นาม คือคู่ปรับของ รูป จริงหรือไม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Deejing007, 26 เมษายน 2018.

  1. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    คับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019

    จุดเริ่มต้น ไอ้นอกคอก ขี้โม้ ที่มันมาถามข้าพเจ้าว่าจิตละเอียดแค่ไหน
    ตอบว่า ปกติคนธรรมดา ไม่ได้ละเอียดอะไรหรอก
    แต่มะรึงพูดประมาณว่า จิตมะรึงละเอียดมาก
    แต่ไหน ในนี้ มะรึง ตอบไป 8 Rep แต่แก้ไข 5 Rep
    คือที่จะโม้ว่าตนเองจิตละเอียดเปล่า ๕๕๕๕

    เด่วจะขยายให้ดูนะ...เริ่มจาก Rep #8
    เริ่มด้วย บันทึกพระอานนท์ ตามด้วยพุทธพจน์ และไปทิเบต
    และก็อาจารย์
    เปิดด้วยการอ้างเอาหลักครูอาจารย์ท่านแสดงมาลงไว้
    แต่ไม่มีที่มา แหล่งอ้างอิง เค้าเรียกว่า ไม่รู้จักมารยาท
    โดยมากพวกแบบนี้ต่อไป มันจะเสริมความคิดตัวเอง
    และก็ยกตัวเอง และโม้ตัวเอง พอมีคนแย้ง เด่วมันจะย้อนเล่นคืน
    ต่อมา ใน Rep # 23 มันก็เอาคำสอนมา
    แต่ไม่อ้างอิงที่มาเช่นกัน ปกติสันดานแบบนี้
    ถ้าไม่มีคนขัด มันก็จะเริ่มแทรกความคิดตนเองเข้าไป.....

    ข้างล่างคือ Rep #23

    ยังไม่มีใครขัด มัน เด่วมันจะก๊อบมาลงต่อ แต่ยังติดสันดาน
    ให้คนคิดว่า เป็นธรรมของมัน เพราะยังไม่อ้างที่มา ต่อมา
    มันก็ ก๊อบปี๊ มาลงใน Rep#24


    มาแระสันดานเริ่มจะโผล่ นิสัยปกติของพวกที่ไม่อ้างที่มา
    ท้ายๆมันจะแทรกความคิดตนเองมาเสริม...จะบอกอะไรนะ
    การกระทำที่ยังมีตัวกระทำ มันเป็นมิจฉาหมดนั่นหละ ไอ้ฟาย..

    ต่อมา Rep#25 และ #26 มันอ้างแระว่า เป็นบันทึกครูอาจารย์
    ทีเด็ดอยู่ที่ Rep#27 เริ่มโม้แระแบบไม่รู้ตัว ทีเด็ดมีดังนี้
    ตามข้อความข้างล่าง ประโยคล่างสุด ข้อความก่อนหน้าคือมโน
    อย่าเผลอไปอ่านนะครับ เด่วจะขี้โม้ หลงตัวเองเหมือนมัน
    จึงขอลบออก เอาแต่ประโยคเด็ดสีแดงไว้

    ดูมันโม้ตั้งแต่เรื่องพระธาตุเอามาอ้างถึงการปฏิบัติมัน...ไหนเอามาดูซิ
    ว่าเป็นใยขาวๆหรือเปล่า หรือเป็นองค์กลมๆหรือแบบอื่นทั่วไป ๕๕๕
    ตามด้วยโม้ว่า แสวงหา แต่ละท่านที่ทรงอภิญญา บอกเป็นนัยๆว่า
    มันต้องไม่ธรรมดา ๕๕๕
    แล้วเอามาทุกตัวอักษรแต่แต่งคำให้เหมาะสม นั่นหละเข้าเรียกแทรกแซง
    ไอ้ฟายยยยยย แล้วก็โม้สรรพคุณบุคคลที่มันไปเอาคำสอนเค้ามา
    ให้ตัวมันดูน่าเชื่อถือ ไม่เกี่ยวกับท่านที่ ไปอ้างเค้ามานะ ...


    ตรงนี้ มันเริ่ม แถแล้ว ใน #Rep 27 ที่มันโม้ ได้ทำเป็นตัวสีเขียวไว้แล้วก่อนหน้านี้
    ''ด้วยความที่ผมแสวงหาอาจารย์จึงมีอาจารย์ทั้ง พระ พราหมณ์ และฆราวาส ที่ทรงอภิญญา เรื่องปฏิจสมุปบาท''
    ''ผมไม่ได้บอกว่าฆราวาสที่ทรงอภิญญา ถ้ากลับไปดูดีๆผมบอกว่าผมมีอาจารย์ทรงอภิญญาหลายท่าน พระ พราหมณ์ ฆราวาส''

    ย้อนอ่านเอาเองนะ
    ว่าอย่างนี้ใช่พวกวิกลจริตไหม ๕๕๕๕๕ คือ มะรึงยังงง
    ที่มะรึงพิมพ์เองเลย...๕๕๕
    นี่คือ Rep หลังๆที่มันพยายามพูดเหมือนดี เอาภาพพระพร้อมคำสอน
    มาลง แต่มันไม่รู้ตัวหรอก ว่ามันทำอะไรลงไป อ่านดูซะ ๕๕๕
    ก็เพราะโม้ก่อน
    หนักไปทางแก้ต่างเนาะ เพราะตัวเองเอามาอ้างไว้ ๕๕๕๕
    ก็จะบอกว่า มะรึง อย่ามโน และอย่าเอาไปเปรียบกับท่าน พระจุฬฯ
    เพราะมะรึงไม่มีวาสนา หรือ สะสมบารมีมาเหมือนท่านหรอก
    แค่สายใยเกาะองค์พระ หรือการเปลี่ยนแปลง
    ตามธรรมชาติของเนื้อวัสดุผสม มะรึงยังมโนว่าเป็นพระธาตุ
    เอามาอ้างว่าตนเองปฏิบัติ

