เมื่อหลวงปู่ทั้งสองรู้ความจริงเข้าเท่านั้นแหละ ก็ถึงกับหัวร่องอหายทั้งคู่เลยทีเดียว ลูกศิษย์สงสัยก็เลยถามหลวงปู่ทั้งสองว่า
“ทำไมถึงไม่รู้ว่า ทหารสองพ่อลูกนั่นแหละ
คือ พระเจ้าแผ่นดิน(ร.๙) กับพระโอรส ?”
หลวงปู่ขาวตอบว่า “ นึกว่าจะมีขบวนแห่นำมา”
ส่วนหลวงปู่ชอบตอบว่า “ นึกว่าจะใส่ชฎา”
ที่มา : หนังสือ “ด้วยรอยยิ้มอิ่มปัญญา อารมณ์ขันพระอรหันต์” โดย วีระวัฒน์ ชลสวัสดิ์
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.
หน้า 740 ของ 796
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
“ คนดีมีศีลธรรม หายากยิ่งกว่าเพชรนิลจินดา ทำให้โลกร่มเย็นและยั่งยืน
หาคนดีมีศีลธรรมในใจ หายากยิ่งกว่าเพชรนิลจินดา ได้คนเป็นคนดีเพียงคนเดียว ย่อมมีคุณค่ามากกว่าเงินเป็นล้านๆ เพราะเงินล้านไม่สามารถทำความร่มเย็นให้แก่โลกได้อย่างถึงใจ เหมือนได้คนดีมาทำประโยชน์
คนดีแม้เพียงคนเดียวยังสามารถทำความเย็นให้แก่โลกได้มากมายและยั่งยืน เช่นพระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลายเป็นตัวอย่าง คนดีแต่ละคนมีคุณค่ามากกว่าเงินเป็นก่ายกอง เป็นคุณค่าแห่งความดีของตนที่จะทำต่อไปมากกว่าเงิน แม้จะจนก็ยอมจน ขอแต่ให้ตัวดีและโลกมีความสุข
แต่คนโง่ชอบเงินมากกว่าคนดีและความดี ขอแต่ได้เงิน แม้ตัวจะเป็นอย่างไรไม่สนใจคิดสนใจดู ถึงจะชั่วช้าลามกหรือแสนโสมมเพียงไรไม่หลีกห่าง ขนาดยมบาลเกลียดกลัวไม่ยอมนับเข้าบัญชีผู้ต้องหา กลัวจะไปทำลายสัตว์นรกด้วยกันให้เดือดร้อน
ขอแต่ได้เงินก็เป็นที่พอใจ ส่วนจะผิดถูกประการใดเขาไม่ยุ่งเกี่ยว คนดีกับคนชั่ว สมบัติเงินทองกับธรรมะคือคุณความดีผิดกันอย่างนี้แล
ใครมีหูมีตาก็คิดแก้ไขเสียแต่บัดนี้ อย่าให้สายเกินแก้ ฉะนั้น สัตว์โลกจึงต่างกัน ทั้งภพ กำเนิด รูปร่างลักษณะ จริตนิสัย ดีชั่ว สุขทุกข์ เพราะกฏของกรรม หรือกฏของตัวเองที่ทำขึ้น มิใช่กฏของใครไปทำให้ ตัวทำเอาเอง “
– : หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต : –
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่าน
เจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมใน
การเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ทุกๆท่าน…
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
ปัจจัตตัง_เวทิตัพโพ_วิญญูหิ
ธรรมแท้เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติรู้ได้เฉพาะตน
ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
ธรรมปรารภเรื่อง “อากาศร้อน”
“อากาศตอนนี้ญาติโยมก็บ่นร้อนไปตามๆ กัน.. ซึ่งความจริงมันก็ร้อนนั่นแหละ.. เหงื่อไหล ไคลย้อยตลอดวัน แต่อากาศร้อนนี่มันก็ไม่เที่ยง คือไม่เท่าใดก็หมดร้อน แล้วก็ถึงหน้าฝนต่อไป
เพราะอันนี้มันเป็นเรื่องของธรรมชาติของดินฟ้าอากาศ เราจะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราก็ต้องทนอยู่กันไปตามเรื่องตามราวจนกว่าจะหมดเรื่องนั้นไป
การที่จะอยู่ได้ตามปกตินั้น จะต้องหมุนจิตใจของเราให้เข้ากับสิ่งที่เกิดอยู่เป็นอยู่ คือให้พอใจแค่นั้นเอง ถ้าพอใจแล้วมันก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่พอใจแล้วก็เกิดความเดือดร้อน..
เคยพบพระรูปหนึ่งนั่งอยู่ในห้องเหงื่อท่วมตัว อาตมาก็ไปถามว่าไม่ร้อนหรือ? ท่านก็ตอบว่ามันเรื่องธรรมดา ท่านตอบว่าอย่างนั้น..
แล้วท่านก็นั่งทำงานไปตามปกติ ไม่รู้สึกกระวนกระวาย จิตใจมันเป็นปกติ เหงื่อมันออกมาเป็นเรื่องของร่างกาย แต่ว่าใจนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่งทำงานได้ปกติตลอดเวลา
อันนี้แสดงว่าท่านผู้นั้นรู้จักหมุนจิตใจต้อนรับสถานการณ์นั้น แล้วก็ไม่เป็นทุกข์เพราะเรื่องนั้น”
พระวิสุทธิญาณเถร (หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย) ผู้ก่อตั้งวัดเขาสุกิม
แฟนเพจ : เล่าเรื่อง หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย วัดเขาสุกิม
ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
ประกาศเฉลิมพระเกียรติยศ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่คำนำพระนามพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งใช้มา แต่กาลก่อนนั้น บัดนี้สมควรจะเปลี่ยนแปลงตามรัชกาล ทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ซึ่งเป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระโสทรกนิษฐภคินี ได้ทรงเจริญวัยและทรงปฏิบัติสรรพกรณียกิจ อันควรแก่ขัตติยนารี แบ่งเบาพระราชภาระได้เป็นอันมาก จนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย สมควรจะยกย่องพระเกียรติยศให้สมแก่ฐานะในขัตติยวงศ์
จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปลี่ยนคำนำพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และจารึกลงในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ กับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1
ขอจงเจริญพระชนมายุ พรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ สรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลทุกประการ เทอญ
ประกาศ ณ วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
