ธรรมะเกลาใจวัยใส

​

​

​

​

หลายคนอาจจะมองว่า " ธรรมะ" เป็นเรื่องไกลตัวเด็กๆ แต่ใครจะรู้ว่าเด็กเหล่านี้เปรียบเสมือนผ้าขาว ที่ผู้ใหญ่จะแต่งแต้มสีอะไรลงไปก็สามารถเป็นดั่งใจหวัง "ค่ายรู้ทันใจ เซฟ ดิสคัฟเวอรี่ แคมป์ (Self Discovery Camp)" จึงเป็นอีกหนึ่งภูมิต้านทาน ที่เป็นเสมือนวัคซีนอ่อนๆ นำเอาสายกลางแห่งธรรมะ และยึดหลักการรู้ทันสติของตัวเอง มาแทรกสอนเพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้สึกตัว ไม่หลงใหลไปกับรูป รส กลิ่น เสียง และค่านิยมของสังคมสมัยใหม่มากจนเกินไป

ด้วยแนวคิดที่อยากเห็นเด็กไทยห่างไกลความวุ่นวายในเมืองหลวง ที่แวดล้อมไปด้วยสิ่งเร้าชวนหลงใหลให้นอกลู่นอกทางได้ตลอดเวลา กนิษฐะวิริยา ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์ พรีมา พับบลิชชิ่ง ผู้ก่อตั้งค่ายแห่งนี้เผยว่า ด้วยโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งวัตถุและเทคโนโลยี บวกกับครอบครัวสมัยใหม่ที่ไม่มีเวลาหันหน้าเข้าหากัน ทำให้เด็กที่เกิดมาในยุคนี้ค่อนข้างน่าสงสาร เพราะต้องอยู่กับค่านิยมของสังคมที่ไม่มีใครชี้แนวทางให้ได้ชัดเจนว่าถูกหรือผิดคืออะไร ซึ่งเด็กสมัยนี้สังเกตได้ว่าจะอยู่กับตัวเองไม่ได้ แค่นั่งนิ่งๆ สัก 5 นาทีก็ลำบาก ต้องหาเกม โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มาเป็นตัวช่วยในการคลายเหงา โดยสิ่งเหล่านี้เป็นการสื่อสารทางเดียวที่วัตถุไม่ได้มีส่วนในการพัฒนาจิตใจของเด็กเลย

"ค่ายนี้อยากให้เด็กไทยได้เรียนรู้ทักษะการเข้าสังคม การอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม การเรียนรู้จิตใจและคุณธรรมผ่านกิจกรรมทางการกีฬา ศิลปะ ใกล้ชิดธรรมะ ด้วยการพัฒนาจิตใจให้รู้ทันใจตัวเองมากขึ้น ธรรมะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของการพัฒนาทางด้านจิตใจได้ดีที่สุด มีการสอนแทนคำว่าผีให้ความโลภ โกรธ หลง ที่อยู่ในใจ สอนให้เด็กรู้เท่าทันว่าผีเหล่านั้นเข้ามาเยี่ยมใจ เมื่อเด็กๆ เข้าใจกายและใจของตัวเองก็จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น อย่างน้อยก็ได้รู้เท่าทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นในจิตใจได้" กนิษฐะวิริยา แจกแจง

สำหรับกิจกรรมที่สอดแทรกธรรมะและแง่คิดดีๆ ให้เด็กเข้าใจง่ายและสนุกไปพร้อมกับกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจ นั่นคือ การฝึกขี่ม้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ฝึกสติและสมาธิได้อย่างดี รวมถึงการสอนให้เด็กหัดแบ่งปันและรู้จักการให้ การฝึกงานศิลปะที่เด็กๆ ต่างแต่งแต้มสีกับจินตนาการที่ไร้ขีดจำกัดของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีที่ออกกำลังกายในยามว่างด้วยการเล่นเกมทั้งบนบกและในน้ำ ซึ่งทุกกิจกรรมยังหัดให้เด็กเข้าสังคมกับเพื่อนใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญที่สุดเด็กๆ จะได้เรียนรู้การหันกลับมารู้ทันใจตัวเองด้วย

ธนบดี พ่วงจินดา ผู้ปกครองของ "น้องแทรี่" วิภวานี อายุ 11 ขวบ เล่าว่า ค่ายนี้สอนให้เด็กรู้จักการเข้าสังคม รู้จักการคบเพื่อน เพราะเด็กจะได้อยู่ในกลุ่มเด็กที่มีช่วงอายุหลากหลาย ทั้งที่เป็นน้องกว่าและเป็นพี่ที่โตกว่า ทำให้เขารู้ว่าต้องปฏิบัติตัวเป็นพี่ที่ดี เป็นน้องที่ดี และเป็นเพื่อนที่ดีได้อย่างไร

"เมื่อมีธรรมะที่เข้ามาขัดเกลาจิตใจของเด็ก จะสังเกตได้ว่าน้องแทรี่มีสมาธิมากขึ้น สามารถอ่านหนังสืออยู่กับตัวเองได้นานขึ้น และผลของการฝึกสติและสมาธิเหล่านี้ ช่วยทำให้เด็กความจำดีและมีจิตใจดีด้วย อย่างน้อยผลลัพธ์จากค่ายนี้ คือ เขาสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองกับจิตใจของตัวเองได้ ทำให้การมีชีวิตอยู่ในสังคมกับเพื่อนๆ ได้รู้จักแบ่งปัน ให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ"

ส่วน "น้องเจสซี่" พริมา หิมะทองคำ วัย 12 ปี หนึ่งสาวที่เข้าร่วมค่ายดังกล่าวเผยว่า ค่ายนี้สอนให้รู้จักผี มีทั้งผีขี้โลภ ผีขี้โกรธ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทุกคืนตอนส่งการบ้านเธอจะคอยนึกว่าวันนี้ไปเจออะไรมาบ้าง เวลาเล่นกับเพื่อนก็จะเจอผีขี้โกรธ ทำให้รู้ได้ว่าต้องทำอย่างไรเวลาผีขี้โกรธเข้ามาเยี่ยมใจ ส่วนตัวแล้วชอบกิจกรรมนั่งสมาธิและเดินจงกรม เพราะทำให้เธอได้ฝึกจิตใจให้อยู่กับตัวเองได้

สำหรับค่ายรู้ทันใจสำหรับเด็ก จะจัดขึ้นอีกครั้งระหว่างวันที่ 23-27 มีนาคมนี้ โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาการเรียนรู้ด้วยการฝึกสติและสมาธิอย่างมีความสุข ผ่านกิจกรรมที่หลากหลายผสานการเรียนรู้และคุณธรรมอย่างสมวัย ใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.primapublishing.co.th

http://www.komchadluek.net/detail/20100225/49648/ธรรมะเกลาใจวัยใส.html

 

​

อนุโมทนา สาธุการค่ะ​

 

ดีครับมีค่ายแบบนี้ ช่วยฝึกเด็กๆให้มีสติ มีสมาธิ

ขออนุโมทนาบุณด้วยครับ

และขอให้มีค่ายแบบนี้ตลอกไปนะครับ