    แล้วมา

    สะเอ่อ เล่นเรื่องจิตละเอียด จะพามาดูพวกทำเป็นพูดเชิงดูถูกคนอื่นๆเรื่องจิตละเอียดนะ เล่นว่าอ้างฤิทธาด้วยการจับคำผิด เอ้าเห้ย!!!!! ไหนว่า เป็น ดร.อักษรวะ คำว่า ฤิทธา เขียน
    อย่างนี้ ไม่ใช่ ฤทิธา นะเว้ย ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
    ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

    รู้สึกไงบ้างเวลาโดนบ้าง

    ไหน พูดว่า จิตผมละเอียดแค่ไหน แล้ว มะรึงละเอียดแค่ไหนวะ
    เวลาท้าเรื่อง แสดงความสามารถต่อหน้าท่าน
    ที่มะรึงเอามาโม้ทำไมเงียบ วะ ๕๕๕๕

    นี่หละ เลยโดน วันนี้ที่เขียนได้เยอะเพราะใช้คอมนะ ไม่ได้พิมพ์ในมือถือ
    เหมือนช่วงแรกๆที่ตอบ..

    ๕๕๕๕๕ ญาติคุณมั่ง ๕๕๕๕ เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นๆ
    ย้อนไปอ่านก่อนหน้าที่มะรึงเขียนบ้างนะ ๕๕๕๕๕
    เด่วมะรึง จะรู้ว่า ต่อไปอาการวิกลจริตจริงๆ จะเป็นอย่างไร
    สังเกตุกิริยาคนรอบๆตัวมะรึงที่เค้าจะแสดงกับ
    มะรึงไว้แล้วกันนะ ถ้ามะรึงสังเกตุออกนะ ๕๕๕
    เพราะคนวิกลจริตมันจะไม่รู้ตัวหรอก ๕๕๕๕
    ลองย้อนไปศึกษาอดีตบุคคลที่เคยมีเรื่องกับข้าพเจ้ามา
    ให้ดีๆนะครับ ว่าแต่ละคนเป็นอย่างที่ข้าพเจ้าได้พูดหรือเปล่า
    ด้วยความที่ คะนองปาก กลัวเสียหน้า ตามสไตล์พวกขี้โม้
    แต่ไร้ความสามารถ อิอิ
    เอ่อ..ความคิดมะรึง ระยำใช้ได้เนาะ ช่างคิดได้
    ส่วนตัวไม่ได้พูดเรื่องไม่ดี แต่พูดเรื่องที่ มะรึงเป็น
    ถามจริงๆ ไม่รู้ตัวเลยหรือ ๕๕๕๕๕๕

    โห้ มะรึง นึกว่า จะขี้โม้เรื่องธรรม เรื่องพระธาตุ เรื่องนัยๆว่า
    มีความสามารถจากการที่มีแต่ท่านที่ทรงอภิญญาสอนมะรึง
    และถนัดแดกดัน ยัง มีการสร้างภาพเป็นด้วยเว้ย......
    พึ่งสมัครเดือน มีนา ปีนี้เอง ๕๕๕๕๕ กะจะมาโม้ซักหน่อย
    ดันเจอคนมาขัด ๕๕๕๕ เลย
    เริ่มใช้คำพูดถ่อมตัว เพราะก่อนหน้านั้นเถียงไม่ออก ๕๕๕๕
    และไม่กล้ารับคำท้า แถไปก็สู้ไม่ได้ ๕๕๕๕๕
    เพราะเอาแต่เรื่องจริงมาพูด มันเลยไม่กล้าเถียง ๕๕๕
    ใครเป็นครูอาจารย์ ที่มะรึงพยายามกล่าวหา ข้าพเจ้า
    ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้ ในเวบนี้เค้ารู้มานานแล้ว..


    พอแหละ แค่นี้ ก็เพียงพอให้หน้าแหก (จากการเล่นเรื่องไม่เป็นเรื่อง
    จนกลายเป็นเรื่อง เอาภาพเอาคำสอน มาอ้างเถียงกับข้าพเจ้าดีนัก
    เลย ไปไม่เป็น โดนคืนบ้างเป็นไง หลักฐานมันฟ้อง ๕๕๕)

    และแสดงธาตุแท้ ความสามารถทางธรรม(ที่อ้างแต่ตำรา
    พอเสริมความคิด รู้เลยว่า ไม่ได้เรื่องเลย มโน ล้วนๆ ๕๕๕)

    ความสามารถทางจิต(ที่โม้ว่ามีแต่ท่านทรงอภิญญาสอนมัน)
    นาย รัศมีศูร ออกมาได้แล้ว....
    มันไม่รู้จะเล่นมุขไหน ก็เลยอ้างพรหมวิหารแบบครูอาจารย์
    แสดงว่า มันอยากให้คนอื่นๆนับถือมันเป็นอาจารย์ ๕๕๕๕๕
    มิน่า โม้สร้างองค์ประกอบ ตัวเองมากมายเหลือเกิน ๕๕๕
    ก็บอกแล้ว ว่าถ้าไม่เบรค คงโม้ไปนอกโลกแล้ว ๕๕๕
    หรือนอก จักรรรรร วาลลลลลลล ๕๕๕๕