ประกาศเฉลิมพระเกียรติยศ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่คำนำพระนามพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งใช้มาแต่กาลก่อนนั้น บัดนี้สมควรจะเปลี่ยนแปลงตามรัชกาล ทรงพระราชดำริว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ซึ่งเป็นพระธิดาพระองค์รองใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระโสทรกนิษฐภคินี ได้ทรงเจริญวัยและทรงปฏิบัติสรรพกรณียกิจ อันควรแก่ขัตติยนารี ช่วยแบ่งเบาพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ จนเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย สมควรจะยกย่องพระเกียรติยศให้สมแก่ฐานะในขัตติยวงศ์
จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปลี่ยนคำนำพระนาม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และจารึกลงในพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ กับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ฝ่ายใน ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า และเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 10 ชั้นที่ 1
ขอจงเจริญพระชนมายุ พรรณ สุข พล ปฏิภาณ คุณสารสมบัติ สรรพสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลทุกประการ เทอญ
ประกาศ ณ วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
ความเมตตาหลวงตามหาบัวไม่มีประมาณ
เป็นเหตุให้ท่านต้องดุเด็ดเผ็ดร้อนในธรรม
เรื่อง “เหตุเกิดจากพระอุปัฏฐากของหลวงปู่ชอบ”
(เทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
(เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด)
(เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔)
หลวงปู่ชอบชื่อท่านก็ชอบแล้วนี่ ท่านเรียบ ๆ ๆ ธรรมดา ท่านชอบอยู่ในป่าในเขามาก พึ่งจะออกมาตอนเป็นอัมพาต ท่านเป็นโรคอัมพาตได้เกี่ยวกับหมอกับอะไร นอกจากเกี่ยวกับหมอแล้วเลยยุ่งไปหมดเลย โรคอัมพาตเป็นเหตุที่ให้ท่านมาเกี่ยวกับประชาชน ลูกศิษย์ลูกหาก็ลากท่านไป ท่านไม่ไปก็ลากท่านไป เลยเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปหมด ไม่ใช่ท่านเลอะ ๆ นะ เรื่องราวมันเกี่ยวกับท่านมันยั้วเยี้ย ๆ เลยเสียไปนะอาจารย์ชอบ องค์ท่านเองไม่มีอะไร ลูกศิษย์ลูกหานั่นซี ท่านไม่สบายก็เอาไปหาหมอ ออกจากนั้นก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ หามท่านไปที่นั่นที่นี่ไปแล้วใช่ไหมล่ะ เหมือนปลาเน่า หามไปประกาศขายกิน เวลาคุยกับเราคุยดีนะ คือสนิทกันมากกับหลวงปู่ชอบ เราไม่ค่อยเกี่ยวนักตอนที่คนรุมท่าน พระเณรไปรุมท่านทำให้ท่านไม่สบายใจด้วย แล้วเรื่องราวก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปด้วย เราเลยไม่เข้าไปเกี่ยว มีแต่มาดุเอาพระองค์หนึ่งมากับท่าน ชี้หน้าเลยเทียวนะเรา อย่างนั้นละ ต่อหน้าท่าน ท่านมาเยี่ยมเราบนศาลานี้
เพราะเราได้ทราบข่าวเลอะ ๆ เทอะ ๆ มากับพระองค์นี้ เขาบอกชื่อบอกนามมา พอมาก็ถาม องค์นี้ชื่อว่ายังไง ๆ พอถึงองค์นี้ชื่อว่าอย่างนั้นก็เปรี้ยงทันทีเลย ท่านอาจารย์ชอบท่านก็นิ่งไม่พูดอะไร เราเอาจริง ๆ ฟาดเปรี้ยง ๆ ต่อหน้าท่านอาจารย์ชอบ ท่านสึกเสียอย่ามาอยู่ให้หนักศาสนา เอาขนาดนี้นะ ท่านมาทำครูบาอาจารย์ให้เลอะให้เสีย ครูบาอาจารย์ไม่เสีย ท่านกำลังเสียเป็นส้วมเป็นถานไปแล้วเหม็นคลุ้งไปหมดท่านรู้ไหม ซัดเอาจริง ๆ ต่อหน้าท่านนะ อย่างนี้ละหลวงตาไม่ไว้ใคร นี่พวกนี้ทำให้ท่านเสีย ท่านไม่เสียก็เลอะ ๆ ไปกับพวกเหล่านี้เลยเสียไป
นี่เกี่ยวกับเรื่องหลวงปู่ชอบ ครูบาอาจารย์องค์ใดมักจะมีพระไปทำให้เหม็นคลุ้ง ๆ เป็นยังไงไม่รู้นะ ไม่ปรากฏเลยแต่พ่อแม่ครูจารย์มั่น นอกจากนั้นมี ท่านไม่มีอะไร แต่พวกพระเณรซีไปทำเลอะ ๆ เทอะ ๆ มันก็เหม็นคลุ้งทั่วกันไปหมดจะว่าไง ครูอาจารย์องค์ไหนก็มีพระตัวสำคัญ ๆ ไปแทรกเป็นเปรตเป็นผีอยู่นั้น มี ถึงได้เอาพระองค์นี้ เดี๋ยวนี้ก็สึกไปแล้ว ผู้ที่ยังไม่สึกไล่เบี้ยกับนั้นเลย ท่านอยู่ให้หนักศาสนาทำไม เอาขนาดนั้นนะต่อหน้าหลวงปู่ชอบข้างบนนี้
พอหันมาทางนี้ก็ถามล่ะซี เพราะได้เรื่องมานานแล้วเต็มหัวอกแล้ว ถามเข้าไป พอองค์ที่ตรงเป๋งกับที่เขาบอกก็เปรี้ยงเลยทันที อย่างนั้นเลอะเทอะ ไม่มีใครพูดนะ ครูอาจารย์ท่านขี้เกียจพูดท่านก็ปล่อยของท่านอยู่อย่างนั้นละจะว่าไง มันก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ ครูอาจารย์องค์ไหนก็แบบเดียวกันท่านขี้เกียจยุ่ง ท่านไม่ยุ่ง แล้วก็สนุกสร้างความสกปรกรกรุงรังเข้าใส่ครูบาอาจารย์ เข้าใส่วงคณะตลอดศาสนาไปอย่างนั้น มันมีมันเป็นได้ ครูบาอาจารย์องค์ไหนมักจะมีเสมอ ไม่ปรากฏเลยก็พ่อแม่ครูจารย์มั่น เพราะเรื่องอติเรกลาภก็มี สำหรับหลวงปู่มั่นไม่ต้องถาม สำหรับท่านเองท่านไม่เคยเกี่ยว แต่นี้เราอยู่ใกล้ชิดละซีถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