    ปล. เด่วก็รู้ อีกไม่นานหรอก จะบอกอะไรให้นะ
    อาการวิลจริต มันจะเริ่มจาก สัญญาวิปลาสก่อน
    มาจาก การยึดในสิ่งที่ตนคิด และการชอบยก ชอบอ้าง
    ดึงเอาของสูงมาเล่น เอามาเสริมความคิดตน
    โดยเฉพาะเอามาข่ม มาทับบุคคลอื่นๆ
    พอเสียหน้า เนื่องจากติดในการอยากได้รับการสรรเสริญ
    เป็นเหตุให้ปากพล่อย กล่าวความเท็จ ในเรื่องไม่จริงเพื่อ
    ยกให้ตนเองดูดีกว่าบุคคลนั้นๆ โดยไม่มองหลักความจริง
    เป็นเหตุให้การปฏิบัติของตนเองแป๊กในชาตินี้ไม่พอ
    ความเข้าใจทางธรรมก็จะไม่พ้นความคิด เพราะพฤติกรรม
    เหล่านี้จะกลายเป็นวิบากมาขวาง....
    เล่าให้ฟัง ในอนาคตอันไกล คุณวิกลจริตมา
    เด่วจะหาว่าข้าพเจ้ามีส่วนเกี่ยวข้อง..
    .

    แต่ ไม่ต้องเอาคาถา และเอารูปท่านมาลงหรอก
    คุณ ไม่มีความสามารถทางจิตพอนะ ทำอะไรใครไม่ได้หรอก
    อายเค้า กับคนธรรมดาแบบข้าพเจ้า ทำอะไรไม่ได้หรอกนะ
    เอาไปเล่นไกลๆนะมุขนี้...๕๕๕
    จำไว้ก่อน ชื่อ นี้ รัศมีศูร หรือ รัศมีศูนย์ เขียบแบบนี้เปล่าว๊าาาาาาา
     
  3. รัศมีสุริยา

    รัศมีสุริยา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +53
    94F51A07-D2A0-4E58-9AAD-274050E29138.jpeg F68CC416-A98C-4E0B-BBCA-D798465DD6CD.jpeg 9289F15A-AED7-4823-9B01-2A2CA09D067F.jpeg 1.จึงจะเห็นได้ว่า สติสำคัญมาก และยังต้องเป็นสติ ประกอบด้วย วิริยะ สมาธิ และปัญญาอีกด้วย จึงสามารถกำหนดเห็นการเกิด-ดับในขั้นปรมัตถธรรม

    2.และถึงแม้ในขณะที่ยังเป็นขั้นสมมุติบัญญัติเราก็ยังได้ประโยชน์มหาศาลจากกำหนดสติในทุกเรื่องราว แบ่งเป็นสติเบื้องต้น สติท่ามกลางและสติบั้นปลาย ไม่ว่าทำงานเล็กน้อยตั้งแต่กวาดบ้านถึงงานใหญ่ก็จะไม่มีผิดพลาดครับ

    ถ้าติดใจท่อนนี้
    ข้อที่1.ลอกมาจากหนังสือ
    ข้อที่2.คุยกับพระที่รู้วาระจิตมาแล้วเอามาเสริมท่านพูดถึงประโยชน์ของสติแม้แต่เวลาเคี้ยวข้าวแค่เอามาเสริมไว้สำหรับมือใหม่

    วิตกจริต นี่ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า

    ส่วนเจตนารมย์ก็ได้แจ้งไปแล้วชัดเจน

    เขียน ไว้เป็นอาจาริยบูชาครับ
    เมื่อราว 10 ปีก่อนผมช่วงหยุดสงกรานต์ผมได้ไปฝึกปฏิบัติกับอาจารย์ท่านนี้เป็นเวลา 7 วันแล้วกลับมาปฏิบัติต่อที่บ้านในช่วงหลังจากออกพรรษาผมเตรียมจะสรงน้ำพระพบว่ามีพระธาตุเสด็จมาในองค์พระนี่จึงเป็นสิ่งยืนยันถึงการปฎิบัติชอบในแนวทางนี้ ด้วยความที่ผมแสวงหาอาจารย์จึงมีอาจารย์ทั้ง พระ พราหมณ์ และฆราวาส ที่ทรงอภิญญา เรื่องปฏิจสมุปบาท จึงนำมาจากหนังสือของอาจารย์แทบทุกตัวอักษรจะปรับแต่งคำให้เหมาะสมเสริมความเข้าใจเพียงเล็กน้อย และเสริมในเรื่องเดียวกัน จากพระที่ทรงอภิญญาเพียงเล็กน้อย

    ถึงได้แจ้งว่ามีการปรับเสริมเพิ่มเพียงเล็กน้อยโดยที่ใจความสำคัญไม่ได้แก้ไข
    และไม่ได้ยกหูชูหางอะไรเพียงแค่ต้องการสร้างศรัทธา ตามหลักธรรม พละ๕ ที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ ประกอบด้วย ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และ ปัญญา ต้องเริ่มที่ศรัทธา เพื่อ บอกว่าการเดินทางไปไหนต่อไหนให้ถึงจุดหมายนั้นมีหลาย(วิธีแบบนี้ก็มีอยู่)จะนั่งรถบรรทุก ก็ได้
    นั่งรถเก่งก็ได้ นั่งเครื่อง คูโบต้าก็ยังได้ ส่วนใครจะชอบแนวไหนอันนี้แล้วแต่ปัญญา วาสนา ความชอบแต่ละบุคคล
    เจตนาผมตั้งแต่แรกคือเอาแนวทางมาวางไว้ถ้าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งทางเลือกไม่ใช่ทางบังคับที่ต้องยึดแนวทางเดียวคนทั่วไปก็ควรรู้ว่ามีทางเลือกอะไรบ้างใช่ไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2018
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    อ่านดูก็รู้ว่า มโน เสริมความคิดตนเอง ในข้อ 1.ข้อ 2 คือ มั่นใจตัวเอง
    แบบความสามารถระดับมโนไง ยังไม่รู้ตัวอีก ๕๕๕๕

    พอมีคนเห็นแย้ง อ้างว่า คุยกับพระที่รู้วาระจิต ไม่ได้ติดใจหรอกตรงนี้
    แต่ตรงที่ว่า มะรึง เอามาเสริมมโน สิ่งที่มะรึงคิดไง ๕๕๕๕
    คือ มะรึง ณ อ่อนหัด ทำเป็นพูดเรื่องสำหรับมือใหม่ ตัวมะรึงเองนั่นหละ มือใหม่ ๕๕๕

    เรื่องวิกลจริต ไม่ได้เข้าใจผิดนะ ไอ้คนจะวิกลจริตในอนาคตอย่างมะรึง
    จะมีนิสัยอย่างนี้หละ กลับไปอ่านนะ ว่าตัวมะรึงเองที่เขียนว่า
    ข้าพเจ้าเขียนด่า มะรึงไง หลักฐานก็มี ยังหน้าด้านแถเนาะ ๕๕๕๕๕

    ไม่ได้ยกหูชูหาง แล้วไอ้ภูมิจิตอสูรกาย ตนไหนวะ
    ที่เขียนชื่อมันตกไป แล้วมันโม้ทับถามคืนว่า จิตละเอียดแค่ไหน ๕๕๕
    ไอ้เดรัชฉานตัวไหน ที่มันถามกลับว่า ข้าพเจ้ามีธรรมแค่ไหน

    (ถ้าไม่คิดว่า ตัวเองแน่ จะไม่ถามคนอื่นๆกลับแบบนี้หรอก
    ก็นึกว่า มะรึงจะแน่ พอดูแล้วก็ไอ้ขี้ป๊อด ความสามารถอ่อนหัด
    ถ้าไม่คิดจะมีชื่อเสียง มันไม่ยกคำสอนครูบาร์
    มาเก๊ทับหรอก แต่พอโดนท้าไม่กล้า ๕๕๕)

    ไอ้นรก ตัวไหน ที่มันก๊อบเอารูปอาจารย์ มีคำสอนมาคอยใส่ความข้าพเจ้า
    แล้วตัวมันกลับแสดงนิสัยเป็นซะเอง.....ไม่เข้าใจผิดหรอกเรื่องวิกลจริต ๕๕๕
    เด่วคอยดูนะ ว่า การแสดงกล้าม เอารูปอาจารย์มาลงกล่าวหาคนอื่นๆ
    แล้วทำเป็นลงท้ายด้วยบทคา ของภูมิจิตอสูรกาย ไร้กำลังจิต
    ไร้ความสามารถอย่างมะรึง กับข้าพเจ้าอนาคตผลจะเป็นอย่างไร ๕๕๕

    ๕๕๕๕๕ ไอ้ รัศมีศูร บอกว่า เจตนาผมตั้งแต่แรกคือเอาแนวทางมาวางไว้
    ถ้าพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งทางเลือกไม่ใช่ทางบังคับ ๕๕๕๕๕๕๕๕
    ใครบังคับ ไม่มีมีหรอก แต่ที่รู้ว่า มะรึง มโน เพราะตอนที่ มะรึง เขียนเสริมนั่นหละ.....

    ๕๕๕ เอาไปไกลๆเหอะ แนวทางมโน ไปที่อื่นนะ..
    ไม่ได้ยกชูหางอะไร กระทู้ สุดท้าย มะรึง ยังโม้เรื่อง
    เสริมคุยกับพระรู้วาระจิต ยังคุยอีกเรื่องพระอภิญญาที่เคยมะรึง ๕๕๕๕
    คือ มะรึง เอามาโม้ทับไง เหมือนมะรึงเก่งปาก

    แต่พอท้าแสดงความสามารถ ต่อหน้าท่านที่มะรึงโม้
    ทำไมไม่กล้ารับ......ที่ตอนสะเอ่อ ดูถูกคนเรื่องจิตละเอียด
    ทำไมถึงเก่งหนัก ปากดีว่า เขียนเหมือนคนวิกลจริตปากดีจัง

    ท้ายนี้ ยังกล้าโม้เรื่องพระธาตุ ๕๕๕๕๕
    บอกแล้วว่าเป็นใยๆนึกว่าจะสีขาว ๕๕๕๕
    ใยๆ แบบนี้ ๕๕๕๕
    มะรึงไม่เคยเห็นหรือ แบบนี้เกิดจาก
    วัสดูที่ใต้ฐานองค์พระ ๕๕๕๕๕๕
    พระธาตุจะเป็นองค์ๆหรือเป็นชิ้นๆ ๕๕๕๕๕
    มิน่า มะรึงถึงได้ มโนเก่ง ฉิบ ๕๕๕๕๕๕๕๕

    ไม่ต้องมาแถหรอก ถ้ามะรึงไม่ติดสรรเสริญ
    จะโม้รอบตัวมะรึงเพื่อ
    ถ้าไม่มีสันดานเอาดีเข้าตัว เอาชั่วเข้าคนอื่นๆ
    จะก๊อบเอารูปพระมาว่า คนอื่นๆ
    แล้วอ้างเรื่อง พรหมวิหารเกี่ยวกับอาจารย์เพื่อ???