เอาจริงเรา เครื่องบริขารเราควบคุมหมดเลย นั่นเห็นไหมล่ะ ใครมายุ่งไม่ได้ว่างั้นเลย เราเป็นคนสั่งทีเดียวเลย สั่งนี้ไปนั้นสั่งนั้นไปนั้น แยก ๆ เรียบวุธหมด บริสุทธิ์เต็มที่ นั่นเห็นไหมล่ะ เราเป็นคนจัดเอง พ่อแม่ครูจารย์มั่นจึงไม่ปรากฏเลยแม้นิดหนึ่งไม่มี ตอนนั้นจะว่าเราควบคุมอยู่นั้นก็ถูก แต่เราไม่ตั้งใจควบคุมเหล่านี้ละนะ เราตั้งใจกับครูบาอาจารย์ แต่เวลาสิ่งเหล่านี้มีมามันก็มาเกี่ยวโยงที่จะรับผิดชอบ นั่นซีที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง เรียกว่ากุมอำนาจเลยก็ได้ สั่งทันทีเลย ก็เรียบไปตลอด เราเป็นคนจัด บริขารอะไรที่เขามาถวายท่านมากน้อยนี้ เราสั่งเขาทันทีเลย บอกจำนวนมา บอกมา ๆ เสร็จแล้วเราเป็นคนสั่งแยก ๆ อันนี้แยกไปทางนั้น ๆ แยกไปจนหมดไม่มีอะไรเหลือเลย เป็นอย่างนั้นละเราจัดเอง เรียบไปเลยไม่เห็นมีอะไร
ครูบาอาจารย์เหล่านั้นท่านไม่ค่อยพูด มันก็สนุกเลอะ ๆ เทอะ ๆ พระหน้าด้าน มาหน้าด้านกับเราไม่ได้นะหน้าผากแตกทันทีเลย ไม่ว่าองค์ไหนก็มาเถอะน่ะ คิดดูซิ ฟาดต่อหน้าหลวงปู่ชอบเห็นไหมล่ะ ท่านก็นั่งเฉยเลย ก็เราเก็บไว้หมดแล้วเรื่องราวทุกอย่างมีแต่รอจะออกเท่านั้นเอง พอได้จังหวะปั๊บพุ่งทันทีเลย บอก ให้สึกท่านอย่าอยู่ให้หนักศาสนา เอาขนาดนั้นนะ คนทั้งโลกเขารู้กันหมดท่านทำไมไม่รู้ท่าน ว่าขนาดนั้นนะ เอาขนาดนั้นต่อหน้าหลวงปู่ชอบ ท่านไม่ว่าอะไร เฉย ก็ท่านรู้ยิ่งกว่าเราทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเรื่องของพระเหล่านี้น่ะ เราเก็บเอามาจากคนนั้นคนนี้แล้วก็ใส่เปรี้ยง ท่านจะว่าอะไรเราก็เราพูดตามหลักความจริง ท่านไม่ว่าท่านก็เฉยของท่าน
แต่ก่อนท่านมีแต่อยู่ในป่าในเขาทั้งนั้นนะ หลวงปู่ชอบ ก็มาเกี่ยวกับท่านเป็นอัมพาต แล้วแห่ไปโน้นหามไปนี้ สุดท้ายก็เลยเอาสินค้าท่านหามประกาศขายกินไปซิพระเลอะเทอะ พวกเลอะเทอะ ใครเลอะเทอะก็ตามมันก็ยุ่งไปตาม ๆ กันหมด เหม็นคลุ้งไปหมด หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยเข้าไปเกี่ยวข้องกับท่าน ไปก็จะไปเจออีกก็จะเอาอีกนะ เจอตรงไหนเอาตรงนั้นไม่เหมือนใครนี่ ผิดจะให้มาเหยียบหน้าผากอยู่ได้ยังไง ก็รู้ว่าผิด ต่างคนต่างมาชำระความผิดแท้ ๆ ทำไมจะพูดกันไม่ได้ ชำระกันไม่ได้ นั้นซิมันออกตรงนั้น เปรี้ยงเลยแหละเรา
ส่วนมากครูบาอาจารย์มักจะมีแต่เราเป็นผู้น้อยกว่าท่านนะ แต่ถ้าพูดแบบโลกมักจะเป็นเรื่องเราโจมตีท่านเสมอแหละ ท่านไม่ค่อยได้ว่าอะไรเราเพราะเห็นมันไม่ถอยใครพระองค์นี้น่ะ ไปที่ไหนก็ใส่เปรี้ยงใส่ครูบาอาจารย์ ไล่เบี้ยหาเหตุหาผลแล้วก็ใส่กันเปรี้ยง ทีนี้ท่านก็ไม่ทราบจะเถียงเราว่ายังไง เพราะที่เปรี้ยง ๆ มีแต่ถูกทั้งนั้น ยิ่งหลวงปู่ฝั้นด้วยแล้วเข้าท่าดีนะ นิสัยท่านน่ารักน่าเคารพเลื่อมใส เราเทิดทูนท่านตลอดนะ หลวงปู่ฝั้นอัธยาศัยใจคอทุกสิ่งทุกอย่างเรียบหมดเลย ถึงขนาดนั้นยังถูกเราโจมตีได้ ฟังซิพระองค์นี้มันถอยใครเมื่อไร
อยู่ ๆ ก็พวกบ้ามันสร้างเหตุการณ์ขึ้นมา รวมหัวกันเต็มอยู่ในครัวของท่านยั้วเยี้ย ๆ พระก็ไม่มีองค์ไหนกล้าแตะต้อง มันจะตั้งโครงการขึ้นใหญ่โตเสียด้วย นิมนต์พระมาตั้งสองร้อยสามร้อย จะทำบุญใหญ่โตถวายอายุท่านครบรอบ เขาไม่มาปรึกษาท่าน เขาประชุมกันเรียบร้อยแล้ว ตกลงกันคนนั้นเอาอย่างนั้น คนนี้เอาอย่างนี้ไปหมดแล้ว มีแต่เขาโค้ง ๆ เราไม่โค้งใส่เปรี้ยงเดียวเอาหลงทิศไปเลย ทีนี้พระก็ไม่กล้าพูดว่ายังไง ไม่กล้ากราบเรียนท่าน เดี๋ยวพระก็จะกระทบกระเทือนไปด้วย คงอย่างนั้นแหละ พระไม่มีทางไปก็วิ่งมาหาเรานั่นละเรื่องมัน ตั้งหน้ามาเลยเชียว มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังต่าง ๆ นานา เหตุการณ์เหล่านี้มีแต่เรื่องเสียหายทั้งนั้น วงกรรมฐานไม่มีชิ้นดีเลย เสียหายหมด ตั้งอะไร ๆ ขึ้นมาไม่เห็นมีเหตุมีผลอะไรเลย
เราพูดจริง ๆ เรื่องเหตุกับผล ต้องไปกับเหตุกับผล เขามาเล่าให้ฟังละซี เวลากับพระเราไม่ตอบอย่างไรเลย เฉย ท่านมาเล่าให้ฟัง อะไร ๆ เล่าให้ฟังหมดเรื่องราวในวัด เราไม่ตอบสักคำเดียวเลย เฉย เหมือนไม่รู้ไม่ชี้นะ อย่างนั้นนะเฉย ฟังอยู่เฉย ๆ อย่างนั้นก็มี ไม่ตอบไม่ถามคำไหน เพราะพระที่เล่าให้ฟังมันแจ่มแจ้งหมดแล้ว ไม่ทราบจะไปถามอะไร ๆ จากนั้นพระท่านก็กลับไป อีกสองวันมั้ง เพราะจวนวันเข้าไปแล้วเราก็ไปเลยเทียว ไปก็บึ่งเข้าหาท่านเลย เด็กโจมตีผู้ใหญ่เข้าท่าดีนะ เหอ ๆ ขึ้นเลย ซัดผู้ใหญ่ ท่านใจดี เรามันอย่างที่เห็นนี่แหละ ยกเหตุยกผลมาอย่างนั้น ๆ พอรวบรวมมาแล้วนี้วงกรรมฐานจะเสียตรงนี้ มีแต่ครูจารย์เท่านั้นที่จะห้ามทัพนี้ได้ นอกนั้นไม่มีใคร พระมาบอกเราก็ไม่ได้กราบเรียนท่านนะ กลัวจะกระทบกระเทือนท่าน เป็นเรื่องของเราล้วน ๆ เก็บเรื่องทั้งหมดแล้วก็ขึ้นกราบเรียนท่านเลย ไม่บอกว่าใครมาบอกเราอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่บอก เอาความจริงเข้าใส่เปรี้ยง ๆ เลย
พอเสร็จแล้ว นี่ครูจารย์จะว่ายังไง เรื่องราวเป็นอย่างนี้ ครูจารย์จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือครูจารย์จะพิจารณา ก็มีแต่ครูจารย์เท่านั้นจะชี้ขาดได้เรื่องเหล่านี้ นอกนั้นไม่มีในวัดนี้ ว่างั้น กระผมในฐานะเป็นลูกศิษย์มากราบเรียนให้ทราบ ด้วยความรักสงวนครูบาอาจารย์และคณะกรรมฐานของเรา เหอ ไม่ได้ ๆ ไม่ได้ก็ครูจารย์ต้องเป็นผู้ห้ามเอง ไม่ได้ ๆ ขึ้นเลยทันที ไม่ได้ก็ต้องเป็นเรื่องของครูจารย์ กระผมมากราบเรียนเฉย ๆ เรื่องราวเป็นความจริงอย่างนี้ ๆ พอเรามาแล้วท่านก็คงจะเอาใหญ่ละท่านะ เรื่องนั้นเลยหายเงียบไปเลย ก็มีแต่ท่านองค์เดียวเท่านั้น ท่านสั่งคำเดียวก็หมดเลย ทีนี้ท่านไม่รู้ซี เขาตั้งทัพอยู่ด้านหลัง ๆ รอบด้านไม่ให้ท่านรู้ พระท่านรู้หมดแล้วท่านมาหาเรา เราจึงไปเองก็เพราะสงวนครูบาอาจารย์วงหมู่คณะจะเลอะเทอะไปหมด เพราะหัวหน้าผู้ใหญ่ทำได้ ผู้น้อยต้องทำได้หมด ตรงนั้นตรงจะเสีย
วันเกิดองค์นั้น วันเกิดองค์นี้ ใครก็เกิด ไอ้หยองมันก็เกิด ทำไมไม่เห็นทำบุญวันเกิดมัน ไอ้หยอง ไอ้ปุ๊กกี้ นั่น ทำบุญวันเกิดองค์นั้น ทำบุญวันเกิดองค์นี้ เราโมโหนะ ของเราเราไม่ได้มีนะ เรื่องของเราแต่ก่อนใครมาแตะไม่ได้เลย อันนี้มีช่วยชาติบ้านเมืองเราก็เลยเฉย ๆ ไปเสีย เพื่อชาติบ้านเมืองไม่ได้เพื่อเรา เรื่องของเรามีอะไร พ่อแม่ครูจารย์เองท่านก็ไม่เคยมี จนกระทั่งท่านมรณภาพจากไปไม่เคยมีวันเกิดวันตายอะไรเลย ที่จะดำริขึ้นมาหรือพูดมาแย็บหนึ่งไม่เคยมี เราก็ไม่เคยมี เรื่องก็รู้กันอยู่แล้วยุ่งหาอะไร
สำหรับวัดป่าบ้านตาดนี้งานอะไร ๆ ไม่มีโดยเด็ดขาด ห้ามเด็ดขาดไม่ให้มายุ่งเลย แต่ก่อนเป็นอย่างนั้นตลอดมาไม่ให้ยุ่ง ให้มีแต่ภาวนาอย่างเดียว พระองค์ไหนไม่ทำอย่างนั้นควรไล่ออกจากวัดไล่ทันทีเลย นี่มันเลอะเทอะมาพอแล้ว หูหนวกตาบอดไปอย่างนั้นนะอยู่ทุกวันนี้ มันของดีเหรอ อยู่แบบหูหนวกตาบอด อดเอาทนเอาอย่างนั้น ก็เราไม่เคยทำมานี่ มันเลอะเทอะเสียจนแหลกหมด ไม่ว่าที่ไหนต่อที่ไหนเลอะเทอะไปตาม ๆ กันหมด
พระก็ต้องได้เอาอีกแบบหนึ่ง คราวนี้เด็ดขาดเลยไม่ต้องถาม เราสั่งให้ไปทันที ๆ ไม่ต้องวินิจฉัย ถ้าอะไรเราเห็นด้วยตาของเราแล้วให้ออกจากวัดได้ ไล่ทันทีเลย ไม่ต้องถามให้เสียเวล่ำเวลา เอาอย่างนั้นจริง ๆ ไม่เด็ดอย่างนั้นไม่ได้จะฉิบหายหมด ศาสนาจะไม่มีอะไรเหลือ พระเณรเข้ามาเลอะ ๆ เทอะ ๆ มองเห็นเก้ง ๆ ก้าง ๆ เอาแล้ว เปรี้ยงไล่หนีทันทีเลยไม่ให้อยู่ให้หนักวัด ผู้รักษา-รักษาอยู่ ผู้ทำลายเข้ามาทำลายหาอะไร เอาตรงนั้นซี ผู้รักษา-รักษาแทบล้มแทบตายรักษาอยู่ ผู้ไม่ได้หน้าได้หลังอะไรเข้ามาเหยียบมาถีบมาเตะมายันให้แหลกมันก็เสียหมดทั้งวัดล่ะซิ นี่ละถึงไม่วินิจฉัย ถ้าเจอด้วยตาแล้วเอาเลย ๆ ไล่เลยทันที
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
ความเมตตาหลวงตามหาบัวไม่มีประมาณ
เป็นเหตุให้ท่านต้องดุเด็ดเผ็ดร้อนในธรรม
เรื่อง “เหตุเกิดจากพระอุปัฏฐากของหลวงปู่ชอบ”
(เทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
(เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด)
(เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔)
หลวงปู่ชอบชื่อท่านก็ชอบแล้วนี่ ท่านเรียบ ๆ ๆ ธรรมดา ท่านชอบอยู่ในป่าในเขามาก พึ่งจะออกมาตอนเป็นอัมพาต ท่านเป็นโรคอัมพาตได้เกี่ยวกับหมอกับอะไร นอกจากเกี่ยวกับหมอแล้วเลยยุ่งไปหมดเลย โรคอัมพาตเป็นเหตุที่ให้ท่านมาเกี่ยวกับประชาชน ลูกศิษย์ลูกหาก็ลากท่านไป ท่านไม่ไปก็ลากท่านไป เลยเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปหมด ไม่ใช่ท่านเลอะ ๆ นะ เรื่องราวมันเกี่ยวกับท่านมันยั้วเยี้ย ๆ เลยเสียไปนะอาจารย์ชอบ องค์ท่านเองไม่มีอะไร ลูกศิษย์ลูกหานั่นซี ท่านไม่สบายก็เอาไปหาหมอ ออกจากนั้นก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ หามท่านไปที่นั่นที่นี่ไปแล้วใช่ไหมล่ะ เหมือนปลาเน่า หามไปประกาศขายกิน เวลาคุยกับเราคุยดีนะ คือสนิทกันมากกับหลวงปู่ชอบ เราไม่ค่อยเกี่ยวนักตอนที่คนรุมท่าน พระเณรไปรุมท่านทำให้ท่านไม่สบายใจด้วย แล้วเรื่องราวก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปด้วย เราเลยไม่เข้าไปเกี่ยว มีแต่มาดุเอาพระองค์หนึ่งมากับท่าน ชี้หน้าเลยเทียวนะเรา อย่างนั้นละ ต่อหน้าท่าน ท่านมาเยี่ยมเราบนศาลานี้
เพราะเราได้ทราบข่าวเลอะ ๆ เทอะ ๆ มากับพระองค์นี้ เขาบอกชื่อบอกนามมา พอมาก็ถาม องค์นี้ชื่อว่ายังไง ๆ พอถึงองค์นี้ชื่อว่าอย่างนั้นก็เปรี้ยงทันทีเลย ท่านอาจารย์ชอบท่านก็นิ่งไม่พูดอะไร เราเอาจริง ๆ ฟาดเปรี้ยง ๆ ต่อหน้าท่านอาจารย์ชอบ ท่านสึกเสียอย่ามาอยู่ให้หนักศาสนา เอาขนาดนี้นะ ท่านมาทำครูบาอาจารย์ให้เลอะให้เสีย ครูบาอาจารย์ไม่เสีย ท่านกำลังเสียเป็นส้วมเป็นถานไปแล้วเหม็นคลุ้งไปหมดท่านรู้ไหม ซัดเอาจริง ๆ ต่อหน้าท่านนะ อย่างนี้ละหลวงตาไม่ไว้ใคร นี่พวกนี้ทำให้ท่านเสีย ท่านไม่เสียก็เลอะ ๆ ไปกับพวกเหล่านี้เลยเสียไป
นี่เกี่ยวกับเรื่องหลวงปู่ชอบ ครูบาอาจารย์องค์ใดมักจะมีพระไปทำให้เหม็นคลุ้ง ๆ เป็นยังไงไม่รู้นะ ไม่ปรากฏเลยแต่พ่อแม่ครูจารย์มั่น นอกจากนั้นมี ท่านไม่มีอะไร แต่พวกพระเณรซีไปทำเลอะ ๆ เทอะ ๆ มันก็เหม็นคลุ้งทั่วกันไปหมดจะว่าไง ครูอาจารย์องค์ไหนก็มีพระตัวสำคัญ ๆ ไปแทรกเป็นเปรตเป็นผีอยู่นั้น มี ถึงได้เอาพระองค์นี้ เดี๋ยวนี้ก็สึกไปแล้ว ผู้ที่ยังไม่สึกไล่เบี้ยกับนั้นเลย ท่านอยู่ให้หนักศาสนาทำไม เอาขนาดนั้นนะต่อหน้าหลวงปู่ชอบข้างบนนี้
พอหันมาทางนี้ก็ถามล่ะซี เพราะได้เรื่องมานานแล้วเต็มหัวอกแล้ว ถามเข้าไป พอองค์ที่ตรงเป๋งกับที่เขาบอกก็เปรี้ยงเลยทันที อย่างนั้นเลอะเทอะ ไม่มีใครพูดนะ ครูอาจารย์ท่านขี้เกียจพูดท่านก็ปล่อยของท่านอยู่อย่างนั้นละจะว่าไง มันก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ ครูอาจารย์องค์ไหนก็แบบเดียวกันท่านขี้เกียจยุ่ง ท่านไม่ยุ่ง แล้วก็สนุกสร้างความสกปรกรกรุงรังเข้าใส่ครูบาอาจารย์ เข้าใส่วงคณะตลอดศาสนาไปอย่างนั้น มันมีมันเป็นได้ ครูบาอาจารย์องค์ไหนมักจะมีเสมอ ไม่ปรากฏเลยก็พ่อแม่ครูจารย์มั่น เพราะเรื่องอติเรกลาภก็มี สำหรับหลวงปู่มั่นไม่ต้องถาม สำหรับท่านเองท่านไม่เคยเกี่ยว แต่นี้เราอยู่ใกล้ชิดละซีถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