    ก็บอกแล้วมุขพวกนี้ ในพลังจิตห้องนี้มีเยอะ
    มันไม่ค่อยมีคนเบรค......

    ว่าแต่ เส้นใยไปล้างออกซะ
    แล้ว ว่าข้าพเจ้าจิตละเอียดแค่ไหน
    มีธรรมแค่ไหน ก็บอกแล้วว่าข้าพเจ้าคนธรรมดา
    ทำไมไม่รับแสดงความสามารถต่อหน้า
    ท่านที่มะรึงโม้วะ......

    เรื่องทางธรรมอื่นๆเถียงไม่ได้
    พอจะด่าเค้าอื่นๆ ก็โดนแย้ง...
    สุดท้าย หน้าด้านจริงๆ ...
    เรื่อง พระธาตุแบบใยๆ.....นึกว่าใยสีขาว ๕๕๕๕
    พูดไปแล้วเรื่องพระธาตุ แต่มะรึงยังมั่นใจ
    เพราะหลงสภาวะ หลงตัวเอง
    เลยโชว์โง่ เอาหลักฐานมาคนอื่นๆได้ดู ๕๕๕๕๕

    ปล. ถ้ามีอะไรไม่จริงก็แย้งมา
    ไม่ต้อง แถมาก ทำไม ไม่เก่ง
    เหมือนที่โม้ ตอนที่ชอบเอาภาพพระมีคำสอนมา
    ทับถมคนอื่นๆ ไม่เก่งเหมือนตอนที่ปากดูถูกคนอื่นๆวะ......

    ไอ้ รัศมีศูร........๕๕๕๕ แถและโม้ได้ทุกสถานการณ์
    ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ จบ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ถ้าเอาทางด้านตำราที่ ไอ้ขี้โม้ พยายามเอามาลง....
    การที่ยังมีตัวกระทำมันเป็นมิจฉาหมดนั่นหละครับ
    และการที่ไปกำหนดบวกองค์ธรรมอื่นๆ
    ถ้าทำให้วงจรมันจบลงไปได้
    โลกนี้จะมีคำว่าปัญญาญานที่เข้าไปรู้เหตุแห่งการเกิดดับได้อย่างไร

    จิตมันจะไม่ยึดมั่นถือมั่นได้ มันต้องรู้ถึงขั้นเหตุของการเกิดได้
    และเหตุของการดับได้ ไม่ใช่มโน เอาองค์ความรู้โน้นนี่นั้น
    มาประกอบเสริม เจือกสะเอ่อ ทำเป็นพูดบอกคนอื่นๆว่าคิดเอาไม่ได้
    ตัวมะรึงเอง คิดมโนเองแบบเต็มๆ ไม่รู้ตัว ๕๕๕
    ดูความสามารถทางจิตของมะรึง กับนิสัยขี้โม้
    เสียหน้าไม่ได้ก็พอรู้ ๕๕๕๕
    ทางปฏิบัติมันไม่ใช่แบบ
    ข้อความในตำราที่
    ไอ้ รัศมีศูร มันเอามาพยายามลงหรอก

    มันระดับเด็กมโมเอาก็ได้.....
    ก็เพราะมันยึดตำราแบบนี้....
    นิสัยและความสามารถมันจึงเป็น
    อย่างที่ผ่านๆมานั่นหละ......
    จิตมันถึงละเอียด มองเส้นใยจากใต้ฐานรององค์พระเป็นพระธาตุได้
    ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕.

    พูดตั้งแต่ #Rep แรกแล้วว่าไม่ได้จะดูถูก...
    แต่ก็ยังพยายามยัดคำสอนแบบมโนๆ กำหนดเอา
    กำหนดโน้นบวกองค์ธรรมนี้.....
    คัดคิดซะบ้างว่า มันง่ายไปไหน......

    ถ้ามะรึงสำเร็จผล ถึงขั้นมีพระธาตุสายใยที่ขึ้นจาก
    ที่รองฐานพระจริงๆ ๕๕๕

    ทุกวันนี้ ไอ้ รัศมีศูร มันจะไม่โม้ ไม่อ้าง ไม่แถ
    เสริมตนเองและเอาคำสอนครูบาร์อาจารย์
    มาทับคนอื่นๆ หรือแสดงความโง่ๆอะไรแบบนี้ออกมาหรอก

    เพราะฉนั้นคำสอนแนวมโน คิดปรุงเอง แต่จิตเข้าไม่ถึงแบบนี้
    เอาออกไปไกลๆจากเว๊บ หรือ มะรึงเก๊บไว้ศึกษาคนเดียวเหอะ
    ฟายยยยยยยยยย

    ฝึกชาตินี้ ยันโลกระเบิด ก็หยุดวงจรที่เอามาโม้ไม่ได้หรอก
    แค่สภาวะมโนระดับเด็กๆอนุบาลหลงตัวเอง ขำกลิ้ง....
     