เอาจริงเรา เครื่องบริขารเราควบคุมหมดเลย นั่นเห็นไหมล่ะ ใครมายุ่งไม่ได้ว่างั้นเลย เราเป็นคนสั่งทีเดียวเลย สั่งนี้ไปนั้นสั่งนั้นไปนั้น แยก ๆ เรียบวุธหมด บริสุทธิ์เต็มที่ นั่นเห็นไหมล่ะ เราเป็นคนจัดเอง พ่อแม่ครูจารย์มั่นจึงไม่ปรากฏเลยแม้นิดหนึ่งไม่มี ตอนนั้นจะว่าเราควบคุมอยู่นั้นก็ถูก แต่เราไม่ตั้งใจควบคุมเหล่านี้ละนะ เราตั้งใจกับครูบาอาจารย์ แต่เวลาสิ่งเหล่านี้มีมามันก็มาเกี่ยวโยงที่จะรับผิดชอบ นั่นซีที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง เรียกว่ากุมอำนาจเลยก็ได้ สั่งทันทีเลย ก็เรียบไปตลอด เราเป็นคนจัด บริขารอะไรที่เขามาถวายท่านมากน้อยนี้ เราสั่งเขาทันทีเลย บอกจำนวนมา บอกมา ๆ เสร็จแล้วเราเป็นคนสั่งแยก ๆ อันนี้แยกไปทางนั้น ๆ แยกไปจนหมดไม่มีอะไรเหลือเลย เป็นอย่างนั้นละเราจัดเอง เรียบไปเลยไม่เห็นมีอะไร
ครูบาอาจารย์เหล่านั้นท่านไม่ค่อยพูด มันก็สนุกเลอะ ๆ เทอะ ๆ พระหน้าด้าน มาหน้าด้านกับเราไม่ได้นะหน้าผากแตกทันทีเลย ไม่ว่าองค์ไหนก็มาเถอะน่ะ คิดดูซิ ฟาดต่อหน้าหลวงปู่ชอบเห็นไหมล่ะ ท่านก็นั่งเฉยเลย ก็เราเก็บไว้หมดแล้วเรื่องราวทุกอย่างมีแต่รอจะออกเท่านั้นเอง พอได้จังหวะปั๊บพุ่งทันทีเลย บอก ให้สึกท่านอย่าอยู่ให้หนักศาสนา เอาขนาดนั้นนะ คนทั้งโลกเขารู้กันหมดท่านทำไมไม่รู้ท่าน ว่าขนาดนั้นนะ เอาขนาดนั้นต่อหน้าหลวงปู่ชอบ ท่านไม่ว่าอะไร เฉย ก็ท่านรู้ยิ่งกว่าเราทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเรื่องของพระเหล่านี้น่ะ เราเก็บเอามาจากคนนั้นคนนี้แล้วก็ใส่เปรี้ยง ท่านจะว่าอะไรเราก็เราพูดตามหลักความจริง ท่านไม่ว่าท่านก็เฉยของท่าน
แต่ก่อนท่านมีแต่อยู่ในป่าในเขาทั้งนั้นนะ หลวงปู่ชอบ ก็มาเกี่ยวกับท่านเป็นอัมพาต แล้วแห่ไปโน้นหามไปนี้ สุดท้ายก็เลยเอาสินค้าท่านหามประกาศขายกินไปซิพระเลอะเทอะ พวกเลอะเทอะ ใครเลอะเทอะก็ตามมันก็ยุ่งไปตาม ๆ กันหมด เหม็นคลุ้งไปหมด หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยเข้าไปเกี่ยวข้องกับท่าน ไปก็จะไปเจออีกก็จะเอาอีกนะ เจอตรงไหนเอาตรงนั้นไม่เหมือนใครนี่ ผิดจะให้มาเหยียบหน้าผากอยู่ได้ยังไง ก็รู้ว่าผิด ต่างคนต่างมาชำระความผิดแท้ ๆ ทำไมจะพูดกันไม่ได้ ชำระกันไม่ได้ นั้นซิมันออกตรงนั้น เปรี้ยงเลยแหละเรา
ส่วนมากครูบาอาจารย์มักจะมีแต่เราเป็นผู้น้อยกว่าท่านนะ แต่ถ้าพูดแบบโลกมักจะเป็นเรื่องเราโจมตีท่านเสมอแหละ ท่านไม่ค่อยได้ว่าอะไรเราเพราะเห็นมันไม่ถอยใครพระองค์นี้น่ะ ไปที่ไหนก็ใส่เปรี้ยงใส่ครูบาอาจารย์ ไล่เบี้ยหาเหตุหาผลแล้วก็ใส่กันเปรี้ยง ทีนี้ท่านก็ไม่ทราบจะเถียงเราว่ายังไง เพราะที่เปรี้ยง ๆ มีแต่ถูกทั้งนั้น ยิ่งหลวงปู่ฝั้นด้วยแล้วเข้าท่าดีนะ นิสัยท่านน่ารักน่าเคารพเลื่อมใส เราเทิดทูนท่านตลอดนะ หลวงปู่ฝั้นอัธยาศัยใจคอทุกสิ่งทุกอย่างเรียบหมดเลย ถึงขนาดนั้นยังถูกเราโจมตีได้ ฟังซิพระองค์นี้มันถอยใครเมื่อไร
อยู่ ๆ ก็พวกบ้ามันสร้างเหตุการณ์ขึ้นมา รวมหัวกันเต็มอยู่ในครัวของท่านยั้วเยี้ย ๆ พระก็ไม่มีองค์ไหนกล้าแตะต้อง มันจะตั้งโครงการขึ้นใหญ่โตเสียด้วย นิมนต์พระมาตั้งสองร้อยสามร้อย จะทำบุญใหญ่โตถวายอายุท่านครบรอบ เขาไม่มาปรึกษาท่าน เขาประชุมกันเรียบร้อยแล้ว ตกลงกันคนนั้นเอาอย่างนั้น คนนี้เอาอย่างนี้ไปหมดแล้ว มีแต่เขาโค้ง ๆ เราไม่โค้งใส่เปรี้ยงเดียวเอาหลงทิศไปเลย ทีนี้พระก็ไม่กล้าพูดว่ายังไง ไม่กล้ากราบเรียนท่าน เดี๋ยวพระก็จะกระทบกระเทือนไปด้วย คงอย่างนั้นแหละ พระไม่มีทางไปก็วิ่งมาหาเรานั่นละเรื่องมัน ตั้งหน้ามาเลยเชียว มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังต่าง ๆ นานา เหตุการณ์เหล่านี้มีแต่เรื่องเสียหายทั้งนั้น วงกรรมฐานไม่มีชิ้นดีเลย เสียหายหมด ตั้งอะไร ๆ ขึ้นมาไม่เห็นมีเหตุมีผลอะไรเลย
เราพูดจริง ๆ เรื่องเหตุกับผล ต้องไปกับเหตุกับผล เขามาเล่าให้ฟังละซี เวลากับพระเราไม่ตอบอย่างไรเลย เฉย ท่านมาเล่าให้ฟัง อะไร ๆ เล่าให้ฟังหมดเรื่องราวในวัด เราไม่ตอบสักคำเดียวเลย เฉย เหมือนไม่รู้ไม่ชี้นะ อย่างนั้นนะเฉย ฟังอยู่เฉย ๆ อย่างนั้นก็มี ไม่ตอบไม่ถามคำไหน เพราะพระที่เล่าให้ฟังมันแจ่มแจ้งหมดแล้ว ไม่ทราบจะไปถามอะไร ๆ จากนั้นพระท่านก็กลับไป อีกสองวันมั้ง เพราะจวนวันเข้าไปแล้วเราก็ไปเลยเทียว ไปก็บึ่งเข้าหาท่านเลย เด็กโจมตีผู้ใหญ่เข้าท่าดีนะ เหอ ๆ ขึ้นเลย ซัดผู้ใหญ่ ท่านใจดี เรามันอย่างที่เห็นนี่แหละ ยกเหตุยกผลมาอย่างนั้น ๆ พอรวบรวมมาแล้วนี้วงกรรมฐานจะเสียตรงนี้ มีแต่ครูจารย์เท่านั้นที่จะห้ามทัพนี้ได้ นอกนั้นไม่มีใคร พระมาบอกเราก็ไม่ได้กราบเรียนท่านนะ กลัวจะกระทบกระเทือนท่าน เป็นเรื่องของเราล้วน ๆ เก็บเรื่องทั้งหมดแล้วก็ขึ้นกราบเรียนท่านเลย ไม่บอกว่าใครมาบอกเราอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่บอก เอาความจริงเข้าใส่เปรี้ยง ๆ เลย
พอเสร็จแล้ว นี่ครูจารย์จะว่ายังไง เรื่องราวเป็นอย่างนี้ ครูจารย์จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือครูจารย์จะพิจารณา ก็มีแต่ครูจารย์เท่านั้นจะชี้ขาดได้เรื่องเหล่านี้ นอกนั้นไม่มีในวัดนี้ ว่างั้น กระผมในฐานะเป็นลูกศิษย์มากราบเรียนให้ทราบ ด้วยความรักสงวนครูบาอาจารย์และคณะกรรมฐานของเรา เหอ ไม่ได้ ๆ ไม่ได้ก็ครูจารย์ต้องเป็นผู้ห้ามเอง ไม่ได้ ๆ ขึ้นเลยทันที ไม่ได้ก็ต้องเป็นเรื่องของครูจารย์ กระผมมากราบเรียนเฉย ๆ เรื่องราวเป็นความจริงอย่างนี้ ๆ พอเรามาแล้วท่านก็คงจะเอาใหญ่ละท่านะ เรื่องนั้นเลยหายเงียบไปเลย ก็มีแต่ท่านองค์เดียวเท่านั้น ท่านสั่งคำเดียวก็หมดเลย ทีนี้ท่านไม่รู้ซี เขาตั้งทัพอยู่ด้านหลัง ๆ รอบด้านไม่ให้ท่านรู้ พระท่านรู้หมดแล้วท่านมาหาเรา เราจึงไปเองก็เพราะสงวนครูบาอาจารย์วงหมู่คณะจะเลอะเทอะไปหมด เพราะหัวหน้าผู้ใหญ่ทำได้ ผู้น้อยต้องทำได้หมด ตรงนั้นตรงจะเสีย
วันเกิดองค์นั้น วันเกิดองค์นี้ ใครก็เกิด ไอ้หยองมันก็เกิด ทำไมไม่เห็นทำบุญวันเกิดมัน ไอ้หยอง ไอ้ปุ๊กกี้ นั่น ทำบุญวันเกิดองค์นั้น ทำบุญวันเกิดองค์นี้ เราโมโหนะ ของเราเราไม่ได้มีนะ เรื่องของเราแต่ก่อนใครมาแตะไม่ได้เลย อันนี้มีช่วยชาติบ้านเมืองเราก็เลยเฉย ๆ ไปเสีย เพื่อชาติบ้านเมืองไม่ได้เพื่อเรา เรื่องของเรามีอะไร พ่อแม่ครูจารย์เองท่านก็ไม่เคยมี จนกระทั่งท่านมรณภาพจากไปไม่เคยมีวันเกิดวันตายอะไรเลย ที่จะดำริขึ้นมาหรือพูดมาแย็บหนึ่งไม่เคยมี เราก็ไม่เคยมี เรื่องก็รู้กันอยู่แล้วยุ่งหาอะไร
สำหรับวัดป่าบ้านตาดนี้งานอะไร ๆ ไม่มีโดยเด็ดขาด ห้ามเด็ดขาดไม่ให้มายุ่งเลย แต่ก่อนเป็นอย่างนั้นตลอดมาไม่ให้ยุ่ง ให้มีแต่ภาวนาอย่างเดียว พระองค์ไหนไม่ทำอย่างนั้นควรไล่ออกจากวัดไล่ทันทีเลย นี่มันเลอะเทอะมาพอแล้ว หูหนวกตาบอดไปอย่างนั้นนะอยู่ทุกวันนี้ มันของดีเหรอ อยู่แบบหูหนวกตาบอด อดเอาทนเอาอย่างนั้น ก็เราไม่เคยทำมานี่ มันเลอะเทอะเสียจนแหลกหมด ไม่ว่าที่ไหนต่อที่ไหนเลอะเทอะไปตาม ๆ กันหมด
พระก็ต้องได้เอาอีกแบบหนึ่ง คราวนี้เด็ดขาดเลยไม่ต้องถาม เราสั่งให้ไปทันที ๆ ไม่ต้องวินิจฉัย ถ้าอะไรเราเห็นด้วยตาของเราแล้วให้ออกจากวัดได้ ไล่ทันทีเลย ไม่ต้องถามให้เสียเวล่ำเวลา เอาอย่างนั้นจริง ๆ ไม่เด็ดอย่างนั้นไม่ได้จะฉิบหายหมด ศาสนาจะไม่มีอะไรเหลือ พระเณรเข้ามาเลอะ ๆ เทอะ ๆ มองเห็นเก้ง ๆ ก้าง ๆ เอาแล้ว เปรี้ยงไล่หนีทันทีเลยไม่ให้อยู่ให้หนักวัด ผู้รักษา-รักษาอยู่ ผู้ทำลายเข้ามาทำลายหาอะไร เอาตรงนั้นซี ผู้รักษา-รักษาแทบล้มแทบตายรักษาอยู่ ผู้ไม่ได้หน้าได้หลังอะไรเข้ามาเหยียบมาถีบมาเตะมายันให้แหลกมันก็เสียหมดทั้งวัดล่ะซิ นี่ละถึงไม่วินิจฉัย ถ้าเจอด้วยตาแล้วเอาเลย ๆ ไล่เลยทันที
ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
ความเมตตาหลวงตามหาบัวไม่มีประมาณ
เป็นเหตุให้ท่านต้องดุเด็ดเผ็ดร้อนในธรรม
เรื่อง “เหตุเกิดจากพระอุปัฏฐากของหลวงปู่ชอบ”
(เทศนาโดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
(เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด)
(เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔)
หลวงปู่ชอบชื่อท่านก็ชอบแล้วนี่ ท่านเรียบ ๆ ๆ ธรรมดา ท่านชอบอยู่ในป่าในเขามาก พึ่งจะออกมาตอนเป็นอัมพาต ท่านเป็นโรคอัมพาตได้เกี่ยวกับหมอกับอะไร นอกจากเกี่ยวกับหมอแล้วเลยยุ่งไปหมดเลย โรคอัมพาตเป็นเหตุที่ให้ท่านมาเกี่ยวกับประชาชน ลูกศิษย์ลูกหาก็ลากท่านไป ท่านไม่ไปก็ลากท่านไป เลยเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปหมด ไม่ใช่ท่านเลอะ ๆ นะ เรื่องราวมันเกี่ยวกับท่านมันยั้วเยี้ย ๆ เลยเสียไปนะอาจารย์ชอบ องค์ท่านเองไม่มีอะไร ลูกศิษย์ลูกหานั่นซี ท่านไม่สบายก็เอาไปหาหมอ ออกจากนั้นก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ หามท่านไปที่นั่นที่นี่ไปแล้วใช่ไหมล่ะ เหมือนปลาเน่า หามไปประกาศขายกิน เวลาคุยกับเราคุยดีนะ คือสนิทกันมากกับหลวงปู่ชอบ เราไม่ค่อยเกี่ยวนักตอนที่คนรุมท่าน พระเณรไปรุมท่านทำให้ท่านไม่สบายใจด้วย แล้วเรื่องราวก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ ไปด้วย เราเลยไม่เข้าไปเกี่ยว มีแต่มาดุเอาพระองค์หนึ่งมากับท่าน ชี้หน้าเลยเทียวนะเรา อย่างนั้นละ ต่อหน้าท่าน ท่านมาเยี่ยมเราบนศาลานี้
เพราะเราได้ทราบข่าวเลอะ ๆ เทอะ ๆ มากับพระองค์นี้ เขาบอกชื่อบอกนามมา พอมาก็ถาม องค์นี้ชื่อว่ายังไง ๆ พอถึงองค์นี้ชื่อว่าอย่างนั้นก็เปรี้ยงทันทีเลย ท่านอาจารย์ชอบท่านก็นิ่งไม่พูดอะไร เราเอาจริง ๆ ฟาดเปรี้ยง ๆ ต่อหน้าท่านอาจารย์ชอบ ท่านสึกเสียอย่ามาอยู่ให้หนักศาสนา เอาขนาดนี้นะ ท่านมาทำครูบาอาจารย์ให้เลอะให้เสีย ครูบาอาจารย์ไม่เสีย ท่านกำลังเสียเป็นส้วมเป็นถานไปแล้วเหม็นคลุ้งไปหมดท่านรู้ไหม ซัดเอาจริง ๆ ต่อหน้าท่านนะ อย่างนี้ละหลวงตาไม่ไว้ใคร นี่พวกนี้ทำให้ท่านเสีย ท่านไม่เสียก็เลอะ ๆ ไปกับพวกเหล่านี้เลยเสียไป
นี่เกี่ยวกับเรื่องหลวงปู่ชอบ ครูบาอาจารย์องค์ใดมักจะมีพระไปทำให้เหม็นคลุ้ง ๆ เป็นยังไงไม่รู้นะ ไม่ปรากฏเลยแต่พ่อแม่ครูจารย์มั่น นอกจากนั้นมี ท่านไม่มีอะไร แต่พวกพระเณรซีไปทำเลอะ ๆ เทอะ ๆ มันก็เหม็นคลุ้งทั่วกันไปหมดจะว่าไง ครูอาจารย์องค์ไหนก็มีพระตัวสำคัญ ๆ ไปแทรกเป็นเปรตเป็นผีอยู่นั้น มี ถึงได้เอาพระองค์นี้ เดี๋ยวนี้ก็สึกไปแล้ว ผู้ที่ยังไม่สึกไล่เบี้ยกับนั้นเลย ท่านอยู่ให้หนักศาสนาทำไม เอาขนาดนั้นนะต่อหน้าหลวงปู่ชอบข้างบนนี้