  6. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    เขากลายเป็นปอบไปแล้วละครับ
    พอเถอะ
    คนรอบข้างในสำนักต่างรู้ว่าคนผู้นี้เป็นเช่นไร
    จะได้เข้ามาอ่านมั้ยน้อ
    คิดว่าไม่
    เพราะวิบัติไปแล้ว
     
  7. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อภัยทาน
     
  8. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    เดือดร้อนในตนก็น่าจะเพียงพอแล้ว อย่าทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะตนเองเลย ดีของเราอาจไม่ใช่จะดีต่อทุกคน มุ่งทำดีก็ทำดีไป ถึงไม่บอกใครก็ตัวเราเองนั่นแหละที่รู้ จะร้องขอให้ใครเห็นตามคงไม่ใช่ฐานะ ถ้าอ้างเรื่องพุทธบริษัท จงพิจารณาดีดี ว่าใครมีหน้าที่อะไรและต้องทำยังไงถึงเรียกว่าตามหน้าที่
     
  9. รัศมีสุริยา

    รัศมีสุริยา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +53
    542A014D-CE29-4E14-B4F2-E567E3C4FDC2.png 542A014D-CE29-4E14-B4F2-E567E3C4FDC2.png ตำรานี้แหละอาจารย์ จำลองเขียนผมไม่ได้แต่งเอง
    เหตุที่ผมเอามาลงเพราะผมไปปฏิบัติสายพุธโธแล้วไม่ตรงจริตก็เท่านั้นเอง
    เพราะความต้องการพื้นฐานต่างกัน สติปัฏฐาน ๔ ต้องการสมาธิขั้นขณิกสมาธิเพื่อเริ่มต้น ส่วนอานาปานสติ ต้องการกำลังที่สูงกว่านั้น สภาวะธรรมที่เกิดขึ้นก้อต่างกันไป
    ท้ายแล้ว B3462404-4B04-4AFB-9C8A-5D78502BFFED.png ก็ต้องมากำหนดดูอารมณ์ ดูความคิด มองดูธรรมชาติการเกิดดับของความคิด อารมณ์ ที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ทุกข์มิใช่หรือ

    ผ้ารองพระกริ่งเป็นสีแดงเอาเป็นว่าผมปฏิบัติตามแนวของหลวงปู่ทอง สิริมังคโลเป็นกรรมฐานาจารย์ แล้วท่านมาเป็นกำลังใจเท่านั้นท่านไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร

    หนังสือของอ.จำลอง การอธิบายของท่านเอามาลงไว้เผื่อเป็นประโยชน์เป็นทางเลือก ในโลกออนไลน์ มีข่าวลือข่าวจริง ข่าวเท็จ มากมาย ผมเชื่อว่าผู้อ่านสามารถแยกแยะได้ หากไม่ดีไม่มีประโยชน์ก็จะไม่มีใครสนใจให้ความสำคัญในที่สุดขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    IMG_5288.JPG

    ยังปัญญาอ่อนเหมือนเดิม นะ ไอ้ รัศมีศูร
    ยังขี้โม้เรื่องอาจารย์ดึงท่านลงมาเสริมกิเลส
    การอยากได้รับการยอมรับนับถือตนเองจากสังคม
    วิบากตรงนี้มะรึงรับไปเต็มๆ ไอ้ศิษย์นอกคอก
    ถ้าเก่งเหมือนที่ปากโม้เชิงดูถูกคนอื่นๆไว้ยังพอรับได้
    แต่ไม่มีความสามารถทางจิตในระดับใช้งานได้
    แต่ยังกล้าปากดี เพราะมะรึงติดการสรรเสริญ
    เลยเสียหน้าไม่ได้ไง ไอ้ฟายยย รู้ตัวบ้าง

    นี่พระสรีระเสด็จ จะเป็นวงกลมเล็กๆขึ้นอยู่กับว่าจะสีอะไร
    ส่วนองค์ใหญ่กว่าเค้าเรียกพระธาตุรูปร่างไม่แน่นอน
    บางส่วนที่ข้าพเจ้ามี พระสรีระเสด็จมาเอง
    บางส่วนก็ได้มาจากญาติของอดีตสมเด็จพระสังฆราช
    ซึ่งก็มีเสด็จมาเพิ่ม และก็มี
    ที่ใช้สมถะเรียกมาก็มี แต่ไม่เอามาโชว์หรอก
    เพราะข้าพเจ้าไม่ใช่คนหลงตัวเอง

    เพราะบอกไปแล้วว่า
    การมีไม่ใช่ตัวชี้วัดว่ามะรึงจะเป็นคนดี
    หรือบอกได้ว่ามะรึงมีความสามารถทางจิต
    หรือมีคุณธรรมดีอะไรกว่าใคร
    ถึงกระทั่งที่มะรึงจะเอามาโม้มาอวดใครได้หรอก


    บางทีพระสรีระก็ขยายได้
    ซึ่งการที่จะมีได้ย้ำว่า มันไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นคนเก่ง
    หรือเป็นคนดีห่าเหวอะไรหรอก
    หรือเป็นตัวบอกว่า ตัวมะรึงปฎิบัติถูกทาง
    แล้วจะเที่ยวได้เอาเรื่องนี้มายกตัวเองมาโม้ยกตนว่า
    มีแต่ท่านมีอภิญญาสอนมะรึง
    หรือธรรมะระดับมโนกำลังแค่หางอึ่งอ่างแบบมะรึง
    จะเป็นธรรมะที่ถูกทางหรอกไอ้ฟายยยยย