พอหันมาทางนี้ก็ถามล่ะซี เพราะได้เรื่องมานานแล้วเต็มหัวอกแล้ว ถามเข้าไป พอองค์ที่ตรงเป๋งกับที่เขาบอกก็เปรี้ยงเลยทันที อย่างนั้นเลอะเทอะ ไม่มีใครพูดนะ ครูอาจารย์ท่านขี้เกียจพูดท่านก็ปล่อยของท่านอยู่อย่างนั้นละจะว่าไง มันก็เลอะ ๆ เทอะ ๆ ครูอาจารย์องค์ไหนก็แบบเดียวกันท่านขี้เกียจยุ่ง ท่านไม่ยุ่ง แล้วก็สนุกสร้างความสกปรกรกรุงรังเข้าใส่ครูบาอาจารย์ เข้าใส่วงคณะตลอดศาสนาไปอย่างนั้น มันมีมันเป็นได้ ครูบาอาจารย์องค์ไหนมักจะมีเสมอ ไม่ปรากฏเลยก็พ่อแม่ครูจารย์มั่น เพราะเรื่องอติเรกลาภก็มี สำหรับหลวงปู่มั่นไม่ต้องถาม สำหรับท่านเองท่านไม่เคยเกี่ยว แต่นี้เราอยู่ใกล้ชิดละซีถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
เอาจริงเรา เครื่องบริขารเราควบคุมหมดเลย นั่นเห็นไหมล่ะ ใครมายุ่งไม่ได้ว่างั้นเลย เราเป็นคนสั่งทีเดียวเลย สั่งนี้ไปนั้นสั่งนั้นไปนั้น แยก ๆ เรียบวุธหมด บริสุทธิ์เต็มที่ นั่นเห็นไหมล่ะ เราเป็นคนจัดเอง พ่อแม่ครูจารย์มั่นจึงไม่ปรากฏเลยแม้นิดหนึ่งไม่มี ตอนนั้นจะว่าเราควบคุมอยู่นั้นก็ถูก แต่เราไม่ตั้งใจควบคุมเหล่านี้ละนะ เราตั้งใจกับครูบาอาจารย์ แต่เวลาสิ่งเหล่านี้มีมามันก็มาเกี่ยวโยงที่จะรับผิดชอบ นั่นซีที่เราเข้าไปเกี่ยวข้อง เรียกว่ากุมอำนาจเลยก็ได้ สั่งทันทีเลย ก็เรียบไปตลอด เราเป็นคนจัด บริขารอะไรที่เขามาถวายท่านมากน้อยนี้ เราสั่งเขาทันทีเลย บอกจำนวนมา บอกมา ๆ เสร็จแล้วเราเป็นคนสั่งแยก ๆ อันนี้แยกไปทางนั้น ๆ แยกไปจนหมดไม่มีอะไรเหลือเลย เป็นอย่างนั้นละเราจัดเอง เรียบไปเลยไม่เห็นมีอะไร
ครูบาอาจารย์เหล่านั้นท่านไม่ค่อยพูด มันก็สนุกเลอะ ๆ เทอะ ๆ พระหน้าด้าน มาหน้าด้านกับเราไม่ได้นะหน้าผากแตกทันทีเลย ไม่ว่าองค์ไหนก็มาเถอะน่ะ คิดดูซิ ฟาดต่อหน้าหลวงปู่ชอบเห็นไหมล่ะ ท่านก็นั่งเฉยเลย ก็เราเก็บไว้หมดแล้วเรื่องราวทุกอย่างมีแต่รอจะออกเท่านั้นเอง พอได้จังหวะปั๊บพุ่งทันทีเลย บอก ให้สึกท่านอย่าอยู่ให้หนักศาสนา เอาขนาดนั้นนะ คนทั้งโลกเขารู้กันหมดท่านทำไมไม่รู้ท่าน ว่าขนาดนั้นนะ เอาขนาดนั้นต่อหน้าหลวงปู่ชอบ ท่านไม่ว่าอะไร เฉย ก็ท่านรู้ยิ่งกว่าเราทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเรื่องของพระเหล่านี้น่ะ เราเก็บเอามาจากคนนั้นคนนี้แล้วก็ใส่เปรี้ยง ท่านจะว่าอะไรเราก็เราพูดตามหลักความจริง ท่านไม่ว่าท่านก็เฉยของท่าน
แต่ก่อนท่านมีแต่อยู่ในป่าในเขาทั้งนั้นนะ หลวงปู่ชอบ ก็มาเกี่ยวกับท่านเป็นอัมพาต แล้วแห่ไปโน้นหามไปนี้ สุดท้ายก็เลยเอาสินค้าท่านหามประกาศขายกินไปซิพระเลอะเทอะ พวกเลอะเทอะ ใครเลอะเทอะก็ตามมันก็ยุ่งไปตาม ๆ กันหมด เหม็นคลุ้งไปหมด หลังจากนั้นเราก็ไม่ค่อยเข้าไปเกี่ยวข้องกับท่าน ไปก็จะไปเจออีกก็จะเอาอีกนะ เจอตรงไหนเอาตรงนั้นไม่เหมือนใครนี่ ผิดจะให้มาเหยียบหน้าผากอยู่ได้ยังไง ก็รู้ว่าผิด ต่างคนต่างมาชำระความผิดแท้ ๆ ทำไมจะพูดกันไม่ได้ ชำระกันไม่ได้ นั้นซิมันออกตรงนั้น เปรี้ยงเลยแหละเรา
ส่วนมากครูบาอาจารย์มักจะมีแต่เราเป็นผู้น้อยกว่าท่านนะ แต่ถ้าพูดแบบโลกมักจะเป็นเรื่องเราโจมตีท่านเสมอแหละ ท่านไม่ค่อยได้ว่าอะไรเราเพราะเห็นมันไม่ถอยใครพระองค์นี้น่ะ ไปที่ไหนก็ใส่เปรี้ยงใส่ครูบาอาจารย์ ไล่เบี้ยหาเหตุหาผลแล้วก็ใส่กันเปรี้ยง ทีนี้ท่านก็ไม่ทราบจะเถียงเราว่ายังไง เพราะที่เปรี้ยง ๆ มีแต่ถูกทั้งนั้น ยิ่งหลวงปู่ฝั้นด้วยแล้วเข้าท่าดีนะ นิสัยท่านน่ารักน่าเคารพเลื่อมใส เราเทิดทูนท่านตลอดนะ หลวงปู่ฝั้นอัธยาศัยใจคอทุกสิ่งทุกอย่างเรียบหมดเลย ถึงขนาดนั้นยังถูกเราโจมตีได้ ฟังซิพระองค์นี้มันถอยใครเมื่อไร
อยู่ ๆ ก็พวกบ้ามันสร้างเหตุการณ์ขึ้นมา รวมหัวกันเต็มอยู่ในครัวของท่านยั้วเยี้ย ๆ พระก็ไม่มีองค์ไหนกล้าแตะต้อง มันจะตั้งโครงการขึ้นใหญ่โตเสียด้วย นิมนต์พระมาตั้งสองร้อยสามร้อย จะทำบุญใหญ่โตถวายอายุท่านครบรอบ เขาไม่มาปรึกษาท่าน เขาประชุมกันเรียบร้อยแล้ว ตกลงกันคนนั้นเอาอย่างนั้น คนนี้เอาอย่างนี้ไปหมดแล้ว มีแต่เขาโค้ง ๆ เราไม่โค้งใส่เปรี้ยงเดียวเอาหลงทิศไปเลย ทีนี้พระก็ไม่กล้าพูดว่ายังไง ไม่กล้ากราบเรียนท่าน เดี๋ยวพระก็จะกระทบกระเทือนไปด้วย คงอย่างนั้นแหละ พระไม่มีทางไปก็วิ่งมาหาเรานั่นละเรื่องมัน ตั้งหน้ามาเลยเชียว มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังต่าง ๆ นานา เหตุการณ์เหล่านี้มีแต่เรื่องเสียหายทั้งนั้น วงกรรมฐานไม่มีชิ้นดีเลย เสียหายหมด ตั้งอะไร ๆ ขึ้นมาไม่เห็นมีเหตุมีผลอะไรเลย
เราพูดจริง ๆ เรื่องเหตุกับผล ต้องไปกับเหตุกับผล เขามาเล่าให้ฟังละซี เวลากับพระเราไม่ตอบอย่างไรเลย เฉย ท่านมาเล่าให้ฟัง อะไร ๆ เล่าให้ฟังหมดเรื่องราวในวัด เราไม่ตอบสักคำเดียวเลย เฉย เหมือนไม่รู้ไม่ชี้นะ อย่างนั้นนะเฉย ฟังอยู่เฉย ๆ อย่างนั้นก็มี ไม่ตอบไม่ถามคำไหน เพราะพระที่เล่าให้ฟังมันแจ่มแจ้งหมดแล้ว ไม่ทราบจะไปถามอะไร ๆ จากนั้นพระท่านก็กลับไป อีกสองวันมั้ง เพราะจวนวันเข้าไปแล้วเราก็ไปเลยเทียว ไปก็บึ่งเข้าหาท่านเลย เด็กโจมตีผู้ใหญ่เข้าท่าดีนะ เหอ ๆ ขึ้นเลย ซัดผู้ใหญ่ ท่านใจดี เรามันอย่างที่เห็นนี่แหละ ยกเหตุยกผลมาอย่างนั้น ๆ พอรวบรวมมาแล้วนี้วงกรรมฐานจะเสียตรงนี้ มีแต่ครูจารย์เท่านั้นที่จะห้ามทัพนี้ได้ นอกนั้นไม่มีใคร พระมาบอกเราก็ไม่ได้กราบเรียนท่านนะ กลัวจะกระทบกระเทือนท่าน เป็นเรื่องของเราล้วน ๆ เก็บเรื่องทั้งหมดแล้วก็ขึ้นกราบเรียนท่านเลย ไม่บอกว่าใครมาบอกเราอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่บอก เอาความจริงเข้าใส่เปรี้ยง ๆ เลย