    แบบที่ มะรึงเอามาลง เป็นสายใยที่ขึ้นวัสดุ
    ที่ใช้ติดฐานองค์องค์พระ แบบนี้มีทั่วไปอยู่หาได้ในกรอบ
    พระเครื่องทั่วไปทางวางไว้แล้วเราไม่ได้เคยจับมาดูแล
    สามารถเกิดขึ้นได้ปกติ ถ้ามะรึงเอาวางบนพานเฉยๆ
    น้ำหน้าไอ้ขี้โม้ชอบเอาท่านที่สอนมาอ้าง
    แล้วสเร่อทำเป็นพูดเรื่องความละเอียดของจิตกับ
    ข้าพเจ้า แต่พอท้าแสดงความสามารถต่อหน้าท่านที่มะรึงโม้
    แต่ทำเป็นเงียบอย่างมะรึง ชาตินี้คงไม่ได้เห็นหรอก

    คำผิดใครก็เขียนผิดได้ แต่สันดานที่คิดว่าตัวเอง
    เก่งกว่าใครเลยทำให้มะรึงแสดงธาตุแท้ออกมา


    จำไว้อย่าเอาของสูง ดึงของสูงมาอ้าง สิ่งที่มะรึงทำได้จริง
    สิ่งที่มะรึงถ่ายทอดออกมานั้นหละ เค้าจะพอคาดได้ว่าใครสอน
    แต่มะรึงต้องทำได้ก่อนนะ ไม่ใช่อยู่ระหว่าง
    ไม่มีความสามารถ แต่เจือกโม้ฉิบหาย

    พวกที่ชอบอ้างผู้สอน เพื่อทับคนอื่นๆ
    เค้าเรียกพวกระยำ
    แต่มะรึงไม่มีความสามารถยังเจือกกล้าปากดี
    พวกที่เอารูปอาจารย์พร้อมคำสอนเพื่อมาถับ
    คนอื่นที่เห็นต่างกับมะรึง นี่ก็ระยำอีกแบบ

    กลับตัวซะยังท่าน แต่มะรึงดันมีวิบาก
    จากการยึดจนกลายเป็นทรงจำในอดีตจนถอนตัวได้ยาก

    เอาเป็นว่า เรื่องของมะรึงแล้วกัน. บาย
     
  11. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    พระธาตุเสด็จจริงครับ แต่คนอื่นอธิษฐานให้
    มันเอามาอวดอ้างเฉยๆ
    ว่าแต่เนื้อดิบเมื่อคืนอร่อยมั้ย
    เห็นเขาหิ้วแล้วลืมตัวจิตวิ่งตามไปเลยนะ แหมๆ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ไม่ได้สืบหรือเกี่ยวข้องกับจิตบุคคลนั้น
    ส่วนตัวไม่เรียกพระธาตุเสด็จ อิอิ

    พระธาตุเสด็จเรียกอีกอย่างว่าภูตอากาศ
    อยู่ในโหมดวิญญานธาตุได้ ๑๕ นาที
    ก็เพียงพอให้ปรากฎได้
    สมถะล้วนๆ แต่ยังมี บักขี้โม้ ปากดี
    เอามาอ้างยกตัวเองให้ดูดีได้
    ขำยันดาวอังคาร ^_^

     
  13. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    ยังไม่เคยได้รับพระธาตุ ใครพอช่วยบอกวิธีได้ไหมครับว่าเค้าทำยังไงกันถึงเสด็จมา แล้วมาแล้วเป็นยังไงส่วนตัวไม่ค่อยยุ่งกับวัตถุบูชาครับ
     
  14. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    1อธิษฐานฤทธิ์
    2บุญฤทธิ์
    3อิทธิฤทธิ์
    4จิตถึงและมีกำลังจึงมีเสด็จได้เองเป็นปริยาย
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    แบบคุณผ่าน ฟังดูเท่ห์ไปหน่อย
    เด่วช่วยเสริมอีกแนวทางหนึ่ง

    ถ้าไม่เคยมีเลย
    ขอได้ที่ชมรมรักษ์พระ
    ธาตุแห่งประเทศไทย

    ปกติจะได้พระธาตุองค์
    และพระสรีระสีเดียว
    หลายองค์

    ส่วนการเสด็จมา มีทั้งแบบมาเอง
    มาเองมีทั้งพระธาตุเสด็จมา ซึ่งปกติจะสีใส
    หรือขาวหรือขุ่นปนใสบ้าง
    ส่วนพระสรีระธาตุ
    อาจมีหลายสี ตามแต่ที่จิต
    เรามี ณ เวลานั้น เช่นมีสมาธิ
    อาจมาเป็นสีน้ำเงิน ฯลฯ
    ซึ่งสามารถเพิ่มขนาดและมีมาเพิ่มได้เรื่อยๆ
    อาจมีแบบคล้ายๆเม็ดดิน สีขุ่นๆ
    หลายสีหน่อยก็มี

    และแบบเจตนาให้มาวิธีการหนึ่ง
    ซึ่งต้องตัดเรื่อง
    ความอยาก ณ เวลานั้นให้ได้
    วางผอบไว้บนมือข้างใดข้างหนึ่ง
    แต่มือทั้งสองวางหงายบนหัวเข่านะครับ
    แล้วเข้าโหมดวิญญานธาตุ หรืออรูปฌาน
    (คือโหมดที่เรามองเห็นเส้นสายพลังงาน
    รอบๆตัวเราได้ด้วยตาเปล่า แต่ว่าเส้นสายจะสีใสหน่อย ไม่ใช่ขาวขุ่นนะ)
    ให้ได้อย่างน้อย ๑๕ นาที หมายถึง
    วิธีการเบสิกทั่วไป แบบเด็กน้อยทั่วไปทำ
    (เพราะใช้เวลานานไป)