พอเสร็จแล้ว นี่ครูจารย์จะว่ายังไง เรื่องราวเป็นอย่างนี้ ครูจารย์จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้หรือครูจารย์จะพิจารณา ก็มีแต่ครูจารย์เท่านั้นจะชี้ขาดได้เรื่องเหล่านี้ นอกนั้นไม่มีในวัดนี้ ว่างั้น กระผมในฐานะเป็นลูกศิษย์มากราบเรียนให้ทราบ ด้วยความรักสงวนครูบาอาจารย์และคณะกรรมฐานของเรา เหอ ไม่ได้ ๆ ไม่ได้ก็ครูจารย์ต้องเป็นผู้ห้ามเอง ไม่ได้ ๆ ขึ้นเลยทันที ไม่ได้ก็ต้องเป็นเรื่องของครูจารย์ กระผมมากราบเรียนเฉย ๆ เรื่องราวเป็นความจริงอย่างนี้ ๆ พอเรามาแล้วท่านก็คงจะเอาใหญ่ละท่านะ เรื่องนั้นเลยหายเงียบไปเลย ก็มีแต่ท่านองค์เดียวเท่านั้น ท่านสั่งคำเดียวก็หมดเลย ทีนี้ท่านไม่รู้ซี เขาตั้งทัพอยู่ด้านหลัง ๆ รอบด้านไม่ให้ท่านรู้ พระท่านรู้หมดแล้วท่านมาหาเรา เราจึงไปเองก็เพราะสงวนครูบาอาจารย์วงหมู่คณะจะเลอะเทอะไปหมด เพราะหัวหน้าผู้ใหญ่ทำได้ ผู้น้อยต้องทำได้หมด ตรงนั้นตรงจะเสีย
วันเกิดองค์นั้น วันเกิดองค์นี้ ใครก็เกิด ไอ้หยองมันก็เกิด ทำไมไม่เห็นทำบุญวันเกิดมัน ไอ้หยอง ไอ้ปุ๊กกี้ นั่น ทำบุญวันเกิดองค์นั้น ทำบุญวันเกิดองค์นี้ เราโมโหนะ ของเราเราไม่ได้มีนะ เรื่องของเราแต่ก่อนใครมาแตะไม่ได้เลย อันนี้มีช่วยชาติบ้านเมืองเราก็เลยเฉย ๆ ไปเสีย เพื่อชาติบ้านเมืองไม่ได้เพื่อเรา เรื่องของเรามีอะไร พ่อแม่ครูจารย์เองท่านก็ไม่เคยมี จนกระทั่งท่านมรณภาพจากไปไม่เคยมีวันเกิดวันตายอะไรเลย ที่จะดำริขึ้นมาหรือพูดมาแย็บหนึ่งไม่เคยมี เราก็ไม่เคยมี เรื่องก็รู้กันอยู่แล้วยุ่งหาอะไร
สำหรับวัดป่าบ้านตาดนี้งานอะไร ๆ ไม่มีโดยเด็ดขาด ห้ามเด็ดขาดไม่ให้มายุ่งเลย แต่ก่อนเป็นอย่างนั้นตลอดมาไม่ให้ยุ่ง ให้มีแต่ภาวนาอย่างเดียว พระองค์ไหนไม่ทำอย่างนั้นควรไล่ออกจากวัดไล่ทันทีเลย นี่มันเลอะเทอะมาพอแล้ว หูหนวกตาบอดไปอย่างนั้นนะอยู่ทุกวันนี้ มันของดีเหรอ อยู่แบบหูหนวกตาบอด อดเอาทนเอาอย่างนั้น ก็เราไม่เคยทำมานี่ มันเลอะเทอะเสียจนแหลกหมด ไม่ว่าที่ไหนต่อที่ไหนเลอะเทอะไปตาม ๆ กันหมด
พระก็ต้องได้เอาอีกแบบหนึ่ง คราวนี้เด็ดขาดเลยไม่ต้องถาม เราสั่งให้ไปทันที ๆ ไม่ต้องวินิจฉัย ถ้าอะไรเราเห็นด้วยตาของเราแล้วให้ออกจากวัดได้ ไล่ทันทีเลย ไม่ต้องถามให้เสียเวล่ำเวลา เอาอย่างนั้นจริง ๆ ไม่เด็ดอย่างนั้นไม่ได้จะฉิบหายหมด ศาสนาจะไม่มีอะไรเหลือ พระเณรเข้ามาเลอะ ๆ เทอะ ๆ มองเห็นเก้ง ๆ ก้าง ๆ เอาแล้ว เปรี้ยงไล่หนีทันทีเลยไม่ให้อยู่ให้หนักวัด ผู้รักษา-รักษาอยู่ ผู้ทำลายเข้ามาทำลายหาอะไร เอาตรงนั้นซี ผู้รักษา-รักษาแทบล้มแทบตายรักษาอยู่ ผู้ไม่ได้หน้าได้หลังอะไรเข้ามาเหยียบมาถีบมาเตะมายันให้แหลกมันก็เสียหมดทั้งวัดล่ะซิ นี่ละถึงไม่วินิจฉัย ถ้าเจอด้วยตาแล้วเอาเลย ๆ ไล่เลยทันที
ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
“ พระอาจารย์มั่นสอนว่า การดูกิเลสและแสวงธรรม ท่านทั้งหลายอย่ามองข้ามใจซึ่งเป็นที่อยู่ของกิเลสและเป็นที่สถิตอยู่แห่งธรรมทั้งหลาย กิเลสก็ดี ธรรมก็ดี มิได้อยู่กับกาลสถานที่ใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่ที่ใจ คือเกิดขึ้นที่ใจ เจริญขึ้นที่ใจ และดับลงที่ใจดวงรู้ๆ นี้เท่านั้น
การแก้กิเลสที่อื่นและแสวงธรรมที่อื่น แม้จนวันตายก็ไม่พบสิ่งดังกล่าว ตายแล้วเกิดเล่าก็จะพบแต่กิเลสที่เกิดจากใจ ซึ่งกำลังเสวยทุกข์เพราะมันนี้เท่านั้น แม้ธรรมถ้าแสวงหาที่ใจก็จะมีวันพบโดยลำดับของความพยายาม
สถานที่ กาลเวลานั้น เป็นเพียงเครื่องส่งเสริมและกดถ่วงกิเลสและธรรมให้เจริญขึ้นและเสื่อมไปเท่านั้น เช่น รูป เสียง เป็นต้น เป็นเครื่องส่งเสริมกิเลสที่มีอยู่ในใจให้เจริญยิ่งขึ้น
และการเข้าบำเพ็ญในป่าเขา ก็เพื่อส่งเสริมธรรมที่มีอยู่ในใจให้เจริญยิ่งขึ้นเท่านั้น กิเลสแท้ธรรมแท้อยู่ที่ใจ ส่วนเครื่องส่งเสริมและกดถ่วงกิเลสและธรรมนั้นมีอยู่ทั่วไปทั้งภายในภายนอก “
หลวงปู่ขาว อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล บ้านโนนทัน
อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
( จากหนังสือบูรพาจารย์ )
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญ ท่าน
เจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วม
ในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ทุกๆท่าน…
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
โอวาทธรรมคำสอน:หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
จัดทำเผยแพร่เป็นธรรมทาน
ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
คนใจสกปรกเลวร้ายยิ่งกว่าสิ่งของสกปรก
ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น -
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
-
ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก
หน้า 740 ของ 796