    วิธีสุดท้าย มีคนสอน เคยได้ยิน
    แต่ไม่เคยทำ คือ ตั้งพานบูชา
    แล้วบริกรรมคาถากำกับ คาถาอะไรไม่รู้
    จำไม่ได้ เพราะไม่ค่อยสนใจ
    หลักการเดียวกันกับเชิญ
    (ธาตุกายสิทธิ์หรือเหล็กไหล ที่ในบท
    มีคำเหล่านี้ กูจะก่อกำเนิดเกิดเป็น... ไม้ไร่ไม้ผง..
    ใครก็สู้พระคุณครูกูไม่ได้...ยาวอยู่ หาเอาเอง
    เพราะมันเป็นวิชาเฉพาะ..ไม่สามารถออกสื่อได้ ส่วนพระธาตุบ้างเรียกภูตอากาศ)

    ระดับโปรซีรี่ (ไม่ใช่ข้าพเจ้านะครับ)
    ยื่นมือไปในอากาศ
    แบบไม่ต้องมีลีลาท่าทางประกอบมาก
    สามารถมาได้ทั้งพระเครื่อง และอื่นๆ
    เคยเจอไหม ในหนังสือเป็นองค์ไหน
    เอามือวางๆ หยิบออกมาเป็นองค์
    แบบเดียวกับในหนังสือ(แค่เพียงบางส่วน) แบบนี้เรียกความสามารถระดับจิตธาตุครับ
    เสียดายท่านพึ่งมรณภาพไปได้ปีหน่อยๆ


    ก็ยังมีพระธาตุ สายโพธิฯ
    ที่จะออกแต่สีใสๆก็มีนะครับ

    ปล แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
    การเรียกได้ ต้องระวังนะครับ
    ถ้าจิตโน้มไปทางปรอทธาตุเมื่อใด
    ต้องเลิกนะครับ
    ถ้าไม่เลิก จะกลายพันธุ์ได้ง่ายๆ

    เพราะกำลังมันเหนือวิสัยเกินกว่าจะคาด
    ถ้าไม่ได้บวชอยู่ หรือบวชมานาน
    ให้เลิกซะ แล้วเอากำลัง
    ไปทางด้านหนุนปัญญา
    เพื่อไปต่อปัญญาญาน
    มันจะเห็นและเข้าใจนามธรรมได้ดี
    กว่าปกติทั่วไปครับ

    เรื่องแบบนี้ หมายถึงเรียกได้
    เป็นผลของสมถะนะครับ
    ไม่ใช่พุทธตรงๆนะครับ
    พอเป็นอุบายให้ศรัทธาได้
    แต่ไม่ควรงมงาย
    และยึดมั่นถือมั่น

    เด่วจะหลงตัวเองทั้งๆที่ไม่มีความสามารถ
    แต่ปากดี เหมือนลูกอีช่างอ้าง
    ลูกอีช่างยกตัวเอง ช่างยึดแบบ
    ข้างบนโน้นนน
    ไม่ใช่ข้าพเจ้าและคุณผ่านนะครับ
    ใครก็ไม่รู้


    ส่วนถ้ามีก็เป็นคนปกติเหมือนเดิมนี่หละครับ
    ไม่ได้วิเศษวิโสอะไรหรอก
    การพัฒนาคุณภาพของจิต
    หลักๆไม่ใช่ตรงที่เรียกได้
    หรือว่ามีเสด็จมาไหม
    ถ้าไม่เห็นภาพ จะยกตัวอย่าง

    เหมือนคุณมีสมเด็จวัดระฆังของแท้ๆๆๆ
    ถามว่า มีแล้วตัวจิตคุณมีความสามารถ
    พิเศษทำอะไรได้ไหม. คุณบรรลุธรรมไหม
    คุณมีปัญญาทางธรรมเพิ่มขึ้นไหม
    มีแล้วความรู้ทางธรรมคุณคือสุดยอดไหม
    มีแล้วทำให้คุณกลายเป็นคนเก่งกว่าใครไหม
    พอเห็นภาพโทษของการยึดเอา
    มาอ้างไหมครับ


    ยกเว้นว่าจะหลงตัวเองว่าเก่ง
    ว่ามีคุณธรรม ป่านไม่ใช่คน
    นั้นหละ ถึงเอามาอ้างมาโม้
    เป็นตุเป็นตะ ครับ
     
  16. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    เมื่อสิ้นอวิชา
    รูปและนามจึงเป็นปัจจัยแก่กัน เหมือนยันกันไว้ให้คงอยู่ได้
    เมื่อวิญญานมีอยู่รูปกีมีอยู่
    เมื่อรูปมีอยู่วิญานก้ยังมีอยู่เช่นกัน
    ขันทั้ง5ก้ยังมีอยู่เช่นกัน แต่ไม่ใช่เพราะอวิชาเป็นปัจจัย

    และเมื่อรูปดับวิญญานก้ดับไปด้วยเช่นกัน ขัันทั้งหลายก้ดับลงไป นิพพานก้ไม่มีการเกิดขึ้นใหม่หรือดับลงจึงไม่มีการเคลื่อนไม่มีการมาและการไป

    เพราะมีสักกายะทิฐิ จึงยึดขันเป็นตน ดังนั้นเมื่อวิญานเกิดรูปเกิดและเกิดวนไปตามวงจรปติจสมุปบาท จึงยึดการรู้ไปตามตัววิญานที่เกิดรู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...